ผมมาถึงเขาวังเพชรเวลา 10.14 น.ระยะทาง 142 ก.ม. จอดรถได้ซื้อตั๋วขึ้นรถรางขึ้นไปชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนครคีรี




แม่ผมยังไม่เคยขึ้น คราวที่แล้วพามาก็ปิดปรับปรุง คราวนี้ไม่พลาดครับ 

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง),เพชรบุรี

เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.30-16.30 น. ค่าเข้าชม (รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี) ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างประเทศ 40 บาท นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมเขาวังได้ โดยการเดินขึ้น หรือโดยสารรถรางไฟฟ้า (ตั๋วไป-กลับ รวมค่าเข้าชมทั้งหมด) เสียค่าบริการ ชาวไทย 20 บาทชาวต่างชาติ 20 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ (032)425600

ข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย

ชักธงไว้ครึ่งเสาไว้อาลัยให้กับพระสังฆราช

พาแม่ขึ้นไปชมพิพิธภัณฑ์ข้างบน ข้างในเค้าห้ามถ่ายรูปก็เดินชมห้องต่างๆไปเรื่อยๆจนออกมาด้านนอกถึงค่อยถ่ายรูปได้ ไปครั้งนี้ดูภายนอกโทรมๆ หมดหน้าฝนคงบูรณะทาสีใหม่ต้อนรับงานพระนครคีรี ช่วงปลายเดือนมี.ค.

แต่ก็ดี มีมอสเขียวๆขึ้นตามข้างกำแพงให้ดู สวยไปอีกแบบ

ไปครั้งนี้ลิงดูเรียบร้อยขึ้นเยอะ ไม่ค่อยมาแย่งอาหารจากนักท่องเที่ยว นั่งสงบเสงี่ยมมาก 

จุดเด่นของเขาวังเพชร อีกอย่างที่ผมชอบก็คือดอกลั่นทมหรือลีลาวดี จะปลูกบนเขาวังเยอะมาก ถ้าไปช่วงที่ดอกบานเต็มต้นจะสวยดี



เดินชมไม่ทั่วครับ แม่ผมเดินไม่ค่อยไหวได้เวลาก็นั่งรถรางลงมาที่จอดรถ ข้างล่างจะมีกิจกรรมถนนเล็กๆกับเด็กนักคิด 

ใครสนใจก็เข้าไปดูได้เลยครับ กิจกรรมนี้ฟรี แม่ผมยังเข้าไปลองตัดกระดาษเลยครับ จะมีน้องๆมาสอนให้ตัดเสร็จก็ให้เอากลับบ้านได้เลย  

แม่ผมก็เข้าไปเรียนกับน้องเค้า

เสร็จแล้ว ฝีมือแม่ผม

นอกจากตัดกระดาษแล้ว ยังมีเป่าแก้วและกิจกรรมอื่นๆอีกด้วย

ได้เวลาเที่ยงพอดี ออกจากเขาวังเพชรไปกินก๋วยเตี๋ยวในเมือง ตอนแรกพาไปกินก๋วยเตี๋ยวเพ็ญพริกเผ็ดหน้าวัดใหญ่ ร้านปิดทำบุญเลยย้อนกลับมากินก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านณาณา

ร้านนี้ไม่เคยกิน แต่เนื้ออร่อยใช้ได้เลยครับ แนะนำๆ ใครไม่กินเนื้อก็จะมีอาหารตามสั่งและก๋วยเตี๋ยวหมู ถูกใจทั้งครอบครัว แม่ผมสั่งข้าวผัดปูให้ปูมาเพียบเลยอร่อยอีกต่างหาก














อิ่มเสร็จแวะซื้อขนมที่ร้านแม่ปิ่นออกเดินยิงยาวไปสามร้อยยอด ออกเวลา 12.49 น. ระยะทาง 147 ก.ม. มาถึงสี่แยกปราณ โลตัสเวลา 13.52 น.ระยะทาง 233 ก.ม.เลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกขับตรงไปถึงสามแยกตัวทีเลี้ยวขวานิดเดียวแล้วจะมีแยกเลี้ยวซ้ายทางไป อช.สามร้อยยอด เลี้ยวโลด ขับตรงไปทาง อช.สามร้อยยอดถึงสถานีอนามัยจะอยู่ทางด้านขวามือเลยไปนิดนึงจะมีซอยอยู่ทางซ้ายมือเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 1ก.ม.ก็ถึงที่พัก Talay Tara Resort จะอยู่ทางซ้ายมือครับ จากแยกมาถึงรีสอร์ทประมาณ 16 ก.ม.

รีสอร์ทจะเป็นบ้านหลังเดียว มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1ห้องนั่งเล่นพร้อมห้องครัว ข้างบนเป็นดาดฟ้าเปิดโล่งมีอ่าง Jaguzzi ไว้ให้แช่น้ำเล่นด้วย ส่วนห้องนั่งเล่นกว้างมากมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบเพราะรีสอร์ทเป็นโครงการบ้านของชาวสวีเดน เค้ามาปลูกไว้ให้ขายกับเพื่อนชาวสวีเดน หน้าหนาวจะมาพักอยู่เป็นเดือนๆ พอกลับก็เปิดให้นักท่องเที่ยวมาเช่านอน ใครสนใจก็เข้าไปดูในเพจได้เลยครับ คลิ๊กเลย

ห้องครัว มีอุปกรณ์ให้พร้อม

ชั้นดาดฟ้า จะมีจากุซซี่ และโต๊ะรับแขกพร้อมเตาบาบีคิว 1 ชุด

สระน้ำส่วนกลาง



ผมมาถึงรีสอร์เวลา 14.22 น.ระยะทาง 255 ก.ม. เอาของเก็บ นอนเล่นพักผ่อนได้เวลา 16.38 น.ก็ไปนั่งเรือเล่นครับ ตอนแรกว่าจะพานั่งเรือออกทะเลไปถ้ำพระยานครแต่วันนี้คลื่นแรงเรือออกไม่ได้เลยเปลี่ยนแผนไปนั่งเรือชมคลองที่ คลองเขาแดง

การเดินทางออกจากปากทางเข้ารีสอร์ทเลี้ยวซ้ายขับตรงไปตามทางอช.สามร้อยยอด ก่อนถึงทางขวามือจะมีวัดคลองเขาแดงเลี้ยวขวาเข้าวัดไปเลยครับ จะข้ามสะพานเล็กๆเลี้ยวขวาลงไปนิดเดียวจะเป็นท่าจอดเรือเพื่อชมคลอง ผมไปถึงวัดเขาแดงเวลา 17.00 น.ระยะทาง 273 ก.ม.ค่าเรือเหมาลำไม่เกิน 6 คน 500 บาท จะไปกี่คนก็ 500 เหมือนกันครับ รอเรือประมาณ 15 นาทีก็ได้ล่องเรือ





ได้ลุงระพิณเป็นคนขับพร้อมเป็นไกด์ในตัว ลุงใจดีมาก อธิบายทุกจุดตรงไหนสำคัญแกจอดเรือให้ถ่ายรูปได้ตามสบายใจ แถมขากลับแถมขับย้อนไปทางปากอ่าวให้อีก เต็มใจบริการ ทำให้รู้ว่าการบริการด้วยใจต่างกับการบริการด้วยหน้าที่จริงๆ ใครไปแนะนำใช้บริการลุงระพิณเลยครับ ผมแถมค่าบริการลุง 50 บาท สบายใจไป

นี่ไงครับ ลุงระพิณ

เขาแดง ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเขาแดง ในเขตอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด ที่ตั้งของหมู่บ้านจะติดกับภูเขาที่มีหน้าผาสีแดง จึงได้เป็นที่มาของหมู่บ้านเขาแดงนั่นเอง ปัจจุบันตำบลเขาแดงอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อาชีพหลักที่สำคัญ คือ การทำประมง และทำนากุ้ง สถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจใกล้เคียง คือหาดสามพระยา ถ้ำไทร ถ้ำแก้ว ถ้ำพระยานคร และอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด บ้านเขาแดงมีป่าชายเลน ซึ่งพบตามแนวชายคลองบางปู คลองเขาแดง พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ แสมทะเล โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ ตาตุ่มทะเล ตะบูนดำ โปรงแดง ถั่วขาว ฝาดดอกแดง สำมะง่า จาก เถาถอบแถบ เป็นต้น บริเวณที่โล่งซึ่งเป็นดอนตะกาดซึ่งได้รับอิทธิพลความเค็มของน้ำทะเลท่วมถึงแต่ไม่ท่วมต่อเนื่องกันทุกปี พบพืชล้มลุกพวก ชะคราม ผักเบี้ย หญ้าปราบน้ำเค็ม หญ้าขม เป็นต้น คลิ๊กเลย

ท่าเรือไว้ให้นักท่องเที่ยวใช้บริการ

ลูกทัวร์พร้อมก็ไปชมความงามในคลองแดงกันครับ

ได้เวลาล่องกลับไปปากอ่าว จะผ่านหมู่บ้านประมงเล็กๆ จะเห็นเรือประมงขนาดเล็กจอดอยู่รอเตรียมออกไปหาปลา

แล้วก็มาถึงปากอ่าว 

แล้วก็ย้อนกลับที่ท่าวัดคลองเขาแดงแล้วครับ เริ่มมืดชาวบ้านเริ่มเปิดไฟสวยไปอีกแบบ

อยากชมภาพสวยๆดูจากเวปนี้ได้เลยครับ คลิ๊กเลย

ผมออกจากวัดเขาแดงเวลา 18.20 น. ขับกลับรีสอร์ทย้อนไปหาข้าวกินที่ร้านร้านป้าเอื้อง-ป้าอิ้ง ไปถึงจอดรถได้เด็กเดินมาบอกเลยว่าอาหารหมดแล้ว ห๊า..เพิ่งจะทุ่มกว่าๆ อาหารหมดแล้ว ของเค้าดังจริงๆ เพราะตอนเข้ามาแอบเหล่ไว้แล้ว เห็นรถจอดกินกันเยอะมาก ไม่รู้ว่าจะหมดเร็ว เลยเปลี่ยนแผนมากินร้าน จิ๋ม-แดง แทนเจ้านี้เค้าก็ดังไม่แพ้ ทางเข้ากลับมาทางรีสอร์ทเลยร้านป้าเอื้องไปนิดเดียวจะมีซอยอยู่ทางซ้ายมือเลี้ยวเข้าไปเลยครับ ขับตรงไปจะถึงทางเลียบทะเล เลี้ยวขวาขับไปประมาณ 600 ม.ก็ถึงร้านแล้วครับ กำลังปรับปรุงร้านอยู่แต่โชคดีร้านเปิด





สั่งไป 6 อย่างมี

หมึกไข่นึงมะนาว จานนี้แซ่บมากไม่ได้ใส่เป็นหม้อไว้ให้ซดน้ำเหมือนทั่วไป ปลาหมึกสดแต่ไม่ให้เป็นตัว ไข่ไม่ค่อยมี แต่รสกลม่ใช้ได้ ชอบกันทั้งครอบครัว

เอ็นหอยผัดฉ่า ผัดได้เด็ดขาด เค็ม หวานเข้ากันดี เผ็ดไม่มาก รสกลมกล่อมมาก แนะนำว่าต้องสั่งครับ

ปลากระพงทอดน้ำปลา จานนี้ผมเฉยๆ ยังไม่ค่อยโดน เพราะเคยกินที่อื่นอร่อยกว่านี้แต่ก็ไม่เลวร้าย สั่งได้ปลาเค้าสดจริงๆ

ยำกระถินทะเล หมดก่อนเพื่อนๆ 555 ถ้าใครอยากสั่งอาหารประเภทยำอย่าพลาดจานนี้

ผักบุ้งไฟแดง ผัดได้โอเคระดับนึง ยังไม่ถึงกับว๊าวววววว 

จานสุดท้ายแกงส้มกุ้งผักรวม หม้อนี้ไม่โดนครับ ออกหวานไปหน่อยไม่ค่อยเปรี้ยว 







โดยรวมถือว่ารสชาติปานกลาง ราคาไม่แรง ถ้าใครพลาดร้านป้าเอื้อง ไม่รู้ไปไหนก็มาร้าน จิ๋ม-แดงได้ครับ เรื่องบรรยากาศดีกว่าร้านป้าเอิ้องแน่ แต่รสชาติไม่รู้เหมือนกัน อิอิ







อิ่มเสร็จมาถึงที่พัก 19.40 น.ระยะทาง 300 ก.ม.พอดี (ขับเลาะริมชายหาดประมาณ 3 ก.ม.)ก็มาอาบน้ำเล่นกันในสระส่วนกลางโซนผมมไม่มีแขกมาพัก เลยยึดสระว่ายน้ำซะเลย 555 เล่นน้ำเสร็จก็เข้าห้องใครห้องมัน

ตัดมาตอนเช้า ผมตื่นหกโมงเช้าเดินไปชายหาด ที่พักห่างจากชายหาดประมาณ 500 ม. (เป็นถนนลาดยางรถวิ่งสวนกันสองเลนส์) ตั้งใจจะมาถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น เจอสภาพฟ้ามืด ทะเลดำ ถ่ายรูปไม่เป็นเลย แต่ไหนๆก็เดินมาแล้ว ขอซะหน่อย
















เจ็ดโมงกว่าๆก็เดินกลับเข้าที่พักปรากฏว่าแม่ผมเล่นน้ำกับพี่เลี้ยงสองคน 555 ไม่รอกันเลย แปดโมงเช้าก็อาบน้ำแต่งตัวไปกินอาหารเช้าที่รีสอร์ท (ที่พักรวมอาหารเช้าให้ด้วย) เป็นไลน์บุฟเฟต์ ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรมากกะกินรองท้อง แต่ผิดคาดอาหารจัดไว้ดีมาก มีทั้งข้าวต้ม ขนมปัง เบคอน ลาซานญ่า ไส้กรอกทุกอย่างใช้อาหารมีคุณภาพไม่มีแป้งเลย เล่นซะอิ่มเลย 555 อาหารเช้ามื้อนี้ชมจากใจ ใช้ของดีกว่ารีสอร์ทแพงๆที่เคยพักอีก แถมมีให้เลือกเยอะด้วย ติดใจกันทั้งครอบครัว (ผมถ่ายรูปมาไม่หมดทุกไลน์นะ)

อิ่มเสร็จก็กลับมานอนพักเก็บของ 10.00 น.ก็ได้เวลาออกเดินทางกลับบ้าน จริงๆอยากจะพาไปดูบึงบัวที่ อช.สามร้อยยอดแต่หาข้อมูลบอกว่าตอนนี้บึงบัวตายหมด เลยแวะระหว่างทางไปเรื่อย แวะชะอำ ทะเลยังไม่ค่อยสวยเหมือนเดิมแถมนักท่องเที่ยวเต็มหาด ขับเลียบชายทะเลเส้นทางลัดไปออกพระรามสอง แวะไปทั่วครับ 

ถ่ายรูปที่ปึกเตียนหน่อย

ออกจากปึกเตียนมาถึงบางตะบูน เวลา 14.20 น.ระยะทาง 361 ก.ม. ก็แวะกินร้านประจำ เรือแลเล ก่อนข้ามสะพานบางตะบูน รสชาติจะมาตรฐานสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าอยากกินแบบรสชาติชาวบ้านก็ข้ามสะพานไปร้านจะอยู่ทางซ้ายมือมีหลายร้านผมเคยกินอยู่สองสามร้าน รสชาติดีทีเดียว แต่ครั้งนี้ขอแวะร้านเรือแลเลก่อนครับ ร้านจะอยู่ตีนสะพานขวามือ ถ้ามาจากปึกเตียน

สั่งอาหารไป 7 อย่าง

น้ำพริกผักชะครามลวก มีปลาทูทอด 3 ตัว จานนี้แม่ผมชอบมาก สั่งแบบไม่เผ็ดมากได้กะปิคลองโคนของแท้ ต้องสั่ง

ปูม้านึง 1 โล แกะมาให้เลยครับ สดมากหวานไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม กินแกล้มเบียร์ เด็ด







ปลาดุกทะเลผัดฉ่า ผัดได้ใจหอมกลิ่นเครื่องแกงมาแต่ไกล มีผมคนเดียวที่กิน 555 ผมชอบอ่ะ

ยำชะคราม ใส่กะทิโรยหน้า รสหวานมันกลมกล่อมจานนี้เด็ดสุด สมาชิกโหวตให้ 5 ดาว จานนี้หมดก่อนเพื่อน






หอยแมลงภู่ลวก สดมากแต่ตัวยังไม่ค่อยใหญ่ จิ้มกับน้ำจิ้มเคี้ยวหนุบหนับดีครับ

ต้มส้มปลากระบอก ออกหวานๆเปรี้ยว ต้มได้ใจมาก ปลาตัวใหญ่ยังคงความสดเหมือนเดิม หม้อนี้แม่ผมสดน้ำเกลี้ยงเลย

กุ้งอบหม้อดิน ให้กุ้งมาสองตัว ตัวใหญ่มากกกก แต่ผมไม่ได้ชิม แต่สมาชิกบอกว่าอร่อยดีแต่ยังไม่ถึงกับ 5 ดาว ให้เต็มที่แค่ 4 ดาวพอ







ราคารวมค่าน้ำ-ข้าว-เบียร์สิงห์ 2 ขวดทั้งหมด 1,575 บาทครับ สำหรับราคานี้ไม่ถูกไม่แพง รับได้ ถ้าเทียบกับร้านดังๆแถวหัวหิน-ชะอำ เหอๆๆ ไม่ต่ำกว่าสองพันแน่ครับ







อิ่มเสร็จออกจากร้านเวลา 14.20 น.กลับเส้นพระราม 2 แวะซื้อของไปเรื่อยข้ามสะพานพระรามสองแวะเข้าอัมพวา แม่ผมอยากไปเดิน อุทยาน ร.2 เจอรถติดตั้งแต่ตัวเมืองแม่กลอง พอไปถึงจะเลี้ยวเข้าอัมพวาแม่ผมหมดอารมณ์บอกอยากกลับบ้านแล้วเลยขับออกเส้นบางแพ นครปฐม นครชัยศรี บางบัวทอง พระรามห้า รถติดตั้งแต่นครปฐม กว่าจะมาถึงบ้านก็เวลา 18.25 น. จบทริปชิวๆกับครอบครัวแค่นี้ครับ

ขอลาด้วยภาพแม่ผมกับพี่เลี้ยง ที่ทะเลปึกเตียน ถ่ายโหมดขาวดำซะเลยไหนๆทะเลก็ไม่ใสแล้วนิ





สรุปค่าใช้จ่าย

วันแรก
- เติมแก๊สเต็มถัง 270 บาท
- ค่าตั๋วรถรางไฟฟ้าขึ้นเขาวัง 60x6 คนทั้งหมด 360 บาท
- น้ำดื่มข้างบน 2 ขวด 30 บาท
- ก๋วยเตี๋ยวร้านณาณา 400 บาท
- ขนมแม่ปิ่น 450 บาท
- ค่าเรือคลองเขาแดง 500 บาททิป 50 บาท รวม 550 บาท
- อาหารมื้อเย็น ร้านจิ๋ม-แดง 1,300 บาท
- ค่าที่พัก ซื้อในงานไทยเที่ยวไทย 3,996 บาท

วันที่สอง
- เติมแก๊สเต็มถังปราณบุรี 320 บาท
- อาหารมื้อกลางวันร้านเรือแลเล 1,575 บาท
- เกลือ 3 ถุง 90 บาท
- ปลาทู 300 บาท
- เติมแก๊สเต็มถังแม่กลอง 200 บาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 9,841 บาท

ระยะทางทั้งหมดตลอดทริป 593 ก.ม.