กรกฏาคม 2559

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
12
13
15
16
17
18
19
20
22
23
24
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
ความคิด..อาวุธร้าย



เมื่อวานไตร่ตรองบางเรื่อง
กับสิ่งที่เคยทำกับบางคน
บทสรุปที่ได้มาคือ
เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ล้วนมาจาก "ความคิด" ทั้งนั้น
คิดโน่น คิดนี่ คิดนั่น
เป็นมโนอากาศ 
ไร้รูป กลิ่น เสียง
และรสสัมผัส
จับต้องก็ไม่ได้
ล่องลอยไปมาอยู่ในหัว
แต่ช่างก่อให้เกิดความร้ายกาจ
ตามมามากมาย
คล้ายอาวุธ..ในการฆ่าฟัน
มนุษย์เราประการหนึ่ง


ลองอ่านบทความข้างล่างนี่ดูนะคะ
เราเป็นแบบนั้นกันด้วยหรือเปล่า

"คิดเก่ง ทุกข์เก่ง"

พระฝรั่งรูปหนึ่งเล่าว่า ก่อนบวชเคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลดูแลผู้พิการทางสติปัญญา 
ท่านสังเกตว่า ผู้ป่วยที่คิดอะไรได้น้อยมักร่าเริงและมีความสุขกับชีวิตประจำวัน
แต่คนที่คิดได้มากกว่ากลับเป็นทุกข์และสร้างปัญหาให้ตัวเองได้มากตามไปด้วย

ข้อสังเกตนี้คงใช้กับคนทั่วไปได้เช่นกัน
เพราะคนคิดมากย่อมมีโอกาสเป็นทุกข์ได้มาก
ยิ่งคิดซับซ้อน ความทุกข์ทางใจก็พลอยซับซ้อนไปด้วย

ความคิดของมนุษย์มีพลังอย่างยิ่ง
ความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุในปัจจุบันล้วนเป็นผลงานจากความคิดสร้างสรรค์
อีกทั้งความสำเร็จในชีวิตการงานมักจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการคิดเป็นสำคัญ
คนทั่วไปจึงเห็นแต่ประโยชน์ของความคิด
และไม่เห็นว่าเป็นที่มาของทุกข์ทางใจหลายประการ

หากความคิดทั้งหมดเป็นกุศล
คงไม่เป็นปัญหาแต่ประการใด แต่เราคงต้องยอมรับว่า
วามคิดของเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยเป็นไปในทางกุศลเท่าใดนัก
เราจึงต้องรับผลจากความคิดของตนเอง

ชีวิตในสังคมสมัยใหม่มีกิจกรรมให้สมองทำงานเกือบตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นการทำงานตามหน้าที่หรือการรับข้อมูลผ่านสื่ออันหลากหลาย
ความคิดที่ไม่หยุดหย่อนส่งผลโดยตรงต่อจิตใจ
หลายคนพบว่าความคิดตกค้างในใจยาวนาน จนบางคราวถึงกับนอนไม่หลับ
เวลาที่ต้องอยู่ตามลำพังก็อยู่กับตัวเองได้ยาก
เพราะไม่อาจเผชิญกับความคิดฟุ้งซ่านที่วิ่งไปเรื่องโน้นเรื่องนี้โดยไม่รู้จบ
บ่อยครั้งที่ความเหนื่อยล้าทางใจเกิดขึ้นจากการคิดไม่หยุดนี้เอง
นอกจากนี้แล้วยังมีความคิดเชิงลบอีกหลายประการ
ที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองขุ่นมัวและวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น

บทเรียนแรกในการปฏิบัติธรรมจึงเป็นการเฝ้ามองความคิดในใจ
ให้รู้ว่ายิ่งคิด ยิ่งทุกข์ หากปล่อยวางความคิดลงได้ก็เป็นสุข
และเมื่อพัฒนาทักษะการหยุดคิดได้แล้ว
จึงจะใช้ความคิดไปในทิศทางที่เหมาะสมต่อไป
การ "คิดเป็น" ในทางธรรมนั้น
นอกจากจะคิดเก่งแล้ว ยังต้องคิดดีและคิดให้เป็นสุขด้วย

"คิดเก่ง" หมายถึง การคิดอย่างคล่องแคล่ว มีประสิทธิภาพ
"คิดดี" หมายถึง การคิดถูกต้องดีงาม ไม่ขัดหลักศีลธรรม
ส่วน "คิดให้เป็นสุข" คือ คิดสร้างสรรค์ในทางบวกและรู้จักปล่อยวางความทุกข์ในใจ

สิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตที่ดีงามคือ
"การคิดเป็น" ประกอบกับ "การหยุดคิดได้" ในเวลาที่ควรจะหยุด
ทั้งสองอย่างนี้จะช่วยให้เราจัดการความคิดได้ลงตัวและมีสมดุล
ไม่ถูกลากจูงไปในทางสร้างทุกข์มากนัก

โลกนี้มีอะไรมากมายที่ไม่จำเป็นต้องคิด
บางอย่างรู้แล้วไม่เก็บมาใส่ใจน่าจะดีกว่า
หากเรายอมโง่บางเรื่องก็จะไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการคิดวุ่นวาย
ทำให้มีเวลานั่งมองและทำความเข้าใจชีวิตได้มากขึ้น

เคล็ดลับที่ว่านี้อาจดูเล็กน้อยจนหลายคนมองข้าม
แต่เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตเป็นสุขได้มากกว่าที่คิด

- ปิยสีโลภิกขุ -





มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ความคิดมากทำให้ทุกข์จริงๆ 
ยิ่งถ้าคิดเกี่ยวกับความรัก...ยิ่งทำให้ทุกข์
เพราะสิ่งที่คิดมักจะมาในทางร้ายๆ มากกว่าทางดีๆ 

สมมุติติดต่อแฟนหรือคนรักไม่ได้
โทร.ไปก็ไม่รับสาย ไลน์ไปก็ไม่อ่าน
ความคิดแรกๆ ที่บังเกิด น่าจะไม่ใช่ห่วงใย
แต่จะเป็นว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไรแล้วกับใคร
ทำไม..ถึงติดต่อไม่ได้

ประมาณนี้มากกว่า...
แล้วไงล่ะ
ใจใครที่ทุกข์..
ก็เจ้าของความคิดนั่นแหล่ะ
ถูกมั้ยคะ

เขาถึงว่า การคิดน้อยๆ มันน่าจะก่อให้เกิด

ความสุขมากกว่า...ก็แบบนี้แหล่ะ

เอาสมองไปคิดเรื่องอะไรที่ทำให้ตัวเอง

และคนที่ตัวเองรัก...มีความสุขดีกว่านะคะ

ถ้าเมื่อใดรู้สึกว่า กำลังคิดทางร้ายๆ 

เรียกสติไปจัดการเลย

เพราะยังไงเสีย

อะไรจะเกิด..มันก็ต้องเกิด

อย่าไปคิดก่อน....ทั้งๆ ที่มันยังไม่เกิดเลยค่ะ

เพราะมันเป็นการ หาเหาใส่หัว หาทุกข์ใส่ตัว

มากกว่า...นะ


ฟังเพลงเพราะๆ น่ารักกันค่ะ 

ชอบทำนองและดนตรีของเพลงนี้


การคิดถึงคนไกลๆ มันก็ดีอยู่นะ

ถ้าเราไม่เอาความคิดถึงไปทำร้ายตัวเองน่ะ

อิอิ....









Create Date : 21 กรกฎาคม 2559
Last Update : 21 กรกฎาคม 2559 14:46:59 น.
Counter : 3303 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sunny-low
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ความทุกข์
สอนให้อดทน
ถ้าผ่านมันได้
ก็จะเจอความสุข...