#เก็บหุ้นสร้างพอร์ตสไตล์VI “มองหาหุ้นพลิกฟื้นเพื่อให้พอร์ตโตเร็วขึ้น”

ในอดีตการลงทุนแนวเน้นคุณค่ามีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถทำให้คนร่ำรวยได้ภายในเวลาไม่กี่ปี เนื่องจากในสมัยก่อนคนที่เล่นหุ้นแนวเน้นคุณค่า หรือ Value Investment นั้นมีอยู่น้อยมากๆ เมื่อเทียบกันกับนักเล่นหุ้นแนวเก็งกำไรเทคนิคคอลดูกราฟทำราคาหุ้น

แต่ปัจจุบันการลงทุนแนวเน้นคุณค่า หรือเรียกย่อๆ ว่า VI นั้นทำได้ยากเย็นขึ้นมาก ความคาดหวังของนักลงทุนที่อยากได้ผลตอบแทนสูงๆ จากการลงทุนแนวนี้ต้องขอบอกว่า “จะผิดหวัง” เสียมากกว่าได้สมหวัง ... ดังนั้นการคาดหวังผลตอบแทนเพียง 3-5% จากเงินปันผล และการเติบโตของหุ้นปีละ 5-10% โดยได้ผลตอบแทนเฉลี่ยรวมปีละ 10-15% ต่อปี ถือว่าสมเหตุสมผลมากพอกับเงินต้นที่เราลงทุนไป

อย่างไรก็ตาม ... หากอยากได้ผลตอบแทนสูงๆ ยังพอมีวิธีที่ทำได้ นั่นคือ ต้องหันไปมองหาหุ้นพลิกฟื้นซื้อลงทุนเมื่อตอนมันยังป่วย และรอให้ฟื้นไข้กลับมา จะทำให้พอร์ตโตเร็วขึ้นได้ ... ในอดีตผมเคยลงทุนหุ้นป่วย นั่นคือ หุ้นรถไฟฟ้าไต้ดิน หรือ BMCL ซึ่งปัจจุบันได้ควบรวมกับหุ้นทางด่วนเปลี่ยนชื่อเป็น BEM และได้ผลตอบแทนที่ดีเกินคาด

ทว่า... ในปัจจุบันหุ้น BEM กลายเป็นหุ้นแข็งแกร่ง จะหาการเติบโตอย่างรวดเร็วจากการพลิกฟื้นกิจการดังอดีตคงไม่ง่ายแล้ว สำหรับผมยังคงลงทุนอยู่ เพียงแต่คาดหวังผลตอบแทนแค่ปีละ 5-10% ก็พอใจมากแล้วครับ

หุ้นพลิกฟื้นตัวอื่นๆ ยังมีหรือไม่?

คำตอบก็คือ หุ้นพลิกฟื้นมีอยู่เสมอ เพียงแต่คุณภาพของกิจการ การเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเพื่อให้หุ้นตัวนั้นกลับมาได้ มันทำได้จริงหรือไม่ มันดีจริงหรือไม่? สิ่งเหล่านี้คือการบ้านที่เราต้องการคำตอบ ... เรามาดูแต่ละ “เฟส” ของการที่หุ้นพลิกฟื้นจะกลับมาได้มีอะไรบ้าง

• เฟสแรก สภาพกิจการดูย่ำแย่สุดๆ ... เมื่อผมเจอหุ้นพลิกฟื้นซักตัว ผมมักจะเห็นกิจการเหล่านั้นดูย่ำแย่สุดๆ ดูยังไงก็ไม่น่าจะซื้อลงทุน กิจการดังกล่าวจะมีภาพต่อไปนี้ ได้แก่ ขาดทุนติดต่อกันมาหลายปี ถึงขั้นขาดทุนสะสม และอาจเริ่มกินทุน ... การที่เราจะคัดหุ้นออกมาจากกองขยะที่ดูไม่ดี เราต้องเลือกหุ้นให้เป็น หลักของผมก็คือ จะเลือกหุ้นที่ยอดขายยังพอไปได้ และยังอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต เพราะหากยังพอจะขายของได้ ก็จะมีที่มาของแหล่งรายได้ ทำให้เราไปวิเคราะห์ต่อ แต่ยังไม่รีบซื้อหุ้นนะครับ
• เฟสที่สอง มีการเปลี่ยนแปลงภายในที่ดูแล้วมีความหวัง ... สำหรับหุ้นพลิกฟื้น ตัวเลขทางการเงินต้องลืมไปก่อน เราไม่สามารถคัดคุณภาพหุ้นดีออกจากหุ้นแย่ ด้วยการดูตัวเลขทางการเงินได้เลยครับ เนื่องจากกิจการที่กำลังแย่ ตัวเลขทางการเงินย่อมแย่ตามไปด้วย ... สิ่งที่เราพอจะดูได้ก็คือ การเปลี่ยนแปลงจริงๆ จากการบริหารจัดการภายใน เราต้องสังเกตว่ามีการลดต้นทุนหรือไม่ มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารหรือเปล่า แผนฟื้นฟูกิจการคืออะไร แล้วนำสิ่งที่ติดตามมาประเมินว่าจะลงทุนหรือไม่ลงทุน (เฟสนี้ก็ยังไม่ต้องซื้อหุ้นตามเคย)
• เฟสที่สาม เริ่มขาดทุนน้อยลง ... ในเฟสนี้กิจการอาจจะยังขาดทุนอยู่ แต่เริ่มลดน้อยลง สิ่งที่เราต้องตามก็คือ การขาดทุนนั้นลดลงชั่วคราว หรือค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ อย่างมีนัยยะ และมีแววว่าจะพลิกกลับมากำไร (เฟสนี้ยังไม่ซื้อหุ้น)
• เฟสที่สี่ เริ่มพลิกกำไรแล้ว ... เมื่อการขาดทุนลดน้อยถอยลง และเริ่มพลิกกลับมากำไร ในเฟสนี้นักลงทุนบางท่านที่เงินเย็นมากๆ จะเริ่มซื้อหุ้น แต่อย่าลืมว่า แม้บางกิจการจะมีกำไรในบรรทัดสุดท้าย แต่ยังขาดทุนสะสมอยู่ ในขั้นตอนนี้ ผู้บริหารบางท่านจะเลือกใช้ “ทริคทางการเงิน” ด้วยการล้างขาดทุนสะสมจากการย้ายข้างสมการ (ส่วนของผู้ถือหุ้น = สินทรัพย์ – หนี้สิน) แต่บางกิจการจะพลิกขาดทุนสะสมด้วยการนำกำไรที่ได้ไปล้างขาดทุนสะสม ซึ่งผมชอบอย่างหลังมากกว่า
• เฟสที่ห้า พลิกกำไรได้ถาวร ล้างขาดทุนสะสมได้หมด ... มาถึงเฟสนี้ราคาหุ้นอาจตอบรับไปแล้ว ถ้าเราวิเคราะห์ว่าการพลิกฟื้นกิจการเป็นเรื่องชั่วคราว หรือกิจการอาจดีขึ้น แต่ไม่โตต่อ ก็ควรขายทำกำไรได้แล้วครับ ยกเว้นว่ากิจการจะโตต่อแบบนี้ผมก็เลือกจะถือต่อ อย่างหุ้น bem รถไฟฟ้า กับทางด่วน ที่ผมคิดว่ามีอนาคตเติบโตอีกนาน ก็ถือต่อได้อย่างสบายใจ

แนวคิดการลงทุนหุ้นพลิกฟื้น หรือ Turn Around Stock นั้น ถ้าทำเป็นจะช่วยให้พอร์ตของเราโตเร็วขึ้นมาก อาจมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่นักลงทุนทั่วไปทำได้ ต้องอาศัยความอดทน และจิตใจที่เข้มแข็ง ที่สำคัญต้องตาแหลมพอจะมองออกว่าหุ้นมันจะพลิกฟื้นได้จริง ไม่อย่างงั้นผลลัพธ์ก็จะตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

แนะนำหนังสือ

หาหุ้นโตเร็ว สไตล์ VI - โต 10 เท่าในสิบปี

"หาหุ้นโตเร็ว สิบเท่า ในสิบปี" ... หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนในยามตลาดหุ้นผันผวน และดูเหมือนว่านักลงทุน "ส่วนใหญ่" มองไม่เห็นว่าการลงทุนหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้อย่างไร ... แต่ข้อเท็จจริงก็คือ แม้ในยามตลาดแย่ ก็มีหุ้นโตเร็วเกิดขึ้นมากมาย บางตัวโต 1 เท่าตัว 2 เท่าตัว หรือ 5-10 เท่าตัวก็มี ... ทำอย่างไรเราจะ "ค้นหา" หุ้นโตเร็ว หรือ Growth Stock เหล่านี้ได้ หนังสือเล่มนี้มีคำตอบครับ #NaiwaenInvestment

อ่านเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ How to การบริหารจัดการเงิน อสังหา "คลิ๊กอ่านที่นี่เลยครับ"

[เกี่ยวกับผู้เขียน]

"นายแว่นธรรมดา" หนึ่งในกูรูหุ้น FINOMENA และผู้ก่อตั้ง //www.topofliving.com ผู้เขียนหนังสือ "ลงทุนหุ้นโตเร็ว" และหนังสือขายดี "กลยุทธุ์จับจังหวะลงทุนหุ้น" ปัจจุบันเป็นนักลงทุนอิสระ นักเขียนอิสระ ขอถ่ายทอดความรู้ด้านการลงทุน เผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ

ติดต่อนายแว่นธรรมดาได้ที่นี่ครับ naiwaentammada@gmail.com

Create Date : 01 มิถุนายน 2560
Last Update : 1 มิถุนายน 2560 13:48:12 น.		0 comments
Counter : 1078 Pageviews.
Share Tweet