Group Blog
 
 
ตุลาคม 2557
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 
แผนร้าย อุบายรัก - 8 - เรื่องจริง!




ภายในเรือสำราญที่บรรจุคนได้มากกว่าครึ่งพัน เต็มไปด้วยผู้คนกว่าสี่ร้อยชีวิตที่เดินทางมาร่วมงานฉลองครบรอบสิบปีของบริษัทเคจี กรุ๊ป แขกเหรื่อทั้งชายหญิงล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเนี้ยบหรูดูดี เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกของเรือสำราญที่กำลังล่องไปบนผืนน้ำยามค่ำคืน

ภวัตคอยแต่จะสอดส่ายสายตามองหามาธวี เขายังไม่เจอเธอเลยในวันนี้ เห็นแต่หลังเพียงไวๆ ตอนที่เดินตรวจและสั่งงานกับพนักงานแผนกต่างๆ นอกจากนั้นแล้วเขายังรู้สึกว่าเธอกำลังหลบหน้าเขาอยู่ด้วย

ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องแคร์อะไรมาธวีนักหนา รู้เพียงแต่ว่าต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่องก่อนจะกลับบ้านในวันพรุ่งนี้ แล้วโชคก็เข้าข้างเขาในที่สุดเมื่อมาธวีในชุดราตรีสั้นสีขาวพลิ้วเดินเลี่ยงไปทางห้องน้ำเพียงลำพัง

ภวัตรีบก้าวตามโดยไม่รอช้า ไปแบบเงียบและเบาที่สุดเพื่อไม่ให้เธอรู้ตัว ก่อนจะปักหลักยืนรออยู่หน้าห้องน้ำจนหญิงสาวก้าวออกมา

เขารวบแขนเรียวแล้วลากหลุนๆ ให้เธอเดินตามโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

“นี่ปล่อยน้ำหวานนะพี่วัต จะไปไหนน่ะ” หญิงสาวโวยวาย

ทีแรกก็รู้สึกตกใจ แต่เมื่อรู้ว่าใครบังอาจมากระทำตัวห่ามๆ ดิบๆ กับเธอก็เกิดอารมณ์โมโหขึ้นมาแทน

“ถ้าร้องพี่จูบ!” เขาหันกลับมาขู่เสียงเฉียบ

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หญิงสาวปิดปากสนิทจนถูกเขาลากให้มาคุยกันในที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่านตรงบริเวณทางเดินไปสู่ห้องพักแขก

“หลบหน้าพี่ทำไม” เขาถามด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง

“ไม่ได้หลบ” เธอตอบเสียงห้วน แต่ไม่ยอมสบตากับเขา พยายามอย่างยิ่งในการแกะมือตุ๊กแกที่ยึดต้นแขนของเธอเอาไว้อย่างดิ้นไม่หลุด แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเขาไม่ให้ความร่วมมือสักนิด แถมยังเพิ่มน้ำหนักมือมากขึ้นจนเธอต้องหยุดดิ้นไปเอง

“ไม่ได้หลบแล้วทำไมพี่ไม่เจอเธอเลยทั้งวัน” เขาถามอย่างไม่ยอมแพ้

“ก็น้ำหวานต้องทำงานนี่คะ ไม่ได้มาเพื่อนั่งอยู่เฉยๆ พี่วัตจะได้เห็นตลอดเวลา”

“พี่ไม่เชื่อ” เขาย้อนด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจ

มาธวีโมโหจนเผลอหันไปขึงตาสู้คนตัวสูง “ก็ตามใจสิ น้ำหวานไม่เห็นแคร์”

“ว่าไงนะ” เขาถามเสียงกร้าว แววตาดุดัน ใจมันคอยแต่จะอยากรวบร่างบางเข้ามาใกล้แล้วเขาก็ทำจริงๆ

หญิงสาวดิ้นรนด้วยความตื่นตระหนก แต่เมื่อรู้ว่าเหนื่อยเปล่าจึงหยุดไปเฉยๆ ได้แต่ฮึดฮัดขัดใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้

“ไงล่ะ หมดฤทธิ์แล้วหรือไงคนเก่ง” เขาก้มลงกระซิบชิดใบหู ดวงตาแพรวพราวไปด้วยความพึงพอใจ

มาธวีรู้สึกร้อนวูบวาบกับลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดอยู่ข้างหูและซอกคอ หัวใจเริ่มเต้นโครมครามเสียงดัง เบี่ยงตัวหลบอย่างอึดอัดเพื่อให้พ้นจากลมหายใจอุ่นๆ ของเขา

ชายหนุ่มอมยิ้มกับท่าทีของหญิงสาว ยิ่งเห็นใบหน้าสวยหวานแดงระเรื่อขึ้นมาก็ยิ่งได้ใจ ก้มลงไปพูดใกล้ๆ จงใจแกล้งให้เธอหน้าแดงซ้ำแล้วซ้ำอีก “ทำไม เธออยากเป็นเจ้าสาวของพี่ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมชอบหลบพี่จังเลยล่ะ”

“ใครอยากเป็นเจ้าสาวของพี่วัตกัน น้ำหวานแค่เป็นเด็กดี ทำตามที่ผู้ใหญ่เห็นควรต่างหากล่ะ อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย” ย้อนด้วยน้ำเสียงขัดใจ โมโหทั้งเขาที่ชอบยั่วเธอเหลือเกินและโมโหตัวเองที่ดันเป็นคนยั่วขึ้นซะด้วย

“อ้าว พี่ก็นึกว่าเธออยากเป็น ไม่อย่างงั้นจะคอยพูดจาหาเรื่องมุกตลอดเวลาแบบนั้นหรือ” เขาว่ายิ้มๆ เห็นเธอหน้าแดงก็ยิ่งจงใจก่อกวน เธอหลบซ้ายเขาก็ตามซ้าย เธอหลบขวาเขาก็ตามขวา ตามกันไปตามกันมาจนน่าเวียนหัว

“ปล่อยน้ำหวานนะพี่วัต อย่ามากวนประสาทเวลางานดีกว่า”

เมื่อหลบยังไงก็ไม่พ้นเลยเปลี่ยนแผน ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาสักนิด เพราะดูเหมือนเธอจะเสียเปรียบอยู่เสมอ

“ไม่ปล่อย” เขาบอกอย่างกวนประสาท กดจมูกลงข้างแก้มนวลหนักๆ เสียทีหนึ่ง

มาธวีตาโต จ้องภวัตอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ รู้สึกโกรธที่เขาทำกับเธอเหมือนผู้หญิงราคาถูกที่หาซื้อได้ตามริมถนน

“ปล่อยน้ำหวานนะพี่วัต ไม่อย่างนั้นน้ำหวานจะฟ้องพี่รัณ”

อีกฝ่ายหัวเราะหึๆ “ไว้กลับไปได้ก่อนค่อยฟ้องละกัน แต่จะโดนว่าทั้งทีพี่ขอเอาให้คุ้มหน่อยนะ”

พูดจบร่างสูงก็ย่อเข่า ตวัดร่างบางขึ้นอุ้มอย่างง่ายดาย เดินดุ่มๆ กลับห้องพักโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของคนตัวเล็กในอ้อมแขนสักนิด

“ปล่อยนะพี่วัต ปล่อยน้ำหวานลงเดี๋ยวนี้นะ คนบ้า! จะไปไหนน่ะ ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย!” หญิงสาวตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่เป็นโชคร้ายของเธอที่แถวนั้นไม่มีใครเลย เสียงเพลงและเสียงพูดคุยข้างบนก็ดังเกินกว่าเสียงร้องของเธอจะแหวกเข้าไปได้

“อยู่เฉยๆ ดีกว่าน้ำหวาน เดี๋ยวพี่มีอารมณ์จะลำบาก” เขาขู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง นัยน์ตาแพรวพราวยืนยันคำขู่

“จะบ้าเหรอ! แล้วใครจะอยู่เฉยๆ ได้เล่า” มาธวีโวยวายอย่างขัดใจ จะทำอะไรก็ทำไม่ได้สักอย่าง

ภวัตไขกุญแจด้วยมือเดียว เตะประตูให้เปิดออกแล้วโยนร่างบางลงบนที่นอนก่อนหันกลับไปล็อกห้องโดยเร็ว เมื่อหันกลับมาอีกทีก็เห็นหญิงสาวลุกขึ้นตั้งท่าจะวิ่งหนี เขาหัวเราะพลางส่ายหน้าอย่างเวทนาปนขบขันกับท่าทางตื่นตระหนกของเธอ

“อย่าเข้ามานะพี่วัต ไปให้พ้นเลย ไม่งั้นน้ำหวานจะฟ้องพี่รัณจริงๆ ด้วย!” หญิงสาวแหวลั่นห้อง น้ำตาจะร่วงอยู่รอมร่อด้วยความหวาดกลัวระคนน้อยใจที่เขาช่างใจร้ายกับเธอนัก ร่างบางถอยหลังไปเรื่อยๆ จนถอยไม่ได้อีกต่อไปเมื่อชนเข้ากับเตียงนอน

ภวัตเดินเข้าไปหาโดยหวังเพียงแกล้งให้เธอกลัวเท่านั้น ไม่ได้คิดจะข่มเหงน้ำใจหญิงสาวแต่อย่างใด

“กลัวเป็นเหมือนกันเหรอเราน่ะ คนเก่งไม่เก่งแล้วหรือ” ถามพลางรวบเอวบางเข้ามาใกล้

คนตัวเล็กส่ายหน้า กำปั้นเล็กๆ รัวไปบนอกแกร่งไม่ยั้ง ขู่เสียงดังลั่น หวังจะใช้เสียงข่ม เพราะกลัวว่าเขาจะบ้าขึ้นมาจริงๆ และถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงสู้แรงเขาไม่ไหวแน่

“น้ำหวานจะฟ้องพี่รัณว่าพี่วัตรังแกน้ำหวาน จะบอกคุณลุงคุณป้าด้วย ถ้าพี่วัตทำอะไรน้ำหวานคราวนี้พี่วัตต้องแต่งงานกับน้ำหวานแบบตัดชุดไม่ทันเลยละ ทีนี้น้ำหวานไม่ปล่อยพี่วัตแน่ ไม่เชื่อก็ลองดู!”

ภวัตหัวเราะเยาะในลำคอ ก้มลงกระซิบด้วยน้ำเสียงยียวน “บอกไปใครจะเชื่อฮึ พี่รัณรู้อยู่แล้วว่าพี่ไม่เคยสนใจเธอมาแต่ไหนแต่ไร แถมพี่ยังมีมุกอยู่อีกทั้งคน คิดเหรอว่าพี่รัณจะเชื่อ”

หญิงสาวเม้มปากแน่น ใบหน้าซีดเผือด แต่ยังไม่ยอมแพ้ “ถึงพี่รัณจะเชื่อหรือไม่ แต่ถ้าน้ำหวานบอกว่าพี่วัตรังแกน้ำหวาน เชื่อเถอะค่ะว่าพี่รัณต้องเข้าข้างน้ำหวานแน่ อย่าลืมนะคะว่าคนที่คิดเรื่องการแต่งงานของเราก็คือพี่รัณไม่ใช่น้ำหวาน”

เธอยิ้มหวานอย่างเป็นต่อเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งอึ้ง ก่อนกระซิบเสียงหวานไม่แพ้กัน “พี่วัตจะทำอะไรน้ำหวานก็ได้นะคะ แต่กลับถึงบ้านเมื่อไหร่ ทั้งข้าวของทั้งเมียของพี่วัตที่รออยู่ โดนน้ำหวานเขี่ยกระเด็นแน่!”

ชายหนุ่มถอนใจอย่างหนักหน่วง โมโหหน้าหวานๆ ที่ลอยหน้าลอยตาท้าทายเขาอยู่ก็โมโห นึกอยากแกล้งเสียให้เข็ด แต่เมื่อเจอคำขู่ที่ว่าต้องโดนจับแต่งงานแน่ก็อดสยองไม่ได้เหมือนกัน

หากเขายอมเป็นเจ้าบ่าวของมาธวีจริง นึกภาพออกเลยว่าเธอจะสะใจแล้วก็คอยเยาะเย้ยถากถางเขาแค่ไหน ที่สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ น่าเจ็บใจชะมัด...

มาธวีเลิกคิ้วกวนๆ ใบหน้าหวานสวยลอยไปลอยมาท้าทายเขาอย่างคะนองใจ ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกล้าเสี่ยง จึงแกล้งเบียดร่างกระแซะยั่วยวนเขา

“ว่าไงล่ะคะพี่วัต ตัดสินใจได้รึยังว่าจะเอาไงกับน้ำหวาน”

พูดจบก็หัวเราะเยาะเสียงใส รู้สึกสาแก่ใจกับท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเขานัก

ภวัตไม่คิดจะเสี่ยงกับเธอแน่ แต่ยิ่งเห็นใบหน้าหวานละมุนท้าทายอยู่ใกล้ๆ ยิ่งทำให้เขานึกอยากเอาคืนบ้าง จึงก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มนุ่มอย่างว่องไวปานงูฉก โดยที่หญิงสาวได้แต่ตะลึงงันตัวแข็งค้าง ด้วยไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้

สองมือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังนวลของหญิงสาวอย่างชำนาญพร้อมกับรั้งร่างบางให้แนบชิดร่างแกร่งของเขามากยิ่งขึ้น มาธวีดิ้นรนต่อต้าน แต่แรงของเธอหรือจะต้านทานเขาได้ ท้ายที่สุดก็อ่อนระทวยอยู่กับอกแกร่งตามการชักนำของคนมากประสบการณ์ แถมยังเผลอตอบสนองการเรียกร้องเขาไปอย่างเงอะงะด้วยความอ่อนด้อย

ยิ่งเธอตอบสนองอย่างไร้เดียงสาเขาก็ยิ่งได้ใจ จากที่ตั้งใจจะแกล้งเพียงอย่างเดียว แต่มันกลับส่งผลกระทบต่อตัวเขาอย่างรุนแรงเกินคาดฝัน หลังถอนริมฝีปากจากเรียวปากอิ่มที่หวานปานน้ำผึ้ง เขาก็จูบระเรื่อยไปทั่วใบหน้าและซอกคอขาวผ่องที่หอมเย้ายวนใจด้วยกลิ่นน้ำหอมชั้นดีที่เธอใช้เป็นประจำ

หญิงสาวโอบแขนรอบลำคอของเขาเพื่อไม่ให้ตัวเองล้มไปกองกับพื้น ด้วยตอนนี้เรี่ยวแรงถูกดูดกลืนไปกับจูบร้อนแรงจนสิ้น แต่เมื่อเขาซุกใบหน้าลงกับเนินอกขาวผ่องที่โผล่พ้นชุดราตรีออกมาพองาม และทำท่าจะรุกรานต่ำลงไปเรื่อยๆ เธอก็เริ่มมีสติขึ้นมาบ้าง

ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครมาแตะต้องร่างกายส่วนนี้ของเธอมาก่อน ถึงแม้จะรู้สึกเคลิบเคลิ้มและวาบหวามเพียงใด แต่เธอต้องหยุดเขาก่อนที่อะไรจะสายเกินแก้

“พี่วัตอย่าค่ะ...” หญิงสาวประท้วงเสียงแผ่ว ร่างบางสั่นสะท้านจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำไปด้วยความเขินอายและอารมณ์วาบหวามที่เกิดจากการปลุกเร้าของเขา

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบดวงตาหวานฉ่ำช้าๆ แทบจะบ้าตายด้วยความต้องการ นัยน์ตาคมฉายแววงุนงงเต็มเปี่ยม

ไม่เคยต้องการใครมากมายแบบนี้มาก่อนเลย ให้ตาย!

ภวัตชะงักกับความรู้สึกนั้น

ไม่จริง ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ เรื่องแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้น เขาจะต้องการยัยน้ำหวานไม่ได้ เกมนี้จะจบลงโดยที่เธอเป็นผู้กำชัยชนะไม่ได้อย่างเด็ดขาด นี่อาจเป็นแผนการของเธอกับพี่รัณก็ได้ น่าเจ็บใจนัก!

คิดได้ดังนั้นก็รีบผละจากร่างบางอย่างรวดเร็ว ปรับสีหน้าให้นิ่งเฉยเข้าไว้เพื่อซุกซ่อนความรู้สึกข้างใน ไม่อยากให้เธอรู้ว่ามีอิทธิพลต่อร่างกายของเขามากมายเพียงใด

มือใหญ่เอื้อมไปช่วยเธอจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยอย่างนึกรำคาญลูกตากับภาพของสาวน้อยที่ตัวสั่นเทาจนไม่สามารถจัดการกับเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของตัวเองได้

หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก ยอมให้เขาช่วยโดยไม่คัดค้าน เมื่อภวัตปล่อยให้ร่างกายของเธอได้เป็นอิสระอีกครั้งก็รู้สึกว่าเรี่ยวแรงจะพยุงตัวยังแทบไม่มี

“ไปล้างหน้าล้างตาซะ พี่จะออกไปก่อน แล้วซักพักเธอค่อยตามออกไป” เขาสั่งห้วนๆ แล้วก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องโดยไม่เหลียวหลัง ไม่มีแม้ความลังเลให้จับได้

มาธวีทรุดตัวนั่งลงบนเตียงนอนอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์ใกล้ชิดกับชายหนุ่มคนไหนมาก่อน แล้วยิ่งถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้ก็ยิ่งไม่เคย ทำให้เธอไม่แน่ใจว่าหากเป็นคนอื่นมาทำกับเธอแบบนี้ เธอจะรู้สึกเหมือนที่ภวัตทำให้เธอรู้สึกอยู่ตอนนี้หรือไม่

แต่แม้จะบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรกับการกระทำของเขา แต่เธอรู้ว่าไม่ได้รังเกียจสัมผัสนั้นเลยแม้แต่น้อย ลึกลงไปแล้วเธอยังพบความจริงที่น่าตกใจ

เธอชอบสัมผัสของเขา!

หลังจากนั่งทบทวนความรู้สึกอันสับสนของตัวเองอยู่พักใหญ่ เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้น ล้างหน้าล้างตาแล้วจัดการตบแต่งเสียใหม่ให้เรียบร้อยก่อนตามภวัตออกไปที่งานเลี้ยงด้วยใบหน้าที่พยายามปรับให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้



เมื่อกลับไปสมทบกับแขกเหรื่อในงานก็พบว่าภวัตยืนดูพนักงานต้อนรับแขกอยู่ที่มุมหนึ่งด้วยอาการเป็นปกติดีทุกอย่าง

หญิงสาวมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหดหู่ใจอย่างประหลาด ภวัตก็ยังคงเป็นภวัต เป็นคนที่ไม่เคยสนใจเธอและไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาสักครั้ง คงจะมีแต่เธอฝ่ายเดียวที่รู้สึกสับสนในหัวใจ และไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ เธอจะปล่อยให้ตัวเองรู้สึกแบบนี้ไม่ได้ เขาจะต้องหัวเราะเยาะเธอแน่ หากรู้ว่าเธอรู้สึกแปลกๆ กับเขา กลับมาเป็นตัวของตัวเองได้แล้วมาธวี เกมนี้เธอต้องชนะ!

หญิงสาวบอกตัวเองอย่างมุ่งมั่น ก่อนจะก้าวไปยืนเคียงข้างภวัตด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เธอไม่ได้รู้สึกอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องจริง!








Create Date : 25 ตุลาคม 2557
Last Update : 25 ตุลาคม 2557 21:32:10 น. 0 comments
Counter : 559 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nawapat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




...เขียนเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก หนักก็หยุด สนองนี้ดมันไปตามอารมณ์ ^^"...
Friends' blogs
[Add nawapat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.