มีโอกาสได้เข้าคลาสอาหารไทยแบบเล็กๆ กับสถาบันสอนทำอาหารและขนมติดอันดับโลกโรงเรียนสอนการทำอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ที่มาจับมือกับดุสิตธานีเปิดในไทยโดยใช้ชื่อว่า Le Cordon Bleu Dusit หรือเรียกย่อว่า LCBD "Lin"เป็นวัตถุดิบที่ทาง LCBD เลือกใช้ เลยเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันทำให้มีกิจกรรมเรียนทำอาหารและขนมกับ LCBD มาให้แฟนเพจได้ลุ้นเป็นผู้โชคดีได้เข้าคลาสเรียนทำอาหารและขนมอยู่เป็นระยะเราเข้าไปเล่นกิจกรรมในเพจกับ"ลิน" ได้เป็น 1 ใน 16 คนที่ได้เข้าคลาสปลากระพงซอสมะขามกับขนมต้มเบญจรงค์อาหารและขนมที่ใช้น้ำตาลมะพร้าวแท้"ลิน" เป็นส่วนประกอบเลยเอามาบันทึกเก็บไว้ซะหน่อย หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จ ก่อนเข้าคลาส มีอาหารว่าง ชา กาแฟสด น้ำผลไม้ไว้บริการเข้าใจว่าเป็นนักเรียนของ LCBD มาช่วยบริการและฝึกงานไปในตัวงานนี้ขอบอกว่าเช้านี้เก็บท้องรอเพื่อมาทานขนมที่นี่โดยเฉพาะเลยค่ะ ของว่างทานคู่กับลาเต้ร้อนฟองนมนุ่มๆ อร่อยสมกับที่ตั้งใจเก็บท้องไว้ โดยเฉพาะ Quiche Lorraine คนรักชีสรสชาติเค็มๆ มันๆ แบบเราทานไปหลายชิ้นเลยแหละ เสียดายไม่ได้ชิม Madeleine ส่วน Chocolate Cookiesเป็นคุ๊กกี้แบบนิ่ม กัดแล้วชอคโกเแลตเยิ้มข้างในนิดๆ ไม่หวานมาก....ของว่างมีมาเติมตลอดจนถึงบ่ายเชฟรพีพัฒน์ บริบูรณ์ Chef Instructor อาหารไทยของ LCDB เป็นผู้สาธิตการทำอาหาร...รีบถ่ายไปหน่อย แบบเกรงใจ ขออภัยรูปออกมาเชฟหลับตาทุกรูปเลยอ่ะ เชฟสอนสนุก มีมุขขำๆ และความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสอดแทรกเป็นระยะ เช่นการทำซอสมะขามนอกจากใช้น้ำตาลมะพร้าวแล้ว หลังจากเคี่ยวซอสเสร็จให้เติมน้ำตาลทรายเล็กน้อย จะช่วยดึงซอสให้มีรสจัดจ้านขึ้นหรือการทอดปลาอยากให้มีสีน้ำตาลสวย ก็ให้โรยน้ำตาลทรายเล็กน้อย ฯลฯระหว่างสอนทำซอสมะขาม เชฟใจดีแถมสูตรน้ำส้มตำให้ด้วยอีกน๊านอกจากผู้เรียนอยากรู้ถามเชฟแล้ว เชฟก็อยากรู้เหมือนกัน มีตั้งคำถามกับ"ลิน" เกี่ยวกับน้ำตาลทรายและสารฟอกขาว "ลิน"ก็เลยออกมาอธิบายขั้นตอนการผลิตแบบคร่าวๆให้เห็นความต่างระหว่างน้ำตาลทรายสีรำ กับน้ำตาลทรายขาว (เราเขียนย่อๆ นะ ) ....หลังจากอ้อยที่ผ่านมือชาวไร่และผ่านการขนส่งกว่าจะถึงโรงงาน ก็จะนำอ้อยมาล้างทำความสะอาดและต้มแค่ครั้งเดียว น้ำที่ได้ยังเป็นสีขุ่นอยู่ เมื่อนำไปผลิตน้ำตาลก็จะได้น้ำตาลทรายสีรำหรือที่หลายคนเรียกกันว่าน้ำตาลทรายไม่ฟอกสีขณะที่น้ำตาลทรายขาว ผ่านการกรองและต้มหลายครั้งจนน้ำใสแล้วจึงนำไปผลิตน้ำตาลทรายที่ได้จึงมีสีขาว ไม่ได้ใช้สารฟอกสีแต่อย่างใด หลังจากจบการสาธิต ก็มีการชิมอาหารคนละจานน้อยให้พอรู้รสส่วนปลากระพงซอสมะขามจานนี้เชฟสาธิตวิธีจัดจานสวยๆ ให้ชม ใช้ซอสวาดเป็นโลโก้ตัวแอลของ"ลิน" และเสริมโน่นนี่ให้จานดูเก๋ขึ้นอ้อ...เชฟท่านนี้เป็นกรรมการรับเชิญตัดสินอาหารไทยรายการเชฟกระทะเหล็กด้วยนะคะ (ถึงว่าหน้าคุ้นๆ )ขนมต้มเบญจรงค์ สีสวยงามจากใบเตย ฟักทอง ดอกอัญชัญหลังจากชิมอาหารเสร็จก็จับคู่เข้าครัว ลงมือทำอาหารเชฟมีบรีฟสั้นๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยในครัวและอุปกรณ์ที่จะใช้นิดหน่อยเนื่องจากมีเวลาน้อย ส่วนผสมส่วนใหญ่จะจัดเตรียมมาเรียบร้อยแล้วจากเชฟอีกท่านขนมต้มเบญจรงค์ แป้งก็นวดเตรียมมาให้เรียบร้อยทั้งสามสี เพราะถ้าต้องให้ลงมือกันเองกว่าจะนวดแป้งให้เนียนแบบนี้ท่าจะไม่ค่อยรอด ส่วนของไส้กระฉีกก็เตรียมส่วนผสมตวงทุกอย่างมาให้พร้อม ผู้เรียนมีหน้าที่ผัดและเรียนรู้การปรับใช้ไฟให้เหมาะสมปั้นแป้งใส่ไส้ ขอบอกว่าแป้งเนียนมาก ปั้นใส่ไส้ได้ง่าย แป๊ปเดียวก็เสร็จการปรับไฟในการต้มขนมก็สำคัญนะคะ ไฟแรงแป้งข้างในก็ไม่สุก ดีไม่ดีอาจจะแตกต้มไฟอ่อนลงมา พอได้ที่ก็ต้องคอยดู ต้มนานไปแป้งเละได้นะเจ้าคะพอแป้งลอยทิ้งไว้สัก 2 นาที ช้อนเอาขึ้นมาคลุกมะพร้าวขูดเพื่อไม่ให้แป้งติดกัน จับเรียงใส่กล่องให้เอากลับบ้าน กลับมากินเปรมเลยล่ะค่ะ ได้คนละสองกล่องแน่ะ อิอิปกติเป็นคนชอบทานขนมต้มอยู่แล้ว ไม่ว่าจะขนมต้มไทยหรือขนมต้มแบบอินโด Onde Ondeแต่ขอบอกว่าปลื้มกับแป้งขนมต้มสูตรนี้ ใส่ตู้เย็นข้ามคืนไว้แป้งยังนุ่มไม่แข็งกระด้างคงได้ลงครัวทำเร็วๆ นี้แน่นอนค่ะIn the kitchen with Chef Having fun in the kitchen ปลากระพงเจี๋ยนซอสมะขาม ปลาทอดมาให้แล้ว ส่วนผสมของซอสก็ตวงมาพร้อมให้ผู้เรียนลงมือเคี่ยวซอสเอง และปรับรสอีกนิดหน่อยตามชอบทำเสร็จแบ่งใส่กล่องกับน้องอุ๋ยคู่หูกลับบ้าน ปกติแม่ไม่ค่อยชอบทานพวกปลาทอดราดซอสมะขามแต่งานนี้แม่ติดใจซอสค่ะ บอกว่าน้ำราดรสชาติจัดจ้านดี คงเป็นเพราะนอกจากสูตรซอสดีแล้วคนเคี่ยวซอสยังสวยอีกต่างหาก ก่อนกลับได้รับใบเซอร์ฯ จาก LCBD ว่าได้ผ่านหลักสูตรปลาซอสมะขามกับขนมต้มมาแล้ว ขอขอบคุณ"ลิน" และเจ้าหน้าที่ทุกท่านอีกครั้งสำหรับกิจกรรมดีๆ สนุกๆ แบบนี้ขอบคุณทาง LCBD เจ้าหน้าที่ทุกท่านตั้งแต่แผนกต้อนรับจนถึงในครัวทุกคนน่ารักเป็นกันเอง สถานที่และอุปกรณ์ก็น่าเรียน เห็นหลักสูตรแบบวันเดียว ถ้าเทียบกับที่อื่นราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิด ไว้มีเมนูไหนที่โดนใจคงได้เจอกันค่ะ
เมนูอาหารก็น่าทานค่ะพี่แหม่ม