ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
นิยาย "หัวใจของฉัน U are..."
นิยาย "อ๋องน้อยเจ้าสำราญ ๒ ภาค เจ้าเป็นของข้า...ของข้าคนเดียว"
นิยาย "อ๋องน้อย เจ้าสำราญ"
My Valentines Days
นิยาย "I cant Breathe"
นิยาย "Women in White เพื่อเธอ เพื่อฉัน...เพื่อเรา"
นิยาย "No Romance หยุดหัวใจที่เธอ"
นิยาย "มิอาจเปลี่ยนใจ Unchanged"
นิยาย "Last Promise สัญญาของเรา"
นิยาย "Love Sick หัวใจไม่ไร้รัก"
นิยาย "Strawberry Kiss รักนี้เปรี้ยวๆ หวานๆ"
นิยาย "Closer ยิ่งใกล้...ยิ่งหวั่นไหว"
นิยาย "จุมพิตรัตติกาล My Sweet Vampire"
นิยาย "รักเกินต้าน Cant Resist"
นิยาย "ก็ว่าจะไม่รัก Just You"
นิยาย "Million Reasons แค่เธอรักฉัน"
นิยาย "ดาวหลงจันทร์ Crush on You"
นิยาย "หัวใจว้าวุ่น! It's Complicated!"
นิยาย "รักออกฤทธิ์! Seductive Smile!"
นิยาย "Why Love? โอบกอดด้วยรัก?"
นิยาย "MAYDAY! ช่วย(รัก)ฉันที!"
นิยาย "สุดห้ามใจรัก? Inescapable?"
นิยาย "อีกสักครั้ง? Again?"
นิยาย "ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again?"
คำทำนายแต่ละราศี ปี 2558
วิธีสมัครซื้ออีบุค MEB
"รีวิว ตามอัธยาศัย"
สินค้า
เรื่องเล่าจากประสบการณ์ โดย ลำดวนพยากรณ์
คุยเรื่อยเปื่อยกับ...ลำดวนพยากรณ์
มกราคม 2558
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
21 มกราคม 2558
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 2
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 17
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 16
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 15
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 14
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 13
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 12
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 11
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 10
ประกาศ!! MEB เรื่อง Again? ถูกถอน
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 9
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 8
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 7
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 6
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 5
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 4
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 3
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 2
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 1
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 2
เพลงฟั่นเฟือน - ป้าง
-๒-
ทำไมต้องหลอกกันด้วย ทำไมต้องทำแบบนี้
ร้องไห้ให้พอเถอะ แล้วก็ลืมคนเลวๆ แบบนั้นซะ ภูวนัยพูดเสียงทุ้มอ่อนโยน เมื่อมาหยุดยืนข้างกายหล่อน
พี่ภู ภาวินีหมุนตัวแล้วโผเข้ากอดพี่ชายแน่น แล้วปล่อยโฮดังลั่นออกมาแบบที่ไม่ได้ทำมานานมากแล้ว
เขายกแขนกอดและลูบแผ่นหลังบอบบางของน้องสาว โดยไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก แต่ในใจคิดอาฆาตแค้นพีระอยู่ไม่น้อย หลังผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง สาวสวยเริ่มสงบใจลงได้บ้าง พี่ชายจึงเอ่ยชวนเบาๆ
กลับบ้านเถอะ ดึกมากแล้ว พ่อจะเป็นห่วง
หล่อนแค่ผงกหัว คลายวงแขนที่กอดร่างของอีกฝ่ายออก และก้าวขึ้นรถ
ขากลับทั้งคู่ไม่พูดอะไรกันเลยตลอดทาง
ภาวินีเอาแต่นั่งหลับตา ไม่คิดจะมองหรือสนใจอะไร ตอนนี้ในสมองมีแต่ความสับสน เจ็บปวด คั่งแค้นใจตัวเองที่โง่เง่าเต่าตุ่น ปล่อยให้ถูกพีระหลอกลวงปิดบังอยู่ได้ตั้งนานสองนาน
โชคดีที่หล่อนรักนวลสงวนตัว จึงไม่ยินยอมมีสัมพันธ์เกินเลยกับเขา แค่กอดจูบบ้างตามประสาคนรัก พอคิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกขยะแขยงรังเกียจเขาขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่า อดีตคู่หมั้น เคยรุ่มร่ามกับผู้หญิงมาแล้วเท่าไหร่ บ่อน้ำตาก็พาลจะทะลักทำนบอีกรอบ
ภูวนัยชำเลืองมองคนนั่งเบาะข้างๆ เป็นระยะ นึกสงสารน้องสาวจับใจ แต่ช่วยอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย นึกโมโหตัวเองไม่น้อยที่มองเพื่อนผิดไป ได้แต่นึกตำหนิตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจ
'ช่างเป็นพี่ชายที่เก่งเสียเหลือเกิน ไอ้คุณภูวนัย'
ภูวดลลุกขึ้นพรวดเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์เข้ามาในบ้าน นึกโล่งใจเมื่อเห็นลูกๆ กลับมาอย่างปลอดภัย แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นใบหน้าสวยของหญิงสาวชัดๆ หัวใจอันเข้มแข็งของเขาอ่อนยวบ เข้าใจทุกอย่างโดยไม่จำเป็นต้องซักถามอะไรอีก
ภามาหาพ่อมา บิดาเรียกลูกสาวด้วยเสียงอ่อนโยน พร้อมอ้าแขนกว้างให้หล่อนโผเข้ามาหา
ภาวินีตอนนี้กลายร่างเป็นเด็กหญิงตัวน้อยขี้แยอีกรอบ เมื่ออยู่ในวงแขนของบุคคลที่รักหล่อนสุดหัวใจ ปล่อยให้พ่อประคองร่างไปนั่งบนโซฟาหนานุ่มในห้องรับแขก ขณะที่ภูวนัยได้แต่เดินตามต้อยๆ ไปนั่งเก้าอี้เดี่ยวเฝ้ามองน้องสาวด้วยความหดหู่ใจ
เขา นอกใจ ภา...เขา ไม่รัก ภาแล้ว ใจความที่หล่อนพึมพำวนซ้ำไปมาอยู่หลายรอบ ทำให้ผู้ฟังหดหู่ใจไม่น้อย
ภูวดลลอบถอนหายใจยาว จูบเบาๆ ที่ปอยผมนุ่มหอมของบุตรสาว แล้วเริ่มต้นปลอบด้วยเสียงนุ่มชวนฟัง
อย่าลืมสิว่า ภายังมีพ่อกับพี่ภู คนที่รักภามากที่สุดในโลกอยู่
แม้จะโมโหเดือดดาลพีระมากมาย แต่ซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ได้เป็นอย่างดี สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือ ทำให้ภาวินีสงบใจลงให้ได้เร็วที่สุด...เรื่องอื่นไว้ค่อยสะสางทีหลัง
หล่อนนิ่งฟังและคิดตาม ร่างบางเริ่มไม่สั่นเทามากเท่าตอนแรก
พ่อไม่เชื่อหรอกว่าสวรรค์จะใจร้าย ไม่ประทานคนดีดีให้กับลูกสาวที่แสนดี และน่ารักของพ่อ
หล่อนสะอึกสะอื้นน้อยลง เมื่อได้ฟังคำปลอบโยนอันแสนนุ่มนวล
เขายกมือขึ้นดันร่างของภาวินีให้ออกห่าง เพื่อจะได้เห็นวงหน้าสวยของอีกฝ่ายชัดๆ แต่หล่อนยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาด้วย
พ่อรู้ว่า ลูกสาวของพ่อฉลาด เข้มแข็ง และกล้าหาญ อุปสรรคเล็กๆ เพียงแค่นี้ หยุดลูกไม่ได้แน่ พ่อเชื่อแบบนั้น
นักออกแบบสาวค่อยๆ เงยหน้ามองบิดา ทั้งที่น้ำตานองอาบหน้า อ่อนล้าไปหมดทั้งกายและใจ นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรดี ได้แต่อ้ำอึ้งเรียกคนตรงหน้าเสียงแผ่ว
พ่อคะ...
หากอยากร้อง ก็ร้องเสียให้พอนะลูก... ภูวดลเชยคางของหล่อนขึ้น ใช้ปลายนิ้วปาดเช็ดคราบน้ำตาออกอย่างแผ่วเบานุ่มนวล นัยน์ตาคู่สวยที่เคยสดใสเป็นประกายตอนนี้แดงก่ำแทบเป็นสีเลือด เห็นแล้วยิ่งสงสารลูกสาวหมดหัวใจ เขาไม่เคยเห็นหญิงสาวต้องทุกข์ใจเสียใจมากขนาดนี้
'ทำไมหมอนั่นถึงได้ใจร้ายนัก'
เขารู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยกว่าลูกสาว แต่ยังคงเก็บซ่อนอารมณ์ได้เป็นอย่างดี สองแขนกอดรัดหญิงสาวแน่นขึ้น ปล่อยให้ภาวินีปลดปล่อยความเจ็บปวดออกมาอย่างเต็มที่ จนไหล่และช่วงอกของเขาเปียกชุ่ม
แต่อย่าเกลียด กลัวความรักนะลูก ถือว่าเจ็บครั้งนี้เป็นบทเรียน ภูวดลเตือนสติ ไม่อยากให้หล่อนปิดกั้นตัวเองกับอดีตที่ขมขื่นใจ ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ...แค่ภาอาจจะเลือก ผิดคน เท่านั้นเอง
ภาวินีนิ่งไม่ตอบรับหรือปฏิเสธในทันที ไม่แน่ใจว่าตนเองจะ กล้า พอที่จะเริ่มต้นใหม่อีกหรือไม่ แผลคราวนี้ใหญ่ลึกมากจนหวาดผวา หล่อนนิ่งไปเป็นนาที ก่อนกล่าวเสียงอ่อนล้าอู้อี้
แต่ภารู้สึกเข็ดขยาด ไม่คิดว่าตัวเองจะ...
เขาส่ายหน้าไม่อยากให้ลูกสาวฝังใจคิดมาก จึงพูดตัดบท
ตอนนี้ภายังไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ไปอาบน้ำอาบท่า แล้วนอนพัก พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่...ดีกว่าไหม?
ก็ได้ค่ะ พึมพำตอบเสียงอ่อย เริ่มอยู่ในอาการสงบมากขึ้น ตอนนี้หล่อนหมดเรี่ยวแรงเกินกว่าจะคิดอะไร ปวดแสบกระบอกตาไปหมด เริ่มมึนหัวอีกต่างหาก ถ้าหัวถึงหมอนคงสลบไสลหลับเป็นตาย
ภูวดลกระชับจูงมือนุ่มเนียนของลูกสาวไปส่งที่หน้าประตูห้องนอนชั้นสอง และกำชับอีกครั้งอย่างอ่อนโยนอบอุ่น
จำไว้ว่าพ่อและพี่ภู พร้อมจะอยู่ข้างลูกเสมอ อย่าลืมนะ
ขอบคุณค่ะพ่อ หล่อนพึมพำอย่างซาบซึ้ง ความรู้สึกแย่ๆ ที่มีก่อนหน้าจางหายไปกว่าครึ่ง ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
ราตรีสวัสดิ์ลูกรัก เขาจูบเบาๆ ที่หน้าผากเนียน ส่งยิ้มให้ลูกสาวอย่างอบอุ่น รอจนอีกฝ่ายเข้าห้องปิดประตู จึงกลับลงมาชั้นหนึ่ง นั่งคุยกับลูกชายซึ่งหัวข้อไม่พ้นเรื่องของพีระ
หลังปิดประตู หล่อนเดินไปทิ้งตัวนอนบนเตียงใหญ่กลางห้อง ยกมือเรียวขึ้นก่ายหน้าผาก ความเศร้าเสียใจยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ด้วยคำพูดของบิดาทำให้หญิงสาวได้คิด และมีสติพอที่จะไม่ทำอะไรโง่ๆ หรือทำร้ายตัวเอง
ภาวินีนอนคิดทบทวนอยู่นานหลายสิบนาที จึงตัดสินใจไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยหวังว่าสายน้ำเย็นๆ จากฝักบัวอาจจะช่วยให้สมองปลอดโปร่งแจ่มใส และชะล้างความเจ็บปวดที่มีในหัวใจออกไปได้บ้าง ใช้เวลาอาบน้ำเพียงไม่นานก็สวมชุดนอนยาวบางสีม่วงอ่อนออกมา
หล่อนพยายามทำใจให้สบายด้วยการสวดมนต์ไหว้พระ และไม่ลืมที่จะอุทิศส่วนกุศลให้พีระ ไม่ให้ผูกเวรจองกรรมต่อกันอีก ขอให้ชาตินี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน
'กับผู้ชายเลวๆ แบบนี้ขอลาขาด'
เสร็จแล้วเอนตัวลงซุกนอนใต้ผ้าห่มอย่างเหนื่อยอ่อน ปิดเปลือกตาลง ก่อนจะเผลอไผลหลับสนิทไปอย่างรวดเร็ว
แปดโมงเศษวันรุ่งขึ้น ร่างบางในชุดลำลองเสื้อเชิ้ตกางเกงยีน เดินลงบันไดพร้อมลากกระเป๋าเดินทางใบโตสองใบเหมือนจะไปไหน ผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา ละสายตาจากหนังสือพิมพ์ธุรกิจที่กำลังอ่าน พับวางบนโต๊ะกระจกตรงหน้า มองกระเป๋าใบโตอย่างสงสัย และอดถามขึ้นไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายเดินมาใกล้ๆ
จะไหนลูก?
หนูจะไปหาน้านงค่ะ ภาวินีตอบเสียงเรียบ เดินมาทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ว่างที่อยู่ใกล้ๆ วงหน้าสวยมีแววเศร้าหมอง นัยน์ตาคมคู่สวยไม่สดใสเท่าที่ควร มีร่องรอยผ่านการร้องไห้อย่างหนักหลงเหลืออยู่บ้าง แม้จะใช้การแต่งหน้าปกปิดแต่ก็ไม่อาจซ่อนร่องรอยได้ทั้งหมด
เจ็ดโมงกว่าหล่อนโทรไปบอกแสงดาว ว่าจะพักผ่อนไปต่างจังหวัดสักสองสามอาทิตย์ หากมีลูกค้ามาติดต่อก็รับงานเท่าที่ทำได้ไปก่อน ซึ่งลูกน้องแสนดีก็รับปากดิบดี ทำให้สาวผมสั้นวางใจได้ในระดับหนึ่ง และไม่ลืมขอบคุณก่อนเลิกสนทนา
แล้วโทรไปหานงราม...น้องสาวคนเดียวของแม่ เจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งในปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ โดยบอกว่าคิดถึงจะไปหาและขอพักอยู่ด้วยสักระยะ แต่ไม่ได้เล่าหรือบอกเหตุผลใดๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ซักไซ้
หลังจากนั้นก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเดินทาง อาบน้ำแต่งตัว
ร่างบางอยากหาที่สงบพักผ่อน เพื่อทบทวนความผิดพลาดและเติมพลังให้ตัวเอง หล่อนยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับพีระตอนนี้ หล่อนยังไม่เข้มแข็งมากพอ ไม่อยากแสดงความอ่อนแอต่อหน้าใครอีก โดยเฉพาะกับเขา
'อกหักน่ะไม่ตายหรอก...แค่ปางตายเฉยๆ'
เพียงชั่วข้ามคืน ภาวินีผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงลิบลิ่วคนนั้น...หายสาบสูญไปเสียแล้ว
ภูวดลทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่คิดจะคัดค้านอะไร คิดว่าเป็นการดีเสียอีกที่ลูกสาวจะไปเปลี่ยนบรรยากาศ เผื่อจะลืมเรื่องบ้าๆ ไปได้บ้าง อย่างไรก็ตามเขาไม่ไว้ใจให้หล่อนขับรถในสภาพอารมณ์ไม่ปกติแบบนี้
ให้นายพงษ์เอารถตู้ไปส่งแล้วกันนะลูก นายพงษ์ ที่เขาพูดถึงคือ คนขับรถเก่าแก่ที่รับใช้กันมาเกือบสามสิบปี อายุอานามก็เกือบห้าสิบ ขับรถไว้ใจได้และซื่อสัตย์มาก
ค่ะ หญิงสาวรับคำเบาๆ เหลียวหาสมาชิกอีกคน ซึ่งปกติจะตื่นแล้ว แล้วพี่ภูล่ะคะ?
ยังไม่ตื่นเลย ว่าแต่หนูมานั่งทานอะไรกับพ่อก่อน เดินทางจะได้ไม่หิว เขาชวนอย่างอ่อนโยน
ค่ะ ภาวินีรับรู้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยของอีกฝ่ายจึงรับคำ ทั้งที่ไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด ก้าวเท้าตามอีกฝ่ายไปนั่งยังโต๊ะอาหารอย่างว่าง่าย
สองคนพ่อลูกทานข้าวต้มอย่างสงบเงียบ ต่างจากปกติที่จะมีเสียงหัวเราะเกือบตลอด หลังทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย หล่อนก็ร่ำลาบิดา
มีอะไรก็โทรหาพ่อนะลูก ภูวดลกำชับอย่างเป็นห่วง
ไม่ว่าหญิงสาวจะเป็นผู้ใหญ่ขนาดไหน เก่งแค่ไหน แต่ในสายตาของพ่อ เธอก็ยังคงเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ เสมอ ความรักความห่วงใยที่มีให้ไม่เคยลดลงเลยสักนิด
ค่ะพ่อ หนูไปนะคะ ภาวินียกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม
เดินทางปลอดภัยนะลูก
บิดาลูบหัวหล่อนและอวยพรให้เดินทางปลอดภัย หญิงสาวก้าวขึ้นรถตู้คันหรู หลังรถออกพ้นประตูบ้าน ภูวดลยกหูโทรศัพท์ไปหานงรามทันที และรอสัญญาณไม่นานก็ได้ยินเสียงใสๆ ขานรับ
สวัสดีค่ะ นงรามค่ะ
คุณนง ผมภูวดลนะ เขาแนะนำตัวสั้นๆ กับน้องภรรยา
คุณดล มีอะไรหรือเปล่าคะ? หญิงวัยสี่สิบต้นปลายสายถามตรงๆ ปกติถ้าไม่มีธุระอะไรสำคัญพี่เขยจะไม่โทรมาหาเธอเป็นแน่ แต่พอเดาได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องของภาวินี เพราะหลานสาวเพิ่งโทรมาหาเมื่อสองชั่วโมงก่อน
ผมฝากยายภาด้วยนะครับ เกรงใจจริงๆ ที่ให้ไปรบกวน
อ๋อ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เธอยิ้มน้อยๆ ก่อนเอ่ยปากถามสิ่งที่คาใจอยู่ แต่ไม่ทันได้ถามกับเจ้าตัว ว่าแต่ยายภามีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ? เมื่อเช้าโทรมาก็ลืมถาม
'ปิดไม่ได้เลยจริงๆ'
เขาถอนหายใจยาว ก่อนตัดสินใจเล่าปัญหาของภาวินีให้นงรามฟัง อย่างไรผู้หญิงคนนี้ก็เป็นน้าสาวแท้ๆ ที่เคยอุ้มชูหล่อนมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ผู้ที่หล่อนรักและเคารพประหนึ่งแม่คนที่สอง
ค่ะ เข้าใจแล้ว คนฟังปะติดปะต่อทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว มีเพียงไม่กี่เรื่องที่จะกระทบกระเทือนหัวใจของผู้หญิงให้สั่นคลอนหวั่นไหวได้
ฝากหลานด้วยนะครับ ภูวดลพูดอย่างเกรงใจ
ด้วยความยินดี และเต็มใจค่ะ นงรามรับคำอย่างเต็มใจ
ขอบคุณครับ งั้นผมรบกวนแค่นี้ สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ
ทั้งคู่จบการสนทนา ไม่ทันที่นงรามจะทันคิดอ่านประการใด เสียงหุ้นส่วนชีวิตของเธอก็เอ่ยถามขึ้น
ใครโทรมาคะ?
รสรินหรือรส...เชฟใหญ่ของรีสอร์ต ซึ่งอ่อนวัยกว่านงรามเล็กน้อย แต่งกายในชุดลำลองที่พร้อมจะไปทำงาน ถามหลังเห็นคนรักคุยโทรศัพท์นานกว่าปกติ แถมมีสีหน้าเคร่งเครียด ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังยิ้มแย้มอยู่เลย
คุณภูวดลโทรมาค่ะ คนถูกถามตอบ
คนฟังเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อได้ยินชื่อผู้ชายคนนั้น
มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?
นงรามถอนหายใจยาว
จะพูดอย่างนั้นก็ได้...เดาสิคะ?
รสรินเดินมาหยุดยืนข้างเตียงใหญ่ที่อีกคนนั่งอยู่
เดาไม่ถูกค่ะ
ยายภาจะมาอยู่กับพวกเราสักพัก
หืม? เชฟใหญ่ทำหน้าสับสนกึ่งแปลกใจ เป็นอะไรที่เหนือความความหมายสุดๆ กลัวว่าตนเองจะหูฝาดไป จึงต้องถามย้ำอีกรอบ ภาวินี...จะมาที่นี่เหรอคะ?
ใช่ค่ะ น่าจะมาถึงประมาณเที่ยง นงรามกะเวลาจากที่สนทนากับภูวดล ที่บอกว่ารถตู้เพิ่งออกเดินทาง
พายุจะเข้าไหมเนี่ย เชฟใหญ่พึมพำกับตัวเอง
รสรินเคยเจอกับภาวินีตั้งแต่หล่อนเป็นวัยรุ่น ตอนที่คบกับนงรามใหม่ๆ จึงรู้จักนิสัยของสาวสวยเป็นอย่างดี บทจะอ่อนหวานก็น่ารักไม่ต่างจากเจ้าหญิง แต่บทจะร้ายกาจก็แสบสันต์ไม่ต่างจากแม่มด
ที่สำคัญเธอโดนอีกฝ่ายเล่นงานหลายต่อหลายหนนับไม่ถ้วน เพราะเจ้าหล่อนหวงน้าสาวเสียเหลือเกิน กว่าเชฟใหญ่จะรอดมาได้ก็เล่นเอาหืดขึ้นคอเลยทีเดียว
นงรามค้อนคนรัก ก่อนให้ข้อมูลที่อีกคนควรทราบไว้บ้าง
อย่าไปซ้ำเติมคนอกหักนะคะ...บาปกรรม
อกหัก? รสริสทำท่าตกใจกับข่าวร้ายที่ได้ยิน อดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณภาวินีเนี่ยนะอกหัก?...ไม่น่าเชื่อ
ทะเลาะกับคู่หมั้นค่ะ...เมื่อคืนนี้เอง คนอายุมากกว่าขยายความให้คนฟังเข้าใจมากยิ่งขึ้น
โอ้สวรรค์ บุญของหมอนั่นโดยแท้ เชฟใหญ่ยกมือขวาขึ้นทาบอก ร้องอุทานเสียงดังออกมาด้วยหน้าระรื่นยินดี ราวกับชายหนุ่มคือผู้รอดชีวิตจากเรื่องเลวร้ายสุดๆ
'ปากร้ายจริงๆ'
เจ้าของรีสอร์ตอดค่อนในใจไม่ได้ นึกหมั่นไส้คนรักจึงหยิกเข้าที่เอวอย่างแรง
โอ๊ย! เจ็บนะคะ ผู้ถูกกระทำร้องโวยวาย พลางยกมือลูบตำแหน่งที่ถูกประทุษร้าย ซึ่งคาดว่าคงเขียวเป็นจ้ำๆ แน่
สัญญากับพี่ก่อนว่า จะไม่ไปซ้ำเติมอะไรยายภา นงรามพูดขึ้น แต่เชฟใหญ่ทำหน้านิ่งไม่ยอมรับปาก จนเธอต้องขอร้องเสียงหวานอีกครั้ง นะคะ...ถือว่าพี่ขอได้ไหมคะ?
รสรินอมยิ้มมุมปากทำหน้าเจ้าเล่ห์ ก่อนยื่นข้อเสนอพร้อมยกนิ้ว
สามยก...คืนนี้?
นงรามตาโตกว้างกับสิ่งที่ได้ยิน ลำคอแห้งผากกะทันหัน เม้มริมฝีปากบางแทบเป็นเส้นตรง
'ร้ายกาจจริงๆ แฟนใครเนี่ย'
สองค่ะ อีกคนอดต่อรองตามนิสัยนักธุรกิจไม่ได้ ขืนสามยกมีหวังวันรุ่งขึ้นสลบไสลไม่ต้องทำอะไรแน่
สามขาดตัวค่ะ ถ้าตกลงช้า จะขึ้นเป็นสี่นะคะ เชฟใหญ่กระซิบขู่เสียงแหบพร่าใกล้ข้างหูของอีกคน พูดจบ ก็ใช้ปลายจมูกซุกไซ้ปอยผมนิ่มสลวยตรงหน้า กดให้จมูกและริมฝีปากสัมผัสกับคอเรียวของคนรัก แล้วขบกัดยั่วเย้าเบาๆ
กะ ก็ได้ค่ะ นงรามรีบตกลงเสียงสั่น ยกมือดันไหล่บางของอีกฝ่ายไว้ ก่อนที่จะถูกทำให้ป่วนปั่นไปมากกว่านี้ ใบหน้าเริ่มออกสีเรื่อเมื่อคิดว่าจะต้องโดนทำมิดีมิร้ายคืนนี้แน่
รสรินยิ้มร่า ยืดตัวขึ้นยืนตรงเมื่อได้ยินคำตอบที่ต้องการ ยกมือเรียวบางของคนตรงหน้ามาจูบเบาๆ
สัญญาแล้วนะคะ
ค่ะ เธอรับคำมั่นเหมาะ ค่อยๆ ชักมือที่ถูกเกาะกุมออก รู้สึกเขินไม่น้อยที่ถูกแสดงความรักทั้งที่อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ก่อนเปลี่ยนเรื่องคุย พี่จะให้ยายภาพักที่เรือนสีรุ้งนะคะ
ตามใจค่ะ เชฟใหญ่ตอบอย่างเอาใจ เดี๋ยวรสไปบอกให้แม่บ้านไปทำความสะอาดอีกรอบแล้วกัน
ขอบคุณนะคะ
งั้นรสไปทำงานก่อนนะ
ค่ะ เดี๋ยวพี่ตามไป
แล้วเจอกันค่ะ รสรินชะโงกหน้ามาหอมแก้มคนรักเบาๆ หนึ่งครั้ง แล้วออกจากห้องไป
นงรามมองตามหลังคนรักจนประตูถูกปิด เมื่ออยู่ตามลำพังอดเป็นห่วงหลานสาวไม่ได้ การที่ภาวินีหลบหน้าหลบตามาแบบนี้ แสดงว่าสภาพจิตใจต้องย่ำแย่มาก เธอรู้จักอีกคนดีถ้าไม่บอบช้ำถึงที่สุด ร่างบางจะสู้ยิบตาไม่ยอมท้อแท้ถอดใจเด็ดขาด ประกอบกับคำบอกเล่าของภูวดลทำให้คาดเดาไปในทางเลวร้ายมากกว่าดี ยิ่งสงสารหลานหนักขึ้นไปอีก
'โถ...ยายภาหลานน้า'
รสรินก้าวเท้าเข้าไปยังห้องครัวใหญ่ที่อยู่ด้านหลังห้องอาหาร ซึ่งมีหญิงสาวผมยาวคนหนึ่งกำลังง่วนอยู่กับการหั่นสารพัดผักกองโต เตรียมไว้สำหรับทำอาหารมื้อกลางวัน หลานสาวแท้ๆ ของเธอที่มาช่วยงานที่นี่เกือบสองปีแล้ว
เมธาวีเชฟสาววัยยี่สิบต้น ที่เรียนจบปริญญาตรีด้านโภชนาการ ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสวมผ้ากันเปื้อนสีขาวทับไว้ รูปร่างสูงโปร่งเฉียด 170 เซนติเมตร ใบหน้าคมเข้ม ผิวสองสี นัยน์ตาหวานสวย รวบผมสีดำสนิทยาวเกือบถึงกลางหลังไว้ เพื่อความสะดวกในการทำงาน
ปกติในครัวนอกจากรสริน เมธาวี ก็มีแม่ครัววัยกลางคนรับผิดชอบอาหารไทยอีกคน และมีผู้ช่วยสองคนเป็นสาวรุ่น
เม วันนี้ประมาณเที่ยงจะมีแขกเช็คอิน ที่ เรือนสีรุ้ง นะ
กี่คนคะ? เมธาวีถามโดยไม่ละสายตาจากงานที่กำลังทำอยู่
มากี่คนน้าไม่แน่ใจ รสรินพูดเสียงเนือยๆ ก่อนพูดขยายความต่อ แต่คนที่มาพักแน่ๆ ชื่อภาวินี
ภาวินี?
หญิงสาวหยุดมือเงยหน้าขึ้นมองอีกคน หลังนึกได้ว่าเคยได้ยินชื่อนี้บ่อยๆ จากนงราม เคยได้ฟังประวัติของร่างบางเยอะแยะมากมาย มีรูปถ่ายบทสัมภาษณ์ภาวินีที่ถูกตัดจากนิตยสาร ใส่กรอบแขวนอยู่ในห้องทำงานของนงรามด้วย แถมเธอยังเคยได้ดูอัลบั้มรูปสมัยเด็กของหล่อนอีกต่างหาก
ในความคิดของเมธาวี...หล่อนจัดเป็นผู้หญิงที่สวย และมีเสน่ห์มากคนหนึ่งเลยทีเดียว แต่เธอไม่เคยเจออีกฝ่ายเลยสักครั้ง
หลานสาวน้านงเหรอคะ? สาวร่างสูงถามย้ำให้แน่ใจว่าไม่ผิดคน
ใช่ คนนั้นแหละ
ค่ะ เชฟสาวแค่รับทราบ แล้วก้มหน้าก้มตาหั่นผักต่อ
'จะไร้ความรู้สึกเกินไปหรือเปล่าหลานฉัน?'
รสรินนึกค่อนหลานสาว ไม่ค่อยชอบนิสัยเก็บอารมณ์และความรู้สึกของอีกฝ่ายเท่าไหร่ บางทีก็เป็นผู้ใหญ่เกินไป บางครั้งก็ดูเย็นชาจนเหมือนไร้ความรู้สึก จนบางครั้งทำให้เธอเดาใจคนตรงหน้าไม่ค่อยถูก
ที่ผ่านมาเชฟใหญ่ไม่เคยเล่าเรื่องของหล่อนให้เมธาวีฟัง เพราะไม่คิดว่าจะต้องเจอะกับตัวจริง แต่ไหนๆ ก็ต้องเจอกันแล้ว ให้รู้ข้อมูลไว้บ้างก็น่าจะดีกว่า จะได้ เตรียมใจ ไว้ หากพลอยฟ้าพลอยฝน โดนลูกหลงไปด้วย
'หวังว่าเจ้าเมจะไม่โดนยายนั่นพาลเกลียดขี้หน้าไปด้วย...ด้วยข้อหาเป็นหลานของฉันหรอกนะ'
ไม่คิดจะซัก จะถามอะไรบ้างหรือไง? เชฟใหญ่ถามกึ่งๆ ประชด
เมธาวีอมยิ้ม ก่อนตั้งคำถามสนองความต้องการของผู้ใหญ่ แบบไม่ได้สนใจอยากรู้อยากเห็นอะไรนักหนา สองมือยังคงทำงานไปเรื่อยๆ แต่ช้าลงกว่าปกติเพื่อสนทนา
หลานน้านงเป็นคนยังไงเหรอคะ?
เธอพอรู้ว่าภาวินี ไม่ถูก กับรสริน แต่ไม่เคยรู้รายละเอียดความเป็นมาจากน้าสาวตรงๆ เลยสักครั้ง เพราะรสรินไม่เปิดปากเล่า ขนาดชื่อของหล่อน น้าสาวยังไม่ค่อยเอ่ยพาดพิงถึง...ท่าจะไม่กินเส้นกันจริงๆ
แต่จากที่ฟังนงรามเล่า ดูเหมือนภาวินีจะดีสารพัด ดีหาที่ติมิได้...หลานคนโปรดก็แบบนี้
นักเรียนนอก จบสองปริญญา เป็นนักออกแบบสาวไฮโซ เจ้าของห้องเสื้อชื่อดัง พ่อรวย สวยเลิศเลอเพอเฟค ฉลาดเก่ง เป็นเจ้าหญิงสำหรับคนอื่น...แต่เป็นแม่มด เฉพาะกับน้าของเธอ รสรินพูดประโยคท้ายเบาลงแทบไม่ต่างจากกระซิบ ราวกับกำลังนินทาหล่อนอยู่จริงๆ
เมธาวีหยุดมือที่กำลังหั่นผัก เงยหน้าสบตาน้าสาวด้วยสีหน้าสับสนระคนมึนงง ไม่เข้าใจความหมายที่อีกคนอธิบายถึง คุณสมบัติ ของภาวินีสักเท่าไหร่
โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย...ทำไมถึงได้ขัดแย้งกันขนาดนั้น
เจ้าหญิงกับแม่มด...ในคนคนเดียวกันเนี่ยนะคะ? เชฟสาวอดถามออกมาไม่ได้
เดี๋ยวเจอก็รู้เองแหละ น้าเจอมาเยอะแล้ว มีคดีกันยาวเป็นหางว่าวเลยล่ะ...ไม่รู้เมื่อไหร่จะยอมญาติดีกันสักที? เชฟใหญ่บ่นอย่างเซ็งๆ
ยังคงเชื่อว่า แม้จะผ่านไปหลายปี ฤทธิ์เดชของภาวินีคงไม่ลดน้อยถอยลงเท่าไหร่ ดีไม่ดีอาจจะเพิ่มจากเดิมตามวัยก็เป็นได้ พอคิดแบบนี้แล้ว...รสรินก็เหงื่อตก
สาวร่างสูงนึกขำ ไม่ค่อยเห็นน้าสาวทำหน้าหวาดใครขนาดนี้ เว้นแต่กับนงรามตอนที่องค์ลงเพราะความหึงหวง แต่นั่นก็เป็นเพียงไม่กี่ครั้งซึ่งก็นานเกือบปีมาแล้ว
ความสงสัยใคร่รู้เริ่มพุ่งทะลักเกินปกตินิสัย ไม่บ่อยเลยที่เมธาวีจะสนใจสอดรู้เรื่องของคนอื่นส่วนใหญ่จะแค่รับฟังผ่านหูตามมารยาทมากกว่า
คดีแบบไหนคะ?
เจ้าหล่อนทั้งรักทั้งหวงพี่นงเป็นที่สุด ตอนพวกน้าคบกันใหม่ๆ น้าโดนแกล้งสารพัด ไม่รู้จะจงเกลียดจงชังกันขนาดไหน...เฮ้อ
ตอนนั้นรสรินหวั่นใจไม่น้อย กลัวว่านงรามจะรักหลานมากจนยอมเลิกกับเธอ โชคดีที่ผ่านเหตุการณ์ตรงนั้นมาได้ เธอกับคนรักจึงได้ใช้ชีวิตร่วมกันมาหลายปีอย่างมีความสุข
เมธาวีรู้มาบ้างว่า คู่รักคู่นี้ผ่านอุปสรรคมาพอสมควรก่อนจะลงเอย มาปักหลักสร้างรีสอร์ตอยู่ที่นี่ แต่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรมาก...เพราะไม่กล้าถาม
คุณภาเธอ ไม่ชอบ พวกเลส เหรอคะ?
เชฟสาวเผลอหลุดปากถาม ก็น้ารสของของเธอนิสัยดีจะตายไป ใจดีมาก ตรงไปตรงมา ยุติธรรมมาก เว้นแต่ ปากร้ายไปนิด เท่านั้น
ไม่รู้ทำไมถึงได้อยากรู้เรื่องนี้? อยากรู้ รสนิยม ของอีกฝ่าย ทั้งที่ยังไม่เคยได้เจอหน้าเลยด้วยซ้ำ...คิดๆ แล้วก็ตลก
คิดว่าไม่น่าใช่นะ ยัยคุณภาไม่ชอบน้า น่าจะเป็นเพราะคิดว่าน้าไปแย่งพี่นงมาจากเธอมากกว่า
เธอรู้ว่า หล่อนรักและหวงนงราม เหมือนเป็นแม่คนที่สอง ก็คนรักเธอแสนจะใจดี ช่างเอาใจหลานสาวคนโปรดจะตายไป คิดๆ แล้วตอนนั้นก็อดอิจฉาไม่ได้
ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว คุณภาเธอคงลืมไปหมดแล้วล่ะค่ะ เชฟสาวพูดกึ่งปลอบ เธอเชื่อว่าเมื่อคนเราโตขึ้น นิสัยใจคอมักเปลี่ยนไป เป็นผู้ใหญ่ขึ้นและมักลืมเรื่องสมัยเด็กๆ โดยเฉพาะเรื่องไม่ดีของตัวเอง
ให้มันจริงเถอะ...บอกตรงๆ น้ากลัวใจผู้หญิงคนนี้ที่สุด แค่คิดก็เสียวไส้แล้ว... รสรินยังคงบ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้ง เอื้อมมือคว้าผ้ากันเปื้อนสีขาวมาสวม สายตาจับจ้องไปยังโพสต์-อิทที่แปะอยู่ตรงหน้า รายการอาหารที่ต้องทำสำหรับมื้อเที่ยง จึงกล่าวชวนคนข้างๆ
ไปทำงานกันดีกว่า
เมธาวีเหลือบมองน้าสาวที่กำลังเข้าโหมดเอาการเอางาน แล้วอดส่ายหน้าไม่ได้ ความคิดยังคงวนเวียนอยู่กับการสนทนาก่อนหน้า หลังถูกสะกิดต่อมอยากรู้เข้าอย่างจัง ก็มีความรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นในใจ
'ฉันชักอยากรู้จักคุณซะแล้วสิ คุณภาวินี'
OoXoO
Create Date : 21 มกราคม 2558
Last Update : 21 มกราคม 2558 23:18:09 น.
0 comments
Counter : 778 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
นิ้วนาง-เดียนา
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [
?
]
งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี
จอมใจจอมมโน
ชมพร
haiku
**mp5**
นายแว่นขยันเที่ยว
Webmaster - BlogGang
[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]
Bloggang.com