เที่ยวเกาะสุรินทร์ (วันแรก)





"ไชโย....ปิดเทอมแล้วปะป๊า ปีนี้ไปเที่ยวไหนดีค้าาา"
เป็นเสียงแรกทันทีที่ลูกสาวกลับจากโรงเรียนมาถึงบ้านหน้า ร้อนอย่างนี้
ไปนอนเกาะกันดีกว่า เกาะที่งดงามที่สุดแห่งท้องทะเล"อันดามัน"
สุดยอดแหล่งปะการังของทะเลไทย
" อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์" เท่านั้นยังไม่พอ เดินทางไกลทั้งที ต้องเที่ยวให้คุ้มเหนื่อยด้วยการไปเที่ยวต่อกันที่
"อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะ สิมิลัน" สุดยอดความงามของหาดทรายที่ยกให้เป็นอันดับ1ของเมืองไทย





เพื่อนร่วมเดินทาง


นอกจากเราสามคน พ่อ แม่ ลูกแล้ว ก็มีน้านก
และพี่เดียร์ หลานสาวรุ่นเดียวกันจะร่วมเดินทางไปด้วย
แต่แล้วก่อนออกเดินทางวันเดียว พี่เดียร์ไม่สบาย
"ไข้ขึ้น" ต้องไปโรงพยาบาลแทนการไปเที่ยว
ผลการตรวจเลือดเธอเป็น"ไข้เลือดออก"โชคดีมากที่พี่เดิยร์
ไม่ไปไช้สูงอยู่บนเกาะกลางทะเล
ไม่งั้น..แย่แน่.




เส้นทางล้อหมุนสู่"คุระบุรี"


การเดินทางครั้งนี้ เราเดินทางช่วงกลางวันแทนการเดินทางตอนกลางคืนแบบครั้งก่อนๆ
เราออกจากบ้านกันตั้งแต่เช้า เพื่อพาพี่เดียร์กลับไปส่งบ้านก่อน จากนั้นจึงเริ่มการเดินทางจริง
มื้้อเช้าเราฝากท้องไว้ที่ร้านข้าวแกง"แม่ล้วน" แถวเขาย้อย เพรชบุรีเหมือนปิดเทอมปีที่แล้ว
ที่เราขับไปเที่ยว"เกาะสมุย"กัน แต่ครั้งนี้แม่ครัวฝีมือตกไปหน่อย อร่อยสู้ครั้งนั้นไม่ได้
จากนั้นมุ่งหน้าลงใต้ต่อไป เลยเที่ยงมาสักพักแล้วเราเพิ่งถึงสี่แยก"ปฐมพร"ถ้าเลี้ยวซ้าย
ก็เข้าเมือง"ชุมพร"ถ้าเลี้ยวขวาก็ไป "ระนอง"แต่เราขับตรงไปทาง จ.สุราษฏร์ฯ



มื้อเที่ยงร้านศิริวรรณ
ความจริงร้านอาหารใหญ่ๆ แถว
อ.ท่าแซะก็มี ขับผ่านเห็นมีคนเยอะ
เหมือนกัน แต่ว่าวันนี้ผมมีความตั้งใจ
จะไปกินข้าวที่ร้าน "ศิริวรรณ"ที่เคย
ได้ยินชื่อมานาน ร้านนี้อยู่เลยสะพาน
ข้ามแม่น้ำ สวีมานิดเดียว อยู่ซ้ายมือ
หรือจับไมล์จากแยกเข้าชุมพรมาราว
35 กม. มีป้ายร้านเล็กหน่อยเดียว
ร้านแบบบ้านๆ ดูธรรมดามากหน้าร้าน
ไม่มีลูกค้าเลย เราจึงเดินเลาะข้างบ้าน
เข้าไปที่หลังร้าน มานั่งกันอยู่ที่นี่เอง...
ด้านหลังจะปลูกเป็นหลังคาสูง-โปร่ง
รับลมโชยมาจากป่าละเมาะ ทำให้
รู้สึกสดชื่นมาก อาหารที่สั่ง ได้แก่
ต้มยำปลา ปลาทอดกระเทียม
(จำไม่ได้ว่าเป็นปลาอะไร) คะน้าผัด
น้ำมันหอยและของโปรดภรรยา
กุ็งผัดสะตอ อ๊ะ !มาทางใต้ ก็ต้อง
กินสะตอสิ ซึ่งอาหารของเขาอร่อย
ทุกอย่าง โดยเฉพาะ "กุ้งผัดสะตอ"
กินกันเกลี้ยง ส่วนเรื่อง"กลิ่น"
ค่อยว่ากันทีหลัง..






เพลิดเพลินกับอาหารจนลืมเวลา ออกเดินทางกันอีกครั้งเมื่อเวลาบ่าย 3
ทางหลวงหมายเลข 4006 แยกจากทางหลวงหมายเลข 41 ที่ อ.หลังสวน ผ่าน อ.พะโต๊ะ ที่อยู่ท่ามกลาง
ป่าเขาที่แสนเงียบสงบ มาออกทางหลวงหมายเลข 4 ที่ บ้านราชกรูด อ.เมืองจังหวัดระนอง ระยะทางรวม69 กม.
จากแยกสาย41เข้าไป ช่วงแรกเป็นทาง 4เลนส์ จากนั้นเมื่อเริ่มขึ้นเขาจะเปลี่ยนเป็น 2เลนส์ลาดยางสภาพดีมาก





ย้อนรอย ถนนสายประทับใจ
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ที่ผมได้มาใช้ทางสายนี้ ครั้งแรกมาเมื่อเกือบ
10 ปีแล้ว ครั้งนั้นมาเที่ยวที่ "ชุมพร"นอนที่หาด"ทุ่งวัวเล่น" รุ่งเช้า
ขับออกมาเที่ยวระนองกัน แวะชิมซาลาเปา"ทับหลี"เที่ยวชม แหล่ง
ท่องเที่ยวตามลายทางจนถึง "ภูเขาหญ้า" ขากลับใช้ถนน สายนี้เป็น
ทางกลับ ตอนนั้นบ่ายมากแล้ว ฝนตกปรอยๆ ระหว่างทางฝนก็หยุด
อ้า...ถึงจุดสำคัญแล้ว พอฝนหยุด แต่ยังมีก้อนเมฆสีขาว คลอเคลีย
อยู่บนยอดเขา มิไอหมอกบางๆ เป็นระยะ ๆ ต้นไม้ใบหญ้าแลดูเขียว
ชะอุ่ม เห็นแล้วชุ่มชื่นหัวใจ อากาศหลังฝนเย็นสบาย ช่วยทำให้แอร์
ในรถเย็นฉ่ำผมไม่ได้เปิดกระจกรับลมเพราะเกรงว่าเสียงปะทะหน้าต่าง
จะรบกวนผู้โดยสารของผมที่กำลังหลับสบาย ปล่อยให้ผมทำหน้าที่
ขับรถไปบนถนนคดเคี้ยวไปตามเขาอยู่เพียงลำพัง ท่ามกลาง
ธรรมชาติงดงาม....จนยากที่จะลืมเลือน.








ที่นอน ที่กิน ที่ อ.คุระบุรี
ถนนสาย 4006 จากฝั่งหลังสวน มาออกฝั่งระนอง ใช้เวลา หนึ่งชั่วโมงพอดี จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายขับกินลม
ชมตะวันที่กำลังคล้อยต่ำลงมาอีกราวหนึ่งชั่วโมง ผ่านท่าเรือคุระบุรีมา 6 กม.เราก็มาถึง "อ.คุระบุรี" ก่อนมืด
เล็กน้อย เมื่อมาถึง สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือหาที่พัก เดินเข้าไปดูที่"ธารารินทร์" เป็นที่แรก
มีห้องว่างแบบเรือนแถวชั้นเดียว 5 ห้อง มีเป็นหลังไม่แน่ใจว่ามี 2 หรือ 3 หลังอยู่ริมคลอง แต่มีคนพักแล้ว
เราตกลงพักที่เรือนแถว ในราคา 500 บาท/คืน พักรวมกันเลยรวม 4 คนไม่มีคิดเพิ่ม จากนั้นก็ออกไปหาข้าวเย็นกิน
ความจริงที่ตึกแถวหนัารีสอร์ตก็มีร้านข้าวต้ม,อาหารตามสั่งอยู่ร้านหนึ่งมีลูกค้ามากเหมือนกัน แต่ผมตั้งใจ
จะครอบครัวไปกินที่ร้านอาหารที่หนังสือเขาแนะนำให้ดูดีสมฐานะ (คนจรจัด) อย่างเรา อิ อิ จึงขับย้อน
ขึ้นมาประมาณ 4-500 เมตร แต่แล้วไม่มีวาสนาปาก ป้าดโธ่...ร้านปิด ! ค่อยๆคลานกลับมาจอดหน้าร้าน
ตึกแถว พลางก็คิดปลอบใจไปว่า เอาเถ๊อะ...ร้านนี้คนกินเยอะอยู่รสชาติน่าจะใช้ได้น่า








"ครัวไท" เป็นชื่อของร้านนี้เป็นร้านตึกแถวห้องเดียว ถ้ามาจากระนองพอผ่านสะพานข้ามคลอง คุระบุรีมาก็ชิดซ้ายร้านอยู่ห่างมา
ประมาณ 100 เมตร ครัวถูกยกมาอยู่หน้าร้านเหมือนร้านข้าวต้มทั่วๆ ไป เราเลือกนั่งโต๊ะหน้าร้านริมฟุตบาท
ชอบความโล่งโปร่งสบาย และทำให้ได้เห็นการทำอาหารของแม่ครัวทุกขั้นตอน อาหารที่เราสั่งไปก็แสนจะ
ธรรมด๊า ธรรมดา ผัดผักบุ้งไฟแดง หมูทอดกระเทียม แกงส้มปลาผักรวม และคะน้าปลาเค็ม อาหารต้องคอย
นานมาก เพราะแม่ครัวไม่มีลูกมือ ต้องทำเองทุกอย่าง และถึงแม้ว่าจะมีรายการอาหารมาคอยหลายอย่าง
ก็ไม่เห็นความเร่งรีบของแม่ครัวเลย เธอยังคงค่อย ๆ ทำไปตามขั้นตอนที่ละอย่าง ทีละอย่าง เข้าตำรา
"จะกินอาหารให้อร่อยต้องใจเย็น ๆ" นะจ๊ะ ด้าย...แต่ถ้าไม่อร่อยมีเคือง... แต่เมื่อได้ชิมอาหารแต่ละอย่างที่สั่งมา
ไม่ผิดหวัง คุ้มค่าแก่การรอคอย อร่อยทุกอย่าง แต่ที่ติดใจภรรยาและน้านกมากที่สุดคือเนื้อปลาเค็มที่ใส่มา
ในผัดคะน้าปลาเค็มมันไม่ใช่เนื้อปลาอินทรีอย่างที่เราคุ้นเคย มันเป็นเนื้อปลาที่หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ เนื้อนุ่มเค็ม
กำลังดี จึงอยากได้เป็นของฝากแม่ที่บ้านแม่ครัวที่เป็นคนเดียวกับคนเก็บเงินก็บอกว่ามันชื่อปลา "ทองใบ" !!
และมันก็คือจุดเริ่มต้นของความน่าสยดสยอง ที่ต้องจดจำไปอีกนาน...





เช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง
เช้าตรู่...เราออกจาก คุระบุรีขับย้อนมาราว 6 กม. เลี้ยวซ้ายเข้า "ท่าเรือ คุระบุรี" ขับเข้ามาเรื่อย ๆ จะเห็นป้าย
"อช.หมู่เกาะสุรินทร์"อยู่ทางขวามือ ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นร้านขายทัวร์, ตั๋วเรือโดยสารเรียงรายอยู่หลายร้าน
ภายในที่ทำการมีที่จอดรถอยู่ประมาณหนึ่งช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลก็เลือกจอดได้ตามสบาย ไม่มีคนรับฝาก และไม่เสียค่าจอดครับ
เวลา 07.30 น.ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยนำหลักฐานการจองบ้านทางเน็ต และหลักฐานการชำระเงินผ่าน ธ.กรุงไทยมาแสดง แต่ทาง
เจ้าหน้าที่บอกต้องมีตั๋วเรือมาแสดงด้วย เราจึงต้องเดินออกมาติดต่อกับร้านขายตั๋วเรือสปีดโบ๊ทที่จองมากับ "ซาบีน่า" และได้รับคำ
แนะนำสำหรับคนที่ไปค้างคืนเองให้ซื้อ "ขนมปังแถว" ที่นั่นมีเตาปิ้งไว้ให้ฟรี แต่ขายขนมปังให้แพงโขอยู่ กาแฟแบบซองมิกซ์
บะหมี่ เตรียมไปเยอะ ๆ มีน้ำร้อนให้ที่โรงทานอาหาร ถ้าไปหลายคน..อยู่หลายวัน ประหยัดไปได้หลาย...อ้อ หน้ากากดำน้ำ
เสื้อชูชีพก็เช่าที่ร้านนี่ไปเลย เจ๊เค้าบอกว่าถูกกว่าเช่ากับ อช.บนเกาะ แถมท้ายด้วยบัตรลดราคาครั้งต่อไปคนละ หนึ่งร้อยบาท
แหม...ขอลดซะครั้งนี้เลยก็ไม่ยอมให้ แล้วอีกเมื่อไหร่เราจะได้กลับมาใช้สิทธินี้อีกล่ะเนี่ย!







ได้ตั๋วเรือแล้วกลับมายื่นให้เจ้าหน้านที่อีกครั้ง แล้วรับใบยืนยันหรือใบเสร็จ ไม่แน่ใจ นำไปยื่นที่ทำการบนเกาะเท่านี้ก็เรียบร้อย
เช้าวันนี้ นอกจากเราแล้วก็มีน้อง ๆ อีกเพียง 2 กลุ่ม กลุ่มละ2-3 คนเท่านั้นที่มาติดต่อกับที่ทำการ นอกนั้นมากับทัวร์ หรือไม่ก็ซื้อ
เป็นแพ็คเกจมากันเป็นส่วนใหญ่ มีรถรับมาส่ง เมื่อใกล้เวลาเรือออก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

ที่บนสะพานท่าเรือมีคนคอยยืนชักชวนให้เข้าร่วมโครงการ ประมาณว่าเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก ร่วมอนุรักษณ์หมู่เกาะสุรินทร์ เราไม่ยอม
ตกเทรนเข้าร่วมลงชื่อทันทีพร้อมรับถุงดำสำหรับนำขยะกลับมาคืนที่นี่ แล้วเราก็จะได้รับน้ำอัดลมหนึ่งกระป๋องเป็นสิ่งตอบแทน
ความจริงถึงไม่มีของแจกก็เข้าร่วมอยู่แล้วล่ะ (แต่อาจตัดสินใจช้านี๊ดหนึ่ง คลิ คลิ) ระหว่างที่รอเวลาเรือออกไปชมบรรยากาศ
รอบ ๆ ท่าเรือ จากสะพานท่าเรือมองออกไปทางซ้ายมือ จะเห็นกระท่อมบนแพไม้ไผ่อยู่ไกล ๆ น่าจะเป็นแพเลี้ยงปลาในกระชัง
ดูแล้วรู้สึก สงบงามดีจัง แต่ถ้ามาอยู่นานคงเหงาวังเวงน่าดู ส่วนทางขวามือเป็นปากแม่น้ำทางไปสู่ทะเลกว้าง บริเวณริมฝั่งมีเรือ
ประมงจอดเรียงรายเต็มไปตลอดทั้งแนว ชมบรรยากาศเพลิน ๆ ได้สักพักก็ได้เวลาเรือออก







09.00น.
เรือก็เคลิ่อนออกจากท่า เช้าวันนี้เรือสปีดโบท
ของ ซาบิน่า มีผู้โดยสารประมาณ 10 กว่าคนเท่า
นั้น สปีดโบท 3 เครื่องยนต์ค่อยๆ พาเราผ่านท่า
จอดเรือประมง หรือว่าจะเรียกได้อีกอย่างว่า
"สะพานปลา" ผ่านป่าชายเลน และแพเลี้ยงปลา
กระชัง ออกสู่ท้องทะเลกว้างด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
ที่อีกไม่นานเราจะได้สัมผัสหมู่เกาะที่สวยงาม
มีชื่อเสียงว่ามีปะการังสวย สมบูรณ์มากที่สุด
แห่งหนึ่งในท้องมะเลไทย ..









เรือแล่นห่างจากฝั่่งมาได้สักพักหนึ่ง
เครื่องหนึ่งในสามตัวก็มีอาการ"น้ำไม่ออก"
ทำให้ต้องหยุดเรือถึงสองครั้้ง เวลาผ่าน
ไปราวหนึ่งชั่วโมงเศษเราก็เข้าใกล้เกาะ
ผมเดินออกมาที่หัวเรือและได้เก็บภาพ
ความงามของเกาะสุรินทร์ในระยะไกล
โดยมีฝรั่งตัวบักอึดยืนเป็นเรื่องราวให้กับภาพ
(อันที่จริงอยากได้แหม่มในชุดทูพีชมากกว่า
แต่หาไม่ได้) ส่วนนางแบบของเราออกมา
ให้ถ่ายเอาเมื่อเรือเกือบจะถึงฝั่งแล้ว








เรามาถึงเกาะเมื่อเวลา 10.20น. นับว่ามาถึงเร็วมาก แต่ก็ไม่มากพอที่จะทันซื้อตั๋วดำน้ำรอบเช้า ( 9.00น.) ทำให้มีเวลา
ออกไปสำรวจชายหาดด้านหน้ากัน ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบมาก ที่มันเงียบก็เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ออกไปดำน้ำ
กันหมด แต่พอได้เวลาอาหารมื้อเที่ยง คนกลับมาเต็มโรงอาหาร ทั้งด้านนอกด้านในเต็มหมดทุกโต๊ะ





ระหร่างที่รอพนักงานทำบ้านอยู่ก็ออกไปเดินชมหาดด้านหน้ากันก่อนดีกว่า

























เมื่อเริ่มใกล้เที่ยง
ก็เริ่มมีเรือพานักท่องเที่ยว
ทยอยกลับเข้าฝั่ง
โต๊ะภายในโรงอาหาร
ก็ถูกจำจองโดยไกด์ทัวร์
บริษัทต่างๆ จนหมด
แต่มื้อเที่ยงมื้อแรกบนเกาะ
ของเราชิงตัดหน้าไปเรียบร้อย
แบบไม่เป็นทางการนัก
ไว้เจอกันใหม่ มื้อเย็นละกัน









จากนั้นเราก็สามารถขึ้นบ้านพักของเรา ที่อยู่ด้านหลังโรงอาหารเดินมาทางเดียวกับทางที่ไปหาดช่องขาด เป็นบ้านแฝด
ตั้งอยู่บนเขามี สองระดับทางขวามือ เดินขึ้นบันไดไปสูงพอได้เหนื่อยทีเดียวล่ะ อย่างที่เตือนไว้แต่ต้นแล้วนั่นแหล่ะ
เลี่ยนชุดสำหรับไปดำน้ำเสร็จแล้วกับลงมาคอยลงเรือที่สะพานทุ่นสีฟ้าสดใสเข้ากันกับสีน้ำทะเลตอนแดดแรงอย่างนี้จริงๆ




แสงแดด
เป็นสิ่งที่ผู้หญิงเกลียดที่สุด
แม้จะป้องกันด้วยการใช้
ครีมกันแดดที่ดีที่สุด
แพงที่สุด
พอกหนาอย่างไร
ก็ไม่พ้นถูกแดดเผาจนตัวดำไปตามๆกัน
ดังนั้น
จึงไม่ต้องแปลกใจกับชุดว่ายน้ำ
ที่มิดชิดซะขนาดนี้








บ่าย 2 โมง เราก็ลงเรือไปดำน้ำ ครั้งก่อนๆเราชอบแบบเหมาลำ
แต่ครั้งนี้ซื้อทัวร์แบบรายหัวรวมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ประหยัด
และมีเพื่อนเยอะหน่อย ไม่เหงา
เรือพาเราแล่นผ่านเรือยอจ์ชออกทะเล อ้อมมาดำจุดแรก..ไม่สวย
จากนั้นมาจุดที่สองจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร เป็นเกาะหินเล็กๆ ปะการัง
ไม่สวยเช่นกัน แต่จุดที่ สามนี่สิเด็ด เค้ามีชื่อเรียว่า
อ่าวแม่ยายปะการังสวย...สมบูรณ์มากแต่น่าเสียดายมาก
เป็นช่วงเวลาน้ำลง ทำให้ถูกห้ามไม่ให้ว่ายอยู่เหนือแนวปะการัง
อาจจะเผลอไปโดนเข้า เสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายได้ เราจึง
ได้แต่ว่ายดูอยู่ขอบๆ ของแนวปะการัง




อ่าวแม่ยาย


เรือนักเดินทาง ทอดเสมอหน้าอ่าวช่องขาด



อยู่ในระหว่างกิจกรรมการดำน้ำ







หาดน้ำแห้ง
ออกจากอ่าวแม่ยาย
เรือก็พากลับมาส่งที่เดิม
แต่น้ำลงมากหาดแห้งจนเรือเข้าไม่ได้
ต้องเดินลุยน้ำ-ย่ำทรายกันขึ้นมา
หลายร้อยเมตร
ดูจากในภาพก็พอเห็นความ
แตกต่างของน้ำขึ้น-น้ำลง
ได้อย่างชัดเจน..








กลับขึ้นบ้านพัก จัดการะธุระส่วนตัวกันอย่างพิถีพิถัณ ตามประสาสาวๆ โฮ...กว่าเสร็จ แล้วลงมาเดินเล่นที่ชายหาด
ด้านอ่าวช่องขาด เพื่อจะชมพระอาทิตย์ตกด้วย มาก็ไม่ทันอีกนั่นแหล่ะ ได้แต่ชมท้องฟ้าหลังพระอาทิตยืตกไปแล้วเท่านั้น




< b>พอจะกล้อมแกล้มไปได้บ้าง ดูกันเพลินๆ ถ่ายจากหาดช่องขาด






เดินสุดหาดแล้วเลาะมาตามก้อนหิน มีมุมหินสวยๆให้เลือกถ่ายได้เห็นหินก้อนนี้มาแปลก บนก้อนนี้มีต้นไม้
ต้นหนึ่งขึ้นไปลงหลักปักฐาน เป็นที่มั่นสุดท้าย พลาดจากหินก้อนี้ไปละก้อ...ตกทะเลอย่างเดียว !


บล็อกนี้ ขอลาด้ยวถาพ ของ แสงสุดท้ายของวัน ที่อ่าวช่องขาด อช.หมู่เกาะสุรินทร์ ขอบคุณ และ สวัสดีครับ.






เที่ยวเกาะสุรินทร์วันที่สอง





 

Create Date : 08 พฤษภาคม 2554
22 comments
Last Update : 1 ธันวาคม 2554 0:17:38 น.
Counter : 4700 Pageviews.

 

สวยงามดีจ่ะ อิอิ

 

โดย: ตะวันเจ้าเอย 8 พฤษภาคม 2554 1:26:16 น.  

 

มาลงเรือดีกว่า สวยจัง

 

โดย: Gunpung 8 พฤษภาคม 2554 6:34:47 น.  

 

หวัดดีครับ....

ตามมาเที่ยวด้วยคน
อิจฉานิดๆนะเนี่ย...ผมอยากไป แต่ไม่มีโอกาสซักครั้ง
ภาพสวยมาก...วางแบบการ present ดี
อยากมีโปแกรมทำแบบนี้จัง.

มีความสุขมากๆนะครับ

 

โดย: wicsir 8 พฤษภาคม 2554 7:31:41 น.  

 


ภาพสวยมากค่ะ
อุ้มขอตามมาเที่ยวเกาะสุรินทร์ด้วยคนนะคะ

 

โดย: อุ้มสี 8 พฤษภาคม 2554 7:50:16 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าค่า^__^
เป็นทั้งไดอารี่ ทริปนำเที่ยว เรื่องเล่า
เป็นได้ทุกอย่างเลยค่ะหน้านี้ อ่าน+ดูรูปเพลินเลย
ทะเลหมอกสวยมากๆ ที่พัก วิว ธรรมชาติ หลงเลยค่ะ

ฝนตกอีกแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

 

โดย: dayydream_m 8 พฤษภาคม 2554 11:09:27 น.  

 

กว่าจะตามมาเที่ยว เขาก็จะกลับกันแล้ว คอมเกเรค่ะ

น้องฝ้ายโตวันโตคืนจริงๆ คุณพ่อเตรียมตัวไว้หนวดได้แล้วนะ ลูกสาวสวยซะขนาดนี้

มีเป๋าตามออเดอร์มาอวดนะคะ ลองดูซิว่าพอไหวไหม
วันหลังจะส่งไปฝากขายที่ร้านบ้าง อิอิ

 

โดย: BabyGreace 8 พฤษภาคม 2554 20:42:27 น.  

 

หวัดดีคะคุณหมุน

รินคลิ๊กเข้ามามะคืนยังเป็นหัวข้อ Test อยู่เลยใช่ไหมคะ

แล้วภาพก็ยังไม่เยอะเท่านี้ คาดว่ายังทำไม่เสร็จแล้วปล่อยออกอากาศไปเลยหรือคะ

ภาพสวยขึ้นเยอะเลยค่ะ บรรยากาศทะเลน่าโดนมาก น่าโดนคือน่าเที่ยวมาก ๆเลยค่ะ

ชอบลมทะเล โดยเฉพาะเกาะเนี่ย

น้ำจะใสมาก ๆ ชอบค่ะ

ได้ไปเกาะสุรินทร์สักครั้งคงดี

วันนี้เกาะบล้อกคุณหมุนไปเที่ยวก่อนนะคะ

ถ้ามีวันหยุดจะบึ่งไปเที่ยวเองบ้าง

 

โดย: Rinsa Yoyolive 8 พฤษภาคม 2554 21:57:09 น.  

 

มาเม้นทุกวันก็ได้นะจ่ะ อิอิ

 

โดย: ตะวันเจ้าเอย 9 พฤษภาคม 2554 7:19:12 น.  

 

คืนนี้มาทักทายตอนฝนตกหนักมากๆๆ
แต่เราต้องเข้ากะT_T ทั้งที่บรรยากาศน่านอนมากมาย ฝันหวานค่า^__^

 

โดย: dayydream_m 13 พฤษภาคม 2554 22:12:40 น.  

 

แวะมาชมค่ะ

 

โดย: นู๋ที 15 พฤษภาคม 2554 21:20:39 น.  

 

ตามมาเที่ยวอีกรอบ
เพื่อสร้างความกระสันให้ตัวเอง...

ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะครับ

 

โดย: wicsir 17 พฤษภาคม 2554 9:05:37 น.  

 

สายลม แสงแดด น้ำทะเล น่าไปมากเลยค่ะ น้ำใสมากด้วย ทรายก็ขาว ว้าว เล่นน้ำ ๆ

 

โดย: ameijang - มี่ 19 พฤษภาคม 2554 20:49:46 น.  

 



เคยมาไปเที่ยวเกาะสุรินทร์ และดูปลา ก่อน
สินามิไม่ถึงเดือน อยากตามไปดูว่าตอนนี้เป็น
อย่างไรบ้าง ยังสวยเหมือนเดิม คิดถึง อยาก
ไปดูปลาอีก ปลาสวยมากเหมือนภาพวาด
สีสรรมากมาย เห็นแล้วสุขใจมากเลย

ขอบคุณทีแบ่งปัน เป็นความคิดที่ดีค่ะ ที่มี่เวลา
ก็ไปเที่ยวที่ต่างที่เมืองไทย เพราะมีที่สวยงามมากมายค่ะ

 

โดย: newyorknurse (newyorknurse ) 20 พฤษภาคม 2554 6:02:50 น.  

 

คิดถึงทะเลมาก ๆ เลยค่ะคุณหมุนตามไมล์ แหม่..นี่ถ้ามีเวลา สงสัยคงได้แพ็คกระเป๋าตามรอยคุณหมุนตามไมล์ไปติด ๆ แล้วล่ะค่ะ

ครอบครัวหรรษาจริง ๆ เลยนะคะนี่

 

โดย: i'm not superman 20 พฤษภาคม 2554 22:13:02 น.  

 

ว๊าย ๆ ๆ ๆ ๆ แม่โมเสสอยากพาโมเสสไปมั่งจังค่ะ หมู่เกาะสุรินทร์จะไปหลายรอบแล้วแต่ไม่ถึงซักที วันนี้ตามมาเที่ยวแล้วกิเลสเกาะเลยค่ะ ปล.ภาพสวยมาก ๆ ค่า

 

โดย: mariabamboo 20 พฤษภาคม 2554 22:34:25 น.  

 



สว้สดีค่ะ

 

โดย: newyorknurse (newyorknurse ) 21 พฤษภาคม 2554 2:41:35 น.  

 

บอนไซเป็นไม้มหัศจรรย์มากที่สุดในขบวนต้นไม้สวยๆทั้งหลาย
ไม่รู้ว่าคุณน้อยไปสรรหาต้นสวยๆเหล่านี้มาจากไหนครับ
เพลงก็เพราะ(แต่แอบปนเหงาหน่อยๆ)
//////////

บอนไซ เพื่อนส่งมาค่ะ
โอเพลงเหงาหรือคะ?

มาชมทะเลอีกค่ะ

 

โดย: newyorknurse (newyorknurse ) 21 พฤษภาคม 2554 4:34:47 น.  

 

บรรยายเก่ง มีอารมณ์ขัน ผมชอบครับ.

ไปเที่ยวแบบหลายวัน แบบนี้ ค่าใช้จ่ายตกคนประมาณ
เท่าใดครับ เพื่อจะได้เก็บตังค์ไปเที่ยวบ้าง

แค่สปีดโบ๊ทคงแพงอยู่แล้ว. เคยไปเกาะกูดกับทัวร์
ตกคนละ 8 พันบาท.

ที่หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นความฝันเลย ที่จะต้องไปเที่ยวให้
ได้ครับ.

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 22 พฤษภาคม 2554 5:44:13 น.  

 

เห็นภาพแล้วอยากกลับไปเที่ยวอีกครั้ง ตอนนั้นยังเด็กไม่ประสา มองไม่เห็นความงาม พอเลยวัยมองไปทางไหนมีแต่สิ่งที่สวยงามรอบกาย ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนมากมาย



ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมชอบที่บล๊อค พักนี้ไม่ค่อยได้ออนทัวร์เหมือนก่อน มีของมาปล่อยน้อยค่ะ

 

โดย: puipom 22 พฤษภาคม 2554 11:52:59 น.  

 

สวัสดีค่ะ เข้ามาที่นี่ทีไร เห็นภาพทะเลแล้วอยากไปพักผ่อนบ้างจัง แต่ตอนนี้ต้องฝันไปก่อน
หลับฝันดีนะคะ^__^

 

โดย: dayydream_m 22 พฤษภาคม 2554 23:57:51 น.  

 

อ่านเม้นท์คุณหมุนตามไมล์แล้ว ทำหน้าแบบนี้ค่ะ โอ้ววว..แหม่มทานน้ำเต้าหู้ร้อน ๆ ก่อนนอนเกือบทุกวัน ไม่เคยตอกไข่แดงใส่น้ำเต้าหู้เลยอ่ะ

รสชาดมันคงเหมือนไข่ลวก รึเปล่าคะ ว่าแต่ไข่ลวกรสชาดเป็นไงหว่า

.....

อบอ้าวแต่เช้าเลยนะคะวันนี้ เง้อออ

 

โดย: i'm not superman 24 พฤษภาคม 2554 8:26:18 น.  

 


ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ ที่นี่...ยังไม่เคยไปเลย รออยู่ค่ะ


ชอบภาพปิดค่ะ งามมาก นี่ไม่กล้อมแกล้มแล้วค่ะ



 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 24 พฤษภาคม 2554 18:49:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หมุนตามไมล์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




ดูย้อนหลัง คลิกที่ภาพครับ

ทำลิ้งค์ ๓

ทำลิ้งค์ ๒

ทำลิ้งค์ ๑

ทำลิ้ง 250

ทำลิ้งค์ ตอนที่๒

ทำลิ้งค์ ตอนที่๓

ทำลิ้งค์ ตอนที่๔

ทำลิ้งค์ ตอนที่๕
ทำลิ่ง
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
8 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หมุนตามไมล์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.