ผมขึ้นทางด่วนด่านงามวงศ์วาน –พระรามเก้า-มอเตอร์เวย์ แวะจุดจอดพักรถตรงมอเตอร์เวย์ยืดเส้นยืดสายหน่อย (ผมมาถึงจุดพักรถมอเตอร์เวย์ เวลา 09.03 นาที ระยะทาง 78.5 กม.) พักประมาณ 5 นาทีก็ออกเดินทางต่อไปลงทางด่วนบ้านบึง จ่ายตังค์ตรงด่านเสร็จชิดซ้าย ประมาณ 2 กม.จะมีป้ายบอกไปบ้านบึง จันทบุรี เลี้ยวซ้ายตามป้ายไป


ขับมาถึงแยกวังจันทร์ แวะปั๊มเข้าห้องน้ำแวะซื้อเสบียงนิดหน่อย พักรถประมาณ 10 นาทีก็ออกเดินทาง มาถึงแยกแกลงเวลา 10.49 น.ระยะทาง 200 กม. เลี้ยวซ้ายไปจันท์ขับตามป้ายไปเรื่อยๆมาถึงแยกเขาไร่ยา เลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองจันท์ ตอนแรกว่าจะเลยไปเที่ยวน้ำตกพลิ้ว ถามสมาชิกบอกหิวข้าวเลยเลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองจันท์ หาอะไรกินก่อน แวะกินข้าวร้านลูกแม่แจ่มนี่แหละ ร้านนี้เจ้าถิ่นแนะนำ ร้านจะเป็นตึกแถวอยู่ซ้ายมือถึงก่อนแยกตากสิน

ผมมาถึงร้านลูกแม่แจ่มเวลา 11.50 น.ระยะทาง 264 กม. จอดรถได้ก็เข้าไปสั่งอาหารกันเลยครับ


ร้านนี้เพิ่งมากินครั้งแรก อร่อยทุกอย่างเลย เจ้าถิ่นกระซิบบอกอย่างเขียร์มากเก็บร้านอร่อยๆไว้ให้เจ้าถิ่นกินบ้าง 

อิ่มเสร็จก็ขับออกจากร้านไปนิดเดียวก็ถึงแยกตากสิน เลี้ยวขวาไป อ.ท่าใหม่ ตรงไปตัวเมืองจันทบุรี ผมเลี้ยวซ้ายไปชุมชนริมน้ำจันทบูร จะผ่านศาลหลักเมือง ศาลพระเจ้าตากสิน ขับตรงไปจะเจอสามแยกขับตรงไปนิดเดียวก็จอดรถก่อนข้ามสะพานแล้วเดินเที่ยวในชุมชนริมน้ำได้ แต่ผมเลี้ยวขวาตรงสามแยกขับตรงไปเรื่อยๆจะมีทางเลี้ยวเข้าซอยทางซ้ายมือ ผมเลี้ยวเข้าไปจะมีลานจอดรถแต่เต็มเลยขับเข้าไปจอดในศาลเจ้าในชุมชนริมน้ำเลยครับ

ผมมาถึงชุมชนริมน้ำจันทบูรเวลา 12.28 น.ระยะทาง 264 กม.

จอดรถได้ก็พาแม่เดินเล่นในชุมชนริมน้ำแล้วเลยไปโบสถ์คริสต์ด้วยเลย

ตามป้ายไปเลยครับ


ข้ามสะพานนิรมล ก็จะไปโบสถ์คริสต์แล้วครับ (โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล )

บ้านเรือนริมแม่น้ำจันทบุรี


จะเป็นสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำจันทบุรีประมาณ 50 ม.จะเชื่อมย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองจันท์เรียกว่าท่าหลวงหรือชุมชนตลาดล่าง อันนี้จำไม่ค่อยได้แล้วครับ ถ้าขอมูลผิดต้องขออภัยด้วยครับ

ผมไปถึงก่อน 10 นาที โบสถ์ยังไม่เปิดก็เลยถ่ายรูปเล่นภายนอกโบสถ์ก่อน

ถ่ายด้านหลังบ้าง


บ่ายโมงตรงโบสถ์ก็เปิดให้เข้าไปชม

หลังจากชมโบสถ์คริตส์เสร็จก็กลับมาเดินเล่นที่ชุมชนต่อ

เดินได้หน่อยแม่ก็บอกอยากกลับไปนอนพักแล้ว ที่จริงชุมชนริมน้ำยังมีให้เดินชมอีกเยอะแต่แม่ผมคงเหนื่อย เลยกลับเข้ารีสอร์ทครับ ใครสนใจชุมชนริมน้ำ-โบสถ์คริสต์ ลองดูเวปนี้แล้วกันครับ คลิ๊กเลย


ผมออกจากชุมชนริมน้ำจันทบูรเวลา 13.40 น.ระยะทาง 264 กม. ออกจากที่จอดรถก็ขับตรงไปสุดถนนสามแยกตัวทีเลี้ยวซ้ายขับตรงไปผ่านศาลหลักเมือง ไปถึงสี่แยกตากสินขับตรงไปผ่านโลตัสตรงไปอีกเจอสี่แยกไฟแดงให้ตรงไปเส้นถนนพระยาตรัง จะมีป้ายบอกไป อ.ท่าใหม่ ขับตามป้ายไปเลยครับ ไปถึงท่าใหม่ จะมีป้ายบอกไปแหลมสิงห์ หาดเจ้าหลาว คุ้งวิมานก็ขับตามป้ายไปครับ

เวลา 14.27 น.ระยะทาง 295 กม.ก็มาถึงวงเวียนปลาพะยูน เลี้ยวซ้ายไปหาดเจ้าหลาวเลยครับ (รูปนี้ยืมมาจากทริปที่แล้วมาประกอบ)


จากวงเวียนหมูพะยูนขับประมาณ 2 กม.ก็มาถึงรีสอร์ทแล้วครับ

วันนี้ผมพักที่ หาดเจ้าหลาวคาบาน่า

จอดรถก็เข้าไปเช็คอินที่ประชาสัมพันธ์

รีสอร์ทจัดให้บ้านวิลล่าหลังที่ 508 เป็นบ้านเดี่ยวหนึ่งห้องนอน เตียงขนาด 5 ฟุต 2 เตียง หนึ่งห้องน้ำ อุปกรณ์พร้อม

ภายในห้องครับ มีน้ำเปล่าขวดเล็กให้ 4 ขวด สบู่ ยาสระผม ไดร์เป่าผม กระติกน้ำร้อน ทีวี 32 นิ้ว โต๊ะโซฟาข้างใน 1 ชุดและโต๊ะอาหารข้างนอก 1 ชุด ผ้าเช็ดตัวขนาดใหญ่และผ้าเช็ดหน้าครบคน ถือว่าสะอาดเลยครับ ตรงนี้ค่อนข้างพอใจ แต่ไม่ค่อยโอเค ถ้ามีสองห้องน้ำจะโอเคมากกว่านี้

มาดูส่วนของประชาสัมพันธ์กันบ้าง ตามรูปนั้นแหละ

ในส่วนของรีสอร์ทจะมีที่พักสามส่วน ไม่บอกดีกว่าใครสนใจก็เข้าไปชมในเวปเค้าได้ คลิ๊กเลย

ส่วนของห้องดีลักซ์

เดินไปด้านชายหาดจะเป็นสระว่ายน้ำ ใหญ่ดี ลึกมิดหัวผมว่ายได้จริง ส่วนสระเด็กก็มี ชอบตรงเป็นสระน้ำเกลือ

สระติดทะเลเลยครับ

ภายในรีสอร์ทก็มีมุมสำหรับเด็กและผู้ใหญ่เยอะเหมือนกัน

แนะนำรีสอร์ทแค่นี้แล้วกัน ไว้ค่อยมาใหม่

หลังจากเข้าพักเสร็จแม่ก็ไปเล่นน้ำกับพี่เลี้ยง ทั้งในทะเลและน้ำในสระ ส่วนผมเล่นน้ำกับแม่ในสระก็พอ เล่นได้ซักพักก็กลับเข้าไปนอนพัก


ประมาณห้าโมงเย็นก็ไปกินข้าว ไปกินที่ร้านเรือนริมน้ำ

พิกัด จากรีสอร์ท (หาดเจ้าหลาว) ให้เลี้ยวขวาขับตรงไปสะพานแขมหนู ขับตามทางไปซักพักจะมีป้ายบอกไป อ.ท่าใหม่ ให้เลี้ยวซ้ายเลย (มีป้ายบอกไปร้านเรือนริมน้ำด้วยครับ)พอเลี้ยวซ้ายขับตรงไปข้ามสะพานเลี้ยวซ้ายตามทางตรงไปนิดเดียวไม่ต้องเลี้ยวขวานะครับ ให้เลี้ยวซ้ายขับตรงไปเลย จนสุดถนนก็ถึงร้านเรือนริมน้ำแล้วครับ

วันนี้สั่งไป 6 อย่าง ปูนึง ปูผัดผงกระหรี่ กุ้งอบวุ้นเส้น ต้มส้มปลากระบอก ผัดผักรวมมิตร ปลาหมึกผัดน้ำปลา รสชาติทุกจานอร่อยกลมกล่อมดี กินกี่ครั้งก็ไม่ผิดหวัง


จานนี้แม่กับผมชอบมาก เอาไป 5 กะโหลก


แกงส้มปลากระบอก ไม่ได้ใส่พวกขิงเหมือนแถวภาคกลาง รสชาติคล้ายๆต้มยำ รสจัดจ้านมาก หม้อนี้ซดน้ำหมดหม้อเลยครับ

จานสุดท้ายปลาหมึกทอดน้ำปลา จานนี้เป็นเมนูแนะนำของร้านเลยครับ จานนี้ต้องสั่ง


ทั้งหมด 1,380 บาท ในบิลมีน้ำอัดลมเพิ่ม พอดีเด็กจดผิด เลยลดน้ำอัดลมไป 30 บาท


ทั้งอิ่ม ทั้งอร่อยกันถ้วนหน้า ก็ได้เวลากลับเข้าไปนอนพักที่รีสอร์ทแล้วครับ

ขากลับแวะเดินย่อยอาหารตรงสะพานแขมหนูก่อนเข้าที่พัก

เดินเล่นซักพักก็กลับเข้าที่รีสอร์ท อาบน้ำนอน เพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อ ตัดมาตอนเช้าเลยแล้วกัน

อาทิตย์ที่ 30 ส.ค.58

แม่ตื่นแต่เช้าชวนไปว่ายน้ำ เดินเล่นที่ชายหาด เช้านี้ทะเลไม่เป็นใจให้เล่นน้ำทะเล

เลยมานั่งชิงช้าชายหาดเล่นไป


เช้านี้มีนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นชายหาดเยอะเหมือนกันครับ

หลังจากเดินเล่นได้ซักพักประมาณเจ็ดโมงกว่าๆก็ไปกินข้าวที่รีสอร์ทครับ เป็นบุฟเฟ่ต์ แม่ชมว่าอาหารอร่อยทุกอย่างแต่ผมเฉยๆ (ราคาที่พักรวมอาหารเช้าด้วย)

อิ่มเสร็จก็เล่นกิจกรรมภายในรีสอร์ทซักพัก ก็ทยอยอาบน้ำเปลี่ยนชุดเดินทาง ทุกคนพร้อมก็ได้เวลาเดินทางไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วต่อ

ผมออกจากรีสอร์ทเวลา 10.14 น.ระยะทาง 316 กม.


จากรีสอร์ทเลี้ยวขวาวิ่งยาวไปทางแหลมสิงห์ ขับเลาะชายทะเลไป ดูป้ายไปแหลมสิงห์พอ ขับไปเรื่อยๆจนไปถึงสามแยกตรงไปเป็นศาลกรมหลวงชุมพร ผมเลี้ยวซ้ายจะข้ามสะพานตากสิน ขับไปตามทางเรื่อยๆจะไปออกสามแยกแหลมสิงห์ เลี้ยวซ้ายไปประมาณกิโลกว่าๆ จะเป็นทางเข้าน้ำตกพลิ้ว ขับไปอีกนิดเดียวก็มาถึงน้ำตกพลิ้ว (ข้ามสะพานตากสินจะมีที่เที่ยวตึกแดง คุกขี้ไก่ โอเอซิส ลองแวะดูครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=05-2014&date=04&group=19&gblog=11 )

ถึงน้ำตกพลิ้วเวลา 10.56 น.ระยะทาง 357 กม.


ผมขับเข้าไปยังหน้า อช.น้ำตกพลิ้ว ขับสุดถึงรูปข้างบนนั้นแหละครับ ให้แม่ลงก่อนแล้วค่อยขับลงไปจอดที่ลานจอดรถ เป็นของเอกชนนะครับ คิดคันละ 30 บาท ถ้าก่อนถึงจะมีอีกที่ค่าจอด 20 บาทแต่อยู่ไกล
ที่จอดรถกว้างขว้าง เดินไม่ไกลจาก อช.น้ำตกพลิ้วเท่าไหร่

จากปากทางจอดรถ อช.อยู่ไมไกลเลยครับ


เคยอ่านเจอจะมีพวกร้านค้าคอยดักให้เข้าไปจอดรถในร้านแล้วซื้อของในร้านตัวเองเยอะ หรือไม่ก็บังคับปิดทางให้เข้าไปจอดรถในที่จอดรถของตัวเองแล้วเก็บเงิน เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วครับ ถือว่าจัดที่จอดรถได้เป็นระเบียบพวกขวางทางไม่มีแล้ว แก้ปัญหาได้ดีเลย นอกเรื่องไปหน่อย 555

ผมจ่ายตังค์ค่าจอดรถเสร็จก็เดินไปซื้อบัตรเข้า อช.คนละ 40 บาท แม่ผมอายุเกิน 60 ไม่ต้องเสียค่าเข้า

ด่านจำหน่ายบัตรค่าเข้า อช.น้ำตกพลิ้ว

ผ่านประตู อช.มาได้ก็นั่งรถกอล์ฟขึ้นไปยังน้ำตก คิดคนละ 10 บาท รถกอล์ฟจะจอดตรงด่านเก็บบัตรเลยครับ สะดวกดีไม่ต้องเดินมาก


ใครจะเดินขึ้นมาก็ได้ครับ ร่มรื่น สองข้างทางจะเป็นต้นไม้ น้ำตกธรรมชาติมาก แต่พอดีมากับแม่ไม่อยากให้เหนื่อยมากเลยนั่งรถมาดีกว่า


รถจะมาส่งถึงเขตควบคุมอาหารและเครื่องดื่ม แล้วก็ต้องเดินลงไปน้ำตก ก่อนจะไปน้ำตกจะมีเจ้าหน้าที่อีกด่านนึงคอยดูแล ให้เอายางที่รัดถั่วฝักยาวออกหรือพวกอาหารต่างๆไม่ให้เข้าไปยังน้ำตก ถ้าใครซื้ออาหารมาก็ให้ฝากไว้ที่ล็อกเกอร์ตรงด่านนั้นได้เลยหรือจะเอาไปกินในศาลาแปดเหลี่ยมก่อนก็ได้

ศาลา 8 เหลี่ยม

ผ่านด่านมาได้ก็เดินลงไปน้ำตกพลิ้ว


พิระมิดพระนางเรือล่ม อลงกรณ์เจดีย์ (จุลศิรจุมพฏเจดีย์) และพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี โดยพิระมิดนี้ เป็นสถูปพระนางเรือล่มพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2424) เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี


อลงกรณ์เจดีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย พระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอัครมเหสี ได้โปรดปรานให้สร้างเจดีย์ทำด้วยศิลาแลงขึ้น ที่บริเวณหน้าผาด้านหน้า น้ำตกพลิ้ว เมื่อ พ.ศ. 2419 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาส น้ำตกพลิ้ว ด้วยกัน และพระราชทานนามว่า “อลงกรณ์เจดีย์” (นักประวัติศาสต์รค้นคว้าหลักฐานภายหลังพบว่าร.๕ ทรงพระราชทานนามว่า “จุลศิรจุมพฏเจดีย์” ซึ่งกรมศิลปากรได้ให้เปลี่ยนชื่อแล้ว) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรด น้ำตกพลิ้ว เป็นอย่างยิ่ง และได้เสด็จประพาสหลายคราว โปรดมาก ถึงกับมีพระราชดำรัสว่า “เราได้เห็นน้ำตกอย่างนี้มาสองสามแห่ง คือที่ปีนัง เกาะช้าง และสีพยา เห็นไม่มีที่ไหนจะงามกว่าที่นี่เลย ถ้าจะให้เรานั่งดูอยู่ยังค่ำก็แทบจะได้ด้วยเย็นสบายจริง”

สวยจังเลย

ได้เวลาลงไปเล่นน้ำตกแล้วครับ

ที่สำคัญอย่าลืมทำตามกฎของ อช.ด้วยนะครับ


เล่นได้ซักพักก็ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ เดินขึ้นจากน้ำตกรถกอล์ฟขึ้นมาส่งนักท่องเที่ยวพอดี เลยนั่งลงกอล์ฟให้ไปส่งที่ลานจอดรถ

ผมออกจากน้ำตกพลิ้วเวลา 12.17 น.ระยะทาง 357 กม. ออกมาปากทางน้ำตกผมเลี้ยวซ้ายมากลับรถตรงสามแยกแหลมสิงห์ ขามาเห็นร้านข้าวแกงป่าคนเยอะมากเลยแวะมากินข้าวเที่ยง พอจอดรถลงไปดูอาหารแล้ว แม่ผมบอกไม่น่ากิน เลยขับมาหน่อยแวะซื้อของฝากร้านแม่วรรณานิดนึง


ได้ของมานิดหน่อย ก็ขับกลับไปเรื่อยๆ หาร้านอาหารกินไป จนแม่ทนไม่ไหวบอกหิวแล้ว 555 มาถึงพลับพลาเจอศูนย์อาหารวรรณการเลยแวะกินแถวนี้ เข้าไปถูกใจแม่ผมครับ มีอาหารให้เลือกหลายอย่างที่สำคัญถูกดี


ผมออกจากศูนย์อาหารวรรณการ(ต.พลับพลา)เวลา 13.30 น.ระยะทาง 376 กม. ขับไปนิดเดียวเลี้ยวซ้ายตรงแยกปากแซงแวะซื้อของฝากร้านต้นตำหรับอีกนิดหน่อย

ของผมก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์


ผมออกจากร้านต้นตำหรับเวลา 13.46 น.ระยะทาง 377 กม. ก็ยิงยาวกลับบ้าน แวะปั๊มตลอดทาง ถนนค่อยข้างแย่มีดีเป็นบางช่วง ก็ขับเฉิ่มๆไปเรื่อยๆไม่รีบ ใช้เส้นทางเดิมครับ มาขึ้นมอเตอร์เวย์ลงด่านงามวงศ์วานผ่านศาลากลางนนท์เข้าบ้าน เป็นอันจบทริปสบายๆ (ระหว่างทางไม่เจอฝน มาเจอฝนตกหนักที่นนท์)

ผมมาถึงบ้านเวลา 18.01 น.


ระยะทาง 643 กม. ส่วนน้ำมันก็เหลือตามรูปนั้นแหละครับ 


สรุปเดินทางทั้งหมด 643 กม.

- จากนนทบุรีถึงแยกแกลง 200 กม.

- จากนนทบุรีถึงแยกเขาไร่ยา 249 กม. (แยกเข้าตัวเมืองจันทบุรี)

- จากชุมชนริมน้ำจันทบูนถึงวงเวียนปลาพะยูน 29 กม.

- จากรีสอร์ทถึงร้านเรือนริมน้ำ 9 กม.

- จากรีสอร์ทถึงน้ำตกพลิ้ว 41 กม.

- จากน้ำตกพลิ้วถึงแยกปากแซง 20 กม.

- จากน้ำตกพลิ้วถึงนนทบุรี 266 กม.

สรุปค่าใช้จ่าย

วันเสาร์ที่ 29 ส.ค.58

- ค่าที่พัก 3,200 บาท (ใช้ Voucher 2 ใบ)

- น้ำมันดีเซลเต็มถัง 1,260 บาท ( เติม 56.03 ลิตร ลิตรละ 22.49 บาท )

- ค่าทางด่วนขาไป 145 บาท (ด่านงามวงศ์วาน 60 บาท - ด่านพระรามเก้า 25 บาท-มอเตอร์เวย์ รับบัตรด่านลาดกระบัง จ่ายเงินด่านพานทอง 60 บาท)

- เติมบัตร Easy Pass ด่านงามวงศ์วาน 1,000 บาท

- ซื้อขนม+เครื่องดื่ม 7/11 ปั๊ม ปตท.วังจันทร์ 153 บาท

- อาหารมื้อกลางวันร้านลูกแม่แจ่ม 380 บาท

- น้ำสำรอง ตลาดชุมชน 5 ขวด 58 บาท

- อาหารมื้อเย็น ร้านเรือนริมน้ำ 1,380 บาท

วันอาทิตย์ที่ 30 ส.ค.58

- ค่าจอดรถน้ำตกพลิ้ว 30 บาท

- ค่าเข้า อช.น้ำตกพลิ้ว 120 บาท (คนละ 40 บาท *3 คนแม่ผมอายุเกิน 60 เข้าฟรี)

- รถกอล์ฟจากด้านหน้าไปยังศาลาแปดเหลี่ยม 40 บาท (คนละ 10 บาท)

- ถั่วฝักยาว 1 กำ 40 บาท

- ผลไม้รถเข็นมะม่วง+ชมพู่อย่างละ 1 ถุง 50 บาท

- รถกอล์ฟขากลับจากศาลา 8 เหลี่ยมถึงที่จอดรถ 40 บาท (คนละ 10 บาท)

- ค่าห้องน้ำ เปลี่ยนชุดที่ลานจอดรถ 2 คน 10 บาท

- ผลไม้ของฝากร้านแม่วรรณา แหลมสิงห์ 280 บาท ( *สละ 3 โล 100 บาท,*สละ 6 โล 100 บาท,

*ลองกอง 4 โล 80 บาท)

- ข้าวมื้อเที่ยงศูนย์อาหารพลับพลา 272 บาท (*ข้าว 215 บาท,*น้ำขวดใหญ่+น้ำแข็ง 4 แก้ว 17 บาท,*ขนม 20 บาท,*กล้วย 20 บาท)

- ของฝากร้านต้นตำหรับแยกปากแซง 480 บาท (*เส้นจันผัดมันปูสำเร็จรูป 1 ถุง 100 บาท,*พริกไท 1 ถุง 55 บาท,*พริกไท 3 ขวด 105 บาท,*กุ้งแห้ง 220 บาท)

- มังคุด 100 บาท

- ค่าทางด่วนขากลับ 145 บาท (*มอเตอร์เวย์รับบัตรด่านพานทอง จ่ายด่านลาดกระบัง 60 บาท,*ด่านพระรามเก้า 25 บาท,*ด่านอโศกสี่ 50 บาท,*ด่านงามวงศ์วาน 10 บาท)


รวมทั้งหมด 9,183 บาท