All the girls standing in the line for the bathroom !!!

*** หมายเหตุ : สงวนลิขสิทธิ์ บทความและผลงาน ใน Blog นี้ครับ ***
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2564
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 สิงหาคม 2564
 
All Blogs
 
*** Beckett *** ไม่มีใครหนีพ้น "การเมือง"

*** Beckett ***






*** คำเตือน: เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ ***



หนังว่าด้วยเรื่องราวของ Beckett (John David Washington) นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ที่หลับในขณะขับรถจนแฟนสาว April (Alicia Vikander) ต้องเสียชีวิต แต่หลังจากนั้น Beckett กลับถูกตำรวจท้องถิ่นตามฆ่า โดยที่เขาเองก็ไม่ทราบสาเหตุ



สรุปเรื่องราวกันคร่าวๆ ก็คือ

ตอนเกิดอุบัติเหตุจนรถพุ่งเข้าไปจอดในบ้านร้างข้างทาง Beckett เห็น Dimos (Filippos Loannidis) หลานชายที่หายตัวไปของ Karras (Yorgos Pirpassopoulos) แกนนำทางการเมืองของกรีซที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจนอาจเปลี่ยนแปลงรัฐบาลกรีซได้

แม้หนังไม่ได้ให้คำตอบชัดเจนว่ากลุ่มคนที่จับ Dimoss ไปมีจุดประสงค์อะไร แต่การที่ Beckett เห็น Dimos อาจกลายเป็นอุปสรรคของแผนการของพวกเขา คนกลุ่มนั้นจึงตามฆ่า Beckett

Beckett หนีไปจนถึงสถานทูตอเมริกา แต่กลายเป็นว่า Tynan (Boyd Holbrook) เจ้าหน้าที่สถานทูตหลอกเขาออกมาเพื่อกำจัดทิ้ง (ซึ่งหนังไม่ได้ให้ข้อมูลว่า ตัวของ Tynan เองคนเดียวหรือฝ่ายอเมริกา หนุนหลังพรรคการเมืองขั้วตรงข้ามกับ Karras)

สุดท้าย Beckett หนีจาก Tynan ไปได้และได้พบกับ Dimos ที่ถูกจับขังอยู่ท้ายรถ ก่อนจะทุ่มเทชีวิตช่วย Dimoss ออกมา






โดยเนื้อเรื่องข้างตนแล้ว นี่คือหนังที่ว่าด้วยคนนอกที่บังเอิญเข้ามาเป็นตัวแปรอยู่ระหว่างเกมการเมืองของคนอื่น

สาเหตุที่ Beckett ขับรถออกมาเที่ยวนอกเมืองจนเกิดอุบัติเหตุนั้น เป็นเพราะเขาต้องการหลบหนีจากความวุ่นวายในการเดินขบวนประท้วงของชาวกรีซ ที่วางแผนจะมาชุมนุมกันตรงโรงแรมที่เขาพัก

แต่สุดท้ายเขาก็ยังถูกลากกลับมามีส่วนกับการชุมนุมนี้อยู่ดี





ที่ตลกร้ายก็คือ Beckett กำลังจะฆ่าตัวตายเพราะความรู้สึกผิดที่ทำให้แฟนตาย

กลุ่มคนร้ายกลับทำให้เขาเปลี่ยนเป้าหมายจากความตายเป็นการหนีตายแทน (ซึ่งถ้า Beckett ฆ่าตัวตายสำเร็จ กลุ่มคนร้ายก็สบายไปแล้ว)

นี่คือสิ่งที่หนังบอกเราว่า ไม่ว่าคุณจะหนีเกมการเมืองไปขนาดไหน (กระทั่งจะฆ่าตัวตาย) ถ้าคุณเกี่ยวข้องกับมันไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ คุณก็หนีเกมการเมืองไปไม่พ้น


ตลกร้ายอีกครั้งก็คือ แม้ Becket จะหนีไปที่สถานทูตอเมริกาได้แล้ว แต่เขาก็ยังหนีไม่พ้นเกมการเมืองอยู่ดี นั่นก็เพราะเรื่องราวการเมืองของกรีซ มันไม่ได้มีผลแค่กับกรีซ แต่มันเชื่อมโยงไปถึงการเมืองโลกอีกด้วย

นี่ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า



ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หากอยู่บนโลกใบนี้

คุณไม่มีทางหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการเมืองได้เลย






การที่ตั้งชื่อหนังโดยใช้ชื่อตัวละครหลักอย่าง Beckett ที่ดูเฉพาะเจาะจงก็เสริมประเด็นของหนังได้ดี

แม้ว่าชื่อหนังจะดูเหมือนเป็นเรื่องราวส่วนตัวของตัวละคร แต่เมื่อผ่านไปเรื่อยๆเราจะพบว่า แม้จะเป็นแค่เรื่องของตัวละครคนเดียว แต่มันเกี่ยวกับเรื่องราวระดับโลกได้อย่างน่าตกใจ
(20 นาทีแรก คือเรื่องราวของคู่รักที่ทั้งโลกเหมือนมีแค่สองคน ก่อนจะกลายเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น แล้วปิดจบด้วยการเมืองโลก)



ชื่อหนังจึงย้ำให้เห็นว่า ถึงจะเป็นเรื่องของปัจเจกชน แต่ก็หนีไม่พ้นการข้องเกี่ยวกับเรื่องราวที่ใหญ่โตกว่าอยู่ดี






Beckett มีหน้าหนังเป็นเหมือนหนังขายความระทึกขวัญ แต่หนังมีความระทึกให้ผู้ชมเพียงน้อยนิด

สิ่งที่ผู้กำกับ Ferdinando Cito Filomarino ต้องการคือการกระตุ้นความสงสัยของผู้ชมว่า "มันเกิดอะไรขึ้น ?" ไปพร้อมกับตัวละคร Beckett มากกว่า

ดังนั้น หนังจึงให้ข้อมูลต่างๆกับผู้ชมเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวไปพร้อมๆกับตัวละคร Beckett ซึ่งนี่เป็นส่วนที่หนังทำได้ดี เพราะผู้ชมก็งงงวยและสงสัยไม่แพ้ Beckett



หนังนำเสนอการหลบหนีและการไล่ล่าโดยยืนพื้นความเป็นไปได้

หากพิจารณาว่า ผู้ล่าคือตำรวจท้องถิ่นรูปร่างท้วมและผู้หญิงวัยกลางคน กับการตามล่าที่ไม่ได้อยู่ในแผน ส่วนผู้ถูกล่าคือผู้ชายที่ย่ำแย่ทั้งร่างกายและจิตใจ

ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้มีอะไรที่ดูหวือหวา เหนือชั้น

แต่หนังก็ตกม้าตายในตอนท้าย เมื่อความสมจริงที่พยายามสร้างไว้ กลับถูกทำลายลงด้วยการให้ตัวละครอย่าง Beckett เก่งกาจและกลายเป็นคนอึดขึ้นมาราวกับยอดมนุษย์ (ทั้งที่มีแผลที่โดนยิง ขากะเผลก แต่ยังกระโดดจากตึกลงมาบนหลังคารถคนร้ายได้อย่างแม่นยำ)

อีกทั้งการอาศัยความบังเอิญเกินพอดีในการคลี่คลายปมของเรื่อง ราวกับทุกอย่างต้องจบลงเพื่อให้ตัวละครได้คลี่คลายปัญหาก่อนหนังจะจบ ทั้งๆที่ปมที่ถูกใส่มาดูไม่ง่ายเลยที่จะถูกคลี่คลายได้ง่ายๆแบบที่หนังนำเสนอ



งานถ่ายภาพของ สยมภู มุกดีพร้อม ทำให้วิวทิวทัศน์ดูเป็นธรรมชาติ มากกว่าจะขายความสวยงามแบบสถานที่ท่องเที่ยว ก็ดูเข้ากับเนื้อเรื่องของหนังที่เน้นความเป็นไปได้จริงๆ



Beckett เป็นหนังที่เน้นขายประสบการณ์ร่วมกับตัวละคร ซึ่ง John David Washington แบกรับภาระนี้ได้อย่างดี

เราจะเห็นมิติตัวละครและพัฒนาการตัวละครอย่างชัดเจน
จากคนที่รู้สึกผิดอยากฆ่าตัวตาย มาเป็นการช่วยชีวิตเด็กที่ถูกลักพาตัวเพื่อไถ่บาปที่ทำให้คนรักต้องตาย


แม้ไม่มีบทพูดอธิบาย แต่เราเข้าใจตัวละครได้จากการแสดง






แม้ Beckett จะยังมีจุดที่ดูแล้วยังไม่สมบูรณ์ หรือน่าจะดีได้มากกว่านี้

แต่หนังมีประเด็นที่หนักแน่นและน่าสนใจ ที่บอกเราว่า



เราทุกคนหนีไม่พ้นเรื่องการเมือง ไม่ว่าเราจะสนใจมันหรือไม่ก็ตาม





7 / 10





Create Date : 17 สิงหาคม 2564
Last Update : 17 สิงหาคม 2564 22:19:43 น. 1 comments
Counter : 2344 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณอุ้มสี, คุณnewyorknurse, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSertPhoto


 
พล็อตเรื่องน่าจะ 10 คะแนนเต็ม
ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน
การเมืองก๋จะตามคุณไปตลอด
อิอิอิ แม้แต่อยู่บ้าน
เจิม


โดย: อุ้มสี วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:23:48:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

navagan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 73 คน [?]




นวกานต์ ราชานาค
Navagan Rachanark


สนใจใน ภาพยนตร์, การวิเคราะห์-วิจารณ์ ภาพยนตร์,ดนตรี, งานเขียน และ ศิลปะอื่นๆ

สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ทดลอง และ งานดนตรีทดลอง และ งานเขียน


ปัจจุบันทำงานด้านการตลาด การวิจัยและพัฒนายางสังเคราะห์และยางธรรมชาติ

เริ่มจัดเก็บข้อมูลสถิติการเข้าชม

Time 09:00 Date 31/01/2010

by Histats.com

blogger web statistics

ถูกใจบทความ หรืออยากสนับสนุนเจ้าของ Blog

ก็ช่วย click ที่ Link โฆษณาครับ

ขอบคุณครับ

Friends' blogs
[Add navagan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.