หุ้นตามวัย!! !! หุ้นตามวัย !! อย่างที่หลายท่านทราบกันแล้วว่า การออมเงินไว้กับธนาคารเพียงอย่างเดียวเสี่ยงต่อการมีเงินออมไม่พอใช้ในอนาคตอันเนื่องมาจาก "ภาวะเงินเฟ้อ" ดังนั้นการจัดสรรเงินออมไปลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายจึงเป็นเรื่องสำคัญของทุกคน เพราะ สินทรัพย์แต่ละประเภททําหน้าที่ต่างกัน บางอย่างเพื่อเป็นสภาพคล่อง บางอย่างสร้างกระแสเงินสด ลำดับแรกที่ควรพิจารณาคือ ส่วนที่เป็นสภาพคล่องซึ่งส่วนนี้ควนมีไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในช่วงระยะเวลา 4-6 เดือนก็เพียงพอแล้ว และลำดับถัดไปที่ต้องพิจารณาคือ ส่วนของเงินออมที่นำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆเพื่อสร้างผลตอบแทนในรููปของกระแสเงินสด ตัวอย่างของสินทรัพย์ เช่น ตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ หุ้นสามัญ อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกองทุนรวมต่างๆ ซึ่งสินทรัพย์แต่ะละชนิดนั้นให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกัน รวมถึงความเสี่ยงด้วยเช่นกัน และความความเสี่ยงของสินทรัพย์แต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ดังนั้น คนในแต่ละวัยก็จำเป็นจะต้องปรับรูปแบบการเลือกสินทรัพย์แต่ละประเภทให้เหมาะสมกับตัวเอง ตัวอย่าง ถ้าเราเกษียณแล้วไม่มีรายได้ มีแต่เพียงเงินออมเท่านั้น การลงทุนของเราก็ควรที่จะรักษาเงินต้นมากกว่าที่จะไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเพราะ หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาเราจะสามารถดูแลตัวเราเองได้อันเนื่องมาจากความสามารถทางร่างกายที่ลดน้อยถอยลงไปตามกาลเวลา แค่ไหนถึงจะเหมาะสม?? ทั่วไปแล้วแนวทางที่เราใช้พิจารณาคือ หากอายุยังน้อย (25-40) มีเวลาทำงานหาเงินอีกนาน ต้องการเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนให้งอกเงยอย่างรวดเร็วโดยที่เราสามารถยอมรับความเสี่ยงที่สูงมากขึ้นได้ ก็สามารถลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูง จำพวก กองทุนรวมหุ้น หุ้น กระทั่งตราสารอนุพันธ์ ในสัดส่วนที่สูงได้มากกว่า 80% หรืออาจจะ 100% ของเงินออมได้ หากอายุเริ่มเพิ่มขึ้น (41-60) ในวัยนี้หลายคนเริ่มมีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายพวกค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ดูแลครอบครัว พ่อแม่ กระทั่งค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายตัวเองที่เริ่มเสื่อมถอยลงไป ทำให้ไม่สามารถที่จะรับความเสี่ยงได้เต็มที่เหมือนกับวัยก่อน จึงทำให้อาจต้องปรับสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์โดย อาจต้องปรับลดสัดส่วนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงลงมาให้เหลือเพียง 60-70% และปรับสัดส่วนไปสู้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำพวก ตราสารหนี้่ พันธบัตรรัฐบาล 30-40% และสุดท้ายช่วงวัยเกษียณ (60++) เป็นวัยที่หลายคนเริ่มไม่มีรายได้จากการทำงานแล้ว เหลือเพียงแค่เก็บออมที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต ดังนั้น ในช่วงวัยนี้จึงไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาจะไม่มีโอกาสแก้ตัวเพื่อไปหาเงินทุนใหม่ เนื่องด้วยความสามารถในการทำงานก็ลดลงไป ดังนั้นในวัยนี้จึงควรเน้นการรักษาเงินต้น และพยายามรักษาผลตอบแทนให้ชนะเงินเฟ้อ โดยลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนไม่ควรเกิน 20% ของเงินออม จากตัวอย่างข้างต้น สัดส่วนการลงทุนอาจมีการปรับเปลี่ยนได้จากภาวะเศรษฐกิจ ฐานะ และปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านนะครับ และพบกับคราวหน้าที่ Blog moneymethailand.bloggang.com นะครับ |
Fully Memory
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Master Of Money All Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |