Plan วันที่ 4 เที่ยว Takayama

วันที่ 4 ของเราจะต้องไปเมือง Takayama จังหวัด Gifu ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปจาก Kyoto ---> ทำไมต้อง Takayama ก็เพราะในวันที่ 14 - 15 เม.ย. ของทุกปี จะมีงาน Spring Festival

พวกเราเดินทางจาก Kyoto มา Takyama ด้วยรถบัส ซึ่งจองตั๋วไว้ล่วงหน้าผ่าน J-Hoppers ราคาคนละ 3100 Y ถูกกว่า Nohi bus นิดหน่อย

จุดที่จะขึ้นรถบัส อยู่นอกเมืองไปหน่อย บริเวณก่อนขึ้น Meishin highway   โดยตอนแรกวางแผนจะใช้ Subway มาลงสถานีรถไฟใกล้ๆ จุดรอรถบัส

แต่จากขนาดกระเป๋า และระยะทางที่ต้องลากมา คิดว่าน่าจะไม่รอดแน่นอน ตัดสินใจเปลี่ยนเป็นใช้บริการรถแท็กซี่ดีกว่า โดยให้ที่ guesthoust เรียกรถให้

เจ้าหน้าที่ของ questhouse ช่วยติดต่อแจ้งจุดหมายให้ลุงๆ แท็กซี่ไปส่ง  ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่จุดใดแน่นอน ระหว่างนั่งแท็กซี่ก็ลุ้นไปด้วย 

ในที่สุดก็มาถึงจนได้ โดยให้คุณลุงแท็กซี่โทรคุยกับเจ้าหน้าที่ของ J-hoppers  เลย  มาถึงก็มีแค่เรา 4 คนเท่านั้นที่มารอรถบัส ณ จุดนี้

ณ จุด จุดนี้ ก็มีเรื่องหน้าแตกเกิดขึ้นจนได้ เนื่องจากพวกเรามารอรถก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งรถจะมาประมาณ 8:40 ทีนี้เรากะเพื่อนอีกคนก็เกิดปวดฉี่ขึ้นมา

เลยไปขอเข้าห้องน้ำที่สถานีรถไฟซึ่งอยู่ใกล้ๆ คือ Takeda Station ซึ่งเป็นสถานีที่เก่าๆ นิดนึง ห้องน้ำเป็นแบบนั่งยองอย่างเดียว มีด้วยกัน 3 ห้อง

เรากับเพื่อนเข้ากันคนละห้องซึ่งติดกัน กำลังจะออกจากห้องน้ำ ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยดัง คิดในใจว่าขออย่าให้ใช่เลย...แล้วก็ใช่จริงๆ

เพื่อนค่ะ กดปุ่มฉุกเฉินในห้องน้ำ เราคิดถึงเดี่ยว 10 ขึ้นมาทันที ออกมาจากห้องน้ำเจอเพื่อนยืนงงอยู่ ทำอะไรไม่ถูก มีเจ้าหน้าที่สถานีวิ่งหน้าตาตื่นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

เราสองคนได้แต่ก้มหัวขอโทษเป็นการใหญ่  ดูเค้าจริงจังกันมากทำให้เรารู้สึกผิดสุดๆ   จากนั้นก็วิ่งกลับมาที่จุดรอรถบัส เล่าให้คนอื่นๆ ฟัง ขำกันจนน้ำตาไหล 

รถบัสมาตรงตามเวลาเปะ มีผู้โดยสารทั้งหมดประมาณไม่เกิน 10 คน ที่นั่งจึงว่างมาก  รถจะใช้เวลาเดินทางจาก Kyoto ไป Takayama ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า

รถบัสจะจอดตามจุดพักรถ เพื่อให้เราได้เข้าห้องน้ำ ซื้ออาหารบ้าง ขนมบ้าง ทุกๆ ชั่วโมง

พวกเรามาถึง Takayama ตอนเที่ยงกว่าๆ  มาทันดูขบวนแห่ช่วงบ่ายๆ พอดี หลังจากมาถึงก็เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อน ซึ่งก็จองไว้แล้ว

คืนนี้เรานอนที่ Country  Hotel  เป็นโรงแรมที่อยู่ด้านหน้าสถานี Takayama  ถือว่าทำเลดีมาก และราคาก็ไม่แพง ถ้าเทียบกับที่อื่นในช่วงเทศกาล

ฝากกระเป๋าเสร็จก็เหมือนเดิม เติมพลังก่อน มื้อนี้ กินตามรีวิวกับ Tomato Ramen  ราคาแรงพอสมควร

อิ่มกันแล้วก็ไปเดินชิวชมเมืองกันดีกว่า   Takayama ได้ชื่อว่า Little Kyoto เพราะยังมีบ้านเรือนแบบโบราณ ที่ยังใช้งานได้จริงให้นักท่องเที่ยวได้เดินชม

โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล จะมีนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ  เค้าก็จะประดับตกแต่งเมืองไว้อย่างสวยงาม  ร้านค้าต่างๆ ก็เปิดให้บริการเต็มที่

มีทั้งโรงเหล้าสาเก  ร้านขายขนม ขายเนื้อย่าง ขายผักดอง โดยเฉพาะร้านขายดังโหงะมีมากเป็นพิเศษ ขายกันในบ้านแบบโบราณ คลาสสิคสุดๆ

จุดประสงค์หลักที่เลือกมาเมืองนี้ ก็เพราะงาน festival นั่นเอง เพราะตรงกับช่วงสงกานต์บ้านเราพอดี

Takayama Spring Festival คืองานเทศกาลเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ จะมีขบวนพาเหรด ซึ่งประกอบไปด้วยรถลากทีมีศาลเจ้าอยู่ด้านบน

และมีชาวเมืองแต่งชุดโบราณ พร้อมกับลากรถแห่ไปรอบๆ เมือง ในรถลากของแต่ละศาลเจ้าก็จะมีการแสดงหุ่นกระบอก บางศาลเจ้าก็จะมีเด็กๆ อยู่ด้านบน

การเดินขบวนพาเหรดจะมีในช่วงกลางวันและกลางคืน ซึ่งกลางวันจะมีทั้งวันที่ 14 และ 15 ส่วนกลางคืนจะมีเฉพาะคืนวันที่ 14 เท่านั้น

ขบวนแห่จะเดินข้ามสะพาน ซึ่งที่นี่จะมีสะพานข้ามแม่น้ำอยู่หลายสะพาน แต่ที่เราเดินเที่ยวหลักๆ มีอยู่ 3 สะพาน คือสะพานขาว สะพานเขียว และสะพานแดง

จริงๆ ทั้งถนนและสะพานก็จะมีชื่อนะ แต่ว่าจำยาก จำเป็นสีง่ายกว่ากันเยอะเลย

ที่สะพานแดงจะเป็นจุดไฮไลท์ เพราะเป็น view point ของงานเทศกาล โดยปกติงานเทศกาลจะตรงกับช่วงซากุระบานพอดี แต่ปีนี้ซากุระบานช้า วันนี้แค่เห็นแต่ดอกตูม

อันนี้ยืมรูปจากเวปมา เสียดายไม่เจอตอนซากุระบลูมสุดๆ

มาดูขบวนตอนกลางวันกันดีกว่า วันนี้ท้องฟ้าสดใจ แดดดีมากๆ ถ่ายรูปแจ่มสุดๆ

นอกจากขบวนพาเหรดแล้ว ยังมีซุ้มขายของเหมือนงานวัดอีกด้วย  ณ จุดนี้ฟินสุดๆ อยากเที่ยวงานวัดแบบญี่ปุ่นมานานแล้ว

เดินเที่ยวกันจนเมื่อยขาพอสมควร ก็ตัดสินใจกลับโรงแรมเพื่อไป Check in เก็บกระเป๋า เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวมาดูขบวนแห่ตอนกลางคืน ซึ่งก็จะเริ่มประมาณ 1 ทุ่ม

รถลากที่แห่ตอนกลางคืนก็เป็นชุดเดียวกับตอนกลางวัน แต่จะมีการประดับโคมไฟเพิ่ม ซึ่งเมื่อเปิดไฟแล้วจะสวยมากๆเลย

แต่กลางคืนถ่ายรูปยากมาก แสงน้อยกล้องก็ไม่เอื้ออำนวย รูปจึงไม่สวยเท่ากับสิ่งที่ตาเห็น ชอบบรรยากาศขบวนแห่ตอนกลางคืนมากกว่ากลางวัน

ได้อารมณ์แบบญี่ปุ่นมากเลย บนรถแห่จะมีเด็กๆที่อยู่ข้างบนส่งเสียง และโบกมือทักทายตลอดเส้นทาง พ่อแม่ผู้ปกครองด้านล่างก็จะคอยให้กำลังใจ

ในขบวนแห่ เราจะเห็นความร่วมมือร่วมใจของชาวเมืองมากๆ  แต่ละขบวนต้องมีคนถือเชือกลาก ในรถก็ต้องมีคนคอยบังคับทิศทาง ยิ่งตอนเลี้ยวนี่ยากเลย

ตอนกลางคืนอากาศเย็นมาก อุณหภูมิประมาณ 5-6 องศา ที่สำคัญยังไม่ได้กินข้าวเย็นกันเลย เวลาก็ล่วงเลยมาจน 2 ทุ่มกว่าแล้ว ร้านอาหารก็ทยอยปิดกันไปบ้างแล้ว

ตั้งใจมาลองเนื้อ Hida ตามคำร่ำลือถึงความอร่อย นุ่มลิ้น ละลายในปาก มาเจอร้านที่ยังเปิดอยู่พอดี แต่ก็ต้องรอคิวพอสมควร ข้างนอกก็หนาวเลยไปรอคิวกันในร้าน

กลิ่นอาหารยั่วยวน ท้องก็ส่งเสียงร้องเป็นระยะๆ ในที่สุดก็ได้โต๊ะ  สั่งข้าวหน้าเนี้อ เนื้อย่าง ราเมง ข้าวผัดกระเทียม  เป็นการกินเนื้อครั้งแรกในรอบหลายปี รู้สึกแปลกๆ

รสชาดอาหารก็ถือว่าผ่าน  แต่จำชื่อร้านไม่ได้  พนักงานเอนเตอ์เทรนมาก ร้านนี้

หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็ต้องเดินฝ่าอากาศหนาวเย็นกลับโรงแรม รู้สึกว่ามันช่างไกลจริงๆ เลย

จบวันแรกที่ Takayama  พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวหมู่บ้านมรดกโลก Shirakawago กัน

Plan วันที่ 5 เที่ยว Shirakawago

สำหรับวันที่ห้าของทริป เราจะไปเที่ยว Morning Market กันแต่เช้า ซึ่งจะเราเลือกตลาดที่อยู่ใกล้ๆสะพานแดง น่าจะชื่อ Jinjamae Asaichi

เป็นแผงขายของเล็กๆ เรียงรายกันอยู่หน้าศาลเจ้า มีทั้งขายผลไม้สด ผักสด ผักดอง รวมถึงของที่ระลึกด้วย   แอปเปิ้ลถูกและหวานอร่อยมาก

shopping กันพอหอมปากหอมคอ ก็ต้องรีบกลับ เพื่อจะไปขึ้นรถบัสไปเที่ยว Shirakawago  ระหว่างเดินไปสถานี Takayama เจอร้านขายเบนโตะใกล้ๆกับ K's House

Recommend เลยร้านนี้อร่อยมาก และมีข้าวให้เลือกหลากหลาย พวกเราก็จัดข้าวปั้นห่อสาหร่ายกันคนละก้อน เป็นเสบียงสำหรับเช้านี้

เราจองทัวร์รถบัสไป-กลับไว้ ค่าเสียหายคนละ 4000Y ใช้บริการ J-Hoppers เช่นเคย  โดยจะมีรถบัสมารอรับที่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟ

วันนี้บนบัสเป็นคนไทยประมาณ 80% ฮ่า  Takayama เป็นเมือง hot hit สำหรับชาวไทยจริงๆ ที่โรงแรมก็เจอคนไทยหลายgroup เหมือนกัน

ไกด์ประจำบัสมีชื่อว่า Yamamoto เป็นชายหนุ่มรูปร่างอวบ หน้าตาญี่ปุ่นมากกก เอนเตอร์เทรนสุดสุดพูดเก่งมาก  มี Saru Bobo ตัวใหญ่มาให้ถ่ายรูปด้วย

Saru Bobo แปลว่าลูกลิง คือตุ๊กตาไม่มีหน้า เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด Gifu และเป็นตุ๊กตาประจำศาลเจ้า ที่ Takayama มีทำเป็นของที่ระลึกขายด้วย

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะมาถึง Shirakawago รถบัสจะพาเราขึ้นไปจุดชมวิวก่อน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นมาเอง จากจุดนี้เราจะเห็นวิวทั้งหมู่บ้าน

บ้านใน Shirakawago จะเป็นแบบโบราณเรียกว่า กัสโซ่เฮาส์ คือมีหลังคาทรงสามเหลี่ยมยกสูง มุงด้วยหญ้าหนาๆ เพื่อกันหิมะและให้ความอบอุ่นในหน้าหนาว

ปกติหน้าหนาวที่นี่หิมิจะปกคลุมเต็มไปหมด ส่วนในเดือนเมษายนหิมิจะละลายไปหมดแล้ว สงสัยต้องมากซ้ำตอนหน้าหนาวแล้วเรา

รถบัสจะพาเราขึ้นไปชมจุดชมวิวก่อนเลย  ณ จุดนี้เดินขึ้นมาเองคงไม่ไหว

ลงจากจุดชมวิว ก็มาเดินเที่ยวในตัวหมู่บ้านกัน ให้เราเดินเที่ยวเองโดยอิสระ และแนะนำว่าบ้านหลังไหนน่าสนใจ ซึ่งการเข้าชมในบ้านจะต้องเสียค่าธรรมเนียมด้วย

ด้วยความงก พวกเราเลือกเข้าชม 1 หลังถ้วนคือ KANDA House ในบ้านเค้าก็จะกันโซนที่เปิดสำหรับนักท่องเที่ยวไว้ มีการจัดแสดงข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆ

แดดดี ฟ้าสวย อากาศเป็นใจมาก เดินเล่นถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ  เป็นหมู่บ้านโบรานที่มีคนอาศัยอยู่จริงแต่ก็จะมีส่วนที่เปิดรองรับนักท่องเที่ยวดัวย

เดินถ่ายรูปกันเพลิดเพลินจนหมดเวลา  เพราะเป็นทัวร์ครึ่งวัน ต้องกลับ Takayama แล้ว 

กลับถึง Takayama เราก็ Check out ออกจากโรงแรม ลากกระเป๋าไปนอนที่ K's house  เนื่องจากราคาถูกกว่า และวางแผนฝากกระเป๋าไว้ที่นี่ด้วย 2 คืน(ค่าฝากคืนละ 100 y : ใบ)

รีวิวที่พักนิดหน่อย K's house Takayama อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ แต่ไม่ใกล้เท่ากับโรงแรมที่พักเมื่อคืน ที่นี่มีห้องพักทั้งแบบห้องรวม ห้องน้ำแยก(เป็นห้องน้ำร่วม)

กับห้องที่มีห้องน้ำในตัว เราเลือกนี้ เป็นห้อง Semi Double ห้องเล็กมากวางกระเป๋า 2ใบ ไม่มีที่เดินแล้ว แต่อีกห้องเป็นแบบ Double กว้างกว่ามากเหมือนกัน

ข้อดีของ K's house คือ ห้องที่เป็นส่วนกลางดีมาก ทั้งห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว อุปกรณ์พร้อม  ค่าห้องพักก็ราคาไม่แพง พนักงานน่ารัก พูดภาษาอังกฤษเก่ง

เราเปลี่ยนแผนกันนิดหน่อยจากที่จะเที่ยวงานเทศกาลต่อในตอนบ่าย แล้วตอนเย็นไปออนเซ็นที่โรงแรม Takayama Associa ที่อยู่นอกเมือง แต่สมาชิกยังไม่พร้อมออนเซ็น

เปลี่ยนไปเที่ยวหมู่บ้าน Hida-Furukawa ที่อยู่ใกล้ๆ ตอนแรกวางแผนเที่ยวพรุ่งนี้เช้ากัน  นั่งรถไฟ local (240y) จาก Takayama ไปประมาณ 3-4 สถานี

Hida-Furukawa หรือหมู่บ้านเล็กๆ มีคลองปลาคาร์ฟอยู่โดยรอบ  ออกจากสถานีรถไฟมา รู้สึกงงๆ มันเงียบมาก ไม่เจอผู้คนเลย สงสัยเค้าไปอยู่ที่งานเทศกาลกันหมด

พวกเราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ ที่นี่จะจุดที่น่าสนใจคือ คลองปลาคาร์ฟ วัดญี่ปุ่นประมาณ 2-3 วัด สะพานข้ามแม่น้ำ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน  และมีวิวริมแม่น้ำแจ่มจริงๆ

เดินกันแป๊บเดียวก็แทบจะทั่วแล้ว แวะหม่ำเสบียงที่พกมาด้วย ตรงริมแม่น้ำข้างๆสะพานแดง บรรยากาศชิวมาก เสียดายซากุระยังไม่บานเลย

ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ เราก็ตัดสินใจนั่งรถไฟกลับ Takayama กัน ตอนกลับเป็นขบวนแบบ LTD-EXP ค่ารถไฟแพงกว่า local ( 560 y) แต่นั่งสบายกว่าเยอะ

กลับมาถึง Takayama ตอนเย็นเงียบมาก ต่างจากเมื่อช่วงบ่ายเยอะเลย คงเป็นเพราะงานเทศกาลจบลงแล้ว 

พวกเราก็เดินหาร้านอาหารสำหรับมื้อเย็นกัน จากที่ส่องหลายๆ ร้านเมื่อวานนี้ ก็เล็งร้านเนี้อย่างไว้ร้านนึง ซึ่งก็มีหมูย่างด้วย เพราะมื้อนี้เราจะไม่กินเนื้อกัน 

จำรายละเอียดใดๆไม่ได้นอกจากรสชาดหมูย่าง ไม่รู้ว่าอร่อยหรือหิว ทุกอย่างหมดไปอย่างรวดเร็ว  ปิดทริปสำหรับวันนี้ด้วยภาพหมูย่าง ชวนหิว....

จบตอนเที่ยว Takayama แล้ว ตอนหน้าจะไป Japan Alpine Route ตลุยกำแพงหิมะกัน

Create Date : 03 พฤษภาคม 2557
Last Update : 19 พฤษภาคม 2557 13:13:19 น.		0 comments
Counter : 1558 Pageviews.
Share Tweet