Group Blog
 
All blogs
 
กรงพยัคฆ์ บทที่ 8

กรงพยัคฆ์ บทที่ 8

รินวิฬาร์มองประตูห้องที่ปิดลงอย่างตะลึงก่อนจะตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสภาพไหน เขาจับเธอแก้ผ้าแล้วใส่กุญแจมือเธอ!

“ไอ้สารเลว ไอ้ชาติชั่ว” เธอกรีดร้องอย่างขัดใจร่างแบบบางดิ้นฮึดฮัด มือกระชากกุญแจมือที่คล้องติดกับเสาเตียงแรงๆ ไม่มีทีท่าว่ามันจะหลุดออกมาง่ายๆเธอยิ่งหงุดหงิดโมโห

“อ๊าย” เธอยังดึงข้อมือตัวเองไม่เลิกจนข้อมือแดงและถลอก ผิวเนื้อที่เริ่มแสบทำให้เธอรู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรโง่ๆเธอหยุดทำร้ายตัวเอง มืออีกข้างที่ว่างปาดน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาเพราะความคับแค้นใจตาเริ่มกวาดมองไปทั่วห้องเพื่อหาตัวช่วย

เธอค่อนข้างมั่นใจว่านี่เป็นห้องของเขา...ห้องนอนห้องของเขาตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นเรียบง่าย นอกจากเตียงไม้หลังใหญ่กับโต๊ะหัวเตียงและโคมไฟไม้ไผ่แล้วของตกแต่งที่เหลือเป็นเพียงโทรทัศน์จอแบน ชุดเครื่องเสียง และเก้าอี้นอนไม่มีรูปภาพ ไม่มีของประดับ ไม่มีอะไรเลย ห้องของเขาโล่งมากถึงมากที่สุด และดูไร้อารมณ์เหมือนสีหน้าของเจ้าของห้องที่เธอเคยเห็นในรูปภาพ...แต่ไม่เหมือนตัวจริงที่เธอได้เจอตัวตนที่ดูร้อนแรงและเจ้าอารมณ์

จูบของเขาผ่านเข้ามาในห้วงความคิดแวบๆเธอเม้มปากแล้วสะดุ้งเนื่องจากเม้มโดนรอยกัดของเขา

“ไอ้หมาบ้า” เธอกระซิบอย่างคุมแค้นนี่ถ้าในห้องของเขามีรูปอดีตคนรักประดับประดาละก็ เธอจะต้องคิดว่าเขาเป็นไอ้โรคจิตที่เห็นเธอเป็นตัวแทนของยูคาริแน่ๆ

หรือไม่บางทีเขาคงจะคิดอย่างนั้นถึงได้จับเธอไว้เป็นเชลย...

เธอลองเอื้อมมือไปที่โต๊ะข้างหัวเตียงปลายนิ้วเธอเกือบจะแตะปลายโต๊ะได้ แต่ติดกุญแจมือที่ขังเธอไว้กลางเตียงเธอเปลี่ยนมาดูซี่ไม้ที่ล็อกกุญแจมือไว้ เธอลองกระชากอีกครั้งไม้แข็งแรงชนิดที่ถ้าไม่ใช้พละกำลังหรืออาวุธทุ่นแรงคงจะทำลายไม่ได้เสียดายที่เขาฉลาดจับเธอถอดเสื้อผ้าจนหมด ไม่อย่างนั้นกุญแจมือแค่นี้ก็เอาเธอไม่อยู่ขอให้ได้อะไรเล็กๆ แหลมๆ แหย่เข้าไปในรูกุญแจเท่านั้น...

เสียงดังครืดๆ บนพื้นเรียกให้เธอหันไปมอง มีคนโทร.เข้าโทรศัพท์มือถือของเธอเดาว่าจะต้องเป็นบิดา เพราะเธอหายตัวไปร่วมชั่วโมงแล้ว เธอหมุนตัวเข้าหาพนักเตียง ออกแรงถีบเท้าคู่ใส่หวังว่าไม้จะแตก

“โอ๊ย!” เธอร้อง เท้าหดกลับมือลูบข้อเท้าของตัวเองที่แดงน้อยๆ

เจ็บเป็นบ้า และเปล่าประโยชน์สิ้นดีไม้นี้แข็งแรงอย่างที่คาด ยามากูชิไม่ใช้ของถูกคุณภาพต่ำ

“จุ๊ๆ ยังอุตส่าห์ซนจนได้นะแมวน้อย”

รินวิฬาร์หันกลับไป เจ้าของห้องก้าวเข้ามาช้าๆตากวาดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า หญิงสาวพยายามบิดตัวเพื่อซ่อนร่างกายที่เปิดเปลือยเธอได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอ

“ไม่มีประโยชน์หรอกมี่จัง” เธออายแต่เธอก็ยังกล้าสบตากับเขา เขาชักจะชอบเธอมากขึ้นทุกทีๆ

โทรศัพท์ของเธอสั่นอีกครั้งดวงตาสีดำจับจ้องหน้าจอที่กะพริบไฟ เขาก้มลงไปเก็บมันขึ้นมา ชื่อผู้โทร.เข้าคือไทเกอร์...เสือ...หนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดของเธอ

“เป็นห่วงกันรวดเร็วทันใจดีนะ”

“อย่านะ”

แต่เขาไม่สนใจ นิ้วแตะปุ่มรับสาย

“มี่...”

“ตอนนี้มี่จังไม่ว่างรับสาย” เสียงทุ้มตอบกลับไป

“กะ...แกเป็นใคร มี่อยู่ไหน แกทำอะไรมี่”

“ไม่ต้องห่วงหรอกนะ มี่จังปลอดภัยดี”อคินมองเหยื่อที่กระชากข้อมืออย่างขัดเคืองแล้วตะโกน

“คุณเสือ มี่อยู่ที่ยามากูชิ”

ศาลทูลได้ยินเสียงลูกสาวแว่วๆ

“มี่...มี่...ยายมี่...”

“ตะโกนไปเธอก็ไม่ได้ยินหรอก”

“รู้แล้วนี่ว่าเธออยู่ที่ไหน ถ้าอยากได้เธอกลับก็มาตามหาที่นี่ละกัน”เขากดวางสายและปล่อยให้โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง...อีกครั้ง...และอีกครั้งแต่เขาไม่สนใจ เชื่อทีเดียวว่ายังไงแบล็กแคทจะต้องมาตามสมาชิกกลับไป

อคินเก็บโทรศัพท์ของเธอใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปหาหญิงสาว ตาเหลือบเห็นรอยถลอกจนเลือดซิบบนข้อมือของเธอ เขาส่ายหน้าไปมา

“ชอบทำให้ตัวเองเจ็บตัวหรือ”

“ก็แกทำบ้าอะไร โรคจิตหรือไง ถึงได้ทำแบบนี้ แล้วยังมีของแบบนี้อยู่กับตัวอีกด้วย”เธอเขย่ามือ เสียงกุญแจมือกระทบพนักไม้ดังแกรกๆ อกของเธอกระเพื่อมตามแรงกระชากใจของเขาเต้นแรงนิดๆ ภาพนั้นน่าดูเกินไป...เย้ายวนใจมากเกินไป

“มีคนเคยให้ฉันเอาไว้แต่เห็นทีคงจะต้องเปลี่ยนกุญแจมือนี่สักหน่อย” ชายหนุ่มนึกไปถึงกุญแจมือหุ้มขนเฟอร์นุ่มนิ่มแบบที่มักจะเห็นในหนังเอสเอ็มสิบแปดบวกซึ่งถ้าเขาเอามันมาใช้กับเธอ เธอคงจะต้องยิ่งเห็นว่าเขาเป็นไอ้โคตรโรคจิตแหงๆ

“มี่จังไม่น่าทำร้ายตัวเองเลย” นิ้วใหญ่ไล้ไปรอบๆบาดแผล เลือดซึมออกมาจากรอยบาก เธอตะลึงเมื่อเขาก้มหน้าลงแล้วเลียหยดเลือดออกไป

“อย่า...” เสียงห้ามของเธอเบาโหวง รู้สึกแปลกๆกับความอ่อนโยนปนวาบหวามของเขา เขาหยุดตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอไม่แน่ใจเมื่อสติกลับคืนมาอีกที ก็พบว่าเขาหยิบบราของเธอที่อยู่ปลายเท้าของเขาขึ้นมาสวมให้เธอจากนั้นก็หันหลังกลับและเดินไปที่ประตู เธอได้ยินเขาพูดอะไรบางอย่างไม่ชัดเจน...น่าจะคุยกับบอดีการ์ดของเขาก่อนจะเดินกลับหาเธออีกครั้ง

“ปล่อยฉันไปเถอะ” น้ำเสียงอ้อนวอน จะให้เธอพูดออดอ้อนน่าสงสารกี่ครั้งก็ได้ขอเพียงเขายอมปล่อยเธอ แล้วเธอจะหาทางเอาคืนให้สาสม!

อคินส่ายศีรษะปฏิเสธ“ฉันจะเอากุญแจมือออก ถ้าเธอไม่ดื้อ”

“อย่างนั้นก็เอาออกสิ”

“ไม่ใช่ตอนนี้”

“ไอ้โรคจิต”แล้วเธอก็อดไม่ได้พ่นคำด่าเขาเป็นชุด เขาหัวเราะนิดๆ นี่ยังไงเล่าเหตุผลที่ว่าทำไมเขาไว้ใจเธอไม่ได้ ภายนอกเธออาจจะดูอ่อนและยอมแต่ภายในของเธอยังแข็งกร้าวและต่อต้าน

เสียงเคาะประตูดังขึ้นชายหนุ่มผละจากเธอเดินไปที่ประตู ปุณณ์ส่งกล่องสีขาวที่มีเครื่องหมายบวกสีแดงให้นายอคินเดินกลับมานั่งข้างๆ เธอ กล่องปฐมพยาบาลวางไว้ห่างมือเธอเอื้อม สีหน้าขัดใจของรินวิฬาร์แปรเปลี่ยนเมื่อเห็นเขาหยิบน้ำเกลือสำหรับล้างแผลออกมาพร้อมกับสำลีเขาบีบน้ำเกลือใส่สำลีจนชุ่มโชก

“ไม่เอานะมันแสบ” เธอถอยห่างจากเขา ทั้งที่ข้อมือติดอยู่ที่พนักเตียง เธอไม่ชอบทำแผลมาตั้งแต่ไหนแต่ไรและเกลียดหมอกับโรงพยาบาลเป็นที่สุด เธอเคยมีประสบการณ์ไม่ดีในการหาหมอสมัยอายุเจ็ดขวบเป็นไข้เลือดออกขั้นที่สอง เกือบจะตาย เธออาเจียนเป็นเลือดพ่อต้องรีบพาไปโรงพยาบาลวุ่นวาย เธอนอนแซ่วในโรงพยายามหลายวันเธอจำหน้าหมอที่รักษาไม่ได้หรอกจำได้อย่างเดียวว่าพยาบาลที่เจาะเข็มน้ำเกลือกับเข็มเลือดให้เธอมือหนักมากหรือไม่ก็เป็นเพราะเส้นเลือดของเธอลึกจนหาไม่เจอ เลยโดนจิ้มหาไปหลายที จิ้มจนแขนช้ำไปหมดแถมพอจิ้มหาเส้นเลือดที่แขนไม่ได้ ก็ย้ายไปจิ้มที่เท้าแทน ทรมานเป็นบ้า

อคินเลิกคิ้วขันๆเธอไม่กลัวสิ่งบ้าระห่ำที่ตัวเองทำ แต่เธอกลัวน้ำเกลือล้างแผลอย่างนั้นรึ

“มี่จังคนเก่ง...สงสัยจะเก่งไม่จริงซะแล้ว”

“ฉันไม่ล้างแผล”หญิงสาวส่ายหน้ายิก

“ได้ยังไงสกปรกแย่ เดี๋ยวเชื้อโรคเข้าแผลนะ”

“ช่างมัน”

ชายหนุ่มไม่สนใจ เขาไม่พูดพล่ามทำเพลง มือจับข้อมือของเธอไว้แน่นแล้วเอาสำลีชุ่มน้ำเกลือโปะลงไปที่แผลเธอกรีดร้องและดิ้นพล่าน เธอพยายามยื่นมือข้างที่ว่างมาดึงมือเขา แต่เขาจับมือเธอไว้ไม่ปล่อยในที่สุด เมื่อชำระแผลพอใจ เขาก็เอาสำลีออก

“เห็นไหม แสบนิดเดียวเอง” และอย่างรวดเร็วเขาหยดเบตาดีนใส่แผล เธอสูดปากนิดๆ มือยังพยายามขัดขืนทั้งที่สู้แรงเขาไม่ได้สุดท้ายเขาก็แปะผ้ากอซแผ่นใหญ่ให้เธอเพื่อกันเชื้อโรคเข้าบาดแผลเปิด

“เสร็จแล้ว อย่าพยายามทำร้ายตัวเองอีกละคราวหน้าถ้าเป็นแผลอีก จะเอาแอลกอฮอล์ราดเลย”

“ซาดิสม์”

“เธอเองก็คงเป็นมาโซคิสม์ ชอบความเจ็บปวด”เขาพยักพเยิดไปยังบาดแผลของเธอก่อนจะปรายตามองโทรศัพท์มือถือที่สั่นเนื่องจากมีสายเข้า

“คนของเธอนี่ไม่เลิกรานะ ยังโทร.มาอยู่นั่น”

“เอาโทรศัพท์ฉันคืนมานะ”

อคินไม่สนใจคำขอแกมขู่ของเธอ เขาเอ่ยเนิบๆ

“มารอดูกันว่าเขาจะใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะถึงยามากูชิ”

เมื่อลงมาถึงข้างล่าง อคินก็เดาไม่ผิดว่าจะต้องพบใครโทดะคงสงสัยว่าเขาพาใครมาที่บ้าน และก็ไม่ผิดไปจากที่คาด ปู่ชิงเปิดปากถามเขาทันที

“เด็กคนนั้นเป็นใคร”

“มี่จังน่ะหรือครับ” อคินแสร้งเลิกคิ้ว

“มี่จัง?” คิ้วสีขาวขมวดม้วน “รู้จักกันรึ”

“ก็คงจะอย่างนั้นละครับ” เจอกันเมื่อวันก่อนได้จูบไปหลายครั้ง ให้คนสืบประวัติของเธอให้ อย่างนี้จะเรียกว่ารู้จักได้ไหมนะ

โทดะอึ้งไปเมื่อเห็นหลานชายอมยิ้ม ไม่ต้องสงสัยว่ามันต้องเป็นเพราะมี่จังคนนั้น...ผู้หญิงปริศนาที่มีอิทธิพลต่ออคิน

“รู้จักกันได้ยังไง”

“เดี๋ยวคุณปู่ก็คงจะรู้”

โทดะมั่นใจว่าหลานชายจะไม่ตอบหวังว่าปรานต์จะสืบหาข้อมูลของแม่หนูนั่นมาให้เขาได้ไวๆ

“ภายในวันสองวันนี้ เราอาจจะได้ต้อนรับแขกพิเศษ”

“ใคร”

“คนรู้จักของมี่จัง”

“ถามจริงอากิระ หลานไปเก็บเด็กคนนั้นมาจากไหนดูท่าเธอจะไม่ชอบใจสักเท่าไหร่นะ” ปรกติสาวๆมักจะวิ่งเข้าใส่ทายาทยามากูชิที่เปี่ยมด้วยเงินตราและอำนาจตรงข้ามกับผู้หญิงคนนั้น

“เอาเป็นว่าเธอเป็นคนของผมคุณปู่ปล่อยให้ผมจัดการก็แล้วกันครับ แต่ไม่ว่าเธอจะขออะไร ถ้าไม่มีคำสั่งจากผมผมไม่อนุญาต” น้ำเสียงที่ทิ้งท้ายเยือกเย็นและบ่งบอกว่าเอาจริงโทดะจนใจจะขัด...หรือความจริงก็ไม่อยากขัด เพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าอากิระกับผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวข้องกันอย่างไร




Create Date : 14 มีนาคม 2558
Last Update : 14 มีนาคม 2558 18:33:08 น. 0 comments
Counter : 1147 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.