วัสดุอุปกรณ์1.เมล็ดพันธุ์เมล่อน (พันธุ์อะไรก็ได้ที่อยากปลูก)2.กระถาง สำหรับใช้ปลูก3.ดิน (ดินที่ผ่านการปรุงแล้วจะดีมาก หรือ หาซื้อตามร้านขายดินปลูกต้นไม้)4.ไม้ สำหรับใช้ทำค้าง5.เชือกฟางมาเริ่มกันเลย1.นำดินใส่ในกระถาง แล้วใส่เมล็ดเมล่อนลงไป จากนั้นนำไปวางที่ร่ม รดน้ำ เช้า - เย็น ผ่านไปประมาณ 5 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก ผ่านไปประมาณ 5 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก
ผ่านไปประมาณ 10 วัน จะได้ประมาณนี้
หลังจากครบ 15 วัน ก็ใส่ปุ๋ย 15-15-15 ต้นละ 1 ช้อนชา โรยรอบ ๆ โคนต้น ทุกสองสัปดา แล้วรดน้ำเช้าเย็น หลังจากผ่านไป 20 วัน จะได้ต้นโตเท่านี้
2. เมื่อต้นเมล่อนเริ่มโต และยาวขึ้น ก็ทำค้างให้ โดยใช้ไม้ทำเป็นค้าง และใช้เชือกโยงให้ต้นเกาะเพื่อเลื้อยขึ้น ทำค้างให้
ผ่านไปประมาณ 30 วันนับจากวันที่ปลูก
3.เมื่อต้นเริ่มเลื้อยและเกาะเชือกที่โยงไว้ เราก็เอาเชือกพันต้นไว้ด้วย ช่วยพยุงลำต้น ถ้ามีแขนงแตกจากต้น แนะนำให้ตัดทิ้ง ถ้าไม่ตัดทิ้ง ลูกที่ออกตามแขนงจะมีขนาดเล็ก
4. เรื่องแมลงกบกวนก็มีเป็นธรรมดาพบเจออยู่ทุกที่ และจะต้องหาวิธีกำจัด หรือ ไล่ โดยการใช้สารเคมี หรือสมุนไพรไล่เมลง ขอแนะนำให้ใช้วิธีที่ไม่ใช้สารเคมี คือ วิธีกำจัดเพลี้ยแป้ง แบบง่ายๆ หลากหลายสูตร หรือ จะใช้วิธี ยาสูบ ยา ฆ่า/ไล่ แมลง ง่าย ๆ จาก สารพัดพืชพันธุ์ เมล็งกบกวน
หลังจากผ่านไปประมาณ 45 วัน
ดอกเริ่มออก
หลังจากผ่านไป 50 วัน เริ่มมีลูกออกมาให้เห็น
ลูกเริ่มโต
5. เมื่อลูกเมล่อน โตเท่าไข่ไก่ ให้หาเชือกมามัดขั้วโยงกับค้าง เพื่อรับน้ำหนักลูกที่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว 6.หลังออกลูกประมาณ 10 วัน ให้หาถุงตาข่ายมาห่อลูกไว้ เพื่อป้องกัน แมลงวันทองมาเจาะวางไข่ หาถุงตาข่ายมาห่อลูกไว้
ผ่านไปประมาณ 80 วันนับจากวันที่ปลูก
ลูกโตขึ้นแล้ว
ตอนนี้สุกแล้ว สังเกตสีที่เปลือกจะซีด ๆ ออกเหลือง ๆ ใบบริเวณขั้วและเถาว์จะเหี่ยวแสดงว่าสุกแล้ว
อันนี้เก็บมาแล้ววางทิ้งไว้ 2-3 วัน ถึงค่อยผ่า