BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : นนทบุรี : วัดชมพูเวก (1)

นนทบุรี : วัดชมพูเวก (1)

ได้ข่าวน้ำท่วมวัดปราสาทแล้วใจหาย เพราะผมเคยไปที่นั่น
ตั้งแต่ครั้งยังไม่มีความรู้ด้านจิตรกรรมฝาผนังอะไรเลย
แม้พื้นโบสถ์นั้นน่าจะอยู่สูง แต่ศัตรูที่น่ากลัวคือความชื้น
มันสามารถจะทำให้สีโบราณนั้นบวมและหลุดลอกจากผนัง

เมื่อกรุงศรีอยุธยาถูกทำลายด้วยภัยสงคราม โบสถ์และวิหารของวัด
ถูกทิ้งร้างไปกว่า 100 ปี หากจะถามว่าจิตรกรรมฝาผนังสมัยอยุธยา
มีหน้าตาและแบบแผนแบบใด คงจะอาศัยหลักฐานจากเกาะอยุธยาไม่ได้
เราจึงต้องอาศัยวัดในต่างจังหวัด ที่อาจจะได้รับอิทธิพลจากช่างอยุธยา

หากจะหาวัดแบบนั้นในแถบภาคกลาง ก็คงต้องเป็นเมืองใหญ่ในสมัยนั้น
นนทบุรีและเพชรบุรี คือจังหวัดที่เราพบวัดที่มีฝีมือช่างสมัยอยุธยาอยู่
แต่ทั้งสองจังหวัดนี้ก็เหลือเพียงแห่งละ 2 วัดเท่านั้นเอง สำหรับนนทบุรี
หนึ่งนั้นคือวัดปราสาทที่ผมพูดถึงในตอนต้น อีกหนึ่งนั้นคือวัดชมพูเวก

สันนิษฐานว่าวัดนี้น่าจะสร้างขึ้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2300 ในช่วงเวลาที่
ชาวมอญถูกพม่ารุกรานครั้งใหญ่ จนต้องอพยพเข้ามาในจังหวัดนนทบุรี
หัวหน้าชาวมอญได้ร่วมกันสร้างเจดีย์ทรงมอญหรือที่เรียกกันว่าพระมุเตา
ทับบนซากอิฐที่น่าจะเป็นวัดเก่า บนเนินอันเป็นที่ตั้งวัดในในปัจจุบัน

ต่อมาในปีพ.ศ. 2460 มีพระสงฆ์จากมอญเดินทางมาบูรณะเพิ่มความสูงขึ้น
และทำมงกุฎสวมที่ยอดพระมุเตา พร้อมกับสร้างเจดีย์ขึ้นที่มุมฐานทั้ง 4 ทิศ
รวมทั้งสร้างอาคารเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปที่นำมาจากเมืองมอญ
เพื่อเป็นสถานที่สักการะบูชาในวัดนี้ จนกลายเป็นวัดชมพูเวก

เมื่อผ่านประตูวัดเข้าไป เราจะพบสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบและร่มรื่น
แม้ว่าจะมีการรับบริจาคอยู่บ้างก็เป็นสัดส่วน ไม่เกี่ยวข้องกับที่ที่เราจะไป
มองเข้าไปจากทิศตะวันตก จะเห็นกำแพงแก้วที่เหลือเพียงฐานอิฐ

ด้านหน้าสุดเจดีย์แบบมอญตั้งอยู่ ภายในอาจมีพระบรมสารีริกธาตุ
หลังเจดีย์คือพระอุโบสถหลังเก่าและวิหารที่เรียงต่อกันแบบอยุธยา
มีทางเข้าออกที่ด้านหน้าด้านเดียวตามคติมอญ เรียกว่าโบสถ์มหาอุตม์
ทรงวิลันดาที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาคารคลังสินค้าของฝรั่งฮอลันดา

ลักษณะพิเศษคือมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ไม่มีเสาร่วมใน ใช้ผนังรับน้ำหนัก
ก่ออิฐหน้าบันขึ้นไปยันอกไก่ แทนมุขด้านหน้าด้วยกันสาดหน้ากันฝน
หน้าบันเป็นลายปูนปั้นลายพันธุ์พฤกษาดอกพุดตาน ประดับกลางดอก
ด้วยถ้วยลายครามและถ้วยเบญจรงค์ มีก้านใบเป็นส่วนประกอบ

กรอบหน้าบันปั้นรูปลายบัวกลีบขนุนแทนใบระกา ปั้นรูปเทพพนมอยู่ใน
ตำแหน่งช่อฟ้าและหางหงส์ รอบอุโบสถมีใบเสมาขนาดเล็กวาง
อยู่บนกลีบบัวเรียกว่าเสมานั่งแท่นที่มุมทั้งสี่ของพระอุโบสถมีเจดีย์ล้อมรอบ
เจดีย์องค์หน้าด้านขวามือ ยังเห็นหน้าพระพรหมที่มีใบหน้าอิ่มเอิบบนยอดของเจดีย์

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2554

Last Update : 6 ธันวาคม 2554 14:43:27 น.

2 comments

Counter : 2329 Pageviews.

โดย: Kavanich96

วันที่: 24 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:30:02 น.

ไปวัดอยากให้มีคนมาเล่าแบบนี้ให้ฟังจังเลย
มันจะจำแม่นเลยเนาะ

ขอบคุณค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:13:27 น.