BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : เที่ยวเมืองเชียงใหม่ 2558 : วัดเจดีย์หลวง (1)

เที่ยวเมืองเชียงใหม่ 2558 : วัดเจดีย์หลวง (1)

ลำดับนั้นยังมีพ่อค้าชาวเชียงใหม่หมู่หนึ่ง ไปค้าเมืองภุกาม
กลับมาสำนักแรมทางอยู่ในร่มไม้นิโครธต้นหนึ่ง ครั้นเวลาเที่ยงคืน
รุกขเทวดามาสำแดงตนให้ปรากฏแก่พ่อค้าหมู่นั้นแล้วกล่าวว่า
ตูนี้คือพระยากือนาเมื่อตูยังเปนพระยาในเมืองเชียงใหม่

ด้วยคชศาสตรคือเปนหมอช้างจับช้างมากนัก จุติแล้วจะไปสู่เทวโลกย์มิได้
ต้องมาเปนรุกขเทวดาอยู่ในไม้นิโครธต้นนี้ สูจงบอกแก่ลูกกูเจ้าแสนเมืองมา
ให้สร้างเจดีย์ยังท่ามกลางเวียงให้สูงพอคนอยู่ไกล ๒๐๐๐ วาแลเห็นได้
แล้วจงหยาดน้ำอุทิศส่วนบุญให้แก่กู ๆ จึงจะไปยังเกิดในเทวโลกย์ได้

พ่อค้าหมู่นั้นจึงมาแจ้งเหตุการณ์นั้นต่อท้าวขุน นำความกราบทูล
พระเจ้าแสนเมืองมาทรงทราบ จึงให้หล่อพระพุทธรูปทองคำองค์หนึ่ง
พระพุทธรูปเงินองค์หนึ่ง บันจุรากพระเจดีย์แล้วให้ก่อพระเจดีย์
ท่ามกลางเวียงยังมิทันสำเร็จ พอเจ้าแสนเมืองมาทรงพระประชวรทิวงคต

ราชบุตรองค์พี่คือเจ้าพ่อท้าวยี่กุมกามนั้น ครั้นเจริญไวยพระชนมายุได้ ๑๕ พรรษา
พระราชบิดาให้ไปครองเมืองเชียงราย แต่เจ้าสามฝั่งแกนพระชนมายุได้ ๑๓ พรรษา
ได้รับราชสมบัติราชาภิเศกเปนพระมหาราชเจ้านครพิงค์เชียงใหม่สืบสนองพระบิดา

ในปีมะเสงตรีศกจุลศักราช ๗๓๖ เดือนแปด (คือเดือนหก) เพ็ญวันพุฒ
เจ้าสามฝั่งแกนจึงฐาปนาพระราชมารดาไว้ในที่พระมหาเทวีมีนามกรวาติโลกจุกราชเทวี
พระนางเสด็จไปดูการก่อพระเจดีย์ซึ่งเจ้าแสนเมืองมาสร้างค้างไว้นั้นทุกวัน
ครั้นเจดีย์นั้นสำเร็จแล้วได้ชื่อเจดีย์กู่หลวง

พระเจดีย์องค์นี้เมื่อสืบมาถึงแผ่นดินพระเจ้าดิลกราช
ให้หมื่นด้ำพร้าคดปฏิสังขรณ์ เอาศิลาแลงมาก่อเสิม ฐานกว้าง ๒๗ วา สูง ๔๑ วา
สำเร็จบริบูรณ์ในวัน ๕ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๑ ปีกุญสัมฤทธิศกจุลศักราช ๘๐๐
จึงได้ชื่อว่าเจดีย์หลวงสืบต่อมาจนทุกวันนี้

นั่นคือประวัติวัดเจดีย์หลวงที่กล่าวไว้ในพงศาวดารโยนก
แต่ในทางคติความเชื่อเรื่องจักรวาลวิทยาของล้านนายุคแรก
ใช้เสาอินทขีลเป็นหลักเมืองตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวลัวะ

เมื่อรับความคิดพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาจึงได้สร้างเจดีย์หลวงให้สูงใหญ่
ตั้งอยู่กลางใจกลางเมืองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลเช่นเดียวกับเขาพระสุเมรุ
มีรูปปั้นช้างล้อม 28 เชือกรอบองค์เจดีย์ เป็นสัญลักษณ์การค้ำชูพระพุทธศาสนา
ตำนานเมืองเชียงใหม่ว่า ในรัชกาลพระนางจิรประภาเกิดแผ่นดินไหวเจดีย์ทลายลง

เดือน 11 แรม 3 ค่ำ เงี้ยวมาปล้นเอาค่ายเมืองเชียงใหม่
แรม 4 ค่ำยามแถลค่ำ แผ่นดินไหวหวั่นร้อยคั่งค้างมากนัก
ยอดมหาเจดีย์หลวงและเจดีย์วัดพระสิงห์หักพังตก
เจดีย์หลังอื่นหักพังตกลงมามากนัก

เจดีย์หลวงถูกทิ้งร้างมานาน จนกระทั่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยกรมศิลปากร
แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2535 ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 60 เมตร
สูงประมาณ 80 เมตร โดยมีความเชื่อว่า
ซุ้มคูหาทางทิศตะวันออกเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต

ในตำนานเรื่องพระแก้วมรกตกล่าวว่า เมื่อพระเจ้าแสนเมืองมา
ครองเมืองเชียงใหม่ ได้ยกกองทัพไปรบกับเจ้ามหาพรหมผู้เป็นพระเจ้าอา
พระเจ้าแสนเมืองรบชนะเข้าเมืองเชียงรายได้ พบแต่พระสีหลปฏิมาองค์เดียว
ก็นำกลับมาเมืองเชียงใหม่ ส่วนพระแก้วมรกตมีผู้นำไปซ่อนหายสาบสูญไป

ในสมัยพระเจ้าพิลกครองเมืองเชียงใหม่ ที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองเชียงราย
มีผู้พบพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ขณะทำความสะอาดพระพุทธรูปกะเทาะออกมา
เห็นข้างในเป็นแก้วสีเขียวสุกใส จึงแจ้งไปยังพระภิกษุเจ้าอาวาส
ภายหลังกะเทาะออกหมด ปรากฏว่าเป็นองค์พระแก้วมรกตที่หายสาบสูญไป

พระเจ้าพิลกทราบข่าวก็ให้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาสู่เมืองเชียงใหม่
ให้จัดขบวนช้างและภิกษุสงฆ์ อัญเชิญพระแก้วมรกตจากเมืองเชียงรายถึงเมืองไชยสัก
ปรากฏว่าพระแก้วมรกตมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นในทันที จนช้างที่อัญเชิญไม่อาจทานได้
ต้องอัญเชิญพระแก้วมรกตลงพักไว้ แล้วส่งคนไปกราบทูลพระเจ้าพิลกให้ทรงทราบ

พระองค์จึงตรึกตรองว่า ชะรอยพระแก้วมรกตยังไม่มาโปรดเมืองเชียงใหม่ก่อน
จึงให้เขียนชื่อเมืองต่างๆ แล้วให้เสี่ยงทายจับฉลาก ปรากฏว่าจับได้เมืองเขลางค์
ก็อนุญาตให้อัญเชิญไปได้ พระแก้วมรกตก็ลดน้ำหนักลง อัญเชิญขึ้นช้างได้โดยสะดวก
ชาวเมืองก็ปิติยินดีปรีดายิ่งนักที่จะได้พระแก้วมรกตไว้นมัสการ

พระเจ้าพิลกราชาธิราช ครองราชย์มาถึงปีจอ จุลศักราช 838 ได้โปรดให้หมื่นด้ามหร้าคต
ก่อสร้างเจดีย์หลวงองค์เก่าที่สร้างในสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา เป็นรูปทรงเป็นกระพุ่มยอด
งามดังพระธาตุจุฬามณีเจดีย์ในสวรรค์ เมื่อสร้างเสร็จแล้วให้อัญเชิญพระแก้วมรกต
มาแต่เขลางค์นครประดิษฐานไว้ในราชกุฏที่เมืองเชียงใหม่ เมื่อปีฉลู จุลศักราช 841

พงศาวดารโยนกไม่ได้กล่าวถึงการได้มาของพระแก้วมรกต แต่กล่าวถึงการนำไป

เจ้าเชษฐวงษ์ผู้เปนพระมหาอุปโยราช ล้านช้างได้มาครองเมืองเชียงใหม่อยู่ได้ ๒ ปี
พอพระเจ้าโพธิสาราชพระเจ้าล้านช้างผู้เปนพระราชบิดาทรงพระประชวร
เสด็จสวรรคตพระอุปโยราชเจ้าเชียงใหม่ก็เสด็จกลับคืนไปเมืองล้านช้าง
ครั้งนั้นได้เชิญเอาพระพุทธปฏิมากรแก้วมรกฎ ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ วัดบุบผาราม
วิหารเมืองเชียงใหม่เอาไปไว้ ณ เมืองเวียงจันท์ด้วยแต่ครั้งนั้นมา

วัดบุบผารามคือวัดสวนดอกในปัจจุบัน ดังนั้นจึงเป็นไปได้ไหมว่า
ในรัชกาลพระนางจิรประภาเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวทำลายเจดีย์
ชาวเมืองจึงอัญเชิญพระแก้วมรกตจากวัดเจดีย์หลวงไปไว้ที่สวนดอก
ก่อนที่พระไชยเชษฐาจะถือสิทธิ์เจ้านครเชียงใหม่อัญเชิญไปหลวงพระบาง

แล้วทำไมจึงเชื่อว่าประดิษฐานอยู่บนซุ้มจรนำบนเจดีย์ไม่ใช่อาคารอื่น
เพราะในตำนานเมืองเชียงใหม่เขียนว่า ประดิษฐานไว้ในราชกูฏ
ราช แปลว่าใหญ่ กูฏ แปลว่ายอด นั่นจึงหมายถึงเจดีย์หลวงนั่นเอง
แต่ก็ดูแปลกๆ เล็กน้อยที่ว่าชาวเชียงใหม่ ไม่กลัวโจรมาขโมยพระหรือไร

Create Date : 22 เมษายน 2559

Last Update : 25 เมษายน 2559 15:07:26 น.

7 comments

Counter : 2031 Pageviews.

สวัสดีค่ะ...

ขอบคุณสำหรับประวัติของวัดเจดีย์หลวง..

เคยไปร่วมทำบุญที่วัดนี้หลายครั้งแล้วล่ะค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

โดย: คนผ่านทางมาเจอ

วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:15:04:27 น.

เป็นไปได้ค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:16:33:12 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

เวลาเราไปบุฟเฟท์ก็จะเป็นงี้เหมือนกันค่ะ เลือกกินไม่ถูก เยอะเกิ๊น

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 23 เมษายน 2559 เวลา:20:38:00 น.

ไปเชียงใหม่ทีไร ไม่เคยได้เดินเที่ยวในเมืองเลยค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tui Laksi Sports Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
ณ ปลายฉัตร Photo Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

*** ลองเสิร์ชหาดูแล้วค่ะ ประปาแม้นศรี จะหาโอกาสไปดูสถานที่จริงให้ได้ค่ะ

ภูเก็ต อะไรก็อร่อย สมบูรณ์พูนสุขมากเลยค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 23 เมษายน 2559 เวลา:20:41:07 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Diarist ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ได้ความรู้ค่ะ แวะมาโหวตให้ค่ะ

โดย: อุ้มสี

วันที่: 24 เมษายน 2559 เวลา:12:47:05 น.

สาระแน่นจริงๆ ขอบคุณสำหรับประวัติพระเจดีย์หลวงครับ

โดย: ไอฟายน้อย (Ces

) วันที่: 25 เมษายน 2559 เวลา:5:56:31 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

โดย: newyorknurse

วันที่: 27 เมษายน 2559 เวลา:0:51:18 น.