มือถือสื่อรัก

“มันหายไปไหนนะ ฉันไม่น่าลืมมันเลย”ฉันยังคงหาแหวนหมั้นที่ตอนนี้ไม่อยู่ที่นึ้วนางข้างซ้ายที่เรียวงามของฉันแล้ว ฉันนั่งยองๆ ก้มหน้าลงมองกับพื้นพรมสีทองลายดอกไม้สีขาวของโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้คนบางตาลงจากเมื่อตอนหัวค่ำ งานเลี้ยงแต่งงานเลิกแล้วแขกในงานค่อย ๆทยอยกันกลับบ้าน

“ยังไม่เจอแหวนอีกหรอ มาลี” น้ำทิพย์เอ่ยถามเธอกำลังจะกลับบ้านกับแฟนหนุ่ม

“ยังเลยจ๊ะ หายไปไหนนะ ไม่น่าเลย” ฉันเงยหน้าขึ้นมา ทำหน้าเศร้า ผมที่เซตมาอย่างดีเริ่มยุ่งจากการก้มๆ เงยๆ หาแหวน

“ไปแจ้งความไว้ก่อนไหมเผื่อมีคนเจอจะได้นำมาคืนถูก” น้ำทิพย์เสนอความคิดอย่างเป็นห่วง

“จ๊ะ ก็ว่าจะนะขอบใจจ๊ะเธอกลับบ้านไปก่อนได้เลยนะเดี๋ยวฉันจัดการเอง ขอบคุณมากเลย”ฉันไม่อยากให้น้ำทิพย์กับแฟนต้องมากังวลเพราะเธอก็ต้องกลับไปหาลูกที่ยังเล็กอยู่ที่บ้าน

ในขณะที่ฉันหาแหวนอยู่นี้ก็มีพนักงานหลายคนกำลังเก็บจานแก้ว ช้อนส้อมกัน อาจจะมีใครเจอแหวนของฉัน ก็ได้ฉันจึงคิดว่าบอกพนักงานเหล่านี้ดีกว่า

“น้องค่ะ คือพี่ทำแหวนหายค่ะ เป็นแหวนเพชร ตัวแหวนทำจากทองคำขาวถ้าเจอโทรหาพี่นะคะ” แล้วฉันก็เอามือควานหามือถือในกระเป๋าตำแหน่งที่ฉันวางประจำแต่มันไม่อยู่ฉันจึงค้นทั้งกระเป๋าแต่ก็ไม่มี มือถือฉันก็หาย!!!

โถ่ทำไมฉันถึงโชคร้ายมากมายขนาดนี้นะแหวนหมั้นหายแล้วมือถือยังมาหายอีก ทันใดนั้นฉันก็หันไปเห็นพนักงานกำลังทิ้งเศษกระดาษทิชชู่ลงในถังขยะฉันจึงรีบเดินไปที่ถังใบนั้น ฉันทำใจอยู่พักนึงแล้วใช้ปลายนิ้วค่อย ๆ ค้นหาของ ๆฉันที่อาจมีใครเผลอทิ้งลงในถังใบนี้ก็ได้ เฮ้อ!!!

ไม่น่าเชื่อเลยฉันเจอมือถือ แต่มันไม่ใช่ของฉันฉันหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งขึ้นมาจากถังขยะ มันเป็นเครื่องสีดำและยังมีแบตเตอรี่เกือบเต็ม ฉันจึงใช้กระดาษทิชชู่เช็ดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ออก ใครนะมาทิ้งมือถืองั้นฉันขอใช้ก่อนละกัน หลังจากที่ฉันหาแหวนบนโต๊ะ ใต้โต๊ะจนทั่วอีกครั้งแต่ก็ไม่เจอ ฉันจึงไปบอกกับพนักงานต้อนรับของโรงแรมว่าถ้าเจอแหวนให้ช่วยโทรมาที่เบอร์นี้ด้วยแล้วฉันก็ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแล้วก็ให้เบอร์นี้กับตำรวจไว้“ฉันยังโชคดีที่เจอเจ้านะเจ้ามือถือ ของใครก็ตามเถอะ” ฉันพูดกับมือถือใหม่ของฉัน

ยังไม่ทันไรก็มีเสียงเรียกดังขึ้นจากมือถือนี้“กริ๊ง ๆ ๆ” ฉันตกใจที่มีคนโทรเข้ามา แต่ฉันก็คงต้องลองคุยกันดูจะเป็นเจ้าของเก่าหรือเปล่านะ

“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ”ฉันหลับตาภาวนะว่าไม่ใช่เจ้าของมือถือนี้

“สวัสดีครับ คุณเก็บมือถือของผมได้หรอครับผมโชคดีจัง” เสียงผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความดีใจ

“ค่ะ แต่ฉันขอยืมใช้ก่อนนะคะพอดีมือถือฉันหายค่ะ” ฉันขอยืมชายคนนั้นเฉยเลย

“อะ อะ ไร นะครับ”เสียงชายหนุ่มพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าจะขอยืมกันง่าย ๆ

“ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ แล้วจะคืนให้เมื่อเสร็จธุระค่ะ”ก็มันจำเป็นนี่นา

“พอดีผมเมมโมรี่เบอร์ลูกค้าบางคนไว้ในนั้นครับผมจำเป็นต้องใช้ครับ” ชายหนุ่มเสียงเข้มขึ้นเพราะเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับการโดนขอยืมมือถือ

“งั้นบอกมาว่ามีชื่ออะไรบ้างแล้วฉันจะบอกเบอร์ให้ค่ะอ่อ มีไลน์ด้วยเดี๋ยวไลน์มาบอกนะคะ” ฉันวางสาย

“ปิ๊งป่อง” เสียงไลน์ดังขึ้นที่มือถือจากคนชื่อกันต์

“ผมให้คุณยืมมือถือผมก็ได้นะ”

“ขอบคุณมากเลยค่ะ” อยู่ ๆก็ใจดีเมื่อกี้น้ำเสียงยังดุ ๆ อยู่เลย

“แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องมาคืนผมด้วยตัวเองนะ”

“ได้สิค่ะ” ไม่น่าจะเสียหายตรงไหน แล้วฉันก็บอกเบอร์ลูกค้าเจ้าของมือถือไปประมาณ5 เบอร์ได้

วันรุ่งขึ้นฉันก็ไปทำงานตามปรกติฉันไม่อยากหยุดงานเพื่อไปซื้อมือถือใหม่เพราะเดี๋ยวคู่หมั้นฉันจะสงสัยฉันยังไม่อยากให้เขารู้ว่าแหวนกับมือถือหายในวันเดียวกันฉันเปิดร้านขายกาแฟที่หน้าหมู่บ้านของฉัน ทุกวันฉันจะขี่จักรยานไปจอดไว้ที่หลังร้านแล้วก็จัดการเตรียมเปิดร้าน

“มาลีมาแล้วหรอครับ ขออเมริกาโน่แก้วนึงครับ”วรุฒแวะมาดื่มกาแฟทุกเช้าก่อนไปทำงาน เขาคือคู่หมั้นของฉันเอง ทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายขายบริษัทขายรถยี่ห้อหนึ่ง

ฉันชงกาแฟเอสเพรสโซ่ไปด้วยใจก็นึกถึงแต่เรื่องแหวนหมั้นที่หายไปว่าจะบอกกับวรุฒยังงัยดีนะหลังจากกดให้เอสเพรสโซ่ไหลลงไปในถ้วยที่มีน้ำร้อนอยู่แล้วเพื่อทำเป็นอเมริกาโน่ฉันก็ค่อย ๆ เดินไปเสริฟที่โต๊ะประจำของวรุฒ

โชคดีที่วรุฒกำลังสนใจข่าวในหนังสือพิพม์จึงไม่ได้มองแหวนที่มือของฉันว่าไม่อยู่แล้ว

หลังจากวรุฒไปทำงานแล้วฉันก็เปิดโน๊ตบุ๊กหาข่าวอ่านในอินเตอร์เนต รอลูกค้ามา นอกจากกาแฟแล้วฉันก็ยังมีขายแซนวิช วาฟเฟิล คุกกี้ และขนมกรุบกรอบที่มีคนมาฝากขายด้วยร้านของฉันตกแต่งเรียบง่ายโทนสีครีมขาวน้ำตาล ฉันเพิ่งเปิดร้านได้เดือนเดียวลูกค้าจึงยังไม่ค่อยมีมาเท่าไหร่แต่ฉันมั่นใจในรสชาติกาแฟของฉันว่า ถ้าใครได้ดื่มแล้วจะต้องติดใจกลับมาอีกแน่นอนเพราะวัตถุดิบที่เลือกสรรค์มาอย่างดีมีคุณภาพ และราคาก็ไม่แพงจนเกินไป

ฉันนั่งนึกถึงเมื่อวานที่แหวนหายไปตอนนั้นเพื่อนที่โต๊ะขอดูแหวนหมั้น แล้วก็มีคนหนึ่งบอกว่าขอยืมใส่หน่อยฉันจึงถอดแหวนให้ไป พอดีเจ้าสาวจะโยนดอกไม้ให้ผู้หญิงที่ยังโสดอยู่ไปรับใครรับได้ก็จะโชคดีอาจเป็นคนได้แต่งงานคนต่อไป ทุกคนที่โต๊ะจึงรีบลุกขึ้นไปจะไปรับดอกไม้รวมทั้งฉันด้วยพอรับเสร็จก็กลับมานั่งกันที่โต๊ะ แล้วฉันก็ลืมเรื่องแหวนไปเลยจนถึงงานจะเลิกพอถามเพื่อน ๆ ก็ไม่มีใครเห็นแหวนของฉันเลยสักคน ส่วนมือถือของฉันที่หาย ฉันคิดว่าคงจะมีคนขโมยไปตอนที่วางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะแล้วไปรับดอกไม้แน่ ๆ เพราะฉันไม่ได้ทิ้งกระเป๋าให้ห่างตัวเลยนอกจากตอนนั้น

“ปิ๊งป่อง” กันต์ไลน์มา

“สวัสดีครับ คุณบอกผมได้ไหมว่าธุระของคุณคืออะไรที่ยืมมือถือผม”

“แหวนหมั้นของฉันหายแล้วฉันให้เบอร์นี้กับทางโรงแรมกับตำรวจพวกเขาจะโทรมาหาฉันถ้าเขาเจอ และพอดีมือถือฉันก็หายด้วย แต่วันนี้ฉันจะไปซื้อมือถือใหม่แล้วค่ะ”

“ให้ผมช่วยดูเครื่องใหม่ให้ไหมครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ”

ฉันปิดร้านกาแฟเร็วเพราะจะไปซื้อมือถือหลังจากเลือกอยู่นาน ฉันก็ตัดสินใจเลือกรุ่นหนึ่งได้ฉันรีบจัดการโทรไปโรงแรมและสถานีตำรวจเพื่อบอกเบอร์ใหม่ให้รับทราบ

“ปิ๊งป่อง” ฉันไลน์ไปหากันต์

“ฉันจะคืนโทรศัพท์คุณแล้วนะคะธุระของฉันเสร็จแล้ว”

“คุณได้แหวนคืนแล้วหรอครับ”

“ยังค่ะแต่ซื้อโทรศัพท์ใหม่แล้วและฉันแจ้งทางโรงแรมกับตำรวจว่ามีเบอร์ใหม่แล้วค่ะ”

“คุณอยู่แถวไหนครับ” แล้วเขาก็นัดฉันที่ร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านของฉัน

ที่ร้านกาแฟฉันในชุดเสื้อลายดอกไม้สีดำกางเกงเข้ารูปสีครีม รองเท้าส้นเตี้ย สั่งคาปูชิโน่ร้อนรออยู่สักพัก กันต์ก็เข้ามาในชุดเสื้อยืด กางเกงยีน รองเท้าคัทชู เขาสั่งมอคค่าร้อน

“สวัสดีครับผมกันต์ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”เขายิ้มทักทายอย่างเป็นกันเองให้กับฉันทำเอาฉันรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเพราะความน่ารักของเขา

“สวัสดีค่ะฉันมาลีค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ให้ฉันยืมโทรศัพท์”

“ผมก็ต้องขอบคุณคุณมาลีที่เก็บมือถือผมได้เช่นกันครับ”

“ว่าแต่มือถือคุณไปอยู่ในถังขยะในโรงแรมนั้นได้ยังงัยคะ”ฉันสงสัย

“ผมไปงานแต่งงานในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวครับผมไปขอดูกล้องวงจรปิดที่โรงแรมแล้ว ผมทำมันหล่นตอนหยิบของในกระเป๋ากางเกง แล้วมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กเก็บได้แล้วนำไปทิ้งถังขยะครับฮ่า ๆ ๆ ๆ”

“แล้วแหวนกับมือถือของฉันหละคะคุณเห็นหรือเปล่า”ฉันเริ่มมีความหวังว่าจะเจอของ ๆ ฉัน

“ผมถามทางโรงแรมเหมือนกันแต่กล้องวงจรปิดไม่เห็นตอนแหวนกับมือถือของคุณหายครับ”

“ขอบคุณมากนะคะ” ฉันรู้สึกผิดหวัง แล้วฉันก็คืนมือถือให้เขาไป

วันรุ่งขึ้นฉันก็เปิดร้านกาแฟตามปกติ วรุฒมาแล้วเขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวผูกเนคไท กางเกงสแล็ค รองเท้าคัทชู เหมือนทุกวัน

“มาลีครับ เหมือนเดิมครับ” จริง ๆ เขาสั่งเหมือนเดิมทุกวันไม่เคยเปลี่ยนเลย

ฉันจะบอกวรุฒยังงัยดีนะ ขอให้เขาไม่สังเกตด้วยเถอะ

“มาลี เดี๋ยวเสาร์นี้เราไปกินข้าวร้านไหนดีครับ”

“ร้านเดิมก็ได้ค่ะ”

“งั้นดีเลย แล้วเราก็ไปเลือกชุดแต่งงานกัน”

วันนี้วรุฒยังคงไม่สังเกตแหวนที่นิ้วของฉันฉันจึงยังไม่บอกเขา

“ปิ๊งป่อง” ไลน์จากกันต์

“สวัสดีครับ มีข่าวเรื่องแหวนรึเปล่าครับ”

“ยังเลยค่ะ”

“ผมรู้จักร้าน ๆหนึ่งเขาทำแหวนปลอมได้เหมือนมากเลยคุณสนใจไหม”

ฉันนิ่งคิดอยู่สักพักจึงตอบตกลงไปเขานัดเจอฉันตอนบ่าย ฉันเลยต้องปิดร้านตอนเที่ยง

“ขอบคุณมากนะคะที่แนะนำ ฉันคิดว่าวิธีนี้ก็ดีเหมือนกันไม่อยากให้คู่หมั้นฉันเสียความรู้สึกค่ะ” เราเจอกันที่ร้านทำแหวนปลอม

“ไม่เป็นไรครับ ร้านนี้เขาทำเหมือนมากราคาก็ไม่แพงด้วย”

ฉันยิ่งคุยกับกันต์ก็ยิ่งรู้สึกถูกใจฉันเป็นอะไรไปเนี่ย นี่ฉันกำลังจะแต่งงานกับวรุฒอยู่แล้วนะ และทำไมกันต์ถึงมาดีกับฉันถึงเพียงนี้ถึงแม้ว่าฉันมีคู่หมั้นแล้วและกำลังจะแต่งงานกันอีกด้วย

วันต่อมาฉันเปิดร้านกาแฟเหมือนเคย แต่วันนี้วรุฒสังเกตเห็นว่าฉันไม่ได้สวมแหวนหมั้นไว้

“ทำไมมาลีไม่ใส่แหวนครับวันนี้”

“พอดีวันนี้ว่าจะทำความสะอาดร้านก็เลยถอดไว้ที่บ้านค่ะ”ฉันโกหกหน้าตาย

“อ๋อ แหมขยันจริง ๆ เลยนะครับ”ฉันยิ้มตอบแบบโล่งใจ

วันนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งผมยาวประบ่าใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นอุ้มลูกเล็กมาด้วยมานั่งสั่งกาแฟ แต่นั่งนานมากผิดปกติฉันเห็นเธอแอบมองฉันบ่อย ๆ ฉันจึงเข้าไปถามเธอ

“มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ”

แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างสะอึกสะอื้น

“ฉันมีอะไรจะบอกค่ะคุณมาลี”

“คุณรู้จักชื่อฉันด้วยหรือคะ”

“ค่ะ ฉันเป็นภรรยาของคุณวรุฒค่ะและเด็กคนนี้คือลูกของเรา”

ฉันตกใจมากที่ได้ยิน รู้สึกหน้าชาและทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเหมือนจะเป็นลมด้วยฉันตกลงกับเธอว่าฉันจะเลิกกับวรุฒถ้ามันเป็นเรื่องจริง

เย็นนั้นฉันนัดกับวรุฒมาคุยกันที่บ้านของฉันเราคุยกันนานมาก และเขาก็ยอมรับออกมาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาและมีลูกด้วยกันจริง

“แต่คุณไม่เคยบอกฉันเรื่องนี้เลยนะ”

“ผมเลิกกับเธอแล้ว แต่เธอไม่ยอมเลิกเอง”

“ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนไม่รับผิดชอบแบบนี้ฉันขอเลิกกับคุณ ฉันไม่ยอมเป็นเมียอีกคนของคุณหรอก”

แล้วฉันก็ร้องไห้ฉันเสียใจมากที่เรื่องมันต้องจบลงแบบนี้ จริง ๆ เราก็เพิ่งคบกันได้ปีเดียวเองแต่เป็นเพราะฉันใจอ่อนฉันจึงยอมหมั้นกับเขาโดยที่ยังไม่รู้จักกันดีพอ แล้วทีนี้ฉันจะเอาแหวนที่ไหนไปคืนเขาแหวนปลอมคงไม่ดีแน่

“กริ๊ง ๆ ๆ” น้ำทิพย์โทรมา

“สวัสดีค่ะเราน้ำทิพย์เองนะ”

“สวัสดีค่ะรู้เบอร์ใหม่เราได้ยังงัยคะ”

“พอดีเราโทรไปถามที่โรงแรมมาเพราะติดต่อเธอไม่ได้โรงแรมจึงให้เบอร์ใหม่เรามา แหวนอยู่ที่ อรอุมาเอง วันที่ลองแหวนกันอรอุมาใส่อยู่แล้วพอดีต้องรีบกลับบ้านจึงยังไม่ได้คืนแล้วพอโทรไปหาเธอก็โทรไม่ติดเพราะมือถือเธอหายใช่ไหม”

“ใช่จ๊ะ แหมฉันดีใจมากเลยขอบคุณมากเลยนะน้ำทิพย์”

วันต่อมาฉันเปิดร้านกาแฟ วันนี้วรุฒไม่มาที่ร้านแต่มีชายหนุ่มที่น่ารักคนอื่นมาแทน

“สวัสดีครับ ผมขอมอคค่าร้อนแก้วนึงครับ”กันต์ยิ้มให้กับฉัน ฉันดีใจจังที่เขามา



Create Date : 03 ตุลาคม 2558
Last Update : 3 ตุลาคม 2558 10:32:14 น.
Counter : 1716 Pageviews.

1 comments
  
โดย: สมาชิกหมายเลข 3380544 วันที่: 28 พฤษภาคม 2562 เวลา:16:43:23 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นลินมณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Group Blog
ตุลาคม 2558

 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
3 ตุลาคม 2558