|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
28 มกราคม 2551
|
|
|
|
นารายณ์อวตาร : วราหาวตาร,นรสิงหาวตาร
วราหาวตาร หิรัณม้วนแผ่นดิน
หิรัณยากษะ และหิรัณยกศิปุ ยักษ์สองพี่น้อง เป็นคนเฝ้าประตูของพระวิษณุ แต่ครั้งนึงมีฤษีมาขอเข้าเฝ้าพระวิษณุ แต่ยักษ์สองตนนี้ไม่ให้เกียรติฤษีนั้น จึงโดนสาปให้ลงมาอยู่ที่โลกบาดาล หิรัณยากษะได้บำเพ็ญตนจนถึงขั้น พระศิวะจึงประทานพรให้หิรัณยากษะมีอำนาจ เอาชนะเทวดาและผู้คนทั้งปวงได้
เรื่องวุ่นวายของตำนาน มักจะมาจากสองเรื่อง ไม่โดนฤษีสาปก็ได้พรจากพระศิวะเนี่ยล่ะ
เมื่อได้รับพรจากพระศิวะ หิรัณยากษะก็หึกเหิมว่าไม่มีผู้ใดฆ่าให้ตายได้ จึงหอบเอาแผ่นดินหนีบไปไว้ที่ใต้บาดาล มนุษย์จึงได้รับความเดือดร้อนเป็นอันมาก เพราะไม่มีใครสามารถฆ่ายักษ์ตนนี้ได้ พระวิษณุจึงอวตารมาเป็นหมูป่า แล้วลงไปชิงแผ่นดินคืนมาจากหิรัณยากษะ การรบผ่านไปพันปี พระวิษณุจึงเอาชนะยักษ์ตนนี้ได้ มนุษย์จึงได้มีแผ่นดินอยู่อาศัยตามเดิม
นรสิงหาวตาร
ภาพสลักที่ประตูของปราสาทด้านทิศเหนือที่ปราสาทบรรทายศรี ก็คืออวตารปางที่ 4 ของพระวิษณุ นรสิงหาวตารนั่นเอง
หลังจากหิรัณยากษะถูกหมูป่าฆ่าตาย น้องชายคือ หิรัณยกสิปุก็แค้นใจเป็นอันมาก จึงดำเนินรอยตามพี่ชายด้วยการไปบำเพ็ญตบะจนถึงขั้น พระศิวะก็มาประทานพรเหมือนเดิม (ไม่เข็ดหรือไงเนี่ย)
คราวนี้ ด้วยประสบการณ์ที่เห็นพี่ชายตาย หิรัณยกสิปุ จึงขอประทานพรที่หนักไปกว่าเดิม
ไม่ให้ถูกเทวดา มนุษย์ หรือสัตว์ฆ๋าได้ ไม่ให้ถูกอาวุธชนิดใดทำให้ถึงตายได้ ไม่ให้ตายในเรือนและนอกเรือน ไม่ตายทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
เมื่อได้พรแล้วหิรัณยกสิปุก็ลุยแหลกล้างแค้นทันที เดือดร้อนกันไปหมด ไม่เพียงแค่มนุษย์เหมือนคราวพี่ชาย คราวนี้เหล่าเทวดาก็โดนด้วย แต่หิรัญยกสิปุมีลูกชายคนหนึ่ง ชื่อ ประหลาทกุมาร ซึ่งเป็นอสูรที่ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดีมีความจงรักภักดีต่อพระวิษณุยิ่งนัก ทำให้แนวความคิดของหิรัณยกศิปุนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ประหลาทกุมารผู้ตั้งอยู่ในศีลธรรมก็พยายามโน้มน้าวจิดใจของบิดา ให้เลิกประพฤติชั่วหันมาทำความดีมีความจงรักภักดีต่อผู้เป็นเจ้า หิรัณยกศิปุจึงถามโอรสตรง ๆ ว่าพระวิษณุมหาเทพนั้นมีจริงหรือไม่ ถ้ามีจริงให้ปรากฏตัวออกมาเลย
ทันใดในระหว่างนั้นเสาศิลากลางห้องท้องพระโรงก็แตกออกมา มีตัวประหลาดเป็นครึ่งคนครึ่งสิงห์ ปราดเข้ามาจับตัวหิรัณยกศิปุออกไป วางไว้บริเวณธรณีประตู และนรสิงห์ผู้นั้นก็ถามพญาอสูรว่า
ตนเป็นมนุษย์เทวดาหรือสัตว์ พญายักษ์ตอบว่าไม่ใช่ทั้งสามอย่าง นรสิงห์ก็ถามต่อไปว่าเวลานี้ร่างของหิรัณยกศิปุ อยู่นอกเรือนหรือในเรือน พญายักษ์ตอบว่าไม่ใช่ทั้งในเรือนและนอกเรือน นรสิงห์ถามต่อไปอีกว่าเวลานี้เป็นกลางวันหรือกลางคืน หิรัณยกศิปุตอบว่า มิใช่ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่เป็นเวลาโพล้เพล้ นรสิงห์จึงชูมือกางกรงเล็บออกมาถามพญายักษ์ว่าอันนี้คืออาวุธหรือไม่ พญายักษ์ก็ตอบว่าไม่
นรสิงห์จึงประกาศว่าพรทั้งหลายเป็นอันเสื่อมแล้ว กล่าวจบนรสิงห์ก็จัดการ สังหารพญาอสูรด้วยการใช้กรงเล็บ ฉีกกระชากท้องของพญาอสูรจนถึงทรวงอกจนขาดใจตาย พระวิษณุมหาเทพจึงประทานแต่งตั้งให้ประหลาทกุมารเป็นใหญ่แทนบิดา
Create Date : 28 มกราคม 2551 |
Last Update : 16 เมษายน 2553 10:09:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1575 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
ผู้ชายในสายลมหนาว |
|
|
|
|