==== ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นสามี และ เป็นพ่อให้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นเมื่อวาน ====
Group Blog
 
All Blogs
 
งานวิศวกรสนาม (field engineer) ... เขาสัมภาษณ์อะไรกันนักกันหนา - ตอบอย่างไรให้โดนใจ update 15/1/13

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า

1. ไอ้กระพ้มไมได้มีพื้นเพทำเลที่ตั้งที่มาจากฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคลากรแต่อย่าใด ที่จะเล่าแลกเปลี่ยนกันฟังเนี่ยเป็นประสบการณ์จากรอยหยักในกระโหลกกระพ้มล้วนๆไร้กระบวนท่าไร้หลักวิชาใดๆโดยสิ้นเชิง ผิดถูกอย่าไรก็ขึ้นกับว่าจะเอาอะไรมาวัด ผมบอกได้แต่ว่าผมได้ยินมาอย่างนี้ เห็นมาอย่างนี้ เข้าใจมันอย่างนี้ แล้วก็เอามาปันกัน

2. "โธ่ ... คุยกันแค่ 30 นาที จะมาตัดสินผมได้ไง" ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อในระบบ "สอบแข่งขัน" ทุกประเภท ไม่ว่าสอบข้อเขียนธรรมดาๆ สอบปฏิบัติ สอบความถนัด สอบวัดทัศนคติ และ อีก ฯลฯ สารพัดสอบ กาลเวลาผ่านไปเนิ่นนาน นานพอที่จะทำให้ผมตระหนักดีว่า ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง (เช่น เวลา และ ทรัพยากร) สังคมมนุษย์ ยังไม่สามารถหาวิธีการคัดเลือกใดได้ดีและมีประสิทธิผล+ประสิทธิภาพ ไปกว่า "การสอบ" ดังนั้น เพื่อ(อยากจะมี)สุขภาพจิตที่ดีกับเขาบ้างก็เลยปลงๆเลยตามเลยไปกับการรับว่าการสอบเป็นวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่มีในปัจจุบัน ตามข้อจำกัดของเวลาและทรัพยากร

3. ผมก็มีประสบการณ์อยู่แต่กับงานสนามในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมต้นน้ำ สิ่งที่ผมเล่าสู่กันฟังก็จะวนเวียนอยู่ในบริบทนี้ ซึ่งอาจจะไม่จริงกับงานอื่นๆอีกหลายงาน ก็อย่าเพิ่งชูจั๊กแร้ประท้วงก็แล้วกันครับ

4. ผมจะเล่าแบบลูกทุ่งๆนะครับ ใช้ศัพท์แสงทางวิชาการเท่าที่จำเป็น ท่านที่จบทางด้านบริหารทรัพยากรมนุษย์ผ่านมาอ่านแล้วอย่าเพิ่งคันไม้คันมือกระทุ้งพุงกะทิผมนะครับ



เอาว่าเกริ่นมาพอแล้ว เข้าเรื่องของเราดีกว่า ...

เรามองหาอะไรบ้างในวิศวกรที่จะมาทำงานสนาม เราก็จะเขียนออกมาเป็นข้อๆ ให้น้ำหนักแต่ล่ะข้อแตกต่างกันไปในรายละเอียดของแต่ล่ะงาน เสร็จแล้วในแต่ล่ะหัวข้อเราก็มาหาตัวชี้วัดที่เป็นมาตราฐาน ถ้ามีเราก็ใช้ตัวชี้วัดนั้น ถ้าไม่มีเราถึงจะใช้วิธีสัมภาษณ์หรือถามกันดื้อๆ แต่ถ้าถามกันตรงๆดื้อๆคนโดนถามก็ตอบเอาใจได้นี่หว่า ... จริงป่ะ มันก็ต้องถามอ้อมๆ ... พอดีพอร้ายอ่านมาถึงตรงนี้ก็งงเต็กพอดี งั้นมาดูตัวอย่างดีกว่า

1. ภาษาอังกฤษ - อันนี้ใช้แน่ชัวร์ๆแต่ล่ะลักษณะงานก็ใช้มากน้อยแตกต่างกันไป น้ำหนักที่ให้ก็แล้วแต่ลักษณะงาน เช่น 10% 20% 30% อะไรก็ว่าไป ตัวชี้วัดที่เป็นมาตราฐานใช้กันก็ TOEIC (กูเกิลเอาเองว่าคืออะไร) แต่ส่วนมากก็ใช้ดูกันในขั้นตอน CV คือก่อนเรียกมาสัมภาษณ์ ขั้นสัมภาษณ์เราก็มักจะยืนยันกันอีกทีโดยการให้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสัก 5-10 นาที ซึ่งตรงนี้ไม่ได้ดูว่าภาษาอังกฤษคุณดีแค่ไหน แค่ดูว่าคุณเตรียมตัวมาหรือเปล่า เพราะผู้มาสัมภาษณ์ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องมีซ็อตนี้ สำหรับคนที่จะพูดไม่คล่อง ส่วนมากก็ท่องกันมาเลย ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร อย่างน้อยก็แปลว่าฉันเตรียมตัวมาอย่างดี ก็ได้คะแนนเตรียมตัวไป

ถ้าครบ 5-10 นาทีที่ปล่อยให้คุณเจื้อยแจ้วแล้ว เราดูออกทันทีว่าคุณท่องมา ก็ได้คะแนนความตั้งใจไป 3 (เต็ม 5) แต่ถ้าดูออกว่าเตรียมมาและพูดได้บ้างก็เอาไป 2 แต่ถ้าฟังแล้วรู้เลยว่าพูดไม่ได้แล้วยัง(ทะลึ่ง)ไม่ได้เตรียมท่องมา เอาไปเลย 1 เพราะโดน 2 เด้ง คือ รู้ทั้งรู้ว่าไม่คล่อง โดนให้พูดแน่ๆ แต่ยังไม่เตรียมมา ส่วนมากเราก็จะจบภาคเจื้อยแจ้วภาษาฯกันแค่นั้น ยกเว้น ในช่วง 5-10 นาทีนั้น คุณทำให้เรารู้สึกว่า เอ๊ะ มันพูดได้จริงๆนี่หว่า คือพูดได้แบบไม่ได้ท่อง เราก็จะสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษต่ออีกสัก 10 นาที เพื่อที่จะดูว่าคุณน่าจะได้ 4 หรือ 5 เต็มไปเลย

จะเห็นว่าเนื้อหาที่จะพูดไม่ได้สำคัญอะไรเลย แต่ถึงงั้นก็ตามก็อย่าท่องให้มันหน่อมแน้มแบบ My house is big. It is green. I have a dog. I have a cat ไปจนถึง I am เอ๊ย I have a buffolo ก็แล้วกัน ตรงนี้คนมักกลัวกันเยอะ ผมอยากจะบอกว่าเราไม่ได้คาดหวังคนที่พูดเป็นพูดเก่ง เราคาดหวังว่าคุณเตรียมตัวมาอย่างดีและกล้าพูดก็พอแล้ว ที่เหลือเราก็ไปฝึกฝนกันเอาได้ทีหลัง



2. ผลการศึกษา (academic result) เนื่องจากเด็กใหม่ หรือ ผู้ที่ทำงานมาไม่นาน (1-3ปี) ก็ไม่รู้จะดูผลงานยังไงส่วนหนึ่งก็เอา GPA มาดู แต่ขั้นตอนนี้อยู่ก่อนขั้นตอนเรียกมาสัมภาษณ์ ถ้า GPA คุณไม่ถึงตามที่บ.นั้นๆกำหนดคุณก็ไม่ได้มานั่งให้สัมภาษณ์อยู่แล้ว ดังนั้น ขั้นตอนสัมภาษณ์ในส่วนนี้ก็จะเป็นเพียงยืนยันอีกที นัยว่าไม่ได้ซื้อปริญญาหรือลอกข้อสอบจบมา อันนี้ง่ายครับ พวกเราก็ถามตรงๆถึงวิชาหลักที่คุณได้เกรดสูงๆ สัก 2-3 คำถาม ก็พอเห็นกึ๋นแล้วว่าคุณมีมาโชว์ไหม ถ้าคุณเรียนจริง จบจริง ได้เกรดสูงๆตัวนั้นมาจริง ก็ไม่ต้องห่วงอะไร ชิวๆ

3. สุขภาพ - คงไม่ต้องบอกว่าสำคัญอย่างไรกับงานสนาม พวก 3 วันดี 4 วันเกาไข่ เอ๊ย 4 วันไข้ ออกไปทะเล เข้าไปในป่า มันก็หาหยูหายากลับมาหาหมอได้ไม่สะดวกทันใจเหมือนไปหาหมอหน้าปากซอย เราไม่ได้ต้องการหุ่นล่ำบึ๊กอะไรหนักหนา ว่ากันเฉลี่ยๆทั่วๆไปไม่มีโรคภัยไไข้เจ็บที่เป็นอุปสรรคก็พอ อันนี้ว่ากันตามโหง้วเฮ้งเลยครับ ดูด้วยตาก่อนเลย ถ้าถามตรงๆคุณก็ตอบว่าสุขภาพแข็งแรงดี ถามอ้อมบ้างตรงบ้างตามสไตล์แต่ล่ะคน

อย่างตาบอดสีไหม ทาง HR มักจะตรวจสอบให้ก่อนแล้ว ไม่ได้แปลว่าบอดสีแล้วทำไม่ได้ บางงานสนามก็ได้ บางงานก็ไม่ได้ ต้องว่าเป็นงานๆไป มีประวัติเจ็บป่วยร้ายแรง ลมชัก ผ่าตัดกระดูก กล้ามเนื้อ อะไรใหญ่ๆอะไรไหม รอบ 5 ปีที่ผ่านมา เคยขึ้นเขียงให้หมอผ่าตัดอะไร ฯลฯ ผมแนะนำว่าอย่าโกหก บอกไปตามจริง เพราะอย่างไร ก็ต้องไปผ่านการตรวจละเอียดจากรพ.อีกทีอยู่ดี น้ำหนักเกินมากๆไหม บางคนเดินมานี่รู้เลยว่าส่งขึ้นแท่นไม่ได้แน่ๆ พวก (BMI > 35 - เอานน.เป็นกก.ตั้งหารส่วนสูงเป็นม.ยกกำลังสอง เช่น สูง 176 ซม. หนัก 76 กก. BMI = 24.45, BMI = Body Mass Index) ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มนี้ แนะนำให้ไปลดมาก่อน หรือพวกที่ผอมมากๆ BMI < 15 ก็ไปด๊วบมาก่อน เอาให้พ่วงพี ค่อยมาสมัคร

แต่พวกโรคประจำตัวแบบภูมิแพ้ที่กินยาประจำแบบนี้ไม่เป็นไร เป็นกันเยอะ ผมก็เป็น แต่ถ้าลมชักนี่ ต้องขอไว้ก่อนนะ ส่วนพวก home sex เอ๊ย home sick ง่ายนี่ก็ม่ายเอา ไปนั่งซึมกระทือ บนแท่นเป็นซากศพเดินได้ นี่ขอนะครับ มีน้องผู้หญิงคนนึงที่รู้จักกัน หน้าตาสะสวย เป็นวิศวกรสนามอยู่บ.serviceหญ่ายบ.นึง ไถ่ถามว่าทำไมหลุดมาทำงานแบบนี้ เธอตอบว่าหนีแฟนค่ะพี่ หนูบอกเลิกมันแล้วมันไม่ยอมเลิก (แหม เป็นพี่พี่ก็ไม่ยอมเลิก ออกสวยหมวยเอ๊กซ์ซะ ฮ่าๆ) หนูเลยสมัครไปคองโกมันซะเลย แฟนเก่าหนูตามไปไม่ได้แน่ๆ (ฮ่า - ดูมัน) - ปล. คองโกเป็นประเทศยากจและกันดารมากๆในแอฟริกาครับ



4. สามารถทำงานแบบกะได้ไหม - ดูเหมือนทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามาทำงานสนามแบบนี้ต้องทำแบบกะ หมายถึงอยู่แท่นติดต่องกันช่วงเวลาหนึ่งแล้วพักช่วงเวลาหนึ่ง เช่น 21/21 (ทำ 21 วัน พัก 21 วัน) แปลกแต่จริง บางคนมารู้ว่าตูต้องทำแบบนี้ตอนมาสัมภาษณ์ เราก็มักจะถามกันเหนียวไว้ก่อน โดยมากจะตอบว่าได้ แต่จะได้จริงหรือเปล่า เราก็ถามอ้อมๆกันต่อไป เช่น พ่อแม่มีลูกกี่คน อายุเท่าไร ทำอะไรบ้าง ใครส่งใครเรียน ใครมีภาระอะไร มีแฟนหรือยัง คบกันนานไหม ทะเลาะกันบ่อยไหม แต่งงานหรือยัง มีลูกกี่คน อายุเท่าไร อยู่กับใคร คำถามเหล่านี้ มักจะโดนมองว่าละลาบละล้วง แต่เรามองข้ามช๊อตไปต่างหาก คือเราดูความน่าจะเป็นที่จะมีปัญญหาในอนาคต เพราะวันนี้อาจจะไม่มี แต่วันหน้าถ้ามีปัจจัยเสี่ยงเราก็จดๆเอาไว้ อาจจะไม่ถึงกับเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตาย แค่ตั้งข้อสังเกตุไว้เฉยๆ

5. เวลาเครียด ผ่อนคลายยังไง - เนื่องจากหน้างานมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากมาย ความเครียดย่อมมีมากเป็นธรรมดา เราต้องการคนที่มีสุขภาพจิตปกติ คนปกติจะมีวิธีผ่อนคลายความกดดันความเครียดที่แตกต่างกัน แปลกแต่จริงอีกที่ผมเจอคนที่ตอบว่า ไม่มีงานอดิเรก ไม่มีวิธีคลายความเครียดเป็นพักๆ (คนอย่างนี้ก็มีด้วย) คนที่ไม่มีงานอดิเรก ไม่มีวิธีระบายความเครียด ในความเห็นผม ไม่ควรไปทำงานที่ต้องรับความกดดันและห่างไกล



6. สิ่งที่ผมเรียกว่า "สามัญสำนึกทางวิศวกรรม" - คำนี้ผมบัญญัติขึ้นเอง อันนี้ไม่เกี่ยวกับเกรด คนเก่งๆเกรดสูงๆม.ดังๆตกม้าตายเรื่องนี้มานักต่อนักแล้ว ผมแปลของผมเองมาจากคำว่า engineering common sense ครับ ยกตัวอย่างง่ายๆสัก 2-3 คำถามนะครับ หิ้วถังปริมาตรของเหลวเท่ากัน ถังนึงเป็นน้ำ ถังนึงเป็นน้ำมัน อีกถังนึงเป็นน้ำเชื่อม หิ้วถังไหนขึ้นกระไดเหนื่อยมากกว่ากัน เพระาอะไร หรือ น้ำแข็งลอยน้ำอยู่ในแก้ว พอละลายหมดแล้ว ระดับน้ำในแก้วเพิ่มหรือลดลงหรือคงที่ เพราะอะไร อะ อีกคำถามนึง ทำไมเข็นรถเข็นผักในตลาดใช้แรงมากกว่าลาก(รถเข็นผักคันเดียวกันนั่นแหละ) แล้วทำไมในตลาดที่ซอกแซกจอแจเขามักเข็นมากกว่าลาก แต่พอที่โล่งๆจะลากมากกว่าเข็น มีอีกสารพัดคำถาม ผมมีเป็นสิบๆคำถาม คำตอบนั้นง่ายๆแต่อาศัยหลักวิศวกรรม ทั้งกลศาสตร์ของแข็ง ของเหลว เคมี เทอร์โม ไฟฟ้า ฯลฯ ไม่ต้องเก่งมากมายก็ตอบคำถามพวกนี้ได้ครับ ขอแค่รู้จักมองอะไรๆรอบๆตัวแล้วหัดตั้งคำถามแล้วพยายามหาคำตอบตามหลักวิศวกรรม ผมก็มักเลือกคำถามที่ตรงกับสาขาที่จบหรือเกรดตัวที่ได้สูงๆของผู้สมัคร

คุณอาจจะเกี่ยงว่าไม่แฟร์ เพราะแต่ล่ะคนจบมาต่างสาขา แต่ผมมองว่า เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องพื้นฐานวิศวกรรมปีหนึ่ง หรือแม้แต่ฟิสิกส์ ม. 4-5-6 ซึ่งคนจบสายวิทย์ทุกคนรู้หลักการพวกนี้อยู่แล้ว เช่น มีใครที่เรียนวิศวกรรมศาสตร์แล้วไม่รู้จัก กฏ 3 ข้อของนิวตันบ้าง (เด็กม 4 ยังรู้เลย) ถามว่าจำเป็นอย่างไรกับการเป็นวิศวกรสนาม วิศวกรสนามต้องประยุกต์ใช้วิศวกรรมศาสตร์ได้ทุกสาขา อย่างน้อยในด้านพื้นฐาน ในการแก้ปัญหาสารพัดที่ประเดประดังเข้ามาทุกวัน บางทีผมก็ด้นคำถามสดๆดูจากประวัติการทำงาน วิทยานิพนธ์ วิชาที่ได้เกรดเอ ของคุณนั่นแหละ

เช่นมีตัวอย่างนึง ผู้สัมภาษณ์เป็นวิศวกรเครื่องกล เกรดสูงทีเดียว จากม.ชื่อดังเสียด้วย ที่บ้านเป็นร้านวัสดุก่อสร้างทุกอย่าง ถามว่าเคยช่วยที่บ้านขายของหยิบของไหม ตอบว่าบ่อยครับ ตั้งแต่เล็กๆเลยครับ ผมอมยิ้มเลย เพราะมีอะไรให้ถามเพียบ ผมถามต่อว่า เคยหยิบดอกสว่านขายไหม ตอบว่าเคยครับ มีกี่ประเภท อันนี้ผู้สมัครตอบได้ พอถามว่า ให้หลับตาหยิบดอกสว่านประเภทใดประเภทหนึ่ง หยิบได้ไหม อันนี้เริ่มอึกอัก ถามต่อว่า งั้นเอางี้ บอกได้ไหมว่าดอกสว่านทั้ง 3 ประเภท ต่างกันอย่างไรโดยดูจากภายนอก หรือ หลับตาคลำ คราวนี้เดี้ยงเลย ผมก็เฉลยว่าต่างกันอย่างไร หลับตาคลำก็รู้ ผมถามต่อว่า ทำไมมันต่างกันแบบนั้น มันมีเหตุผลทางกลศาสตร์ หรือวัสดุศาสตร์ อย่างไร เด็กปีหนึ่งก็รู้ (ถ้ามันตั้งใจเรียนและทำแล็ป) คราวนี้จอดสนิท

แถมอีกตัวอย่างนึง จบวิศวกรรมเคมี เกรดธรรมดาๆ ม.ไม่ได้มีชื่ออะไร ฐานะไม่ค่อยดีต้องช่วยแม่ขายข้ามมันไก่ ข้าวหมูแดง แต่เล็ก แต่เธอ(ผู้หญิง)เฉียบมาก ถามเรื่องเคมีอะไรในครัว เธอตอบได้หมดตามหลักเคมี
ได้ถูกต้องและเหตุผลดีมาก เช่น ผมชวนคุยเรื่องขั้นตอนการต้มไก่ทำข้าวมันไก่ แล้วถามว่า ทำไมต้องใส่เกลือตอนนั้น ใส่ก่อนได้ไหม ใส่หลังได้ไหม เพราะอะไรถึงไม่ได้ แยกไข่ดิบจากไข่ต้มอย่างไร แยกไข้ดีกับไข่เหน่า เพราะอะไร (ต้องถามว่าเพราะอะไรเสมอ เพราะหลายคนสักแต่รู้ว่าทำยังไงแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร) ทำไงหั่นหอมแดงถึงไม่แสบตา เพราะอะไร ทำไมไฟสีนึงร้อนกว่าอีกสีนึง แล้วไฟสีไหนร้อนที่สุด เกิดอะไรขึ้นถ้าบีบมะนาวใส่ไข่ขาว ฯลฯ เธอตอบได้เกือบหมด ซึ่งคำถามผมไม่มีในหนังสือ หรือ text book (แบบตรงๆ) ผมมีคำถามวิทยาศาสตร์ก้นครัวแบบนี้เพียบ 70% ที่ผมถาม เธอตอบได้ ผมถือว่าเยี่ยมแล้ว ดูแล้วไม่เข้ากับเกรดทางวิชาการเธอเลย แต่ไหวพริบดีมาก

มีบางคนอาจจะแถว่า ก็ผมเข้าใจ ทำได้ นี่ครับ แต่ไม่ถนัดอธิบาย อธิบายไม่เก่ง พูดไม่เป็น งั้นคุณก็เป็นวิศวกรสนามไม่ได้อีก เพราะคุณต้องมีลูกน้อง คุณต้องอธิบายลูกน้องได้ สอนลูกน้องได้ (coaching) คุณต้องสื่อสาร อธิบาย กับลูกค้า หรือ ผู้รับเหมาได้ (communication) ถ้าเป็นแต่ทำก็จบ รับมาทำคุณก็ไม่ก้าวหน้าไปไหน คือมันต้องประกอบๆกันไปน่ะครับ

นี่ครับ คลิ๊กเลย ผมเพิ่งไปสร้างบล๊อกใหม่ต่างหากเกี่ยวกับคำถามที่ผมชอบถาม ==> ฟิสิกส์ และ เคมี ของเด็กม.ปลาย ที่ผมชอบเอามาสัมภาษณ์งานวิศวกรสนาม ... (ถ้าคุณแน่อย่าแพ้เด็กม.ปลาย)



7. ความเป็นผู้นำ - ค้นคว้าได้จากใบสมัครงานที่คุณกรอกนั่นแหละครับ ว่าคุณเคยทำ เคยเป็นผู้นำอะไรบ้าง ทั้งในหลักสูตรและนอกหลักสูตร ถามๆไปเรื่อยๆก็พอเดาได้ว่าคุณเคยทำเคยเป็นผู้นำจริงๆไหม

8. ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า - เหมือนความเป็นผู้นำครับ ถามเอาจากที่คุณกรอกในใบสมัครงานนั่นแหละ หรือบางทีผมก็อาจจะถามคำถามยากๆ หรือออกอาการ(เล่นละคร) ดูถูกหรือ ทำให้คุณรู้สึกแย่ หรือโกรธ แล้วดูว่าคุณจะจัดการกับสถานการณ์อย่างไร นิ่งแค่ไหน มีสติแค่ไหน หรือ สะกิดหน่อยหน้าแดงเป็นกวนอู

9. คิดจะเรียนต่อไหม เมื่อไร อย่างไร - คิออย่างไรก็ตอบไปอย่างนั้นก็แล้วกันครับ ไม่มีถูกไม่มีผิด แต่ที่ปลอดภัยที่สุด (ในสายตาผม) คือ ตอบแบบแทงกั๊ก เพราะตอบว่าไม่ก็เหมือนกับไม่รู้จักพัฒนาตัวเอง ตอบว่าใช่ก็เหมือนกับว่าเดี๋ยวอยู่ไม่นานบ.ก็ต้องเสียเวลาหาคนใหม่

10. คิดอย่างไรกับการเป็นลูกจ้างบ.ต่างชาติ (กรณีบ.ต่างชาติ) หรือ ทำใจได้ไหมกับการทำงานในบ.แบบไทยๆ (กรณี บ. ไทยๆ) - ข้อนี้ผมแนะนำให้ตอบเป็นกลางๆไว้ดีครับ เราไม่ต้องการคนที่สุดขั้วสุดโต่ง คนแบบนี้อันตรายต่อการทำงานในที่ห่างไกล มักจะทำอะไรแผลงๆโดยขาดความยั้งคิด ทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสียในตัวของมันเอง วิธีตอบที่ปลอดภัยที่สุดคือ ตอบว่า ข้อดีคือ 1-2-3... ข้อที่น่าห่วงคือ 1-2-3... (อย่าพูดว่าข้อเสีย หัดเป็นนักการทูตหน่อย) แต่โดยรวมๆแล้วผมคิดว่าผมน่าจะเหมาะสมกับบ.นี้ ฯลฯ (อะไรก็ว่าไป)

11. ทำการบ้านเกี่ยวกับบ.ที่มาสมัครไหม - อันนี้สำคัญครับ เพราะแสดงถึงความใส่ใจ เตรียมพร้อม หลายคนทำให้ผมประทับใจในส่วนนี้ เพราะแหล่งข้อมูลมากมายสมัยนี้ ตลาดหลักทรัพย์ (ถ้าบ.จดทะเบียน) กูเกิล เว็บบอร์ดต่างๆ เพื่อนฝูง ฯลฯ บางคนทำการบ้านมาดีมาก แต่บางคนก็แหม มันจะไม่รู้อะไรขนาดนั้น เผลอคิดไปว่า เคยอ่านหนังสือพิมพ์ฟังข่าวบ้างไหม เพราะคนเราน่ะ พรสวรรค์มันแข่งกันยาก แต่พรแสวงมันหัดกันได้นะครับ

12. ทำงานแบบมื้อเปื้อนขี้โคลน ลุยขี้ดินคลุกฝุ่น ได้ไหม - ที่ภาษาเราๆเรียกว่าทำงาน hand on ได้ไหม ไม่ใช่ว่าอธิบายเป็นตุเป็นตะว่าเลื่อยนี้ใช้ยังไง เลื่อยอะไรยังไงเพราะอะไร แต่พอให้ลงมือทำ ชักขึ้นสองทีกดลง 3 ที ใบหักป๊อก อย่างนี้ไม่เท่าไร เพราะไม่มีใครเป็นอะไรมาแต่เกิด สำคัญคือคุณเคยทำอะไรทำนองนี้มาก่อนไหม เราก็มักถามๆตรงๆแล้วค่อยถามลงลึกไปอีกทีว่าที่ว่าเคยทำนะจริงไหม ซึ่งก็ไม่ยากอะไร เช่นมีคนนึงบอกว่าที่บ้านเป็นอู่ซ่อมรถ ช่วยคุณพ่อถอดประกอบรถประจำ แต่พอถามไปถามมา ปรากฏว่า ได้แต่ยืนดู เพราะดันตอบไม่ได้ว่าเอาแม่แรงอะไรยังไงยกรถยังไง ขั้นตอนเป็นไง ประแจอะไรใช้กับงานแบบไหน หน้าตาเป็นอย่างไร และอีกหลายๆคำถามที่ลูกมือช่างอู่รถควรรู้

อย่าลืมว่า การสัมภาษณ์นี้เป็นแบบรุมสกรัม และเกทับปลั๊ฟแหลก พูดง่ายๆคือไม่แฟร์นั่นแหละครับ คุณโดนรุมอยู่คนเดียว เขารู้อะไรหรือไม่รู้อะไรเราก็ไม่รู้ แต่เรารู้อะไรหรือไม่รู้อะไรเขารู้หมด (ฮ่าๆ) คือรู้เราไม่รู้เขานั่นแหละครับ ทำไงได้เนอะ ชีวิตมันก็งี้แหละครับ บางทีบางเรื่องผมก็ไม่รู้ แต่แกล้งบลั๊ฟว่ารู้ ดูซิว่าคุณจะหมอบไหม ก็มีนะที่มีผู้สมัครจับได้ว่าผมหรือคณะกรรมการบางท่านเล่นเกมบลั๊ฟแบบนี้ เพราะอะไร ก็เพราะ 1. เขารู้จริง 2. เขามีกึ๋นกล้าเรียกไพ่เปิดดู และ 3. เขาเรียกไพ่ดูแบบถนอมหน้าตา ไม่ให้เสียหน้า (แต่ก็ไม่หมอบ) - ภาษาไพ่น่ะครับ

เอาล่ะครับ ผมคิดได้ตอนนี้ก็ประมาณนี้ล่ะครับ ไว้คิดได้ประเด็นอื่นอีก หรือมีตัวอย่างฮาๆ แปลกๆ ก็จะเอามาลงไว้อีกเรื่อยๆ แวะมาดูได้เป็นพักๆนะครับ ...



ปล. เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมเงินเดือนของแต่ล่ะตำแหน่งแต่ล่ะงานในบ.ไม่เท่ากัน เห็นว่าไม่ค่อยเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ เลยขอเอาไปขึ้นอีกบล๊อกต่างหาก ถือว่าแตกประเด็นก็แล้วกัน นี่ครับ ตามลิงค์ไปเลยครับ
==> มนุษย์เงินเดือน - ทำไมเงินเดือนของแต่ล่ะตำแหน่งแต่ล่ะงานในบ.ไม่เท่ากัน

นี่ครับ เรื่องการเขียน CV ให้เป็นสัปะรด ==> CV กับ จดหมายสมัครงาน : เขียนกันยังไงให้เป็นสับปะรด

23/12/09 - คิดได้อีกประเด็นนึงครับ ถ้าคุณเจอคนสัมภาษณ์แบบเดี่ยวๆ ก็ถือว่าโชคดีไป โดยมากคนๆนั้นก็จะเป็น end user หมายถึงคนที่จะเอาคุณไปใช้งาน แบบเดี่ยวๆนี่ก็ดีไปอย่างคือคุณรับมือคนๆเดียว ไม่เสียสมาธิกับหลายคนหลายประสบการณ์ แต่ข้อเสียคือชะตาคุณอยู่ในมือคนๆเดียว แนวทางการสัมภาษณ์ไม่หลากหลาย ไม่มีโอกาสโดนยิงคำถามที่ทำให้คุณดูดี (ถ้าบังเอิญไปเจอคนประสบการณ์แคบ)

แต่ถ้าโดนรุมสกรัมยำหมู เอ๊ย ยำหมู่ คือนั่งกันเป็นแผง 3-4 คน แบบนี้คุณแย่หน่อยตรงที่ ระหว่างที่คนนึงถามและฟังคุณ อีก 4-6 ตาก็จะคอยจับพิรุธสังเกตุ และเตรียมคำถามต่อเนื่อง นอกจากนั้น คุณจะเสียสมาธิอย่างแรง มิหน่ำซ้ำอาจจะเจอบท good cop - bad cop คืออีกคนเล่นบทใจดี อีกคนเล่นบทโหด แล้วดูปฏิกริยาคุณ แต่เอาเถอะ มันก็ไม่ใช่ตัวเลือกของคุณว่าจะขอเซ็กซ์เดี่ยวหรือจะเล่นเซ็กซ์หมู่ (ฮ่าๆ) ถ้าโดนรุม ผมแนะนำอย่างงี้ครับ

1. หาให้เจอว่าใครเป็น end user - คืองี้ คนที่นั่งเป็นแผงต่อหน้าคุณนะ จะประกอบไปด้วยอย่างน้อย 3 ฝ่าย คือ HR - end user และ แผนกขอแรงมาให้กำลังใจ มาเสริม หรือมาสังเกตุการณ์ จะรู้ได้ไงว่าใครเป็น HR ดูง่ายๆ คนที่เปิดฉากเจื้อยแจ้วก่อนคนแรก โดยมากเป็น HR ครับ ทำนอง "สวัสดีค่ะ/ครับ คุณ ... วันนี้เราจะ ... เราจะเริ่มด้วยการให้คุณช่วยแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสัก 5-10 นาทีนะครับ/ค่ะ ... (อะไรก็ว่าไป)" หรือ อีกทีก็จะดูจากแนวคำถามว่าคนไหนถามพื้นๆ คนไหนถามเทคนิคเยอะ คนนั้น end user แน่ คนไหนนั่งจดอย่างเดียวนานๆถามที คนนั้นขอแรงมาช่วยลุย ยิ่งคุณระบุกาหัวได้เร็วเท่าไรว่าไผเป็นไผ ยิ่งมีประโยชน์มากเท่านั้น

2. พอรู้ว่าไผเป็นไผ ให้คุณจัดสรรเวลาให้เหมาะสมกับประเภทของคำถามและพื้นฐานคนถาม ถ้าคนถามเป็น end user ซึ่งมักเป็นคำถามเทคนิคก็ใช้เวลาตอบละเอียดนานหน่อย ถามเป็นคำถามกว้างๆจาก HR ก็ไม่ต้องฝอยมาก นอกจากนั้นแล้วคุณต้องพยายามโยงประเด็นที่ HR ถามให้เข้ามาทางงานสนามที่คุณสัมภาษณ์ให้ได้มากที่สุด แล้วพยายามสบตากับคนที่คุณคิดว่าเป็น end user(s) เพราะคนนี้จะมีน้ำหนักในการจะรับหรือไม่รับคุณ (ยกเว้น ถ้า HR สวยหมวยเอ๊กซ์ และนุ่งสั้นๆ อนุญาติให้สบตาและขอบกระโปรงได้เป็นพักๆ ฮ่าๆ) ทำเป็นเล่นไปครับ บางทีพวกผมก็แกล้งให้พวกคุณเสียสมาธิเล่นๆงั้นแหละ แกล้งชวนน้องๆแผนก PR (ส่วนมากสวยๆ) ที่ว่างๆมานั่งเป็นแผนกให้กำลังใจให้ผู้สมัครเสียสมาธิเล่นซะงั้นก็มี

เออ ... อีกประเด็นนึงคือ เราจะดูความช่างสังเกตุของคุณด้วย เพราะความช่างสังเกตุเนี่ยเป็นคุณสมบัติต้นๆของวิศวกรสนามเลยนะขอบอก ขณะที่คุณนั่งรอสัมภาษณ์นะ อย่าปล่อยเวลาผ่านไปเปล่าๆ ดูรอบๆตัวว่า มีอะไรอยู่ตรงไหน สีอะไร ใครแต่งตัวอย่างไร มีกี่คน ฯลฯ เชื่อไหม ผมเคยสัมภาษณ์คนนึง ผมถามว่านั่งรอในห้องรับรองนานแค่ไหน เขาตอบว่า ชม.ครึ่ง (เพราะมาก่อนเวลาหน่อย) ผมถามว่า มีคนนั่งอยู่กี่คนในห้อง ช.กี่คน ญ.กี่คน แต่งชุดนศ.หรือชุดธรรมดา แม่บ้านของบ.ที่มาเสริฟน้ำใส่ชุดสีอะไร ทีวีในห้องรับรองเปิดรายการอะไร รีเซฟชั่นผมยาวหรือผมสั้น อะไรพวกนี้ เชื่อไหมครับว่า ตอบไม่ได้สักคำถาม อย่างนี้ผมบอกได้เลยว่าเกรดสูงแค่ไหน ผมก็ไม่ส่งไปหน้างาน เพราะ 1.คืออันตรายมากๆทั้งต่อตัวเองและงาน 2.กว่าผมจะได้ข้อมูลอะไรจากคนแบบนี้ ผมคงต้องส่งรายการคำถามละเอียดยิบยาวยืด

ส่วนมากก็จะตอบได้พอสมควร นั่นเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ผมประทับใจมาก มีคนนึง นอกจากจะสังเกตุได้ครบละเอียดมากแล้ว พี่แกยัง ชวนคุยหนิดหนม ได้เบอร์ได้อีเมล์ เพื่อนๆในห้องอีกด้วย ทั้งๆที่พี่แกมาคนเดียว เพื่อนคณะก็ไม่ได้มาด้วย ตอนหลังแกมาเฉลยว่าที่แกตอบได้หมดเพราะแกถามคนที่ออกมาแล้วว่าผมถามอะไรบ้าง แกเลยจำทุกอย่างในห้องระหว่างนั่งรอมาหมดเลย (ผมเลยถือโอกาสขอเบอร์มือถือรีเซฟชั่นสาวสวยจากผู้สมัครรายนี้เสียเลย อิอิ) แบบนี้ผมให้เต็มสิบเลยในหัวข้อเรื่องความช่างสังเกตุและมนุษยสัมพันธ์ อ้อ ขอบอก ขอบอก เชื่อหรือไม่ ผู้หญิงจะตอบได้มากกว่าผู้ชายว่าในห้องมีอะไร อยู่ตรงไหน แสดงว่าโดยธรรมชาติแล้ว ผู้หญิงจะช่างสังเกตุมากกว่า แต่ผู้ชายจะตอบได้ทุกคนว่า รีเซฟชั่น ผมยาวหรือผมสั้น (ฮ่า) แล้วจะพลาดเรื่อง สีชุดแม่บ้านเสริฟน้ำ (ดูมัน ฮ่าๆ) - อะ อะ วันนี้นึกประเด็นได้แค่นี้ พอแค่นี้ก่อน



7/1/10 - อาจจะมีคนแย้งว่า ไม่ยุติธรรมกับผู้ถูกถามเท่าไร เพราะที่รู้ไม่ถาม ดันมาถามที่ถามไม่รู้ ทำไมมาตัดสินกันแค่ไม่กี่คำถาม ... อืม ... ก็จริง ผมก็เคยคิดแบบนี้และตอนนี้ก็ยังคิดแบบนั้นอยู่ งั้นก็ให้ไปอ่านหมายเหตุที่ 2 ตอนต้น ทำไงได้ครับ เกิดมาในระบบแบบนี้ คุณมี 2 ทางเลือก คือยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับมันอย่างมีความสุข หรือ 2 ไม่ยอมรับและตั้งกฏหรือหาวิธีของตัวเอง

ผมเชื่อว่ามีสิ่งที่เรียกว่า พรสวรรค์ - talent - gift - born to be หรืออะไรก็แล้วแต่ทำนองนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ผมให้น้ำหนักกับ "พรแสวง" มากกว่า

The "Self" is not somthing ready-made, but something in continuous formation through choice of action - John Dewey (Educator - Philosopher - Psychologist)
ผมแปลเองง่ายๆว่า ความเป็น "ตัวของเรา" ไม่ใช่อะไรที่เป็นมาแต่เกิด แต่เป็นสิ่งที่สร้างสมมาได้ด้วยสิ่งที่เราเลือกทำ - นั่นแปลง่ายๆว่า you are what you eat นั่นแหละครับ จะแถๆแปลว่า สวยด้วยมีดหมอ ก็พอถูไถ ถึงจะไม่ตรงความหมายทีเดียวแต่ก็พออนุโลม

ถูกต้องครับว่าในบางสายงานอาชีพ เราต้องมองหาคนที่มีพรสวรรค์ เช่น งานสายที่ต้องใช้พรสวรรค์เฉพาะตัว งานศิลป์ โฆษณา งานแสดง ฯลฯ แต่ในทางกลับกัน ในสายงานวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (วิศวกรรม) โดยเฉพาะงานสนาม ไหวพริบและการเป็นคนช่างสังเกตุเป็นคุณลักษณะที่สำคัญ และ เป็นเรื่องที่ฝึกหัดกันได้ ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์

การสัมภาษณ์นั่นเหมือนตะแกรงร่อนเบอร์นึงในหลายๆเบอร์ของขบวนการ สิ่งที่ผู้ถามมองและฟังนั้นมากไปกว่าภาษาพูดที่ได้ยินทางหูนะครับ เราดูหมดตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณเดินเข้ามา หรือ แม้แต่บังเอิญเจอในห้องรอสัมภาษณ์ ในลิฟท์ หรือ โถงทางเดิน

The most important thing in communication is to hear what isn't being said - Peter Drucker (Austrian born American management guru)
แปลง่ายๆว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในกระบวนการสื่อสารนั้นคือการได้ยินในสิ่งที่ไม่ได้พูด (หรือเขียน - ผมเติมเอง)

ทำให้นึกถึงหนังเรื่องเชอร์ล็อกโฮม ที่ผมเป็นแฟนหนังสือของแกตัวยงตั้งแต่สมัยยังใส่ขาสั้นไปรร.(หมดค่าขนมไปซื้อแว่นขยายซื้อแม่เหล็กไปเยอะ) ในหนังถึงมันจะเวอร์ไปในบางเรื่อง แต่มันก็มีส่วนจริงอยู่ 70-80% เลยทีเดียว และมันสอนให้เรารู้จักฟังเสียงของความเงียบ (การสังเกตุนั่นแหละครับ พูดให้เท่ห์ๆไปงั้นแหละ) ตรงข้ามกับ Slumdog millionaire ที่ทุกอย่างได้โดยการลิขิตไว้ แต่ก็ไม่ว่ากัน เพราะทั้งสองเรื่องเขาก็ทำไว้ขาย จึงต้องมีความเป็น drama อยู่บ้าง ไม่งั้นขายไม่ออก

แล้วมันเกี่ยวกับการสัมภาษณ์อย่างไร เกี่ยงตรงที่การฟังเสียงของความเงียบ(ความช่างสังเกตุ)นั้นฝึกหัดได้ เริ่มต้นง่ายๆ เมื่อคุณเงยหน้าจากจอคอมฯ เห็นคนๆแรก ลองสังเกตุดูซิครับ เอาง่ายๆก่อน เสื้อผ้า-หน้า-ผม อ้วนผมสูงต่ำดำขาว แล้วก็เริ่มพัฒนาไปเรื่อยๆ

คำถามที่ผมชอบถามคนที่ขึ้นรถเมล์ประจำทางไปกลับมหาวิทยาลัย คือ ที่ป้ายรถเมล์ที่ขึ้นประจำมีอะไรบ้าง นอกจากสายที่ตัวเองขึ้นประจำแล้วสายอื่นมีมาจากไหน ไปไหน คุณอาจจะหัวเราะ แต่ถ้าคุณถามคนๆหนึ่งที่ขึ้นรถเมล์ป้ายเดียวกัน 4 ปี ไปกลับม.ทุกวันที่มีเรียน (คูณเลขเอาว่า 4 ปีเป็นกี่วันที่เที่ยว) แล้วรู้แต่ว่าสายที่ตัวเองขึ้นไปไหน แต่สายอื่นที่จอดป้ายเดียวกันตูไม่รู้ ผมเชื่อว่าคุณไม่กล้าส่งคนนี้ไปคุมหน้างานก่อสร้างทางวิศวกรรมแน่นอน ถึงเขาจะเก่งวิชาการแค่ไหนก็ตาม เขาอาจจะเหมาะกับงานอื่น เช่นงานวิจัย งานในห้องทดลอง งานสอนหนังสือ แต่ไม่ใช่งานวิศวกรสนามแน่ๆครับ แล้วคุณจะขำกลิ้งถ้าผมบอกว่าผมเจอแบบนี้ไม่น้อยทีเดียวครับ

อีกอย่างที่ผมชอบถามในหัวข้อการสังเกตุนี้ คือให้มองออกไปนอกหน้าต่างห้องที่สัมภาษณ์ (ซึ่งผมดูก่อนแล้วว่ามีอะไรน่ามองไหม) ให้เวลา 3-5 นาที แล้วผมแกล้งถือโอกาสออกไปเข้าห้องน้ำหรือเดินไปชงกาแฟ แล้วให้หันกลับมาตอบผมว่าเห็นอะไร คำถามสุดท้ายผมจะถามว่า กรอบหน้าต่างสีอะไร ขนาดกว้างยาวเท่าไรโดยประมาณ ทำด้วยวัสดุอะไร ไม้ หรือ อลูมิเนียม ฯลฯ หรือ ถ้าห้องไม่มีหน้าต่าง ผมจะเตรียมรูปหน้างานก่อสร้างบ้านที่พวกเราเห็นกันดาดดื่นตามข้างถนนนั่นแหละ พิมพ์บนกระดาษ ยื่นให้จับให้ดู ให้เวลา 3-5 นาที แล้วผมเอาคืน ผมไม่ถามอะไรมากมายหรอก เพราะ 2 คำถามสุดท้ายของผม คือ กระดาษที่ถือตะกี้เป็นขนาด A4 หรือ letter size แล้วก็ กระดาษที่พิมพ์รูปนี่เป็นกระดาษใช้แล้ว(เอามาพิมพ์ด้านหลัง)หรือเปล่า

อาจจะบอกว่าไม่แฟร์นี่หว่า เพราะผมให้ดูไปนอกหน้าต่าง แล้วเจือกถามกรอบหน้าต่าง หรือ ผมให้ดูรูปแล้วทะลึ่งถามขนาดกระดาษที่พิมพ์รูป หรือมาถามว่าอีกด้านของกระดาษใช้พิมพ์อะไรไปหรือยัง (สังเกตุว่าผมไม่ได้ถามว่าพิมพ์อะไร ผมถามแค่ว่ามีอะไรพิมพ์ไว้หรือเปล่า) ...

ถ้าคิดว่าผมไม่แฟร์ .... ลองคิดใหม่ให้ดีๆ วิศวกรที่ถือกระดาษแผ่นนึงในมืออยู่ 3-5 นาที แล้วไม่รู้ว่ากระดาษแผ่นนั้นเป็นขนาด A4 หรือ letter size แล้วไม่ผลิกดูอีกด้าน(หรือมองทะลุไปก็เห็น)ว่าด้านหลังมีอะไร หรือวิศวกรที่มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วกะไม่ถูกว่าขนาดหน้าต่างกว้างยาวเท่าไร สีอะไร ไม้ เหล็ก ปูน หรืออลูมิเนียม ... ไม่เหมาะกับงานสนามแน่ๆครับ เพราะเราต้องคุมงาน คุมคน ต้องเห็นหรือได้ยินในสิ่งที่ลูกน้องหรือผู้รับเหมาไม่ได้พูดไม่ได้เขียน(ในรายงาน) พูดง่ายๆว่า ไม่ให้ลูกน้องหรือผู้รับเหมาแหกตานั่นแหละครับ ... ปล. คุณจะงงและแปลกใจที่รู้ว่ามีวิศวกรเก่งๆบางคนตอบคำถามพวกนี้ไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าไม่เก่งไม่ดีนะครับ เขาอาจจะเหมาะกับงานอื่น เช่น งานในออฟฟิต งานในห้องแล็ป มากกว่างานสนามน่ะครับ

9/1/2010 บางทีผมยังแกล้งทำเนียน ไปนั่งในห้องรอสัมภาษณ์ สังเกตุโน้นนี่ ดูว่าระหว่างพวกคุณนั่งรอกัน ใครทำอะไร บางทีก็ชวนคุย ถามโน้นถามนี้ ฟอร์มไปว่ามารอคนโน้นคนนี้ (เพราะหน้าและตีนกาผมไม่อำนวย ถ้าจะมาอำกันว่ามารอสอบสัมภาษณ์) แล้วน้องมาทำอะไร ว่าไปเรื่อยเปื่อย ดังนั้น ถ้ามีใครไม่ว่าหน้าเด็กหน้าแก่มาชวนคุยต้องนึกว่ามาสัมภาษณ์ไว้ก่อน จริงๆ คุณต้องคิดว่าการสัมภาษณ์เริ่มต้นตั้งแต่คุณเดินเข้าตึกของบ.เขาแล้วด้วยซ้ำ เพราะบางทีถ้าวิศวกรเด็กๆของผมว่าง ผมก็จะวานให้ทำเนียนฝากคำถามไปกลมกลืนกับพวกคุณ คุณอาจจะคิดว่าอะไรจะขนาดนั้น ผมก็ไม่ได้ว่าทุกบ.ทำแบบนี้ แต่แค่เป็นแบบเฉพาะตัวของผม ถ้า HR ไหว้วานขอแรงผมไปช่วย ผมก็จะทำของผมอย่างนี้ เพราะคุณมีเวลาเป็นวันๆเดือนๆในการแต่ง CV เตรียมตัวมา ผมมีเวลาไม่ถึงครึ่งชม. ทำไงที่ผมจะรู้จักคุณให้ดีที่สุด ซึ่งผมคิดว่าไม่เกินไปหรอกครับ ที่ถ้าผู้สมัครควรจะเตรียมตัวให้พร้อมไว้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในตึกบ.ที่มาสัมภาษณ์



20/1/2010 - ถ้ามีเวลาเหลือ ผมก็มักจะให้สเก๊ตรูปตามคำบอกคือสมมุติว่า ผมบอกทางโทรฯไปที่แท่นว่า ใช้เชื่อมหรือขึ้นรูปทรงอะไรสักอย่างอะไรประมาณนี้ แล้วดูว่าสเก็ตรูปออกมาได้เหมือนหรือคล้ายกับที่ผมต้องการไหม และ กลับกัน ผมจะให้ดูรูปทรงอะไรสักรูปหนึ่ง สมมุติว่าเป็นอุปกรณ์ ชิ้นที่ชำรุดหรือไม่ชำรุดก็แล้วแต่ แล้วสมมุติให้บอกผมทางโทรฯ ให้ผมวาดภาพตามไป แล้วก็มาดูกันว่าผมวาดได้เหมือนโจทย์ภาพที่ให้ไว้ไหม

อาจจะชูจั๊กแร้เถียงว่า สมัยนี้เขาถ่ายรูป หรือ สแกน ส่งอีเมล์ ส่ง MMS กันแล้วลุงนก ไปงมอยู่ที่ไหนมา

มันก็จริงครับ ... แต่อย่าลืม บนแท่น ไม่มีสัญญาณมือถือ อยู่บนนั้น คนล่ะมุมคนล่ะชั้นของแท่น ก็ต้องใช้โทรฯภายใน หรือ walky talky คุยกัน หรือ รายงานการทำงานประจำวันตอนเช้ากับหน.บนฝั่งในกทม. ส่วนมากก็ยังไม่ไฮเทคขนาดวีดีโอคอนฯ ขึ้นทั้งภาพทั้งเสียง โดยมากก็เสียงอย่างเดียว

วิศวกรสนามต้องใช้ทักษะนี้ครับ คล้ายๆกับอ่านแผนที่บอกทางกันทางโทรศัพท์น่ะครับ แต่ซับซ้อนกว่า คือ วิศวกรสนามต้องทำได้ทั้ง ส่ง และ รับ คำบรรยายภาพ โดยใช้จิตนาการวาดภาพในหัวแล้วสามารถเข้าใจได้ว่าคนบอก ต้องการบอกอออกมาเป็นภาพอะไร และในทางกลับกัน ก็ต้องสามารถบรรยายให้คนอื่นรู้ได้ด้วยว่าเราต้องการบอกอะไร

===== update 2 เมษายน 2011 ======

อ้อ "เอกสารประเภท portfolio พวกใบประกาศนียบัตรต่างๆ หรือพวกใบทรานสคริป" มันหนักมากไหม ถ้าไม่ขนาดต้องเช่ารถปิกอัพขนไปต่างหากคันนึง ผมว่าเอาไปด้วยก็ดี

มีลูกเล่นนิดนึง ให้เอาใส่ซองใส เอาใบที่เป็นประกาศนียบัตร พวก ใบ cert อะไรเท่ห์ๆไว้ข้างหน้า หรือ เอาทรานสคลิปก็ได้ ที่มีโลโก้สถาบันฯ เอาวางไว้ในที่ๆกรรมการเห็น เพราะจะได้คะแนนเตรียมพร้อม (ถ้าคณะกรรมการสายตาละเอียดแบบผม) ว่าไอ้นี้เตรียมมาดี

อย่าลืมเอาปากกา เครื่องคิดเลขเล็กๆ กระดาษโน้ต A4 พับใส่กระเป๋าเสื้อ ไปด้วย อาจจะได้ใช้ ถ้าไม่ได้ใช้ ก็อุ่นใจ ได้คะแนนความพร้อม ถ้าจำเป็นต้องใช้ ก่อนใช้ขออณุญาติกรรมการฯก่อน

อ้อ อย่าลืมจำพวก conversion factor แปลงหน่วย ง่ายๆไปด้วย พวกนิ้วนึงกี่เซ็นต์ psi นึงกี่บาร์ psig = กี่ psia ลิตรนึงกี่แกลลอน เมตรนึงกี่ฟุต ฯลฯ พื้นๆ เผื่อกรรมการฯมีลูกบ้าแบบผม เพราะผมถือว่าเรื่องพวกนี้จบวิศว หรือ ช่างปวส "ต้อง" รู้ ถ้าวิศวกร ผมจะถามว่า ค่าประมาณ pi รูท2 รูท3 ค่า e (e exponential) ฯลฯ

โดยเฉพาะการแปลงหน่วยในชีวิตประจำวันง่ายๆ พวก เมตรนึงกี่ฟุต นิ้วนึงกี่เซ็นต์ ถ้าเป็นช่างแล้วไม่รู้นี่ผมให้ตกสถานเดียวเลย ความผิดสาหัสพอๆกับจบวิศวฯคอมฯแล้วไม่รู้ว่า 1 byte มีกี่ bit หรือ จบวิศวฯเครื่องกลแล้วไม่รู้ว่าน้ำหนักกับมวลต่างกันอย่างไร

============================

Update 15/1/2013

สอบสัมภาษณ์งานวิศวกรสนาม ... เรามองหาอะไรในตัวคนมาสัมภาษณ์


เคยสงสัยไหมว่าเวลาไปโดนสัมภาษณ์ มักจะโดนถามโน้นถามนี่ที่หลายครั้งเราก็เดาไม่ถูกเลยว่าถามไปทำไม ไม่เห็นเกี่ยวกับงานที่จะทำเลย คำตอบคือ เกี่ยวซิครับ เขาถามเราอ้อมๆ เพื่อจะมองหาอะไรบางอย่างที่เป็นคุณสมบติที่เกี่ยวข้องกับงานที่เขาจะรับเราเข้ามาทำ

ไม่ต้องอารัมภบทยืดยาว มาว่ากันเลยว่ามีอะไรบ้างและจะโดนถามแนวๆไหน

Plan B

นี่ครับอย่างแรกเลยของคุณสมบัติของวิศวกรสนาม พวกเราต้องมี plan B เสมอ พูดง่ายๆคือ แผนสำรอง ถ้าแผนหลักเราไปไม่ถึงดวงดาว เนื่องจากคุณสมบัติเฉพาะของงานเราคือทำงานในที่ห่างไกล ห่างฐานสนับสนุนทั้งเครื่องไม้เครื่องและคำปรึกษา เราจะต้องมี plan B ไว้เป็นนิสัย (บางทีเรียก contingency plan, แผนสำรองฉุกเฉิน, back up plan, แผนกันเหนียว และอีกหลายชื่อ) เครื่องมือสำรองอีกชุดเราต้องเตรียมไป (redundency tools/ equipments) ก็จัดอยู่ในหมวด plan B ด้วย

แล้วเขาจะถามอะไรเราล่ะที่จะให้เห็นว่าเราเป็นคนมี plan B ... ง่ายนิดเดียวครับ ก็ถามถึงเหตุการณ์ในอดีตของเรา ง่ายๆเลยเช่นว่า เรามาสัมภาษณ์ยังไง ขับรถมา หรือ รถเมล์ มาสายอะไร ถ้าสายนี้ไม่มา เรามีสายอื่นไหม ถ้าบังเอิญตื่นสายมากๆ จะทำไง ถ้าขับรถมา รู้ไหมจะจอดตรงไหน ถ้าที่จอดที่ตึกสัมภาษณ์เต็ม จะไปจอดไหน ตอนนั้นถ้าสอบเข้าที่นั่นไม่ได้ คิดว่าจะไปไหน ฯลฯ ผมตั้งคำถามได้ 108 ขึ้นกับบทสนทนาจะพาไป ตั้งคำถามได้เนียนด้วย ออกแนวๆแซวๆหรือชวนเม้าส์มอยไป อาจจะออกไปแนวๆชีวิตส่วนตัวเล่นๆ เช่น นัดกิ๊กชวนดูหนังเรื่องนึง ไปถึงหน้าโรงแล้ว จู่ๆ กิ๊กบอกว่า ดูไปแล้วเรื่องนี้ ตั๋วก็ซื้อไว้ล่วงหน้าแล้ว จะทำไงดีเนี้ย เห็นป่ะ ไม่เกี่ยวกับงานสนามเล้ย (มีคนนึงเคยตอบว่า ผมก็หากิ๊กคนใหม่หน้าโรง ฮ่า ... )

question word จะออกแนว "จะทำอย่างไร" ถ้าถามในอนาคตเหตุการณ์สมมุติ หรือ "เคยทำอย่างไร" ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

ถ้าชะงักหรือออกๆแนวไม่รู้หรือไม่มี plan B ปล่อยไปตามยถากรรม ผมก็จะโน้ตเล็กๆไว้ที่ CV

Fall back position

อันนี้คล้ายๆกับ Plan B แต่เป็น plan Z มีหลายชื่อเรียกกัน เช่น worst case senario, last resource เป็นต้น คือในกรณีแย่ที่สุดแล้วจะทำไง เช่น สอบที่ไหนไม่ติดเลยก็เรียนม.เปิด คือ ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้วคุณจะทำอย่างไร ทำไมคนทำงานสนามจึงต้องมีคุณสมบัติข้อนี้ครับ ก็เพราะงานของเรา คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล งานเราจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ ปัจจัยนอกการควบคุมมากมายไปหมด เราต้องพร้อมที่จะรับเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดได้

ผมเคยเข้าหลักสูตร defensive driving course มีตอนหนึ่งที่ผู้ฝึกสอนสอนว่า ให้มองหาไว้ทุกวินาทีว่า ถ้าจะเกิดชนแบบ head on คือ ประสานงา เราจะหักพวงมาลัยจิ้มหลบไปจุดไหนของถนน ถึงจะเกิดความเสียหายน้อยที่สุด ซึ่งก็คือ fall back position นี่เอง

ลักษณะคำถามอาจจะดู drama และเร้าอารมณ์ (กวน teen นั่นแหละครับ) สักหน่อย เช่น ถ้าเย็นนี้กลับไป ไฟไหม้บ้าน จะทำไง หรือ hard disk เจ๊ง แฟนทิ้ง ฯลฯ คำถามอะไรที่ดูตลกๆสุดขั้วๆเว่อร์ มักจะเข้าข่ายนี้ครับ

question word จะออกแนว "จะทำอย่างไร" ถ้าถามในอนาคตเหตุการณ์สมมุติ หรือ "เคยทำอย่างไร" ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

Decision making

สำคัญอย่างไรครับ เพราะงานพวกเราเกี่ยวข้องกับมูลค่าเครื่องไม้เครื่องมือราคาแพงและแหล่งน้ำมันมูลค่ามหาศาล เราไม่ต้องการคนที่คิดอะไร ทำอะไร ไม่อยู่กับร่องกับรอย ทำอะไรตามอารมณ์ ไม่คงเส้นคงวาในการตัดสินใจ อารมณ์ศิลปินจัด ติสท์เยอะ วันนี้ใช้ตรรกะอย่างหนึ่ง พรุ่งนี้เหตุการณ์เดียวกันกลับใช้ตรรกะอีกแบบหนึ่ง

question word จะออกแนว "ทำไมถึงทำไปอย่างนั้น" คำตอบคลาสิกที่หลายคนเอ็นทรานซ์เข้าคณะโน้นคณะนี้สมัยผมคือ "หนู/ผม ตามเพื่อน ค่ะ/ครับ" หรือ "ครูแนะแนวแนะนำ" ใครตอบแบบนี้ ผมวงแดงใน CV เลยว่าไม่เอา

ที่สำคัญอย่าลืมความคงเส้นคงวาของตรรกะที่ใช้ด้วย เช่น คุณเคยทำ A ในอดีต เพราะเหตุผล B ถ้าเกิดเหตุการณ์ C ในอนาคตที่คล้ายกับ A คุณจะทำแบบ B ไหม ถ้าไม่ คุณต้องอธิบายให้ได้ว่า A กับ C ต่างกันอย่างไร ที่ยากคือ A กับ C เป็นเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นแล้วมีลักษณะคล้ายกัน แต่คุณดันตัดสินใจโดยใช้ตรรกะต่างกัน อันนี้ยาก เพราะคุณต้องอธิบายให้ได้ว่า สภาพแวดล้อมหรือเงื่อนไขรอบด้านมันต่างกัน เช่น ตอนนั้นไม่เรียนต่อเพราะต้องให้น้องเรียนให้จบก่อน แต่อีก 1 ปีถัดมาน้องก็ยังเรียนไม่จบ แต่ทำไมไปเรียนต่อ อะไรแบบนี้น่ะครับ

ปล. ข้อนี้ห้ามไปใช้กับแฟนนะครับ อย่าลืมว่าความรักต้องใช้หัวใจตอบ อย่าไปใช้สมองตอบเด็ดขาดว่า รักเธอชอบเธอเพราะอะไร ถ้าตอบแบบมีตรรกะแบบนั้น คุณจะโดนศอกกลับรับไม่ทัน เช่น รักเธอเพราะเธอมีลักษณะ A (A อาจจะ = น่ารัก มีเสน่ห์ พ่อรวย เอ๊กซ์ อึ่ม สบึ่มปั๊บๆ ฯลฯ อะไรก็ว่าไป) อีก 1/10000 วินาทีถัดมา เธอจะถามคุณทันทีด้วยความเร็วแสงว่า แล้วถ้าชั้นไม่มีลักษณะ A แล้ว ยังจะรักฉันไหม นี่แหละ ตอบไม่ถูกไปต่อไม่เป็นเลย เพราะคุณดันไปให้ตรรกะไว้แล้วว่า ถ้า A=B ดังนั้น C=D เธอก็จะย้อนว่า อ้าว ถ้า A ไม่ = B งั้น C ก็ไม่ = D ด้วยซิ คราวนี้ละซวย

ผมไม่ใช่ปราชญ์เรื่องพวกนี้หรอกนะครับ แต่ที่ใช้ได้ผลเสมอมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่(ปูนนี้)เวลาถูกสาวๆที่คั่วอยู่(ศัพท์สมัยผมแปลว่าจีบ)ถามว่า รัก/ชอบเธอเพราะอะไร ผมจะตอบว่า ไม่มีเหตุผล รักก็คือรัก ชอบก็คือชอบ เหมือนคนเราชอบสีที่ไม่เหมือนกัน ชอบอาหารรสชาติไม่เหมือนกัน ไม่มีตรรกะ ไม่มีผิดไม่มีถูก พูดง่ายๆคือ ไม่ไปสร้าง model ทางคณิตศาสตร์เอาไว้ว่า ถ้า A=B ดังนั้น C=D หรือพูดอีกแบบคือตูไม่มีเหตุผล ดังนั้นตอนจะเลิกจึงง่ายขึ้น เพราะตอนรักมันไม่มีเหตุผล ตอนเลิกก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลจริงป่ะ ในเมื่อตอนเริ่มมันไม่มีตรรกะเสียแล้ว ตอนจบมันก็ไม่ต้องมี แต่ถ้าคุณไปบอกในตอนเริ่มว่า ถ้า A=B ดังนั้น C=D คราวนี้คุณเกิดไม่อยากให้ C = D ล่ะ แต่ A มันยัง = B อยู่ ทีนี้จะเลิกยังไง ... ฮ่าๆ (อุ้ย ขอโทษที ออกทะเล อิอิ)

Objective

แปลว่าจุดประสงค์ ข้อนี้แยกได้เป็น 2 ส่วนคือ จุดประสงค์ในหน้าที่การงาน (career objective) และ จุดประสงค์ในชีวิตส่วนตัว (personal life objective) และทั้งคู่ก็แบ่งย่อยออกเป็น 3 ระยะ เป็นระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาว

ทำไมเราต้องการคนที่มีจุดประสงค์ในชีวิตที่ชัดเจนในงานสนามประเภทนี้ อย่างที่บอกไว้แล้วว่า งานเรามันเกี่ยวข้อกับอุปกรณ์ราคารแพง แหล่งน้ำมันมูลค่ามหาศาล และ ความปลอดภัยของทรัพย์และชีวิตที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ ถ้าคุณไม่รู้จุดประสงค์ในชีวิตคุณแล้ว คุณจะรู้หรือใส่ใจไหมล่ะว่า แต่ล่ะงานที่คุณกำลังจะขึ้น ฮ. หรือ ลงเรือไปทำนั้นมันเพื่ออะไร เกี่ยวข้องอะไรยังไงกับคนอื่น ถ้าผิดพลาดมา ผลพวงที่ได้จะเป็นอย่างไร เรื่องของตัวเองยังไม่สนใจ ยังไม่รู้แล้วจะไปใส่ใจรู้เรื่องอื่นได้ไง

question word จะออกแนวตรงๆเลย เช่น ชีวิตนี้คุณคิดว่าจะเกษียณกี่ขวบ เอ๊ย กี่ปี ถ้าอยู่บ.นี้ไป อีก 3-5 ปีจะทำอะไร มีตำแหน่งอะไร 10-15ปีล่ะ วาดภาพในอนาคตว่าไง ต้องมีฮาเรมไหม เรือยอร์จสัก 3 ลำ อะไรก็ว่าไป หรือ อาจจะถามในอดีตก็ได้ว่า คอนจบตรีใหม่ๆ คิดว่าจะไปทำอะไร ถามเรื่องอาชีพในฝัน ข้อนี้ไม่ยาก แต่คุณต้องเตรียมเอาไว้ 6 คำตอบ งาน+ส่วนตัว และ แต่ล่ะข้อก็มี สั้น-กลาง -ยาว สั้นเราพูดถง 1-2 ปี กลาง 5-7 ปี ยาว 10+ปี

ทัศนคติต่อความปลอดภัย

ข้อนี้ไม่ต้องอธิบายมากนะครับ ว่าทำไมเราต้องการคนที่มีทัศนคติที่ดีต่อเรื่องความปลอดภัย

มาดูลักษณะคำถามกันเลย มีทั้งถามตรงๆ และ อ้อมๆ

ถามตรงๆก็ เช่น ในรถหรือในบ้านคุณมีอุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรบ้าง คุณก็จะตอบว่า มีโน้นมีนั้น ก็จะโดนต่อว่ารู้สเปกไหม ใช้มาติดตั้งมานานแค่ไหนแล้ว ตรวจสภาพครั้งสุดท้ายเมื่อไร ซ้อมใช้ หรือ ทดสอบบ่อยแค่ไหน ครั้งสุดท้ายเมื่อไร น่าจะมีอะไรเพิ่มอีกไหม แล้วทำไมถึงยังไม่มี จะมีเมื่อไร ฯลฯ ผมไล่ไปได้จนเห็นว่าคุณรู้จริงหรือมีจริงหรือเปล่าที่ว่ามีๆนั่น แต่ถ้าผมไล่ไปจนเห็นว่าคุณไม่มีจริงนี่นา ทำเท่ห์ ก็โดนข้อหาให้การอันเป็นเท็จอีก ถ้าไม่มีก็ตอบว่าไม่มี คิดว่าน่าจะมี แต่ไม่พร้อมที่จะมี เพราะอะไรก็ว่าไป ยังดูดีกว่าแถให้คนสัมภาษณ์เขาจับได้

ถามตรงๆ อีกแบบคือถามสถานการณ์จำลอง คำถามประเภทกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอบยังไงก็สูญเสีย ซึ่งก็ได้แนะแนวคำตอบไปแล้ว ไปตามหาอ่านเอาในบล๊อก รู้สึกว่าจะอยู่ในซี่รี่คำสัมภาษณ์จริงที่เพื่อนๆเอามาแบ่งปันหรือไงเนี่ย ไปคุ้ยๆดู เจอแน่ๆครับคำถามยอดนิยมแบบนี้

ถามอ้อมๆก็แนวๆยกเรื่องราวที่เกี่ยวกับกรณีความปลอดภัยที่เป็นข่าวในหนังสือพิพม์หรือเป็นที่สนใจในขณะใน แล้วถามว่า ใครผิด ใครถูก จะแก้ไขยังไง ถ้าจะป้องกันควรทำอย่างไร ฯลฯ

วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ หวังว่าคงได้ข้อคิดอะไรดีๆในการเตรียมพร้อมไปบ้างไม่มากก็น้อย ย้ำอีกหน ทั้งหมดนี่ความเห็นผม(ผู้ซึ่งไม่ใช่ HR)ล้วนๆ ไม่มีหลักการ วิชาการอะไรทั้งนั้น ไม่ได้ร่ำเรียนมา ว่ากันตามประสบการณ์ที่(เคยสัมภาษณ์งานคนมาเป็นสิบๆคน อ่าน CV มาเป็นร้อย)อย่างเดียวเลยครับ

ตอนต่อไปนะครับ คลิ๊กเลย => ปฏิบัติการจิตวิทยาในการสัมภาษณ์งานวิศวกรสนาม

อ่านต่อเลือกคลิ๊กกันเลยครับ
=> FAQ #1 FAQ #2 FAQ #3 FAQ #4 FAQ #5 FAQ #6 FAQ #7 FAQ #8 FAQ #9 FAQ #10 FAQ #11
FAQ #12

ห้องสมุดเล็กๆของผม <=== คลิ๊ก
รวบรวมตำราการขุดเจาะ คลิ๊ปการทำงานในบางตำแหน่ง แบบประเมินความเหมาะสมกับงานในสนามเบื้องต้น วิธีเขียน resume ที่ไม่โดนโยนทิ้งตะกร้า รายชื่อบริษัทฯในวงการ และ อื่นๆอีกมากมาย


มีคลิปการทำงานของบางตำแหน่งให้ดูเป็นน้ำจิ้ม มีตำราวิศวกรการขุดเจาะให้ดาว์โหลดเป็นบทๆ มีความหวังดีและเอื้ออาทรเสมอ ถ้ารู้สึกขอบคุณ ไม่ต้องตอบแทนอะไรผม แค่คุณจะแบ่งปันสิ่งที่คุณมีให้คนอื่นต่อไป ผมก็รู้สึกว่าคุณได้ตอบแทนผมแล้ว

บทความเกี่ยวเนื่องครับ

มาต่อกันให้จบดีก่า ... เหลือบริษัทฯกลุ่มสุดท้ายแล้ว Low Profile - High Profit <= ผมเรียกว่าอันนี้ว่าภาค 5 ล่ะกัน (บริษัทขายหรือให้บริการขนาดเล็ก - Suppliers)

มารู้จักวงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกันต่อกับ "บริษัทให้บริการเฉพาะทาง" <= ผมเรียกว่าอันนี้ว่าภาค 4 ล่ะกัน (บริษัทให้บริการเฉพาะทาง - Service company)

เอาล่ะครับ ได้ฤกษ์เขียนต่อเสียที (หลังจากโดนไมค์กระทุ้งทางข้างหลังซะตั้งหลายที) <= ผมเรียกว่าอันนี้ว่าภาค 3 ล่ะกัน (บริษัทแท่นเจาะ - Rig company)

ผลพวงจาก กระทู้ "ข้อดีของการทำงานแบบเป็นกะนอกชายฝั่งทะเล เอ้า ! ... แฟนใครทำงานแบบนี้รีบมาอ่านนะ " <= งั้นอันนี้ก็ต้องภาค 2 (บริษัทน้ำมัน - Oil company)

ข้อดีของการทำงานแบบเป็นกะนอกชายฝั่งทะเล เอ้า ! ... แฟนใครทำงานแบบนี้รีบมาอ่านนะ <= อันนี้ภาค 1

๕ คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับน้ำมัน และ เมืองไทย <= งั้นอันนี้ก็ภาค(พราก)ผู้เยาว์ เอ๊ย ภาคปฐมบท (ชอบเฉียดคุกอยู่เรื่อย-ไม่เอาข้าวผัดโอเลี้ยงนะ ขอเป็นพิซซ่าน้ำอัดลม)

รวบรวม "คำถามจริง" ที่โดนถามในการสัมภาษณ์ / ข้อเขียน บริษัทต่างๆในวงการฯ (ที่เพื่อนๆจำเอามาแบ่งปัน)


Create Date : 22 ธันวาคม 2552
Last Update : 12 เมษายน 2556 15:59:56 น. 100 comments
Counter : 28707 Pageviews.

 
ฮึๆๆ โง่ๆอย่างนู๋ คงจะผ่านสัมภาษณ์ยากซะแว้ว 555+


โดย: เขี้ยวอสูร วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:17:49:20 น.  

 
สัมาษณ์กันได้โหดมากๆ...
อีกหลายปีกว่าหนูจะจบ...อิอิ...มีเวลาเตรียมตัวอีกเยอะ .... ขอถามพี่ซักหลายๆข้อๆหน่อยนะค่ะ...หนูเรียนเครื่องกลค่ะถ้าหนูไปสมัครเนี่ยจะได้ทำตำแหน่งไหน ... หนูเป็นผู้หญิงเนี่ยเสียเปรียบผู้ชายมั้ยค่ะโอกาสพอๆกะผู้ชายอ่ะป่าวในการทำงานด้านเนี่ยอ่ะค่ะ....แล้วเราจำเป็นต้องมีประสบการณ์มั้ยจบใหม่ไปสมัครได้หรือเปล่า...ที่จริงหนูมีอีกหลายคำถามเพื่อวางแผนในอนาคตข้างหน้าอันใกล้นี้แต่คิดไม่ออกอ่ะค่ะไว้ถามวันหลังได้มั้ย(แหะๆ)หนูอยากทำงานแบบนี้มากเลยอ่ะค่ะเพราะว่ามันไม่น่าเบื่ออย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่กับที่เหมือนงานในออฟฟิส ลุยๆดีค่ะชอบมากอยากทำ
ปล.พี่ช่วยตอบหนูหน่อยนะค่ะ สงสารเด็กตาดำๆ เห็นแก่อนาคตของเด็กนะค่ะ เป็นพระคุณอย่างสูงที่เดียว

ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ


โดย: จ้าวหนูดาวตก วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:18:49:06 น.  

 
ตอบจ้าวหนูดาวตก

หนูเรียนเครื่องกลค่ะถ้าหนูไปสมัครเนี่ยจะได้ทำตำแหน่งไหน - ตอบใน FAQ เพียบเลยหนู เครื่องกลเป็นวิศวกรรมพื้นฐานมากๆทำได้เกือบทุกงานวิศวกรรม โดยเฉพาะงานขุดเจาะ ใช้ความรู้วิศวกรรมเครื่องกลมากเป็นพิเศษ (mat science, fluid mech, thermo, เป็นต้น)

หนูเป็นผู้หญิงเนี่ยเสียเปรียบผู้ชายมั้ยค่ะ - สมัยนี้ไม่เท่าไรแล้ว มีบ้างในงานใช้แรงหรือที่ห่างไกล(แบบไกลจริงๆ) แต่ถ้าแค่อ่าวไทย หรือ แหล่งบกในไทย ไม่มีปัญหาแน่ๆครับ ยิ่งงานในสนง.พวกเพื่อนหนูๆแย่งงานพวกอก3ศอกเป็นว่าเล่น

จำเป็นต้องมีประสบการณ์มั้ย - แล้วแต่งานครับ แต่ถ้ามือใหม่หัดขับโดยมากก็ต้องบ.หญ่ายๆครับ เพราะเขามีเวลาเลี้ยงต้อย เอ๊ย ฝึกอบกรม สายป่านเขายาว รอได้ แต่บ.เล็กๆมักชอบกินมาม่า คือ ชงน้ำร้อน รอ 3 นาที ก็ใช้งานได้เลย หรือบางทีกินกรอบๆด้วยซ้ำไป คือชอบ plug n play น่ะครับ

แต่การทำกับบ.ใหญ่ เขาจะสวยเลือกได้ หนูต้องเกรดสูงๆ ภาษาอังกฤษดีๆ (โทอิก 750+) ได้ภาษาที่ 3 จะดีมาก แนะนำจีนกลาง หนูบอกว่ามีเวล่เตรียมตัวอีกเยอะ ดีใจด้วย ไปทำเกรดมาดีๆ ภาษาดีๆ อ๋อ ฝึกงานปี 3 ก็หาบ.น้ำมันหญ่ายๆฝึกงานด้วยก็จะเป็นแต้มต่อ ....


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:16:15:27 น.  

 
สวัสดีครับพี่นก ผมได้รับการติดต่อให้เข้าสัมภาษณ์งานกับ Chevron ตำแหน่ง Horizontal Facilities Engineer
ไม่ทราบว่าตำแหน่งนี้ลักษณะงานเป็นยังไง ทำอะไร
แล้วต้องเตรียมตัวในการสัมภาษณ์ยังไงมั่งครับ

1.คำถาม เค้าน่าจะถามแบบไหน
2.การสอบสัมภาษณ์ มีสอบกี่รอบ

เค้านัดสัมภาษณ์ วันที่ 16 ม.ค. นี้แล้วครับ
ขอบพระคุณครับ


โดย: pongs@ IP: 192.168.1.134, 124.121.186.67 วันที่: 30 ธันวาคม 2552 เวลา:10:04:00 น.  

 
ตอบคุณpongs - ตอบทางอีเมล์ไปแล้วครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 31 ธันวาคม 2552 เวลา:17:17:54 น.  

 
สวัสดีครับผม พี่นก ผมก็ได้รับการติดต่อจาก chevron ในตำแหน่ง เดี๋ยวกันกับ เพื่อน (facilities engineering)ครับ
ผมอยากจะขอคำแนะนำในการสอบสัมภาษณ์ กับ chevron ครับ
ว่าเค้าจะสัมภาษณ์ ด้วยคำถามอย่างไรครับ
และก็ควรจะเตรียมตัวอย่างไรบ้างครับ
ผมเรีนยวิศวกรรมไฟฟ้าอ่ะครับ
ขอบคุณมากครับ
navy_foce@hotmail.com


โดย: ณัฏฐพงศ์ IP: 58.9.48.248 วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:0:04:53 น.  

 
สวัสดีครับ
ผมชื่อช้างนะครับ เรียนอยู่โยธา
ผมเหมือนเพื่อนข้างบนเลยครับพี่
ได้ไปสัมภาษณ์กับ chevron ตำแหน่ง facilities engineer ผมอยากจะขอคำแนะนำจากพี่นกเหมือนกันครับว่า
- ตำแหน่งนี้ผมไม่ค่อยคุ้นเลยครับ มันเป็นงานประมาณไหนครับ
-เขาสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษใช่ไหมครับ แล้วถามประมาณไหนครับพี่
-ผมควรเตรียมตัวยังไงดีครับ
-พี่คาดว่าเขาจะรับเยอะไหมครับ

ผมถามเยอะไปหน่อย
ขอขอบคุณพี่มากครับ
chang_hanaka@hotmail.com


โดย: สิทธิกร IP: 202.28.27.5 วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:3:07:05 น.  

 
ได้รับการติดต่อให้ไปสัมภาษณ์ที่ chevron ตำแหน่งเดียวกันค่ะ

คำถามที่อยากจะทราบเพื่อนๆหลายๆคนข้างบนก้อได้ถามไปแล้ว รบกวนพี่ช่วยตอบคำถามส่งมาให้หนูด้วยได้มั้ยคะ

อ่านบล็อกของพี่แล้วให้ประโยชน์มาก ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะที่มีบทความดีๆ แบบนี้มาให้อ่าน

ปล. จบด้านวัสดุศาสตร์มาค่ะ

จะรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อนะคะ

anodaz@hotmail.com


โดย: ชิดชนก IP: 124.120.81.182 วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:20:28:24 น.  

 
ตอบ คุณณัฏฐพงศ์ คุณสิทธิกร และ คุณชิดชนก - ผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากมายหรอกครับ คาดเดาเอาทั้งนั้น มีน้องคนนึงมาช่วยตอบให้ เอาว่าผมจะสำเนาคำตอบส่งให้ทางอีเมล์ก็แล้วกันครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:20:43:57 น.  

 
ได้รับการติดต่อด้วยตำแหน่งเดียวกับทั้ง 3 คนข้างบนเลยค่ะ เกิดความสงสัยเหมือนๆกันว่าตำแหน่งนี้มี scope งานอย่างไร เลยอยากขอรบกวนพี่ช่วยส่ง email สำเนาคำตอบให้หน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

aathittaya@hotmail.com ค่ะ

ปล. หนูเรียนจบมาจะ 3 ปีแล้วค่ะ งานที่ทำก็ไม่ได้เกี่ยวกับทางด้านปิโตรเลียมเลย เลยค่อนข้างกังวลค่ะ


โดย: อทิตยา IP: 125.24.149.130 วันที่: 6 มกราคม 2553 เวลา:22:55:56 น.  

 
ผม FW ส่งให้แล้วนะครับ รบกวนเพื่อนๆทุกคนแอด msn หน่อยนะครับ เผื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน วันไปสัมภาษณ์จะได้ไม่เหงานะครับ.

ponge56@hotmail.com


โดย: pong@ IP: 119.42.93.5 วันที่: 6 มกราคม 2553 เวลา:23:42:03 น.  

 
บอกตรงๆว่า ขอบคุณคุณ pong ครับ ชื่นใจจริงๆที่ดำริจะแบ่งปันกัน ตอนแรกนึกว่าจะคิดว่าเป็นคู่แข่งกัน จะกั๊กข้อมูลกัน ยิ่งแบ่งเรายิ่งได้นะครับ การให้เป็นสุขกว่าการรับ หยอดกระปุกการให้ไว้เถอะครับ ถ้าเพื่อนฝุงจำไม่ได้ คนบนฟ้าความจำดีครับ คนบนฟ้าไม่มีวันลืม

อย่างน้อยผมก็ได้เพาะ "เมล็ดแบ่งปัน" เป็นต้นกล้าเล็กๆได้ล่ะ ที่เหลือก็ฝากรุ่นน้องๆด้วยก็แล้วกัน

สนุกสนานกัยเพื่อนใหม่ และการสัมภาษณ์กันนะครับ ยังไงๆเราก็สีเลือดหมูเหมือนกัน ถึงจะต่างวงการก็คบๆกันไว้


โดย: พ่อน้องวเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:7:52:38 น.  

 
ได้รับการติดต่อด้วยตำแหน่งเดียวกับเพื่อนๆข้างบนเช่นกันครับ อยากรู้การเตรียมตัวสัมภาษณ์ เลยอยากขอรบกวนพี่ช่วยส่ง email สำเนาคำตอบให้หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

ปล. ผมจบโยธามา ไม่มีประสบการณ์การทำงาน และสัมภาษณ์วันที่ 22 มค.


โดย: Nick IP: 58.8.88.151 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:0:18:12 น.  

 
ลืมบอกไป e-mail ของผม nickce57@hotmail.com

ขอบคุณครับ


โดย: Nick IP: 58.8.88.151 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:0:20:32 น.  

 
ตอบคุณ Nick - อีเมล์ไปแล้วนะครับ ... จริงๆก็เหมือนใน FAQ#12 นั่นแหละครับ ...


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:11:26:22 น.  

 
ขอบคุณครับ พี่นก


โดย: Nick IP: 58.8.91.11 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:20:34:13 น.  

 
คือผมอ่านบทความของพี่นกมาเยอะแล้วครับแต่ยังไม่แน่ใจเลยว่า Field Engineer ทำงานอะไรบ้าง
และพี่พอจะทราบไหมครับว่าคนที่จบ Survey Engineering จะพอทำตำแหน่งอะไรได้บ้าง คือวิชาที่ผมเรียนจะเน้นด้านการหาและระบุตำแหน่งหรือ GPS อะครับ ขอบคุณมากครับ


โดย: เด็กกำลังจะจบ IP: 125.25.140.228 วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:20:01:01 น.  

 
55 เจ๋งจังคับลูกพี่ พอดีผ่านมาครั้งแรก อ่านละมันดี ความรู้ทั้งนั้นเลย ^^ จะจบแล้วยังไม่ได้สมัครงานซักที่เลยคับ โดนด่าบานเลย หุหุ


โดย: บุ๊ง โยธา IP: 202.28.27.3 วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:17:12:21 น.  

 
เจ๋งมากครับ ผมก็พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรกเหมือนกันให้ความรู้มากมายเลย เเละจะติดตามต่อไปครับ

ปล.ผมพึ่งจบยังไม่มีประสบการณ์ อยากทำงานด้านปิโตรเลียมหนักใจกับการสอบสัมภาษณ์มากช่วยได้เยอะครับผมจะนำความรู้ที่พี่บอกมาไปใช้ในการสอบสัมภาษณ์งาน


โดย: เอก IP: 203.144.144.165 วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:2:23:16 น.  

 
หวัดดีคราบบบบ
ผลสัมภาษณ์chevronออกมาแล้วคราบ
ร่วงรอบแรกเลย เศร้า
เพื่อนๆที่ได้ไปต่อในรอบสองก็สู้ๆนะ
เอาใจช่วยทุกคน
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: สิทธิกร IP: 202.28.27.3 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:53:56 น.  

 
ตอบคุณสิทธิกร - เอาน่า ... อย่างน้อย เราก็ได้ทำสุดฝีมือแล้วเนอะ ... สู้ๆ ทุกคนครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:45:50 น.  

 
ร่วงเหมือนกันเลยค่ะ (เศร้า T_T)ตอนสัมภาษณ์ก็รู้สึกเหมือนกันว่า เอ... เราตอบอะไรไปเนี่ย จริงใจเกินไปป่าว (เอ๊ะ ยังไง ??) ยังไงก็ขอให้น้องๆทุกคนทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านโชคดีกับการสัมภาษณ์ต่อๆไปนะคะ


โดย: อทิตยา IP: 125.24.139.191 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:45:34 น.  

 
ตอบคุณ - อทิตยา - น่านะ สู้ๆ ยังมีที่อื่นอีก ที่นี่ไม่ใช่ที่เดียว ไม่ทราบว่าแอบจดข้อสอบมาแบ่งปันกันหรือยังครับ ถ้าส่งมาแล้ว (ยังไม่ได้เช็คเมล์) ก็ขอบคุณมากๆ ถ้ายัง อิอิ ทวงๆๆๆๆๆ :P


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:48:45 น.  

 
สวัสดีค่ะ ติดตามอ่านมาได้สักพักแล้ว อ่านทีนึงนานมากค่ะ(อ่านเกือบทุกอัน อิอิ) เนื้อหาเยอะจริงๆ เป็นประโยชน์มากๆค่ะ

ปล.เป็นคุณพ่อที่น่ารักมากๆๆๆค่ะ ชื่นชมจากใจค่ะ


โดย: เตย IP: 203.144.144.164 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:27:33 น.  

 
สวัสดีครับ พี่ ไม่ทราบพี่จะยังพอคุ้นๆ ชื่อผมบ้างรึเปล่า........มารอบนี้ ผมมีคำถามครับ คือ ผมได้รับการติดต่อจาก Chevron ให้มาสัมภาษ์ณครับ ในตำแหน่งอะไรผมไม่แน่ใจครับ เพราะ ตอนสัมครไปนี่ ผมไม่ได้ระบุ ตำแหน่งงานเลยครับ เพราะส่งแต่ Resume ไป ครับ รอบแรกทางบริษัทส่ง sms มาบอกผมไม่ได้รับการคัดเลือกครับ ผมก็โอเค ไม่เป็นไร ดำเนินเรื่องการศึกษาต่อ ที่ AIT ในสาขา Geo Petroleum แต่มาวันนี้ สดๆ ร้อนๆ ทางบริษัทโทรมาเรียกให้ผมไปสัมภาษ์ณ เพราะว่าผมอยู่ใน candidate รอบ 2 ผมก็เอเคๆ ไปครับ ผมอยากจะถามพี่ว่า พี่พอจะเดาได้รึเปล่าครับว่า เค้าจะเรียกผมไปสัมภาษ์ณงานตำแหน่งอะไรครับ ถ้าดูจากที่ผมกำลังเรียนอยู่

Ps. ผมถามพี่หน่อยครับ ระหว่าง ถ้าเกิดบริษัท ฟลุค เรียกผมทำงาน กับ การเรียนต่อ (ในสาขา Geoengineering) ผมควรจะเลือกอย่างไหนดีครับ เพราะถ้ารับผมไปทำงานตอนนี้ ความรู้ที่มีอยู่คงไม่น่าจะพอกับการทำงานน่ะครับ รบกวนพี่ช่วยแนะนำหน่อยครับ

Ps. รบกวนพี่ช่วยดู Resume ที่ส่งไปหน่อยครับ ว่า มันยังมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง ครับ สามารถ ติ ได้ไม่ต้องเกรงใจครับผม


โดย: Pongpatch IP: 119.46.60.248 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:42:23 น.  

 
ตอบคุณ Pongpatch - ผมตอบไปทางอีเมล์แล้วนะครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:55:52 น.  

 
ผมมีประสบการณ์ 7 ปี และผ่านการสำภาษณ์รอบแรก (.........Engineer) แล้วครับ รบกวนสอบถามว่ารอบสอง จะสัมภาษณ์เกี่ยวกับอะไรครับ


โดย: OPT IP: 125.24.110.5 วันที่: 12 เมษายน 2553 เวลา:23:34:43 น.  

 
ตอบคุณ OPT - รอบสองคงเป็นเรื่องของภาษาอังกฤษเยอะหน่อย อาจจะคุยเป็นภาษาอังกฤษตลอดเลยก็ได้มังครับ ว่าแต่ผมตอบมั่วไหมเนี่ย ผมยังไม่รู้เลยว่า (.... engineer) มันคืองานอะไรบ.อะไร แต่เอาเป็นว่าโดยหลักการแล้ว รอบแรกจะคัดเลือกคร่าวๆโดยฝ่ายบุคคลและฝ่ายเทคนิด แล้วรอบสองจึงจะได้คุยกับหน.งานที่จะรับเราเข้าไปทำงานโดยตรง คำถามจึงมักจะลึกกว่ารอบแรก ผมก็เดาๆได้เท่านี้แหละครับ อ้อ ... จำคำถามรอบแรกอะไรได้บ้างล่ะครับ ข้อสองข้อก็ยังดี ทางอีเมล์ก็ได้ครับ nnookk@hotmail.com .... พี่นก


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:9:18:52 น.  

 
ถ้าหลังจากเราแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษแล้วเขาไม่ถามภาษาอังกฤษเราอีกเลย แสดงว่าเค้ารู้ว่าเราท่องมา และเราก็จะไม่ได้ ห้าเต็มเสมอไหมคะ
หนูอุตส่าห์ดีใจ ที่เค้าไม่ถามเพิ่ม นึกว่าเค้าเห็นว่าเราพูดได้มากพอแล้ว


โดย: ทศพร IP: 161.200.85.102 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:33:57 น.  

 
ตอบ ทศพร - มี 2 กรณีครับ คือได้ 5 เต็มไปเลย เพราะเห็นชัดว่าภาษาดี หรือ ก็ไม่เต็มห้าแต่มากกว่าครึ่ง ในกรณีที่ท่องมาดีไงครับ ผมไม่ได้คุยกับคุณโดยตรงก็ตัดสินไม่ได้หรอกครับ

แต่ไม่ว่าจะกรณีไหน ภาษาอังกฤษของคุณก็ผ่านขั้นต่ำแล้วล่ะครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:25:08 น.  

 
สวัสดีพี่ๆทุกคนครับ ผมกำลังจะไปสัมภาษณ์งานที่ Chevron ตำแหน่ง Drilling Engineer วันพุธที่ 22/12/10 ครับ แต่ว่ามันก็ไม่ค่อยตรงกับที่ผมทำเท่าไร แต่ผมสนใจมากอยู่แล้วนะครับ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างครับ จบ วิศวะ เครื่องกล จาก ฬ ไปทำงาน piping ที่ Toyo-Thai อยู่ได้ 1ปี9เดือน ตอนนี้เป็น Project Engineer ที่ SCG ครับ

รบกวนด้วยนะครับ


โดย: ณัฐวุฒิ IP: 125.24.176.111 วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:21:34:37 น.  

 
ตอนนี้ก็พยายามอ่านเอาความรูจากเวปนี้ให้ได้มากที่สุดอยู่ครับ แล้วก็อาศัยโทรไปหาเพื่อนๆที่ทำงานอยู่ในวงการนี้ เรื่องของเรื่องคือผมไม่ค่อยเก่งเรื่องภาษาด้วยครับ อาจจะต้องท่อง และอาศัยกล้าพูดหน่อยมั้งครับ 555 คุณพ่อน้องเฟริน และน้องภัทร มีอะไรช่วยแนะนำมั้ยครับ

ขอบคุณมากๆๆ ก่อนล่วงหน้าครับ


โดย: ณัฐวุฒิ IP: 125.24.176.111 วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:22:11:52 น.  

 
ตอบ ณัฐวุฒิ - มีพี่ๆคุณจาก SCG หลายคนนะที่เข้าไปที่นั้น ตั้งแต่สมัยยังเป็นยูโนแคล และ หลังรวมกับ CV แล้ว ตอนนี้ก็ได้ดิบได้ดี โกอินเตอร์ไปก็หลายคน ที่ยังกอดอ่าวไทยเป็นเรือนตายก็มีบางส่วน

เอาว่าไม่มีอะไรแนะนำมากกว่าที่อยู่ในเว็บนี้หรอกครับ ลุยอ่านไปให้หมด โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการสัมภาษณ์ แนะแนวคำถามจริง ที่เน้นๆคือวิธีและขั้นตอนการขุดใน

ขุดเปลือกโลกหาน้ำมันกันยัง มีเฉลยที่นี่ครับ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=06-10-2009&group=6&gblog=24
ผมอธิบายแบบบ้านๆเท่านั้นนะครับ แต่ก็น่าจะพอเห็นถาพใหญ่ๆ

ชีวิต 24 ชม. ของ drilling eng (ที่อยู่ฝ่ายบู๊ - หน้างาน)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=18-06-2009&group=6&gblog=28

อีกกี่ปีน้ำมันหมด
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=10-12-2009&group=6&gblog=43

เจอแล้วเอาขึ้นมาไง
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=10-12-2009&group=6&gblog=44

และอื่นๆอีกมาก ไม่แน่นะว่าถ้าอ่านให้หมดก่อนสอบสัมภาษณ์แล้วคุณอาจเปลี่ยนใจไม่ทำงานนี้ก็ได้ เพราะมันไม่หนุกอย่างที่คิด ... ชีวิตมันก็อย่างนี้แหละครับ

แต่ถ้าอ่านหมดแล้วยังจะอยากมันส์สไตล์ drilloing engineer ก็ขอเชิญมาเลยครับ โหดมันฮา(และเป๋าตุง อิอิ)

อ้อ ... พกความมั่นใจเกินร้อยเข้าไปเลยครับ งาน drilling eng ต้องการคนมีความมั่นใจสูงแบบปริ่มๆจะ over confidence แต่ยังไม่เกินว่างั้นเถอะ แล้วก็ที่ขาดไม่ได้คือการตัดสินใจแบบ มีหลักการ scientific / engineer approach น่ะครับ ประเภททำไมเลือก ก. ไม่เลือก ข. ทำไม ตัด ค.ทิ้งออกก่อนเลย ถ้าต้องเดาระหว่าง ง. กับ จ. จะเลือกอะไรเพราะอะไร ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มในการเลือก ง.กับ จ. จะเอาอะไรระหว่าง ฉ. กับ ช. อะไรพวกนี้น่ะครับ

โชคดีนะครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:12:17:27 น.  

 
อ้อ เรื่องภาษาอังกฤษ ลืมบอกไป เวลากระชั้นขนาดนี้แนะอะไรไม่ได้มากไปกว่าคาถาจีบหญิง 2 บทสั้นๆ

ใจกล้า + หน้าด้าน
หรือ
ด้านได้ อายอด

ฮ่า ..
โชคดีครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:12:19:20 น.  

 
ขอบคุณ คุณพ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร มากครับ


โดย: ณัฐวุฒิ IP: 125.24.178.223 วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:21:22:18 น.  

 
สวัสดีครับพี่นก ผมได้รับการติดต่อให้เข้าสัมภาษณ์งานกับ Chevron ตำแหน่ง Horizontal Facilities Engineer เหมือนคนข้างบนหลายๆท่าน

ไม่ทราบว่าตำแหน่งนี้ลักษณะงานเป็นยังไง ทำอะไร
แล้วต้องเตรียมตัวในการสัมภาษณ์ยังไงมั่งครับ

1.คำถาม เค้าน่าจะถามแบบไหน
2.การสอบสัมภาษณ์ มีสอบกี่รอบ

จะสัมภาษณ์ใกล้ๆนี้แล้ว ขอบคุณมากครับ
email: tang_me@hotmail.com


โดย: Tuckey IP: 223.205.26.54 วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:21:39:53 น.  

 
ตอบคุณ Tuckey - ตอบไปแล้วในอีเมล์นะครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:22:31:17 น.  

 
สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูได้สัมภาษณ์ตำแหน่ง Facilities Engineer ผ่านรอบแรกแล้วอะค่ะ และกำลังจะสัมภาษณ์รอบที่สองเร็วๆนี้ รบกวนพี่นกช่วยแนะนำการเตรียมตัว และแนวของคำถามที่จะเจอในรอบถัดไปอะค่ะ

รอบแรกที่ผ่านมานี่จะเน้น Technical ในส่วนของงานที่เคยทำงานค่ะ เลยไม่แน่ใจว่ารอบถัดไปจะต้องเจออะไรบ้างค่ะ

e-mail : nat_nar@hotmail.com


โดย: Natt IP: 58.64.113.206 วันที่: 11 มกราคม 2554 เวลา:19:26:14 น.  

 
ตอบ Natt - โทษทีตอบช้า แต่ก็ยังไม่ตอบ ตอนนี้งานท่วมหัวเลย จะหาเวลาตอบเสาร์อาทิตย์นี้ แปะไว้ก่อน


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 13 มกราคม 2554 เวลา:22:22:08 น.  

 
สวัสดีครับพี่นก คือผมก็เหมือนเพื่อนๆ อ่ะครับ คือจะได้สัมภาษณ์กับ Chevron ตำแหน่ง Horizons Facilities Engineer จึงอยากรบกวนถามพี่นกว่า คำถามมีลักษณะยังไง ครับ (วิศวกรรมเคมี)ขอบคุณครับ

piyapong.ssw@gmail.com


โดย: piyapong IP: 192.168.48.235, 223.207.36.102 วันที่: 14 มกราคม 2554 เวลา:8:55:01 น.  

 
ตอบ Natt - piyapong - ตอบไปทางอีเมล์แล้วนะครับ ...


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 14 มกราคม 2554 เวลา:22:45:16 น.  

 
สวัสดีครับ พี่นก ตอนนี้ผมผ่านสัมภาษณ์เชฟร่อนรอบแรกแล้ว จริงๆผ่านตั้งแต่สิ้นเดือนมกราคมแล้วครับ ตำแหน่ง drilling engineer ครับ รอสัมภาษณ์รอบสุดท้ายอยู่ แต่ว่ารอมานานมากละ แต่รอได้เรื่อยๆ 555 เห็นทาง HR บอกว่า รอ manager กลับมาจากอเมริกาอะครับ เลยอยากได้คำแนะนำดีๆจากพี่นกครับ เผื่อเตรียมสัมภาษณ์ครับ จริงๆผมเตรียมมาบ้างแล้วครับ แต่อยากได้เพิ่มเติมครับจากพี่นกครับ แบบว่ารอบแรกก็ได้คำแนะนำดีๆจากพี่ และอาศัยการอ่านจากในนี้เอา ทำให้ผมผ่านรอบแรกมาได้ครับ
ขอบคุณครับ
ณัฐวุฒิ (nuttasur@scg.co.th)


โดย: ณัฐวุฒิ IP: 58.8.130.104 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:15:44 น.  

 
สวัสดีครับพี่นก ด่วนมากๆ ผมได้รับการติดต่อให้เข้าสัมภาษณ์งานกับ Chevron ตำแหน่ง Horizontal Facilities Engineer เหมือนคนข้างบนหลายๆท่านเวลากระชั้นชิดมากเลยครับ ขอถามข้อมูลพี่หน่อย นะครับ

ไม่ทราบว่าตำแหน่งนี้ลักษณะงานเป็นยังไง ทำอะไร
แล้วต้องเตรียมตัวในการสัมภาษณ์ยังไงมั่งครับ

1.คำถาม เค้าน่าจะถามแบบไหนในรอบแรก
2.ภาษาอังกฤษ ต้อง ประมาณไหน ครับ

จะสัมภาษณ์ใกล้ๆนี้แล้ว ขอบคุณมากครับ

chay_t_um@hotmail.com


โดย: N TUM IP: 203.150.206.171 วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:13:28:35 น.  

 
ตอบ N TUM- ตอบไปทางอีเมล์แล้วครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:17:24:44 น.  

 
สวัสดีครับพี่นก...ผมทำงานเป็น LWD field engineer อยู่ครับ ตอนนี้กำลัง 2 จิต 2 ใจอยู่นะครับ พอดีที่ สผ. เรียกให้เข้าไป pre test กับ first interview นะครับ ในตำแหน่ง Drilling Eng. ผม เลยอยากขอความคิดเห็นในมุมมองของผู้มีประสบการณ์ทั้ง 2 อย่างครับพี่


โดย: HEL IP: 58.147.117.132 วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:12:36:20 น.  

 
ตอบคุณ HEL - ผมตอบคุณไม่ได้หรอกครับว่าคุณจะเลือกอะไรดี ขึ้นกับว่าคุณวางเป้าในชีวิตว่าคุณต้องการเป็นอะไร ทำอะไรเมื่อไร Drilling eng ไม่ได้เป็นสุดยอดปราถนาเสมอไปโดยเฉพาะถ้ามาเริ่มเป็นเป็น drilling eng ของสผ. ก่อนอื่นคุณตอบตัวเองก่อนว่า

1. ตอนอายุ 60 ปีที่คุณเกษียณ คุณอยากทำอะไร
2. แผนการเงินคุณเป็นไง ตอนนี้ยังต้องเป็นหนี้เป็นสินไหม เมื่อไรคุณจะหมดหนี้ ภาระอื่นๆล่ะ พ่อแม่พี่น้อง ลูกเมีย ฯลฯ
3. generalist กับ specialist คุณชอบอะไร
4. คุณอยากออกแบบบ้านหรือชอบที่จะทำงานตามแบบที่เขาออกมาให้

งานปัจจุบันของคุณก็มีทางไปที่ไม่เลวเลยเหมือนกันครับ รุ่งได้เหมือนกัน ปัจจัยที่ตัดสินว่าไปทางไหน ไม่เกี่ยวกับรุ่งหรือไม่รุ่งแล้วล่ะครับ มันเกี่ยวกับ concept การใช้ชีวิตมากกว่าครับ คิดให้จงหนัก คิดให้ดีๆนะครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:21:45:48 น.  

 
ขอบคุณมากครับพี่....พี่อธิบายมาเคลียร์เลยครับ ผมก็คิดตามอย่างที่พี่แจกแจงมา ซักพักนึงแล้วนะครับ ลองเข้าไปคุยกับหัวหน้างานมาก็แล้ว แต่มันก็ยังมีอะไรบางอย่าง มาคอยสะกิด ให้คิดอยู่นะครับ คิดว่าเดี๋ยวพักรอบนี้จะลองท่องเที่ยวพักผ่อนทำใจว่างจิตว่างแล้วจะลองพิจารณาดูครับพี่.

ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำของพี่


โดย: HEL IP: 58.147.117.132 วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:12:51:32 น.  

 
สวัสดีครับพี่
ผมถูกเรียกสัมภาษกับทาง GE Energy ในตำแหน่ง Field Engineer ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับงานในตำแหน่งนี้ที่ GE ซักเท่าไรเลยครับ อยากจะถามว่างานมันเป็นแบบไหนอะครับ เอ่ออ..คือผมจบเครื่องกลมานะครับ และอีกคำถามนึง ผมควรจะเตรียมตัวยังไงครับ

Email tum_scream@hotmail.com

ขอบคุณมากครับ


โดย: tum IP: 183.89.211.245 วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:23:51:03 น.  

 
ตอบคุณ Tum - ตอบไปทางอีเมล์แล้วครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 6 เมษายน 2554 เวลา:21:58:44 น.  

 
สวัสดีครับพี่ ผมไปได้สัมภาษณ์กับ Chevron ตำแหน่ง Horizon Facilities Engineer ซึ่งตอนนี้ผมได้ผ่านรอบแรกแล้วครับ(Technical) ผมอยากทราบว่ารอบสองจะเป็นอย่างไร ควรเตรียมตัวอย่างไร คำถามประมานไหนครับ

supakorn.me@gmail.com

ขอบคุณครับ


โดย: Nics IP: 27.130.49.216 วันที่: 4 มีนาคม 2555 เวลา:7:36:07 น.  

 
Nics - ตอบไปทางเมล์แล้วครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 4 มีนาคม 2555 เวลา:11:32:55 น.  

 
สวัสดีครับพี่นก ผมเรียนจบโยธา ทำงานมาแล้วเกือบ 2 ปี ไม่มีประสบการณ์ด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเลย ได้รับการติดต่อให้สัมภาษณ์จากทาง Chevron ในตำแหน่ง FE แผนก Subsea ในรอบ 2 ครับ (Pass รอบแรกเนื่องจากเคยตกสัมภาษณ์รอบ 2 ในตำแหน่งอื่น เมื่อสองปีที่แล้ว)

ผมอยากทราบว่าในรอบ 2 นี้ ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มีคำถามประมาณไหนครับ ซึ่งสอดคล้องกับแผนก Subsea ที่ผมกำลังจะสัมภาษณ์

ขอบคุณมากครับ

palakorn.ch@gmail.com


โดย: Cupidz IP: 183.89.248.152 วันที่: 10 มีนาคม 2555 เวลา:23:26:06 น.  

 
Cupidz - ลองเข้าไปดูบล๊อกส่วนของประสบการณ์ข้อสอบสัมภาษณ์จริงที่เพื่อนๆเอามาแบ่งปันกันซิครับ มีคนมาเล่าการสัมภาษณ์ FE ของ CV หลายคนนะครับ ถึงอาจจะไม่ใช่ subsea แต่ผมว่าเนื้อหาไม่น่าหนีกันเท่าไร และที่สำคัญ ได้ความว่าไง กลับมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

อ้อ ... ที่ผมสังเกตุว่ากรรมจะถามมากๆทางเทคนิคก็คือเรื่องสาขาที่คุณจบมากับงานที่ทำอยู่นะครับ ว่าคุณรู้จริงหรือเปล่า


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:11:40:44 น.  

 
ขอบคุณมากครับพี่ ที่ชี้แนะ


โดย: Cupidz IP: 183.89.248.152 วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:22:36:40 น.  

 
สวัสดีครับพี่นก

คือว่าได้รับการติดต่อให้ไปสัมภาษณ์ Chevron ในตำแหน่ง Horizon Facilities Engineer ครับซึ่งผมกำลังจะจบวิศวกรรมเคมีครับ

คือว่าคำถามสำหรับรอบแรกที่เป็นเทคนิกคอลจะมีประมาณไหนครับ
ต้องเตรียมตัวในหัวข้อใดบ้าง

รบกวนด้วยครับ
Porawat.t@gmail.com


โดย: รบกวนด้วยครับ IP: 110.171.8.118 วันที่: 12 มีนาคม 2555 เวลา:17:57:04 น.  

 
รบกวนด้วยครับ

ตำแหน่งนี้มีคนมาแบ่งปันไว้เยอะเลยครับในบล๊อกส่วนของประสบการณ์จริงและคำถามจากการสัมภาษณ์ ซึ่งก็มีคนมาเล่าเรื่ิองข้อเขียนอยู่เหมืนกันครับ

ผมเองอยู่ฝั่งขุดเจาะ ไม่ค่อยรู้เรื่ิอง facilities เท่าไรเหมือนกันครับ

ลองๆไปอ่านในบล๊อกที่ว่าดูนะครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 12 มีนาคม 2555 เวลา:18:09:11 น.  

 
สวัสดีครับพี่นก
ผมได้รับการติดต่อให้ไปสัมภาษณ์ Chevron ในตำแหน่ง เดียวกับเพื่อนข้างบน(Horizon Facilities Engineer) ครับ ผมกำลังจะจบวิศวกรรมไฟฟ้ากำลังอ่ะครับ ซึ่งผมไม่แน่จัยว่าตรงสายหรือ จึงอยากขอคำปรึกษา เรื่องการเตรียมตัว และเรื่องความรู้ที่ผมควรจะต้องเตรียมตัวไปประมาณไหนอ่ะครับ

รบกวนด้วยครับ
generation_science @hotmail.com


โดย: GEN IP: 161.246.233.231, 161.246.254.173 วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:0:30:14 น.  

 
คือผมจะสัมภาษณ์พฤหัสนี้แล้ว รบกวนช่วยตอบเร็วหน่อยน่ะครับ
ขอบคุณมากครับ


โดย: GEN IP: 161.246.233.231, 161.246.254.173 วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:0:31:49 น.  

 
Gen....

วศบ. ไฟฟ้ากำลัง ก็ืถือว่าตรงแล้วนะครับกับงานนี้ื เพราะงาน facilities มันเหมารวบไปหมดทั้งเครื่องกล ไฟฟ้า วัดคุม เครื่องมือวัด ฯลฯ

ส่วนการเตรียมตัวนั้น มีเพื่ิอนๆเขียนมาแบ่งปันมากมายเลย และผมก็ตอบเอาไว้พอควรที่ FAQ กับในส่วนของคำสัมภาษณ์จริงที่เพื่อนๆนำมาแบ่งปัน ยังพอมีเวลาครับ คืนนี้บ่ายนี้นั่งไล่อ่านไปเรื่ิอยๆตั้งแต่ faq1 และคำสัมภาษณ์ทั้ง 6 ตอน ตอนไหนไม่ค่อยเกี่ยวก็ข้ามๆไป อ่านจบหมด 2 ส่วนนี้รับรองว่าคลุมได้เกือบ 80-90% เลยเชียวล่ะครับ

แล้วกลับมาเล่าให้ผมฟังมั่นนะครับว่าเจออะไรมาบ้าง


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:4:48:15 น.  

 
รบกวนหน่อยค่ะ
ถ้าอยากทำงานที่แท่นเจาะสามารถเรียนวิศวะอะไรได้บ้างค่ะ คือหนูกำลังเรียน ม.6 อยู่อยากไปทำงานที่แท่นเจาะบ้างแต่ไม่รู้จะเลือกเรียนวิศวะอไรดีค่ะ รบกวนแนะนำหน่อยน่ะค่ะ


โดย: หนูนิว IP: 111.84.32.42 วันที่: 31 มีนาคม 2555 เวลา:21:21:17 น.  

 
หนูนิว ... ดีใจจังที่เด็กม6.อย่างหนูนิวมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน

ผมแนะนำให้เลยว่าถ้าเอาตรงๆเลยคือ วิศวกรรมปิโตรเลียมของจุฬาฯ ไม่ก็เครื่องกลของทุกที่ อีกทีก็ GeoTech ของสุรนารี ไม่ก็ไปทางนักธรณี(คณะวิทยา)ไปเลยครับ

แต่ไม่ว่าจะเรียนคณะไหนที่ไหน เกรดจบสำคัญครับ เพราะวงการฯเราสวยเลือกได้ครับ คนอยากเข้ามาทำกันเอยะ ดังนั้นสำหรับเด็กจบใหม่ไม่มีอะไรวัดได้ดีไหกว่าเกรดที่จบกันมา ...

ทำให้ดีที่สุดเลยนะหนูนิว ...


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 31 มีนาคม 2555 เวลา:21:31:37 น.  

 
ขอบคุณค่ะ จริงๆแล้วหนูก็หวังปิโตรเลียมของจุฬาแต่หนูกลัว GPA ของหนูไม่ถึงค่ะเลยต้องลองดูวิศวะอื่น ถ้าพลาดของจุฬาจะได้มุ่งเน้นไปอันอื่น มีทางเลือกเพิ่มแล้วหนูสบายใจหน่อยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


โดย: หนูนิว IP: 115.67.192.37 วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:17:36:37 น.  

 
นิว

หนูรู้อะไรไหม การที่หนูมีเป้ามีฝันตั้งแต่ตอนนี้นั้น เท่ากับว่าหนูไปถึงที่ที่หนูอยากไปแล้วตั้งครึ่งทาง ที่เหลือก็แค่ถือหางเสือเอาไว้อย่าให้มันเป๋มันเบี้ยวไปไหน วันหนึ่งหนูก็ถึงเองนั่นแหละ

เอาใจช่วยนะ

อานก


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:18:06:59 น.  

 
หนูตั้งใจและหนูก็คิดว่าต้องทำให้ได้แต่หนูไม่สามารถแน่นอนกับระบบการศึกษาไทยได้เลยค่ะ มันคือสิ่งที่หนูกังวลที่สุดค่ะ ขอเมลล์อานกไดไหมค่ะหนูจะติดต่อทางเมลล์ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ


โดย: หนูนิว IP: 115.67.192.37 วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:21:18:27 น.  

 
นิว

nnookk@hotmail.com



โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 2 เมษายน 2555 เวลา:5:39:29 น.  

 
ผมทำงานก่อสร้างกับพ่อตั้งแต่อายุ 14 ปี จนได้เรียนป.ตรี นิติศาสตร์ แต่ไม่จบเพราะเรียนตามพ่อบอก ตอนนี้อายุ 26 แล้วพึ่งค้นหาตัวเองเจอ
คำถาม 1.ผมตัดสินใจที่จะเรียนวิศวโยธา ที่ ม.เอกชนช่วยแนะนำให้หน่อยครับ ม.รัฐ สู้เด็กไม่ได้และหลักสูตรไม่เหมือนอีก 2.พอจะมีแนวทางได้ทำงานกับบริษัทน้ำมันไหมครับ หรือไม่ก็แนะนำอย่างอื่นก็ได้ครับ
ขอบคุณไว้นะที่นี้ครับ


โดย: อาร็ท IP: 110.49.249.197 วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:21:28:04 น.  

 
อาร็ท

1. ผมไม่ทราบเรื่องวิศวกรรมโยธาของม.เอกชนเลยครับ ว่าเขามีเงื่อนไขการรับอะไรยังไง คงต้องอาศัยกูเกิลกับโทรฯถามเอาล่ะครับ

2. พอจะมีแนวทางได้ทำงานกับบริษัทน้ำมันไหมครับ - ส่ง CV มาที่ nnookk@hotmail.com นะครับ ผมจะได้มีข้อมูลมากขึ้นหน่อย จะๆได้ใบ้หวย เอ๊ย บอกทางได้แม่นๆ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 25 เมษายน 2555 เวลา:8:49:08 น.  

 
เงื่อนไขม.เอกชนผมผ่านครับ เพราะม.เอแกชนเข้าง่ายกว่าแน่นอน ส่วนที่ผมถามว่าแนวทางนั้นหมายถึงตอนเรียนจบอะครับ ก็คงอายุ 30 แก่ขนาดนี้ต้องไปแนวไหน
ม.ที่ผมจะเข้า ชื่อ ม.มหานคร เคยได้ยินไหมครับ
"กว่าจะค้นผมตัวเองนี้ก็สายเกินไปหรือเปล่า"


โดย: อาร์ท IP: 110.49.249.229 วันที่: 25 เมษายน 2555 เวลา:9:16:48 น.  

 
อาร์ท

เคยได้ยินครับ เป็น ม.ที่ดีและเชื่อถือได้ครับ

"กว่าจะค้นผมตัวเองนี้ก็สายเกินไปหรือเปล่า" ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นครับ

ก็คงอายุ 30 แก่ขนาดนี้ต้องไปแนวไหน - มีทางให้ไปมากมายครับ ขอแค่มีฝันมีความตั้งใจครับ ตอนนี้ที่คุณต้องทำคือเรียนให้จบด้วยเกรดให้ดีที่สุด ไปเรียนเสริมภาษาอังกฤษและจีนกลาง เอาให้พูดให้ได้ (ต้องหาจุดแข็งมาชดเชยให้ได้มากที่สุด)

เรียนให้จบมาให้ได้นะครับ ... พี่นก ...



โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 25 เมษายน 2555 เวลา:10:03:01 น.  

 
ขอบคุณครับ มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย
แต่รู้สึกว่าบอร์ดมันเงียบๆไปนะ - -


โดย: อาร์ท IP: 110.49.235.2 วันที่: 26 เมษายน 2555 เวลา:10:05:45 น.  

 
อาร์ท - เขาไปอยู่บอร์ด wireline helper กับ workforce กันหมดครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 26 เมษายน 2555 เวลา:10:34:33 น.  

 
แล้วตอนนี้เหลือแต่พี่คนเดี่ยวหรอครับ งั้นขอเวปไปดูหน่อยครับ


โดย: อาร์ท IP: 49.230.20.23 วันที่: 26 เมษายน 2555 เวลา:19:17:53 น.  

 
ก็อยู่ในนี้แหละครับ แต่อีกบล๊อกนึง

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=24-11-2011&group=6&gblog=94

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&group=6&month=13-03-2012&gblog=105

มีอีกเยอะแยะครับ กระจายๆกันไปตามความสนใจของแต่ล่ะคนน่ะครับ ค่อยๆอ่านไปเรื่อยๆก็จะรู้ว่าใครอยู่ที่ไหนบ้าง


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 27 เมษายน 2555 เวลา:5:48:21 น.  

 
ขอบคุณพี่มากเลยครับ เอาไว้ถ้าเรียนจบเมื่อไรจะไปเลี้ยงสาวพี่ละกัน 555 เกี่ยวไหม


โดย: อาร์ท IP: 49.228.26.233 วันที่: 27 เมษายน 2555 เวลา:10:49:48 น.  

 
สวัสดีครับ ผมชอบบทความนี้มากและสนใจที่อยากจะลองทำงานสายนี้

ผมจบวิศวะยานยนต์จุฬาภาคอินเตอร์ แต่เกรดไม่ดี (2.4)เคยยื่นสมัครfield engineer ของ Schlumberger แต่น่าจะเป็นเพราะเกรดต่ำไปเค้าเลยส่งอีเมลประมาณว่าผมคุณสมบัติไม่ถึง ผมเลยมาเรียนป.โท ที่ม.เกียวโต เกี่ยวกับพลังงาน แต่เป็น master of science

พี่คิดว่าถ้าผมจบแล้วมีโอกาส ที่เค้าจะเรียกไปสัมภาษณ์ไหมครับ
ถ้ามี ควรรอให้จบก่อนค่อยสมัคร หรือ สมัครตอนนี้ไปเลย
ปล.ผมจะจบกันยา56 นี้อ่ะครับ พี่พอจะแนะนำให้ผมควรทำอะไรบ้างครับ
ไม่แน่ใจในการใช้สรรพนาม(พี่) ถ้าผิดพลาดยังไงผมขออภัยด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ


โดย: dolraemon IP: 130.54.130.67 วันที่: 9 มกราคม 2556 เวลา:17:45:14 น.  

 
Dolraemon - กันยา 56 อีกนาเลยครับ รอใกล้จบกว่านี้ดีกว่า โอกาสดีขึ้นมากเลยครับ

ที่ควรทำคือทำเกรดให้ดีที่สุด บ.นี้ใช้เกรดเป็นเบื้องต้น เป็นประตูน่ะครับ แล้วก็สอบโทอิคให้ได้สัก 800 ขึ้นนะครับ

เรียกพี่ก็ได้ครับ ง่ายๆดี


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 9 มกราคม 2556 เวลา:18:21:26 น.  

 
โทอิก 800 น่าจะไม่ยากเกินไปครับ แต่ผมกังวลสาขาที่ผมเรียนมันเป็น socio-enviromental science นั่นซิครับ lab ผมเป็น economic energy มันจะokกับเค้ารึป่าว นั่นหล่ะที่ผมกังวล

ขอบคุณมากครับ


โดย: dolraemon IP: 130.54.130.248 วันที่: 9 มกราคม 2556 เวลา:18:45:02 น.  

 
Dolraemon - จะโอเคหรือไม่โอเค คุณก็ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่ครับตอนนี้ เลยมาจนจะจบแล้ว ทำที่ทำอยู่ให้ดีที่สุดแล้วค่อยว่ากันครับ ถ้ามีเวลาก็หาวิชาเลือก หรือ หลักสูตรระยะสั้นที่ม.นั้นอาจจะมีที่เกี่ยวกับวิศวกรรมปิโตรฯ อาจจะช่วยให้ cv ดูดีขึ้นครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 10 มกราคม 2556 เวลา:4:36:26 น.  

 
จริงๆก็คิดแบบนั้น แต่เหมือนพยายามหาที่ัพึ่งทางใจ

ยังไงก็ขอบคุณมากครับ


โดย: Dolraemon IP: 130.54.130.233 วันที่: 10 มกราคม 2556 เวลา:12:24:41 น.  

 
Dolraemon - Just do your best shot


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 10 มกราคม 2556 เวลา:15:44:52 น.  

 
สวัสดีครับพี่นก พ่อน้องเฟิร์น
ประมาณ 5-6 ปีก่อนผมเคยเข้ามาดูเวปบล็อกของพี่บ่อยๆ
ประทับใจมากครับเพราะอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่ผมอยากรู้ทั้งนั้นครับ
ตอนนั้นผมยังไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับปิโตรเลียมเลยครับ
ผ่านมา5-6ปีเวปบล็อกของพี่ก็ยังน่าอ่านอยู่ตลอดทั้งได้ความรู้ ได้คำแนะนำ ได้อะไรเยอะแยะจากการได้แลกเปลี่ยน สอนสั่งจากพี่
(ผมแอบมาอ่านบ่อยๆ)

ขอให้สุขแข็งแรงนะครับ


โดย: ต้อมครับ IP: 144.5.59.106 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2556 เวลา:2:08:20 น.  

 
ต้อมครับ - ขอบคุณมากครับ สุขภาพแข็งแรงๆ โชคดีเช่นกันครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2556 เวลา:17:20:30 น.  

 
สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณพ่อน้องเฟิร์นยังเล่นเวปบล็อกอยู่อีกรึปล่าวนะค๊ะ พอดีว่าเพิ่งเจอบล็อกนี้หนะค่ะ ให้ความรู้ได้มากทีเดียว คือว่าพีทจบปริญญาเอกวิศวกรรมเคมีค่ะ เกรดเฉลี่ยขั้นดีเลยค่ะ อายุก็เลยไปตามวุฒิ 30 พอดีค่ะ แต่จบตั้งแต่อายุ 28 ช่วงนั้นทำงานวิจัยไปเรื่อย เที่ยวไปบ้าง ไปฝึกภาษามาบ้าง แต่ก็ไม่เก่งมาก เลยไม่ได้ทำงานจนล่วงเลยมาถึง 30 คืออยากจะถามหนะค่ะ ว่าการที่เรียนจบมา แต่ไม่มีประสบการณ์เลย แล้วเป็นผู้หญิงอีก ไม่ทราบว่ามีงานในตำแหน่งใหนพอจะสมัครได้บ้างค๊ะ ชอบงานทางด้านวิศวกรรมมาก ชอบปฏิบัติมากกว่าอ่ะค่ะ มีโอกาศเป็นไปได้มั้ยค๊ะที่จะได้ร่วมงานกับบริษัทพวกขุดเจาะ ..

ขอบคุณค่ะ


โดย: Peach IP: 1.10.222.62 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:12:24:09 น.  

 
Peach - ยังอยู่ๆ ครับ ไม่ได้หนีหายไปไหน

งานที่เหมาะกับหนูมากที่สุดน่าจะเป็นงานที่เรียกว่า น้ำโคลน หรือ ซีเมนต์ นะครับ มีนักเคมีหลายคนทำในส่วนนั้น บ.ที่รับก็จะเป็นบ.services ที่ให้บริการด้านนั้นๆ เช่น MI SWACO (น้ำโคลน) SLB cementing ซึ่งอยู่กับ พี่ใหญ่SLB หรือ Bariod (น้ำโคลน) กับ Halliburton ซึ่งก็คือ Hallibutrton แล้วยังมี BAKER ที่มีทั้งสองอย่าง (ซีเมนต์ก็คือ BJ)

นอกจากนี้ก็จะมีบ.น้ำโคลนขนาดกลางชื่อ SCOMI ก็รับนักเคมี

ไปอ่านดูว่า น้ำโคลนกับซีเมนต์นั้นใช้ทำอะไรในงานขุดเจาะบ้างจากบล๊อกห้องสมุดผมตอนที่หนึ่ง มีตำราเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดาวโหลด

แต่ด้วยว่าคุณจบถึงป.เอก บ.เขาคงไม่ให้คุณไปเสียของอยู่ในสนามหรอกครับ คงให้อยู่ R&D และคอยวิ่งคอยบินไปหน้างานเป็นพักๆ เผื่อไปแนะนำแก้ปัญหามากกว่า แต่ในตอนต้นก่อนจะไปเป็น R&D เต็มตัวผมเคยเห็นหลายบ.ส่ง ดร.อย่างหนูมาลุยหน้างาน 3-6 เดือนเหมือนกัน เพื่อให้เข้าใจสภาพการทำงานจริง จะได้ไม่โดนว่าๆ นั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง แล้วนั่งเทียนให้คำแนะนำหรือคิดผลิตภัณฑ์ขึ้นมาแล้วใช้งานจริงไม่ได้

ประสบการณ์ไม่มีไม่เป็นไรมังครับ จบถึงดร.เป็น R&D ได้สบายมากๆครับ

รายชื่อบ.ก็อยู่ในห้องสมุดผม. download เอาได้

ถ้าจะ google ให้ใช้คำประมาณว่า oil well cementing หรือ oil well drilling fluid, oil well completion fluid ก็จะพอมีคลิป มี บทความ โฆษณาหางาน ชื่อบ.ต่างๆโผล่ขึ้นมา แต่ที่แน่ๆ SLB Halliburton BAKE 3 บ.นี้มีแน่ๆครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:4:06:58 น.  

 
ขอบคุณคุณพ่อน้องเฟิร์นมากเลยนะค๊ะ

เริ่มมีความหวังขึ้นมาแล้ว ตอนแรกเหมือนจะหมดกำลังใจค่ะ เพราะถ้าไม่เป็นอาจารย์แล้ว งานบ.หายากจริงๆ ขอบคุณข้อมูลจากคุณพ่อน้องเฟิร์นมากค่ะ ตอนนี้พีทอยู่สงขลาค่ะ ถ้าได้งานสงขลานี่ ถือว่าโชคดีมาก

เมื่ออาทิตย์ก่อนได้ไปยื่น resume ที่ ชลัม (สงขลา) ไม่ได้ระบุตำแหน่งไป ข่าวคราวยังเงียบอยู่เลย เดี๋ยวจะลองหาข้อมูลตามที่คุณพ่อน้องเฟิร์นแนะนำำดูค่ะ .....

ตอนนี้ก็กำลังว่างงาน ช่วยพ่อทำก่อสร้างอยู่ค่ะ เทคอนกรีต หลังคา ฉาบ ลาดพื้นได้หมด...หลายคนก็แปลกใจนะค๊ะ เพราะตอนมหาลัยเป็นเชียหลีดเดอร์แต่ทำไมชอบลุยงานแบบผู้ชาย ....

หวังว่าที่พิมพ์ไปจะไม่ไปรบกวนพื้นที่ของพี่มากจนเกินไปนะค๊ะ ถือว่าเล่าสู่กันฟัง ^^ อ่านบล็อคพี่ได้อะไรหลายอย่าง ถือว่ามีประโยชน์มากกับคนด้อยประสบการณ์อย่างน้อง ....น้อยคนนะค๊ะที่จะแบ่งปันประสบการณ์ แนะนำ ให้ข้อคิด ความรู้ กับคนอื่น...ขอชื่นชมเลยค่ะ

......ขอบคุณอีกครั้งค่ะ



โดย: Peach IP: 1.10.222.29 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:01:09 น.  

 
Peach - โอ้วววว เชียร์ลีดเดอร์ มา ผสมปูน เทคอนกรีต (โปรดทราบ อ่านว่า คอน-กรีด ไม่ใช่ คอ-นก-รีด) มุงหลังคา ฉาบ ลาดพื้น

นึกถึง ฉาก คาเมรอน ดิเอช ล้างรถ ในเรื่อง bad teacher เลยครับ แบบนี้ขึ้นไปบนแท่น dog house คงมีหนุ่มๆเข้ามาแวะเวียนชงกาแฟ หยิบโน้น เอานี่ ท้างวัน อิอิ

ลองไปทำการบ้านดูเองก่อนล่ะกัน มีอะไรก็ถามไถ่กันมา


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:5:48:02 น.  

 
สวัสดีครับ

พอดีเพิ่งเข้ามาได้อ่าน blog นี้ ดีใจมากๆ เพราะผมกำลังจะ interview รอบสุดท้ายของ PTTEP สัปดาห์หน้า
ตำแหน่ง HR office ต้องเข้าไปรับผิดชอบเกี่ยวกับแรงงานสัมพันธ์ หรือพูดง่ายๆ คือเข้าไปดูแลคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพนักงานทุกๆ เรื่องแหละครับ

เท่าที่อ่านมาเหมือน blog นี้จะเน้นเกี่ยวกับงานด้านวิศวกรรมเป็นส่วนใหญ่
ไม่ทราบว่าพอมี link เอาไว้ให้ผมศึกษาความเป็นอยู่ของพนักงานที่แท่นบ้างไหมครับ

ขอบพระคุณครับ


โดย: นน IP: 171.97.90.200 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:20:10:31 น.  

 
นน - ยินดีต้อนรับครับ ตามลิงค์นี้ไปเลยครับ ช่วงแรกๆ มีเรื่องราวชีวิตพวกเราในสนาม

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=nong-fern-daddy&group=6


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:4:30:55 น.  

 
ขออนุญาติ นะครับ สอบถามผู้รุ้

คือ ถ้า บอดสีแดง เขียว จบวิศว เครื่องกล

เพิ่งเรียนจบ อยากทำงานเกี่ยวกับสายพลังงาน มากๆ

อยากทราบว่า พอจะทำสายนี้ได้มั้ย ครับ
ขอบคุณครับ

อาจจะนอกประเด็นไป ขอโทดด้วยครับ


โดย: Tricky IP: 1.2.132.47 วันที่: 29 มีนาคม 2557 เวลา:14:33:56 น.  

 
Tricky - ตอบรวมๆคงไม่ได้ครับ ต้องว่าเป็นงานๆและเป็นบ.ๆไปครับ บางงานก็จำเป็น บางงานก็ไม่ แถมงานเดียวกันแต่ล่ะบ.ก็คิดไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่มุมมองเรื่องนี้มีสองส่วน ส่วนของตัวงาน และ ส่วนของความปลอดภัย

ผมว่าคุณสมัครไปก่อนเถอะ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ ถ้าบ.ตรวจตาบอดสี ก็ค่อยว่ากัน บางทีรับได้ บางทีรับไม่ได้ ก็ต้องไปว่ากันช๊อตนั้นครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 30 มีนาคม 2557 เวลา:7:00:35 น.  

 
ขอบคุณมากครับพี่นก ผมเป็นเด็กจบใหม่ครับสาขาเครื่องกล จบช้ามาก(เรียน5.5ปี)555 เนื้อหาที่พี่เขียนเป็นประโยชน์มากสำหรับผมและคาดว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนอีกหลายๆรุ่นครับ
ขอบคุณครับ
จอร์จ


โดย: george.me7 IP: 27.55.233.6 วันที่: 28 มกราคม 2558 เวลา:19:28:27 น.  

 
george.me7 - ยินดีครับ มาตามฝันด้วยกัน


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 29 มกราคม 2558 เวลา:16:24:55 น.  

 
ก่อนอื่นขอสวัสดีก่อนเลยครับพี่นก ผมเป็นคนนึงที่สนใจสายพลังงานมากครับ เลยมาหาข้อมูลละมาเจอบล็อคของพี่ พี่เป็นคนมีประสบการณ์มากๆ ผมนี่อยากเป็นเหมือนพี่เลย 5555 เข้าเรื่องดีกว่าครับ ผมชื่อเอกครับ กำลังจะจบในมิถุนา 58 นี้ครับ เรียนสาขาวิศวกรรมการจัดการและโลจิสติกส์ (จะปนๆ IE ครับ แต่ไม่ลึกเท่าไหร่) ถ้าผมสนใจอยากทำงานสายพลังงานแบบวิศวกรสนามพอจะเป็นไปได้ไหมครับ ถ้าเป็นไปได้ยาก มาสายงานไหนบนแท่นที่เหมาะกับความรู้ที่ผมเรียนมาบ้างครับ ขอบคุณล่วงหน้าในคำตอบนะครับ อยากให้พี่มาเป็นอาจารย์ผมจัง คงมีประสบการณ์ดีๆเล่าให้ผมฟังอีกเยอะแน่เลย 5555 ขอบคุณมากๆครับ


โดย: SORRAWIS IP: 124.121.84.187 วันที่: 17 พฤษภาคม 2558 เวลา:16:00:53 น.  

 
ขอฝากอีกเมลไว้ด้วยนะครับ พี่ๆท่านใดมีความรู้ คำแนะนำดีๆสำหรับนักศึกษาจบใหม่อย่างผม ยินดีน้อมรับด้วยความจริงใจครับผม และจะเป็นพระคุณกับผมมากๆครับ beside.sorrawis@gmail.com


โดย: SORRAWIS IP: 124.121.84.187 วันที่: 17 พฤษภาคม 2558 เวลา:16:04:12 น.  

 
SORRAWIS - ยินดีต้อนรับสู่วงการคนล่าฝันครับ แนะนำให้อ่านลิงค์นี้และลิงค์ย่อยๆให้หมดเลยนะครับ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=27-01-2013&group=6&gblog=169

เรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น ทำการบ้านมากๆ จากในลิงค์ข้างบนนะครับ เหลือคำถามเท่าไร มาว่ากัน ยินดีตอบครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2558 เวลา:10:35:06 น.  

 
ขอบคุณมากครับ^_^


โดย: yuri oz IP: 183.89.133.242 วันที่: 19 ตุลาคม 2558 เวลา:13:34:34 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่นก หนูเรียนวิศวะเคมี ปี 3 ค่ะแต่เกรดหนูไม่ค่อยดีค่ะ แต่สนใจทำงานทางด้าน FE จริงๆค่ะ ภาษาอังกฤษก็ดีระดับหนึ่งค่ะ หนูจะต่อโทก่อน หรือ จะทำบริษัทเล็กไปก่อน รบกวนพี่นกชวนแนะนำหน่อยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ
Babyfame.34@gmail.com (อีเมลล์ค่ะ)


โดย: เฟม IP: 202.28.63.180 วันที่: 29 ตุลาคม 2558 เวลา:16:42:24 น.  

 
เฟม - แนะนำให้ต่อโทฯสายตรงไปเลยครับ วิศวกรรปิโตรเลียม มีทั้งในและนอกประเทศ จะเป็นทางที่ใกล้ที่สุดครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2558 เวลา:7:41:12 น.  

 
รูปในส่วนของเนื้อหา บันไดตรง heli deck และ cantilever คล้ายๆริกที่ผมอยู่เลยครับ แต่ว่าใกล้หมดสัญญาแล้วครับ


โดย: MI IP: 192.99.14.34 วันที่: 26 ธันวาคม 2558 เวลา:21:32:07 น.  

 
MI - จำไม่ได้เหมือนกันครับว่าเอามาจาก rig ได้ ปนๆกัน


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 28 ธันวาคม 2558 เวลา:16:39:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nong Fern Daddy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [?]




... Blog นี้ ...
แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร
เธอ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้ม
เธอ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล
... และ ...
เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม

---------------------------------------------

หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?

หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?

แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย

แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...

แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ

Friends' blogs
[Add Nong Fern Daddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.