ทริปสุดท้าย ฺบรัสเซล ปารีส ลอนดอน
Brussels Paris London ไปบรัสเซลเพราะตั๋วถูก ส่วนสามีอยากนั่ง Eurostar ก็เลยเป็นที่มาของ 3 ประเทศใน 4 วัน
วันแรก วันอังคาร ที่ 28 กรกฎาคม 2558
มาถึงที่สนามบินต้องนั่งรถไฟต่อเข้าไปในตัวเมือง ตอนแรกจะซื้อตั๋ว MOBIB Brussels Jump 48 ชั่วโมง แต่พนักงานขายตั๋วบอกว่าไม่มีขาย ซึ่งเราก็งงมากเพราะอ่านมาจากในเว็บแล้วว่า สามารถซื้อได้ที่ KIOSK หรือตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งตู้ขายตั๋วที่สนามบินก็ไม่มีขาย
แล้วถ้าเราไม่มีบัตรนี้ ก็ไม่สามารถซื้อตั๋วอะไรได้เลยจากตู้ขายตั๋ว ต้องไปซื้อกับพนักงานขายตั๋วเท่านั้น
พอนั่งรถไฟเข้ามาในตัวเมืองแล้ว เราก็มาซื้อตั๋ว MOBIB Brussels Jump ที่บูทขายตั๋วบริเวณรถไฟใต้ดิน ตั๋ว 1 ใบ สามารถใช้สำหรับ 2 คนได้ แต่เวลาเดินเข้าก็ที่กั้นก็ต้องเดินเข้าพร้อมกัน 2 คนคะ
เราเลือกพักที่ Ibis Brussels Centre St.Catherine ชอบที่พัก Ibis เพราะราคาถูกแล้วโรงแรมก็ดี บริเวณที่พักมีร้านอาหารเยอะ ไม่ไกลจากรถไฟใต้ดิน ไม่ไกลจากสถานที่เที่ยวหลักๆมากนัก
วันแรกก็ไปเดินเล่นแถวๆ Grand place or Grote Markt และ town hall เป็นจตุรัสที่สวยมากซึ่งสถานที่นี้ก็เป็นมรดกโลกด้วย
จากนั้นก็ไปทานอาหารเย็นที่ Hard Rock Brussels ซึ่งใกล้กับ The Grand Place มาก เราสามารถซื้อแพ็คเกจเมนูราคาถูกได้ที่ www.getyourguide.com ที่สำคัญที่ร้านจะจองโต๊ะไว้ให้เราด้วย เราไม่ต้องไปยืนรอ ตอนที่ไปถึงมีคนรอโต๊ะอยู่หลายคนเหมือนกัน เคยลองอ่านรีวิวดู บางครั้งต้องรอโต๊ะว่างเป็นชั่วโมงเลย
วันที่สอง วันพุธ ที่ 29 กรกฎาคม 2558
วันนี้ไปที่โบสถ์ Basilica Koekelberg เป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก บริเวณภายนอกดูใหญ่โตมาก ภายในไม่มีอะไรมาก เงียบมากด้วย ที่นี่มีให้ขึ้นไปชมวิวพาโนรามาด้วย แต่เราไม่ได้ขึ้นไปดูเพราะจะไปดูที่ Atomium แทน
จากนั้นก็ไปที่ Atomium ดีนะที่ไปแต่เช้าเพื่อไปต่อคิวซื้อตั๋ว เพราะหลังจากนั้นคนก็เยอะมาก เราซื้อตั๋วแบบแพ็จเกจที่สามารถเข้า MiniEurope ด้วย เพราะราคาถูกกว่าซื้อแยกกัน
ที่ Atomium ก็จะมีนิทรรศการต่างๆ บางอันก็เป็นแบบถาวร บางอันก็ชั่วคราว โดยรวมๆ ก็เป็นสถานที่ที่ควรไปเที่ยว แต่สำหรับเราก็ไม่ได้ประทับใจไรถึงขนาดจะกลับไปเที่ยวอีก ข้อเสียอย่างหนึ่งคือ มันไม่มีหน้าต่างหรือที่ระบายอากาศ เจอคนตดแบบว่าเหม็นมากเลย
ที่ต่อไปคือ MiniEurope เป็นสถานที่เดินเล่น ถ่ายรูปเพลินๆดีคะ เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
จากนั้นก็ไปต่อที่ Manneken Pis แล้วก็แวะกิน Waffle ชื่อดังที่ Dandoy Cafe Manneken Pis ตัวเล็กมาก นึกว่าจะตัวใหญ่ ส่วน waffle ไม่อร่อยอย่างแรง จืดชืดมาก ราคาแพงด้วย บริเวณถนนที่จะไป Manneken Pis มีร้านขาย Waffle เยอะมาก ราคาตั้งแต่ 1 euro แล้วก็มีหลายหน้าให้เลือก บริเวณแถวๆนั้นก็มีร้านขายของที่ระลึกเยอะมาก
หลังจากนั้นก็ไปเอาสัมภาระที่ฝากไว้กับโรงแรม แล้วก็ไปที่สถานีรถไฟ Gare Du Midi เพื่อจะนั่งรถไฟต่อไปที่ Gare Du Nord ที่ปารีส
เราซื้อตั๋วรถไฟจาก Thalys ซึ่งเราซื้อตั๋วได้ในราคาถูกเพราะมันจะมีตั๋ว First Minute เปิดขายประมาณ 60 วันล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง ใช้เวลา 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงแล้ว
ถึงแล้วก็ไปซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินก่อนเลยคะ ซื้อที่ตู้ขายตั่ว วันแรกเราซื้อแบบ T Ticket 10 ใบก่อนคะ
เราพักที่ Ibis เหมือนเดิม ที่ Ibis Paris Pantin Eglise ห้องใหญ่มากคะ มีเตียงโซฟาให้ด้วย
เข้าที่พักแล้วก็ไม่ได้ไปไหนต่อคะ นอนพักเอาแรงอย่างเดียว
วันที่สาม วันพฤหัส ที่ 30 กรกฎาคม 2558
เริ่มต้นแต่เช้าตรู่ด้วยการไปถ่ายรูปที่สถานี Oberkamp ซึ่งเคยมาพักโรงแรมแถวๆนั้นเมื่อปี 2008 แต่สถานีมันปิดซ่อม ก็เลยไม่ได้รูปกับมุมเดิมที่เคยถ่ายไว้
สถานที่แรกที่ไปคือ Basilique du Sacre-Coeur สวยเหมือนเดิม บริวเวณรอบๆมีร้านขายของเยอะแยะมากมาย ระวังพวกคนดำด้วยนะคะ ถ้าเค้าจะมาผูกข้อมือก็ให้เดินหนีไปเลย ถ้ามันมาจับก็สะบัดมือออกเลยคะ
ที่ต่อไปคือ Luxembourg Gardens เดินเล่น ถ่ายรูปเพลินๆก็โอเคคะ สวนเค้าจัดสวยดี
เราไปทานอาหารกลางวันบนหอไอเฟล เราจองล่วงหน้าประมาณเกือบ 2 เดือน เราต้องคอยเช็คบนเว็บไซด์ทุกวันว่าวันที่เราจะไปจะเปิดให้จองเมื่อไหร่ เพราะบางวันจะถูกจองเร็วมากคะ
เราเลือกทานอาหารที่ 58 Tour Eiffel บนหอไอเฟล เพราะค่าอาหารรวมค่าตั๋วขึ้นไปชั้นหนึ่งด้วย แล้วก็ไม่ต้องไปเข้าคิวรอซื้อตั๋วซึ่งใช้เวลานานมาก เพื่อนเคยไปยืนรอ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าจะได้ขึ้น ของเราก็รอแป๊ปเดียว ทางร้านอาหารมีลิฟท์ของตัวเอง แพ็คเกจอาหารราคาไม่แพงคะประมาณ 41ยูโร ถือว่าคุ้มมาก
กินเสร็จแล้วก็ไปถ่ายรูป แล้วก็ไปล่องเรือต่อ คราวที่แล้วที่มาล่องเรือ ผิดหวังอย่างแรง ท่าเรืออยู่ตรงบริเวณหอไอเฟลเลยคะ เราไม่ได้จองล่วงหน้าเพราะไม่แน่ใจว่าจะไปหรือป่าว
ราคาตั๋วไม่แพง เรือสภาพโอเค เราจำไม่ได้แล้วว่าบริษัทอะไร จะมีอยู่ 2 บริษัท อยู่ทางฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของสะพาน เราคิดว่าก็คงจะคล้ายๆกันทั้ง 2 บริษัท เวลาล่องเรือคือ 1 ชั่วโมงคะ
ล่องเรือเสร็จก็เดินถ่ายรูปเล่นบริเวณหอไอเฟล มากี่ครั้งก็ประทับใจ อยากกลับไปอีก
หลังจากนั้นก็กลับไปนอน ตื่นมาก็ไปทานอาหารที่ Hard Rock Paris คะ ซื้อแพ็คเกจที่ getyourguide เหมือนเดิม บริเวณรอบๆมีร้านอาหารหลายร้านมากคะ
วันที่สาม วันศุกร์ ที่ 31 กรกฎาคม 2558
วันสุดท้ายแล้วแอบเศร้า :(
เริ่มต้นด้วยการเดินหาชานชลาของ Eurostar ที่สถานี Gare Du Nord เดินหาอยู่พักใหญ่ๆเลย ดีนะเผื่อเวลาไว้เยอะ ควรจองตั๋วล่วงหน้านานๆ จะได้ตั๋วในราคาถูก รถไฟใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงลอนดอน
โปรแกรมแรกคือไปหาชานชลา 9 เศษ 3 ส่วน 4 คะ เดินหาอยู่นานมากๆเพราะไม่รู้ว่า สถานี London St. Pancras Int'l มี 2 ตึกซึ่งอยู่ใกล้กัน หาชานชลาเจอแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปคะเพราะคนเยอะมาก เราคิดว่าถ้ามาตอนดึกๆ อาจจะไม่มีคน
จากนั้นก็ไปที่ Emirates Cable Car คนไม่เยอะ นั่งชมวิวเพลินๆก็โอเคคะ เราไปลงที่ North Greenwich ซึ่งบริเวณรอบๆสถานีก็มีร้านอาหารหลายร้าน แล้วก็มี O2 Arena ด้วย เราไปเจอบูทของนิสสัน เค้าจัดบูทดีมากคะ มีกิจกรรมให้ทำเข้าร่วมนิดๆหน่อยๆ เพลินดี
ที่ต่อไปคือ Arcelor Mittal Orbit ที่ Olympic Park เฉยๆมากคะ ธรรมดามากถ้าเทียบกับหอไอเฟล ค่าตั๋วก็แพงตั้ง 15 ปอนด์ ไม่กลับไปอีกแน่นอน
จากนั้นก็ไปหาไรกินที่สถานี King Cross บริเวณรอบๆสถานีมีร้านอาหารหลายร้าน ขอแนะนำร้านนี้คะ Chop Chop อาหารอร่อย ราคาไม่แพง
จบแล้วคะทริปสุดท้ายของปี 2558
Create Date : 07 พฤษภาคม 2559 |
Last Update : 8 พฤษภาคม 2559 22:34:22 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2079 Pageviews. |
|
|
|