Hello...O S A K A (B6)
O S A K A เ ดิ น ดุ่ ย ๆ ลุ ย โ อ ซ า ก้ า ... แ บ บ ไ ม่ ง้ อ ทั ว ร์
มาตามคำพูดสุดท้ายจาก Blog ที่ 5 "พบกันที่ OSAKA นะคะ" (Blog นี้ Blog ที่ 6 แล้วจ้า) เหมือนคำสัญญายังไงก็ไม่รู้ ไม่ใช่คำสัญญา ไม่ใช่คำเชิญชวนใดๆ เป็นเพียงบันทึกท่องเที่ยว อยากแชร์ อยากเล่าประสบการณ์อันดุ่ยๆค่ะ นี่เป็นการไปโอซาก้าครั้งแรกของเรา ข้อมูลที่เตรียมใช้ได้บางเรื่อง ไปจับทิศทางของจริงดีกว่า งง ๆ หน่อยแต่สนุกดี ไปที่ใหม่ๆ ไม่เอาลูกไปด้วยค่ะ เผื่อขึ้นลงรถผิดสาย มึนๆกับสิ่งแวดล้อม เด็กจะเครียดเปล่าๆและเด็กน้อยต้องไปโรงเรียนด้วย เราวันที่ 4-6 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา มัวแต่ยุ่งเลยๆ ไม่ได้ มาเขียน Blog...เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ
โปรแกรมท่องเที่ยว 2 คืน 1 วัน มีดังนี้ 1.ไปถึงดึกแล้ว หาไรกิน และพักผ่อนเตรียมลุย (iBis Hotel ประมาณ 3,000 บาท) 2.ปราสาทโอซากะ 3.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Aquarium Osaka Kaiyukan 4.นั่งฟรีชิงช้าชมเมือง ตามหาของสะสม "แก้วสตาร์บัค เมืองโอซากะ" 5.ไปชมวิวเมืองแบบ 360 องศา ที่ตึก Udema Sky Building 6.กลับมาเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม และ ชิมๆๆๆ ที่ย่าน Dontonburi 7.No Shopping แต่ซื้อขนมและของไปฝากลูกได้ (ฮาาาาาา) 8.นั่งรถไฟกลับสนามบิน และขึ้นเครื่องกลับตอนประมาณตี 1 ของวันที่ 6
งบประมาณ อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ไป (100 Yen = 34 บาท) 2.ค่าบัตร Osaka Amazing Pass 2,300 Yen / คน 3.ค่าบัตรเข้า Aquarium 2,200 Yen / คน 4.ค่าโรงแรม 3,000 บาท 5.ค่า Taxi กินข้าว กินขนม ของฝาก -ของสะสม บลาๆๆ ประมาณ 15,000 บาท
Let's Goooooo เดินทางโดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน XJ610 เวลาประมาณ 14:30 น.จากสนามบินดอนเมือง-สนามบินนานาชาติคันไซ ประเทศญ๊่ปุ่น (DMK-KIX) ใช้เวลาประมาณ 5 ชม. กว่าๆ บ้านมิ่งชอบบินประหยัดแต่เน้นพักสบาย เน้นกินค่ะ เราจองตั๋ว Promotion ไปกลับคนละประมาณ 6,000 กว่าบาท ติดตามโปรโมชั่น...จองตั๋ว กับ Airasia ได้เลยค่ะ
นั่งบนเครื่องอ่านข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิด จากเอกสารหลังเบาะหน้าที่นั่ง เล็งไว้แล้วบัตรเบ่ง Osaka Amazing Pass 1 Day Pass
ไปถึงก็ประมาณ 21 : 30 น. เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าไทยประมาณ 2 ชม. วันนั้นเจอคนไทยเยอะเมือนกันค่ะ พอ ออกจาก ตม. ก็มาซื้อตั๋วรถไฟไป โอซากา ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายพอดี เที่ยว 5 ทุ่มค่ะ เราใช้บริการรถไฟด่วน Airport Express ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ก็ถึงสถานีโอซาก้านัมบะ ฝนปรอยๆ นิดหน่อยไม่ได้เตรียมร่มไปด้วย เลยไม่ได้หยิบกล้องมาถ่ายรูป วางแผนไว้แต่แรกว่านจะเดินไปที่โรงแรม iBis ซึ่งห่างจากสถานนีรถไฟประมาณ 800 เมตร ต้องยอมรับว่างงมากเลยตัดสินใจเรียก Taxi ให้ไปส่ง เป็นที่รู้กันว่า Taxi ที่นี่จะดีมาก หอมสะอาด มี GPS ทุกคัน บริการก็สุภาพ ใกล้-ไกลแค่ไหนเขาก็ไม่เกี่ยงไปส่งถึงที่ไม่อิดออด แทบจะไม่ได้ยินเสียงแตรรถในญี่ปุ่นเลย ทางไปโรงแรมเป็นถนนเล็ก Taxi ก็ขับตามตูดคนไปเรื่อยๆ ไม่ยอมบีบแตรไล่ จนคนรู้ตัวว่ามีรถตามคนถึงหลบรถ (พอดีไปถึงก็ 5 ทุ่มกว่าแล้ว แถวที่พักจะกลายเป็นสถานที่อโคจร หนุ่มสาวออกมาท่องราตรีเพียบ)
พักที่ iBis Hotel OSAKA ย่าน Dotonbori ศูนย์กลาง ชม ชิม ช้อป
เปิดประตูห้องพักเข้ามาจะเจอเครื่องชงชา กาแฟ กาน้ำร้อน ไดร์เป่าผม สลิปเปอร์ตู้เสื้อผ้า อยู่ซ้ายมือ ขวามือเป็นห้องน้ำ เดินไปอีกนิดเป็นที่นอน
ในห้องพักมีครบทุกอย่าง เป็นสไตล์ของโรงแรมมในญี่ปุ่นเลยค่ะ เล็กๆ แคบๆ
ในห้องน้ำมีอ่างสำหรับแช่ตัวด้วย แต่ได้แบบนั่งนะคะ Shampoo Shower gel Shiseido ขวดใหญ่มาก โรงแรมในญี่ปุ่นจะไม่หวงของใช้พวกนี้ค่ะ
เก็บของเสร็จมาเดินเที่ยวประมาณเที่ยงคืนคนเริ่มบางตา รึอาจจะฝนปรอยๆ ด้วย คนเลยหาที่หลบฝน เราเดินหา Hord Rock Cafe แต่ไม่เจอ
เลยเดินข้ามถนนมาร้านนี้ หาไรกินก่อน บรรยากาศญี่ปุ๊นนน ญี่ปุ่น
นังปุ๊บพนักงานเสริฟก็ยกชาเขียวเย็นมาเสริฟเลยค่ะ แก้วสีน้ำเงิน และมีเหยือกน้ำไว้ให้เติมด้วย ช้อนตะเกียบ หยิบเองค่ะ
มาแล้วๆ อารหารเย็น (ตอนเที่ยงคืน)
คุณลุงกูลิโกะดูเงียบๆ เหงาๆ เค้าปิดไฟวิ๊งๆ รอบตัวลุงแล้ว ถึงเวลพักผ่อนแล้วสิ ราตรีสวัสดิ์ วันที่ 4 กันยายน 2559
M O R N I N G เช้าวันที่ 5 กันยายน 2559 เติมพลังกันที่นี่ ห้องอาหารของ iBis OSAKA พักที่นี่รวมอาหารเช้าด้วย
จานชามสีสรรสดใจ มองแล้วเจริญอาหารเลย
breakfast buffet ทั่วไป เราก็กินจุ๊บจิ๊บไปเรื่อย ชิมทุกอย่าง อย่างละนิด ทานวนๆ ไปค่ะแต่เน้นสไตล์ญี่ปุ่น
แบบฝรั่งก็มีค่ะ ที่นี่พนักงานจะไม่เก็บจานชาม จนกว่าเราจะลุกจากโต๊ะ จานกองเต็มยังไงก็เต็มยังงั้น ไม่เหมือนเมืองอื่นๆ เขาจะเคลียร์จานชามไปเรื่อย ระหว่างที่เราลุกไปตักอาหารใหม่ หรือว่าเป็นมารยาทของคนญี่ปุ่นหรือเปล่าเราไม่แน่ใจ
เดินจากหน้าโรงแรมไปคลอง Dotonbori นิดเดียวค่ะ เราเลือกพักย่านนี้เพราะเป็นศูนญ์กลาง ที่กินที่เที่ยว ที่ shopping
ระหว่างทางเดินก็เก็บภาพประทับใจไปเรื่อย เค้าจอดจักรยานไว้เป็นระเบียบ สวยงาม
นี่ก็น่าจะเป็นที่จอดจักรยานแบบเสียตัง มี 2 ชั้นด้วย
ร้านขายของจิปาถะแบบนี้มีให้เห็นทั่วไป มีขายทุกอย่าง
ถึงแล้วค่ะ คลอง Dotonburi สองฝั่งคลองจะเป็นศูนย์รวมทุกอย่าง คนเยอะมาก คลึกครื้นดี แต่เอ!!! ในรูปนี้ไม่ค่อยมีคน แฮ่ๆๆๆ
สวัสดีตอนสายๆ ค่ะคุณลุง เราเจอกันครั้งแรกเมื่อคืน แต่คุณลุงคงหลับไปแล้ว เช้านี้เราเลยมาทักทายกันใหม่ นักท่องเที่ยวหลายๆคนก็พร้อมใจกันมาทักทายลุงเพียบเลย ตื่นๆๆ ได้แล้วค่ะ มาถ่ายรูปกัน
อีกฝั่งนึงของคลองจะมีร้านปูยักษ์ Kani Doraku ขยับขาเนิบๆ เชิญชวนนักชิมให้มาลิ้มลองความสดของตัวอยู่อย่างนั้นตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน
ร้านปูยักษ์ยังไม่เปิด แต่พนักงานเตรียมของมาจัดเรียงหน้าร้าน เราแอบไปหยิบๆ จับๆ กลิ่นสารพัดย่าง หอมลอยมาเตะจมูก กระเดือกน้ำลายลงคอเฮือกๆ หอมมม
ซื้อ OSAKA AMAZING PASS หน่อยค่ะ 2 ใบ พนักงานจะไม่รับเงินจากมือลูกค้า เขาจะมีถาดเล็กๆไว้รับเงิน ทอนเงิน และมีตัวทับกระดาษน่ารักๆ ไว้ทับกันแบงค์ปลิวค่ะ
ได้มาแล้วทั้งซอง คนละ 2,300 Yen (2,300 yen ประมาณ 784 บาท เพราะเราไปแค่ 2 คืน 1 วัน ) บัตรนี้ใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินและรถบัสในโอซากา (ไม่รวมสาย JR และสายของเอกชน) แบบไม่จำกัดเที่ยว 1 วัน และใช้สำหรับเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในโอซากาฟรี 28 แห่ง แถมใช้เป็นส่วนลดร้านค้าตามที่ระบุไว้ได้อีกด้วย คุ้มมากๆค่ะ มีขายที่เค้าขายตั๋วรถไฟ หรือสอบถามประชาสัมพันธ์ได้ แต่ซื้อล่วงหน้าจากเมืองไทยจะถูกกว่าค่ะ
โฉมหน้าของบัตรเบ่ง ขึ้นรถไฟฟรี นั่งชิงช้าชมเมืองฟรี ๆ ฯลฯ
เราจะไปตาม Line 2 เพื่อไปเที่ยว ปราสาทโอซาก้า ( OSAKA CASTLE)
สถานีต้นทางคือ Namba (Subway) ไปลงที่ Osaka Business Park เช็คเส้นทางจากที่ได้เลยค่ะ เพื่อเป็นการประหยัดเวลา และเพื่อความมั่นใจหลายอย่าง
OSAKA CASTLE
ปราสาทโอซะกะ เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตชูโอ จังหวัดโอซะกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีบทบาทในช่วงสงครามการรวมประเทศญี่ปุ่นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในยุคอะซุชิโมะโมะยะมะ สร้างกำแพงหินสูงหลายชั้นและขุดคลองไว้รอบ เพื่อป้องกันข้าศึกโจมตี
 ถ่ายรูปโปสเตอร์มาฝากหนูมิ่งเราพึงไปดูหนังเรื่อง KUBO มา เนื้อหาไม่เกี่ยวกัน แต่นักรบแต่งตัวเหมือนกัน แบบนี้เลย
รูปนี้ถ่ายวิวเมืองโอซากะ จากชั้นสูงสุดของปราสาท การเข้าเยี่ยมชมปราสาทต้องซื้อบัตรผ่านคนละ 600 Yen แต่เราเข้าฟรีเพราะมีบัตรเบ่ง หุหุหุ
ในตัวปราสาทจะเดินชมวนขึ้นบันไดไป หรือขึ้นลิฟไปก็ได้ เราเลือกเดินทั้งขึ้นและลง เพื่อเก็บบรรยกาศ ภายในจัดแสดงเหมือพิพิธภันฑ์ ถ่ายรูปได้บางจุด เลยไม่ค่อยมีรูปถ่ายมาอวด
ด้านนอก และบริเวณบรรยากาศร่มรื่น ต้นไม้เยอะ (5 กันยายน 2559 อากาศประมาณ 27-28 ํ ดีงามมาก ร้อนแต่ไม่ระอุเหมือนบ้านเรา)
เสร็จแล้วนั่งรถไฟไปดูพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Aquarium Osaka Kaiyukan  พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง หรือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซากา ไคยูคัง หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ไคยูคัง เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นและทวีปเอเชีย ตั้งอยู่ที่เท็มโปซังฮาเบอวิลเลจ ในเมืองโอซากา มีทั้งหมด 8 ชั้น เดินวนๆ ลงไป เหมือนดำน้ำไปดูใต้ทะเลลึกเลย เหมาะกับการพาเด็กๆ มาเที่ยวมาก ขนาดผู้ใหญ่ยังตื่นเต้นเลย เปิด 10:00 - 20:00 น.
บัตรเข้าชม หลังหักส่วนลด 10% จากบัตรแบ่ง คนละ 2,200 Yen
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่โลกใต้น้ำจ้าาา
โลกใต้น้ำสวยงามมาก มีสัตว์เยอะมาก นี่เป็นแค่บางส่วนเท่านั้นค่ะ
นั่งชิงช้าชมเมือง มีเข้าคิวนั่งชิงช้าชมเมืองฟรี ที่หน้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ ยังไม่จบแค่นี้ พระอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า เราจะไปต่อที่นี่ค่ะ
UMEDA SKY BUILDING แท่ง 2 อันซ้ายขวานี่คือลิฟ เชื่อมจากตึนึงไปอีกตึนึง อันนึงขึ้นอันนึงลง
แหงนขึ้นไปมองความสูง เบอร์นี้เลยเพื่อนๆ เค้าก็เข้าใจทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเนอะ
ในลิฟเล็กๆ แคบๆ เหมือนอยู่ในท่อลำเลียงของ มองออกไปข้างนอกวิวสวยดีค่ะ
สะพานข้ามแม่น้ำเยอะมาก สวยและเป็นระเบียบด้วย
ที่ใหม่ ประสบการณ์ใหม่ สวยแปลกตา
มุมซูมใกล้ จากรูปบน ตึกมุมขวาสุดจะมีทางรถไฟลอดผ่านตึก เจ๋งมาก เหมือนของเล่นเลย
Bye Bye..... กลับไป เอากระเป๋า หาไรกินที่ Dotonburi ดีกว่า
ย่ำค่ำที่ Dotonburi น้องๆ ออกมาเต้นโชว์ ริมฝั่งคลอง
ภาพเครดิตห้อยท้ายบางส่วน
ขอบคุณที่อ่าน (ดูรูป) มาจนถึงบรรทัดและรูปสุดท้าย เป็นความบันเทิงใจเล็กๆ ที่แม่มึงได้บันทึกไว้ ใครไปมาแล้ว แม่มิ่งพูดไม่ถูกยังไง มาแก้ไขให้ด้วยนะคะ จบสมบูรณ์ตามแผนที่วางไว้ แต่มีอีกหลายที่ที่พลาด เพราะเวลาที่จำกัด ไว้คราวหน้าพาหนูมิ่งมาด้วยค่อยไปเก็บตกกันค่ะ
P H O T O By L E A K T O P
| Create Date : 16 กันยายน 2559 |
| Last Update : 22 กันยายน 2559 18:31:14 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 2586 Pageviews. |
 |
|
ถ่ายรูปโปสเตอร์มาฝากหนูมิ่งเราพึงไปดูหนังเรื่อง KUBO มา เนื้อหาไม่เกี่ยวกัน แต่นักรบแต่งตัวเหมือนกัน แบบนี้เลย
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [