BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : มนตราแห่งศิลาทราย : ปราสาทตาพรม

มนตราแห่งศิลาทราย : ปราสาทตาพรม

ปราสาทตาพรหม

บิดาของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 คือ ธรนินทรวรมัน เชื่อว่าเป็นเชื้อพระวงศ์
มารดาคือพระนางชัยราชจุฑามณี ธิดาของพระมหากษัตริย์ในรัชกาลก่อน
พระองค์จึงเลือกที่จะสร้างศาสนสถานขนาดใหญ่แห่งแรกในรัชกาล
คือปราสาทตาพรหม ในปี 1186 เพื่ออุทิศให้กับมารดา
และสร้างปราสาทพระขรรค์อุทิศให้บิดาในอีก 5 ปีต่อมา

ปราสาทตาพรหม จึงแทนของพระนางปรัชญาปรมิตรา ผู้อุปถัมถ์พระพุทธเจ้า
ตัวปราสาทมีกำแพงล้อมรอบ กว้างกว่า 600 เมตร ยาวกว่า 1 กิโลเมตร
ในอดีตปราสาทตาพรม เป็นเหมือนกับเมืองขนาดใหญ่
มีพระผู้ใหญ่ 18 รูป พระภิกษุ กว่า 2000 รูป และผู้ที่ทำหน้าที่รับใช้กว่า 2000 คน
เฉพาะพื้นที่ระหว่างกำแพงภายนอก และกำแพงด้านใน
ที่เราต้องเดินผ่านนั้น ในอดีตมีคนอยู่อาศัยราวหนึ่งหมื่นคน

เมื่อเดินเข้าถึงตัวปราสาทชั้นใน ก็จะพบประตูสามประตู แต่เหมือนนครวัด
ที่ประตูกลางนั้นพังทลาย จึงจำเป็นต้องใช้ประตูด้านขวา
บริเวณกรอบประตูพบภาพสลักเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า
แต่บางรูปอาจถูกแกะสลักไขเป็นรูปฤษี เพราะความเชื่อที่เปลี่ยนไป
ในการกลับมานับถือฮินดูของกษัตริย์ในอีก 2 รัชกาลถัดมา

ที่ติดกับกำแพงด้านหน้าคือ หอนางรำ ซึ่งได้ชื่อมาจากลายจำรัก
แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงนั้นก็คือส่วนที่ทำพิธีกรรมระหว่างสงฆ์กับฆาราวาส
หรือวิหารนั่นเอง ซึ่งโครงสร้างนี้ได้ถ่ายทอดต่อเป็นรูปแบบวัดในสมัยสุโขทัย
และอยุธยาตอนต้นนั่นเอง ลองสังเกตเวลาไปเที่ยวอยุธยานะ

อีกเรื่องที่เราได้อิทธิพลมาจากเขมรก็คือการที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7
ปรับปรุงปราสาทบาปวนให้เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง ต่อกับที่ประทับ
ซึ่งก็สืบทอดมายังอยุธยาที่มีเจดีย์พระศรีสรรญเพชรเป็นเช่นปราสาทบาปวน
ล่วงเลยจนมาเป็นวัดพระแก้วในสมัยรัตนโกสินทร์ นั่นเอง

เมื่อเข้าสู่ปราสาทชั้นใน จะพบกองหินมากมายที่พังทลายลง
เนื่องจากการทิ้งร้างเป็นเวลา บวกกับคุณภาพการก่อสร้างในสมัยของพระองค์
ที่เน้นการสร้างศาสนสถานขนาดใหญ่มากมาย จนขาดคุณภาพในการก่อสร้าง
เมื่อฝรั่งเศสเข้ามาพบปราสาทตาพรม จึงไม่สามารถบูรณะได้ทั้งหมด

ประเทศฝรั่งเศสจึงเพียงทำความสะอาด และเปิดช่องทางเดินด้านข้าง
เพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือน สามารถซึมซับกลิ่นอายในช่วงเวลา
ที่ปราสาทนี้ได้ถูกค้นพบขึ้นเป็นครั้งแรกอย่างเต็มที่

จุดเด่นของปราสาทนี้ก็คือต้นสมพง ที่เติบโตบนบนกำแพงและตัวปราสาท
เป็นสัญลักษณ์แห่งปราสาทหลังนี้ และเพิ่มมนต์สเน่ห์ให้กับโบราณสถาน
และฮอลลีวูดใช้เป็นฉากหลังของภาพยนต์เรื่อง Tomb Raider นั่นเอง

เป็นธรรมเนียมของการสร้างปราสาท ที่พระมหากษัติรย์ต้องอุทิศหมู่บ้านให้ด้วย
เพื่อให้เลี้ยงดู บำรุงรักษาปราสาทนั้นต่อไป ในสมัยก่อนปราสาทประจำรัชกาล
มีเพียงหนึ่งเดียวและมีขนาดไม่ใหญ่นัก คนจำนวนไม่กี่หมู่บ้านก็คงรองรับได้
แต่ในรัชกาลของพระองค์ เพียงปราสาทตาพรมเพียงแห่งเดียว
ต้องมีการอุทิศถึง 3000 หมู่บ้าน และประชาชนกว่า 80000 คน

ลองหลับตา นึกถึงปราสาทจำนวนมากที่พระองค์สร้าง
และจำนวนประชากรที่ต้องอุทิศเพื่อหล่อเลี้ยงศาสนสถานเหล่านี้แล้ว
หากจะเชื่อว่ามันคือสาเหตุหนึ่งของการล่มสลายของอาณาจักร
เพราะการใช้แรงงานเกินกำลังแล้วก็ คงจะไม่แปลกแต่อย่างไร

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2553

Last Update : 16 เมษายน 2553 9:47:27 น.

4 comments

Counter : 2027 Pageviews.

ดีจังได้ไปเที่ยวววววววววววว

โดย: ใสซื่อดื้อตาใส

วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:27:22 น.

เที่ยงแล้วๆๆ หม่ำๆๆ ให้อร่อยน้า^^

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว

วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:36:50 น.

ขอบคุณครับ ที่เอามาให้อ่าน

โดย: bigjinbook

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:22:59 น.

สาเหตุหนึ่งของการล่มสลาย...เพราะใช้แรงงานเกินกำลัง

กำแพงล้อมรอบตัวปราสาท กว้างกว่า 600 เมตร ยาวกว่า 1 กิโลเมตร

สุดยอดเลยค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 21 ธันวาคม 2555 เวลา:18:43:59 น.