BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : กาลครั้งหนึ่ง อัมพวา : อุทยาน ร. 2

กาลครั้งหนึ่ง อัมพวา : อุทยาน ร. 2

รถตู้พาข้ามฝั่งมายังถนนพระราม 2 เพื่อไปยังสมุทรสงคราม
สถานที่แรกก็หนีไม่พ้นวัดโบสถ์ปรกโพธิ์หรือวัดบางกุ้งนั่นเอง
เราไปมาหลายรอบมาก เอาของเก่าไปอ่านก่อนแล้วกัน
สมุทรสงคราม : วัดบางกุ้ง

ทุกครั้งที่มาก็จะเห็นความเจริญที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งล่าสุดถึงขั้นมีตำรวจมาเป็นคนคอยรับแลกเงินเลยทีเดียว
เพื่อเผชิญความเสี่ยงของรายได้ที่มากมายมหาศาลในแต่ละวัน
โฆษกก็ประกาศอายุของวัดเก่าแก่มากขึ้นถึงอยุธยาตอนต้นแล้ว

หลายคนไปไหว้สักการะขอพร ผมมาเพื่อการเพียงหนึ่งเดียว
เพื่อดูจิตรกรรมฝาผนังสมัยอยุธยาตอนปลายที่หาชมไม่ง่ายนัก

จากนั้นก็ไปทานอาหารกลางวันที่อุทยาน ร. 2
น้ำพริกปลาทูอร่อยกว่าที่เคยกินที่อื่นเป็นไหนๆ
เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดไทยเพื่อทำกิจกรรมทำขนมเรไร
หากินยากนะเนี่ย ที่เคยได้ยินว่าอร่อยก็ร้านคุณยายที่อ่างศิลา

จากนั้นเป็นการนำชมพิพิธภัณฑ์ในส่วนต่างๆ บนอาคารเรือนไทย
เป็นการย้อนอดีตถึงถิ่นฐานบ้านเมืองแม่กลองในอดีต
มีพิพิธภัณฑ์เรือไทย มีร้านขายของฝากและขนม แต่ที่ประทับใจที่สุดก็คือ
หอกลาง อันประดิษฐ์พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

มีจิตรกรรมที่อยู่ด้านหลังพระบรมรูป เคยเห็นแล้วแต่ไม่มีความรู้อะไร
นึกว่าเป็นภาพการใช้ชีวิตของคนแม่กลองโบราณ หนนี้มีความรู้ติดตัวอยู่บ้าง
เมื่อเพ่งไม่นานก็พบว่า คือภาพสวนขวาที่เคยมีชีวิตชีวาอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 2
เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาเพราะเห็นเรายืนมองภาพอยู่นานจึงได้คุยกันบ้าง

เจ้าหน้าที่เล่าถึงรายละเอียดการเขียนภาพนี้ว่าเป็นอาจารย์ผู้หญิง
น่าเสียดายถ่ายภาพไม่ได้เช่นเดิม และไม่สามารถหารูปจากอินเตอร์เนทได้
ภาพนั้นเขียนขึ้นจากจินตนาการ เพราะเหตุการณ์เกิดก่อนจะมีภาพถ่าย
สวนขวาถูกรื้อไปเมื่อต้นรัชกาลที่ 3

พระราชอุทยานนั้นมีมาแต่สร้างพระบรมมหาราชวัง โดยรัชกาลที่ 1
โดยสร้างสองข้างพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เรียกว่า สวนซ้ายและสวนขวา
ใช้เป็นที่ทรงพระสำราญพักผ่อนพระอิริยาบถหลังจากว่างพระราชภารกิจ
โดยโปรดให้ขุดสระและปลูกตำหนักทองที่ประทับกลางสระหนึ่งหลัง
สร้างพลับพลาที่เสวยริมปากอ่างแก้วหน้าเขาฟองน้ำหนึ่ง และกั้นกำแพงรอบ

สมัยรัชกาลที่ 2 พระองค์ได้ทราบข่าวจากพ่อค้าที่ไปค้าขายที่เมืองกวางตุ้งว่า
พ่อค้าชาวจีนที่ร่ำรวยจะสร้างสวนประกวดประขันแข่งบารมีกัน
จึงมีพระราชดำริว่า จะโปรดให้สร้างสวนที่งดงามไม่ให้น้อยหน้าชาวจีน
โดยมีพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์เป็นแม่กองหลัก

วันศุกร์ที่ 21 ส.ค. พ.ศ. 2361 ขยายสระจนมีความยาว 3 เส้น 4 วา กว้าง 2 เส้น 8 วา
ลงเขื่อนก่ออิฐพื้นสระปูอิฐถือปูนให้ขุดท่อน้ำเป็น 3 สายปิดเปิดถ่ายน้ำได้เพื่อให้น้ำสะอาด

ให้กรมหมื่นศักดิพลเสพเป็นแม่กองก่อเขาและปลูกต้นไม้ที่ริมสระน้ำ
ในสระมีเกาะน้อยใหญ่เรียงรายกันไปหลายเกาะ ชัดสะพานถึงกัน
ให้สร้างเก๋งจีน หอพระ พระที่นั่ง เกาะละ 2 เก๋งบ้าง 3 เก๋งบ้าง
ปลูกต้นไม้ใหญ่มีผลต่างๆ และก่อกำแพงแก้วล้อมรอบพระราชอุทยาน

เก๋งและแพนั้นโปรดเกล้าให้ทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายในเป็นเจ้าของตกแต่งทั้งสิ้น
โดยแพฝ่ายพระราชวงศ์ฝ่ายหน้านั้นมี 5 แพ ได้แก่ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี
เจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์ กรมหมื่นศักดิพลเสพ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์
และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามงกุฎ และแพฝ่ายใน 27 หลัง

ซึ่งทั้งเก๋งทั้งแพเหล่านี้ต่างก็ตกแต่งประกวดประขันกันยิ่งนัก
ตกแต่งด้วยเครื่องแก้ว แขวนโคม ตั้งโต๊ะบูชา ตั้งตุ๊กตาปั้นขนาดเท่าคนจริง
นั่งบ้าง ยืนบ้าง มีชื่อต่างๆ กัน นุ่งห่มด้วยเครื่องทองจริงๆ

นอกจากนั้นยังโปรดให้หาสัตว์จตุบาท ทวิบาทต่างๆ มีทั้งที่ปล่อยและขังกรง
มีนกชนิดต่างๆ เช่น นกแก้ว นกขุนทอง นกโนรี นกสัตวา เป็นต้น
บ้างก็จับคอนห้อยแขวนไว้ ณ ที่ต่างๆ ส่วนในท้องสระให้ปลูกบัวหลวง
บัวเผื่อนและเลี้ยงปลาชนิดต่างๆ ร้องระเบ็งเซ็งแซ่ไปทั่วทั้งพระราชอุทยาน

ส่วนที่ประทับประกอบไปด้วยพระมหามณเฑียร 3 หลังองค์หนึ่ง
พระที่นั่งอย่างฝรั่งพื้น 2 ชั้น หลังหนึ่ง เป็นที่ทรงฟังมโหรี มีป้อมริมน้ำ
เป็นที่จอดเรือพระที่นั่งสำปั้น เก๋งใหญ่มีเรือเท้งเป็นที่ประทับอีกแห่งหนึ่ง
มีป้อมสูงสำหรับทอดพระเนตรการแข่งเรือและทอดพระเนตรไปรอบๆ
พระราชอุทยาน เก๋งใหญ่ที่เสวย ๓ เก๋ง และเก๋งโรงละครอีกหลังหนึ่ง

เมื่อถึงฤดูน้ำหลากก็โปรดให้ไขน้ำเข้ามาเต็มสระ มีการฉลองสมโภชพระที่นั่ง
โดยให้นิมนต์สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระวันรัต
และพระราชาคณะอื่นๆ สวดพระปริตรพุทธมนต์ ณ พระที่นั่งเก๋งใหญ่
รุ่งขึ้นเช้าโปรดให้พระสงฆ์แยกย้ายไปรับพระราชทานเลี้ยงตามเก๋งตามแพทุกแห่ง
เก๋งละ 2 รูปบ้าง แพละ 2 รูปบ้าง มีละครข้างใน 2 โรงเล่นประชันกัน

พระองค์ก็เสด็จลงเรือพระที่นั่งสำปั้นน้อยพร้อมเรือเจ้าจอมมารดาอีกหลายลำ
ติดตามด้วยเรือปี่พาทย์ 2 ลำ เรือดั้ง 4 ลำ เรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่พายตามเสด็จ
เที่ยวทอดพระเนตรเก๋งและแพที่เจ้านายและข้าราชการแต่งไว้ทุกแห่ง
ลดเลี้ยวไปตามเกาะแก่งน้อยใหญ่นั้นๆทรงฟังมโหรีบ้าง สักวาดอกสร้อยบ้าง
เสียงร้องและเสียงขับไพเราะเป็นที่เพลิดเพลินพระราชหฤทัยอยู่เนืองๆ

ครั้นถึงวันลอยกระทง หลังจากเสด็จลอยพระประทีปที่ตำหนักแพแล้ว
มีการแห่ผ้าป่าในสระ เกณฑ์พระองค์เจ้าที่มีแพแต่งเรือผ้าป่าองค์ละลำ
และมีการเล่นจำอวด เล่นสักวา เล่นเรือเพลง
ครั้นเวลาเช้าก็ให้ส่งกระจาดผ้าป่าไปถวายสงฆ์ที่ในสวนขวาแห่งนี้

เราจะเห็นภาพความสนุกสนานในสวนขวาที่เกิดขึ้นสมัยรัชกาลที่ 2
แต่เมื่อกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์เสวยราชย์เป็นรัชกาลที่ 3
พระองค์ทรงโปรดเกล้าให้รื้อสวนขวา ด้วยเหตุผลว่าสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
ให้นำหินไปสร้างเป็นเขามอถวายเป็นพระราชกุศลแก่พระราชบิดาหลายวัด

อันเป็นคำถามที่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรือนไทยว่า
ในเมื่อก่อนหน้าพระองค์ก็เป็นผู้หนึ่งที่เป็นแม่กองในสร้างสวนขวามา
แต่เหตุใดเมื่อทรงขึ้นครองราชย์ ก็โปรดให้รื้อลงเสีย น่าเสียดาย
ผมนั้นมีคำตอบอันแสนเรียบง่ายว่า ก็เพราะไม่ทรงโปรด

ก็เช่นนั้นจริงๆ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่ารัชกาลที่ 3 ทรงโปรดการสร้างวัด
ไม่ทรงโปรดการสนุกสนานร้องรำแต่งโคลงกลอนเช่นเดียวกับพระราชบิดา
แล้วรัชกาลที่ 3 พระองค์ทรงโปรดอะไร คำตอบคือทรงโปรดการเลี้ยงนก
มีการสร้างเก๋งสกุณา ต่อมารื้อลงเสียเช่นกันเมื่อรัชกาลที่ 4 ทรงครองราชย์

มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสวนขวาในบล็อก แปร๋นท่องกรุง

ใต้ถุนเรือนมีตัวหนังใหญ่ที่เคยใช้แสดงหน้าพระที่นั่งในช่วงมีพิธีเปิดใหม่
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เคยเกิดเพลิงไหม้ไปครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. 2535
การแสดงน่าจะเป็นในปี พ.ศ. 2542 หรือ 2546 ผมจำคำตอบมาไม่ชัด
ตัวหนังมีไม่มากน่าจะใช้เล่นตอน เขาวิลิศสมาหลาจนถึงตอนลักนางบุษบา27/6/2559ไปเจอภาพสวนขวามาแล้ว ถ่ายจากรูปมาอีกที

Create Date : 30 พฤษภาคม 2559

Last Update : 27 มิถุนายน 2559 15:59:57 น.

5 comments

Counter : 1482 Pageviews.

เคยไปแต่ไม่ได้ความรู้เท่านี้ ขอบคุณค่ะ
+

ปล.พระเก่าอยู่ใต้กุฏิเจ้าอาวาสวัดพายัพ ทางทิศใต้ของพระอุโบสถใหม่
ท่านได้นำหินสวย ๆ จากสระบุรีมาตกแต่งเป็นถ้ำหินงอกหินย้อย ประกอบจัดวาง พระพุทธรูป
เปิดให้เข้าชมได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 30 พฤษภาคม 2559 เวลา:10:09:22 น.

อีกอย่างค่ะ พิพิธภัณฑ์เมืองไปชมแล้วเราชอบ
มีน้องที่ดูและเป็นไกด์นำชมคุยกันสนุกสนานและได้ความรู้มากค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 30 พฤษภาคม 2559 เวลา:10:18:00 น.

คิดภาพตามคำบรรยาย คงงดงามมากนะคะ

กำลังสงสัยเหมือนกันค่ะ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ท่านเป็นแม่กองหลักเองแท้ ๆ แต่ตามเหตุตามผล ก็พอเข้าใจได้ ... ท่านโปรดการเลี้ยงนก นี่ความรู้ใหม่เลยค่ะ

เคยเห็นเขามอที่วัดประยุรวงศ์ ที่เดียวค่ะ

ขนมเรไร เคยเห็น แต่ไมเ่คยกินค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ข้ามขอบฟ้า Home & Garden Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
เนินน้ำ Home & Garden Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

*** ครัวปูหลน แถวบางขุนเทียน-ชายทะเล ไม่คุ้นเลยค่ะ เลยลองเสิร์ชหาดู อยู่แถวพระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ คนละเส้นกับบางขุนเทียน-ชายทะเล ค่ะ

ได้ใช้ดีลดี ๆ จาก ensogo เยอะเลย หวังว่า เค้าจะอยู่ได้ตลอดรอดฝั่งนะคะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 30 พฤษภาคม 2559 เวลา:16:39:44 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sawkitty Travel Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
Tristy Food Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ภูเพยีย Diarist ดู Blog
เนินน้ำ Home & Garden Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุด
ในแต่ละวันเท่านั้น

คงถมแล้วค่ะพี่
เพราะอุ้มไม่เห็นรอยรถรางเลย
โหวตให้ค่ะ

โดย: อุ้มสี

วันที่: 30 พฤษภาคม 2559 เวลา:19:04:59 น.

ไปมา 2 ครั้งเองค่ะ อาหารไทยๆเยอะมาก
ไปแถวนั้นก็อดที่จะซื้อน้ำตาลแท้ๆกลับมาไม่ได้เลยค่ะ
เห็นแล้วก็เกิดอยากไปอีกแล้วนะคะนี่
ขอบคุณมากสำหรับความรู้ในครั้งนี้นะคะเคยแต่เที่ยว ไม่ค่อยรู้อะไรค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
haiku Fanclub Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
บ้านต้นคูน Food Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Funniest Blog ดู Blog
touch the sky Travel Blog ดู Blog
Mintra-april Travel Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

โดย: ตุ๊กจ้ะ

วันที่: 31 พฤษภาคม 2559 เวลา:23:07:34 น.