#หาหุ้นทำเงินสไตล์VI #กลยุทธ์แตกเพื่อเติบโต
ในช่วงที่การลงทุนเริ่มเข้าที่... เป็นช่วงที่ผมใช้กลยุทธ์ "ตีแตก" ก็คือ การซื้อหุ้นเพียงตัวเดียวทั้งพอร์ต และมันก็เป็นผล หุ้นที่ผมตีแตกเติบโตขึ้นมากว่า 100% สร้างผลกำไรให้กับพอร์ตการลงทุนของผมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน... แต่พอลงทุนมาได้อีกซักระยะ... ปรากฏว่า พอร์ตผมเริ่มโตช้าลง ทำให้ผมรู้สึก "อึดอัด" เพราะหากปล่อยหุ้นที่ผมตีแตกให้เติบโตไปเรื่อยๆ จากการที่ประเมินเอาไว้คงต้องใช้เวลาอีกหลายปี ... แต่เป้าหมายการลงทุนของผมนั้นต้องการบรรลุให้เร็วกว่านั้น... กลยุทธ์ "แตกเพื่อเติบโต" คือ กลยุทธ์ที่ผมเข้าใจว่าควรนำมาปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ใหม่ๆ ดังคำที่ว่า "สถานการณ์เปลี่ยน กลยุทธ์ก็ต้องปรับเปลี่ยน" ผมจึงเริ่มกลยุทธ์แตกเพื่อเติบโต ด้วยการแบ่งขายหุ้นบางส่วน และเริ่มถือหุ้นมากจำนวนขึ้น จนในปัจจุบันผมถือหุ้นในพอร์ตราวๆ 3-5 ตัว ด้วยแนวคิดที่ว่า ... ขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้น ... ผมได้ใช้กลยุทธ์แตกเพื่อเติบโตมาได้ซักพัก สิ่งที่ได้รับก็คือ "ความสนุก" ที่มีมากขึ้นกว่าการติดตามหุ้นเพียงตัวเดียว... ส่วนผลลัพธ์นั้น ต้องบอกว่าดีทีเดียว แต่อย่างไรก็ดีถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าคงต้องใช้เวลา และผมหวังว่าคงไม่นานอย่างที่คิดครับ ... สถานการณ์เปลี่ยน กลยุทธ์ก็ต้องปรับเปลี่ยน สิ่งนี้คือความยืดหยุ่นของนักลงทุนระยะยาวอย่างตัวผมนั่นเองครับ ...
#ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ. จากประสบการณ์การลงทุนของผมนั้น ... เวลาทีหุ้นปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึก หรือไม่ได้ติดตามหุ้นตัวที่ขึ้นมักจะงงว่าทำไมราคาหุ้นจึงขยับขึ้น ... . หลายคนคิดไปว่า หุ้นมีเจ้ามือ ถ้าเจ้ามือจะเอาขึ้น มันก็จะขึ้น แต่ความจริงแล้วมันเป็นเช่นนั้นเสมอไปหรือไม่... . ตามปกติแล้วเราต้องเข้าใจก่อนว่า... เบื้องหลังของราคาหุ้น คือ กิจการที่ทำธุรกิจจริง มีคนทำงานจริงๆ ไม่ใช่ราคาที่ขึ้นๆ ลงๆ นั้นไม่มีอะไรมาอ้างอิง ถ้าเป็นแบบนั้นผมคิดว่ามันเข้าข่าย "หุ้นปั่น" . สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนมาได้ระยะหนึ่งแล้ว จะรู้ว่า... ราคาหุ้นที่ขยับขึ้นนั้นมีเหตุผลเสมอ และตัวราคาหุ้นก็มี "อัตราทด" หรือ ค่า PE ที่เป็นตัวคูณกับผลกำไรต่อหุ้น หรือ EPS สูตรก็คือ . ราคาหุ้น (Prize) = กำไรต่อหุ้น (EPS) x ค่าความถูกแพงของหุ้น (PE) . ยกตัวอย่างเช่น หุ้นตัวหนึ่งมีกำไรต่อหุ้นหรือ EPS 1 บาทต่อหุ้น และมีการเติบโตราว 5-10% ต่อปี ทำให้คนในตลาดให้ค่า PE 10 เท่า ดังนั้นราคาหุ้นที่ควรจะเป็น คือ ... . ราคาหุ้น = 1 x 10 = 10 บาทต่อหุ้น นั่นเอง . หากตลาดให้ค่าความถูกแพงเท่าเดิม แต่กำไรต่อหุ้นเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นก็จะขยับไปที่ 20 บาทต่อหุ้นทันที หรือขยับไป 1 เท่า . จากทฤษฏีนี้ทำให้เรารู้ว่า สิ่งที่จะทำให้ราคาหุ้นขยับปรับตัวก็คือ "กำไรต่อหุ้น" หรือค่า EPS นั่นเอง ... โดยค่ากำไรต่อหุ้นนี้มีเบื้องหลังก็คือ การทำงานของเจ้าของกิจการคอยหนุนอยู่ ... . ด้วยเหตุนี้ถ้านักลงทุนต้องการมองหาหุ้นที่กำลังจะวิ่ง ต้องประมาณกำไรต่อหุ้นในอนาคตออกมาให้ได้ แล้วประเมินความเป็นไปได้ว่ามันมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ... . หลังจากนั้นก็มาดูราคา และค่าความถูกแพงของหุ้นว่าเหมาะสมหรือไม่ สะท้อนอนาคตไปหรือยัง และมีส่วนเผื่อความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน จึงตัดสินใจลงทุน และรอจนกว่ากำไรจะมา ... . นั่นแหละครับ เรื่องบังเอิญไม่มีอยู่จริง ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลต่อกันเสมอ สำหรับหุ้นบางตัวที่ขึ้นไปโดยไม่มีฐานของผลประกอบการมารองรับ ... คงไม่ต้องบอกนะครับว่าหนีให้ห่างเข้าไว้จะดีที่สุด . #นายแว่นธรรมดา #ซื้อหุ้นให้มีImpactกับชีวิต. ซื้อหุ้นทั้งทีควรให้มันมี impact กับชีวิตเรา... ยกตัวอย่างเช่น มีเงิน 1 แสนบาท หากเราเลือกซื้อหุ้นราคา 1 บาทต่อหุ้น ไป 1 แสนหุ้น ถ้าหุ้นขึ้นไปเป็น 2 บาทต่อหุ้น = เราได้กำไร 1 แสนบาททันที ในทางกลับกันถ้าหุ้นลงไป 50% ก็จะเหลือเพียง 0.5 บาทต่อหุ้น เราจะขาดทุน 5 หมื่นบาท . สำหรับตัวอย่างข้างต้นถ้าเราขาดทุนก็ขาดทุนเพียง 50% แต่ถ้าหุ้นที่เราเลือกดีจริงเราจะทำกำไรได้ 100% . สำหรับนักลงทุนแนววีไอประเภท "ขุดหุ้น" จะมองหาหุ้นที่มีส่วนเผื่อความปลอดภัย หรือ Margin of Safety หรือซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นนั่นเอง การที่เราขุดหุ้น และประเมินมูลค่าหุ้นเป็น จะช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนได้ นั่นคือที่มาของการลงทุนแนววีไอ ไม่เสี่ยง . หากเรามีเงินแสนเดียว แล้วกระจายการลงทุนไปเป็นสิบตัว ถ้าหุ้นขึ้น 100% อย่างที่ยกตัวอย่างซักตัว ก็ไม่ทำให้เกิด impact มากมายอะไรในชีวิต แต่เราก็ต้องยอมรับความเสี่ยงได้ และปิดความเสี่ยงให้น้อยจนอาจเหลือแค่ศูนย์ด้วยการวิเคราะห์แบบเจาะลึก ทำการบ้านแบบจริงจัง แบบว่าจะเอารวยจริง ไม่ได้มาเล่นๆ นั่นแหละจึงจะประสบความสำเร็จได้จริง . #นายแว่นธรรมดา
Create Date : 06 กันยายน 2559 |
Last Update : 6 กันยายน 2559 9:03:04 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1080 Pageviews. |
|
|