Group Blog All Blog
|
ครั้งแรกกับประสบการณ์ดูคอนเสิร์ตสุดชิวที่ Denver Botanic Garden ก่อนอื่นต้องท้าวความไปเมื่อประมาณเดือน พ.ค. เดือนที่กำลังเปลี่ยนฤดูจาก Spring มา Summer .. ช่วงเดือนนั้น สถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตหลายๆ ที่ เช่น Red Rock Amphitheater หรือ Denver Botanic Garden จะพร้อมใจกันเปิดให้ประชาชนทั่วไปจับจองซื้อตั๋วคอนเสิร์ต เราเอง .. หลังจากที่โชคชะตาพัดพาให้มาอยู่ไกลถึงประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีอะไรที่ดีไปกว่าการได้ดูคอนเสิร์ตสดๆ จากศิลปินนักร้องที่ชื่นชอบและไม่ต้องรอนานเหมือนที่อยู่กรุงเทพฯ .. แถมนักร้องบางคนที่เราชอบก็ไม่ได้ใหญ่โตพอที่จัดทัวร์คอนเสิร์ตที่เมืองไทยอีกตะหาก ครั้งนี้เลยถือโอกาส .. จับจองซื้อตั๋วไปดูนักร้องสาวคนโปรด Colbie Caillat ที่หลายๆ โมเม้นต์ในชีวิตของเราได้ผูกพันกับเพลงของเธอ .. แถมยังมี Alex and Sierra นักร้องคู่หนุ่มสาวที่เพิ่งชนะ The X Factor มาเป็นวงเปิดให้อีกตะหาก .. อะไรจะคุ้มไปกว่านี้? ไม่มี๊!!! ==================================================== ช่วงสัปดาห์ก่อนวันแสดงคอนเสิร์ตจะมาถึง .. เราแอบใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เพราะว่าช่วงนี้อากาศแปรปรวนบ่อย ไหนจะร้อน ไหนจะฝน ไหนบางวันอุณหภูมิเย็นลงแบบไม่ทันตั้งตัว .. เราดูพยากรณ์ล่วงหน้า ปรากฏว่าฝนจะตกในวันที่มีคอนเสิร์ตอีกตะหาก .. แอบจิตตก! เพราะ Botanic Garden เป็นสถานที่เปิด ไม่มีที่ร่ม บวกกับเงื่อนไขของตั๋วคือ All shows are rain or shine. Tickets cannot be exchanged and are non-refundable. นั่นหมายความว่า คอนเสิร์ตจะจัดขึ้นไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออกและขอตังค์คืนไม่ได้นะจ๊ะ .. ดังนั้น คนดูต้องเตรียมตัวให้พร้อม!! เราแอบตื่นเต้นเล็กน้อยในเรื่องของการเตรียมตัว .. ไม่รู้ว่าเล็กน้อยรึป่าวนะ แต่ก็เตรียมไปพอประมาณ คิดในใจว่าแค่นี้น่าจะพอแล้ว .. ในเว็บมีแนะนำด้วยว่าหากใครอยากเอาเก้าอี้ดูคอนเสิร์ตไปก็สามารถนำไปได้โดยมีความสูงไม่เกินที่กำหนดไว้ ส่วนเราไม่มีเลยเอาแค่เสื่อไปและตัดสินใจไม่เอาร่มไปเพราะคิดว่าฝนน่าจะตกปรอยๆ ติดแค่ Rain Jacket ไป .. คิดในใจว่าเท่านี้ก็น่าจะเอาอยู่ ที่เหลือก็เหลือแต่ "ใจ" เท่านั้น .. แค่นี้เราก็พร้อมออกเดินทางแล้ว โยว่!!  August 27th, 2014 : และแล้ววันคอนเสิร์ตก็มาถึง เราตื่นนอนแต่เช้า ตั้งใจอ่าน information ต่างๆ ให้แน่ใจอีกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจออกจากบ้านตอนบ่าย 3.45pm กะว่าจะหนีรถติดเวลาเลิกงาน + เผื่อเวลาหลงทาง + เผื่อหาที่จอดรถไม่เจอ แถมครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเราในการขับรถไป Denver Botanic Garden คนเดียวเสียด้วย .. /แอบหวั่นใจเบาๆ และแล้วเราก็ไปถึงจุดหมายตอน 4.15pm (ระยะเวลานี้รวมหลงทาง ขับรถผ่าน parking lots แบบไม่รู้ตัวไว้แล้ว เฮ้อออ! -____-' ) แอบคิดในใจว่าน่าจะได้เข้าประตูไปจองที่นั่งเลย .. แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น .. เพราะไม่รู้ว่าตั้งใจอ่านมากไปรึป่าว ทำให้เรา "อ่านผิด" ไปถึงก่อนประตูเปิดเกือบ 2 ช.ม.!! ปลอบใจตัวเองเบาๆ ว่าเอาน่า อย่างน้อยมาเร็วก็ได้ต่อแถวอยู่ข้างหน้าๆ พอตอนประตูเปิดตอน 6 โมงจะวิ่ง 4x100 เข้าไปจองที่นั่งทันที .. แต่หลังจากยืนปลอบใจตัวเองได้ไม่นาน .. ก็รู้สึกเหมือนมีเม็ดอะไรตกใส่หัว เราเงยหน้าไปมองบนท้องฟ้า .. นั่นเลย!! ลูกเห็บตก!! .. ฝรั่งแถวนั้น รีบสวมใส่ Rain Gear และกางร่มทันที .. เราเองคว้าเสื้อกันฝนตัวบางๆ จะกันได้ก็ได้แต่ฝนปรอยๆ เท่านั้น แต่ไม่อาจกั้นความเจ็บเล็กๆ ที่ลูกเห็บตกใส่หัว (>.<) /ให้มันได้หยั่งงี้สิ แอบเจ็บใจตัวเองที่ไม่ได้ติดร่มมา เฮ้อๆๆๆๆๆ .. ระหว่างที่ลูกเห็บกำลังตกใส่หัวอยู่นั้น .. เราแอบสังเกตผู้คนรอบข้างว่าเค้าเตรียมตัวอะไรกันมาแค่ไหน สรุปว่า ฝรั่งที่นี่ "จัดเต็ม" มากกกกกก!! They take it seriously!! แอบมองดูอยู่นาน ขอสรุปอุปกรณ์การดูคอนเสริ์ตคร่าวๆ (เราขอคิดศัพท์ขึ้นมาเองว่า Concert Gears) ตามนี้ : 1. ชุดกันฝน (Rain Gear) : จัดกันมาทั้ง Rain Jacket และแบบกางเกง Rain Pants 2. รองเท้าผ้าใบแแบบกันน้ำ 3. ร่มหลากหลายขนาด 4. เก้าอี้นั่งดูคอนเสิร์ตแบบพกพา : อารมรณ์ประหนึ่งดังเก้าอี้แคมป์ปิ้ง แค่มีขนาดเล็กกว่าเท่านั้น 5. เสื่อรองนั่งแบบกันน้ำ 6. กระติกน้ำ Cooler แบบใหญ่ : สามารถผลิกฝากลับมาตั้งขวดและแก้วไวน์ได้ (บ้างถึงกับมีขาตั้งแก้วไวน์แยกออกมาตะหากกันเลยทีเดียว) 7. ตระกร้าปิคนิค 8. ผ้าห่ม! เราแอบสำรวมจิตอยู่เบาๆ พร้อมพูดกับตัวเองว่า "ข้าน้อยขอคารวะ" .. คราวหน้าถ้ามาดูคอนเสิร์ตที่นี่อีก จะไม่พลาด .. จะขนทุกอย่างที่อยู่ในบ้านมาให้หมดเล้ยยยยย!! เวลาผ่านไปจนถึง 18.00 น. ประตูเปิด ผู้คนต่างลุกขึ้นยืน เก็บข้าวของ ทยอยกันเดินผ่านประตูเข้าไป .. ส่วนเราเอง มั่นใจมากว่าเราเป็น 1 ใน 50 คนแรกของแถวน่าจะได้ที่นั่งที่ดีที่สุด จะรีบเข้าไปหาจุดเหมาะๆ และปูเสื่อหน้าเวทีกันเลยทีเดียว .. เราเดินผ่านด่านแต่ละด่านเข้าไปจนถึงด่านสุดท้าย รีบสาวเท้าก้าวยาวๆ เคลื่อนตัวไปด้วยความเร็วสูง .. และเมื่อไปถึงหน้าเวทีก็พบว่าที่นั่งโซนหน้าเวทีถูกจับจองกันไปหมดแล้ววววว!! แป่วววววว!! อารมณ์เซ็งบังเกิด! .. อะไรกันๆๆๆ เราว่าเรามาไวแล้วนะ ทำไมถึงไม่ได้นั่งที่ตรงนี้ .. มารู้จากเพื่อนสาวอีกทีว่า .. คนที่นี่ ถ้าคนไหนชอบดูคอนเสิร์ตในสวนมากๆ .. เค้าจะสมัครเป็น membership แบบรายปีได้สิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย เช่น ได้ตั๋วราคาพิเศษและได้เข้ามาจับจองที่นั่งก่อนแบบไม่ต้องต่อคิว! เฮ้ออออ!! ให้มันได้อย่างงี้สินะ ส่วนลักษณะที่นั่งของที่นี่จะมีเวทีคอนเสิร์ตอยู่ตรงกลางและล้อมรอบด้วยที่นั่งซึ่งทำด้วยสนามหญ้าแบบลาดเท (Slope) อยู่รอบๆ ตัวเวที .. เมื่อแดดร่มลมตก .. ผู้คนเริ่มเข้ามาจับจองที่นั่ง .. สิ่งที่เห็นก็เป็นดั่งภาพนี้ :)  และคอนเสิร์ตก็เริ่มขึ้น .. เปิดการแสดงคอนเสิร์ตโดย Alex and Sierra ผู้ชนะรายการ The X Factor ล่าสุด (คิดว่าน่าจะเป็นปีสุดท้ายด้วย) .. วันนี้เป็นวันแรกของทั้งสองคนกับการ On Tour ครั้งแรกในชีวิต .. ทั้งคู่ร้องเพลงกันไปหลายเพลงและปิดโชว์ตัวเองด้วยเพลง Scarecrow ซิงเกิ้ลเปิดตัวอัลบั้มของตัวเอง .. เพื่อนสาวของเราไม่รู้จักสองคนนี้ (เทอไม่ดู TV) .. แต่เมื่อได้ยิน Sierra ร้องสด ถึงกับอุทานออกมาว่า "WOW!! She has a beautiful voice!!" และแถมต่ออีกนิดนึงว่า "I believe they will go far" .. ว้าวววว! เราซึ่งเป็น FC ของสองคนนี้ถึงกับดีใจแบบบอกไม่ถูก .. และดีใจยิ่งกว่าที่ได้มาดูทั้งสองคนร้องเพลงสดในคืนนี้ .. ในระหว่างนั่งรอ Colbie Caillat อยู่นั่นเอง .. ฟ้าก็แล่บ แปล๊บ แปล๊บ! ฝนก็เริ่มตกลงมา .. เราหวั่นใจและเริ่มหันไปมองผู้คนรอบด้าน .. ปรากฎว่าไม่มีใครขยับตัวไปไหน จะมีก็เพียงแต่หยิบร่มขึ้นมากาง ผู้คนเริ่มสวมใส่แจ็คเก๊ตกันฝนเท่านั้น .. หันไปถามเพื่อนว่า "อันตรายมั้ย ถ้าเราจะนั่งอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน" .. เพื่อนสาวตอบมาด้วยสำเนียงเรียบๆ ว่า "แย่ที่สุด ก็แค่ฟ้าผ่าลงพื้นและเราคงจะได้ลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งกันเท่านั้นเอง" .. เอ๋ยยยยยยย!! น่ากลัวจริงๆ Thunder Storm ที่นี่!! .. ไม่ทันขาดคำ .. เจ้าหน้าที่ก็ประกาศว่าพายุจะผ่านมาตรงจุดที่เรานั่งกันพอดี ขอให้ทุกคนย้ายที่ไปอยู่ในตัวอาคารซึ่งปลอดภัยกว่า .. จะประกาศให้ทุกคนทราบอีกทีเมื่อพายุฝนผ่านไปแล้วและคอนเสิร์ตพร้อมที่จะแสดง!! / มู๊ฟค่ะมู๊ฟ พวกเรามู๊ฟกันทันที!! เรากับเพื่อนเข้ามาหลบในตัวอาคารและถือโอกาสนี้ในการเข้าห้องน้ำ ล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย .. ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ก็ประกาศว่าพายุได้ผ่านไปแล้วและการแสดงจะเริ่มขึ้นใน 15 นาทีนี้! โชคดีมากที่เรากลับมาได้ที่นั่งที่เดิม .. ยังไม่มีใครแย่งไป กลัวที่สุดคือต้องไปนั่งตรงหลังเวที เห็นแต่ตูด Colbie คงไม่เอาด้วยแหละ 5555 และในที่สุด .. Colbie ก็ออกมาในชุดจั๊มพ์สูทสีดำ มัดผลรวบตึงพร้อมกับเริ่มร้องเพลง .. การแสดงเป็นไปอย่างราบรื่นสุนทรีย์ .. Colbie เล่น Ukulele บ้าง เล่นเปียโนบ้าง แต่จะเล่นกีตาร์พร้อมกับร้องเพลงไปด้วยเป็นหลัก .. ส่วนเราเองประทับใจที่สุดเมื่อถึงเพลง Bubbly .. ทุกคนในนั้นร้องได้ จน Colbie ถึงกับมีช่วงหยุดและถามคนดูว่า "Do you wanna sing?" .. แน่นอน! คนดูทุกคนตะโกนตอบไปว่า "YESSSSSS!!" จากนั้นทุกคนก็เริ่มร้อง "Start in my toes, and I crinkle my nose. Wherever it goes, I always know. You make me smile, please stay for a while now. Just take your time, wherever you go." ไม่น่าเชื่อเลยว่า "Bubbly" จะอยู่ในใจหลายๆ คนได้นานขนาดนี้ .. เพลงนี้ออกสู่ตลาดคนฟังครั้งแรกในปี 2007 .. นับนิ้วไปมา นี่ 7 ปีแล้วหรอเนี่ย .. This song never grow old to me! เราร้องเพลงคลอไปมาเบาๆ อดใจไม่ไหวที่จะหันไปบอกกับเพื่อนว่า "สุดยอดอ่าาาา" มันเป็นโมเม้นต์ที่สวยงามมากจริงๆ  ไม่นานนัก .. Colbie ก็ต้องประกาศให้เรารู้ว่าเพลงที่เธอจะร้องต่อไปจะเป็นเพลงสุดท้ายแล้ว .. เธอกล่าวขอบคุณคนดูที่ยังไม่ไปไหน (ถึงแม้ฝนจะตกหนักก็ตาม) และยังคงอยู่ด้วยกันจนจบการแสดง .. เธอแจก Ukulele ตัวหนึ่งให้กับคนดูหน้าเวทีและโปรยสติ๊กเกอร์ Gypsy Heart ไปให้คนดูรอบๆ เวที .. วันนั้น .. เรากับเพื่อนโบกมือลา Colbie พร้อมกับโยกตัวเบาๆ ไปกับเพลง "Brighter than the sun" .. เราสองคนจับมือกัน เดินหันหลัง จบค่ำคืนนั้นไปด้วยความรู้สึกดีๆ .. อิ่มเอมกับทุกๆ เพลงแห่งความสุขและลืมเรื่องทุกข์จากฝนฟ้าคะนองไปเลย .. .... อยากให้เพื่อนที่รักของเราทุกคนมาอยู่ทีนี่ .. ได้มาดูคอนเสิร์ตนี้ด้วยกันจัง คิดถึงทุกคนที่เมืองไทยนะ :) รักและสวัสดี XOXO
|
monpanfalone
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |
|||||||||||||
แค่อ่าน..ชั้นก้อแฮปปี้แล้ว ^^