วัดของชาวพุทธ

ความเป็นชาวพุทธ จะวัดกันตรงไหน
คนไทยเราดูเหมือนจะไม่มีหลักเกณฑ์กันนัก
เข้าวัดไปหาพระหมอดู ไปถวายสังฆทาน...
ก็เข้าใจว่าได้บุญกันแล้ว

ท่านอาจารย์พุทธทาส วินิจฉัยถึง ความดับแห่ง ตัวกู
ในรูปแห่ง สีลัพพตปรามาส เอาไว้ ดังต่อไปนี้

ความหมายของคำ สีลัพพตปรามาส
ก็คือ ความเข้าใจผิด นำมาใช้ผิด
กระทำผิด ต่อสิ่งที่ถือกันว่า
เป็นเครื่องมือปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์
ซึ่งที่แท้ก็คือสิ่งที่เรียกว่า ศาสนา...หรือธรรมะ

แบ่งเป็นสองฝ่าย
เข้าใจผิด หรือปฏิบัติผิดในสิ่งที่เป็นของผิดมาแต่เดิม นี้อย่างหนึ่ง

เข้าใจผิดหรือปฏิบัติผิด ต่อสิ่งที่ถูกต้องดีอยู่แล้ว
แล้วก็ปฏิบัติไปอย่างงมงาย อีกอย่างหนึ่ง

ความเข้าใจผิดในสิ่งที่ผิด...
ส่วนมากเป็นเรื่องการกระทำปรัมปราสืบๆกันมา
แต่ยุคแรกที่สุด กระทั่งยุคหิน
คนบางพวกยึดมั่นถือมั่น
เพราะมันเข้ากันได้กับภูมิธรรมของเขา

อีกพวก ประพฤติบ้าบิ่นนอกคอกนอกรีต
ตามพวกมิจฉาทิฐิที่ฉลาดบัญญัติขึ้น
เป็นเครื่องมือตบตาคนอื่น ก็มี
หลงสำคัญผิดคิดว่าเป็นของดี

ส่วนความเข้าใจผิดในสิ่งที่ถูกต้อง...
สิ่งถูกต้องได้แก่หลักธรรมะในศาสนาต่างๆ
ระเบียบ วิธีปฏิบัติ หลักวิชาเป็นไปตามเหตุผล
เมื่อปฏิบัติตามก็สามารถดับทุกข์ได้จริง

แต่ยังจับฉวยเอามาผิดๆ
ทำให้สิ่งที่สะอาดกลายเป็นของสกปรก
ด้วยอำนาจความ งมงาย
เช่น การเข้าใจว่า พระพุทธเจ้าเป็นบุคคลศักดิ์สิทธิ์
อาจบันดาลให้เป็น อย่างนั้นอย่างนี้

ที่งมงายมาก บนบานขอให้เกิดบุตร
บางคนคิดว่าการรดน้ำมนต์ ล้างซวย หรือให้ร่ำรวย เป็นพุทธศาสนาด้วย
เมื่อเข้าโบสถ์ก็ปฏิบัติตามระเบียบวิธีต่างๆ
เผื่อไว้ให้ถูกใจพระเป็นเจ้า หรือเพื่อบุญกุศล

อาจารย์พุทธทาสชี้ว่า
เขาไม่รู้เลยสักนิดเดียวว่า
พระเจ้าหรือบุญกุศลที่แท้จริงนั้น
คือการชำระ จิตใจให้สะอาด ด้วยการกระทำที่ถูกต้อง

ทำกันที่นี่ ทำกันเดี๋ยวนี้

ในพุทธศาสนา สีลัพพตปรามาส
งอกงามในหมู่พุทธบริษัท ทั้งในทางปริยัติและในทางปฏิบัติ

ทางปริยัติ ก็ไปกวาดล้อมเอาสิ่งที่มิใช่พุทธศาสนา
เข้ามาเป็นของพุทธศาสนา
นิยมศึกษาทฤษฎ ีที่ลึกซึ้งกว้างขวาง ไม่รู้จักจบ

เช่นเรื่องตายแก้วเกิดหรือไม่
ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงห้ามไม่ให้พูดกัน
ให้เสียเวลามาถกกัน เพื่อแสดงความเป็นปราชญ์
ยิ่งกว่าจะศึกษาเรื่องดับทุกข์

ส่วนที่เกี่ยวกับพระไตรปิฎก
ยึดมั่นถือมั่นกันทุกตัวอักษร
บูชาอย่างวัตถุศักดิ์สิทธิ์
บางคนคิดว่า ซื้อหรือสร้างพระไตรปิฎกแล้ว ก็พ้นทุกข์ได้

ที่หนักกว่านั้น คือเอาพระไตรปิฎกบางเล่ม
มาเป็นเครื่องมือเสี่ยงทาย เสียบไม้เข้าไป
แล้วเปิดดูว่าหน้าหนังสือนั้นเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย

เรื่องพระพุทธรูป อาจารย์พุทธทาส อธิบายว่า
ถ้าเชื่อ ก้อนหินก็เป็นพระพุทธรูปได้
แต่พระพุทธรูปชนิดนี้ ยังเป็นของภายนอกเกินไป

พระพุทธเจ้าที่แท้จริง อยู่ที่ใจที่หมดสงสัยลังเลต่อชีวิตแล้ว
พระพุทธรูปภายนอกพาให้ลังเล
แต่ถ้าพบพระในใจแล้ว พระจะคุ้มครองในทุกแห่งหน

ผู้หลักผู้ใหญ่ของเรามากมาย ที่ชอบเข้าวัด
บางคนตั้งใจไปให้ครบ 99 วัด บางคนไปไหว้ราหูในวัด
ฟังตามคำท่านพุทธทาส
ยิ่งเข้าวัดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไกลวัดมากขึ้นเท่านั้น.

............................................................................
บทความโดย กิเลน ประลองเชิง
คอลัมม์ ชักธงรบ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 12 พ.ค. 51

Create Date : 12 พฤษภาคม 2551		0 comments
Last Update : 12 พฤษภาคม 2551 21:26:29 น.
Counter : 1007 Pageviews.
Share Tweet