Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
24 มีนาคม 2551

ใครๆ ก็ไปเวียดนาม : Hanoi

9. 00 น. เที่ยวบิน FD 3700 แตะพื้นที่สนามนานาชาตินอยไบ
เราก็ขึ้นรถทัวร์ กรุ๊ปนี้มีแค่ 16 คนก็เลยเลือกที่นั่ง ที่นอนกันตามสบาย
จากสนามบินถึงฮานอยประมาณ 30 km. ผ่านแม่น้ำแดงที่ไม่เป็นสีแดงแล้ว
นำก็ไม่ท่วมอีกตะหาก เพราะประเทศต้นน้ำเค้าสร้างเขื่อนกั้นไปแล้ว
ผ่านบ้านเรือนที่มีลักษณะเป็นตึกแถว หน้าแคบ
ใครที่พูดว่าเวียดนามจะแซงเรา แต่เค้าเพิ่งเปิดประเทศ
โรงงานอุตสาหกรรมยังมีน้อย เหมือนบ้านเราเมื่อ 30 ปีก่อน
ต้องรออีกซักสิบปีล่ะ กว่าเค้าจะได้เท่าเราในวันนี้

จุดแรกที่ปล่อยลงคือ สุสานโฮจิมินห์
ที่คนเวียดนามให้ความเคารพอย่างมาก
เพราะเป็นคนที่ปลดแอกจากประเทศอาณานิคมมาเป็นเอกราช
จากชัยชนะที่ฝรั่งเศสไม่คิดว่าคนเวียดนามจะทำได้
ในสมรภูมิที่ เดียน เบียน ฟู แต่ประเทศก็แตกเป็นสอง เหนือและใต้เส้น 17

โฮจิมินห์ ต้องรบกับอเมริกาเพื่อรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียว
คงไม่แปลกที่คนเวียดนามจะเคารพรัก ปธ.โฮจิมินห์ มากขนาดนี้
ประเทศไทยนี่โชคดีเนอะ ไม่เคยลำบากอย่างเค้า แค่สงครามโลกครั้งที่สอง
เจออเมริกาทิ้งระเบิด แค่จุดยุทธศาสตร์ไม่กี่จุด ยังน่ากลัวขนาดนั้น
แล้วถ้ารบกันเต็มรูปแบบเหมือนที่เวียดนามเผชิญ
เรานึกภาพการใช้ชีวิตท่ามกลางสงครามไม่ออกเลย ว่าจะลำบากแค่ไหน




ออกมาจากสุสานโฮจิมินห์ก็ต้องมาเสียเงินที่แรกกับ
การถ่ายรูปหมู่ที่จตุรัส บาดิ่ง โดยคนท้องถิ่นรูปละ 80 บาท
เหมือนที่นครวัดเลย ใครใคร่ซื้อก็ซื้อ
หากขายไม่ได้ เดี๋ยวหัวหน้าทัวร์ก็ต้อซื้อมาแจกเองล่ะ





หลังจากนั้นเดินไปนิดเดียวก็เป็นที่ทำงาน สมัยที่ ปธ. โฮจิมินห์ ทำงาน
จนกระทั่งเสียชีวิต ในปี 1969 เค้าก็ยังอนุรักษ์สิ่งของไว้เหมือนสมัยนั้น





หลังจากดูบ้านพักของ ปธ. โฮจิมินห์ ก็เป็นทางเดินไปวัดเสาเดียว
แน่นอนของเดิม โดนทิ้งระเบิดไปหมดแล้ว นี่เป็นของที่สร้างใหม่
ระหว่างทางคนไทยเริ่มแยกกันเดินชอปปิ้งแล้ว มีร้านขายของทั้งสองข้างทาง
คนที่ยังไม่ได้ไป ฟังชือแล้วก็ไม่ควรจินตนาการมาก เพราะมันสูงแค่นิดเดียวเอง
จะเห็นได้ว่าที่เที่ยวทั้งหมดสี่แห่งนั้นอยู่รวมกันอยู่เดินถึงกันได้





เที่ยงแล้ว คนเริ่มกลับมารวมตัว เพราะหิวข้าว ไกด็ก็ต้อนไปขึ้นรถกินข้าวมื้อแรก
ที่เวียดนาม อาหารก็จืดๆ แต่ลำบากในการกิน เพราะต้องใช้ตะเกียบกินข้าว
ข้าวมันไม่ได้เป็นข้าวเหนียวแบบของญี่ปุ่นนี่นา ต้องประคับประคองสุดฤทธิ์
หลังจากนั้น ก็ไปต่อที่วิหารวรรณกรรม มหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม
แบบว่า ที่เค้าใช้เป็นที่สอบจอหงวน ในสมัยก่อน แบบในหนังจีนไง






ผู้ที่สอบจอหงวนได้ก็จอได้รับการจารึกชื่อไว้บนป้าย





แล้วก็จะได้รับการแห่แหน กลับบ้านเกิด เป็นเกี่รติแก่วงศ์ตระกูล







ก็นั่งรถไปรอดูห่นกระบอกน้ำรอบแรก บ่ายสองโมงครึ่ง





หุ่นกระบอกที่ใช้ในการแสดง เมื่อเก่าก็เอามาขาย
ตัวละประมาณ 20-30 เหรียญ น่ากลัวออก ไม่เห็นน่าซื้อเลย
การแสดงก็งั้นๆอ่ะ ส่วนมากจะคนไทยจะหลับ เพราะต้องตื่นแต่เช้า
พอกินข้าวอิ่ม ก็ง่วง ในโรงก็มืด ความรู้สึกผมก็คือ หุ่นละคอนเล็กบ้านเรา
สุดยอดกว่าตั้งเยอะ ทำไมรัฐไม่บังคับขายไปกับทัวร์แบบนี้บ้างนะ






จบก็บ่ายสามครึ่ง เป็นไง Quick tour จริงๆ ที่ละนิด ที่ละหน่อย
แล้วก็ออกเดินทาง เพราะคืนนี้จะไปนอนที่ ฮาลองบก
ห่างจากฮานอย 170 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง ถนนสองเลนสวนกัน
พอไปถึงที่โรงแรม ฝนตก ไฟดับ ต้องนั่งรอกินข้าว ใต้แสงเทียน
โรแมนติกซะ ไม่มี กับคืนแรกในเวียดนาม
<



Create Date : 24 มีนาคม 2551
Last Update : 4 มีนาคม 2553 14:37:56 น. 1 comments
Counter : 1224 Pageviews.  

 


โดย: นายแจม วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:15:22:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]