All Blog
หน้าที่ของสามี-ภรรยา และครอบครัวมุสลิมควรเป็นอย่างไร ?? ภาค1
ฤกษ์ มงคล ของการแต่งงาน ? หน้าที่ของภรรยา มุสลิม ควรเป็นอย่างไร ??

จากคุณ : kuddle





ฤกษ์สะดวก ทุกๆวันเป็นวันดี ไม่มีฤกษ์ มงคลใดๆค่ะ วันที่ประเสริฐที่สุดสำหรับอิสลามคือวันศุกร์

ดังนั้น เวลานัดงานแต่งงาน นัดวันที่วางพร้อมๆ กัน
หรืออาจจะแต่งโดยไม่มีเจ้าสาวก็ได้ เช่นติดภาระกิจสำคัญ ดูพิธีแต่งงานได้ที่นี่
(ว่าแต่แต่งงานทั้งทีส่วนมากก็จะต้องทำตัวว่างๆพร้อมกันอยู่แล้ว ^^)



สิทธิร่วมกันระหว่างสามีและภรรยา บางส่วนคือ

1.สามีภรรยาจะต้องส่งเสริมบรรยากาศแห่งความรักและมีความเมตตาต่อกัน กุรอาน (30:21)

2.วางใจและเข้าใจในคุณลักษณะนิสัยใจคอของกันและใจ กุรอาน (4:19, 49:10)

3.พยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ให้สดชื่นเสมอ กุรอาน (4:19)

4. พยายามตักเตือนซึ่งกันและกันอยู่เสมอ





ส่วนหน้าที่ของภรรยามุสลิมนั้น

1.ภรรยาจะต้องตระหนักและยอมรับด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าผู้ชายเป็นผู้นำสำหรับหญิง (อันนิซา :34)
2.ภรรยาจะต้องรักษาเกียรติของสามีอยู่เสมอไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหรือลับหลัง(อันนิซา :34)
3.ภรรยาต้องเชื่อฟัง(ตออัต)ต่อสามีตราบเท่าที่กรเชื่อฟังนั้นไม่เป็นมะซียัต(อบายมุข) (อันนิซา :39)
4.ภรรยาต้องสำนึกว่าฐานะหน้าที่ของสามีเหนือภรรยา (อัลบะกอเราะฮฺ :28 )

คือการดูแลครอบครัวค่ะ ตออัตเชื่อฟังสามี(ในกรณีที่ถูกต้อง) ตักเตือนชักชวนกันสู่หนทางที่ดีงาม มีจรรยามารยาทที่ดีงาม รักษาทรัพย์ของสามีอย่างดีที่สุด รักษาเกียรติของสามี เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เรื่องส่วนตัวที่เป็นความลับนั้นทั้งชายและหญิงไม่ควรเปิดเผยกับบุคคลอื่นค่ะ

ที่สำคัญ "ชาวนรกส่วนมากคือสตรี เพราะการนินทา สตรีที่แต่งงานแล้วมักจะนินทาสามี "
(อิสลามจงห้ามเรื่องการนินทา และเป็นบาปมากมาย ไม่ใช่วันๆพอเสร็จจากงานดูแลครอบครัว ก็มานั่งเม้าท์เอาเรื่อง สามีมาเผาให้ชาวบ้านฟัง ว่าสามีชั้นมันอย่างนั้นอย่างนี้ - -' )

"และการที่นางจากโลกนี้ไปในสภาพที่สามีพึงพอใจ(ในเรื่องที่ถูกกับหลักศาสนา)นั้นนางจะได้เข้าสวรรค์ "

พึงพอใจที่ว่านี้คือ อยู่ในหลักหนทางที่ถูกต้อง มิใช่ทำตามใจตามอารมณ์โดยทำสิ่งไร้สาระทำผิดหรือทำบาปใดๆ เป็นต้น



ส่วนหน้าที่ของสามีมุสลิมนั้น

1. สามีต้องตระหนักว่า ภรรยาคือบททดสอบหนึ่งในการดำเนินภารกิจทางศาสนา (อัตเตาบะฮฺ : 24 )
2.ภรรยาอาจเป็นศัตรูสำหรับสามีในการเชื่อฟังคำสั่งของอัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์(อัตตะฆอบุน:14)
3. หมั่นขอดุอา(ขอพร)ต่ออัลลอฮฺซุบบะฮานะฮูวะตะอาลา อยู่เสมอให้ภรรยาเป็นคนซอและฮฺ(คนดีอยู่ในหลักศาสนา) (อัลฟุรกอน : 74)
4.วายิบ(จำเป็น)ที่สามีต้องมีความยุติธรรมและมีจิตวิทยาต่อภรรยา(อันนิซา :3)
5. วายิบ(จำเป็น)ที่สามีต้องชี้แนะเรื่องศาสนาให้แก่ภรรยา และต้องคอยดูแลนางให้ตออัต(เชื่อฟัง)ต่ออัลลอฮฺ ซุบบะฮานะฮูวะตะอาลา อยู่เสมอ (อัลอะฮฺซาบ :34 อัลตะรีม:6 )
6.กล่าวถึงการลงโทษภรรยาที่ปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม (อันนิซา :34) เช่นตีเบาๆ(ด้วยกิ่งไว้เล็ก ประมาณ 1คืบ ไม่ใช่เล่นด้วยไม้ หน้า 3 เลยนะคะ - -‘ คุกเลยนะนั่น ^^” ความผิดทางศาสนาอีก ) แยกที่นอน
7.เมื่อสามีจะสิ้นชีวิตให้สั่งเสียกับภรรยาก่อน ถ้ามีความสามารถที่จะทำเช่นนั้น(อัลบะกอเราะฮฺ:240)


มีมากมายภาระสำคัญคือจ่ายค่าสินสอด และเลี้ยงดูภรรยาจ่ายนัฟฟาเกาะฮฺ (ค่าเลี้ยงดู) เสื้อผ้าอาหารที่อยู่อาศัย เอาใจใส่ วายิบ(จำเป็น)ที่สามีจะต้องแนะนำตักเตือนให้นางอยู่ในหนทางของศาสนา มีมารยาทที่ดีงามอ่อนโยนต่อครอบครัว อีกทั้งต้องช่วยเหลืองานบ้านและมีสัมพันธ์ที่ดีภรรยา และต้องมีความยุติธรรมเป็นต้น

และทุกๆความทุกข์ของภรรยา(ที่มาจากความบกพร่องในความรับผิดชอบของสามี) สามีจะต้องรับผิดชอบ ภรรยาไม่ละหมาด ไม่คลุมฮิญาบ สามีก็มีหน้าที่รับผิดชอบความผิดของภรรยาในทางศาสนาด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าสามีไม่ละหมาด ภรรยาไม่มีส่วนรับผิดชอบในความผิดเรื่องละหมาดของสามีในทางศาสนาค่ะ (การละหมาดจำเป็นที่สุดสำหรับมุสลิม หลังความตายสิ่งแรกที่ถูกสอบสวนคือการละหมาด )

เรื่องครอบครัวเพิ่มเติมรายละเอียดได้ที่นี่ บ้านมุสลิมมะฮฺ ค่ะ



ทรัพย์สินภายหลังการแต่งงาน

เงินของภรรยาคือของภรรยา ไม่ว่าจะเป็นมรดกที่ได้รับมา หรือเงินส่วนตัวใดๆ สามีไม่มีสิทธิเกี่ยวข้อง
ยกเว้นภรรยาให้ด้วยน้ำใจของนาง

และเงินของสามีก็คือภรรยาเช่นกันค่ะ ^^
หมายความว่ารายได้ที่มีมา สามีมีหน้าที่ต้องจัดสรรแบ่งปันให้ภรรยาตามหน้าที่ของสามีของอัลอิสลามค่ะ
ถ้าไม่จ่ายภรรยามีสิทธิเรียกร้อง หากยังไม่ทำตาม ก็มีสิทธิที่จะ .....ฟ้องแยกทางได้ค่ะ

นะ(รก)ไม่ได้ยุให้แยกตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งนะคะคุณ kuddle -_-'
เพียงแต่บอกสิทธิของภรรยาในเรื่องทรัพย์สินค่ะ ^^

สาวๆมุสลิมมีคติประจำใจว่า
เงินคุณคือเงินของเรา...เงินฉันคือเงินฉัน


(ขอยืมท่านพี่ ซันไชน์ ที่เคารพมา)

^^'


เรื่องสถาบันครอบครัวนี้ ครอบครัวสำคัญที่สุดค่ะ

อิสลามให้ความสำคัญกับ
1.พระเจ้า และรอซูล(ศาสนทูตผู้เผยแพร่ศาสนา)
2.มารดา บิดา
3.สามี-ภรรยา
4.บุตร
5.มิตร


แต่ครอบครัวที่ ดีนั้น ควรมีทั้งเสียงเด็ก เสียงคนชรา และเสียงของวัยรุ่นหนุ่มสาว-วัยผู้ใหญ่ มีหลายวัยทำให้เกิดการเรียนรู้สัมผัส มีความสัมพันธ์ระหว่างญาติพี่น้อง

ทำให้เกิดความหลากหลายทางความคิดและการพัฒนาการของสังคมครอบครัวด้วยค่ะ (ครอบครัวไทยในอดีตนั้น ดีมากปัจจุบันเป็นครอบครัวเดี่ยว....ปัญหามากมาย )


ระหว่างแม่กับลูกสะใภ้ แม่ต้องสำคัญกว่า แต่ทั้งหมดต้องไม่ละเมิดสิทธิที่ควรจะเป็น เช่น แม่สามีบังคับลูกจนก้าวก่ายความเป็นครอบครัว อันนี้ต้องมาคุยกันกับสามี เตือนให้เขารับรู้ ด้วยว่ามีปัญหาเช่นไรค่ะ



ตรงนี้ ต้องบอกว่า ความรักนั้นจะไม่มากน้อยไปกว่ากันแต่ สิทธิและหน้าที่นั่นสำคัญกว่า และทั้งหมดนั้นต้องรักพระเจ้า ถัดมาคือท่านร่อซูล ถึงจะมาเป็นพ่อแม่ค่ะ มิใช่หลับหูหลับตารัก(ไม่ว่าฝ่ายไหน) จนลืมลูกเมีย หรือลืมพ่อลืมแม่ นั่นเอง




เรื่องของครอบครัวนั้นทั้งชายและหญิงต่างมีความสำคัญค่ะ ชายจะประสบความสำเร็จก็เพราะมีหญิงที่สนับสนุนเป็นแรงพลักดัน ส่วนหญิงนั้นจะประสบความสำเร็จของการเป็นผู้ภรรยาที่ดี และแม่ที่ดี คนดูแลครอบครัวที่ดีก็ต้องมาจากชายเช่นกัน เรียกได้ว่า ต่างคนต่างเป็นส่วนหนึ่งซึ่งกันและกันค่ะ

หากลองแบ่งหน้าที่หญิงจัดระบบการเงิน และบริหารทุกอย่างในงาน เป็น CEO (Chift Executive Officer คำนี้ท่านพี่ซันไชน์ที่เคารพอีกแล้ว)
ส่วนชายนั้น หาๆมาเถอะ ^^”
หญิงจะส่งเสริมและสนับสนุนเอง ^^ เป็นตัววางแผนและวางหมาก มิใช่เอาไปถลุงสุรุ่ยสุร่ายสิ้นเปลืองไร้สาระนะคะ สาวๆ เมื่ออยู่ด้วยกันต้องช่วยบริหารจัดการเงินคงคลังของครอบครัว

มิใช่ชายหามาอย่างเดียว ต้องดูแลปกต้อง CEO และ ผู้ใต้บริหารของ CEO (ลูกๆ) ด้วยนะ มิใช่ปล่อยให้CEO ไปลำบากตะลอนๆ ออกนอกบ้านเหนื่อยจะตาย ^^ ดูแลในที่นี้ไม่ใช่วันๆอาเงินให้ครอบครัว สามีต้องดูแลอบรมสั่งสอนบุตรและให้ความรู้ด้านศาสนา และช่วยเหลืองานบ้านกันบ้าง มิใช่กลับมาจากทำงานนอกบ้านก็นั่งเป็นคุณชายไม่หยิบจับช่วยเหลืออะไรเลย เรื่องงานบ้านมันเหนื่อยสาวๆทั้งหลายทราบดี



และสิทธิหน้าที่ในการดูแลลูกนั้น แม่มีมากที่สุดค่ะ อิสลามยกแม่สำคัญกว่าพ่อด้วยซ้ำ
แต่ถ้าจำเป็นต้องแยกกันแล้ว พ่อนั้นต้องส่งเสียลูกจนเขานั้นช่วยเหลือตัวเองหาเลี้ยงตัวเองได้ค่ะ และความเป็นพ่อไม่ขาดกันจนวันสุดท้ายของชีวิตค่ะ

ส่วนการแยกครอบครัวนั้น แล้วแต่ความสะดวกค่ะ แยกไปก็อย่าไปอยู่ซะไกลพ่อไกลแม่เลยค่ะ แวะมารับสวรรค์จากพ่อแม่บ้าง (ดูแลเขานั่นเอง)


อีกทั้งการจัดให้มีสัดส่วนและพื้นที่ส่วนตัวบ้างนั้นจะเพิ่มความรู้สึกดีๆ (ในกรณีอยู่รวมเป็นครอบครัวใหญ่) มีความเป็นส่วนตัวและผ่อนคลายบ้างนั่นเอง ^^




สตรีมุสลิมหลายๆคนเองก็ยังไม่รู้ว่า ตนเองมีสิทธิและหน้าที่อะไรบ้าง
อิสลามจึงส่งเสริมให้ศึกษาศาสนาให้มากนั่นเอง






ด้วยความเคารพและจิตคารวะค่ะ



Create Date : 22 สิงหาคม 2550
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 9:04:59 น.
Counter : 16498 Pageviews.

31 comments
  
555 เงินคุณคือเงินของเรา...เงินฉันคือเงินฉัน เป็นคติที่ดีจริงๆ ค่ะ
โดย: แพร (bookofpear ) วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:2:02:47 น.
  
จิงดิ มีงี้ด้วยเหรอ
โดย: Aui_haui วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:12:52:14 น.
  
มาแอบ ศึกษาอิสลามหน้าที่ สองฝ่าย
ในเทศกาลรอมฎอน
วันที่ 13 รอมฏอน

ใช่แล้ว เค้าบอก เงินของเค้าก็เหมือนเงินของเรา


นะรก . . . !
โดย: kuddle IP: 210.203.186.76 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:0:00:03 น.
  
ใช่เลยค่ะ พี่นะ(รก)

เจอกันที่ศูนย์กลางวันเสาร์นี้ค่ะ ^-^

โดย: Hilal IP: 202.44.135.35 วันที่: 4 ตุลาคม 2550 เวลา:8:52:48 น.
  
มาแอบศึกษาคะ เพราะเพิ่งมาเป็นมุสลิมมะฮฺได้ไม่กี่วัน
โดย: namkang IP: 125.24.140.164 วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:13:40:47 น.
  
^
^
^
อัสลามมุอะลัยกุมค่ะ
ยินดีต้อนรับค่ะ มีอะไรสามารถสอบถามได้เลยนะคะ ^^

โดย: นะ(รก) วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:9:45:42 น.
  
เป็นคนพุทธค่ะแต่ว่ามีแฟนเป็นคนอิสลามและคิดว่าจะแต่ง งานกันแต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอิสลามเลยจะรู้ก็เพียงแค่เล็กน้อยจึงอยากมีความรู้ที่ถูกต้องค่ะพอเข้ามาเวบนี้ก็ทำให้รู้มากขึ้นจริงๆค่ะกำลังศึกษาไปเรื่อยๆว่ามีอะไรอีกอยากรู้เกี่ยวกับข้อห้าม และที่สมควรทำ อะไรพวกนี้ค่ะยังไงช่วยบอกด้วยนะค่ะ
โดย: ซารียา IP: 125.24.138.223 วันที่: 31 ตุลาคม 2550 เวลา:11:45:53 น.
  
ชัดเจนเลยค่ะ.. จะตามมาอ่านบ่อยๆๆ ..

จากพุทธศาสนิกชนที่สนใจข้อมูลค่ะ
โดย: ladybird IP: 124.121.49.20 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:33:46 น.
  
ขอความสันติจงมีแด่ท่านค่ะ ทั้งคุณ ซารียา และคุณladybird ค่ะ ยินดีให้คำตอบในเรื่องที่สงสัยนะคะ ^^ จะพยายามมาลงข้อมูลเรื่อยๆ อินชาอัลลอฮฺ


ด้วยความเคารพค่ะ
โดย: นะ(รก) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:11:12 น.
  


ละเอียดมั๊กๆๆเลยค่ะ

ปล.ขอบคุณที่แจ้งUpdateมาด้วยนะคะ ต่อไปจะตามเป็นแฟนประจำBlogเน้อ

โดย: ladybird IP: 203.170.231.233 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:35:36 น.
  
ฉันเป็นมุสลิม ละหมาดครบ ถือศีลอด บริจาคทาน ไม่เคยนอกใจสามี แต่แม่สามีฉัน ไม่ต้องการให้สามีฉัน ให้อะไรฉันเลย ไม่ให้ดูแลบ้านให้ แม่สามีฉันบอกวันฉันเป็นผู้หญิงไม่ดี เขาไม่ชอบฉัน เขาก็สั่งให้สามีฉันเลิกกันฉันซะ
ฉันเสียใจมาก แม่สามีฉันเป็นคนมาขอให้ฉันแต่งงานกับลูกชายเขาเอง โดยที่ฉันกับเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน สามีฉันเป็นลูกชายคนเล็ก เขารักมาก ฉันจะทำให้ลูกเขาไม่พอใจไม่ได้เลย ฉันเครียดมาก ปลอบใจฉันหน่อยสิ
โดย: มุสลิมะห์ IP: 210.203.179.245 วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:11:40:33 น.
  
อัสลามมุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบะรอกาตุฮฺ
คุณมุสลิมะห์ นะ(รก)มีกลอนมาฝากค่ะ

ยามเมื่อเหนื่อย ยามท้อแท้ ยามอ่อนล้า
แต่ศรัทธาที่ยึดมั่นไม่หวั่นไหว
เมื่อพี่น้องมุสลิมเหยียบย่ำใจ
ให้อภัยเขาไม่รู้ ช่วยดุอา

กิยามุลลัยในยามดึก
เฝ้ารำลึกเข้าหาผู้ยิ่งใหญ่
ร้องบอกเล่าเรื่องราวที่ทุกข์ใจ
ขอทรงโปรด ทรงอภัย ทรงคุ้มครอง

ให้จิตเรามั่นคง ไม่หวั่นไหว
ต่อคำพูดใดๆที่ทับถม
กับความเหนื่อยความอ่อนล้าโหมระทม
ให้อดทนต่อทดสอบได้โดยดี





ขอพระองค์คุ้มครองและให้ผ่านพ้นการทดสอบด้วยดี
ทุกๆความเจ็บป่วย ทุกๆความทุกข์ยาก คืิอการลบล้างความผิดให้กับเรา ขอให้มั่นคงต่อการทดสอบนี้




ปัญหานี้ อย่างแรกคุณต้องขอดุอา ขอความช่วยเหลือจากพระองค์ให้มีแนวทางที่เหมาะสม

และุคุณมุสลิมะห์เองก็ต้องพูดคุยกับสามี ปรึกษากันทำความเข้าใจ ให้กำลังใจเขา เพราะเขาเป็นคนกลางด้วยเขาย่อมทำใจลำบาก

บอกกับเขาว่า คุณเองรักและห่วงใยเขาเสมอ ถ้าหากมีปัญหาอะไรอยากให้พูดคุยปรึกษากัน หากเราผิดพลาดไปช่วยตักเตือนเราด้วย หากทำให้คุณโกรธฉันขออภัย
หากทำให้คุณเสียใจฉันขอโทษ
อยากให้เราแก้ไขตรงไหนก็ช่วยบอก เราจะได้เป็นคู่ครองที่มีสุข

่ท่านนบีได้กล่าวถึงการหย่าว่า "ในบรรดาสิ่งที่อนุญาต เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด" มีวจนะบางบทกล่าวถึงการหย่าว่า "เมื่อสามีได้หย่าร้างกับภรรยาของเขา สมุนของซาตานทั้งหลายจะดีใจ บัลลังค์ของพระเจ้าสั่นสะเทือน"

เมื่อมีปัญหา อิสลามสอนให้หันหน้าเข้าปรึกษากันก่อน ท่านนบีได้ให้คำตักเตือนแก่สาวกท่านหนึ่งเมื่อสาวกท่านนั้นต้องการหย่าภรรยาของเขาว่า "จงอยู่ร่วมกับนางเถิด หากท่านไม่ชอบบางสื่งจากนาง เป็นได้ว่าท่านชอบสิ่งที่เหลือทั้งหมดของนาง"



... แต่เมื่อไม่สามรถปรับความเข้าใจกันได้แล้ว การหย่าจึงเป็นทางออกสุดท้าย ...


ลองเลียบๆเคียงๆสอบถามคุณสามีดูนะคะ ว่าแม่สามีไม่ชอบเราตรงไหน เพราะเราอาจจะปรับตัวให้เข้าใจแม่สามีได้ เขาอาจจะชอบคนเอาใจ เขาอาจจะชอบกับข้าวแบบนั้นแบบนี้
หากคุณมีลูก เด็กจะเป็นตัวเชื่อมที่ดีค่ะ ระหว่างคุณย่ากับคุณแม่
แต่หากไม่มี ต้องต้องปรับใช้ยุทธวิธี เอาใจแม่สามีแล้วล่ะค่ะ
ประกอบกับดุอาแยะๆ ด้วย

และเราดุอาช่วยคุณค่ะ
ด้วยจิตคารวะ

วัสลามมุอะลัยกุม

โดย: นะ(รก) วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:21:44:02 น.
  
อยากให้ผู้รู้ ช่วยหาบทความสาระดี เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของฝ่ายชายมุสลิมบ้างคะ เพราะะเท่าที่ทำงานได้มีโอกาสสัมผัสเกี่ยวบทบาททางเพศ รูสึกบทความ และ เรื่องเกี่ยวกับความด้านศาสนาอิสลามของเราที่เน้นในเรื่องของเพศชายน้อยมาก อีกทั้งในปัจจุบันผู้ชายหลายคนอยู่ก่อนแต่ง หรือ แต่งงานในช่วงที่อายุยังน้อยทำให้เกิดปัญหาครอบครัวมากมายเลยคะ และเท่าที่ดิฉันทำงานปัญหาเกิดจากฝ่ายชายชอบเที่ยวนอกบ้าน ให้ความสำคัญกับเพื่อฝูงมากกว่าพ่อแม่ ภรรยา ทำให้เกิดปัญหาครอบครัว แต่พอพูดก็เอาศาสนามาอ้างมาผู้ชายเป็นใหญ่ ทั้งที่จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่แบบนี้ ดิฉันพยายามหาบทความแต่ส่วนใหญ่มีแต่เน้นในเรื่องของผู้หญิงมากกว่า ดิฉัน จึงอยากรบกสนท่านผู้รู้ทุกท่านในเรื่องนี้ด้วยนะคะ เพื่อที่จะส่งเสริมความรักความอบอุ่นและความสุขของบุคคลในครอบครัวของมุสลิมได้ดีขึ้น ขอบคุณมากนะคะ pataya2549@hotmail.com
โดย: nut IP: 124.157.235.92 วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:5:27:14 น.
  
สวัสดีค่ะคุณ nut ขอบคุณและยินดีที่คุณ nut แวะมาเยี่ยมเยียนบล็อคนะคะ

อินชาอัลอฮฺ จะนำมาเขียนถึงค่ะ
โดย: นะ(รก) วันที่: 20 สิงหาคม 2551 เวลา:22:39:05 น.
  
สลาม
ลองแวะมาอ่ะ

โดย: อาบีดะห์ IP: 58.9.47.180 วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:11:03:26 น.
  
เราอยากรู้ทุกๆเกี่ยวกับการปฏิบัติตนถ้าจะเข้าศาสนา เพราะเรามีแผนว่าจะแต่งงานหลังจากเรียนศาสนาสำเร็จก่อน อยากรู้ว่าเราต้องทำไงบ้างทั้งต่อสามี และทุกคนในบ้านสามี รวมทั้งชื่อที่ต้องเปลี่ยนด้วย แนะนำด้วยค่ะ
โดย: nat IP: 202.28.62.245 วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:13:30:45 น.
  
ขอนอกเรื่องหน่อยนะคะ
หากเราเข้าศาสนาอิสลามแล้ว เรายังสามารถไปงาน ที่เกี่ยวกับ พุทธ ได้อีกไหม เช่น งานศพ แล้วหากเราต้องไปงานศพ ญาติผู้ใหญ่ที่สนิท เราต้องปฎิบัติตนอย่างไรค่ะ
อยากรู้ เพราะตอนนี้ ก็กำลังจะแต่งงาน เข้ากับศาสนาอิสลามเหมือนกันคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
โดย: lady IP: 210.1.3.18 วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:16:45:52 น.
  
พี่คะ รบกวนหน่อยค่ะ พอดีอยากศึกษาภาษานี้น่ะค่ะ แฟนเปนคนอิสลาม แล้วอยากจะศึกษาทั้งภาษาและศาสนาน่ะค่ะ แต่อยากเรียนออนไลน์ ไม่ทราบมีเวปไหนพอจะสอนมั่งคะ
โดย: Lala IP: 183.89.56.208 วันที่: 15 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:38:01 น.
  
รบกวนตอบหน่อยนะค่ะ
คือตอนนี้ค่ะ ฉันเป็นพุทธแฟนเป็นอิสลาม คือตอนนี้อยู่ด้วยกันแต่ยังไม่แต่งงานญาติผู้ใหญ่ไม่รู้ คือเราสองคนก็ยังไม่พร้อมค่ะ ทางอิสลามอยู่ก่อนแต่งผิดไหมค่ะ
แล้วจะแก้ยังไง
โดย: Shondshake IP: 115.87.89.238 วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:13:50:58 น.
  
อยู่ด้วยกันมีลูก อยู่แบบลับๆ ผิดมากมั้ย เราไม่ใช่อิสลาม แต่แฟนเป็นอิสลามมีครอบครัวแล้ว เลิกเลยดีมั้ย
โดย: อยากรู้ IP: 117.47.81.83 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:12:36 น.
  
ขอความสันติจงประสบแด่ท่าน


ตอบคุณ lady ก่อนเลยค่ะ ^^
เมื่อเข้ารับอิสลามแล้ว งานพิธีการต่างศาสนาไม่สามารถทำได้ค่ะ ได้แค่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ ^^

เรื่องไปงานศพต่างศาสนาไปได้ค่ะ แต่ร่วมพิธีการใดๆไม่ได้ เช่น ฟังเทศน์ ไหว้ศพ แต่ไปให้กำลังใจได้ ไปเยี่ยมญาติผู้ตายได้


ส่วนคุณLala เว็บเรียนออนไลน์ มีแต่ความรู้ออนไลน์ การจะเรียนศาสนาอิสลามโดยจะต้องปฏิบัติตัวตามหลักศาสนา ต้องเรียนการปฏิบัติก่อน การเรียนออนไลน์จะเป็นส่วนเสริมค่ะ
คุณจะไม่สามารถละหมาดเองได้โดยไม่มีใครสอน คุณจะไม่สามารถเข้าใจว่า อาบน้ำละหมาดทำแบบไหนทางทางแบบใด ขอบเขตแค่ไหน และที่สำคัญอ่านภาษาอาหรับออกเสียงอย่างไร แนะนำต้องไปลงเรียนค่ะ




ขอตอบรวมสองคำถามเลยนะคะ ของคุณShondshake และคุณ อยากรู้

การอยู่ก่อนแต่งงาน และอยู่กันแลลลับๆโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้นับถืออิสลาม แบบนี้ผิดค่ะ
ยิ่งอยู่กันแบบลับๆนั้นเป็นการไม่ให้เกียรติสตรีเป็นอย่างยิ่ง
รบกวนให้รีบจัดการเร่งด่วนเลยค่ะ
คำว่าไม่พร้อมนั้น ไม่พร้อมจัดการใช่ไหมคะ ถ้าไม่พร้อมจัดงานอิสลามไม่มีปัญหาพิธีแต่งงานมีไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆและไม่สิ้นเปลืองเงินทองด้วยหากปฏิบัติตามหลักศาสนาได้ถูกต้อง
ทุกวันนี้เน้นสังคมเกินไป เลยมีปัญหา แต่งทีแทบจะหมดตัว ^^"


เอาใจช่วยพี่น้องทุกท่านค่ะ
โดย: นะ(รก) วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:12:17:59 น.
  
อัสลามุอะลัยกุม ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีมาก
โดย: maryam IP: 125.25.146.232 วันที่: 15 ตุลาคม 2553 เวลา:15:47:05 น.
  
ขอปรึกษาปัญหาครอบครัวหน่อยนะค่ะ
เป็นครอบครัวของเพื่อนสนิทค่อ
ภรรยาคนพุทธเข้าอิสลาม สามีอิสลามดั้งเดิมแต่งงานกัน 5 ปี มีลูก 1 คน1ขวบ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ถ้าหากเลิกกันอยากรู้ว่าลูกใครเป็นคนมีสิทธิตามกฎหมายค่ะ
คือดิฉันเป็นคนพุทธค่ะ เลยไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายของมุสลิมเท่าไหร่นะค่ะรบกวนผู้รู้ตอบทีนะค่ะ
โดย: on IP: 58.9.104.111 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:21:32 น.
  
อัสลามมุอะลัยกุ้ม
เท่าที่อ่านมาส่วนใหญ่จะเน้นที่ภรรยาต้องตอบสนองสามีเมื่อสามีมีความต้องการ ถ้าภรรยาไม่ตอบสนองจะผิด แต่ในทางกลับกันถ้าภรรยามีความต้องการ แต่สามีไม่พร้อมบ้าง เหนื่อยจากการทำงานบ้าง นาน ๆ จะมีอะไรกันสักที ประมาณเป็นเดื่อนเลยก็มี แบบนี้จะทำงัยดีค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยคะ
โดย: yun IP: 125.26.13.59 วันที่: 17 มกราคม 2554 เวลา:22:17:41 น.
  
การเขียนเรื่องอิสลามอย่าเขียนแบบคิดเองเข้าใจเอง ต้องศึกษารายละเอียดให้ดี การเขียนโดยมิรู้จริงจะทำให้คนอื่นหลงทางได้ โปรดระวัง การเขียนเช่น เงินคุณคือเงินของเรา ต้องเข้าใจสามีมีหน้าที่เลี้ยงดูภรรยา แต่ภรรยาจะหยิบฉวยตามอำเภอใจมิได้ต้องให้ความเคารพนับถือ เชื่อฟังตามหลักการอิสลาม รายละเอียดการครองคู่ยังมีอีกมากโปรดไปศึกษาให้ดี
การเขียนในกระทู้นี้เพียงเพื่อเป็นแนวทางเท่านั้นมิใช่รายละเอียดทั้งหมด สนใจหาซื้อหนังสืออ่านเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์หนังสืออิสลาม ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย
โดย: ชูเกียรติ IP: 110.169.227.119 วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:13:02:25 น.
  
ผู้หญิงในฐานะสมาชิกของสังคม

โดย ชัยคฺ ยูสุฟ อัล-เกาะเราะฏอวียฺ
หุสนา แปลและเรียบเรียง
ผู้ที่มีความลำเอียงซึ่งถูกชักนำโดยผลประโยชน์ส่วนตัวได้โฆษณาชวนเชื่อว่า อิสลามบังคับให้ผู้หญิงขังตัวอยู่แต่ในบ้าน โดยจะไม่ออกไปข้างนอกยกเว้นออกไปยังหลุมฝังศพคำตัดสินดังกล่าวเป็นหลักการพื้นฐานที่ปรากฏอยู่จริ
งในอัลกุรอานหรือซุนนะฮฺตลอดจน ประวัติศาสตร์ของมุสลิมะฮฺสามร้อยปีแรกหรือไม่? แน่นอนว่า ไม่ !!!
อัลกุรอานได้ทำให้ผู้ชายและผู้หญิงเป็นหุ้นส่วนในการแบกรับหน้าที่อันหนักหน่วงในการใช้ชีวิตแบบอิสลามและทำหน้าที่ในการสั่งใช้ในความดีและห้ามปรามในความชั่ว พระองค์ ผู้ทรงเกรียงไกรตรัสความว่า
“และบรรดามุอฺมินชาย และบรรดามุมินหญิงนั้น บางส่วนของพวกเขาต่างเป็นผู้ ช่วยเหลือ อีกบางส่วน ซึ่งพวกเขาจะใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามปรามในสิ่งที่ไม่ชอบ และพวกเขาจะดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและจ่ายซะกาต และภักดีต่ออัลลอฮ์ และร่อซูลของ พระองค์” อัตเตาบะฮฺ 71
ตัวอย่างของการนำหลักการข้างต้นไปใช้คือการที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ขณะที่นางอยู่ในมัสญิด นางไม่เห็นด้วยกับท่านอุมัรฺ อัลฟารุก และแย้งท่านขณะที่ท่านกำลังกล่าวคุฏบะฮฺอยู่บนมิมบัรฺ อุมัรฺยอมรับความเห็นของนางและสลัดความคิดตัวเองโดยกล่าวอย่างเปิดเผยว่า ผู้หญิงคนนั้น ถูกต้อง ส่วนอุมัรฺผิด
ท่านเราะซูลกล่าวความว่า “การแสวงหาความรู้เป็นหน้าที่เหนือมุสลิมทุกคน” (บันทึกโดย อิบนุมาญะฮฺ) อุละมาอฺมุสลิมต่างเห็นตรงกันว่าผู้หญิง(มุสลิมะฮฺ)ถูกรวมอยู่ในความหมายของ ฮะดีษนี้ด้วย
ในฐานะที่เป็นหน้าที่เหนือเธอที่จะต้องรู้ว่าสิ่งใดบ้างที่จะทำให้อะกีดะฮฺของเธอ เสียหาย ปรับปรุงการอิบาดะฮฺของเธอ และควบคุมกริยามารยาทให้สอดคล้องกับจริยธรรมแห่งอิสลาม เป็นต้น เป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องรู้จักบัญญัติต่างๆของอัลลอฮฺในเรื่องที่ฮะลาลและฮะรอม รวมทั้งสิทธิและหน้าที่ของเธอ เธอสามารถที่จะบรรลุสถานะขั้นสูงของความรู้ จนสามารถที่จะอิจญติฮาดได้ (วินิจฉัยปัญหาทางศาสนา)
ในกรณีที่ผู้เป็นสามีไม่สามารถที่จะสอนนางหรือสอนได้ไม่ดีพอ สามีของนางไม่มีสิทธิที่จะห้ามนางจากการแสวงหาความรู้อันเป็นหน้าที่ของนาง บรรดาภรรยาของเหล่าเศาะฮาบะฮฺ เคยไปหาท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)เพื่อถามปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับนาง ความละอายไม่ได้กีดขวางพวกนางจากการแสวงหาความรู้ด้านศาสนาให้ดีขึ้น
การละหมาดญะมาอะฮฺไม่ได้เป็นข้อเรียกร้องสำหรับผู้หญิงเหมือนกับที่เป็นหน้าที่ สำหรับผู้ชาย การละหมาดที่บ้านเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับสภาพและการเรียกร้องของพวกเธอ อย่างไรก็ตามสามีของนาง ไม่สามารถห้ามนาง หากนางต้องการจะไปละหมาดร่วมที่มัสญิด ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวความว่า “อย่าได้ห้ามผู้หญิงในการที่นางจะไปยังมัสญิดของอัลลอฮฺ” (บันทึกโดยมุสลิม)
ผู้หญิงสามารถออกไปนอกบ้านเพื่อไปทำภารกิจของตัวนาง หรือสามี หรือลูกๆ บนท้องถนนหรือในตลาด ดังที่ท่านหญิงอัสมาอฺ บินติอบูบักรฺ กล่าวว่า “ฉันเคยทูนอินทผลัมบนศีรษะจากที่ดินของอัซซุเบรฺ สามีของฉัน ขณะที่ฉันอยู่ในมะดีนะฮฺ และมันอยู่ห่างจากตัวเมือง มะดีนะฮฺประมาณสองในสามไมล์”
ผู้หญิงสามารถเข้าร่วมกับกองทัพเพื่อให้การช่วยเหลือในขั้นต้น ทำหน้าที่พยาบาล หรือบริการในรูปแบบที่คล้ายคลึงกันอันเหมาะสมกับธรรมชาติและความถนัดของนาง อิมาม อะฮฺมัดและบุคอรียฺ ได้เล่าฮะดีษที่รายงานจาก อัรฺรุบัยอียฺ บินติมุอาวิษชาวอันศ็อรฺ ซึ่งกล่าวความว่า “พวกเราออกไปยังสมรภูมิร่วมกับท่านเราะซูล เตรียมน้ำให้พวกผู้ชาย คอยช่วยเหลือพวกเขา และส่งผู้ที่ถูกฆ่าและได้รับบาดเจ็บกลับไปยังมะดีนะฮฺ” (บันทึกโดยอิมามอะฮฺมัด)
อิมามมุสลิมได้บันทึกคล้ายกับอิมามอะฮฺมัดซึ่งรายงานมาจาก อุมมุอะติยะฮ โดยนาง กล่าวความว่า “ฉันออกไปสู้รบพร้อมกับท่านเราะซูลเจ็ดครั้ง ติดตามพวกเขาไปทุกยุทธการ จัดเตรียมอาหาร เยียวยาแผลและช่วยเหลือคนเจ็บ” (บันทึกโดยอิมามอะฮฺมัด, มุสลิม)
นี่คือการงานของผู้หญิงและเป็นธรรมชาติการปฏิบัติหน้าที่ของเธอ แต่การแบกอาวุธ และสู้รบหรือนำกองทหารไม่ใช่การงานของพวกเธอ นอกจากว่ามีความจำเป็นพิเศษ สำหรับ บางกรณี ดังนั้น พวกเธอสามารถร่วมมือกับผู้ชายในการต่อสู้กับศัตรูอย่างเต็มความสามารถ เท่าที่เธอจะทำได้
ในสงครามฮุนัยนฺ อุมมุ ซัลมฺ ได้พกดาบ เมื่อสามีของนางถามถึงเหตุผล นางตอบว่า “ฉันพกมันเพื่อว่าหากมีพวกมุชริกเข้าใกล้ฉัน ฉันจะเสียบที่ท้องของเขา” (บันทึกโดยมุสลิม)
อุมมฺ อิมาเราะฮฺหญิงชาวอันศ็อรฺ ได้ต่อสู้ในสงครามอุฮุดอย่างเหนียวแน่น จนกระทั่ง ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ถึงกับยกย่องนาง และในสงครามของ เศาะฮาบะฮ ฺนางได้เข้าร่วมด้วยตนเองจนกระทั่งมุซัยละมะฮฺ อัลกัซซาบ(จอมโกหก) ถูกฆ่า และนางได้กลับ พร้อมบาดแผลจากการถูกแทงนับสิบแห่ง
หากช่วงใดผู้หญิงถูกพรากจากความรู้ โดดเดี่ยวอยู่แต่ในบ้านราวกับว่าเธอเป็น เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง สามีไม่ได้อบรมให้ความรู้ ทั้งยังไม่เปิดโอกาสให้แสวงหาความรู้ แม้แต่การไปมัสญิดก็ยังถูกมองว่าต้องห้าม ถ้าหากว่าภาพเช่นปรากฏอยู่ทั่วไป ดังนั้น นี่คือ ผลผลิตจากความไม่รู้ เป็นความเลยเถิดที่เบี่ยงเบนไปจากทางนำแห่งอิสลาม มันคือ ความเคร่งครัดเกินจริง ที่อัลลอฮฺไม่ได้ทรงยินยอม อิสลามไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆต่อประเพณี ที่ขาดเหตุผลที่มาจากอดีต

ในทำนองเดียวกันอิสลามไม่มีส่วนรับผิดชอบสำหรับความเกินเลยอื่นๆที่เป็นระเบียบ ประเพณีของยุคสมัย ธรรมชาติของอิสลามเป็นความสมดุลที่เรียบง่ายซึ่งปรากฏอยู่ในทุกบท บัญญัติ รวมทั้งสิ่งที่ได้รับการส่งเสริมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์ และศีลธรรมจรรยา อิสลามมิได้อนุญาตสิ่งหนึ่งเพื่อที่จะห้ามอีกสิ่งหนึ่ง ไม่เลยเถิดไปด้านหนึ่ง โดยยอมสูญเสียอีกด้านหนึ่ง ไม่เกินเลยในการให้สิทธิ และไม่เกินเลยในการกำหนดหน้าที่รับผิดชอบ
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว อิสลามมิได้ตั้งใจที่จะพะเน้าพะนอผู้หญิง จนยอมสูญเสียผู้ชาย และมิได้มีเจตนาที่สร้างความพอใจแก่ความคิดชั่วแล่นของผู้หญิง เพื่อลดกระแสการเรียกร้อง ของพวกเธอ และไม่ใช่การสร้างความพอใจให้กับฝ่ายชายด้วยการลดเกียรติของผู้หญิง แต่เรา จะพบว่าท่าทีของอิสลามที่มีต่อผู้หญิงถูกแสดงไว้ดังต่อไปนี้
เป็นการปกป้อง ดังที่เราได้กล่าวมาแล้ว ธรรมชาติและความเป็นผู้หญิงของนาง ตามที่ อัลลอฮฺทรงสร้าง และเป็นการปกป้องเธอจากหมาป่า ซึ่งคอยจ้องเขมือบสิ่งที่เธอหวงแหน และห่างไกลจากความตะกละของผู้คอยเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งคอยแต่จะขูดรีดจากความเป็น ผู้หญิงของเธอในฐานะเป็นสินค้าและกำไรต้องห้าม เป็นการให้เกียรติแก่หน้าที่อันสำคัญยิ่ง อันเป็นสัญชาติญาณของเธอและพระผู้ทรงสร้างได้เลือกให้กับเธอ ซึ่งพระองค์ทรงมอบให้กับ นาง ในสัดส่วนมากกว่าฝ่ายชายในเรื่องของ ความมีใจสงสาร ความรัก ความรู้สึก อ่อนไหวและความตื่นเต้นง่ายเพื่อ เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับเสียงเรียกร้องของความเห็นอก เห็นใจ ในความเป็นแม่ ซึ่งคอยดูแลผลิตผลอันยิ่งใหญ่ของประชาชาติ เป็นความอุตสาหะ ของชนในรุ่นต่อไป
อิสลามถือว่าบ้านเป็นอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของผู้หญิง นางเป็นผู้ที่มีอำนาจในบ้าน เป็นหัวหน้า และเป็นแกนหลักของบ้าน นางคือภรรยาของสามี เป็นหุ้นส่วนของเขา เป็นสิ่งปลอบประโลมเมื่อยามเหงาและเป็นมารดาของเด็กๆ และอิสลามเห็นว่างานของผู้หญิง ในการดูแลบ้าน ปรนนิบัติสามี และเลี้ยงดูลูกๆของนางเป็นความดี เช่นเดียวกับการอิบาดะฮฺ และการต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ ดังนั้นอิสลามจึงขัดขวางวิธีการ และระบบต่างๆ ที่คอยขัดขวางนางจากการทำภารกิจของ นางให้สมบูรณ์ หรือทำให้นางปฏิบัติหน้าที่ได้อย่าง ไม่เต็มที่หรือเป็นการทำลายบ้านของนางนั่นเอง
วิธีการหรือระบบทั้งหลายที่พยายามจะนำผู้หญิงออกจากอาณาจักรของนาง แยกเธอ ออกจากสามี หรือย้ายเธอออกห่างลูกๆในนามของเสรีภาพ การทำงาน ศิลปะ ฯลฯ ทั้งหมดล้วนเป็นศัตรูของผู้หญิงที่ต้องการจะแย่งชิงทุกอย่างจากตัวนาง แต่มันเองกลับมิได้ มอบสิ่งใดให้แก่นาง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอิสลามได้ปฏิเสธสิ่งเหล่านี้
อิสลามปรารถนาที่จะสร้างบ้านที่มีความสุข เพื่อจะเป็นรากฐานของสังคมที่สงบสุข บ้านที่มีความสุขนั้น วางอยู่บนความมั่นใจและความชัดเจนไม่ใช่ความสงสัยและความสับสน ครอบครัวที่มีความสับสนและความหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา เป็นครอบครัวที่ตั้งอยู่บนขอบเหว แห่งความหายนะ เป็นครอบครัวที่ชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานจนไม่อาจทนได้
อิสลามอนุญาตให้เธอทำงานนอกบ้านโดยเป็นงานที่มีคุณค่าที่เหมาะสมกับธรรมชาติ ของนาง เกี่ยวพันกับนาง และความสามารถของนางและจะต้องไม่บดทำลายความเป็นผู้หญิง งานของนางได้รับการอนุญาตภายใต้ขอบเขตที่จำกัดและเงื่อนไขที่ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อนาง หรือครอบครัวของนางจำเป็นต้องมีงานนอกบ้าน หรือสังคมต้องการงานของนาง เป็นกรณี พิเศษ ความจำเป็นของงานจะไม่จำกัดเฉพาะความจำเป็นทางการเงินเท่านั้น แต่อาจมีความจำเป็นทางจิตวิทยา เช่นความจำเป็นที่ต้องมีผู้หญิงที่ เชี่ยวชาญ เฉพาะทาง โดยที่นางอาจยังโสดหรือไม่มีลูกหรือนางมีเวลาว่างเพียงพอซึ่งจะช่วยบรรเทาความเบื่อหน่าย
โดย: อุสมาน IP: 110.169.227.119 วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:13:08:48 น.
  
เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีทั้งคนชม และตำหนิติเตียนในสิ่งที่ผิดพลาด แต่คุณจงเอาคำชมและคำติเป็นกำลังใจ หาบทความดีๆ มานำเสนออีกนะคะ จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ (แอบเข้ามาอ่านหลายเรื่องแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ตอบกระทู้ วันนี้มีโอกาสได้อ่านเลยขอตอบสักหน่อยค่ะ)
โดย: ผู้กำลังศึกษา IP: 101.109.254.3 วันที่: 17 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:47:46 น.
  
เข้ามาอ่านแล้วทำให้คิดหลายๆอย่างเลย
ซุกรอนๆแวะเข้ามาบ่อยๆนะคะ
โดย: Ana fartinee IP: 113.53.10.153 วันที่: 20 กันยายน 2557 เวลา:17:11:47 น.
  
แล้วถ่าสามีไม่เคยแบ่งเงินให้ใช้เลยแถมเวลาขอซื้อกับข้าวแต่กลับโดนบ่นแต่กลับกันเขาให้เงินลูกๆไปกินไปเที่ยวเล่นเยอะแยะเราควรทำไงดี
โดย: คนไม่สำคัญ IP: 49.228.224.12 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2559 เวลา:4:33:36 น.
  
แล้วถ้าเกิดว่าสามีไปหลงรักหญิงอื่น ถึงกับจะหย่าภรรยา ทั้งๆที่ภรรยาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ด้วยเหตุนี้จะหลักทางอิสลามข้อใดมากล่วได้บ้าง
โดย: เดะ IP: 49.229.106.203 วันที่: 22 ธันวาคม 2559 เวลา:11:50:38 น.
  
อยากทราบว่าในเดือน รอมฏอน หญิงชายสามารถถูกเนื้อต้องตัวกันได้หรือป่าวคะ
โดย: Nufay IP: 171.96.189.42 วันที่: 27 พฤษภาคม 2560 เวลา:7:38:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะ(รก)
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



เพราะเราไม่รู้ว่า ลมหายใจจะหมดลงเมื่อใด
The Doomsday Book
Date Conversion
Gregorian to Hijri Hijri to Gregorian
Day: Month: Year
Website Counter
New Comments