พาครอบครัวไปทำบุญ ที่อุทัยธานี



วันเสาร์ที่ 14 – วันอาทิตย์ที่ 15 มิ.ย.57

ทริปนี้ตั้งใจพาแม่และครอบครัวไปเลี้ยงวันเกิดที่ จ.อุทัยธานี เลยถือโอกาสพาไปทำบุญไหว้พระไปด้วยเลย ไปเที่ยว-ทำบุญด้วยกันครับ





ทริปนี้มีแม่ไปด้วยเลยไปแบบสบายๆ ไม่เน้นลุยมากเหมือนทริปก่อน คลิ๊กเลย ไปกันทั้งหมด 6 คน ออกจากบ้านเวลา 07.56 น.เซทไมล์ไว้ที่ 0 เหมือนเดิม เติมแก๊ซเต็มถัง ได้เวลาออกเดินทาง

ออกจากบ้าน (นนท์) จากศาลากลางนนท์ เลี้ยวซ้ายแยกศาลากลาง ปากเกร็ด-บางพูน-บางปะอิน-เชียงราก-ตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ตามเส้นทางจะมีวัดเยอะมาก ผ่านป้ายทางเข้าวัดไชโย วรวิหาร เลี้ยวซ้ายไปตามป้าย ขับไปเรื่อยๆ ถึงแยกเลาะแม่น้ำไปก็ถึงวัดไชโยแล้วครับ ประวัติวัดไชโย วรวิหาร คลิ๊กเลย

ผมมาถึงวัดไชโยเวลา 9.46 น.ระยะทาง 108 กม. (ความเร็วประมาณ 60-80 ก.ม./ช.ม. แวะปั๊มน้ำมัน 10 นาที)







พาแม่ลงไปไหว้พระ ทำบุญนิดหน่อย เดินชมโบสถ์ไม่ถึงยี่สิบนาที ก็ออกเดินทางไปวัดพิกุลทองต่อครับ

ออกจากวัดไชโยเลี้ยวขวาเลาะแม่น้ำไปตามทาง จะมีป้ายบอกไปวัดพิกุลทอง ประมาณ 9 ก.ม.ก็มาถึงวัดพิกุลทองแล้วครับ ทางเข้าวัดจะเห็นพระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว ตั้งเด่นเป็นสง่า

รีวิวนี้วัดพิกุลทองละเอียดดีครับ คลิ๊กเลย





ผมขับอ้อมไปทางด้านหลัง ข้ามถนนก็จะเป็นป้ายวัดแล้วครับ





ผมมาถึงวัดพิกุลทองเวลา 10.15 น.ระยะทาง 120 ก.ม.จอดรถได้ก็เดินเข้าไปในวัด จะเจอวิหารหลวงพ่อโต







เข้าไปทำบุญแล้วไหว้พระในอุโบสถ









อยู่ที่วัดประมาณ 20 นาที ก็ออกจากวัดเวลา 10.35 น.ก็ตรงดิ่งไป จ.อุทัย ขับเส้นในไปถึง ตัวเมืองสิงห์บุรี (เส้นนี้ผ่านวัดขุนอินทร์ประมูล มีพระนอนใหญ่ด้วย แต่ผมไม่ได้แวะครับ) ขับเลาะคลองไปเรื่อยๆก็มาถึงตัวเมืองสิงห์บุรี ตรงสี่แยก ถ้าตรงไป อินทร์บุรี ผมเลี้ยวขวาข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ออกทางหลวงเส้น 32 แล้วครับ ยิงยาวไปถึงท่าน้ำอ้อย ได้เวลากินข้าว ผมแวะกินที่ร้าน ครัวท่าน้ำอ้อย ทางเข้าจะมีป้ายบอก เลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงเข้าสุดถนนเลยครับ จะเห็นครัวท่าน้ำอ้อยพอดี ร้านจะติดกับแม่น้ำเลยครับ (ก่อนถึงจะมีร้านปลา ครัวท่าน้ำอ้อย อยู่ติดถนน คนละร้านกันนะครับ)





ผมมาถึงครัวท่าน้ำอ้อย เวลา11.37 น.ระยะทาง 207 ก.ม. หาที่นั่งได้ก็สั่งอาหารครับ ช่วงรออาหารก็สั่งทองพับกระทิสดมากินเล่นรองท้องกันไปก่อน





อร่อยดีครับ ขากลับเลยซื้อไปกินต่ออีก 2 ถุง 

เมนูมีแค่นี้ มีแผ่นเดียวแต่ 2 หน้า 







เลือกเมนูได้ซักพักอาหารจานแรกก็มาแล้ว (อาหารรอไม่นาน)

แกงคั่วหอยขม ไม่ได้ใส่ถ้วยมานะครับ ใส่เป็นจานน้ำแกงเข้มข้น ออกหวานนิดๆกำลังดี มันด้วยกะทิ รสชาติกลมกล่อมมาก กินกันหมดจนต้องเอาข้าวลงไปคลุกน้ำแกงที่เหลือ อร่อยจริงๆครับ 




ยำหัวปลี จานนี้เปรี้ยวนำหวานตามกำลังดี เสียดายใส่หัวปลีมาน้อยไปหน่อย ทำรสยำได้ดี จานนี้ชอบกันทั้งครอบครัว





จานต่อไป แกงส้มชะอมกุ้ง น้ำแกงเข้มข้น แต่ไม่อร่อยอ่ะ เปรี้ยวอย่างเดียวจนออกขมๆไปหน่อย หม้อนี้เฉยๆครับ ไม่ผ่าน





ทอดมันปลากราย เหนียวหนึบดี เสียดายทำชิ้นเล็กไปหน่อย เคี้ยวไม่มันปาก แต่รสชาติยังไม่ถึงกับสุดยอดแต่ก็สั่งมากินเล่นๆได้ ไม่น่าเกลียด





เนื้อปลาลวก ตามมาติดๆ เนื้อปลาได้ความสดเลยหวานธรรมชาติ จัดชิ้นพอดีคำใส่พริกไท ซอยขิงพร้อมต้นหอม จิ้มกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว จานนี้กินเป็นกับข้าวหรือแกล้มเบียร์ก็เพลินเลยครับ





จานต่อไปผัดเห็ดหอม ผัดได้แจ่มมาก เห็ดหอมดอกเล็กแต่รสชาติไม่เล็ก ผัดไม่เค็มมาก แต่หวานด้วยตัวเห็ดทำให้รสชาติเข้ากันกับเครื่องปรุง จานนี้ต้องสั่งครับ





ปลาช่อนคึ่นฉ่าย ทอดปลาได้กรอบกำลังดี น่าจะทอดสดๆไม่ทอดทิ้งค้างไว้ก่อน เพราะเนื้อปลาไม่เหนียว ไม่เหม็นหื่นเลย จานนี้รสชาติอร่อยจริงๆขนาดแฟนผมไม่ชอบกินผัดคื่นฉ่าย พอชิมไปยังบอกว่าอร่อยเลยครับ ส่วนผมจานนี้คนเดียวก็ครึ่งจานแล้วครับ หัวปลายังเก็บมาแทะเล่นเลย อิอิ





ปลาบู๋นึ่งซีอิ๋ว จานนี้นึกว่านาน รอประมาณไม่เกิน 20 นาทีก็มาแล้ว แต่รสชาติออกหวาน น้ำนึ่งซีอิ๋วหมือนใส่น้ำตาล มันไม่หวานธรรมชาติ หวานแปลกๆ เสียดายรสชาติ ส่วนปลาบู๋เนื้อไม่ต้องพูดถึง หวานในตัวมันเองอยู่แล้ว ยิ่งทำสดๆด้วยไม่มีคำบรรยาย จานนี้สั่งนึ่งเฉยๆแล้วมาจิ้มน้ำปลาคงอร่อยกว่านี้เยอะ เสียดายๆ การปรุง ค่อนข้างผิดหวัง ดีที่ตัวปลาสดเนื้อหวานในตัว





จานสุดท้าย มาช้าสุดกินกันอิ่มแล้ว ไม่รู้ลืมหรือเปล่า ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนสด จานนี้เด็ดมากๆๆๆๆ ขนาดอิ่มกันแล้ว พอชิมน้ำฉู่ฉี่ ตักกันคนละหนุบละหนับ ผมว่าเจ้านี้ทำอาหารพวกน้ำแกงกะทิอร่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นผัดเผ็ด ฉู่ฉี่ หรืออะไรที่เกี่ยวกับพริกแกงน่าจะเด็ดทุกจาน หวานกำลังดี ไม่เผ็ดเกิน อร่อยดีครับ





ส่วนน้ำจิ้ม ให้มา 3 ถ้วย มีน้ำปลาพริก น้ำจิ้มทอดมัน น้ำเต้าเจี๋ยว





ค่าเสียหายทั้งหมด 9 อย่าง ข้าวหนึ่งหม้อ น้ำเปล่าน้ำแข็งรวม 1,030 บาท ราคารับได้ครับ อาหารจานไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่น้อยจนน่าเกลียด มา 6 คนอิ่มกันแบบสุดๆ วัตถุดิบที่นำมาใช้ ถือว่าใหม่และสดเลยครับ รสชาติออกหวานนิดๆ (ถูกปากผม อิอิ) อาหารออกกำลังดี ไม่ช้าเกินไป ส่วนเรื่องบริการไม่ต้องคิด ทำใจไปแลกกับรสชาติและราคา ความสะอาดอยู่ในระดับนึง สรุปใครผ่านแถวนี้แนะนำร้านนี้ครับ





จ่ายตังค์เสร็จก็ออกจากร้านเวลา 12.30 น.ขับเลาะริมน้ำไปนิดเดียวก็เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานไปอุทัยแล้วครับ

จากร้านอาหารขับไปรีสอร์ท อุทัย ริเวอร์ เลค แค่ 20 นาทีก็ถึงแล้ว (การเดินทางไปดูบล็อกเก่าผมได้ครับ) ผมมาถึงรีสอร์ทเวลา 12.50 น.ระยะทาง 222 ก.ม.พอดี





ครั้งนี้ผมพักรีสอร์ทที่เดิมครับ

ได้นอนห้อง B1-B2 และก็ C 1 ติดริมน้ำ















เพิ่มอิ่มมาถึงที่พัก ห้องใครห้องมัน เจอเตียงนุ่มๆ แอร์เย็นๆ หลับสนิทเลยครับ ตื่นมาอีกที บ่ายสาม สมาชิกนั่งรอไปเที่ยววัดท่าซุง กันหมดแล้ว เห้อๆ รีบไปล้างหน้าขับรถไปวัดท่าซุงต่อ (จากรีสอร์ทไปวัดท่าซุงประมาณ 10 นาที)







แม่ผมยังไม่เคยมา ได้พามาไหว้หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พามาชมวิหารแก้วแค่นี้แม่ผมก็มีความสุขแล้วครับ











ภายในวิหารสวยงามมากจริงๆ

















หลังจากเข้าชมวิหารได้ซักพักก็ไปทำบุญกันครับ













ทำบุญเสร็จก็นั่งชมวิหารแก้วประมาณ 40 นาทีก็ออกเดินทางต่อ (ช่วงที่อยู่วิหารแก้วฝนตกหนักพอจะกลับถึงหยุด) ผมออกจากวัดท่าซุงเวลา 15.50 น.ระยะทาง 232 ก.ม. ก็เดินทางไปวัดสังกัสต่อ

ลาวัดท่าซุงด้วยภาพนี้ครับ





จากวัดท่าซุงไปวัดสังกัสประมาณ 12 ก.ม. ครั้งนี้ ตัดต้นไม้ ทำความสะอาดบันได ทำให้เห็นวัดสังกัสดูสง่าขึ้นเยอะ

ช่วงที่ผมไปฝนตกปรอยๆ เลยไม่ได้ลงจากรถครับ





พามาดูด้านหน้าวัดเสร็จ ก็ขับรถขึ้นไปข้างบนต่อครับ

























วิวด้านบนจากวัดสังกัสจะเห็นบรรยากาศตัวเมืองอุทัยธานี





รายละเอียดการเดินทาง ไม่บอกแล้วนะครับ ดูในบล็อกเก่าได้ ส่วนเวลานั้นฝนเริ่มหยุดแล้วแต่พื้นยังเปียกอยู่ ผมกลัวแม่จะเดินลื่น เลยให้เดินมาทำบุญแค่พระพุทธบาทจำลอง หลังจากนั้นก็ลงจากวัดสังกัสแวะเติมแก๊สตรงข้างล่างในเมืองอุทัยแล้วไปชมวัดโบสถตรงริมน้ำต่อ (ห้าแยกวิทยุ)

ผมมาถึงห้าแยกวิทยุ ก็หาที่จอดแล้วเดินเล่นแถวนั้นต่อ (ไม่ได้ข้ามสะพาน ได้แต่ชมวัดโบส์ถฝั่งตรงข้าม)













เกือบห้าโมงเย็น ตรงถนนริมน้ำ เค้าจะปิดถนนแล้วทำเป็นตลาดนัด เลยถือโอกาสเดินชม มีของขายเหมือนตลาดทั่วไป แต่ได้บรรยากาศกว่าตลาดที่อื่นตรงติดริมแม่น้ำนี้แหละ แถมสะอาดดีด้วย







ชอบไอติม โบราณ ทั้งหวาน ทั้งมันหอมชื่นใจ เดี๋ยวนี้หากินยากมากใน กทม.





เดินชมเสร็จ ก็เลยไปยังถนนคนเดิน ตรอกโรงยา

จากถนนตรงแม่น้ำเดินไปถึงแยกวงเวียนอะไรหว่า ที่มีรูปปั้นช้าง ตรง ธ.ไทยพาณิยช์ ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปแล้วถึงสี่แยกเลี้ยวขวาก็จะถึงถนนคนเดินแล้วครับ ไปไม่ยากหรือเดินย้อนกลับมาตรงห้าแยกวิทยุที่เราจอดรถแล้วเดินตรงไปก็ถึงเหมือนกัน



















เดินเล่นที่ถนนคนเดินได้ซักพักก็กลับเข้ารีสอร์ท ก่อนกลับขอแวะชิมร้านขนมรถเข็นตรงหน้าร้านขนมปังสังขยาไพพรรณ คราวที่แล้วพลาดไม่ได้ขิม ตัวขนมรสชาติไม่ค่อยหวานจะออกมันๆ แต่อร่อยจริงๆครับ แนะนำๆ







ผมออกจากถนนคนเดินเวลา 17.32 น.ระยะทาง 252 ก.ม. ออกไปทางศูนย์ราชการ เลี้ยวซ้ายขับข้ามสะพานเพื่อไปเกาะเทโพ เห็นร้านอาหารติดอยู่ริมน้ำทางขวามือ เลยแวะกินข้าวมื้อเย็นให้อิ่มไปเลย จะได้ไม่ต้องออกมาอีก

บรรยากาศร้านอาหารครับ





วิวดีเลยครับ เป็นแพ อยู่ในแม่น้ำเลย เอาเมนูมาให้ดูกันก่อน







สั่งไป 8 อย่าง ระหว่างรออาหารกินขนมแก้ขัดไปก่อนครับ





มี ยำวุ้นเส้น,ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม,ผัดเผ็ดลูกชิ้นขี้เมา,ต้มยำปลาม้าน้ำใส,ผัดกุ้งเม็ดมะม่วง,ยำมะเขือเผา,ไข่เจียวหมูสับ,ผัดโป๊ยเซียน ขอบอกรสชาติภาพรวมแล้วกันครับ อาหารแต่ละอย่างใส่น้ำมันเยอะมาก ยังไม่โดน มีปลาเนื้ออ่อนที่อร่อยแต่เสียดายตรงกระเทียมใช้แบบสำเร็จรูปเป็นถุงทำให้เสียรสชาติไปเยอะ ส่วนต้มยำนั้นให้ผ่านแค่อย่างเดียว นอกนั้นใช้น้ำมันเยอะเกิน มาแต่ละจานเยิ้มเชียว ส่วนบริการโอเค อาหารค่อนข้างช้าเพราะใช้เตาถ่านทำ ความจริงรสชาติน่าจะอร่อยกว่านี้ถ้าไม่ใช้น้ำมันเยอะเกิน ราคาไม่แพงครับ บรรยากาศติดริมน้ำลมโชยอ่อนๆ เย็นดีให้เต็ม 





















ส่วนห่อหมกไข่มดแดงซื้อมาจากถนนคนเดินครับ





มื้อนี้หลานสาว เป็นเจ้าภาพเลี้ยงให้วันเกิดผมครับ ขอบใจจ้า





จ่ายตังค์เสร็จก็ขับรถกลับรีสอร์ท ผมมาถึงรีสอร์ทเวลา 19.09 น.ระยะทาง 259 ก.ม. แยกย้ายห้องใครห้องมัน อาบน้ำเสร็จประมาณ สามทุ่ม หลานก็มาเคาะห้องให้ไปห้องแม่ผม แอบSurprise จุดเทียนเป่าเค้กให้ผม แต่แม่ผมขอแจมเป่าด้วยคน 555







หลังจากเป่าเค้กเสร็จ ชิมคนชิ้นสองชิ้น อร่อยดีอ่ะ เค้กรสส้ม ชอบๆ ก็แยกย้ายไปนอน คืนนี้หลับเป็นตาย

ตัดมาตอนเช้าตื่นมาอีกทีเจ็ดโมงเช้า แม่ผมแอบไปเล่นน้ำในสระตั้งแต่เช้าแล้ว เกือบแปดโมงก็เอาคูปองไปกินอาหารเช้าที่รีสอร์ท (ราคาที่พักรวมอาหารเช้าให้ด้วยครับ)

อาหารเป็นบุฟเฟ่ต์ ผมชอบข้าวต้มครับ อร่อยดี











อิ่มเสร็จก็เข้าไปเก็บของ เรา check-out เวลา 9.20 น.ออกจากรีสอร์ทได้ก็เลี้ยวขวาวิ่งไปนิดเดียวเจอป้ายวัดขุมทรัพย์ ที่จริงแอบเหล่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เห็นชื่อวัดเป็นมงคลดี 555 เลยแวะเข้าไปทำบุญ สังฆทานในวันเกิด









ทำบุญเสร็จ ก็ขับเข้าตัวเมืองอุทัยแวะซื้อขนมปังสังขยาร้านไพพรรณ แล้วย้อนกลับมาเส้นเดิม กลับบ้านครับ 









ผมออกจากร้านไพพรรณ เวลา 10.00 น.ระยะทาง 266 ก.ม. กลับเส้นทางเดิม วิ่งมาเรื่อยๆแวะเติมแก๊สเต็มถังที่ปั๊มบางประหัน มาถึงปั๊มเวลา 11.40 น.ระยะทาง 400 ก.ม.พอดี ออกจากปั๊มก็ขับตรงไปเรื่อยๆมาเข้าเส้นบางประอินตรงแยกบางประหัน ยังไม่เที่ยงถือโอกาสพาแม่ไปเที่ยวพระราชวังบางประอินต่อครับ พอดีแม่ผมยังไม่เคยไป เลยแวะซักหน่อย มาถึงพระราชวังบางประอิน เวลา 12.23 น.ระยะทาง 444 ก.ม.





หาที่จอดรถได้ก็ ซื้อบัตรเข้าก่อนครับ แม่ผมผู้สูงอายุ ลดเหลือ 20 บาทนอกนั้นคนละ 30 ครับ









เข้าไปก็เดินชมไปเรื่อยๆ เจอฝนตกบ้าง หยุดตกบ้าง สลับกันไป













เดินผ่านน้องทหาร ขอถ่ายรูปคู่หน่อย ช่วงนี้แม่ผมอินกับทหารอยู่ 555





ครึ้ม มามืดเลยครับ







ไม่รอด ตกจนได้





หยุดตกก็เดินชมไปเรื่อยๆ ไม่รีบครับ









ดอกบัวบ้าง













เดินมาถึงตรงนี้ เข้าไปชมกันครับ





เข้าไปชมข้างในกันครับ สวยงามมาก เสียดายข้างในเค้าห้ามถ่ายรูป ให้ถ่ายได้แค่ข้างหน้า















ได้เวลาเดินกลับแล้วครับ ลาด้วยภาพนี้แล้วกัน ส่วนรายละเอียดพระราชวังบางอิน อยู่ในบล็อกนี้ครับ เคยไปแจมกับเพื่อนๆในบล็อกมา คลิ๊กเลย





ออกจากพระราชวังเวลา 13.47 น.ได้เวลาพาไปกินมื้อเที่ยงแล้ว ไม่เที่ยงสิ เกือบบ่ายสองแล้วเนอะ ขับกลับออกมาทางเดิม ผ่านโลตัส เอ็กซ์เพลสบางประอิน เลี้ยวซ้ายกลับ กทม.เราเลี้ยวขวาไปนิดเดียวก็ถึงร้านต้นน้ำ ริเวอร์แล้วครับ อยู่ติดแม่น้ำเลย





ขนาดมาเกือบบ่ายสอง คนยังแน่นร้านอยู่เลย ไปถึงก็รีบไปจองที่ สั่งอาหารก่อน พอถึงเวลาเค้าถึงเรียกตามคิว ช่วงรอก็ดูเค้าเผากุ้งให้น้ำลายใหลเล่นซะงั้น เห้อๆ







นั่งรอได้ซักพักก็เรียกเราไปที่โต๊ะ อาหารจานแรกมาก่อนเพื่อน ผัดเผ็ดซี่โครง แอบผิดหวังนึกว่ามาเป็นชิ้นๆ นี่เล่นสับมาเป็นหมูบะช่อเลย 555 รสชาติผมเฉยๆ ไม่ถึงกับแย่ แต่แฟนผมบอกว่าอร่อยไม่เผ็ดจนเกินไป 





ส่วนจานที่สอง ส้มตำไข่เค็ม เปรี้ยวหวานกำลังดี แต่ราคาออกจะแรงไปนิด จานนี้แม่กับหลานชอบ พอโอเค





ตามมาติดๆ โป๊ะแตก น้ำซดคล่องคอเลยครับ เปรี้ยว-เค็มกำลังดี พวกปู-ปลาหมึก-กุ้ง-หอยก็สดไม่มีคาวเลย แต่ผมซดแต่น้ำอย่างเดียว หม้อนี้เด็ดขาด





จานต่อไป ปลาน้ำเงินย่าง ขายเป็นขีดขีดละ 60 บาทตัวนี้ 1.1 ก.ก.อร่อยมาก ทั้งแม่-ทั้งแฟนชอบมากยิ่งจิ้มกับน้ำจิ้มด้วยแล้ว ไม่เสียดายตังค์เลยครับ





ผัดผัดรวมมิตร (ในใบเสร็จใส่เป็นผัดหน่อไม้ใส่กุ้ง พอดีราคาเท่ากันเลยไม่ต้องเปลี่ยนใบเสร็จ) รสชาติกลมกล่อมดีครับ คลุกับข้าวสวยร้อนๆ เหยาะน้ำปลาพริกอีกนิดหน่อย อร่อยจนไม่อยากวางช้อนเลย





พระเอกของเราก็มาถึง กุ้งเผาครับ ตัวใหญ่กำลังดี มันเยิ้ม ตักมาคลุกกับข้าวก่อน แล้วค่อยตักเนื้อมาพร้อมน้ำจิ้ม เผาเนื้อได้พอดี ไม่สุกจนแข็งเกินแต่ไม่นิ่มจนเนื้อเละ จานนี้ฟินมากกกกก







ปลาหมึกนึงมะนาว จานนี้มาช้ามาก ไม่รู้ลืมหรือเปล่ากินกันเกือบอิ่มแล้ว ว่าจะตามก็มาพอดี จานนี้ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร ยังไม่โดน





ช่วงกินกุ้งกันอยู่ สั่งข้าวผัดปูมากินเล่นๆ แต่อร่อยเวอร์กว่ากินที่แถวชายหาดอีก 555





สั่งไป 8 รายการ ติดใจน้ำจิ้มแจ่ว ต้องสั่งกลับบ้านไปอีก 2 กระปุก โดยรวมแล้วราคาค่อนข้างสูง แต่เทียบกับรสชาติแล้วถือว่าผ่านครับ อาหารไม่ถือว่าช้าสำหรับลูกค้าเยอะขนาดนี้ การบริการพอใช้ได้ในระดับนึง ส่วนราคาขนาดนี้ถ้าไม่อร่อยผมโดนแม่ดุกระจายแน่ แต่นี้แม่ผมไม่บ่นซักคำนั่งกินกุ้ง กินปลาอย่างอร่อย รอดตัวไป 555





เราออกจากร้านต้นน้ำเวลา 15.27 น.ระยะทาง 461 ก.ม.

จากร้านต้นน้ำเข้าเส้นบางประอิน ขึ้นทางด่วน อุดรรัถยา ตรงบางประอินลงทางด่วนตรงงามวงศ์วาน ข้ามแครายมาถึงบ้านเวลา 16.20 น.ระยะทางทั้งหมด 497 ก.ม.พอดีครับ 





ครั้งนี้ใช้รถ Honda Freed ไปครับ ขับสบายๆ วิ่ง 60-100 ก.ม./ชม. ขอจบทริปในวันเกิดกับครอบครัวแบบสบายๆแค่นี้ครับ





สรุปค่าใช้จ่าย

วันที่ 14 มิ.ย.57
- ทำบุญที่วัดไชโย-วัดพิกุลทอง 100 บาท
- อาหารมื้อเที่ยงร้านท่าน้ำอ้อย 1,030+20 = 1,050 บาท
- ขนมทองพับกะทิสด 70 บาท
- ทำบุญที่วัดท่าซุง 500 บาท
- เติมแก๊สเต็มถังในเมืองอุทัย 300 บาท
- ขนมหวานรถเข็นหน้าร้านไพพรรณ 160 บาท
- ขนมถังแตก 10 บาท
- ไอติม 10 บาท
- น้ำ+ข้าวโพดทอด 20 บาท
- อาหารมื้อเย็น 970 + 30 = 1,000 บาท
- ค่ารีสอร์ท 3,900 บาท (3x1,300)

วันที่ 15 มิ.ย.57
- ทำบุญสังฆทาน+ทำบุญสร้างโบสถที่วัดขุมทรัพย์ 1,000 บาท
- ขนมร้านไพพรรณ 320 บาท
- กระหรี่ปั๊บ 20 บาท
- ขนมเปี๊ยะ 60 บาท (1 กล่อง)
- เติมแก๊สที่บางประหัน 180 บาท
- ค่าเข้าพระราชวังบางประอิน 6 คนคนละ 30 บาท 170 บาท (แม่เหลือ 20 บาท)
- ค่าจอดรถที่พระราชวังบางประอิน 20 บาท
- ค่าอาหารร้านต้นน้ำ 3,360 บาท
- ค่าทางด่วนอุดรรัถยา 55 บาท
- ค่าทางด่วนงามวงศ์วาน 15 บาท

รวมทั้งหมด 12,320 บาท




Create Date : 13 กรกฎาคม 2557
Last Update : 21 กันยายน 2560 14:22:13 น. 0 comments
Counter : 8694 Pageviews.

nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
13 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.