Info ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรี่ส์

ชื่อ : Criminal Minds

ค่าย : CBS

เรตติ้ง : 8.2/10 (IMDb.com), 8.8/10 (TV.com)

เวลาฉาย : ปี 2005 –ปัจจุบัน (รวมทั้งหมด 10 ซีซั่น)

เว็บไซต์ : www.cbs.com/shows/criminal_minds

แฟนเพจ : www.facebook.com/CriminalMinds

ซีรี่ส์แนวสืบสวน สอบสวน กึ่งดราม่า กึ่งจิตวิทยา ว่าด้วยเรื่องของ BehavioralAnalysis Unit (BAU) ทีมงานภายใต้สังกัด FederalBureau of Investigation (FBI) ทำหน้าที่เป็นทีมให้คำปรึกษาวิเคราะห์ความคิดและพฤติกรรมของอาชญากร

ต้องเล่าย้อนความกันสักนิด สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยเกี่ยวกับการทำงานของ FBI ที่เราเห็นกันนั้นเจ้าหน้าที่ FBI จะโผล่ไปในคดีต่างๆทั่วประเทศเพราะ FBI เป็นสำนักงานสอบสวนกลาง เมื่อมีคดีเกิดขึ้นซึ่งอาจเป็นคดีแบบที่เกิดข้ามเมืองข้ามรัฐ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างในระดับประเทศ ขอบเขตอำนาจของ FBI นั้นเปลี่ยนไปตามบริบทและยุคสมัย ปัจจุบันเน้นอาชญากรรมระหว่างประเทศ การก่อการร้าย คดียาเสพติด และการฟอกเงิน ดังนั้น BAU จึงนับได้ว่ามีอำนาจเทียบเท่าFBI นั่นเอง (หลายๆคนบอกว่างานเผือกนั้นขอให้บอก FBI ไปทุกงานโธ่ๆๆๆๆๆๆๆ)

แต่ไหนแต่ไรซีรี่ส์สืบสวนสอบสวน เน้นนำเสนอการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาได้มีการปรับมุมมองนำเสนอให้หลากหลายมากขึ้น เช่น

• ซีรี่ส์ชุด CSI (CSI: Crime Scene Investigation, CSI: Miami, CSI: NY) ที่เล่าเรื่องผ่านทีมนิติวิทยา ค้นหาความจริงผ่านหลักฐานทางนิติเวช (เริ่มฉายตอนแรกในปี 2000)

• ซีรี่ส์ชุด NCSI (NCIS, NCIS: Los Angeles, NCIS: New Orleans) ที่เป็นหน่วยสืบสวนนาวิกโยธิน (เริ่มฉายตอนแรกในปี 2003)

ในปี 2005 ทีมวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรรมอย่าง BAU ก็ได้ออกมาโลดแล่นสู่สายตาประชาชน และได้รับความนิยมแทบจะทันที เพราะนี่เป็นซีรี่ส์ที่เล่าในมุมกลับว่าด้วยเรื่องของการศึกษา คิด วิเคราะห์ไปที่ตัวอาชญากรมากกว่ามุมของผู้พิทักษ์สันติราษฎ์

== = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = == = = =

Original Cast (ทีมนักแสดงชุดแรก)

• Aaron Hotchner (Thomas Gibson) หัวหน้าทีม BAU ที่พูดน้อย ไม่ค่อยยิ้ม ฮอตช์เนอร์เคยเป็ยอัยการ ก่อนจะหันเหอาชีพมาเป็นเจ้าหน้าที่ FBI

• Jason Gideon (Mandy Patinkin) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง BAU เขาพักงานไปนานหลังเหตุการณ์ระเบิด ซึ่งมีผลทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสียชีวิตไปหลายคน ก่อนจะกลับมารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาพิเศษให้ BAU อีกครั้ง

• Derek Morgan (Shemar Moore) นักเรียนทุนและนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ที่ได้รับบาดเจ็บขณะลงแแข่ง และเบนเข็มชีวิตมาเป็นเจ้าหน้าที่ Bomb Squad ของตำรวจชิคาโก้ ก่อนจะเปลี่ยนงานมาร่วมทีม BAU

• Dr.Spencer Reid (Matthew Gray Gubler) เจ้าหน้าที่ที่เนิร์ดที่สุด  อายุน้อยที่สุด และมีใบปริญญาเยอะที่สุดในทีม BAU เขามีความสามารถพิเศษคือความจำแบบภาพถ่าย

• Elle Greenaway (Lola Glaudini) เจ้าหน้าที่ FBI ที่ต้องการร่วมทีม BAU กรีนอะเวย์ค่อนข้างจะเทิดทูนกีเดี้ยนอยู่นิดๆ พยายามแสดงให้เห็นว่าเธอมีความสามารถพอ

• Jennifer Jareau aka JJ (A.J. Cook) เจ้าหน้าที่สาวสวยผู้ทำหน้าที่ประสานงาน ระหว่าง BAU กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและสื่อมวลชนในคดีต่างๆ

• Penelope Garcia (Kirsten Vangsness) แฮกเกอร์สุดเปรี้ยวปรี๊ดที่ถูกทางการหมายหัวหลายคดี แต่ด้วยฝีมือขั้นเทพ สุดท้ายก็ถูกคัดเลือกให้เข้ามาร่วมงานใน BAU

== = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = == = = =

วิเคราะห์การทำงานของหน่วย BAU

การทำงานของ BAU จะเริ่มจาก เมื่อเกิดคดีขึ้นหากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น (ตำรวจรัฐ ตำรวจเมือง นายอำเภอหรือใครก็แล้วแต่) เห็นว่าต้องการความช่วยเหลือ จะส่งเรื่องเข้ามายัง BAU เพราะ BAU ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายหรือยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในคดีใดตามใจชอบ ต้องให้เจ้าของคดีซึ่งก็คือตำรวจท้องที่ยื่นเรื่องมาก่อน จากนั้น Liaison หรือผู้ประสานงานจะเป็นคนนำข้อมูลของคดีมาช่วยกันพิจารณาว่าจะให้ความช่วยเหลือได้หรือไม่ ถ้าได้ก็จะเริ่มดำเนินการทันที

(จากภาพบน คือหนึ่งในฉากขณะที่ทีม BAU กำลังช่วยกันวิเคราะห์ว่าคดีนี้ ควรให้ความช่วยเหลือหรือไม่ อย่างไร)

เมื่อตัดสินใจว่าจะช่วยคดีแล้ว ทีมต้องออกเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที (อย่าลืมว่าสหรัฐอเมริกานั้นแสนจะกว้างใหญ่บางรัฐแค่เดินทางข้ามรัฐด้วยรถยนตร์ก็กินเวลาข้ามวันข้ามคืน) การเดินทางไปถึงที่เร็วที่สุดสะดวกที่สุดก็คือการนั่งเครื่องบินเจ็ท ใช่! ทีมนี้เดินทางโดยเครื่องบินเจ็ท! เก๋มั้ยล่ะคุณ ทุกคนในทีมจะต้องมี Go Bag หรือกระเป๋าที่มีของจำเป็นทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้เสมอ โดนเรียกตัวเมื่อไหร่ก็หอบกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ทันที

(จากภาพบน คือฉากการสรุปข้อมูลของคดี ขณะเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ท)

BAU ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ ที่มีพื้นเพความรู้ และการทำงานที่หลากหลาย ซึ่งเอิ้อให้การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยครอบคลุมและชัดเจนที่สุดเ่ทาที่จะเป็นไปได้ ถ้าเปรียบไปแล้วก็คือ ตำรวจจะมองหาความเป็นไปได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนทีมนิติเวชจะมองหาความเป็นไปได้จากหลักฐาน ส่วน BAU จะมองหาความเป็นไปได้จากความคิด ที่ส่งผลถึงการกระทำนั้นๆ

ความน่าสนใจจุดต่อมา จึงอยู่ที่การทำงานร่วมกันเป็นทีมระหว่างสมาชิกของ BAU เอง และการร่วมมือกับตำรวจท้องที่การระบุ Profile หรือลักษณะของผู้ต้องสงสัยไม่ใช่แค่ลักษณะทางกายภาพ (ความสูงสีผิว สีผม สีตา) แต่ต้องระบุให้ได้ถึงว่า คนเหล่านั้นน่าจะประกอบอาชีพอะไร พื้นเพครอบครัวสังคมเป็นแบบไหน ใช้ยานพาหนะอะไร แต่งตัวยังไง โสด  แต่งงาน หย่าร้าง มีลูกหรือเปล่า ไปจนถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ เช่น  อาจเป็นคนที่ทำอะไรเป็นกิจวัตร หรืออาจเป็นคนที่ไม่กล้าเข้าสังคม เป็นต้น ทั้งหมดนั้นเพื่อให้ได้ Profile ที่ใกล้เคียงและแม่นยำที่สุดในการออกตามหาตัวผู้ต้องสงสัยนั่นเอง

== = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = == = = =

วิเคราะห์คาแร็คเตอร์ของทีม BAU

สำหรับเราแล้ว เคมีระหว่างตัวแสดงมีส่วนสำคัญมาก นักแสดงบางคนเล่นเก่ง แต่ดูไม่มีเสน่ห์ ไม่สามารถดึงคนดูเอาไว้ได้ และเราไม่ได้พูดถึงหน้าตา แต่เป็นออร่าบางอย่างที่อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน อย่างเรื่องนี้ที่วางตำแหน่งบุคลิก ท่าทางของแต่ละคาแร็คเตอร์เอาไว้ชัดเจน 

อย่าง 'ฮอตช์เนอร์' ที่เป็นหัวหน้าทีมก็ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ สุขุมวางปูมหลังให้เป็นอดีตอัยการ (อาชีพที่ต้องการความ เป๊ะ เฉียบขาด ต้องดูคนออก) เพราะหัวหน้าทีมไม่ได้ดูแลแค่ลูกทีม แต่ต้องเป็นด่านหน้าคอยปะทะกับบอสใหญ่ใน FBI หลายครั้ง (การเมืองภายในองค์กรไม่ใช่ประเด็นที่ใครก็จะรับมือไหวนะ) 

ส่วน'กีเดี้ยน' ที่ถึงแม้จะเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มหน่วยนี้ แต่การที่เขาพลาดและทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบสิบคน ก็เป็นจุดหักเหให้เขาเขวไปนิด การกลับมาทำงานอีกครั้งต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเริ่มทำใจได้

(ตรงจุดนี้จะเห็นว่าระดับสั่งการในซีรี่ส์ฝรั่งนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่ขึ้นอยู่กับลักษณะตำแหน่งหน้าที่ พวกเขาไม่ผิดใจกันด้วยเรื่องคนอายุน้อยกว่าเป็นหัวหน้า รวมถึงถ้าเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมา ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกน้อง อายุน้อยกว่าหรือไม่ แต่ถ้าหัวหน้าทำผิดหรือมีอะไรไม่ชอบมาพากลปุ๊บ ก็จะมีการโต้เถียงตามเหตุผล แต่ถ้าเป็นซีรี่ส์เอเชียก็จะกลายเป็นประเด็น เพราะวัฒนธรรมเอเชียยังให้เกียรติคน และนับอาวุโสรุ่นพี่รุ่นน้องกันตามอายุเกิด)

มาถึงลูกทีมคนอื่นๆกันบ้าง แน่นอนว่าสาวๆส่วนใหญ่ต่างตกหลุมเสน่ห์ 'มอร์แกน' กันถ้วนหน้าก็แหม เฮียแกเข้าตำรา Tall, Dark, Man and Handsome เสียขนาดนั้น เราเองก็หนีไม่พ้นที่เมื่อดูครั้งแรกๆก็แอบเคลิ้มไปเหมือนกัน (ฮ่าๆๆๆ) แต่กลายเป็นว่ายิ่งดูจิตใจยิ่งเอนเอียงมาหาหนุ่มเนิร์ดอย่าง 'ดร.รี้ด' มากกว่าเพราะท่าทางพาซื่อ ถูกแกล้งถูกแซวจากคนอื่นอยู่บ่อยๆ เลยทำให้อดเอาใจช่วยไม่ได้ (ยิ่งดูแล้วยิ่งเห็นปูมหลังชีวิตยิ่งสงสารเฮ้ออ) 

สำหรับ 'กรีนอะเวย์' นั้นเรารู้สึกแปลกๆกับเธอตั้งแต่ตอนแรก เหมือนเป็นส่วนที่จะว่าเกินมาก็ไม่ใช่ แต่เป็นคาแร็คเตอร์ที่เหมือนจะไม่เข้าพวกกับคนที่เหลืออย่างประหลาด ไม่รู้เพราะต้องการให้เป็นไปตามบทบาท หรือเพราะบุคลิกส่วนตัวของนางกันแน่ แต่เราชอบความใจเด็ดของกรีนอะเวย์มากนะ เพราะในเรื่องเธอไม่ได้เป็น BAU มาตั้งแต่แรกการพิสูจน์ตัวเองเลยต้องเยอะกว่าคนอื่น ท่าทางการแสดงออกของกรีนอะเวย์ดูจะใกล้เคียงกับคนธรรมดามากที่สุด (ฮอตช์เนอร์เงียบมาก, กีเดี้ยนติสต์มาก, รี้ดเนิร์ดมากเพเนโลปีเปรี้ยวมาก, เจเจดูธรรมดามาก และมอร์แกนหล่อมาก คือทุกคนมีความมากความสุดกันไปในแบบ) เราไม่แน่ใจว่าด้วยเหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้สุดท้ายแล้วกรีนอะเวย์ก็มีบทบาทอยู่แค่ 28 ตอนเท่านั้น

ถ้าการจากไปของเจ้าหน้าที่กรีนอะเวย์ยังทำให้คุณช็อกไม่พอ (เราไม่สปอยล์แล้วกันว่าจากแบบไหน ไปหาดูกันเอาเองนะ) การตัดสินใจจบบทบาทของกีเดี้ยนก็ดูจะสร้างความช็อกให้ผู้ชมได้อีกระลอก (ระลอกใหญ่ด้วย) เพราะไม่มีใครคิดว่าคนที่เป็นผู้ก่อตั้งทีมจะต้องจากไป

อันที่จริงเราพอจะมองออกอยู่บ้าง เมื่อมีบางตอนได้วางเนื้อเรื่องเกี่ยวกับกีเดี้ยนเอาไว้ชัดขึ้นเรื่อยๆ เหมือนระเบิดที่รอเวลาเท่านั้น แต่การจากไปของกีเดี้ยนสร้างผลกระทบให้คนในทีมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกับดร.รี้ด ทีมไม่ถึงกับระส่ำระสายแต่เป็นช่วงเวลาที่สมาชิกอึ้งๆกันไปพักใหญ่

ตอนนี้เองที่มีคาแร็คเตอร์ใหม่เข้ามาเสริมคือ

• Emily Prentiss (Paget Brewster) ลูกสาวท่านทูตที่เสนอตัวและประวัติการทำงานมาในช่วงเวลาที่กรีนอะเวย์เพิ่งลาออก กระนั้น ฮอตช์เนอร์กลับลังเลที่จะรับเธอเข้าทำงาน ก่อนจะยอมให้เพรนทิสได้พิสูจน์ฝีมือภายหลัง

• David Rossi (Joe Mantegna) นักเขียนเจ้าของหนังสือเจาะจิตอาชญากร เป็นทั้งเพื่อนสนิทของเจสัน กีเดี้ยน และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง BAU เช่นกัน จึงไม่แปลกที่เมื่อกีเดี้ยนจากไป เขาจะเป็นหมายเลขหนึ่งที่ถูกดึงตัวมาเป็นสมาชิกทีม

ทั้ง 'เพรนทิส' และ 'รอสซี่' กลายเป็นคาแร็คเตอร์ที่มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เราเองก็หลงรักสองคนนี้สุดๆเหมือนกัน เพรนทิสนั้นเป็นคาแร็คเตอร์หญิงที่ดูลึกลับ แต่ก็มีด้านสนุกสนานเฮฮา และเข้ากับคนอื่นๆในทีมได้ง่าย ส่วนรอสซี่ กลายเป็นขวัญใจแม่ยกเร็วมาก ในบ้านเรานี่ ถึงขั้นมีแฟนคลับติดแฮ็ชแท็ก #สปอร์ตใจดีอิตาลี ให้ป๋าแกด้วยเรียกว่าแหกกฏของสาวไทยที่มักชอบพระเอกหรือตัวเอกผู้ชายที่อายุไม่มาก หล่อใสหมดจด คือป๋ารอสซี่แหวกแหกโค้งแซงเกาหลีนิยมมาเลยนะ ฮ่าๆๆๆ

เราคิดว่าการเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ในซีรี่ส์ฝรั่ง เป็นไปเพื่อให้กราฟของซีรี่ส์มีการสวิงบ้าง เรื่องเรตติ้งคะแนนนิยมนี่ไม่กล้าฟันธง อาจมีส่วนบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งเราว่าก็สร้างสีสันและความแปลกใหม่ ตื่นเต้นได้ดี บางคาแร็คเตอร์ยังวนเวียนมารับเชิญในบางตอนด้วย

== = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = == = = =

คาแร็คเตอร์อื่นๆที่น่าสนใจ

• Erin Strauss (Jayne Atkinson) เจ้าแม่ใหญ่แห่ง FBI (ใหญ่กว่าฮอตช์เนอร์ก็เจ๊คนนนี้แหละ) เป็นคาแร็คเตอร์ประจำที่โผล่มาบ้าง ไม่ทุกตอน แต่มาทีไรมีเรื่องทุกที (ปรากฏตัว 23 ตอน)

• Alex Blake (Jeanne Tripplehorn) มาแทนเจ้าหน้าที่เพรนทีส (ปรากฏตัว 48 ตอน)

• Ashley Seaver (Rachel Nichols) เจ้าหน้าที่ฝึกหัดของ BAU (ปรากฏตัว 13 ตอน)

• Kate Callahan (Jennifer Love Hewitt) มาแทนเจ้าที่เบลค (ปรากฏตัว 23 ตอน) อดีตดาราวัยรุ่นสุดสวยที่มารับเชิญในซีซั่นล่าสุด (ซีซั่น 10)

• William LaMontagne Jr. (Josh Stewart) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากนิว ออร์ลีนส์ คนนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ปรากฏตัวครั้งแรกในซีซั่น 2 ใครไม่เคยดูขอให้จับตาเขาไว้เลยนะ (ปรากฏตัว 11 ตอน แบบไปๆมาๆ)

• Haley Hotchner (Meredith Monroe) ภรรยาของฮอตช์เนอร์ คาแร็คเตอร์นี้เราชอบมาก ถึงจะโผล่มาไม่กี่ตอน แต่เล่นได้ดีสุดๆ คือถ้าเราเป็นเมียฮอตช์ ยังไม่รู้เลยว่าจะทำได้อย่างที่นางทำหรือเปล่า นางแกร่งจริงๆนะ (ปรากฏตัว 15 ตอน)

รู้คำศัพท์พวกนี้ไว้ดู CriminalMinds สนุกขึ้นอีกเยอะ

• The UNSUB ย่อมาจาก Unknown Suspect หรือผู้ต้องสงสัยที่ยังระบุไม่ได้ ทีม BAU จะใช้คำย่อนี้ตลอดเวลา ด้วยเหตุผลที่ว่าหากไม่ทราบชื่อ ก็ไม่ควรไปตั้งสมญานามหรือนิกเนมให้ผู้ต้องสงสัย เป็นการวางตัวเป็นกลางต่อคดี และเพื่อไม่ให้เป็นการให้ท้ายผู้ต้องสงสัยด้วย

• DOA ย่อมาจาก Dead On Arrival เป็นตัวย่อที่พบได้บ่อยในซีรี่ส์สืบสวนสอบสวน หมายถึงการที่ผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตเมื่อถูกนำตัวส่งถึงโรงพยาบาลพอดี

• COD ย่อมาจาก Cause Of Death เป็นอีกตัวย่อที่พบประจำ หมายถึงสาเหตุการตาย

• Victimology หรือ เหยื่อวิทยา ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในคดีต่างๆ