'ความรู้ ไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในตำราเรียน' จากคำกล่าวประโยคนี้ กลายมาเป็นแรงบันดาลใจใ้ห้เกิดทริปท่องเที่ยว เพื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียนสำหรับสองเด็กดื้อของผมในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เราไปเที่ยวตามใจผู้ใหญ่กันมามากแล้ว ในครั้งนี้ผมจึงขอเปลี่ยนแนวมาเที่ยวแบบเอาใจเด็กกันดูบ้าง .....


          สถานที่ซึ่งผมได้พาเด็กๆ ไปเปิดประสบการณ์การเรียนรู้นอกตำราในทริปนี้ ตั้งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี เป็นสถานที่ซึ่งมีการออกแบบตัวอาคารได้อย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ชวนสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น อาคารแห่งนั้นมีรูปทรงเป็นลูกบาศก์ 3 ลูกวางพิงกันอย่างสมดุล ภายในตัวอาคารเป็นแหล่งจัดแสดงนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า "พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์" นั่นเอง .....




+++ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ แหล่งเรียนรู้นอกตำราเรียน ที่ให้ทั้งความรู้และความสนุกสนานกับเด็กๆ +++




+++ ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ออกแบบเป็นรูปลูกบาศก์ 3 ลูก วางพิงกันอย่างสมดุล +++


          "พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์" ตั้งอยู่ภายในเทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จัดตั้งโดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์ ภายในจัดแสดงนิทรรศการและจัดกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำเสนอสาระน่ารู้นับจากการค้นพบทฤษฎี หลักการและการประดิษฐ์ในอดีต ความก้าวหน้าจนถึงปัจจุบัน และแนวโน้มสู่อนาคต .....


          นิทรรศการและชิ้นงานที่จัดแสดง นำเสนอในรูปแบบที่ให้ผู้ชมสามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจด้วยการสัมผัส ทดลอง ร่วมแสดง และโต้ตอบกับชิ้นงานแสดงต่างๆ เนื้อที่จัดแสดงมีประมาณ 10,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 6 ชั้น แต่ละชั้นก็จะนำเสนอเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างกันออกไป รายละเอียดสามารถหาดูได้จากเวปไซด์ของทางพิพิธภัณฑ์ได้ครับ (//www.nsm.or.th/nsm2009/sci) .....




+++ บริเวณสวนด้านข้างพิพิธภัณฑ์ ก็มีของเล่นเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ให้ทดลองเล่นกันด้วย +++




+++ ตามดื้อใหญ่เข้าไปเที่ยวข้างในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์กันเลยครับ +++




+++ สำหรับผู้ใหญ่ต้องซื้อบัตรเข้าชมคนละ 50 บาท แต่เด็กๆ เข้าชมฟรี +++


          ก่อนจะเข้าไปชมภายในพิพิธภัณฑ์ เราต้องไปซื้อบัตรเข้าชมกันก่อน ราคาค่าบัตรสำหรับผู้ใหญ่หากเข้าชม "พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์" แห่งเดียว คนละ 50 บาท แต่ถ้าซื้อบัตรรวมเข้าชมได้ทั้ง 3 พิพิธภัณฑ์ (รวมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา และพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศด้วย) ราคาจะอยู่ที่คนละ 70 บาท สำหรับเด็กๆ เข้าชมได้ฟรี หากคุณมีเวลามากพอผมว่าซื้อบัตรรวมก็น่าจะคุ้มกว่า .....


          และเนื่องจากนิทรรศการที่จัดแสดงให้ชมมีจำนวนมาก หากจะเที่ยวชมให้ทั่ว ควรมีเวลาไม่น้อยกว่า 2-4 ชั่วโมง ถ้าไปแต่เช้าก็น่าจะชมได้ครบทั้ง 3 พิพิธภัณฑ์ แต่น่าเสียดายตอนที่ผมไปถึงก็เกือบเที่ยงแล้ว จึงมีเวลาชมไม่ครบทั้ง 3 แห่ง สำหรับคนที่เป็นห่วงเรื่องอาหารการกิน ที่นี่เขามีร้านอาหารบริการด้วย แต่อาหารมีไม่หลากหลายเท่าไหร่นัก รสชาติก็จัดว่าพอใช้ได้ครับ .....




+++ ภายในพิพิธภัณฑ์ ชั้น 1 จะจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์รุ่นบุกเบิก +++




+++ รถยนต์ Toyota Prius ถูกผ่าครึ่งให้เห็นการทำงานของเครื่องยนต์กลไกภายในรถ +++




+++ มุมนั่งพักผ่อน ให้บรรยากาศแบบอวกาศและดาวเทียม +++




+++ ขึ้นมาบนชั้น 2 เป็นการจัดแสดงเกี่ยวกับการค้นพบโลกที่เปราะบาง +++




+++ "ลูซี่" มนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่เก่าแก่ที่สุด ขุดพบในประเทศเอธิโอเปียเมื่อปี พ.ศ. 2517 +++




+++ "จานกระซิบ" อันนี้สนุกดี เป็นจานพาราโบลาขนาดใหญ่สองอัน ตั้งอยู่สองฟากบันไดของชั้น 3 +++




+++ เพียงกระซิบเบาๆ ที่จานพาราโบลาด้านหนึ่ง เสียงก็จะถูกส่งผ่านไปให้คนที่อยู่อีกฟากหนึ่งได้ยินอย่างชัดเจน +++




+++ ของเหลวที่อยู่ในลูกกลม จะหมุนวนคล้ายๆ เวลาเกิดลมพายุ +++




+++ ดื้อใหญ่กำลังสนใจดูรายละเอียดบ้านเรือน จากแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมของกรุงเทพมหานคร +++




+++ (ซ้าย) ห้องแสดงตัวอย่างของการเกิดแผ่นดินไหว +++                                         +++ (ขวา) ลูกบอลพลาสมา +++




+++ ดื้อใหญ่กำลังเล่นกับกระแสไฟฟ้าในลูกบอลพลาสมา +++




+++ ลูกบอลในภาพ ลอยอยู่กับที่ด้วยแรงลมที่เหมาะสม ไม่ลอยสูงขึ้นและไม่หล่นลงพื้น +++




+++ สองเด็กดื้อ เดินชมสิ่งของและเรื่องราวที่นำมาจัดแสดง ด้วยความสนใจ +++




+++ ตรงจุดนี้ถ้ายื่นมือเข้าไปข้างใน จะมีภาพสะท้อนมือเรายื่นออกมา น่าจะเกี่ยวกับการหักเหของแสง +++




+++ เวลากดปุ่มแดง รถยนต์ในตู้จะแล่นไปข้างหน้า +++




+++ เด็กๆ กำลังสนุกกับการทดลองเกี่ยวกับบิ๊กแบง ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของจักรวาล +++




+++ การขุดค้นซากฟอสซิลและเรื่องราวเกี่ยวกับธรณีวิทยา จัดแสดงอยู่ที่ชั้น 4 +++




+++ ส่วนหนึ่งของการจัดแสดงเกี่ยวกับร่างกายและการแพทย์ บนชั้น 5 +++




+++ กล้องถ่ายรูปโบราณ สวยคลาสสิกจนอยากได้มาเก็บไว้ที่บ้านบ้าง +++




+++ ท่อนำเสียง เมื่อเราพูดผ่านท่อที่มีความกว้างและยาวต่างกัน เสียงที่ได้ยินก็จะต่างไปจากเดิม +++




+++ ห้องโดยสารเครื่องบินจำลอง มีทีวีให้ชมเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การบิน +++




+++ หากใครอยากได้ของติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน ที่นี่เขาก็มีร้านขายของที่ระลึกให้เลือกซื้อกันด้วย +++




+++ ตัวอย่างของที่วางขาย ในภาพเป็นชุดเกมขุดค้นซากฟอสซิลไดโนเสาร์ +++


          หลังออกจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เราก็แวะไปเที่ยวชม "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา" กันต่อ ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ติดลานจอดรถ ถ้าใครจะแวะชมเฉพาะที่นี่แห่งเดียวก็จะเสียค่าเข้าชมเพียงคนละ 20 บาท บริเวณสวนด้านหน้าพิพิธภัณฑ์น่าจะเป็นจุดที่เ็ด็กๆ ตื่นตาตื่นใจมากที่สุด เพราะมีรูปปั้นไดโนเสาร์ตัวโตหลากหลายชนิด ยืนรอให้ทุกคนเข้าไปถ่ายภาพด้วย .....


          พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งที่ 2 ขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ที่ถือได้ว่าเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลและจัดแสดงนิทรรศการทางธรรมชาติวิทยา ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกของไทย บนเนื้อที่กว่า 1,100 ตร.ม. ซึ่งนิทรรศการที่นำมาจัดแสดงภายในจะทำให้ผู้เข้าชมได้ทราบถึงประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติวิทยา นับตั้งแต่การกำเนิดโลกสิ่งมีชีวิต ที่ต้องอาศัยการวิวัฒนาการผ่านช่วงเวลาอันยาวนาน ไปจนถึงความหลากหลายทางชีวภาพของไทย .....




+++ ออกจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แล้ว เราแวะไปเที่ยว "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา" กันต่อ +++




+++ สวนด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ จัดทำเป็นสวนยุคก่อนประวัติศาสตร์ +++




+++ มีรูปปั้นไดโนเสาร์ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ ให้เด็กๆ ได้เล่นสนุกด้วย +++




+++ ตัวนี้น่าจะเป็นจระเข้โบราณ +++




+++ ภายในพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติวิทยา นับตั้งแต่การกำเนิดโลกสิ่งมีชีวิต +++




+++ นิทรรศการเกี่ยวกับอาณาจักรเห็ดรา +++




+++ รูปปั้นสัตว์ป่าหลากหลายชนิด +++




+++ สัตว์สตาฟท์ภายในพิพิธภัณฑ์ สองตัวนี้คือคู่แม่ลูก "เสือลายเมฆ" +++




+++ ลูกสมเสร็จในวัยเด็ก ลวดลายตามตัวจะยังไม่เหมือนพ่อแม่ +++




+++ นิทรรศการเกี่ยวกับนายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล หนึ่งในผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา +++




+++ ภาพถ่ายแสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ต่างๆ ในเมืองไทย +++




+++ ภาพถ่ายนกสวยๆ ที่ติดไว้บนผนังห้อง +++




+++ สองเด็กดื้อภายในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา +++




+++ ชั้นบนของพิพิธภัณฑ์เป็นห้องจัดแสดงเขาสัตว์ ที่ได้รับบริจาคมาจากทายาทของนายแพทย์บุญส่ง +++




+++ ภายในห้องนิทรรศการหมุนเวียน ช่วงที่ผมไปกำลังจัดแสดงภาพถ่าย WILD & PRECIOUS +++




+++ มีภาพถ่ายสัตว์ป่าสไตล์ National Geographic ให้ชมกันมากมาย +++




+++ หนึ่งในภาพถ่ายสวยๆ ที่นำมาจัดแสดง +++


          นิทรรศการทางวิทยาศาสตร์ภายในพิพิธภัณฑ์ทั้งสองแห่งที่ผมได้ไปชมมา มีทั้งที่เหมาะกับเด็กโต และบางส่วนก็สามารถเข้าใจได้แม้จะเป็นเด็กเล็ก แต่ถ้าจะให้ดีผู้ปกครองควรจะคอยดูแลให้คำแนะนำ และตอบข้อซักถามหากเด็กเกิดความสงสัย ซึ่งก็จะทำให้เด็กๆ ได้รับประโยชน์จากการไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งนี้ได้อย่างเต็มที่ พ่อแม่ท่านใดที่มีเวลาว่างในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ลองพาลูกๆ ไปเที่ยวเปิดโลกการเรียนรู้นอกตำราที่นี่บ้างก็ไม่เลวนะครับ สำหรับทริปนี้ก็คงคงต้องขอจบเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ .....

+++ ลากันไปด้วยดื้อเล็ก กับภาพวาดยุคไดโนเสาร์ครองโลกก็แล้วกันนะครับ สวัสดีครับ +++

สถานที่ตั้ง : "พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์" และ "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา" ตั้งอยู่ในเทคโนธานี
ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โทร. (02)5779990

เวลาเปิดบริการ : เปิดให้บริการวันอังคาร - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.30 - 16.30 น.
และ วันเสาร์ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.30 น. – 17.00 น. (หยุดวันจันทร์)

ค่าเข้าชม : พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็กเยาวชนและผู้สูงอายุ (ุ60 ปีขึ้นไป)เข้าชมฟรี
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็กเยาวชนและผู้สูงอายุ (ุ60 ปีขึ้นไป)เข้าชมฟรี