Bloggang.com : Naaaa : เทวมันตร์ทรา เหมือนอยู่ในความฝัน เคลิบเคลิ้มริมน้ำแคว

เทวมันตร์ทรา เหมือนอยู่ในความฝัน เคลิบเคลิ้มริมน้ำแคว

ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปสัมผัสจังหวัดกาญจนบุรีมากจนไม่สามารถที่จะนับเป็นจำนวนครั้งได้ แต่การไปในแต่ละครั้งนั้นผมไม่เคยได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่า โรงแรมหรือรีสอร์ทเลยสักครั้ง ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ผมจะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของรีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติริมน้ำแคว

โรงแรมเทวมันตร์ทรา รีสอร์ท แอนด์สปา เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่อยู่ติดริมแม่น้ำแคว อยู่ไม่ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแควมากนัก หลังจากที่เข้ามาถึงภายในโรงแรม ก็จะพบกับตัวอาคารที่ถูกออกแบบอย่างประณีต รู้สึกเหมือนต้องมนต์เสน่ห์ตั้งแต่แรกเห็น ไม่เพียงแต่เฉพาะตัวอาคารด้านนอก เมื่อได้เข้าไปภายในอาคารก็ได้พบกับความหรูหราเหมือนอยู่ในพระราชวังเลยทีเดียว

เข้ามาถึงก็จะเจอกับอาคารต้อนรับอยู่ด้านหน้า

ด้านหน้าอาคารมีสระดอกบัวขนาดใหญ่

อาคารโรงแรมถูกออกแบบอย่างประณีต รู้สึกเหมือนต้องมนต์เสน่ห์ตั้งแต่แรกเห็น

ขอเข้าไปเช็คอินก่อนครับ

ไม่เพียงแต่เฉพาะตัวอาคารด้านนอก เมื่อได้เข้าไปภายในอาคารก็ได้พบกับความหรูหรางดงาม

เก้าอี้นั่งชมวิวด้านนอก

มองลงไปก็จะเห็นสระว่ายน้ำ

ด้านซ้ายคือส่วนอาหารที่เป็นห้องพัก

ทางเดินไปห้องพัก

เดินไปดูห้องพักด้วยกันครับ

ห้องที่ผมเลือกไว้เป็นแบบซูพีเรียซึ่งเป็นแบบที่เล็กที่สุดของทางโรงแรม แต่เมื่อได้เปิดประตูห้องเข้าไปก็ต้องประหลาดใจกับขนาดของห้องพักที่กว้างขวาง

มุมนั่งเล่นกับทีวี LCD

เพดานห้องสูงโปร่งนอนแล้วไม่อึดอัด

เตียงนอนทั้งใหญ่และนุ่ม นอนหลับสบาย เตียงอาจจะดูแปลกๆ ไปหน่อยนะครับ เพราะจริงๆ แล้ว ห้องนี้เป็นแบบเตียงคู่ แต่ผมมีเด็กไปด้วยก็เลยให้ทางโรงแรมดันเตียงติดกันให้

โคมไฟหัวเตียง

ข้างทีวีก็จะมีโต๊ะกระจกไว้แต่งตัว

แต่งตัว ทำงาน ทำอะไรก็ได้ แต่สำหรับผมไว้ใช้วางของครับ

มีน้ำร้อนกับกาแฟให้ แต่ครั้งนี้ไม่ได้ลองเลย

ที่ผมชอบอีกอย่างก็คือตรงระเบียงนั่งเล่นด้านนอกมีพัดลมให้ด้วย ทำให้เวลากลางคืนสามารถนั่งเล่นได้โดยที่ไม่ต้องกลัวยุงกัด

ห้องน้ำกว้างสามารถนอนได้เลย

โถส้วมพร้อมสายชำระ

ใครไม่ชอบแช่อ่างก็มีห้องอาบน้ำให้

หรือจะนอนแช่อ่างก็สบายเหมือนกัน

ต้นไผ่เหี่ยวไปหน่อย

มาเดินชมด้านนอกกันบ้างครับ โรงแรมอยู่ติดกับแม่น้ำแคว

สามารถนอนพักผ่อนชมวิวแม่น้ำได้อย่างเพลิดเพลิน

ห้องฟิตเนสสำหรับคนอยากได้เหงื่อ

และก็เป็นเช่นทุกครั้งที่ได้มานอนโรงแรม คุณลูกสาวไม่มีรีรอรีบไปสำรวจสระว่ายน้ำทันที

คุณลูกสาวกับสระว่ายน้ำ

ทางเข้าล๊อบบี้ตอนกลางคืน

แสงไฟช่วยทำให้ดูงดงามกว่าเมื่อตอนกลางวัน

สปาน่าเข้าไปใช้บริการมากครับ

ยามค่ำคืนที่นั่งบริเวณล๊อบบี้เงียบเหงาดีจริงๆ

เก้าอี้นั่งว่างมากมายให้เลือกนั่งได้ตามใจชอบ

โซฟาน่านั่งกับหมอนสีแดงสดใส

ให้ความรู้สึกที่โล่งสบาย ด้วยเพดานสูงเปิดโล่ง

เช้านี้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับบรรยากาศที่สดชื่น ก่อนที่จะไปทานอาหารเช้าต้องขอไปชื่นชมบรรยากาศริมน้ำแควยามเช้าซะก่อน

บรรยากาศริมน้ำแควยามเช้าดูสงบเงียบ

อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์จัดที่ห้องอาหารชั้น 2 ของตัวอาคาร

จะเลือกนั่งด้านนอกก็ได้

แต่ผมขอนั่งด้านในดีกว่า

อาหารเช้ามีให้เลือกไม่มากนัก

มุมสลัด

เมนูไข่ต่างๆ จะอยู่ด้านนอกอยากได้ไข่อะไรก็สั่งได้เลย

ไข่ดาวน่ากินจัง

ชุดนี้ของคุณลูกสาว

จานนี้ของผมเอง

เนื้อลายๆ ทราบมาจากพนักงานว่าเป็นเนื้อม้าเลยขอลองสักหน่อย พอลองไปได้คำนึงก็คิดได้ทันทีครับ "ไม่น่าลองของเลย"

คุณลูกสาวเพิ่งตื่นนอนเลยดูไม่สดชื่นเท่าไหร่

อันนี้จะเรียกว่าอะไรดี เอาเป็น แพนเค้กคลุกเนยน้ำผึ่ง ล่ะกัน

ปิดท้ายด้วยคอนเฟลค ก็ผิดหวังเล็กน้อยสำหรับอาหารเช้าเพราะมีเมนูอาหารให้เลือกไม่มากนัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผมเท่าไหร่

เสร็จจากอาหารเช้าก็มาเดินชมโรงแรมต่อ อาคารห้องพักหรูๆ ตัดกับท้องฟ้างามๆ ดูแล้วสบายตายิ่งนัก

อาคารห้องพักอีกรูป

เตียงนอนชมวิวริมแม่น้ำแคว

ทางโรงแรมมีแพอาหารไว้ให้บริการ แต่วันที่ไปบังเอิญโดนเหมาแพ ผมก็เลยอดลองเลย

สระว่ายน้ำของที่นี่มีขนาดใหญ่ว่ายน้ำสนุกมาก

พื้นที่ที่เป็นสระเด็กกว้างเกือบครึ่งสระ ไม่แปลกใจเลยที่ในช่วงเย็นๆ จะเห็นเด็กๆ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน

ปล่อยให้คุณลูกสาวไปสนุกกับสระว่ายน้ำเหมือนเคย

ส่วนผมก็ต้องขอใช้เวลาอีกไม่มากซึมซับบรรยากาศสบายๆ ของการพักผ่อนให้เต็มที่

ในสระว่ายน้ำมี Pool Bar ด้วย แต่ไม่เห็นเปิดให้บริการ

คุณลูกสาวชอบสระว่ายน้ำที่นี่มากเพราะมันใหญ่และมีที่ให้เล่นเยอะ

เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน แถบไม่อยากกลับบ้านเลย

ต้องปล่อยให้เล่นจนพอใจครับ ไม่งั้นไม่ยอมเลิก ช่วงบ่ายก็เตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ ครับ

ช่วงบ่ายออกจากโรงแรมผมขอไปแวะชมความยิ่งใหญ่ของ โรงถ่ายภาพยนต์ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ก่อนที่จะกลับเข้ากรุงเทพฯ มาเมืองกาญฯ ก็หลายครั้งแต่ไม่เคยได้มาเที่ยวที่นี่เลย จนหนังเค้าฉายจะจบอยู่แล้ว พอเดินข้ามสะพานนี้ไปเราก็จะเข้าไปอยู่ในเมืองหงสาแล้ว

คูน้ำกำแพงเมืองหงสา

อันนี้เค้าเรียกว่าเกวียนใช่รึป่าว แบบว่าเรียกไม่ถูกไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่

คืออะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าโดนไฟไหม้

แพะน้อยน่ารัก

พอเดินเข้ามาในประตูเมืองหงสาก็จะเจอสิงห์คู่คอยต้อนรับอยู่

อาคารแสดงนิทรรศการ

สิงห์เดี่ยวๆ บ้าง

มาจนถึงสีหสาสนบัลลังค์

หันกลับมามองด้านหลังสิงห์บ้าง

เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับเจ้าช้างตัวนี้ ดูน่าเกรงขามมาก มาถึงตรงนี้ขอบอกว่าเดินไม่ไหวแล้วครับ อากาศร้อนมาก ต้องขอหยุดเดินและอาศัยรถรางกลับออกมา

ปิดท้ายกันด้วยโรงชำเราชายครับ วันหยุด 2 วัน ผ่านไปเร็วเหมือนดั่งความฝัน อาจจะเพราะความเคลิบเคลิ้มริมน้ำแคว และมนต์เสน่ห์ของเทวมันตร์ทราก็เป็นได้ ที่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขเหมือนอยู่ในความฝัน