Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2557
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 สิงหาคม 2557
 
All Blogs
 
4 ขาค้ำยันสุขภาพ

ประสบการณ์สุขภาพ

ไม่ได้เขียนบทความสุขภาพเสียนานครับแต่หลังจากได้เผยแพร่บทความ รวมทั้งได้ให้สัมภาษณ์ไปหลายครั้ง ผมได้รับคำถามซึ่งเป็นมุมมองอีกด้านหนึ่ง เลยทำให้มีไอเดียใหม่ๆ มาเขียนเป็นบทความสุขภาพแชร์กับท่านผู้อ่านครับ 

หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านการปรับตัวเพื่อต่อสู้กับภาวะน้ำตาลสูงมาหลายปีจนผมมั่นใจว่าสามารถควบคุมภาวะระดับน้ำตาลในเลือดรวมทั้งการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ในแบบคนที่มีสุขภาพดี เขาทำได้กัน

จากประสบการณ์ตรงที่ตัวเองได้เจอและได้สัมผัสมาผมพอจะสรุปอย่างย่อสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า สุขภาพร่างกายของคนรา ยืนอยู่บนขา 4 ข้างครับ

หรือพูดในอีกแง่มุมหนึ่งสุขภาพเราจะดีหรือไม่ จะยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงแข็งแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับขาทั้ง 4ข้างนี้ ถ้าจะพูดให้เห็นภาพ ก็ต้องบอกว่า เหมือนเรายืนบนขา 4 ข้าง ถ้าเหลือ 3ข้างยังไม่ล้ม ถูกต้องไหมครับ แต่ถ้าเหลือแค่ 2 ข้าง เริ่มเสียวๆ แล้วอาจจะล้มเมื่อไรก็ได้ถ้าโดนชน โดนเฉี่ยว แต่ถ้าเหลือเพียงข้างเดียวไม่ต้องมีอะไรมาโดน เดี๋ยวก็ล้มแล้วครับ เพราะหมดแรง ถูกต้องไหมครับ

แล้วขาสุขภาพทั้ง 4 ข้างประกอบด้วยอะไรบ้างหล่ะ ขาสุขภาพทั้ง 4 ข้าง มีดังต่อไปนี้ครับ

  1. อาหาร
  2. การออกกำลังกาย
  3. การพักผ่อน
  4. อารมณ์

ขอให้ท่านผู้อ่าน ลองสำรวจตัวเองดูง่ายๆเลยครับ ว่าเรามีขาสุขภาพข้างใดที่แข็งแรง ขาข้างใดที่อ่อนแอ ถ้าขาสุขภาพทั้ง 4 ข้างแข็งแรงผมก็ให้กำลังใจและทำนายไว้ก่อนเลยว่า คุณจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากพร้อมที่จะออกไปเผชิญโลกภายนอก ได้อย่างมีประสิทธิภาพคุณจะมีความเสี่ยงจากการเป็นโรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อร้ายแรง เช่นภาวะน้ำตาลสูง โรคหลอดเลือดต่างๆ เส้นเลือดหัวใจ สมองตีบตัน รวมทั้งมีความเสี่ยงจากโรคร้ายแรงพวกมะเร็งค่อนข้างต่ำ

สำหรับปัจจัยชี้วัด หรือ ขาสุขภาพทั้ง 4วิธีการปฏิบัติตัว จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยากเอาการอยู่ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเมือง มนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ที่ต้องทำงานใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่มีชีวิตที่ปกติต้องผจญกับปัญหาสารพัด รวมทั้งความเครียดจากการทำงาน สารพัด

ดังนั้น เราจะได้ยินข่าวอยู่เสมอๆ ว่าแชมป์ผู้สูงอายุระดับ 100 ปี หรือใกล้เคียงมักจะเป็นผู้ที่อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดี มีองค์ประกอบทั้ง 4ด้านที่ค่อนข้างแข็งแรง และมักจะอยู่ในชนบทครับ แต่ถ้าเราเป็นคนเมืองก็ไม่ต้องเสียใจไปนะครับ เพราะถ้าเราสามารถสร้างความแข็งแรงให้กับขาทั้ง 4 ข้างได้ผมว่าเราก็มีโอกาสที่จะมีชีวิตที่มีคุณภาพมีสุขภาพดีและมีอายุขัยยืนยาวได้เหมือนกัน

คราวนี้ ลองมาว่ากันถึงแนวทางคร่าวๆในการปฏิบัติ เอาแบบย่อๆ แล้วกันนะครับ เพราะถ้าละเอียดเกินไปบทความจะไม่น่าอ่านและเป็นทางการเกินไปครับ เริ่มเลยนะครับ

ลดหวาน ลดเค็ม กินจืดๆทำกับข้าวกินเองที่บ้าน พึ่งอาหารนอกบ้านให้น้อยที่สุด ลดปัจจัยเสี่ยงทุกชนิดไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ... ตบท้ายด้วย เคี้ยวอาหารช้าๆ

เทคนิคทั้งหมดนี้ช่วยคุณได้แน่นอนครับ ถ้าทำตามนี้ได้รับรองเลยว่าเบสิคหรือพื้นฐานของสุขภาพ แข็งปึ๊กแน่นอนเพราะถ้าทำตามเทคนิดด้านอาหารเหล่านี้ไม่ได้เรามีแนวโน้มที่จะบริโภคเกินความจำเป็นซึ่งเป็นภาระให้ร่างกายต้องทำงานหนักเกินเหตุ คนนะครับ ไม่ใช่เครื่องจักรเสียแล้วมีอะหลั่ยเปลี่ยนได้ ถ้าเราต้องเร่งเครื่องยนต์ชีวภาพของเราบ่อยๆเพราะกินเยอะเกินไป สักวัน ตับ ไต หัวใจ เครื่องในต่างๆจะพังหมดสภาพเร็วกว่าเวลาอันสมควรครับ

จอดรถ ใช้บริการรถสาธารณะออกกำลังกายด้วยการเดินในชีวิตประจำวัน อย่าให้ขาด

เรื่องนี้ช่วยคุณได้แน่นอนครับ เพราะการไปออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬาต้องพร้อมโดยเฉพาะเรื่องของเวลา คนเมืองจะมีปัญหาเรื่องนี้มากๆ ครับ คือไม่มีเวลา แต่ถ้าท่านปลีกตัวไปตีแบดเตะบอล เข้าฟิตเนสได้ ก็ยิ่งดีนะครับ

การออกกำลังกายด้วยการเดินในชีวิตประจำวัน เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ง่าย ประหยัด และมีประสิทธิภาพที่สุดครับดีกว่าการเล่นกีฬาทุกชนิด ผมกล้าๆ พูดได้เลย เพราะเดินไม่เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ เดินไม่เสียเงิน และที่สำคัญถ้าวางแผนดีๆ เดินไม่เสียเวลาทำงานทำมาหากินครับดีไม่ดีจะทำให้มีเวลาเพิ่มขึ้นเสียอีก เพราะสามารถหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดได้

เข้านอนก่อน 4 ทุ่มตื่นแต่เช้า 

หาเวลาว่างพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด ออกจากงานประจำ ความจำเจเปลี่ยนบรรยากาศ จะได้ไม่เครียดมากเกินไป เล่นกับลูก เฮฮากับครอบครัวลูกเมียเข้าบ้านแล้วลืมเรื่องงาน อย่าเอางานกลับมาทำที่บ้าน

เทคนิคนี้ด้านการพักผ่อนที่จริงแล้วไม่มีอะไรไปมากกว่า เข้านอนเร็วๆ ซัก 4 ทุ่ม แล้วตื่นแต่เช้า ประมาณ ตี5 ที่ให้นอนเร็วๆ เพราะร่างกายคนเราจะหลั่ง Growth Hormone มาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอตามธรรมชาติในช่วง 4 ทุ่ม ไม่เชื่อลองดูสิ ทดลองด้วยตัวเองก็ได้ให้นอนในระยะเวลาเท่ากัน คือ 7-8 ชั่วโมง แต่แบบหลัง ให้เข้านอนเที่ยงคืนเราจะพบว่า ร่างกายมีสภาพความพร้อม ปฏิกิริยา และ ความสดชื่นต่างกันอย่างเห็นได้ชัด... ถ้าเข้านอนแบบเด็กดี ก่อน 4 ทุ่มได้นะอาจได้อานิสงส์ข้อสำคัญแถมด้วยคือ หน้าเด็ก ดูอ่อนกว่าอายุครับ ...อันนี้สังเกตุได้ง่ายๆ เลย คนนอนดึกส่วนมากหน้าตายุ่งเหยิง ไม่เสบยริ้วรอยเหี่ยวย่นมีมากกว่าพวกกลุ่มเด็กดีนอนเร็วจริงๆ

ด้านอารมณ์ 

อันนี้ยากหน่อยเป็นเรื่องยากจริงๆ สำหรับมนุษย์ผู้ที่ไม่เคยพอ อย่างพวกเราแต่มันก็พอจะมีเทคนิควิธีการให้เลือกใช้ในการบริหารอารมณ์ให้ออกมา ดีและราบเรียบ

เอาง่ายๆ ก่อน หลักการคือ พึ่งศาสนาความเชื่อเช่น คนไหนเป็นมุสลิม ก็ทำละหมาดบ่อยๆ เวลานึกถึงพระเจ้า จิตใจจะสงบถูกไหมครับใครเป็นคริสต์ก็เข้าโบสถ์ สวดมนต์บ่อยๆ ได้จิตใจสงบเหมือนกัน ชาวพุทธเหรอง่ายสุดเลย ไหว้พระสวดมนต์ ทำบุญตักบาตร ได้หมด

เพราะเป้าหมายของเรา คือ ทำใจให้สงบทำอารมณ์ให้สงบ โกรธให้มีสติ รู้สึกตัวไวๆ ตื่นเด้นดีใจ ร้องให้เสียใจ ถูกหวยถูกหวยกิน ตกท่อ น้ำท่วม ลูกดื้อ ทะเลาะกับเมีย ถูกเจ้านายดุด่า ฯลฯอะไรก็ได้ที่มันเข้ามาในชีวิตประจำวันของเรา ให้มันมีผลต่ออารมณ์ของเราน้อยที่สุดหาวิธีจัดการกับมันอย่างละมุนละม่อม

อย่างของผม จะใช้วิธีสวดมนต์บทเดียวซ้ำๆกัน มันช่วยให้ผมลืมเรื่องเครียดได้ครับ ถึงแม้จะชั่วขณะหนึ่งก็แถอะแต่มันเหมือนนักมวย มีมุมนั่งพักยก พอให้หายเครียดได้บ้างก่อนที่จะกลับไปสู้กับโลก (อันแสนโหดร้าย) ต่อ

เทคนิคนอกเหนือจากนั้นที่ผมมีประสบการณ์มาแบ่งปันได้ คือ ทำสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเราให้เอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตประจำวันที่ดีขึ้น เรื่องบ้านนี่สำคัญครับสำรวจง่ายๆ เลย หลังคารั่วไหม จัดบ้านเรียบร้อยสวยงามน่าอยู่ไหมฝ้าเพดานเก่าต้องเปลี่ยนหรือเปล่า ห้องนอนสะอาด มีกลิ่นขยะในบ้านกลิ่นท่อน้ำในบ้าน กลิ่นส้วมในบ้านไหม .... เป็นต้น ทำให้มันน่าอยู่แล้วอารมณ์ชิลๆ จะมาเองครับ 


หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ


นรภพ

21 ส.ค. 57




Create Date : 21 สิงหาคม 2557
Last Update : 21 สิงหาคม 2557 16:19:08 น. 1 comments
Counter : 631 Pageviews.

 


โดย: nokyungnakaa วันที่: 21 สิงหาคม 2557 เวลา:17:52:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

norapob
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เกิด กทม.ใช้ชีวิตเสี้ยวหนึ่งในวัยเด็กอยู่กับอาม่าในตลาดหัวรอ จ.อยุธยา เรียนในกทม.ตลอด มีชีวิตที่ค่อนข่างเรียบง่าย ค่อนข้าง progressed conservative ออกกลางๆ แต่มองโลกเป็นสีเทาและไม่นิยมความรุนแรง ชอบเขียนหนังสือ

ตอนนี้รู้แล้วว่าเกิดมาก็เพื่อเรียนรู้กายใจของตัวเองและยอมรับแล้วว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
Friends' blogs
[Add norapob's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.