BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : ตามหานคราที่สาบสูญ : ปราสาทเบ็งเมเลีย (1)

ตามหานคราที่สาบสูญ : ปราสาทเบ็งเมเลีย (1)

พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ทรงให้พราหมณ์ผู้มีความรู้ก่อสร้างนครวัด
อันเป็นผลงานทางวิศวกรรมอันน่าตกตะลึง
ไม่ไกลจากนครวัดมีการปราสาทขนาดเล็ก
ได้แก่ปราสาทบันทายสำเหร่ ปราสาทธรรมานนท์และเจ้าสายเทวดา

เชื่อกันว่าเป็นการสร้างขึ้นโดยขุนนาง ขุนศึกหรือพราหมณ์ปุโรหิต
ในช่วงปลายรัชสมัยของพระเจ้าสูริยวรมันทั้งสิ้น แต่ที่อยู่ห่างไกลที่สุด
โดยพราหมณ์ผู้นี้น่าจะความใกล้ชิดมากที่สุด อาจจะเป็นผู้ที่สร้างนครวัด
ได้ก่อสร้างปราสาททางตะวันตกเฉียงเหนือของพระนครใกล้เชิงเขาพนมกุเลน

ไม่มีจารึกใดกล่าวถึงการก่อสร้างปราสาทแห่งนี้
ปราสาทลึกลับในดงดิบที่ห่างไกล อุทิศให้แด่องค์พระวิษณุเทพ

ด้านนอกเป็นสระน้ำขนาด 900 * 1200 เมตร กว้าง 45 เมตร
คูน้ำด้านหน้ายังคงมีบัวสีชมพูดอกใหญ่ บึงแห่งดอกไม้หอมหรือเบ็งเมเลีย
สองข้างทางของถนนทางเข้าเป็นสะพานนาคราช
ตัวปราสาทที่มีระเบียงคตสามชั้น หันหน้าทางตะวันออก

ตัวปราสาททอดตัวในแนวแกนเหนือ-ใต้ ทางเข้านั้นอยู่ทางทิศใต้
ห่างไกลจจากด้านหลังตัวปราสาทคือบารายขนาดใหญ่

ขอบเขตศาสนสถานมีความกว้าง 125 เมตร ยาว 181 เมตร
วางผังตามแนวแกนทิศตะวันออกมาทิศตะวันตก มีโคปุระทั้งสี่ด้าน
เนื่องจากความปรักหักพัง ปัจจุบันไม่สามารถที่จะเดินบนพื้นดินได้
คล้ายกับปราสาทตาพรหม แต่ที่นี่กลายเป็นทางเดินลอยฟ้าแทน

ในอดีตเมื่อผ่านทางเข้าทางทิศด้านตะวันออก จะพบอาคารกากบาท
ที่มุมทั้งสีคือสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ แทนมหาสมุทรสี่แห่งที่ล้อมเขาพระสุเมรไว้

ทางขวาของสระน้ำคือหอคัมภีร์ เมื่อเดินผ่านชั้นระเบียงคตชั้นสองเข้าไป
ทางซ้ายมือมีร่องรอยอาคารใหญ่สองแห่ง คือ วิหารและคลัง
ผ่านทะลุระเบียงคตชั้นที่สามเข้าไป คือแกนกลางปราสาท
อันเป็นที่ตั้งของปรางค์ประธาน ผังทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้

แต่ไปดูของจริงเราแทบจะจินตนาการอะไรไม่ได้
สิ่งที่น่าสนใจคือภาพสลักบนหน้าบันซึ่งหลงเหลืออยู่หลายชิ้น
บางชิ้นยังคงติดอยู่กับที่ บางทีก็ลงมากองข้างทางเดิน
บางส่วนก็โดนแกะสลักภาพฤษีทับไป ทับหลังชิ้นสำคัญได้แก่

พระอัคนีทรงระมาด พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ
นางสีดาลุยไฟ วิษณุทรงครุฑ และกูรมาวตาร

ความเชื่อของนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศสเมื่อได้พบเห็นเป็นครั้งแรก
การพบศิลปะร่วมสมัยกับนครวัด กับการเป็นปราสาทไม่ยกพื้นทำให้
สรุปว่ามันน่าจะถูกสร้างโดยพราหมณ์เช่นเดียวกันกับปราสาทบันทายศรี

แต่ด้วยขนาดของสิ่งก่อสร้างที่ต้องใช้เวลาที่ยาวนานแรงงานจำนวนมหาศาล
หากเกิดขึ้นในช่วงปลายรัชกาล การก่อสร้างก็ควรจะยุติเมื่อสิ้นแผ่นดิน
หลังรัชกาลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 การผลัดเปลี่ยนอำนาจก็ไม่ราบรื่น
รวมทั้งต่อมาก็มีทำสงครามรุกรานของจามปา ทำให้ยากที่จะเชื่อได้ว่า

ปราสาทที่สร้างโดยพราหมณ์จะสามารถก่อสร้างต่อได้สำเร็จ
ที่สำคัญการมีบารายขนาดใหญ่ตั้งอยู่คู่กัน แสดงให้เห็นว่า
ต้องมีการตั้งชุมชนขนาดใหญ่โดยใช้ปราสาทแห่งนี้เป็นวิหารสำคัญ

หรือว่าเหตุการณ์ควรจะเป็นดังนี้

Create Date : 03 ตุลาคม 2556

Last Update : 3 ตุลาคม 2556 16:50:38 น.

3 comments

Counter : 1938 Pageviews.

ปราสาทเยอะจริง ๆ ตอนไปเที่ยวกลับมาใหม่ ๆ คิดไว้เลยว่าจะไม่ไปอีกละ แต่ก็กลับไปเที่ยวปราสาทเมืองไทยตลอดเท่าที่ทำได้

วัดปรางทอง อยู่ในระยะไปถึงได้ ผ่านหลายทีแต่ไม่เคยทราบเลยค่ะ

เราเปลี่ยนรูปตอนไปเที่ยวเสียมราฐตอนหลัง ๆ ไปได้ 6 บล็อิกแล้วค่ะ แต่ขาดคนบรรยายรูป อิอิ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tuk-tukatkorat&month=19-04-2009&group=17&gblog=17

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 3 ตุลาคม 2556 เวลา:16:24:02 น.

ตอนนี้กำลังอ่านและทำ short note เรื่งเกี่ยวกับราชวงค์มังรายอยู่ด้วยค่ะ ... ทำหลายอย่าง อิอิ ว่าอะไรเกิดก่อนเกิดหลัง เกียวพันกับเมืองหรือวัดที่ได้ไปเที่ยวมา แต่ยะงไม่จบเลย ค่อย ๆ ว่ากันไป

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 6 ตุลาคม 2556 เวลา:15:10:17 น.

ปราสาทนี้ นี่ก็เพิ่งได้ยินครั้งแรกค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 9 ตุลาคม 2556 เวลา:20:33:27 น.