ตาเหลือกเชียวนะเจ๊ หนังเสนอเรื่องราวของเชื้อไวรัสร้ายที่แพร่กระจายการติดเชื้อได้เพียงแค่การสัมผัสหรือผ่านพาหะนำเชื้อโรคอย่างเช่นข้าวของเครื่องใช้ทั้งหลาย ซึ่งผู้รับเชื้อจะเสียชีวิตภายในไม่กี่วัน และด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว งานนี้เลยเล่นเอาผู้คนแตกตื่นวุ่นวายกันทั้งโลก (โดยเฉพาะพี่กัน) ในขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายก็พยายามกันสุดฤทธิ์เพื่อหาวิธีรักษาให้จงได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
คู่นี้เคยผ่านเวทีออสก้าร์มาแล้ว หนังเล่าเรื่องอย่างจริงจัง สมจริง และประสบความสำเร็จในการทำให้คนดูรู้สึกวิตกจริตตามไปได้ด้วยแม้จะเต็มไปด้วยบทสนทนาเกือบทั้งเรื่อง การได้เหล่าดาราดังๆ ผลัดกันมาขึ้นจอก็ยิ่งดึงดูดความสนใจคนดูไว้ได้ตลอด แม้จะมากันแค่นิดๆ หน่อยๆ ไม่ทันได้มีโอกาสโชว์พาวอะไรมากมายก็ตามที ซึ่งถ้ามองอีกมุมแล้วก็เหมือนกับว่าต้องเฉลี่ยๆ เวลากันไป เลยไม่มีเรื่องราวของใครที่โดดเด่น หรือสร้างความผูกพันกับคนดูได้เท่าที่ควรนัก (ซึ่งนี่แหล่ะคือข้อเสียของหนังรวมพลังดารา)
คู่นี้ก็เคยผ่านเวทีออสก้าร์มาเช่นกัน และนอกจากภัยร้ายจากเชื้อไวรัสแล้วหนังยังมุ่งเสนอความเป็นไปของสังคมยามเกิดวิกฤตการณ์ ไม่ว่าจะการฉกฉวยผลประโยชน์จากความทุกข์ร้อนของชาวบ้านโดยพวกนายทุน หรือการฉกฉวยผลประโยชน์ของชาวบ้านกันเองที่บ้างก็ก่อจราจลบุกปล้มสะดมร้านค้า บ้านเรือน บ้างก็ลุกฮือยึดรถทหารเพื่อแย่งอาหาร (คุ้นๆ เฟ้ย อิอิ) หรือแย่งกันซื้อยาจนแทบพังร้าน ซึ่งหนังก็ไม่ได้ชี้นิ้วลงไปว่าคนเหล่านั้นแย่ เพราะในภาวะเช่นนั้นไม่ว่าใครๆ ก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอดและคนที่พวกเขารักอยู่แล้ว
ยิ่งคู่ยิ่งนี้ไม่ต้องสืบเลย
และยังชี้ให้เห็นจะๆ ว่าถึงแม้เชื้อไวรัสนี้จะเป็นภัยร้ายที่เกิดจากธรรมชาติ แต่ทั้งหมดก็เพราะมนุษย์เรานี่แหล่ะที่อาจเป็นตัวการที่ทำให้มันแพร่ระบาดมาถึงตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเพราะการบุกรุกธรรมชาติ หรือความมักง่ายของคนบางคนก็ตาม แต่ไม่ว่าเชื้อไวรัสหรือโรคภัยต่างๆ เหล่านั้นจะร้ายแรงสักแค่ไหน สุดท้ายมนุษย์เราก็สามารถหาทางเอาชนะมันได้ในที่สุด ไม่ต้องวิตกไปหรอกจ้า (แต่จะช้าจะเร็วนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง)
หิ้งอันว่างเปล่าของร้านรวงแบบนี้ดูคล้ายบ้านเราช่วงน้ำท่วมเลย