กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
17 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 
ทริปแม่ค้าพาเพลิน....ถล่มฮอกไกโด โตเกียว ตอนที่ 1

กลับมาพาเที่ยวอีกแล้นน ก่อนจะดองไว้นานเกินไป แฮร่...(จริงๆ มีทริปพาเด็กเที่ยวญี่ปุ่น ตั้งแต่ปีก่อน และทริป ชิราคาวาโกะ  ไลท์อัพ ตั้งกะต้นปี ดองเค็มไว้อยู่อีกง่ะ ทะยอยๆ ระลึกชาติไล่ไปละกันเน๊าะ)

ทริปฮอกไกโดนี้เป็นทริปออฟฟิส ที่พาน้องๆ ในทีมไปเที่ยวพร้อมกันทั้งหมด 5 ชีวิต วางแผนไว้ตั้งแต่ประมาณเดือน 3-4 เที่ยวจริงๆ เดือน 8 ก็ล่วงหน้า 4-5 เดือน พอสวยๆ

จากการหาข้อมูลตาแทบปลิ้น อ่านรีวิว อ่านเว็บ อ่านหนังสือท่องเที่ยว....หลายทริปผ่านไป
ทริปนี้ จึงบังเกิดธุรกิจอันใหม่อีกอันนึงขึ้นมา คือ https://www.facebook.com/backpackadvisor  ให้บริการวางแผนเที่ยวด้วยตัวเอง กำเนิดขึ้นมา เพราะ รู้เลยว่า กว่าจะหาข้อมูล สารพัดจุกจิก นั้น มันไม่ง่าย ยิ่งในยุคนี้ ข้อมูลมหาศาลล้านแปด ทั้งส่วนลด ทั้งโปร เยอะแยะมากมาย (ตัดเข้าช่วงโฆษณาแบบไม่ทันให้รู้ตัว ฮี่ๆๆๆๆ)  ล่าสุดทำทริปญี่ปุ่นให้น้องที่รู้จักคนนึง....เค้าซื้อตั๋วโปรไว้แล้ว แต่ วางแผนเที่ยวเองไม่เป็น จะพาคุณพ่อคุณแม่และญาติไปอีกทั้งหมด 4 ชีวิต 
ก็เลยให้ทำแบบสอบถาม ถามความต้องการ สไตล์การเที่ยว ความชอบของแต่ละคนที่เดินทางไปด้วยกัน สุขภาพของแต่ละคน ได้ความว่า พ่อแม่เดินไหว แข็งแรง ไม่เน้นช็อปปิ้ง ชอบเที่ยววัฒนธรรม เอ้าา จัดปายยย...มีงบต่อคน 20000 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)  

ทีมงาน backpack buddy ตามล่าหาโปรที่พัก  Expedia  วางแผนการเดินทาง และเลือกบัตรรถไฟให้ใช้งานได้คุ้มค่ามากที่สุด รวมๆ แล้ว เบ็ดเสร็จ ตกคนละ  15000 บาท ต่อคน ประหยัดไปทั้งหมด 20,000 บาท !!!  เอาเงินที่ประหยัดไปได้มาจ่ายค่าขนมคนทำทริป แล้วยังเหลือเป็น  pocket money ได้อีกเป็นหมื่นเหอะ.....
โอวววว พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก....
ใช่แล้ว...ซาร่าห์....มีเพื่อนมีพี่มีญาติจะไปเที่ยว อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการไปทัวร์ อยากผจญภัย แต่ขี้เกียจหาข้อมูล เรียกเราได้เร้ยยย หรือถ้าคนเยอะหน่อย 8-12 คน++ จะจัดเป็นกึ่งทัวร์ กึ่งเที่ยวเองก็ทำได้ ใช้รถตู้หรือรถโคชในบางวัน เพื่อความสะดวกสบาย หารๆ กันแล้วอาจจะแพงกว่าเดินทางเองนิดหน่อย แต่ไม่เสียเวลา ได้แวะทุกที่ที่อยากแวะ 


อ้อ..นี่เรากำลังจะเล่าเรื่องเที่ยวฮอกไกโดใช่ไม๊....ผ่านไปค่อนหน้าเพิ่งนึกได้ 55555555
ตามนั้นแหละจ่ะ เที่ยว 5 คน งบต่อคน 4-5 หมื่นไม่รวมช็อปปิ้ง ด้วยแพลนนี้ เที่ยวสบายๆ กินอิ่ม นอนสบาย เช่ารถขับ ขากลับมีเงินเหลือ!!!!

มาดูบทสรุป แพลนเที่ยวคร่าวๆ ของเรากัน รายละเอียดนั้น จะแยกเป็นวันๆ ทีหลังน๊า 
  • เดินทางด้วยสายการบิน Delta เพราะถูก 18000 เป็นมาตรฐาน ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องต่อเครื่อง บินเช้าถึงเย็น กลับเย็น ถึงดึก 
  • บินในประเทศ วนิลาแอร์ ไม่ได้โปรอีกตะหาก ถ้าโปร จะถูกกว่านี้เยอะมากกกกกกกก แต่เอาชัวร์ไว้ก่อน ไม่อยากลุ้น รวมๆ แล้ว  22000 ในขณะที่บินตรงการบินไทยประมาณ 24000 ถูกกว่าคนละ  2000  บาท แต่ น้องๆ อยากเที่ยวโตเดียวด้วย ถือว่าโอเค 
โปรแกรมเที่ยวฮอกไกโด โตเกียว  9 วัน 8 คืน  

วันแรก BKK->TOKYO(Narita)->Sapporo(Shin-shitose)
ออกเดินทางแต่เช้าตรู 6 โมงเช้า ถึง สนามบินนาริตะ ประมาณเกือบ 15.00 (เครื่องดีเลย์ที่สุวรรณภูมิ)
ต่อสายการบินในประเทศ Low-cost Vanilla Air (Terminal 2) ไฟลท์ 17.30 น.
ถึง Shin-Shitose  ประมาณ เกือบๆ  19.15 น
นั่งรถไฟเข้าเมืองซัปโปโร (40 นาที)
เช็คอินเข้า รร. Route-inn Sapporo 

วันที่ 2 Sapporo-> Otaru 
เที่ยวโอตารุ เมืองมุ้งมิ้งทั้งวันเลยจ้า
นอน รร. Route-inn Sapporo

วันที่ 3 Sapporo
ตะลุยซัปโปโร
นอน รร. Route-inn Sapporo

วันที่ 4 Sapporo -> Furano /Biei
เช้า ส่งกระเป๋าด้วยแมวดำ ล่วงหน้าไปที่โรงแรมในโตเกียว
รับรถเช่า โดยเลือกใช้บริการ Nippon Carrent 
เที่ยวละไมไปในทุ่งดอกลาเวนเด้อ 
นอนที่ Furano (จองที่พักพลาดไปหน่อย เดี๋ยวจะเล่าว่าทำไมค่ะ) 

วันที่ 5 Biei ->Asahidake
เที่ยว Biei
Asahikawa
เช็คอิน Asahidake Onzen

วันที่ 6 Asahidake ->Biei ->Sapporo 
เก็บตกสถานที่ต่างๆ (ตามแพลนเดิม คือ เที่ยวในตัวเมือง Asahikawa/ Asahikawa Zoo) 
กลับซัปโปโร คืนรถ 
นอน รร. Route-inn Sapporo (นอนซ้ำ รร.เดิม 4  คืนเลยอ๊ะ)

วันที่ 7 Sapporo->Tokyo 
บินไฟลท์ บ่ายสอง ด้วย  Vanilla Air มาโตเกียวจ้า
นั่งรถไฟ Keisei line  หวานเย็น มาลง  Ueno (ใช้เวลา 80 นาที)
เที่ยวโตเกียวยามค่ำคืนพอกรุบกริบ
Shibuya 
พักที่ Hotel Ueno Touganeya 

วันที่ 8 Tokyo
จัดเต็ม โตเกียว 1 วัน
ได้แก่ Asakusa /Tokyo Skytree
Shinjuku
พักที่ Hotel Ueno Touganeya

วันที่ 9 Tokyo-> BKK
Ueno /Ameyoko/ตึกม่วง
นั่งรถไฟ Keisei line  หวานเย็น จาก Ueno ไปสนามบิน (ใช้เวลา 80 นาที เผื่อเวลารอรถไฟ 30 นาที เผื่อพลาด)
กลับไฟลท์ 6 โมงเย็น ถึงกทม 11 PM

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเดินทาง
-  วางแผนเดินทางคร่าวๆ พร้อมจองที่พัก (อะแน่นอนอยู่แล้ว) อันนี้ ปวดกะโหลก 5 ดาว เพราะ ส่งผลต่อการจองรถเช่า แล้วไหนจะเรื่องของกระเป๋าเดินทาง ที่มีผลต่อขนาดรถที่จะเช่าอีกด้วย
สุดท้าย จึงออกมาเป็นแพลนตามด้านบนคือ

ส่งกระเป๋ากลับ เหลือเป็น  light pack สำหรับ 4 วัน เพื่อจะได้ลดขนาดรถเช่าลงมา เป็นแค่ wagon ธรรมดา เครื่อง 1600 cc สำหรับ 5 ที่นั่ง (รถ 4 ประตูตามปกตินี่แหละ) 
โดย ต้องเช็คกับโรงแรมที่โตเกียวด้วยว่า เขารับฝากกระเป๋าไว้ล่วงหน้านานขนาดนั้นไหม  2-3  วัน เพราะถ้า รร. เล็กๆ ไม่มีที่ เขาก็ไม่รับฝากนะ (ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจฟังธงโรงแรม เมล์ถามเขาก่อนเรื่องนี้ และ ถามรร.ที่ซัปโปโรเผื่อไว้ด้วยว่า รับฝากไหม ปรากฏ route-inn ไม่รับ)

วิธีแก้ปัญหาอีกอันนึง ถ้า รร. ไม่รับฝาก คือ เก็บไว้ในล็อคเกอร์กระเป๋าสถานนีซัปโปโร แต่ก็คงหลายบาทอยู่ เนื่องจากกระเป๋าแต่ละคนก็ไม่ใช่เล็กๆ ถ้าใช้คนละตู้ ราคาพอๆ กับส่งไปโตเกียวน่ะแหละ เผลอๆ แพงกว่าอีก แล้วขากลับ ยังต้องแบกกระเป๋าใหญ่จากซัปโปโร ไปสนามบิน ถึงนาริตะ ก็ต้องแบกอีก

การส่งไปล่วงหน้า ทำให้เราซื้อของช็อปปิ้งบางส่วน พวกขนม ของฝากซัปโปโร ตั้งแต่วันที่เที่ยวในซัปโปโร เพื่อกลับมาแพคกระเป๋า และส่งไปโดยไม่ต้องแบกเอง เดินทางชีลๆ ตัวปลิวสบาย (แต่ต้องคำนวนเสื้อผ้า สภาพอากาศให้ดีด้วยนะ ผ้าเช็ดตัว อะไรแบบนี้ เช็ค รร.ด้วยว่ามีให้ใช้ป่าว เพราะเมื่อเราสละกระเป๋าไปบ้านนอกแล้ว ไม่เจอห้างให้ช็อบเลย) 

- ทำใบขับขี่สากลให้เรียบร้อย 

นับว่า แพลนด้านบน ที่เอามาแปะให้ดู เป็นแพลนเที่ยวสนุก เที่ยวสบาย เที่ยวครบรสชาติ เลยล่ะจ้า (ถ้าสภาพอากาศดีๆ วันที่กลับจากภูเขาเข้าเมือง ไม่จำเป็นต้องย้อนทางเดิม ไปหาที่เที่ยวใหม่ๆ ได้อีกนะนี่)  

ยกเว้นแต่ว่า ที่พัก ที่   Furano ของทริปนี้ เลือกอยู่ในเมือง พลาดไปหน่อย จริงๆ แล้ว ถ้าเราเลือกนอน pension หรือที่พัก ที่อยู่ไกลออกไป ระหว่างทาง  Furano ไป Biei จะไม่ต้องขับรถย้อนไปมา เที่ยวเก็บๆ ไปจากใต้ขึ้นเหนือ แล้วนอนกลางทาง จะดีกว่า ได้ชมวิว เต็มๆ ด้วย ไม่ต้องกังวลว่าจะอยู่ในซอกหลืบเขา เพราะยังไง เราเช่ารถขับ ไม่จำเป็นต้องนอนในเมือง ใกล้สถานนีอะไร 

ยังดีว่าที่พักขับรถย้อนไม่ไกลมาก (40 กิโล แต่ใช้เวลานานหน่อยเพราะถนนเล็ก) และประหยัด เพราะ pension สวยๆ ราคาไม่เบาเหมือนกัน 
หาของกินง่าย เพราะอยู่ในเมือง ขาดเหลืออะไรก็ยังพอซื้อได้ 
ไม่ต้องตุนเสบียง มีซุปเปอร์เล็กๆ ในฟุราโน ให้ช็อบก่อนไปขึ้นเขา Asahidake 


อย่างอันนี้ที่ติวเตอร์ตู่รีวิวไว้ ก็แพงกว่าที่เราพัก พอสมควร ตามไปลองอ่านดูจ้า 
//pantip.com/topic/30961370
//topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/08/E8185305/E8185305.html

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ต่อคน 

เอ้า ได้รู้แพลนกันคร่าวๆ แล้วเตรียมตัวววววว....

เราบินไฟลท์ เช้า 6.00 น. ด้วยสายการบินเดลต้า ค่ะ ก็ไปถึงสนามบินกันแต่เช้าตรู่ สภาพหน้าตาอย่าให้โชว์ คือ ไม่ได้นอน ถึงสนามบิน ตีสาม ออกจากบ้านตีสองกว่า นั่งรอขึ้นเครื่องอะไรก็ตรงเวลา แต่ว่าจะได้ออกจากสุวรรณภูมิ ต่อคิวเทคออฟกันชม.กว่าเห็นจะได้ หลับจนตื่นมาคิดว่าลอยล่องอยู่บนท้องฟ้าที่ไหนได้ ล้อยังติดพื้นอยู่เลย.....  

เริ่มคิดในใจ  เครื่องจะดีเลย์เยอะไม๊น๊า เพราะเราเผื่อเวลาต่อไฟลท์ไป  3 ชม. นี่เลท ไป 1 ชม. กว่า แล้ว...อืมมมมม...

นั่งๆ ไปก็คิดได้ว่า เอ๊ะ....ลืมดูว่า ซวยแระ วนิลาแอร์ ขึ้นที่เทอมินัลไหน แล้วเราจะลงเทอมินัลไหน....(ลืมเรื่องสำคัญได้ไงฟระ) 
ถามแอร์ แอร์ก็ไม่รู้ แสดงว่า คนละเทอมินัลกะเดลต้า  ถ้างั้น ต้องรับกระเป๋า ผ่านตม. ออกมาหาทางเปลี่ยนเทอมินัลอีก.....อืมมมมมมมมมมม  ถ้า ตม. คนเยอะ ก็มีลุ้นได้วิ่งกันจร้าาาา...เฮือกกกก

โชคดีมาก กัปตันเหยียบคันเร่ง เราถึงเลทกว่าเวลาไปครึ่งชั่วโมง และ ตม. ตอนบ่ายคนไม่เยอะ (เท่าตอนเช้าๆ ที่ไฟลท์แห่กันลง)  รับกระเป๋าออกมา ถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่า  Vanila Air Terminal2  จร้าาา เราก็พยายามมองหาป้าย เค้าบอกให้นั่งรถเมล์ ฟรี  เบอร์ 6  นี่แหละ  ขึ้นรถมาก็สังเกตป้ายดีๆ นะคะ เพราะว่า ถึงจะพาเรามาเทอมินัล 2 เหมือนกัน แต่ก็มีป้าย Domestic สายการบิน โน้นนี้นั้น  อีกป้าย เป็น Domestic Inter ลงผิดเดี๋ยวจะต้องเสียเวลารอรถอีก 

ปรากฏว่า พอมาถึง แถวเค้าเตอร์เช็คอินยาวมากกกกก เราก็ต่อไป นานมากกกกกเหมือนกัน  พอไปถึงที่โหลดกระเป๋า เจ้าหน้าที่บอกว่า เรามาเร็วไป 5 นาที ไฟลท์เรายังไม่ถึงเวลา  ห๊าาาาาาา....อัลลัยยยยย รอมาเกือบครึ่ง ชม. ได้ 

จ่ะ ต่อแถวใหม่ จ่ะ....คนญี่ปุ่น เที่ยงตรงมั่กๆ  5 นาที ก็ไม่ยอมให้เรายืนรอแถวนั้น..T_T



 ไม่มีงวงมาเทียบ ต้องต่อรถบัส มาลงใกล้ๆ เครื่อง นี่ถ้ามาเช็คอินเลทนะเมิงเอ้ยยยย...วิ่งกันมันส์ 
ออกจากสนามบินชิโตเสะ แบบมึนๆ งงๆ หาทางเดินทางเข้าเมือง สรุป เติมตังค์บัตร SUICA ใช้ได้ แล้วพวกนาง 5 คน ก็วิ่งถลาขึ้นรถไฟ กันแบบไม่ได้อ่านสรุปว่าเป็น  ตู้ Reserved Seat จร้า....ยืนก็ได้ 40 นาที หลังจากนั่งบนเครื่องตูดบานมากว่า 10 ชม. 


ถึงโรงแรม เช็คอิน เก็บกระเป๋า สองทุ่มนิดๆ ได้ วิวจาก รร.​มองไปเห็นสถานนีซัปโปโรเลยค่ะ  ใกล้มากกกก
Sapporo Route Inn Ekimae Kitaguchi อยู่ทางออกทิศเหนือของสถานี คืนละ 1800 บาทต่อคน รวมอาหารเช้า 


ยืนหน้าสถานีซัปโปโร มองไปเห็นโรงแรมเลยค่ะ ตึกน้ำตาลๆ นั่น  มีมินิมาร์ทใกล้ๆ หลายแบรนด์ให้เลือก ทั้ง เซเว่น ลอว์สัน 
เราอยู่ที่นี่ทั้งหมด 4  คืน แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย 55555
เอาเป็นว่า สะอาด บริการดี เก็บเตียง เก็บห้องให้ทุกวัน (เก็บของที่เราทำรก เอามาเรียงไว้ให้เป๊ะๆ ด้วย) อาหารเช้าเยอะ หลากหลาย อร่อยยยยยยยมากกกก ถูกใจเอาไป 10 กะโหลกเลย 

สองทุ่มห้างปิดหมดแล้วค่ะ....เมย์มุมิ แผนกหาข้อมูลของกินประจำทริป นำเสนอ สถานที่ ชั้น 10 ตึก ESTA ใกล้ๆ สถานนีซัปโปโร เป็นเหมือนแหล่งรวมราเมนชื่อดังมาเปิดไว้ที่เดียว ชื่อ Sapporo Ramen Kyōwakoku เปิดถึง สี่ทุ่มมั้งนะ 


 มีหลายร้าน แต่แจ๊กพอตมาตกที่ ร้านนี้ Shirakaba Sansau Ramen
(มารู้ทีหลังว่าดังมากเหมือนกัน ทีเด็ดคือ ไข่ต้มที่กินได้ไม่อั้น และน้ำซุปรสชาติเจ้มจ้นสุดๆ)


ถึงร้านนี้ น้ำซุปมิโซะจะโด่งดังมีชื่อเสียง (รูปล่างขวา ของเราเอง) ของกีบ เป้นมิโซะ แต่เผ็ดๆ ส่วนของมุมิ เพลย์เซฟ เอาซุปโชยุ แต่ลองชิมแล้ว ชอบน้ำซุปโชยุมากกว่า หอมมมมมมม นัวมากกกกกกกกกกกกก แต่ฟันธงว่า เป็นน้ำซุปวัวแต่นอน เพราะ หอมจริงอะไรจริง 

และแล้ว ไอ่พวกประกาศตัวว่าไม่กินเนื้อตั้งแต่ก่อนไป (คือ ทริปนี้ มีเรากินคนเดียวว่างั้น) ก็ตะบะแตกพ่ายไปเรียบร้อยโรงเรียนญี่ปุ่นตั้งแต่วันแรก 



วันแรกของพวกเรา ก็หมดเท่านี้ หลังจากซดราเมนชามโตกันเข้าไป เรออออกมา 3 เอิ่กก ประกอบกับตื่นเช้ามาก  หมดสภาพกันไปตามระเบียบ 

ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น
3 ชม.ที่สุวรรณภูมิ
6.5 ชม. บนเครื่อง
2.5 ชม. ที่นาริตะ
1.5 ชม. บนเครื่อง
1 ชม.  บนรถไฟ

เบ็ดเสร็จ รวม 14.5 ชม. แห่งการเดินทางเหยียบแผ่นดินญี่ปุ่น








Create Date : 17 กันยายน 2557
Last Update : 29 กันยายน 2557 21:56:01 น. 1 comments
Counter : 6349 Pageviews.

 
รอต่อภาค 2 นะฮ้าา


โดย: KahnJi IP: 27.55.131.93 วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:10:07:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.