มาจะกล่าวบทไป :

“แต่ถามว่าชอบเธอไหม สบตาแล้วถูกใจไหมก็ตอบว่าใช่เป็นอย่างนั้น”

พาดหัวยังกะเจอชายหนุ่มที่ถูกใจถามว่าเหมือนกันมั๊ย? ก็คล้าย ๆ นิดนึงนะ เพราะการเป็นพี่เลี้ยงเด็กนั้นต้องอาศัยการเข้ากันได้ระหว่างพี่เลี้ยง,เด็กน้อยและนายจ้างเหมือนกัน

สำหรับเราเราคิดว่าอาชีพพี่เลี้ยงเด็กเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยความชอบ, ความอดทน และใจรักพอสมควร เพราะว่าเด็กก็คือเด็กเค้ายังไม่รู้จักการควบคุมความรู้สึกของตัวเอง คิดยังไง รู้สึกแบบไหนเค้าจะแสดงออกมาทันทีแบบไม่มีการเสแสร้งใด ๆ ทั้งสิ้น (พูดง่าย ๆคือยังทอแลไม่เป็น) ถ้าเค้ารักเราเค้าจะแสดงออกเลยว่ารัก เข้ามาหอมมากอดมาจุ๊บปากแต่ถ้าไม่ชอบหรือไม่พอใจขึ้นมา บทจะงอนหรือบทจะไม่พอใจขึ้นมาอาจทำร้ายเราได้ทั้งทางร่างกายและวาจาได้ทันทีเช่นกัน ฉะนั้นคนเลี้ยงต้องเข้าใจธรรมชาติของเด็กต้องมีภาวะการให้อภัยสูงค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอน

อาชีพพี่เลี้ยงเด็กถือเป็นอาชีพแรกของเราเลยก็ว่าได้ที่เราทำและได้ค่าจ้างตอบแทนเป็นเรื่องเป็นราวตอนแรกก็ไม่ได้กะจะทำงานนี้จริงจังหรอกค่ะตอนนั้นทำอาชีพนี้เพราะอยากได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ในต่างแดนโดยไม่ต้องลงทุนสูง (กล่าวคือนี่คือภาคสองของAu Pair’s Story...อิอิ) 

หลังจากที่เราไปเป็นออแพร์ในอเมริกาเป็นเวลา 1 ปีเราก็กลับมาอยู่เมืองไทย อยู่ได้ไม่กี่เดือนก็เริ่มอยากกลับไปอยู่เมืองนอกอีกครั้งเพราะกระแดะ(ไม่ใช่ละ ^^”)

รอบนี้มีแรงบันดาลใจเหมือนตอนไปอเมริกาหรือเปล่าก็มีนะคะเป็นเมืองเกิดของนักมวยปล้ำขวัญใจเราเอง Superstar Rate R พ่อคางยาวนามกรว่าEdge หรือ Adam Copeland ใครที่ดูมวยปล้ำรุ่น Kurt Angle, สองพี่น้อง Jeff และ Matt Hardyน่าจะรู้จัก รุ่นนี้แหละที่เราชอบดูมากที่สุด ครบทุกรูปแบบสนุก ท่าสวยขุ่นแม่ปลื้ม

ก็มานั่งหาข้อมูลว่ามีโครงการไหนที่ไปเลี้ยงเด็กแล้วได้ตังค์เหมือนตอนไปอเมริกาบ้างน้อ?ก็หาข้อมูลไปเรื่อย ๆ มีหลายที่เหมือนกันค่ะ ที่มีโครงการในลักษณะนี้ แต่เราก็ดู ๆว่าอันไหนที่มันเหมาะสมกับเราบ้าง สรุปสุดท้ายเราก็เลือกได้ว่าจะไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่แคนาดาในโครงการLive-in Caregiver ความดีงามของโครงการนี้คือทำงานครบ 2 ปี สามารถขอยื่น PR เป็นประชากรของแคนาดาได้ด้วยเข้าท่าดีแฮะ สมัครโครงการนี้แหละ

โครงการ Live-in Caregiver คือโครงการดูแลผู้สูงอายุหรือเด็กในประเทศแคนาดาโดยที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับผู้ที่เราจะดูแลขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมโครงการค่ะว่ามีประสบการณ์ด้านใดมา เราเลือกดูแลเด็กเพราะเรามีประสบการณ์เกี่ยวกับเด็กส่วนประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุนั้นเรามีแต่ประสบการณ์จำพวกโต้คารมมัธยมศึกษาเกรงว่าไม่น่าจะใช้ได้ผลที่ได้รับอาจจะร่วงมากกว่ารุ่ง

เพราะฉะนั้นต่อจากนี้เราจะขอพูดเฉพาะแค่ในส่วนของLive-in Caregiver ที่เกี่ยวกับดูแลเด็กนะคะ