ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
สิงหาคม 2559
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 สิงหาคม 2559
 
 
Why Love? โอบกอดด้วยรัก? ตอนที่ ๑๖ (YURI)



๑๖

หลังแยกกับเอ๋ที่ร้านอาหาร กันทิมาขับรถกลับบ้านด้วยอาการเซื่องซึมใจลอย หวุดหวิดจะจิ้มก้นรถคันหน้าอยู่หลายรอบ เพราะเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงสายตาคู่นั้นของหล่อน ที่จ้องเธอเหมือนจะแยกร่างให้เป็นชิ้นๆ ไม่ต่างจากสายตาของแม่เสือสาวนัก

'หึงเหรอ?...เป็นไปไม่ได้'

หมอสาวเฝ้าถามตัวเองอยู่หลายครั้ง แต่อีกใจก็จะคอยคัดง้างหาสารพัดเหตุผลมาโต้แย้ง จนทำให้สับสนลังเลใจ สุดท้ายจึงได้แต่ยอมยกธงขาวไป

'สงสัยหมอนั่นจะเป็นตัวจริง'

พลันคิดไปถึงชายหนุ่มที่หล่อนเดทด้วย พลันเจ็บแปลบปวดใจขึ้นมา เผลอเม้มริมฝีปากบาง จนเจ็บแผลที่ยังไม่ทันหายสนิท จึงหลุดครางออกมาพร้อมทำหน้าบูดเบี้ยว

“โอ๊ย!”

'คนพี่ทำเจ็บปาก คนน้องทำเจ็บใจ...ซวยไม่มีใครเกินกันทิมา!'

ประชดตัวเอง ก่อนเข้าเกียร์ กดคันเร่งหลังเห็นสัญญาณไฟเขียว

เธอเข้าไปภายในบ้านที่ยังคงมีแสงไฟเปิดจ้า แล้วพบกับมารดาที่นั่งดูละครดังหลังข่าวเหมือนทุกวัน จึงเดินเข้าไปหา หอมแก้มละเอียดหนึ่งฟอด

“กลับมาแล้วค่ะ”

มารดาเหลียวมองบุตรสาวคนโต ทรุดตัวนั่งเก้าอี้ว่างข้างๆ ด้วยอาการเบื่อๆ ดูไม่มีความสุขนัก

'ตกลงไปกินข้าวกับแฟน หรือไปตีกับใครมาล่ะเนี่ย?'

ละเอียดตั้งคำถามในใจ

“สนุกไหมลูก?”

“ก็ดีค่ะ” หมอสาวตอบเสียงเนือยๆ นัยน์ตาคู่หวานจ้องดูโทรทัศน์อย่างสนอกสนใจ

คนฟังส่ายหน้ากับคำตอบที่ดูจะมีความจริงอยู่ไม่ถึงครึ่ง

'น่าเชื่อตายเลย'

“นางเอกน่ารักดีนะคะ” กันทิมาพูดชมขึ้น แม้จะไม่ค่อยดูละครนัก แต่ได้ยินลูกน้องที่ร้านบอกว่า สนุกก็เลยอยากรู้เรื่องบ้าง เผื่อเอาไว้คุยกับลูกค้าสาวๆ

“ใช่ แม่ว่าหน้าตาคล้ายอลิษา”

ฉึก!

ชื่อของหล่อนเหมือนมีดปักไปที่กลางหัวใจของหมอสาว ทำเอาชะงักงันไปหลายวินาที

“เรื่องนี้ถ้าพระเอกงี่เง่าน้อยกว่านี้สักหน่อยก็คงจะดี ส่วนนางเอกก็ฟอร์มจัดปากแข็งเกิน รักก็ไม่บอก ถ้าคุยกันแบบเปิดอก ป่านนี้รู้ใจกันไปนานแล้ว” ละเอียดบ่นตัวเอกในทีวี พลางปรายตามองปฏิกิริยาของลูกสาวไปด้วย

'หวังว่าลูกฉันคงไม่งี่เง่านักหรอกนะ'

กันทิมาได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ไม่แน่ใจว่า ตนถูกบุพการีด่ากระทบด้วยหรือเปล่า? แต่ความรู้สึกเหมือน ‘โดน’ มาก ด้วยอีกฝ่ายเป็นพวกชอบพูดให้คิดมากกว่าบอกตรงๆ โดยให้เหตุผลว่า ‘คิดเยอะๆ สมองจะได้ไม่ฝ่อเร็ว’

“แย่จังนะคะ” สาวผมสั้นได้แต่พูดตอบออกไปแบบนั้น

'ขืนชักช้าเป็นเต่าแบบนี้ โดนสุนัขตัดหน้าแน่ลูกฉัน!'

ละเอียดลอบถอนใจอย่างเอือมระอา กับลูกสาวที่แสนจะเฉลียวฉลาดในเกือบทุกเรื่อง แต่หัวขี้เลื่อยอย่างไม่น่าเชื่อในเรื่องความรัก

ในฐานะแม่ ย่อมอยากให้ลูกได้คู่ครองที่ดี และอยู่ด้วยกันนานๆ อย่างมีความสุข ไม่ใช่น้ำผึ้งบูดน้ำผึ้งขม ซึ่งแน่นอนว่า เอ๋ไม่ผ่านเกณฑ์นมเอียดด้วยประการทั้งปวง

เธอไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์สาวเปรี้ยว หากแต่มั่นใจว่า หัวใจทั้งสี่ห้องของกันทิมายามนี้คงมี ‘อลิษา’ อยู่ไม่น้อย และคุณหนูคนนั้นเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกันนัก

'คิดไม่ถึงว่า ลูกสาวฉันจะเลี้ยงต้อยนานมาก จองตั้งแต่ลืมตาเลยทีเดียวนะเนี่ย'

สิ่งที่ละเอียดกังวลกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็คือ การไม่เปิดใจหันหน้าคุยกัน หากต่างฝ่ายต่างมีทิฐิมานะปากหนัก จะกลายเป็นหมางเมินและหันหลังให้กันในที่สุด

หากเป็นแบบนั้นจริงๆ นมเอียดจะเสียดายอลิษามาก และอยากแพ่นกบาลลูกสาวไม่น้อยที่ทิ้งเพชรน้ำหนึ่ง ไปคว้าเพชรซีกหรือเพชรร้าวมาครอบครองแทน

ในตอนแรก เธอไม่อยากสนับสนุนสองสาวนัก ทว่าหลังขบคิดอยู่นานก็เปลี่ยนใจ และพร้อมยื่นมือช่วยเหลือ หากว่าพวกพ่อๆ ของทั้งคู่ไม่เห็นด้วย

“ถ้าลูกของแม่เป็นผู้ใหญ่พอ ก็ต้องมีความกล้านะมา...คนเราจะวิ่งหนีความจริงตลอดชีวิตไม่ได้” ละเอียดกล่าวเตือนสติ

'แม่พูดเรื่องอะไรเนี่ย? ไม่เห็นรู้เรื่องเลย'

กันทิมาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

“แม่หมายความว่าอะไรคะ?”

คนเป็นแม่จ้องหน้าลูกสาวด้วยสายตานิ่งๆ

“ตอบแม่สิมาลูกรักใครอยู่? ใครที่ลูกอยากอยู่ด้วยตลอดชีวิต และขาดเขาไม่ได้?” ถามเสียงจริงจังเป็นการเป็นงาน

'ทำไมแม่ถึงได้ถามเรื่องนี้!'

หมอสาวนิ่งงันไป กระพริบตาปริบๆ หลังโดนแม่ถามแบบไม่ทันเตรียมใจ

“มา...มา...” เธอพูดไม่ออก แม้จะมีคำตอบในใจแล้วก็ตาม

“ว่ายังไงหมอมา?” ถามครั้งที่สอง ด้วยถ้อยคำที่ดุกว่าเดิม “แม่ไม่ได้ถามยากเลยนะ”

กันทิมาเผลอใช้ลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก หวาดผวากับมารดาในเวอร์ชั่นนี้อย่างที่สุด...เวลาไต่สวนความเค้นคอ

'เอาไงดี?'

“เอ๋เหรอ?” ละเอียดเอ่ยชื่ออดีตคนรักของลูกสาว

“ไม่ใช่ค่ะ” ร่างสูงตอบ พร้อมส่ายหน้า ก้มหน้าต่ำไม่กล้าสบตาคู่สนทนาตรงๆ

“แล้วใครล่ะ แม่จะได้ไปขอถูก?”

'หืม?'

คนฟังเงยหน้าขึ้น จ้องมารดาด้วยความแปลกใจ

“แม่จะไปขอคนนั้นให้มาเหรอคะ?”

“ใช่สิ ก็แม่อยากได้ลูกสะใภ้แล้วนี่” นมเอียดพูดหน้าตาย “หรือจะให้แม่ไปขอลูกเขยแทน?”

“แม่อ่ะ อย่าแกล้งกันสิคะ มาไม่เอาผู้ชายหรอก”

กันทิมาโน้มตัวไปคุกเข่ากับพื้น แนบใบหน้ากับตักของมารดาแบบอ้อนๆ

ละเอียดลูบศีรษะลูกสาวอย่างอ่อนโยน ชอบที่จะเห็นอีกคนยามงอแงเป็นเด็กๆ ทั้งที่สามสิบกว่าไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรลูกก็เป็นเด็กน้อยในสายตาแม่เสมอ

“ตกลงลูกชอบสาวบ้านไหนล่ะ บอกแม่สิ?”

“มากลัวว่าจะชอบเธอฝ่ายเดียวค่ะ” พึมพำเสียงเศร้า เบาจนแทบไม่ได้ยิน

'ที่แท้ก็กลัวอกหัก ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ไม่รู้จะชมหรือด่าดีเลย?'

ละเอียดนึกเยาะในใจ คิดไม่ถึงว่านักล่าสาวตัวฉกาจจะกลายเป็นฝ่ายใจฝ่อเสียเอง คิดแล้วก็สมน้ำหน้านิดๆ ถ้าไม่ติดว่ากันทิมาเป็นเลือดในอก เธอคงไม่คิดสอดมือเรื่องนี้แน่

“ก็บอกมาก่อนสิว่าใคร?” ตะล่อมเสียงนุ่ม ด้วยรู้ว่าใช้ไม้แข็งกับอีกคนไม่ค่อยได้ผล

“มาชอบอลิษาค่ะ” ยอมตอบออกมาในที่สุด

'ว่าแล้วเชียว...ทำไมแทงหวยถึงไม่โดนแบบนี้บ้างนะ'

คนอายุมากกว่าซ่อนยิ้มในหน้า

“แล้วมาคิดว่าน้องไม่รักมางั้นเหรอ?”

กันทิมาถอนใจยาวเหยียดออกมา

“เมื่อเย็นมาเห็นอลิษาไปทานอาหาร กับรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่ง-” แต่พูดไม่ทันจบประโยค ก็โดนพูดแทรกขึ้น

“ก็เลยคิดว่าน้องมีแฟนแล้ว” นมเอียดพูดต่อแทน เหมือนนั่งไปอยู่ในสมองของลูกสาว

“มาไม่แน่ใจค่ะแม่ รู้แต่ว่าหมอนั่นชอบอลิษามาก” เธอตอบตามที่รู้สึกจากที่เห็นและคุยกับชานน แม้จะไม่กี่คำ แต่ก็รับรู้ความในใจของเขา

'ที่ใจคนอื่นน่ะแสนรู้ ที่ใจอลิษาดันไม่รู้...งี่เง่าจริงๆ ลูกใครวะ'

มารดานึกหมั่นไส้ขึ้นมา จึงแจกมะเหงกให้ลูกสาวเต็มเหนี่ยว

“โอ๊ย!”

หมอสาวร้องลั่น ผละตัวออกห่างจากละเอียดทันที ยกมือลูบหัวตัวเองยังตำแหน่งที่เจ็บ

“แม่เขกหัวมาทำไม?”

“หมั่นไส้ มีปัญหาอะไรไหม?” มารดาตอบแบบกวนๆ

“ไม่กล้ามีค่ะ” คนเป็นลูกทำหน้ามุ่ย ส่ายหน้าปฏิเสธพัลวัน กลัวได้ของแถมอีกชุด

“ดี” คนเป็นแม่ยิ้มย่องอย่างสะใจ “แล้วน้องเห็นมากับเอ๋ด้วยหรือเปล่า?”

“เห็นค่ะ โต๊ะของเราห่างกันไม่เท่าไหร่”

'เฮ้อ! กรุงเทพฯ แคบขนาดนั้นเชียว คงต้องพาไปสะเดาะเคราะห์ เติมน้ำมันตะเกียงหน่อยดีไหมเนี่ย ชีวิตจะได้สว่างๆ ปลอดโปร่ง'

ละเอียดทำหน้าปลงสังเวชกับความโชคร้ายของลูก ที่ทำอะไรก็ดูติดขัดไปเสียหมด ก่อนทำหน้าที่แม่ดีเด่น หาทางออกให้กับลูกสาว ด้วยรู้จักนิสัยใจคอของสาวน้อยเป็นอย่างดี ว่าควรรับมืออย่างไร

“พรุ่งนี้แวะไปปรับความเข้าใจกับอลิษา อย่าให้คาราคาซัง แล้วก็อธิบายสถานะของเอ๋ให้ชัดเจนด้วย เข้าใจไหม?”

“แล้วถ้าอลิษาไม่ฟังมาล่ะคะ?” หมอสาวถามเสียงอ่อยๆ ไม่มั่นใจนักว่าจะสำเร็จ

'พูดน่ะง่าย แต่ทำยากเอาการ'

“แม่ไม่คิดว่านั่นเป็นปัญหาสำหรับลูกเลยนะมา แค่ทำตัวสบายๆ เหมือนปกติ แม่เชื่อว่าน้องพร้อมจะฟังลูกเสมอ...กล้าๆ หน่อยกันทิมา” ละเอียดตบไหล่ลูกสาวเบาๆ ให้กำลังใจ เธอชอบเวลาอีกฝ่ายเข็มแข็งร่าเริงมากกว่าแบบนี้

“ค่ะแม่”

กันทิมาสูดหายใจลึกๆ เพื่อเรียกความมั่นใจ แม้ใจจะยังไม่เต็มร้อย แต่พร้อมจะเข้าเกียร์เดินหน้าเต็มที่ การยอมรับความพ่ายแพ้ใจเสาะโดยไม่สู้สักตั้ง ไม่ใช่วิสัยของเธอ

'แบบนี้ค่อยดูเป็นลูกฉันขึ้นมาหน่อย'

ละเอียดนึกชมในใจ


อลิษากลับถึงบ้านพร้อมนายใหญ่ หลังวางข้าวของก็ก้าวออกไปหลังบ้านเพื่อหาน้องหมาตัวโปรด แล้วได้เจอกับใครบางคนที่ทำให้หล่อนคิดฟุ้งซ่านมากมาย จนกว่าจะหลับสนิทก็ผ่านไปเกือบครึ่งคืน

'มาทำไมอีก?'

สาวน้อยบ่นในใจ มองกันทิมาตาขวางๆ ไม่สบอารมณ์นักที่เห็นอีกฝ่ายอุ้มป๊อกกี้เอาไว้ ข้างตัวมีกระเป๋ายาใบโตวางอยู่ เหมือนเตรียมจะทำความสะอาดแผลให้

'ตาขวางมาเชียว ต้องฉีดยากันบ้าให้ด้วยไหมเนี่ย?'

กันทิมาคิดติดตลก ก่อนส่งยิ้มละไมให้อีกฝ่าย

“เจ้าหญิงมาก็ดีแล้วช่วยจับป๊อกกี้ให้หน่อยสิคะ พี่จะทำแผลให้น่ะ กลัวมันดิ้น” เอ่ยเสียงนุ่มกึ่งขอร้อง ทั้งที่เพิ่งไล่เด็กก้อยไปไม่ให้อยู่ช่วย เป็นก้างขวางคอ

'ทำมาพูดเพราะ ปากหวานไปทั่วล่ะสิ'

อลิษาค้อนน้อยๆ เมื่อถูกเรียกว่า ‘เจ้าหญิง’ แต่ก็ตรงไปจับเจ้าหมาพุดเดิ้ลเอาไว้บนโต๊ะตามที่อีกคนต้องการ

“เป็นไงบ้างเรา แผลน่าจะเกือบหายแล้วนะ” เธอเปรยขึ้นลอยๆ เหมือนพูดกับหมาน้อย หากแต่สายตาคู่หวานจับอยู่บนใบหน้าสวยของเจ้าของหมา

'โกรธจริงๆ ด้วยสิ เฮ้อ!'

ร่างบางนิ่งเงียบ ยังขุ่นเคืองเรื่องเมื่อวานอยู่ ไม่ชอบเลยจริงๆ ยามเอ๋อยู่ใกล้กับหมอสาว แม้จะรู้ว่าทั้งคู่เคยคบหากับแบบลึกซึ้งมาก่อนก็ตาม...เกรงจะรื้อฟื้นสัมพันธไมตรีเก่าๆ ขึ้นมาอีกรอบ

“เมื่อวานอลิษากลับถึงบ้างกี่โมงคะ?” สาวร่างสูงหาเรื่องชวนคุย

คนถูกถามนิ่ง ไม่ปริปากเช่นเดิม

“พี่ถึงบ้านก่อนสองทุ่มครึ่งค่ะ แล้วนั่งคุยกับนมเอียดจนสี่ทุ่มกว่าถึงไปอาบน้ำนอน” เล่าไปเรื่อยๆ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ตนไม่ได้ไปทำเหลวไหลใดๆ กับเอ๋ทั้งสิ้น

'แล้วมาบอกทำไม?'

อลิษานึกในใจ แอบโล่งใจที่อีกคนไม่ได้ไปเถลไถลกับอดีตคนรักแบบที่หล่อนฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อไปไกล

“หนังเรื่องเมื่อคืน นมเอียดบอกว่า นางเอกหน้าตาคล้ายอลิษาด้วยนะคะ” กันทิมาพูดไปเรื่อยๆ ขณะที่แกะผ้ากอซเก่าบนขาเจ้าป๊อกกี้ออก “แต่พี่บอกแม่ไปว่า อลิษาสวยกว่านางเอกตั้งเยอะ”

หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อเมื่อได้ยินคำชมซึ่งหน้า และอดไม่ได้ที่จะหลุดปากต่อว่าออกมา

“บ้า!”

หมอสาวเงยหน้าสบตากับหล่อน ซึ่งอยู่ใกล้จนได้กลิ่นเครื่องหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยโชยมา ยิ้มมุมปากอย่างยินดีที่อีกฝ่ายพูดตอบโต้ออกมาในที่สุด

“ยอมพูดกับพี่แล้วเหรอคะ?” ถามด้วยสุ้มเสียงอ่อนโยน

“ว่าต่างหาก” ร่างบางเถียงแบบไม่เต็มเสียง

'ปากแข็งจริงๆ'

สัตวแพทย์สาวยิ้มกว้างสวย ยินดีที่อีกคนต่อปากต่อคำมากกว่านิ่งเฉยเย็นชา ซึ่งเป็นวิธีการทรมานใจที่เธอไม่อยากได้รับเลย

กันทิมาขยับมือทำความสะอาดแผล ปากก็รีบฉวยโอกาสอธิบายออกไป

“เมื่อวานนี้พี่นัดเอ๋ไปทานข้าว เพื่อขอร้องให้เธอเลิกยุ่งกับพี่ค่ะ”

'เลิกยุ่ง?'

อลิษาทำหน้าสับสนเล็กน้อย แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย แต่ก็อดที่จะอยากรู้อยากเห็นไม่ได้

“ทำไมคะ?”

“เพราะพี่คิดว่า พี่เจอคนที่ใช่แล้วค่ะ”

'บ้าจริง!'

สาวน้อยเจ็บจี๊ดไปที่ก้อนเนื้อในอก ไม่คิดว่าอีกคนจะเจอคนนั้นแล้ว ยามนี้รู้สึกเหมือนตนกำลังอกหักจริงๆ

“แล้วมาบอกอลิษาทำไม?” กระชากเสียงห้วนๆ หากเดินหนีไปได้ หล่อนคงเดินตัวปลิวไปแล้ว ติดที่เจ้าป๊อกกี้ตัวเดียว

“เพื่อให้รับทราบค่ะ” หมอสาวยิ้ม พันผ้ากอซใหม่ปิดแผลให้เจ้าหมาน้อยจนเสร็จ “เพราะคนที่ใช่ของพี่ อลิษารู้จักดีค่ะ”

“ใคร?” หล่อนปวดใจจนสุดจะทน ขอบตาเริ่มเปียกชื้น ร่ำๆ จะร่ำไห้หลั่งน้ำตา

'กล้าๆ หน่อยกันทิมา'

หมอสาวปลุกปลอบใจตัวเอง สบสายตากับร่างบางด้วยนัยน์ตาหวานซึ้ง ก่อนสารภาพความในใจออกมา

“พี่ชอบเจ้าหญิงค่ะ แต่ไม่รู้ว่า เจ้าหญิงจะยอมรับคนธรรมดาแบบพี่ได้หรือเปล่า?”

'ว่าไงนะ!'

อลิษาแทบมืออ่อนเข่าอ่อน ปล่อยเจ้าป๊อกกี้เป็นอิสระ

สาวร่างสูงก้าวมายืนใกล้ๆ

“คบกับพี่ได้ไหมคะ เจ้าหญิง?”

“พี่มา...” น้ำใสๆ ไหลรินอาบแก้มสวยของหล่อน เป็นน้ำตาแห่งความปิติยินดี

กันทิมาใช้สองมือรั้งเอวคอดของร่างบางเข้ามา ก่อนบรรจงจูบอีกฝ่ายอย่างอุกอาจรวดเร็ว

อลิษาตาโตกว้างตกใจที่ถูกรุกแบบไม่ทันตั้งตัว ก่อนหลับตาพริ้มปล่อยให้อีกคนบดเบียดจุมพิตจนแทบหายใจไม่ทัน

หมอสาวเขยิบออกห่างจากคนรักป้ายแดงเล็กน้อย ก่อนกล่าวย้ำเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน

“ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วนะคะ”

หล่อนกลอกตาไปมา แกล้งทำหน้าสับสนเหมือนจำไม่ได้

“ตอนไหนคะ?”

'เจ้าหญิงตัวแสบกลับมาแล้ว'

หมอสาวส่ายหน้ากับความขี้เล่นของสาวน้อย

“พี่จะจูบ จนกว่าอลิษาจะตกลงดีไหมคะ?” พูดจบก็โน้มหน้าไปจูบอีกฝ่าย

หล่อนจูบตอบแบบไม่ประสีประสา เต็มใจอย่างยิ่งในการแสดงความรักกับคนตรงหน้า ซึ่งครั้งนี้ร่างสูงจุมพิตแบบดูดดื่ม เนิ่นนานกว่าครั้งแรก

“เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมคะ?” กันทิมาถามใหม่

อลิษาแกล้งทำหน้าครุ่นคิด ก่อนตอบอย่างเร็วเมื่ออีกฝ่ายทำท่าเหมือนจะจูบอีก ไม่เปิดโอกาสให้ถูกเอาเปรียบมากเกินไป

“ใช่ก็ได้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ” เอ่ยอย่างซาบซึ้ง พลางยิ้มกว้าง “งั้นพี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?”

“อะไรคะ?”

“เจ้าหญิงเคยจูบกับใครหรือเปล่า?” กันทิมาถามเสียงเย็นออกมาพร้อมกอดอก

'หืม!'

คนถูกถามทำหน้างุนงง ก่อนยิ้มเจ้าเล่ห์จะผุดออกมา

“หึงเหรอคะ?”

“ตอนนี้พี่มีสิทธิ์หึง ไม่ใช่เหรอคะ?” หมอสาวย้อนถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“มีสิทธิ์ค่ะ” อลิษาตอบ พลางหัวเราะเสียงใสกับคนขี้หวง เป็นอีกด้านของอีกฝ่ายที่หล่อนไม่เคยเห็นมาก่อน

'ไม่ยักรู้ว่าเป็นคนแบบนี้ด้วย'

“เจ้าหญิงยังไม่ตอบคำถามพี่เลย” ทวงคำตอบด้วยสีหน้าที่เครียดกว่าเดิม

“อืม อลิษาเพิ่งเคยจูบเป็นครั้งแรกค่ะ แต่ก่อนหน้าก็เกือบถูกจูบมาบ้างเหมือนกัน”

“กับใครคะ?” น้ำเสียงเข้ม ขมวดคิ้วจ้องหน้าด้วยความอยากรู้เต็มเปี่ยม

“คนที่ถูกพี่ฟ้าต่อยหน้าแหก ไม่กี่วันก่อนค่ะ”

กันทิมายิ้มน้อยๆ ที่รู้ว่า ตนเป็นจูบแรกของอีกฝ่าย แอบเขินอยู่เหมือนกัน ทั้งที่จูบกับใครต่อใครมาหลายคน แต่ไม่ชื่นใจสุขใจแบบนี้เลย

“ระวังเถอะมาคบกับน้องสาว เดี๋ยวพี่ฟ้าคงได้ไล่แจกหมัดอีกแน่” หล่อนแกล้งขู่

“ถ้าพี่เจ็บ เจ้าหญิงจะอยู่ดูแลพี่ไหมคะ?”

“ต้องดูว่าเจ็บเพราะอะไรค่ะ ถ้าเจ็บตัวเพราะผู้หญิงคนอื่นก็ตัดหางปล่อยวัดเลย” ทำหน้าขรึม พูดเสียงเรียบ

'ขู่เก่งจริงๆ'

หมอสาวหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ไม่ได้รู้สึกกลัวคำขู่พวกนั้นเลย เพราะเธอไม่มีวันยอมเสียหล่อนไปง่ายๆ แน่ ยกสองแขนรั้งเอวอีกฝ่ายมากอดแน่น

“กลัวแล้วค่ะ”

“ให้จริงเถอะ”

“รักเจ้าหญิงนะคะ” กันทิมากระซิบข้างใบหูคนในวงแขน แล้วหอมแก้มนุ่มๆ อีกฟอด

“รักค่ะ” อลิษายิ้มสวยอายๆ ออกมาเกลื่อนหน้า มีความสุขไม่แพ้อีกคน ดีใจมากที่รับรู้ความในใจของกันทิมา และหวังว่าคงไม่มีอุปสรรคใดๆ กับความรักครั้งนี้

จีบ
กุหลาบน้อยแรกแย้ม พราวเพริศ
ชูช่อแจ่มบรรเจิด เลิศหล้า
อกพี่สั่นบังเกิด ปรารถนา
ทำปากเก่งใจกล้า จีบน้องฯ

OoXoO

ในที่สุดสองสาวตกลงปลงใจกันได้ซะที แต่เชื่อเถอะว่า เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่ หุหุ

จะอัพให้อ่านถึงจบตอนที่ ๑๘ นะคะ ถ้าใครใจร้อนอยากรู้ตอนต่อไป ก็ไปตามได้ที่ แฟนเพจ 'นิ้วนาง' ค่ะ

หากใครชอบเรื่องนี้อยากอ่านให้จบ อีบุคซื้อได้ผ่าน MEB หรือหนังสือก็สอบถามได้ทางอีเมล์หรือแฟนเพจนิ้วนางค่ะ

...ถ้าอยากอ่านเรื่องใหม่เร็วๆ ก็อย่าลืมให้หัวใจไรท์ด้วยนะคะ จะได้มีกำลังใจเขียนเร็วๆ

ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ

นาง

OoXoO



Create Date : 17 สิงหาคม 2559
Last Update : 17 สิงหาคม 2559 16:56:57 น. 1 comments
Counter : 802 Pageviews.

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:13:15:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com