อานิสงส์ของการสร้างองค์พระ (ยิ่งสร้างองค์พระก็ยิ่งศรัทธา)
อานิสงส์ของการสร้างองค์พระ (ยิ่งสร้างองค์พระก็ยิ่งศรัทธา)เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC




ลูกเข้าวัดพระธรรมกายตอนเรียนอยู่ชั้น ม.2 พ.ศ.2528 โดยการแนะนำจากพี่ชายคนโต ในตอนนั้นพี่ชายให้ตัวลูกนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ จากประตูน้ำมาส่งที่วัดพระธรรมกาย เพื่อเป็นอาสาสมัครช่วยเขียนใบอนุโมทนาบัตรที่เหรัญญิกทุกวันอาทิตย์ พอตอนเย็นพี่ชายก็จะมารับกลับหลังจากเสร็จพิธีแล้ว ทำให้ลูกได้สร้างบารมีมาอย่างต่อเนื่อง และได้ข้อคิดดีดีจากครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะ คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เพราะทุกเย็นหลังเลิกพิธี คุณยายอาจารย์จะนำปล่อยสัตว์ปล่อยปลาให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน แก่หลานๆ และท่านก็อวยพรให้ลูกว่า “ให้อายุยืนยืนนะ”  
แต่แล้วก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกได้ขี่จักรยานบนฟุตปาธ ทันใดนั้นสายตาของลูกก็มองเห็นลูกนัยน์ตาสีแดงเต็มท้องถนนไปหมด จ้องมาที่ตัวลูก พร้อมกับเสียงร้องของผู้คนที่อื้ออึงไปหมดเลย เวลาเดียวกันรถที่วิ่งอยู่บนถนน ก็ได้วิ่งพุ่งตรงมาบนฟุตปาธ แล้วก็ชนลูกพร้อมกับจักรยานเสียงดังโครม ตัวลูกกระเด็นไปอีกทาง จักรยานหักเป็นท่อนๆ พังเป็นเศษเหล็ก แต่ตัวลูกไม่เป็นอะไรเลย ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์ ได้วิ่งข้ามถนนมาดูลูกว่า เป็นอะไรหรือเปล่า เพราะตรงนี้มีอุบัติเหตุบ่อย มีคนตายมาเยอะ พอมีคนมาก็มีคนมุง พอมีคนมุงคนก็วิ่งมาดู ในขณะนั้นรถก็ได้วิ่งมาชนคนที่วิ่งมาดูตรงกลางถนน เสียชีวิตไปทันที 2คน 
 คุณแม่ของลูก เป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ เข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯเป็นแม่บ้านที่บ้านน้องสาวของคุณพ่อ อาม่าเห็นว่าคุณแม่เป็นคนดี ขยัน อดทน พูดจาดี อาม่าก็เลยไปสู่ขอคุณแม่ให้มาเป็นภรรยาของคุณพ่อ แล้วก็มีลูกด้วยกัน 6คน แต่คุณพ่อยังไม่พอต้องการมีลูกเพิ่มอีก เพื่อจะได้ให้ครอบครัวเป็นวงศ์ตระกูลใหญ่ จึงไปมีภรรยาคนที่สอง และมีลูกด้วยกันอีก 7คน รวมแล้วเป็น 13คน คุณพ่อเป็นคนเจ้าชู้มาก และได้รับภรรยาคนที่สองมาอยู่ที่บ้านเดียวกัน ต่อมาภรรยาคนที่สองก็ทิ้งคุณพ่อไปมีสามีใหม่ คุณแม่จึงต้องอดทนเลี้ยงดูลูกทั้งสองแม่รวม 13คน โดยคุณแม่ไม่เคยบ่นหรือดุด่าว่ากล่าวลูกของภรรยาคนที่สองของคุณพ่อเลย และจะสอนลูกของตัวเองทั้ง 6คนว่า “อย่าไปดุด่าว่าลูกของแม่ฝ่ายโน้นทั้ง 7คนนะ ให้สงสารเขา...เขาไม่มีแม่ เดี๋ยวเขาจะน้อยใจ เราเป็นพี่เป็นน้องกันอย่าทะเลาะกัน” 
 คุณพ่อเสียชีวิตไปเมื่อวัย 53ปี ภาระทั้งหมดจึงอยู่กับคุณแม่และพี่ชายคนโต คอยดูแลน้องๆ คุณแม่จะสอนให้ลูกรักสามัคคีกัน มีอะไรก็ให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เวลาลูกคนไหนลำบากก็ไม่ให้ทอดทิ้งกัน พวกเราจึงรักกันมาก ไปไหนก็จะไปเป็นโขยง รวมกันสองบ้านก็ประมาณ 30ชีวิต เช่น ไปปฏิบัติธรรมที่สวนบัว เขาใหญ่ หรือที่หาดมุกแก้วก็ตาม ทั้งสองครอบครัว ลูกหลาน...ภรรยา ลูกเขย ลูกสะใภ้ จะรักใคร่ปรองดองกันดี ไปด้วยกัน 30คน 
 ต่อมาไม่นาน คุณแม่ก็ได้ล้มป่วยมีอาการปวดท้อง พอไปโรงพยาบาลคุณหมอก็บอกว่า คุณแม่ป่วยเป็นวัณโรค รักษาอยู่นานอาการก็ไม่ดีขึ้น จึงได้พาคุณแม่ไปเอกซเรย์ใหม่อีกที จึงได้พบว่าคุณแม่เป็นมะเร็งที่ปอด ลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลือและกินเข้าไปถึงกระดูกซี่โครงหายไปหนึ่งข้าง คุณหมองงมาก เพราะอาการอย่างนี้คนไข้จะต้องปวดทุกข์ทรมานมาก และคุณแม่อยู่มาได้อย่างไรจึงไม่มีอาการเจ็บปวดทรมาน แต่ช่วงที่ผ่านมา ก่อนป่วยและกำลังป่วย คุณแม่ได้ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาอย่างต่อเนื่อง ได้ขึ้นพนาวัฒน์หลายครั้ง ทำบุญทุกบุญ โดยล่าสุดได้ทำบุญเสาแก้วพันปี และกฐินปี พ.ศ.2548_ล่วงหน้าไว้ เพราะคุณแม่รู้ว่าจะอยู่กับเราไม่ได้นาน จึงไม่ประมาทในการทำบุญทุกอย่าง และบอกลูกๆทุกคน “ให้ทำบุญให้แม่เยอะๆด้วย” 
 ลูกกังวลเรื่องคุณแม่มากถึงกับได้ฝันไปว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯได้มาเข้าฝัน และถามลูกว่า “รักแม่ไหม เดี๋ยวจะให้ดูอะไร” พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯก็ทำให้ลูกได้เห็นคุณแม่ผอมลง แห้งๆเหมือนวันที่คุณแม่ตายจริงๆ ซึ่งอาการของคุณแม่ตอนนั้นยังดูดีอยู่ ลูกได้ถามในฝันว่า “แม่จะตายไหม”พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ท่านนิ่งแล้วตอบว่า “ตาย”แล้วท่านก็เตือนลูกว่า “ถ้ารักแม่ ก็ไม่ต้องรั้งแม่เอาไว้นะ เพราะข้างในแม่น่ะ ไม่เหลืออะไรแล้ว เน่าหมดแล้ว”ลูกน้ำตาไหล ก้มกราบคุณแม่แล้วบอกว่า “ลูกยอมให้แม่ไปแล้ว จะไม่เหนี่ยวรั้งแม่ไว้อีกแล้ว แต่จะทำบุญให้แม่เยอะๆ ตามที่แม่ต้องการ” 
 น้องชายคนเล็กของลูก ขณะนั้นได้บวชที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ก็เอาบุญให้กับคุณแม่อย่างเต็มที่ และได้ฝันว่า มีใบสั่งมาแล้ว มีคนถือบัญชีรายชื่อของคุณแม่ว่า จะตายวันที่ 28 มกราคม พ.ศ.2548 พอถึงวันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2548 อาการของคุณแม่ทรุดหนักอย่างน่าใจหายและดูจะไม่ฟื้นแล้ว แต่จู่ๆคุณแม่ก็ลุกขึ้นมานั่งคุยแบบปกติ จำคนโน้นคนนี้ได้หมด เรียกชื่อถูกหมด ขนาดเพื่อนไม่เคยเจอกันมาตั้งนาน คุณแม่ก็ยังเรียกชื่อเขาถูกและถามสารทุกข์สุกดิบได้ จนกระทั่งมาถึง วันที่ 28 มกราคม พ.ศ.2548 ประมาณบ่าย คุณแม่ก็ได้จากพวกไปอย่างไม่มีวันกลับ ตรงตามที่น้องชายฝัน แต่ก่อนตายคุณแม่ไม่ได้ทุกข์ทรมาน เฮือกสุดท้ายสงบนิ่งจนคุณหมองง 
แต่ก่อนที่คุณแม่จะจากพวกเราไป คุณแม่เคยสั่งเอาไว้ว่า “ถ้าแม่ตายไป ก็ให้รีบส่ง Case ไปถึงคุณครูไม่ใหญ่ให้แม่ด้วย เพราะว่าฝันในฝันเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าแม่ไปอยู่ที่ไหน ถ้าแม่ไปไม่ดี ลูกก็จะได้เร่งทำบุญให้แม่เยอะๆไงล่ะ” แต่สิ่งที่คุณแม่กังวลมีอยู่สองเรื่อง คือ ความไม่รู้กฎแห่งกรรมก่อนที่จะมาเป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันฝันวิทยา ทำให้คุณแม่ทำแท้งลูกถึงสองคน เพราะสงสารคุณพ่อที่หาเงินเลี้ยงลูกๆไม่ไหว ประกอบกับคุณแม่กลัวการทำหมัน จึงทำให้มีลูกจนต้องไปทำแท้งและ คุณแม่ยังสูบบุหรี่ก่อนนอนวันละหนึ่งมวน แต่ในที่สุดก็เลิกได้ คุณแม่บอกว่าที่สูบบุหรี่เพราะนอนไม่หลับ สมองมันตึงเครียดเกี่ยวกับเรื่องการทำมาหากิน มันจึงเป็นตราบาปที่อยู่ในใจของคุณแม่ และคุณแม่ก็ยังห่วงหลานที่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรอีกด้วย พวกเราจึงรู้สึกว่า คุณแม่ยังอยู่ใกล้ๆพวกเราไม่ไปไหน 

คุณแม่จากไปด้วยวัยเพียง 65ปีเท่านั้น การสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวของคุณแม่ ในช่วงแรกๆที่คุณแม่ยังไม่มีศรัทธามากนัก ขณะที่พี่ชายคนโตสร้างพระธรรมกายประจำตัวมากมายจนนับไม่ถ้วน คุณแม่ก็มาขอพระมหาสิริราชธาตุ ซึ่งเป็นของขวัญที่ได้จากการสร้างพระธรรมกายประจำตัว ไปสวมใส่สร้อยคอทองคำ ท่านขอไปหลายองค์ พี่ชายก็ให้ทุกครั้ง แต่คุณแม่ไม่สามารถรักษาองค์พระไว้ได้เลยแม้สักองค์เดียว พี่ชายจึงบอกกับคุณแม่ว่า “แม่ถอดสร้อยทองคำไปขาย มาสร้างองค์พระด้วยตัวเองจะดีกว่า”แต่คุณแม่ก็ไม่ยอม ท่านบอกว่า พระที่ห้อยคอนี้...ท่านต้องการใส่กับสร้อยทองพี่ชายก็บอกแม่ว่า “พระ...ท่านบอกตอนไหนว่า ท่านชอบใส่กับสร้อยทองคำ แม่มีเงินทองตั้งเยอะแยะแล้ว สร้างด้วยตัวเองจะดีกว่า” 
 วันรุ่งขึ้น คุณแม่ได้ไปที่ตลาดนัดสวนจตุจักร โดยคุณแม่สวมใส่สร้อยคอทองคำพร้อมพระมหาสิริราชธาตุไปด้วย ในขณะที่เดินในตลาด คุณแม่ได้ถูกขโมยกระฉากสร้อยคอทองคำไปพร้อมกับองค์พระก็หายไปอีก และคุณแม่ก็มาขอใหม่อีก พระก็ได้หายไปอีกเช่นเคย ตอนหลัง คุณแม่จึงต้องตัดสินใจสร้างพระด้วยตนเอง โดยการขายสร้อยข้อมือทองคำ รวมทั้งทองทุกส่วนที่มีในตัวคุณแม่ เพื่อมาสร้างองค์พระไปหลายองค์ทีเดียว ยิ่งสร้างคุณแม่ก็ยิ่งมีศรัทธายิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยทำบุญจนหมดใจในทุกๆบุญ ตอนหลังพระของแม่ก็ไม่เคยหายอีกเลย 

 คุณพ่อของลูก เป็นชาวจีนที่อพยพมาจากเมืองจีนตั้งแต่ยังเล็ก เพราะอาม่ากับอากงแยกทางกัน อาม่าจึงพาลูกทั้ง 5คนมาอยู่ที่เมืองไทย คุณพ่อปกติเป็นคนชอบสูบบุหรี่ เจ้าชู้ เล่นการพนัน แต่ก็ชอบพาลูกไปทำบุญกฐิน ผ้าป่า ตามวัดต่างจังหวัดทุกๆปี ประเภทบุญก็ทำกรรมก็สร้าง ท่านเป็นคนเก่ง ฉลาด ทั้งๆที่ไม่มีการศึกษา ด้านภาษาไทยก็อ่านไม่ออกเขียนก็ไม่ได้ แต่สามารถทำงานรับจ้างเดินเอกสารให้กับคนต่างด้าวได้ จนคุณพ่อถูกจับข้อหาทำเอกสารปลอม แต่ก็หลุดมาได้เพราะตำรวจไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะคุณพ่อบอกว่า ท่านไม่ได้ทำ ท่านอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ คุณพ่อเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่โพรงจมูก เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2529 รวมอายุได้ 53ปี 
 ภรรยาคนที่สองของคุณพ่อ ได้แยกทางกับคุณพ่อไปมีสามีใหม่ เนื่องจากติดการพนันและสามีใหม่ก็ติดการพนันด้วยกันทั้งคู่ ในที่สุดภรรยาคนที่สองของคุณพ่อก็ถูกสามีใหม่ ใช้มีดทิ่มลงไปที่ลูกตาทีละข้าง และแทงไปที่อวัยวะเพศและแทงตามตัวจนเสียชีวิต ขณะที่กำลังจะตายได้ร้องโหยหวนขอความช่วยเหลือ เพื่อนบ้านได้ยินแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะถือเป็นเรื่องของครอบครัว เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2518 
 อาม่าของลูก อพยพมาจากเมืองจีนเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง เลี้ยงดูลูกทั้ง 5คนที่มาจากเมืองจีน ปกติอาม่าจะรักลูกและรักหลานมาก แต่เมื่อคุณพ่อของลูกตายไปได้ไม่นาน อาม่าก็ตรอมใจตายตาม เมื่อประมาณปี พ.ศ.2529 เนื่องจากอาม่ารักคุณพ่อของลูกมาก 

คำถาม 
1.ขณะที่ลูกได้ขี่จักรยานอยู่นั้น ได้เห็นลูกนัยน์ตาสีแดงหลายคู่ จ้องมองมาที่ลูกเต็มท้องถนนไปหมดนั้น คือ อะไร รถที่พุ่งชนลูกบนฟุตปาธ จนจักรยานขาดเป็นท่อนๆแต่ตัวลูกไม่เป็นอะไร เป็นเพราะบุญอะไรมาช่วยไว้คะ และคนที่วิ่งข้ามถนนมาดูลูกกลับมาถูกรถชนตายทั้งสองคน เขาทำกรรมอะไรมาคะ 
ตอบ1.ขณะลูกขี่จักรยานแล้วเห็นตาสีแดงหลายคู่กำลังจ้องดูอยู่ ก็เป็นอาการตาลาย ไม่ได้มีผี ยักษ์ เจ้าหน้าที่ยมโลกหรือกายละเอียดใดๆมาจ้องดู

2.คุณแม่ของลูกก่อนสิ้นใจคิดอะไรอยู่ มีความกังวลใจเรื่องทำแท้งและสูบบุหรี่หรือไม่ นึกถึงบุญได้ตลอดหรือไม่ กรรมนิมิตก่อนตายของคุณแม่เป็นอย่างไร ได้มาเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ตามหลักวิชชาหรือไม่ ก่อนตายคุณแม่สั่งไม่ให้ลูกร้องไห้แต่ลูกๆก็ร้องทุกคน คุณแม่ของลูกจะกังวลกับลูกๆหลานหรือไม่คะ ขณะนี้ท่านอยู่ในภพภูมิไหน มีอะไรสั่งถึงลูกๆหลานๆบ้างคะ

ตอบ2 ก่อนแม่ตาย แม่นึกถึงบุญได้ ใจจึงผ่องใส เมื่อตายแล้วก็มีเทวรถทองคันเล็กๆ ไม่ใหญ่มากมารับแม่ แล้วแม่ก็ขึ้นไปบนเทวรถ กายแม่ก็เปลี่ยนเป็นเทพธิดา

3.บุญที่ลูกชายคนเล็กบวชให้ก่อนคุณแม่เสียชีวิต ท่านจะได้รับบุญนี้เต็มที่หรือไม่ เพราะพระลูกชายมาเยี่ยมคุณแม่ที่โรงพยาบาล และให้ท่านถวายภัตตาหารเพลทุกวัน บวชอยู่หนึ่งเดือนก็ลาสิกขาหลังคุณแม่เสียชีวิต และลูกชายของภรรยาคนที่สองของคุณพ่อก็บวชหน้าไฟให้หนึ่งวัน คุณแม่จะได้รับบุญนี้ หรือไม่อย่างไรคะ 
ตอบ3
  • ได้มาทำตามหลักวิชชา เพราะเป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา พันธ์แท้ ได้มาเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ และนึกถึงบุญทุกบุญที่สร้างกับหมู่คณะได้ กายของแม่ก็สว่างขึ้นไปเรื่อยๆ

4.ที่ลูกและน้องชายฝันเป็นความจริงหรือไม่อย่างไรคะ 
ตอบ 4
    • บุญที่สร้างกับหมู่คณะได้ผูกพันกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ จึงฝันเห็นท่าน
    • ส่วนน้องชายนั้น มีเทวดามาบอก ที่เรียกว่า เทพสังหรณ์
    • เพราะแม่หมดอายุขัย และไปอย่างมีสติและสงบดังกล่าว

5.ด้วยเหตุใด คุณแม่จึงไม่สามารถรักษาองค์พระมหาสิริราชธาตุไว้ได้ในช่วงที่ท่านยังไม่ได้สร้างองค์พระด้วยตัวเอง แต่เมื่อท่านสร้างองค์พระด้วยตัวเองแล้ว องค์พระของขวัญไม่เคยหายเลยค่ะ 
ตอบ55.แม่ยังไม่ใช่เจ้าของบุญ เพราะไม่ได้สร้างพระธรรมกายประจำตัว จึงทำให้พระของขวัญมหาสิริราชธาตุไม่อยู่ด้วย แต่เมื่อแม่สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวแล้วด้วยตนเอง พระของขวัญจึงอยู่ด้วย

6.คุณพ่อละโลกแล้วไปอยู่ที่ไหน ก่อนตายมีกรรมนิมิตอย่างไร และได้รับบุญในส่วนที่ลูกๆอุทิศให้หรือไม่คะ 
ตอบ6.ก่อนตายพ่อมีกรรมนิมิตไม่หมองมากไม่ใสมาก ได้ไปเกิดเป็นภุมมเทวาระดับกลางๆ อยู่ที่หมู่บ้านภุมมเทวาแห่งหนึ่ง เพราะบุญที่ทำตามประเพณี
7.ทำไม ภรรยาคนที่สองของคุณพ่อจึงต้องมีเหตุให้ต้องตายด้วยเหตุการณ์ดังกล่าว ตายแล้วไปอยู่ที่ไหน กรรมนิมิตก่อนตายเป็นอย่างไร ได้รับบุญในส่วนที่ลูกอุทิศให้หรือไม่คะ 
ตอบ7.แม่คนที่สอง (ภรรยาคนที่สองของพ่อ) ในอดีตได้เป็นผู้ชาย ได้เป็นนักเลงการพนัน และเคยฆ่าผู้ติดหนี้การพนันของตน อีกทั้งมีกรรมเจ้าชู้ด้วย ดังนั้นชาตินี้จึงต้องมาตายด้วยน้ำมือสามีที่ติดการพนัน และมาเป็นผู้หญิงเพราะกรรมเจ้าชู้

8.อาม่าละจากโลกแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่ลูกๆหลานๆส่งไปให้หรือไม่คะ 
ตอบ 8.อาม่าตายแล้วก็ไปเป็นภุมมเทวาอยู่ใกล้พ่อของลูก เพราะรักและผูกพัน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้

9.พี่ชายคนโตของลูกต้องการที่จะบวชตลอดชีวิต สาเหตุใดจึงไม่ได้บวชแต่ต้องมาดูแลน้องๆและมีครอบครัว จึงทำให้ต้องมีหนี้สิน ทั้งๆที่พี่ชายเป็นคนรักการสร้างบารมีมาก ทุ่มเททำบุญทุกๆบุญอย่างเต็มกำลังไม่เคยขาดเลยแม้แต่บุญเดียว และเมื่อไหร่จึงจะหมดจากหนี้สินคะ จะได้หมดภาระได้มาบวชสร้างบารมีกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อและหมู่คณะ 
ตอบ9.พี่ชายคนโตของลูกเป็นคนใจใหญ่ใจดี แต่กำลังทานในอดีตยังไม่เต็มที่ จึงทำให้มีหนี้มีภาระมากมาย ต้องดูแลครอบครัวและเหนื่อย
  • แต่ให้อดทนสร้างบารมีต่อไป ไม่ช้าทานปัจจุบันก็จะช่วยให้หมดหนี้ได้
10.ตัวลูก พี่ชายคนโต คุณแม่และครอบครัว ได้สร้างบารมีอย่างไรกับหมู่คณะมาคะ กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
ตอบ10.ตัวลูก พี่ชายคนโต แม่และครอบครัว ก็เป็นกองเสบียงของหมู่คณะมา




Create Date : 01 สิงหาคม 2557
Last Update : 1 สิงหาคม 2557 11:00:29 น.
Counter : 1230 Pageviews.

1 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1264954
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



........ ............ ............ ........ ........ ............ ............ ........ ............ ........ ............ .................... ........ ............ .................... ............ .......
สิงหาคม 2557

 
 
 
 
 
3
9
10
11
12
16
17
23
24
25
26
27
30
31
 
 
All Blog