Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
กุมภาพันธ์ 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
4 กุมภาพันธ์ 2553

Snowy Hokkaido : Snow Festival @ Garuda and Naga



ภาพจาก //www.wikimedia.org


บลอคเก็บตกจากเรื่องราวของฮอกไกโด ที่ยังขาดหาย Odori park
เพราะในยามปกติสวนแห่งนี้ เป็นเพียงที่ว่างๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
มีตึกขนาบอยู่สองข้าง เป้นระยะทางยาวกกว่า 1 กิโลเมตร

เมื่อหกสิบกว่าปีก่อน ระหว่างที่หิมะตก ในบรรยากาศที่น่าเบื่อหน่าย
มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง เดินผ่านไปผ่านมาที่สวนแห่งนี้
และเห็นว่ามีกองหิมะที่คนไม่สนใจ กองอยู่เป็นหย่อมๆ
จึงเกิดความคิดว่า น่าจะทำอะไรที่เล่นสนุกๆ กัน

พวกเค้าช่วยกันปั้นหิมะเป็นรูปต่างๆ ตามจินตนาการ
จากฤดูหนาวในปีนั้น จนถึงปีต่อๆ ไป เริ่มมีคนกลุ่มใหม่
ที่มีอุดมการณ์การเดียวกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
หลายปีผ่านไป ทางการเมืองซับโปโร จึงเห็นว่า
ทำไมเราไม่จัดเป็นเทศกาลหิมะประจำปีไปเลยล่ะ

ปี 2009 ที่ผ่านมานับเป็นครั้งที่ 60 ของเทศกาลหิมะ
ที่เมืองซับโปโรจะจัดสรรค์พื้นที่ ให้หน่วยงานและบริษัทต่างๆ
ได้เข้ามาแกะสลักน้ำแข็ง เพื่อเป็นการโปรโมตการท่องเที่ยว
และมีการเชิญต่างประเทศให้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย

ปีที่แล้วนั้นประเทศไทยได้ส่งตัวแทนเพื่อเข้าแข่งขัน
และแน่นนอนว่า ด้วยศิลปะที่ผมคิดเสมอว่าไม่เป็นสองรองใคร
บวกกับฝีมือที่ละเอียดอ่อนและปราณีต ทำให้เราคว้ารางวัลชนะเลิศได้
โดยแกะสลักเป็นรูป ครุฑสู้กับนาค หรือ Garuda and Naga

แล้วทำไมล่ะ ครุฑจึงต้องสู้กับนาค ?

เรื่องนี้ย่อมมีที่มา





เรื่องนี้เริ่มจากพระทักษประชาบดี ผู้เป็นโอรสของพระพรหมนั้นมีภริยามาก
โดยมีธิดาถึง 50 องค์ ต่อมาได้ยกให้เป็นชายาพระยม 10 องค์
ยกให้พระจันทร์ 27 องค์ และยกให้พระกัศยปมุนี 13 องค์

สองในสิบสามองค์ คือนางวินตาผู้ให้กำเนิดบุตรคือ ครุฑ
ซึ่งเคลอออกมานั้นเป็นฟองไข่ ครุฑจึงมีลักษณะคล้ายนก
เมื่อแรกเกิด ร่างกายของครุฑขยายตัวออกใหญ่โตจนจดฟ้า
ดวงตาเมื่อกะพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกก็จะบังเกิดเป็นพายุใหญ่
รัศมีที่พวยพุ่งออกจากกาย มีลักษณะดั่งไฟไหม้ไปทั่วทั้งสี่ทิศ

ส่วนโอรสองค์ต่อมาคืออรุณ ต่อมาได้เป็นสารถีของพระอาทิตย์
ส่วนนางกทรู น้องสาวมีโอรสพันองค์ ซึ่งเป็นพญานาคทั้งหมด

อยู่มาวันหนึ่ง นางวินตาและนางกทรูไม่มีอะไรจะทำ จึงพนันกันว่า
ม้าที่เป็นพาหนะของพระอาทิตย์นั้นสีอะไร
โดยมีเดิมพัน ให้ผู้แพ้จะต้องกลายเป็นข้ารับใช้ของผู้ชนะ

นางวินตานั้นรู้ว่าม้าที่ใช้เทียมนั้นเป็นสีขาว ซึ่งได้มาจากกวนเกษียณสมุทร
นางกทรูผู้น้องสาวนั้นเลือกสีดำ ทั้งสองต่างนั่งรอจนถึงรุ่งเช้า
เพื่อจะดูว่า ม้าที่พระอาทิตย์ใช้เทียมรถนั้นจะปรากฏตัวออกมาเป็นสีใด

นางกทรูนั้นแอบให้ลูกๆ ของตนแปลงร่างเป็นขนสีดำไปแซมบนตัวม้า
เมื่อถึงรุ่งเช้า พระอาทิตย์จึงปรากฏตัวขึ้นด้วยรถเทียมม้าที่มีขนสีดำ
นางวินตาผู้พี่จึงต้องแพ้พนัน ตกเป็นทาสของน้องสาวตัวเอง
ยังความโกรธแค้นให้กับครุฑ ผู้เป็นบุตรเป็นอันมาก

ครุฑจึงไปขอถ่ายโทษมารดาให้พ้นจากเป็นทาสีของนางกทรู
พวกพญานาคปรารถนาจะเป็นใหญ่ จึงทำความตกลงกับครุฑว่า
ให้นำเอาน้ำอมฤตที่อยู่กับพระนารายณ์มาให้พวกตน
จึงจะปลดปล่อยให้มารดาครุฑพ้นจากความเป็นทาส
เมื่อนาคได้กินน้ำอมฤตก็จะเป็นอมตะ สู้รบกับใครก็จะไม่มีวันพ่ายแพ้

ครุฑจึงบินขึ้นไปบนสวรรค์ สู้รบกันกับพระนารายณ์แต่ไม่มีผู้ใดแพ้ชนะ
พระนารายณ์จึงทำความตกลงกับครุฑว่า จะให้ยืมน้ำอมฤตไปช่วยมารดา
ครุฑจึงให้สัญญาแลกเปลี่ยนเช่นกัน โดยจะขอน้ำอมฤตไปวางให้พวกนาค
ตามสัญญา จากนั้นให้พระนารายณ์รีบตรงไปชิงกับคืนมา เท่ากับครุฑ
ได้นำน้ำอมฤตมาให้ให้พวกนาคตามสัญญาแล้ว ที่เหลือไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุรนี้ ครุฑจะยอมเป็นสัตว์พาหนะให้พระนารายณ์
พระนารายณ์ซึ่งเคารพในฝีมือของครุฑเช่นกัน จึงตอบแทนครุฑเช่นกัน
โดยเมื่อการเดินทางสิ้นสุด ก็จะยอมให้ครุฑอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าพระองค์

ครุฑจึงนำของวิเศษไปจากพระนารายณ์ ไปวางบนพื้นหญ้าให้พวกนาค
แต่ทันใดนั้น พระนารายณ์ก็ตรงเข้ามาแย่งหยิบน้ำอมฤตกลับไปยังสวรรค์
แม้จะแค้นใจ แต่พวกนาคก็จำต้องปล่อยนางวินตาตามสัญญา

แต่ความแค้นระหว่างครุฑและนาคก็ยังไม่สิ้นสุด
เมื่อใดที่ครุฑบินผ่าน แล้วพบเจอนาคที่ใด ครุฑก็จะจับนาคกินเป็นอาหาร
จึงเป็นที่มาของความเชื่อเรื่อง ครุฑจับนาคนั่นเอง

รูปครุฑนั้นเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระมหากษัตริย์ มาตั้งแต่สมัยอยุธยา
เนื่องจากเป็นความเชื่อว่ากษัตริย์คืออวตารของพระนารายณ์
ที่ลงมาปกครองบ้านเมือง จึงต้องมีครุฑเป็นพาหนะของพระองค์

ดังนั้นเมื่อพระมหากษัตริย์จะทรงพระราชดำเนินไปยังสถานที่ใด
จะมีธงรูปครุฑประดับไว้ที่หน้าพระราชพาหนะเสมอ
ในทางเดียวกันสถานที่ที่ประทับของของพระมหากษัตริย์
ก็จะมีรูปครุฑประดับไว้ในที่สูงเสมอ และนี่คือที่มาของเรื่องนี้นั่นเอง



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 8 มีนาคม 2553 14:02:04 น. 6 comments
Counter : 1228 Pageviews.  

 
เคยอ่านคล้าย ๆ กันนี่ค่ะตอนไปเที่ยวเสียมราฐ ต่างกันนิดหน่อย



โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:49:24 น.  

 
ได้ไปเที่ยวปราสาทนาคพันหรือเปล่า

ว่ากันว่าอยากเห็นครุฑยุดนาค ที่เป็นสุดยอดต้องที่นี่

เป็นรูปปูนปั้นรอบกำแพงปราสาท ที่อลังการงานสร้างมาก


โดย: VET53 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:06:30 น.  

 
อุๆมีที่มาที่ไปด้วย

จำได้ๆ ไปมาค่ะ แต่ได้เดินดูตอนกลางคืน สวยงามมากค่ะ คนให้ความสนใจถ่ายรูปมากมาย พึ่งได้เห็นภาพกลางวันก็ตอนนี้



โดย: ari1019 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:03:23 น.  

 
ดีใจที่คนไทยเราไปสร้างชื่อเสียง แม้บ้านเราจะไม่มีหิมะ ไม่น่าเชื่อว่าจะแกะหิมะได้ (ให้มันรู้ไปเนอะว่าไทยเราเก่ง)


โดย: happinessUP2 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:07:05 น.  

 
ได้ความรู้เรื่องประวัติของSnowy Hokkaido เเละความน่าภูมิใจของคนไทย ที่มีฝีมือ
เพียงขอให้เอาธงไทยไปวางไว้ คนต่างชาติได้เห็นฝีมือคนไทยก็พอใจเเล้วค่ะ

เพิ่งทราบประวัติที่มาของครุฑค่ะ..ขอบคุณมาก
ทำให้นึกหวนไปคิดถึงธงสมัยเก่าที่เป็นภาพช้างเเละเปลียนไปในที่สุด โชคดีที่เปลี่ยน ไม่เช่นนั้นชาวไทยที่อยู่ไกลบ้านคงต้องมานั่งอธิบายกันไม่จบสิ้น

ขอบคุณความรู้มากๆค่ะ


โดย: ยูกะ (YUCCA ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:56:19 น.  

 
ครุฑยุดนาค น่าจะเป็นปราสาทพระขรรค์ค่ะ

ปราสาทพระขรรค์

ส่วนนาคพันก็อีกแบบค่ะ

ปราสาทนาคพัน

ลองไปแวะดูนะคะ เล่าก็ยาวและชักจะลืม ๆ แล้วค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:58:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]