http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
25 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
Bangkok International Film Festival 2007 (PART 2)

โดย merveillesxx

PART 1


24 JULY 2007

- วันนี้เพิ่งได้ดูหนังที่มีซับไทยในงาน ซึ่งก็ดีทีเดียว (โดยเฉพาะกับ This is England ที่ทั้งเรื่องฟังออกแต่คำว่า F*ck) เสียแต่ว่าซับมันตัวเล็กไปหน่อย แต่ก็พออ่านได้แหละ




1. Sankara (2006, Prasanna Jayakody, Sri Lanka, A)

หนังเกี่ยวกับพระหนุ่มที่ยังตัดจากทางโลกไมได้ เพราะจิตใจเกิดหวั่นไหวเมื่อได้พบกับหญิงสาว ตอนแรกนึกว่าหนังจะมาแบบฉาวๆ คาวๆ ประมาณ Samsara แต่ดันกลายเป็น Spring Summer เวอร์ชัน minimalism ยิ่งกว่า หนังมีบทพูดไม่เกิน 15 ประโยค มุ่งเน้นสำรวจจิตใจของตัวเอกอย่างใกล้ชิด สะท้อนผ่านสภาพแวดล้อมอย่างหนักหน่วง (ไล่ตั้งแต่สายลมเอื่อยๆ ที่พัดกระโปรงหญิงสาว มาจนถึงพายุห่าฝนที่แทบจะถล่มวัด) หนังโดดเด่นมากในงานด้านภาพ และซาวด์ดีไซน์ชนิดลำโพงแตกพร่า แถมยังทำเก๋ด้วยการสร้างตัวละครลึกลับขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนสะท้อนด้านมืดของพระเอก หลายสิ่งเหล่านี้ชวนให้คิดถึงหนังรุ่นพี่อย่าง The Forsaken Land เป็นอย่างยิ่ง



2. Okinawa Animation + Shorts (2003-2007, Japan)

2.1 Wonder Frog + Other 5 Animations (Hiroshi Matayoshi, B+)

2.2 Tobukotsu (Hashihito Komatsu, B)

2.3 Kanahiru The Iron Boy (HIGA Brothers, C+)

2.4 Saga (Yoshihiro Arakaki, A-)

โดยรวมแล้วพวกอนิเมชั่นก็พอดูได้ คุณภาพดูในระดับกลาง(ค่อนไปต่ำ) แต่ที่ เซอร์ไพรส์สุดๆ คือ หนังสั้นเรื่อง Saga ที่โผล่มาอย่างไม่รู้เหนืออรู้ใต้ นี่คือหนังผีลึกลับ เยือกเย็น ที่เดินขนบตามแบบ Ju-On ได้อย่างดีเยี่ยม ความน่ากลัวที่คืบคลานมาทางสันหลัง ที่ใช้ประโยชน์เพียงแค่พื้นที่, มุมกล้อง, และเสียงประกอบเล็กน้อย อันเป็นเอกลักษณ์ของหนังผีญี่ปุ่นเท่านั้น ฉากรอยยิ้มสุดท้ายของหญิงสาวเป็นอะไรที่ติดตาและชวนคิดเอามากๆ





3. This is England (2006, Shane Meadows, UK, A-)

หนังฮอร์โมนระเบิดของวัยรุ่นเมืองผู้ดียุค 80 ที่ร่าเริงกับทรงผมสกินเฮด, รองเท้าด็อกเตอร์มาร์ติน, แฟชั่นสไตล์พังค์ และการพี้กัญชา หนังจุดอุดมการณ์การเมืองของตัวเอกวัย 12 ด้วยเรื่อสงครามฟอล์คแลนด์ (หนังด่ามาเกเร็ต แทชเชอร์ หน้าแหก ชนิด botox ก็คงเอาไม่อยู่) ก่อนที่ทุกอย่างจะล่มสลายลงเพราะความไร้เดียงสาของผู้ใหญ่คนเดียว นี่คือหนัง coming of age ที่บอกเล่าถึงการเติบโตผ่านการปะทะกันของ “ความเป็นผู้ใหญ่ในเด็ก” และ “ความเป็นเด็กในผู้ใหญ่”

หนังคุมโทนอารมณ์ได้ดี พาเราไปสู่จุด peak ได้ไม่ยากเย็นนัก นอกจากนั้นยังเลือกเพลงประกอบได้อย่างมีรสนิยมเหลือเกิน โดยเฉพาะฉากสุดท้ายที่พระเอกโยนธงชาติอังกฤษทิ้งลงแม่น้ำอันแสนจะทรงพลัง





4. Love for Share (2006, Nia Di Nata, Indonesia, B+)

หนังแดนอิเหนาที่มีสามพล็อตย่อย แต่พูดถึงธีมเดียวกันคือ polygamy (แนวคิดหลายผัวหลายเมีย - ในที่นี้คือเธอต้องใช้ผัวร่วมกับคนอื่น) สิ่งที่ผิดคาดก็คือ หนังไม่ได้ออกแนวตบตีแย่งผัวแบบละครช่อง 7 แต่กลายเป็นหนังตลกฮาแตก และค่อนข้างมองโลกในแง่ดี แถมหนังยังทำเก๋มีพล็อตเรื่องเลสเบี้ยน และโศกนาฎกรรมสึนามิด้วย

ตอนหนังจบ ดาราของเรื่อง Ria Irawan มา Q&A ด้วย แต่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร เพราะไมค์มันหอน เลยต้องตะโกนคุยกัน แต่จับความได้นิดนึงว่า หนัง controversial พอสมควรในอินโดเนเซีย ตอนเลิกงานก็ไปขอลายเซ็น + ถ่ายรูปคู่กับเธอด้วย เธอน่ารักกันเองดี ถึงแม้จะเขียนชื่อเราผิดเป็น TOA (เต๋า) ก็ตาม 555 (ขอบคุณน้อง nanoguy ที่ช่วยถ่ายรูปให้นะจ๊ะ)

อนึ่ง ตอน Q&A ไม่รู้อี HA ตัวไหน (เข้าใจว่าเป็น พนง.โรงหนัง) ดันแซวเสียงดังขึ้นมาว่า “อ๋อ เค้าไม่ใช้ไมค์ ไมค์มันหอน เค้าคงกลัวไมค์กัด” เออ ขอให้ตอนมันเดินกลับ พลัดตกคลองไป ถูกจระเข้กัดตายแล้วกัน






25 July 2007

- นอกจาก Shortbus แล้ว ตั๋วเรื่อง Lost in Beijing กับ Belle Tojours (วันเสาร์) ก็ขายดีเหมือนกัน ใครจะดูก็รีบซื้อตั๋วนะจ๊ะ




1. Look of Love (2006, Yoshiharu Ueoka, Japan, A)

หนังญี่ปุ่นที่ฉายเพียงรอบเดียว และครองตำแหน่งหนังที่เฮี้ยนที่สุด + คนเดินออกมากที่สุดประจำเทศกาลปีนี้แน่นอน นี่คือหนังท้าทายคนดูทุกกระบวนท่า ทั้งภาพขาวดำที่มืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นอะไรเลย, บทสนทนาที่พร่ำเพร้อไร้สาระอย่างเสียสติ ไปจนถึงฉากกลางอวกาศสุดคัลต์ที่มีดาวเทียมทำด้วย...กระดาษ!

หนังว่าด้วยชายหนุ่มที่ชอบแอบมองบ้านตรงข้ามมีอะไรกัน เขาเรียกโสเภณีเวียดนามมา แต่ดันไม่ยอมนอนด้วย เพราะเขาเอาแต่พูดเพ้อเรื่องดามเทียม! ส่วนอีกฝั่งหนึ่งว่าถึงแมงดาที่ขับรถไปเจอเด็กที่ถูกแม่ทิ้งให้แห้งตายคาบ้าน และพอทำข้าวให้ เด็กสองคนนั้นก้ลุกขึ้นมาเต้นหมัดเมาโชว์เป็นการตอบแทน (ไม่ต้องรู้เรื่องราวอะไรกันอีกแล้ว)

แต่ใช่ว่าหนังจะดูไม่รู้เรื่องเสียทีเดียว หนังพยายามพูดถึงสังคมญี่ปุ่นปัจจุบันที่ความเป็นปัจเจกนิยมกลืนกิน existence ของผู้คนจนหมดสิ้น หนังมีฉากจี๊ดๆ ตอนที่ดาวเทียม (ที่พระเอกอยากจะร่วมร่างด้วยเสียเหลือเกิน) พูดขึ้นมาว่า “ฉันเลิกสนใจเรื่องของมนุษย์ ตอนนี้ฉันสนใจเรื่องอื่นๆ ชีวิต ธรรม และ nothingness” แต่ เอ๊ะ นี่คือคำพูดของดาวเทียม หรือพระเอกกันแน่นะ

ความเซอร์แตก (ปนฮา) ของหนังคือ การให้ตัวละครพูดพร่ำถึงอาหารที่อยากจะกิน เพื่อเป็นการยืนยันถึงการดำรงอยู่ของตัวเอง และหนังก็จบอย่างเฮี้ยนสุดๆ ด้วยฉากตัวละครทั้งหมดมานั่งกิน...เนื้อแร็คคูนย่าง!




2. The Park (2006, Yin Licuan, China, A+)

หนังจีนที่สร้างจากเรื่องจริงในประเทศ ว่าด้วยพ่อที่ไปสวนสาธารณะเพื่อหาคู่ให้ลูกสาวตัวเอง (เรื่องนี้มีจริงๆ ออกรายการ “สะเก็ดข่าว” ของบ้านเราด้วย) ชอบที่หนังมันไม่ฟูมฟายจนเกินเหตุ ฉากทะเลาะกันของพ่อลูกไม่ได้รุนแรง และตะโกนโหวกเหวกอย่างน่ารำคาญ แต่มันคือภาพสะท้อนของความไม่เข้าใจกันอย่างยาวนานของประวัติศาสตร์ครอบครัว ซึ่งเราทุกผู้ทุกคนล้วนย่อมเผชิญ สิ่งที่น่าจี๊ดใจมากก็คือ นี่ไม่ใช่เรื่องของพ่อที่หลงยุคหลงเวลา แต่เป็นเรื่องของพ่อที่ไม่อยากให้ลูกสาวต้องเป็นเหมือนตัวเอง สิ่งน่าชื่นชมอีกอย่างก็คือ หนังใช้เพลงประกอบแต่พองาม เช่น ถ้าฉากที่นางเอกดูวิดีโอของพ่อมีเสียงเปียโนเสร่อๆ โผล่ขึ้นมา (แบบที่เราเจอบ่อยๆ ในหนังฮอลลีวู้ด) แล้วล่ะก็ ทุกอย่างพังพินาศทันที

The Park ทำให้ตระหนักว่า ภาพยนตร์ในแง่หนึ่งมันคือ สิ่งที่เรียกว่า ประสบการณ์ส่วนตัว (personal cinematic experience) หนังอาจทำให้เราน้ำตาซึม แต่ก็อาจทำให้ใครบางคนร้องไห้อย่างไม่หยุดหย่อน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องถามไถ่ว่าเขาหรือเธอมีชีวิตส่วนใดที่ตรงกับหนัง พูดอีกแบบก็คือ หนังไม่ได้แค่สอนเรื่องชีวิตกับเรา แต่ยังทำให้เราเรียนรู้ชีวิตของคนอื่นมากขึ้นด้วย นี่คือสิ่งหนึ่งที่สื่อภาพยนตร์ทำได้ดีที่สุด





3. The Edge of Heaven (2007, Fatih Akin, Germany, A+)

หนังรางวัลเขียนบทยอดเยี่ยมจากคานส์ น่าดีใจด้วยว่าบางกอกฟิล์มเป็นเทศกาลแห่งที่ 2 ของโลกที่ได้ฉายเรื่องนี้ (น่าเสียดายที่ผู้กำกับ Fatih Akin ไม่มา Q&A) ถึงแม้หนังจะมีเรื่องการเมืองแฝงอยู่ตลอด (เช่น เรื่องที่ตุรกีจะเข้าเป็นสมาชิก EU) แต่หนังก็ยังมีประเด็นอย่างอื่นที่หนักแน่นมาก อย่างแรกก็คือ เรื่องของการพลัดถิ่น ที่หนังมีการข้ามแดนไปมาระหว่าง เยอรมัน-ตุรกี ตลอดทั้งเรื่องด้วยบทที่ฉลาด เก๋ไก๋ และน่าทึ่ง

ส่วนอีกประเด็นที่ชอบในหนังคือ มันพูดถึงความสัมพันธ์ได้ดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ พ่อ-ลูก / แม่-ลูก / เพื่อน / คนรัก / ไปจนถึงคู่เลสเบี้ยน ซึ่งทุกคู่สัมพันธ์นั้นต่างถูกผูกโยงด้วยกันด้วย “ความตาย” (โปรดิวเซอร์ของหนังบอกว่า หนัง 3 เรื่องหลังของ Akin จะเป็นไตรภาค โดย Head On นั้นว่าด้วย Love, The Edge of Heaven พูดถึง Death ส่วนเรื่องสุดท้ายจะพูด Devil) และโยงใยไปถึง “การให้อภัย” ซึ่งนั่นเองคือ “สุดปลายขอบฟ้า” ในหนังเรื่องนี้





4. Angel (2006, Francois Ozon, Belgium + England + France, B)

ฟรองซัวส์ โอซอง ผู้กำกับชื่อดัง (หน้าตาดี และแน่นอนว่าเป็นเกย์) พลิกมาทำหนังเอพิค-เมโลดราม่า อารมณ์ Gone With the Wind ตัวหนังยิ่งใหญ่ทุกอย่าง ไม่ว่าจะการแสดง (เล่นใหญ่), ฉากอลังการ, เสื้อผ้าหน้าผม ไปจนถึง นมของนางเอก (ฮา) แต่ที่ใหญ่ที่สุดคือ ตานางเอก ที่กล้องชอบโคลสอัพเกือบทั้งเรื่อง ซึ่งดูไปดูมาแล้วเหมือนพวกการ์ตูนผู้หญิงตาไข่ห่าน

ส่วนตัวแล้วหนังเรื่องนี้ดูได้เพลินๆ แต่ไม่ได้ชอบอะไรมากมาย เพราะไม่ได้อินอะไรกับหนังแนว/ขนบนี้นัก แต่หนังก็มีอะไรให้ชวนคิดเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องความจริงกับความฝัน หรืออะไรง่ายๆ อย่างว่าปราสาทที่นางเอกอยู่ที่มีชื่อว่า Paradise ว่าแต่มันคือ “สวรรค์” จริงหรือ






26 JULY 2007

- รู้สึกว่าตอนนี้โฆษณาก่อนหนังฉายจะเหลือแค่ประมาณ 10 นาทีแล้ว คงเพราะเป็นวันพฤหัส โปรแกรมหนังเปลี่ยนแล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ต้องทนดูตัวอย่าง อีส้มสมหวัง และวิดีโอคลิป อีกต่อไป




01. Beaufort (2007, Joseph Cedar, Israel, A-)

หนังสงครามอิสราเอล-เลบานอน คือปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดูหนังสงครามเท่าไร รู้สึกว่ามันหนวกหู และเฟคๆ (อย่าง Black Hawk Down นี่เกลียดมาก) แต่ชอบที่หนังเรื่องนี้แทบไม่มีการยิงกันเลย มีแต่ระเบิด ซึ่งระเบิดแต่ละครั้งมันดูจริง โหดร้าย และน่ากลัว หนังยังโดดเด่นมากที่ซาวด์ประกอบที่เหมือนหนังเซอร์เรียลหลอนๆ มากกว่าหนังสงคราม อย่างเช่น ฉากเปิดที่ทหารคนหนึ่งเดินอยู่ในอุโมงค์มืดๆ แล้วก็มีเสียงวิ้งๆ + เสียงวิทยุวอตีกันไปมา รู้สึกว่านี่แหละคือวามน่ากลัวที่แท้จริงก็สงคราม (ถ้าโทนหนังเป็นแบบนี้ตลอดเรื่อง นี่คงเป็นหนังสงครามที่ชอบที่สุดในชีวิต)

ทหารในเรื่องไม่ได้ออกไปรบ แต่ถูกสั่งให้เฝ้ารักษาการณ์เอาไว้ แต่ที่จริงพวกเขาดูเหมือนถูก “ขัง” ไว้มากกว่า จนไม่รู้ว่านี่มันคือ กองทหาร, คุก หรือ “นรก” กันแน่ จากตอนแรกพระเอกจะให้ความสำคัญกับสถานที่นี้มาก (ไม่ยอมกลับบ้าน, ไม่ยอมถอนกำลัง) แต่พอมาถึงฉากที่เขาตัดสินใจระเบิดค่ายทหารนี้ทิ้งซะ ก็ชอบฉากนั้นมาก มันเหมือนการปลดปล่อยจิตวิญญาณตัวเอง สีหน้าของนักแสดงทุกคนในฉากนี้ก็เป็นภาพที่ติดตามากๆ แต่ที่ไม่ชอบหนังเรื่องนี้ถึงที่สุด ก็เพราะช่วงท้ายๆ มันดูอ่อนแรงลงไป แล้วก็ไม่ค่อยชอบฉากซึ้งๆ ในช่วงท้ายด้วย แต่ชอบที่หนังจับภาพพระเอกเป็นภาพตอนจบจริงๆ การที่ไม่แน่ใจว่าพระเอกหอบเหนื่อย หรือร้องไห้ หรือเป็นอะไรกันแน่ เป็นสิ่งโดนใจมากๆ เพราะคิดว่าการได้ออกมาจากสงครามมันคงให้ความรู้สึกซับซ้อนแบบนี้

เรื่องฮาๆ อย่างหนึ่งก็คือว่า แม้ว่าหนังสงครามเรื่องนี้จะไม่ค่อยเหมือนหนังสงครามฮอลลีวู้ด แต่มันก็ยังมี “ขนบของหนังสงคราม” ที่เห็นกันบ่อยๆ อย่างเช่น 1.ทหารหนุ่มหน้าใหม่จะต้องตายเป็นคนแรก 2.ทหารที่หยิบรูปแฟน/เมียขึ้นมาดู จะต้องเจอกับความชิบหาย เป็นต้น





02. Traveling with Yoshimoto Nara (2007, Yoji Sakabe, Japan, A+)

หลังๆ มารู้สึกเข็ดกับหนังสารคดีในเทศกาล เพราะดูแล้วหลับทุกที แต่ถือว่าวันนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกมากที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต (ไม่ดูหนังอิรักเรื่อง Dreams แต่ดูอันนี้แทน) เพราะสารคดีเรื่องนี้ไม่หลับ ดูสนุก เพลงประกอบชนะเลิศ และจับจิตจับใจเอามากๆ

หนังติดตามชีวิตของศิลปิน Yoshimoto Nara (ที่หลายคนคงรู้จักเขาจากภาพ “เด็กหญิงตาแบ๊ว” หนังเล่าถึงตอนที่ Nara ก้าวไปทำโปรเจคต์ใหญ่ที่ชื่อว่า A to Z โดยเขาจะไปสร้างบ้าน (เรียก small house) ตามเมืองใหญ่ต่างๆ เช่น ลอนดอน, นิวยอร์ก, โอซาก้า รวมถึงกรุงเทพ (ถ้าจำไม่ผิดนิทรรศการของเขาน่าจะเคยแสดงที่ ม.ศิลปากร เมื่อปลายปี 2005 ถ้าผิดช่วยแก้ด้วยนะครับ) จากนั้นก็รวมบ้านทุกหลัง จัดเป็น exhibition ใหญ่ที่ญี่ปุ่น

ประเด็นที่รู้สึกโดนใจกับหนังมากๆ ก็คือโปรเจคต์นี้ Nara จะต้องข้ามผ่านด่านสองอย่างใหญ่ๆ ก็คือ 1.เขาต้องหัดทำงานร่วมกับคนอื่น (ปกติเขาฉายเดี่ยว) 2.เขาจะต้องทำอย่างอื่น นอกจากวาดภาพ “เด็กหญิงตาแบ๊ว” (ซึ่งเขาวาดไว้ประมาณร้อยแบบ) ซึ่งเป็นที่ตรงกับชีวิตตัวเองตรงที่ 1.เป็นคนชอบทำงานคนเดียว เกลียดการทำงานกลุ่มมากๆ 2.บางเวลารู้สึก stuck กับชีวิต หรือขาดแรงบันดาลใจอย่างรุนแรง คือดูหนังแล้วรู้สึกว่าศิลปินมันก็มีหนทาง move on ในแบบของมัน (เรื่องนี้เด่นชัดมากตรงที่ พอนิทรรศการแสดงครบ 3 เดือน Nara ก็เผาบ้านพวกนั้นทิ้งหมดเลย) ดูแล้วมันรู้สึกถึง artistic inspiration มากๆ ( แล้วก็รู้สึกดีมากๆ ด้วยตอนดูฉากที่มาถ่ายในเมืองไทย มีเพลงลูกทุ่งในหนังด้วยนะ)

สิ่งที่ประทับใจสุดท้ายก็คือ ผู้กำกับมา Q&A ด้วย แล้วเขาอัธยาศัยดีมากๆ (ขอลายเซ็นแล้วเรียบร้อย)





03. Before We Fall in Love Again (2006, James Lee, Malaysia, A+)

หนังขาวดำว่าด้วยความสัมพันธ์สามเส้าที่นิ่งเนิบสนิทตลอดเรื่อง และตัวละครแสดงออกอย่างไร้อารมณ์ เชื่องช้าประดุจหลุดมาจากหนังของไฉ้หมิงเลี่ยง ถึงจะอย่างนั้นก็รู้สึกว่าหนังมีเสน่ห์ในตัวมันเองดี และก็ชอบมากๆ ที่หนังไม่เฉลยอะไรทั้งสิ้น คิดว่านี่น่าจะเป็นหนังที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำมากที่สุดของเทศกาลนี้

ฉากหนึ่งที่ชอบมาก คือตอนที่พระเอกถามนางเอกว่า “ทำไมคุณถึงรักผม” แล้วเธอก็ถามกลับว่า “แล้วทำไมคุณถึงรักฉันล่ะ” พระเอกตอบว่า “ก็เพราะคุณรักผมไง” ดูฉากนี้แล้วรู้สึกเศร้ามาก คือมันเป็นตรรกะความรักที่ nonsense มากๆ แต่เวลาคนเรามีความรัก เราก็ชอบคิดว่าไอ้ความรู้สึกนี่แหละ ที่มัน make sense สุดๆ ฉากนี้ก็เลยทำให้รู้สึกว่าการที่นางเอกหายตัวไปตลอดกาลนี่มันก็คงจะดีสำหรับพระเอกทั้งสองคน เหมือนหนังมันพูดกับเราว่า “เราอย่าพบเจอกันอีกเลย เราควรจะพรากจากกันไปตลอด ก่อนที่เราจะรู้สึกรัก และเจ็บปวดกันอีกครั้ง” นี่คือ นิยามของ Before We Fall in Love Again ในแบบของตัวเอง และแต่ละคนก็คงตีความหมายของหนังเรื่องนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง (และตอนออกมาหน้าโรงก็ได้ยินคนด่าหนังเรื่องนี้อย่างสารพัดรูปแบบ 5555555)





04. Getting Home (2007, Zhang Yang, China, B+)

หนังตลกร้าย ฮาแตก น้ำตาซึม ว่าด้วยชายหนุ่มแสนซื่อที่แบกศพเพื่อนกลับไปยังบ้านเกิด แถมยังเจอเรื่องซวยสารพัดตลอดทาง ตั้งแต่ถูกโจรปล้น, ขโมยเงิน, เจอนักเลงรุม ฯลฯ หนังเล่นกับอารมณ์คนดูได้ดีทั้งสุขและเศร้า อย่างฉากที่พระเอกไปเจอคู่ผัวเมีย ที่ฝ่ายเมียถูกหมอน้ำระเบิดหน้าแหก แล้วทั้งคู่เลยพากันย้ายมาทำฟาร์มผึ้งที่บ้านนอก จริงๆแล้วมันเป็นฉากที่เพ้อเจ้อยิ่งกว่าหนังสปีเลเบิร์กเสียอีก แต่ก็น้ำตาซึมกับฉากนี้ แต่บางฉากหนังก็พยายามบิวด์อารมณ์มากไปหน่อย แต่จุดที่ชอบที่สุดก็คือ การที่หนังจบแบบไม่ทันตั้งตัว ฉากจบแบบนี้มักได้ใจผมเสมอ




อ่านต่อ PART 3


Create Date : 25 กรกฎาคม 2550
Last Update : 28 กรกฎาคม 2550 4:20:14 น. 45 comments
Counter : 3682 Pageviews.

 

ตอบ จากบล็อก PART 1


ตอบ nanoguy

ขอบคุณที่วันนี้ช่วยถ่ายรูปให้จ้า แล้วตกลงน้องใช่มั้ยที่ไปเขย่าไข่ เอ๊ย ขา ใส่คุณ renton อ่ะ ไปคลียร์กันเองนะ อิอิ


ตอบ ปุ้ย

>ม่ะวันก่อนเพิ่งหาซื้อแผ่นเรื่อง The Virgins Suicide มาได้ ดูจบแล้วชอบ

อยากคุยเน้นๆ เรื่อง "Virgin Suicide" กลับเรามั้ย เดี๋ยวจะวิเคราะห์ให้ถึงเนื้อถึงตัว เอ๊ย ถึงพริกถึงขิง เชียวแล แฮ่ๆๆ


ตอบ it ซียู

ตอนนี้เรา + พี่แมดเดอลีน + คนบอร์ดไบโอสโคป พร้อมใจกันเข้าสาย 20 นาทีโดยตั้งใจแล้ว / ตอนซื้อตั๋วเราก็เลือกที่ริมๆ อ่ะ จะได้เข้าง่ายๆ


ตอบ I will see U in the next life.

คาดว่าน่าจะไปอย่างแน่นอน เพราะงาน FUTON (เกย์คงเยอะ 555)


ตอบ โทยะ อากิระ

คาดว่า The Go Master อาจจะออกแผ่นโดย J-BICS มานั่งดูกับพี่ที่บ้านสองต่อสองก็ได้ ถ้าไม่อยากดูคนเดียว


ตอบ renton_renton

>วันนี้ได้รูปสวยๆมาอ่ะจิ

หมายถึงที่เราไปถ่ายคู่กับดารา Love for Share อ่ะเหรอ เราว่ารูปคงออกมาอุบาทว์ว่ะ 5555


โดย: merveillesxx วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:03:31 น.  

 
เสียดายไม่ได้ดู Love for share TT^TT

งืม ถ้าโอมกะฝนไปอีกเมื่อไรแล้วจาโทรหานะฮับ ^^


โดย: oHMu IP: 202.28.62.245 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:39:09 น.  

 
4เรื่อง4สไตล์เลยนะเนี่ย


โดย: coming soon (The Yearling ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:04:48 น.  

 
แวะมาทัก เมื่อวานเรียกว่า โดดสอบ เอ๊ย สอบเสร็จแล้วรีบไปดู Sankara ทันที ฉันว่าหนังเรื่องนี้ฉลาดมากๆ ในการใช้ภาพเล่าเรื่อง แถมยังมีหักมุมตอนท้ายว่า สิ่งที่พระเอกของเรื่องหลงใหลคืออะไรกันแน่

แต่ขอตำหนิหน่อเถอะ ว่ากรุณาเอาโปรเจกเตอร์เล็กๆที่วางไว้หน้าจอออกไปได้ไหม เวลาฉายภาพ มันเกิดเงาบังทัศนียภาพ


โดย: initial A IP: 161.200.255.162 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:52:42 น.  

 
^
^
ถ้าเขาเลือกได้ หรือมีซับไตเติลตอกมากับฟิล์มแล้วคงไม่เอามาวางไว้หรอกจ้ะ...
คือโปรเจคเตอร์มันเอาไว้ฉายซับไทยสีเหลืองเป็นสไลด์ๆ อะค้าบ

นั่นคือสาเหตุที่ทำไมซับมันตัวเล็กและหลายบรรทัดเหลือเกิน ก็จอคอมมันทำได้แค่นั้นนี่นา

(ดีแค่ไหนแล้วที่วันหลังๆ เค้าพอจะรู้ว่าควรใช้ขนาดฟอนต์เท่าไหร่ วันแรกผมไปดู Belle de Jour ซับไทยยังกะ Angsana 16 เพ่งกันตายห่าเลย)


โดย: nanoguy IP: 161.200.255.162 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:06:31 น.  

 
โอ๊ยอิจฉา.......ช่วงนี้งานเยอะไม่โอกาสได้ดูซักเรื่องเรยยยยย


โดย: เอนนิสเดลมาร์ IP: 125.24.6.81 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:33:43 น.  

 
วันนี้จะไปดูlost in beijing หาคนไปดูด้วย ด่วนๆๆๆๆๆ


โดย: ^^ IP: 58.9.144.206 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:46:38 น.  

 
เอาอีกนะครับ


โดย: P Q BOY วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:51:51 น.  

 
จะรับข้อเสนอไว้พิจารณา หุหุ...
ช่วงนี้อ่านแฮรี่เล่ม7 อยู่ ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันแรย


โดย: โทยะ อากิระ IP: 124.121.40.69 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:32:05 น.  

 
ชอบ Sankara : )

แต่ไม่ชอบหนังผีเรื่องสุดท้ายใน Okinawa Animation เลย คือ...ไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวน่ะ อาจคุ้นๆ กับรูปแบบแบบนี้ละมั้ง ส่วนพวก animation เห็นด้วยว่า ระดับกลาง(ค่อนไปต่ำ) สำหรับหนังชุดนี้ค่อนข้างเสียดายค่าตั๋ว


โดย: jimkong วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:22:58 น.  

 
บอร์ดไบโอโดนสั่งปิดรึเปล่า
เข้าไม่ได้เลย 555+


โดย: nanoguy วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:36:36 น.  

 
อดดูlost in beijing ตั๋วเต็ม วิ่งหาตั๋วยังไงก็หามะได้เหลือแต่ที่นั่งวีไอพี เศร้าใจมาก ใครได้ดูแล้วเป็นยังไงกันบ้างงับ เล่าสู่กันฟังบ้างนะ


โดย: ^^ IP: 58.9.144.206 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:46:16 น.  

 
พี่ต่อ
บอร์ดไบโอเป็นอะไรอ่ะ?
เข้าไม่ได้ตั้งแต่หัวค่ำแล้ว :(

พรุ่งนี้(ที่จริงคือวันนี้)ฝนกะโอมไปดูรอบเที่ยงนะคะ
A Few Days in September หรือ This is England ดี???

เดี๋ยวเจอกันในอีก 12 ชั่วโมง 555+


โดย: la FONtaine* IP: 125.24.23.104 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:30:19 น.  

 
เรากลับคิดว่าแอนิเมเค้ามันแปลกดีออกนะ แม้ว่าโปรดักชั่นจะไม่ดีก็เหอะ แต่แนวคิดอะไรมันแอบหลอนดี อย่างเรื่อง bugs กับ monster เรื่องไอ้เด็ก iron เราก็ว่าโอเคดีอ่ะชอบพวกสัตว์ประหลาด

เราว่าวันนั้นเราคงแทบจะเดินชนกันตายแล้วล่ะตะเอง


โดย: เพอร์รี่ IP: 58.9.140.75 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:50:31 น.  

 
เข้าบอร์ดไบโอสโคปไม่ได้เหมือนกัน

ก็เลยขอเอาอันดับหนังล่าสุดของตัวเองมาแปะในนี้นะคะ

FILMS SEEN ON TUESDAY 24 JULY 2007


1.BEFORE WE FALL IN LOVE AGAIN (2006, James Lee, Malaysia, A+++++)
//www.imdb.com/title/tt0877327/

2.THE HOME SONG STORIES (2007, Tony Ayres, Australia, A+)
//www.imdb.com/title/tt0452631/

3.THIS IS ENGLAND (2006, Shane Meadows, A)
//www.imdb.com/title/tt0480025/

4.SANKARA (2006, Prasanna Jayakody, Sri Lanka, A)
//www.imdb.com/title/tt1058748/

5.YOUNGER AND YOUNGER (1993, Percy Adlon, A-)
From VCD



FILMS SEEN ON WEDNESDAY 25 JULY 2007

1.LOOK OF LOVE (2006, Yoshiharu Ueoka, Japan, A++++++++++)
//www.bangkokfilm.org/en/films/film_detail.aspx?searchby=title&id=F07071

2.TO BE TWENTY (1978, Fernando Di Leo, Italy, A+)
From DVD
//www.imdb.com/title/tt0077191/

3.CATS OF MIRIKITANI (2006, Linda Hattendorf, A)
//www.imdb.com/title/tt0799976/

4.DANCING BELLS (2007, Deepak Kumaran Menon, Malaysia, A)
//www.imdb.com/title/tt0949869/

5.ANGEL (2007, Francois Ozon, A)
//www.imdb.com/title/tt0783767/



THE WHOLE RANKINGS FOR THINGS SEEN FROM 20-25 JULY 2007

IN PREFERENTIAL ORDER

1.CRY IN SILENCE (2006, J. G. Biggs, A+)
This film is like an unblinking look at hell.

2.LOOK OF LOVE (2006, Yoshiharu Ueoka, Japan, A+)
This film makes me laugh the most since I saw WHAT HAPPENED TO MAGDALENA JUNG (1983, Christoph Schlingensief, Germany, A+) late last year.

3.BEFORE WE FALL IN LOVE AGAIN (2006, James Lee, Malaysia, A+)
I like the unnaturalness and unromanticness of this film very much.


4.A WANDERING BRIDE (2006, Ana Katz, Argentina, A+)
I feel as if I was the protagonist of this film.

5.THE BIRD HOUSE (2006, Khoo Eng Yow, Malaysia, A+)
I like the relationship between brothers in this film very much.

6.HUNT ANGELS (2006, Alec Morgan, Australia, A+)
This film reminds me of Guy Maddin.

7.OUR DAILY BREAD (2005, Nikolaus Geyrhalter, Austria, A+)
I like the mine scene in this film very much.

8.BLED NUMBER ONE (2006, Rabah Ameur-Zaimeche, Algeria, A+)
What touches me the most is the plight of women in this film.


9.THE HOME SONG STORIES (2007, Tony Ayres, Australia, A+)
This film makes me cry the most in the festival. What makes me cry is not the relationship between mother and son, but how the son chose to call someone “father”.

10.TO BE TWENTY (1978, Fernando Di Leo, Italy, A+)
Outside Festival

11.THE MARK OF CAIN (2007, Marc Munden, A+)
This film reminds me of something happening in the south of Thailand.

12.FRAULEIN (2006, Andrea Staka, Switzerland, A+)

13.THE GO MASTER (2006, Tian Zhuangzhuang, A+/A)

14TURISTAS (2006, John Stockwell, A+/A)
Outside Festival


15.THIS IS ENGLAND (2006, Shane Meadows, A)

16.SANKARA (2006, Prasanna Jayakody, Sri Lanka, A)

17.MORE THAN ANYTHING IN THE WORLD (2006, Andres Leon Becker + Javier Solar, Mexico, A)

18.VANAJA (2006, Rajnesh Domalpalli, India, A)

19.ESSENCES INSENSEES: ART AND PERFUME EXHIBITION (A)Outside Festival


20.CATS OF MIRIKITANI (2006, Linda Hattendorf, A)


21.DANCING BELLS (2007, Deepak Kumaran Menon, Malaysia, A)


22.ANGEL (2007, Francois Ozon, A)

23.ABDUCTION: THE MEGUMI YOKOTA STORY (2006, Patty Kim + Chris Sheridan, A)

24.EXILED (2006, Johnnie To, A)


25.DONSOL (2006, Adolfo Alix Jr., Philippines, A)


26.OUT OF BOUNDS (2005, Alexandre Leborgne + Pierre Barougier, A-)


27.YOUNGER AND YOUNGER (1993, Percy Adlon, A-)
Outside Festival

28.PERFECT STRANGER (2007, James Foley, A-)
Outside Festival

29.CHILDREN OF GLORY (2006, Krisztina Goda, Hungary, A-/B+)

30.KUNG FU TOOTSIE (2007, Jaturong Mokjok, Thailand, B+)
Outside Festival


โดย: MdS IP: 58.8.196.213 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:12:34 น.  

 
อยากดูthis is england จัง


โดย: ฺblastnest IP: 58.64.79.217 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:14:19 น.  

 
หลังจากแอดเมลเฮียไปแล้วก็มาทักทายกันจริงๆซักที

พรุ่งนี้จอง Beaufort ไว้เห็นตี้บอกว่าเฮียก็จะไปดู

ถ้ายังไงจะเข้าไปทักนะคะ หวังว่าคงได้ทักทายเฮียบ้าง




โดย: zadwaan IP: 203.153.169.65 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:20:40 น.  

 
ชักจะอยากดู Look of Love ซะอย่างงั้น 5555+
พูดถึงหนังเฮี้ยนก็นึกถึง 4 ขึ้นมาโดยฉับพลัน


โดย: nanoguy วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:07:11 น.  

 
ตอบ oHMu

ไม่เป้นไรหรอก Love for Share มันก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่ตอนนี้พี่กำลังลุ้นเรื่อง Before We Fall in Love Again อยู่



ตอบ initial A + nanoguy

คนทำซับเค้าแถลงการณ์ไว้ที่นี่จ้ะ
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5647835/A5647835.html

บอร์ดไบโอมีปัญหาชั่วคราวอ่ะ ทีมงานเค้ารู้กันละ แก้อยู่มั้ง



ตอบ ^^

เราซื้อตั่ว Lost in Beijing วันศุกร์ไปแล้วอ่ะ เหลือ 4 แถวหน้า แต่ว่าได้ข่าวมันจะมีแผ่นออกแหละ



ตอบ โทยะ อากิระ

พี่ไม่ชอบ HP7 เลย JK ไม่เก๋าพอ



ตอบ la FONtaine*

พี่ว่าดู This is England ดีกว่า เพราะ A Few มันดู cliche + เสื่อมๆ ยังไงไม่รู้



ตอบ เพอร์รี่

เออ เราลืมไปแล้วว่ามันมีเรื่อง Bugs ด้วย อันนี้ก็ชอบนะ



ตอบ MdS

ตายแล้ว พี่ขา ...นี่กลับบ้านยังไปดูหนังแผ่นอีกหรอคะเนี่ย โอ๊ย สุดเดช เหตุไฉน หมีแพนด้า เธอบ้าไปแล้วววว!



ตอบ zadwaan

หาคนที่ใส่เสื้อหนาว ฮิปฮ็อปๆ นั่นแหละ พี่เอง


โดย: merveillesxx วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:12:17 น.  

 
อิจฉาคนบ้าพลังอย่างคุณ mer จริงๆ ถ้ามีตัง และมีเวลา และสภาพร่างกายพร้อม ก็อยากจะไปลุยดูหนังเทศกาลกะเขาบ้างเหมือนกันนะเนี่ย


โดย: joblovenuk วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:48:08 น.  

 
ในเมื่อเข้าบอร์ดไบโอไม่ได้ เรายึดบอร์ดน้องเมอร์ แทนก่อนแล้วกัน!

ตอนนี้ปิดเทศกาลสองวัน กลับลงมาทำงาน เจอกันวันเสาร์!
หนังที่ดูเมื่อวาน

1.TOURISTAS (A+)

2. LOOK OF LOVE (A+++++++++++)
นี่คือหนังที่มีฉากคลาสสิคทุก 5 นาที โดยเฉพาะ ฉาก ไอ้หนุ่มหมัดเมาสุดหลอน!!!

3.SUELY IN THE SKY (A+)
เพลงในหนังเพราะมาก และเป็นเพลงอเมริกันเวอร์ชั่นเสปนทั้งสิ้น

4.EDGE OF HEAVEN(A+++++++++)

FATHIH AKIN ไม่ทำให้คุณผิดหวัง
หนังมีประเด็นส่งสารอย่างรุนแรงถึงโลกยุค POST 911
และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ดู ฮันนาห์ ชือุลล่า บนจอใหญ๋ อยากจะกร๊ดดังๆ

อันดับของตัวเองจากงานนี้ (ยังมีการเปลี่ยนแปลงทุกวินาที)

1.OUR DAILY BREAD
1. LOOK OF LOVE
1.EDEG OF HEAVEN
(ครองอันดับร่วม!)

2.THIS IS ENGLAND
3.RAISED FROM DUST
4.CRY IN SILENCE
5.CASHBACK
6.SAGA ( OKINAWA ANIMATION)
7.BEFORE WE FALL IN LOVE AGAIN
8.VANAJA
9.WANDERING BRIDE
10.FREE ZONE
11.MARK OF CAINE
12.BROKEN ENGLISH
13.CHILDREN OF GLORY

หนังไม่ให้คะแนน
1.THE MILKY WAY (คุณจะเอาบุนเยลมารวมกับหนังอื่นแล้วตัดคะแนนรวมได้ไง!)

หนังที่ไม่เอามานับ(เพราะดูแผ่นผี)
1.SHORTBUS (ถ้าจัดอันดับจะอยู่ต่อจาก CRY IN SILENCE )




โดย: FILMSICK IP: 202.129.51.34 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:47:29 น.  

 
อยากดูเรื่อง The park ครับ


โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่แตะบอลตอนกลางวัน (kanapo ) วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:57:02 น.  

 
วันนี้สอย สไปเดอร์เหลียงโลด
แต่เมื่อวานอุ่นเครื่อง ด้วยDiary
บอกได้คำเดียวว่า สุดยอด (อย่างน้อยดีกว่า The Eye 10 ล้านๆๆๆๆๆเท่า)
สาวเหลียงเรื่องนี้ให้ A+++++++++++++++++

ไปหามาดูเลย เรื่องนี้สุดๆ ไม่อยากสปอยหรอก แต่บอกใบ้ว่าฉากเด็ดอยู่ที่โรงพัก


ปล.ฉากเปิดเรื่อง Diary นึกว่าซาลาเปาไส้คน


โดย: initial A IP: 161.200.255.162 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:54:43 น.  

 
เซ็งมากมาย เมื่อวานรถติด กว่าจะถึงสามย่านก็ปาไปห้าโมงสี่สิบแล้ว

เลยอดดู The Edge of Heaven ไปโดยปริยาย ทั้งๆ ที่ซื้อตั๋วไปแล้ว อ่านที่จขบ.เล่าแล้วอยากดูอ่า เซ็งๆๆๆๆ


โดย: it ซียู IP: 192.44.136.113 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:50:29 น.  

 
lost in beijing เหลือ 4 แถวหน้าเลยเหรอคะ T^T งั้นรอดูแผ่นก็ได้ค่ะ ไม่อยากเป็นผู้หญิงแถวหน้า -*-


โดย: ^^ IP: 58.9.120.149 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:58:59 น.  

 
อ่านตรงหนัง look at love แล้ว ...
หนูเริ่มมีความรู้สึกว่าหนังญี่ปุ่นชักจะดูไม่รู้เรื่อง
( คือดูออกมาแล้วงงๆ อ่ะค่ะ)
เหมือนกับพวกนิยายญี่ปุ่นแล้วสิคะ
ประมาณว่าหาเหตุผลไม่ค่อยได้ไงไม่รู้ - -



แต่อยากดูนะ อิอิ


โดย: a r i t s u m e m o o n วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:41:25 น.  

 

ความเห็นจากกระทู้ //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5644082/A5644082.html


ความคิดเห็นที่ 4

ซื้อตั๋ว This is England ไว้

แต่ติดงานด่วนไปดูไม่ได้ เสียดายจริงๆ T__T
แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 06:56:46

จากคุณ : ก่ายยย... - [ 25 ก.ค. 50 06:55:33 ]







ความคิดเห็นที่ 5

อยากไปดูสักเรื่อง ว่างวันที่ 29
คงจะได้ดูสักเรื่องนะ

จขกท คงกินนอน อยู่ที่ CTW
จนถึงวันที่ 29 เเน่เลย
เเละมีสมาชิกหลายคนที่คงเป็นเเบบนี้
ด้วยมั้ง....










จากคุณ : pikaball - [ 25 ก.ค. 50 07:39:08 ]






ความคิดเห็นที่ 6

ได้ไปดู Love for Share มาเมื่อคืน 20.35 น.โรงที่ 5 (แสดงว่ารอบเดียวกัน แน่เลย กับ เจ้าของกระทู้ 5555) หนังสนุก และทำได้ดีมากๆๆๆๆๆ ตัวละคร การตัดต่อ ดีมาก ดูแล้ว สนุก ชอบ น้องหมิง ที่เล่นเป็นพนักงานร้านอาหาร และ ลูกชาย คนโต ของคุณหมอ ที่มีภรรยาหลายๆ คน มาก

27/07/2007 21.30 น. เตรียมตัวไปดู Shortbus ต่อ ครับ หวังว่าคงสนุก

จากคุณ : A (iamboy17) - [ 25 ก.ค. 50 09:02:22 ]






ความคิดเห็นที่ 7

สงสัยไม่มีฉากเล่นกีตาร์(แค่รักผู้หญิงเอง) เลยให้ฉาย

จากคุณ : ก - [ 25 ก.ค. 50 09:14:39 A:58.8.140.83 X: TicketID:137142 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ฮากับคำว่า หนังฮอร์โมนระเบิด จริงๆครับ

ส่วนหนัง ผมคงต้องหาดูจากแผ่น หลังเทศกาลจบครับ

จากคุณ : Vip_Lek - [ 25 ก.ค. 50 09:37:31 ]






ความคิดเห็นที่ 9

แปลว่าจะได้เจอกับ iamboy17 แล้ว แต่ว่าคนไหนหว่า? อิอิ :P

จากคุณ : ตากล้องน้อยคอยรัก - [ 25 ก.ค. 50 10:34:21 ]






ความคิดเห็นที่ 10

อยากดูบ้างจัง

จากคุณ : art_sarawut - [ 25 ก.ค. 50 15:45:42 ]






ความคิดเห็นที่ 11

อ่า รอดู love for share วันพฤหัสบดีอยุ่เลยค่ะ ส่วน Sankara เวลามันทับกะเรื่องอื่น แถมช่วงนี้ยังสอบอีก เลยดูเต็มที่ไม่ไหว

อยากดู Sankara นะ แต่ปล่อยอิ nanoguy ไปดูก่อน

อยากรู้จักเด็ดพี่บ้างจัง เดี๋ยววันหลังแอดไปได้มั้ยเนี้ยคะ?

จากคุณ : cheatoneself - [ 26 ก.ค. 50 00:11:41 ]






ความคิดเห็นที่ 12

แสดงว่าวันนั้นเราคงเจอกันแล้วล่ะ แต่ไม่รู้ว่าคนไหนอิๆ

จากคุณ : mooyo - [ 26 ก.ค. 50 00:42:50 ]






ความคิดเห็นที่ 13

ปีนี้กดไปกี่เรื่องแล้วคุณ mer อิอิ ดูหนังให้สนุกนะครับ

จากคุณ : joblovenuk - [ 26 ก.ค. 50 03:59:41 ]






ความคิดเห็นที่ 14

คห. 5 คุณ pikaball
รู้สึกว่าหนังจะฉายถึงแค่วันที่ 28 เองค่ะ
วันที่ 29 เป็นวันปิดงาน ไม่มีหนังฉายค่ะ

จากคุณ : ต่าย (nuchaba) - [ 26 ก.ค. 50 17:02:27 ]




โดย: merveillesxx วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:16:07 น.  

 
สรุปวันนี้กูก็ไม่ได้ดู Spider lilly
ไปถึงแม่ง Sold out โกรธมากกกกกก
คนจะอยากดูอะไรกันเยอะขนาดนั้น
แง่ง แง่ง แง่งงงงงง

ปล.ชอบที่มึงเขียน comment THE PARK มันทำให้รู้สึกว่ามึงกำลังพูดบอกตัวเองในขณะพี่พูดกับกูไปด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วอาจไม่ใช่ (คือกูอาจจะคิดไปเอง) กูนึกว่ามึงจะด่ากูซะแล้วว่าจะสะอึกสะอื้นไปไหน 555


โดย: Nomorebrain IP: 124.120.7.252 วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:23:15 น.  

 
This is England สุดยอดดด
หนึ่งในใจเราของงานนี้เลย

Dreams ก็โอเค


โดย: renton_renton วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:24:25 น.  

 
เมื่อวาน Mer ไปกับแฟนด้วยแหละ ได้แผ่น Arcade fire ชุดก่อนทำfuneral มาจาก Canada เลยไม่ได้ให้(write ไป 2 แผ่น เลยได้ให้K.MDS กับ Flimsick ไปแล้วหล่ะ ขอโทษที)


โดย: Arcoxia IP: 155.91.45.232 วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:30:33 น.  

 
เหยยยยยย Before we fall in love again เป็นการดูหนังที่ทรมานมากกกกกกกกกกกกเกลียดอีหน้าเงือกกกกกกก อีเงือกเจือกได้ผัวเป็นหนุ่มแว่นตั้งสองคน ดูแล้วทนไม่ด๊ายยยยยยยยย อยากกระโจนไปข่วนจอทุกครั้งที่อีเงือกโผล่ออกมา(ซึ่งก็เยอะ)

เกลียดทรงผมของเจ้าหล่อนจริงๆ

เกลียดอีเงือก พาลเกลียดหนังเรื่องนี้ไปเลย

มันไม่ได้ดีอะไรมากอ่ะเราว่า แต่ถ้าไม่มีอีเงือกก็ดูว่าก็โอเคอ่ะ

ตอนนี้อันดับหนึ่งในใจยังคงเป็น Color Blossoms อยู่ 55 คิดถึงโชคุง

วันนี้ดู This is ENgland ละ น้ำตาซึมเลย


โดย: เพอร์รี่ IP: 58.9.149.185 วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:22:09 น.  

 



โปสเตอร์ Traveling with Yoshimoto Nara สวยมากๆ



ขอกราบเรียนให้คุณเพอร์รี่ ทราบว่า Before We Fall in Love Again เนี่ย เป้นหนังไตรภาค Love Trilogy นะคะ ยังเหลืออีกสองภาคให้เราดูกัน 55555 คาดว่าคุณเพอร์รี่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อแน่นอน (และอีหน้าเงือกยังคงเป้นนางเอกทั้งสามภาคค่ะ 555555)


Before We Fall in Love Again


Things We Do When We Fall in Love


Waiting For Love

โอ๊ย! อยากดู


โดย: merveillesxx วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:35:43 น.  

 
ตอบ joblovenuk

ตอนนี้ก็โทรมเป็นศพเลยครับ ไม่เห็นหน้าแม่มา 4-5 วันแล้วเนี่ย



ตอบ initial A

555555 Diary เนี่ย ไม่กล้าดูอ่ะ กลัว...กลัวชื่อผู้กำกับ!! แต่อยากดูก็เพราะ น้องเหลียงอ่ะแหละ

The Eye 10 นี่เป้นหนังโสโครกมากที่สุด เรื่องหนึ่งในชีวิตพี่เลย ต่ำช้ามากๆ หนังเรื่องนี้ 555



ตอบ it ซียู

เอ๊ะ มันเหลืออีกรอบนึงนิ แต่เราว่า The Edge of Heaven เดี่ยวมันก็ออกแผ่นแหละ



ตอบ ^^

>ไม่อยากเป็นผู้หญิงแถวหน้า

แล้วอยากเป็นผู้หญิง "แถวนี้" มั้ยครับ



ตอบ renton_renton

อดดู Dreams อ่ะ มีแต่คนบอกว่าดี



ตอบ Arcoxia

ไม่เป้นไรจ้าชุดนั้นน้องต่อซื้อมาก็อปจากสวนลุมไนท์มาแล้ว ชอบกว่าชุดสองนะ



ตอบ เพอร์รี่

This is England นี่มันหนังโดนง่ายเนาะ เราชอบฉากสุดท้ายมากเลย หน้า+ตา พระเอก นี่แม่งสุดๆ ชอบแม่น้องพระเอกด้วยอ่ะ เปรี้ยวมาก



ตอบ Nomorebrain

I have to write in English again, too shy to express this feeling in Thai.

Exactly, The Park's comment is about YOU and ME in the same movie which we got an invaluable cinematic experience together. While watching this film, frankly, I would like to touch your hand softly and gently. (Just an idealistic idea, you know for sure, when I watch a film I put all my concentration. The only thing I do is "WATCHING"). To tell you that I can get your feeeling even though you've never told me about your life (that's none of my business and I don't want to know at all). Don't think too much, It's just a FRIEND TOUCH. If I want to show your MORE-THAN-FRIEND WARNING SIGN, I will touch your breats instead of your hand (although It's hard to find where your breats are 55555 just kidding)

Anyway, Thank you very much. You make my day.

ps. If you don't get the msg above, talk to me in personal, I will translate them word-by-word and mouth-to-mouth!


โดย: merveillesxx วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:15:13 น.  

 
โอแม่เจ้า Before we fall in love again ยังมีต่ออีก 2 part หรอเนี่ย...

จะว่าไปมันก็ดีเหมือนกัน เพราะ part แรกเนี่ยมันยังไปไม่ถึงไหนเลย อยากรู้เหมือนกัน ว่าเธอมีดีอะไร ที่ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองยินดีอยู่กับเธอโดยมองไม่เห็นเค้าลางว่ามีเขาอยู่บนหัว...


โดย: renton_renton วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:50:15 น.  

 
สุดท้ายเมื่อวานก็ได้สอยสไปเดอร์เหลียงสมใจ แม้จะได้ที่นั่งแถวหน้าก็ตามเถอะ(อุตส่าห์จองตั๋วล่วงหน้า)
อยากบอกว่า

1. อย่าคิดจะไปดูหนังเรื่องนี้ เพราะคิดว่าเป็นหนังหญิงรักหญิงชนิดรักหวานชื่น แต่แล้วมีโศกนาฏกรรมมาพลัดพราก(เน่าซะ) สุดท้ายรักไม่สมหวัง มีเจ็บมีตายแบบโฆษณาใครประกันชีวิต

2.เพราะขึ้นชื่อว่ามาจากไต้หวัน(ไต้หวันนะ ไม่ใช่เกาหลี) และดูผลงานก่อนแนวโฮโมอย่าง Formula17 จนกระทั่ง Go Go Gboy ก็รู้เลยว่าต้องมาแนวตลกใสๆแน่

3.หนังเรื่องก็นำเสนอเกี่ยวกับความทรงจำ ผ่านรอยสัก จนทำให้ผู้หญิงสองคนมารักกันได้ดี เพียงอารมณ์ยังไม่ถึงที่สุด(เลยแอบบ่นว่า จบเร็วจัง)

4.สองนางเอก สุดยอดมากๆ(เรนนี่ หยาง เก่ง+น่ารัก ส่วนอิซซาเบลล่า เหลียง ก็ น้อย แต่ได้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

5. แต่ที่สุดยอดมากกว่าใคร ก็คงจะเป็นคนที่เป็นคุณยายของเจด ไม่รู้ว่ายายคนนี้คือโอปอล(แห่งเพื่อนสนิท)อีก70ปีข้างหน้าหรือยังไง โผล่มาทีไรขโมยซีนซะ โดยเฉพาะตอนแรก
ซะลั่นโรง


6.แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะออกแนวโรแมนติก คอมมิดี้เกือบส่วนใหญ่ แต่ฉากเลิฟซีนนี่ ถึงพระเดชพระคุณจริงๆ


โดย: initial A IP: 161.200.255.162 วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:44:40 น.  

 
แต่สิ่งที่ชอบมากกว่าคือเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคน ผ่านเว็บแคม ที่ไม่ได้มีดีแค่ไว้ดูโชว์อย่างเดียว (ฤเว็บแคมจะกลายเป็นสื่อรักซะแล้ว


โดย: initial A IP: 161.200.255.162 วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:51:32 น.  

 
ไม่รู้จะมีเวลาไปดูมั้ยเนี่ย
แต่โปสเตอร์งานนาระสวยมาก


โดย: fonkoon วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:14:12 น.  

 
lost in beijing สนุกมั้ยคะคุณเมอร์เล่าให้ฟังบ้างนะคะ ตอนนี้หมดเรื่องที่อยากจะดูแล้ว ส่วนตัวแล้วประทับใจ love for share ที่สุดแล้วค่ะในงานนี้


โดย: ^^ IP: 58.9.148.219 วันที่: 27 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:07:00 น.  

 
เป็นไงบ้าง shortbus นั่งหน้าเลยหนิ 555 จะ จะ เลยใช่มะ 555
เราว่าหนังมันเหงาอ่ะ โดยเฉพาะถ้าลองเอาฉากจะจะทั้งหลายออกไป(ก่อน) จะเหงามากยกกำลัง 2


โดย: renton_renton วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:18:07 น.  

 
เห็นโปสเตอร์ กะชื่อตอนหนังไตรภาคของ before we fall in love again แล้ว...มันจะเป็นของแสลงของเรามั้ยเนี่ย

ปล.shortbus เป็นไงบ้างพี่


โดย: psycho patch วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:52:14 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 4

ซื้อตั๋ว This is England ไว้

แต่ติดงานด่วนไปดูไม่ได้ เสียดายจริงๆ T__T
แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 06:56:46

จากคุณ : ก่ายยย... - [ 25 ก.ค. 50 06:55:33 ]







ความคิดเห็นที่ 5

อยากไปดูสักเรื่อง ว่างวันที่ 29
คงจะได้ดูสักเรื่องนะ

จขกท คงกินนอน อยู่ที่ CTW
จนถึงวันที่ 29 เเน่เลย
เเละมีสมาชิกหลายคนที่คงเป็นเเบบนี้
ด้วยมั้ง....










จากคุณ : pikaball - [ 25 ก.ค. 50 07:39:08 ]






ความคิดเห็นที่ 6

ได้ไปดู Love for Share มาเมื่อคืน 20.35 น.โรงที่ 5 (แสดงว่ารอบเดียวกัน แน่เลย กับ เจ้าของกระทู้ 5555) หนังสนุก และทำได้ดีมากๆๆๆๆๆ ตัวละคร การตัดต่อ ดีมาก ดูแล้ว สนุก ชอบ น้องหมิง ที่เล่นเป็นพนักงานร้านอาหาร และ ลูกชาย คนโต ของคุณหมอ ที่มีภรรยาหลายๆ คน มาก

27/07/2007 21.30 น. เตรียมตัวไปดู Shortbus ต่อ ครับ หวังว่าคงสนุก

จากคุณ : A (iamboy17) - [ 25 ก.ค. 50 09:02:22 ]






ความคิดเห็นที่ 7

สงสัยไม่มีฉากเล่นกีตาร์(แค่รักผู้หญิงเอง) เลยให้ฉาย

จากคุณ : ก - [ 25 ก.ค. 50 09:14:39 A:58.8.140.83 X: TicketID:137142 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ฮากับคำว่า หนังฮอร์โมนระเบิด จริงๆครับ

ส่วนหนัง ผมคงต้องหาดูจากแผ่น หลังเทศกาลจบครับ

จากคุณ : Vip_Lek - [ 25 ก.ค. 50 09:37:31 ]






ความคิดเห็นที่ 9

แปลว่าจะได้เจอกับ iamboy17 แล้ว แต่ว่าคนไหนหว่า? อิอิ :P

จากคุณ : ตากล้องน้อยคอยรัก - [ 25 ก.ค. 50 10:34:21 ]






ความคิดเห็นที่ 10

อยากดูบ้างจัง

จากคุณ : art_sarawut - [ 25 ก.ค. 50 15:45:42 ]






ความคิดเห็นที่ 11

อ่า รอดู love for share วันพฤหัสบดีอยุ่เลยค่ะ ส่วน Sankara เวลามันทับกะเรื่องอื่น แถมช่วงนี้ยังสอบอีก เลยดูเต็มที่ไม่ไหว

อยากดู Sankara นะ แต่ปล่อยอิ nanoguy ไปดูก่อน

อยากรู้จักเด็ดพี่บ้างจัง เดี๋ยววันหลังแอดไปได้มั้ยเนี้ยคะ?

จากคุณ : cheatoneself - [ 26 ก.ค. 50 00:11:41 ]






ความคิดเห็นที่ 12

แสดงว่าวันนั้นเราคงเจอกันแล้วล่ะ แต่ไม่รู้ว่าคนไหนอิๆ

จากคุณ : mooyo - [ 26 ก.ค. 50 00:42:50 ]






ความคิดเห็นที่ 13

ปีนี้กดไปกี่เรื่องแล้วคุณ mer อิอิ ดูหนังให้สนุกนะครับ

จากคุณ : joblovenuk - [ 26 ก.ค. 50 03:59:41 ]






ความคิดเห็นที่ 14

คห. 5 คุณ pikaball
รู้สึกว่าหนังจะฉายถึงแค่วันที่ 28 เองค่ะ
วันที่ 29 เป็นวันปิดงาน ไม่มีหนังฉายค่ะ

จากคุณ : ต่าย (nuchaba) - [ 26 ก.ค. 50 17:02:27 ]


---------------------------


ความคิดเห็นที่ 3

ตามมาอ่านครับผม

จากคุณ : joblovenuk - [ 26 ก.ค. 50 03:33:11 ]






ความคิดเห็นที่ 4

อยากดู look of love อะ

จากคุณ : ความรัก ไม่มีในโรค - [ 26 ก.ค. 50 09:13:28 ]






ความคิดเห็นที่ 5

ชอบ The Park ให้ A+ เหมือนกัน เรื่องนี้ทำน้ำตาซึมเลย

จากคุณ : ตากล้องน้อยคอยรัก - [ 26 ก.ค. 50 09:30:35 ]






ความคิดเห็นที่ 6

แย่ๆ ยังได้A เอาสิ

จากคุณ : A.R.T. - [ 26 ก.ค. 50 09:51:06 ]






ความคิดเห็นที่ 7

^
^
To be frank, the grades above have been evaluated from MY PREFERENCE not THE QUALITY of the film. It's just a very very personal statement. And I write this comment as a movie-goer NOT A FILM CRITIC.

^^

จากคุณ : merveillesxx - [ 26 ก.ค. 50 10:18:10 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ู^
^
^


ไม่ใช่ The Park แอนดรูว เหลา คับ คห.ที่ 2 เค้าบอกไปแล้วนิ

จากคุณ : ::::อะกรูบี้ อะเหกริฟลอฟ:::: - [ 26 ก.ค. 50 10:22:30 ]






ความคิดเห็นที่ 9

พลาด.... เกือบจะดู The Park แล้ว ดันไปเลือกดู Diary แทน - -" พลาดๆๆ

จากคุณ : เด็กหญิงสระบัว - [ 26 ก.ค. 50 14:26:25 ]






ความคิดเห็นที่ 10

เข้ามาอ่าน ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : ต่าย (nuchaba) - [ 26 ก.ค. 50 16:33:00 ]






ความคิดเห็นที่ 11

จำได้ว่า งานเทศกาล 2-3 ปีก่อน หนังที่มีคนลุกออกมากสุดคือ in my skin เรียกว่าเป็นหนังวัดใจเลย ที่เศร้าคือ รอบนั้น ผกก.หรือทีมงานซักคน มาเอง แต่หลบอยู่ท้ายโรง รอออกมา surprise ท้ายเรื่อง คนดูก็เดินออกตลอดเวลา

จบเรื่องคนเหลือไม่ถึงสิบ (จากที่ไม่เต็มอยู่แล้ว) จับรางวัลหางตั๋ว สิบกว่าครั้ง ไม่มีคนขึ้นมารับรางวัล (เพราะหนีกลับหมดแล้วฉ จนทีมงานเดินไปหาคนที่ใกล้ที่สุด แล้วให้รางวัลไปเลย

ไปนั่งดูกับรุ่นพี่ที่คณะ คุณผู้ชายก็ขดแล้วขดอีก ฝังตัวลงไปเบาะเพราะเป็นคนกลัวเลือด >.<

จากคุณ : dekhype - [ 26 ก.ค. 50 21:12:45 ]






ความคิดเห็นที่ 12

In My Skin ยังไม่ได้ดูเลยครับ ไม่กล้าดู แต่ชอบ ผกก. คนนี้มาก (เธอเขียนบทในหนังหลายเรื่องของ Francois Ozon)

ตอน World Film ปี 2005 หนังเรื่อง Twelve Chairs ของ Ulrike Ottinger จากคนเต็มโรง (เมเจอร์เวิลด์เทรดโรง 5) เหลือคนอยู่ 4-5 คนเองครับ (ผมก็หนึ่งในนั้น) เพราะหนังมันยาวตั้ง 198 นาที แถมไม่มีซับด้วย ผู้กำกับมารออยู่คุยด้วยถึงเกือบเที่ยงคืน ก็เลยได้ลายเซ็นมาด้วยแล

จากคุณ : merveillesxx - [ 27 ก.ค. 50 00:19:01 ]






ความคิดเห็นที่ 13

5555+

ได้ดู Look of Love เหมือนกัน

ขอบอกว่า หลอนมากกก
โดยเฉพาะ 2พี่น้องหมัดเมาอ่ะ หลอนติดตา จนเก็บเอาไปฝันเลยนะ

ดูเสร็จ แล้วต้องไปตรวจสายตาอีกรอบ เพราะหนังมันมืด จนต้องเพ่งแล้วเพ่งอีก

จากคุณ : nickyblood - [ 27 ก.ค. 50 02:46:03 ]


โดย: merveillesxx วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:16:37 น.  

 
เราหลับตอนดู Nara อ่ะ...



โดย: danaya IP: 58.8.47.200 วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:08:25 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 3

อิจฉาคนกุงเตปได้ดูหนังเทศกาล อึอึ
แต่ว่าทำให้ผมพึ่งรู้ว่า โยชิโทโม นาระ นี่เป็นผู้ชาย
(ทำไมไม่รู้ผมคิดว่าเค้าเป้นผู้หญิงมาตลอดเลย)

จากคุณ : superblackpig - [ 27 ก.ค. 50 09:13:28 ]






ความคิดเห็นที่ 4

>>หลังๆ มารู้สึกเข็ดกับหนังสารคดีในเทศกาล เพราะดูแล้วหลับทุกที<<

ผิดกับเราแฮะ เวลามีเทศกาล เราเลือกดูสารคดีก่อนเลย 555
ปีนี้ดูสารดคีไป 4 เรื่อง ชอบมากสามเรื่อง ไม่ค่อยชอบหนึ่งเรื่อง

จากคุณ : Pat :o) - [ 27 ก.ค. 50 09:27:04 ]






ความคิดเห็นที่ 5

อยากดู Nara อ่ะ

จากคุณ : นางาเสะจัง - [ 27 ก.ค. 50 13:43:24 ]






ความคิดเห็นที่ 6

มาบอกว่าอิจฉาที่ได้ดูหนังดีๆครับ

จากคุณ : คนกรุงแต่อยู่ตจว. (mouse4006) - [ 27 ก.ค. 50 14:12:13 ]






ความคิดเห็นที่ 7

Before เนี่ย ยังไงก็ทำใจให้ชอบ"หน้าเงือก" ไม่ได้อ่ะเมอร์

Getting Home น่ารักดี ตลกร้าย แต่อบอุ่น

จากคุณ : mooyo - [ 28 ก.ค. 50 02:01:29 ]


โดย: merveillesxx วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:09:01 น.  

 
v_v อ่า ตั้งใจอ่าน แล้วก็พบว่า ดันมาอ่าน part 2 ก่อน part 1 อิอิ

อ่านแล้วอยากดูอยู่สองเรื่องคือ

The Park (2006, Yin Licuan, China, A+)
Traveling with Yoshimoto Nara (2007, Yoji Sakabe, Japan, A+) << ยิ่งเรื่องนี้บอกว่าเพลงประกอบเพราะยิ่งอยากดู


โดย: cottonbook วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:51:57 น.  

 
โยชิโตโมะ นารา นะครับ ไม่ใช่โยชิโมโตะ งิงิ


โดย: HEADACHE IP: 118.172.243.73 วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:22:13:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.