Secret of a happy life. Eat as if you are a horse. Drink as if you are a whale.

Shinsei Authentic Sushi @อารีย์

ชื่อร้าน : Shinsei Authentic Sushi
รายการอาหาร : Sushi
ที่ตั้งร้าน : อารีย์, กรุงเทพมหานคร ราชเทวี Thailand
พิกัด GPS : 13° 46' 54.71" N 100° 32' 37.05" E




Shinsei Authentic Sushi เป็นร้านซูชิแบบต้นตำรับแท้ ๆ ตั้งอยู่ในซอยอารีย์(ระหว่างปากซอยอารีย์ 2 กับซอยอารีย์ 3) โดย Shinsei 真正 มีความหมายว่า "ของแท้" เมนูของทางร้านจึงนำเสนอ Omakase ซึ่งเป็น sushi course แบบต้นตำรับญี่ปุ่นจริง ๆ นอกจากนี้ในส่วนของ a la carte ก็จะมีเมนูพวก roll sushi แบบผสมผสานเป็นทางเลือกด้วยครับ เจ้าของร้านที่อยู่ดูแลร้านตลอดมีความสนใจเรื่องเมนูซูชิจริงจังถึงขั้นไปเรียนทำซูชิแบบต้นตำรับที่โตเกียว ปัจจุบันก็ยังกลับไปญี่ปุ่นเรื่อยๆเพื่อตระเวณชิมซูชิระดับ Michelin ในโตเกียวเป็นการหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อนำมาพัฒนาเมนูของทางร้าน



ตัว sushi course แบบ Omakase เปิด 3 รอบต่อวัน (เว้นวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันหยุดของเชฟ) ช่วงเวลา 12:30 - 14:00 / 18:00 - 19:30 / 19:30 - 21:00 โดยมีให้เลือก 3 คอร์สด้วยกัน เรียงลำดับจากคอร์สเล็กสุดไปหาคอร์สใหญ่สุดคือ
  • 12 courses ราคา 1,500B
  • 15 courses ราคา 2,300B
  • 18courses ราคา 3,000B
ในรีวิวฉบับนี้ผมทานเป็นคอร์สเล็กสุด คือ 1,500บาท เพื่อเผื่อท้องไว้ทานเมนู a la carte อย่างอื่นเพิ่มครับ สำหรับคนที่สั่ง omakase จะได้นั่งที่เคาน์เตอร์เพื่อชิมซูชิมือเชฟปั้นให้แบบสด ๆ ใหม่ ๆ




โฉมหน้าของเชฟใหญ่ประจำร้าน เชฟอาทิตย์ นอกจากฝีมือดีแล้วยังอัธยาศัยดีด้วยครับ




เริ่มคอร์ส omakase เชฟจะปรุงอาหารทานเล่นให้เรารองท้องกันก่อนจะเริ่มเสิร์ฟซูชิ



จานนี้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ปลา Madai สับคลุกซอสสาหร่าย kombu โรยไข่ปลาแซลมอน เหมือนเป็น tartare steak ขนาดย่อม ๆ ที่ทำจากปลา Madai



มีชิ้นปลาทูน่า otoro สับกับกลิ่นหอมของ truffle ด้วยครับ รสเข้มข้นทีเดียว




อาหารเรียกน้ำย่อยจานที่สองเป็นหอย Tairagai ในซอสที่ทำจากไข่แดงดิบและซอสโชวยุรสเค็มอมหวาน






พอทานอาหารเรียกน้ำย่อยหมด ก็มาถึงส่วนของซูชิ




ซูชิคำแรกเป้นปลา Shima-aji ครับ ข้าวซูชิร้านนี้จะใช้น้ำส้มสายชูสีน้ำตาล ที่เรียกว่า Akazu หรือ red vinegar ซึ่งเป็นน้ำส้มสายชูแบบที่ต้นตำรับซูชิสไตล์ Edomae นิยมใช้กัน



เนื้อปลาสดเด้ง อร่อยมาก เชฟทาโชวยุมาให้แบบพอดี ๆ แล้วครับ ไม่ต้องจิ้มอะไรเพิ่ม




คำที่สองเป็นหอยเชลล์ บีบมะนาวญี่ปุ่น zudachi แล้วโรยเกลือกับเปลือกส้มยุซุ ออกแนวสดชื่น



หอยเชลล์สด นิ่มและหวานมาก




คำต่อมาเป็นหอย Tairagai หรือ pen shell หน้าตาออาจจะคล้ายหอยเชลล์ แต่เนื้อกรอบ สู้ฟันกว่า






จากนั้นเชฟก็ทำการเสิร์ฟเนื้อปลาทูน่าที่นำเข้าจากญี่ปุ่น โดยคำแรกเป็นปลาทูน่าเนื้อแดง Akami แบบที่แช่ซอสโชวยุจนเนื้อกรอบเด้งขึ้นเรียกว่า tsuke



ออกมาเป็นคำนี้ รู้สึกว่าเป็น tsuke หรือปลาทุน่าแช่ซอสโชวยุที่รสค่อนข้าง mild ไม่เค็มหวานจัดจ้านแบบบางร้าน ไม่กลบรสวัตถุดิบ



เนื้อปลาก็นิ่มกว่าหลาย ๆ ร้านด้วยครับ



ตามมาติด ๆ ด้วย ท้องปลาทูน่าแบบมีไขมันแทรกปานกลาง หรือ Chu Toro 



เนื้อปลารสเข้มข้นมาก ไขมันแทรกเยอะพอสมควร เกือบ ๆ ละลายในปาก



แน่นอนว่าหลังจากชิ้มรสปลาทูน่ามา 2 แบบทั้ง akami และ chutoro แล้ว คำต่อมาก็ต้องเป็น Otoro หรือท้องปลาทูน่าแบบไขมันเยอะ ซึ่งการเสิร์ฟปลาทูน่า 3 ชนิดนี้เรียงติดกันเป็นแนวทางแบบ edomae อย่างร้าน Sukiyabashi Jiro ที่เคยเคยเขียนรีวิวไว้นี่ก็เรียงลำดับปลาทูน่าติด ๆ กันแบบนี้ครับ




Otoro ที่เชฟเลือกมาวันนี้เป็นส่วนคอปลา ทีเรียกว่า Kamatoro เนื้อจะเหนียวกว่า Otoro ส่วนพุงปลา แต่เชฟเอามาลนไฟแบบ aburi ก่อน เนื้อจะนุ่มขึ้นและไขมันละลายในปาก






วาซาบิดองช่วยตัดรสได้ดีมากเลยครับ



มาถึงคำที่ผมยกให้เป็น star of the meal คือ Uni หรือหอยเม่นจากฮอกไกโด




เชฟเอาวางบนสาหร่ายแบบนี้ ให้เราห่อทานเองครับ ทำให่สาหร่ายไม่สัมผัสถูกข้าวและเครื่องก่อนจะเอาเข้าปากเรา ตอนทานสาหร่ายจะยังกรอบอยู่ หอยเม่นก็หวานสดใหม่อร่อยมาก






คำต่อมาเป็น Anago หรือปลาไหลทะเลต้มจนนิ่มละลายลิ้น แล้วที่เอาไปห่อใบไผ่ลนไฟอีกทีนึงให้มีกลิ่นหอม



ก่อนเสิร์ฟเอามาทาซอสหวานและโรยเปลือกส้มยุซุขูดอีกที




เนื้อปลาฉ่ำและนิ่มมาก คำนี้ประทับใจไม่แพ้หอยเม่นเลยครับ






คำสุดท้ายก่อนจะหมดของคาวในส่วนของคอร์ส omakase เป็นไข่หวานแบบฟูนุ่มสูตรพิเศษของทางร้าน



ซูมด้านข้างให้ดูโพรงอากาศกันชัดๆ เนื้อฟูนุ่มเหมือนขนมเค้กเลย แต่ได้กลิ่นไข่ชัดเจนอยู่ รสติดหวานแต่ก็ยังรู้สึกไดว่าเป็นของคาวครับ



ซุปใสปิดท้ายมื้อ คล่องคอ






ในคอร์สมีขนมปิดท้ามื้อให้ด้วยครับ  เป็นพุดดิ้งนมเนื้อแน่นรสนมเข้มข้มน แต่ไม่หวานจัด






อันนี้อยู่นอกเหนือจากคอร์ส Omakase เป็น roll sushi ชื่อเดียวกับชื่อร้าน เรียกว่า Shinsei Roll ราคา 450B  หรือถ้าสั่งเป็น portion เล็กแบบ half roll ก็ลดเหลือ 225B



ไส้ในเป็น กุ้งเทมปถระ ครีมชีส และ ปลาไหล unagi ส่วนด้านบนห่อด้วยปลาดิบ 3 อย่าง ได้แก่ ปลา hamachi / salmon / akami ราดซอสมิโสะหวาน saikyo
เครื่องแน่นมาก และรสค่อนข้างเข้มข้น กินท้ายมื้อหลัง omakase นี่อิ่มแน่นเลยครับ




อันนี้เป็นของแถมจากเชฟ ใช้ข้าวซููชิห่อสาหร่าย ไส้พุงปลาทูน่าสับ และ หอยเม่น



ออกมาเป็นคำนี้ ไส้ทะลักสะใจมาก หอยเม่นเป็นตัวเดียวกับที่ทานใน omakase หวานอร่อย





ชอบ anago เลยเพิ่ม a la carte อีกสักคำ คราวนี้ลอง unagi (คำละ 90บาท) ดูบ้าง รู้สึกชอบ anago มากกว่า







ของหวานร้านนี้มีไอศครีมแปลกใหม่ อย่าง Wasabi Ice cream (60B) ด้วยครับ สีเขียวเข้มแต่รสวาซาบิไม่ฉุนจัดอย่างที่คิด แค่พอซ่าๆไม่เผ็ด แปลกใหม่ดี







ประทับใจมากสำหรับมื้อนี้ ตัว Omakase เป็นชิแบบต้นตำรับแท้ ๆ ที่ปรุงอย่างปราณีตและใช้วัตถุดิบคุณภาพดีมาก ในส่วนของ a la carte ก็มีเมนูพวก roll sushi แบบผสมผสานเป็นทางเลือกด้วย รู้สึกว่าเป็นร้านที่เอาใจใส่คุณภาพอาหาร ราคาก็ย่อมเยากว่าร้านแถวสุขุมวิทพอสมควร คิดว่าจะหาเวลาไปทานอีกครับ


Shinsei Authentic Sushi

71/2-3 Soi Pahonyotin 7 (Ari) Samsanenai Phayathai Bangkok

02-619-7271

Mon - Fri : 1130 - 15:00 / 17:30 - 22:00
Sat- Sun 11:30 - 22:00



Create Date : 03 กรกฎาคม 2559
Last Update : 4 กรกฎาคม 2559 19:53:32 น. 1 comments
Counter : 6790 Pageviews.  

 
เครื่องเน้นๆเลยค่า


โดย: สมาชิกหมายเลข 3450494 วันที่: 16 มิถุนายน 2563 เวลา:15:38:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

amenochikara
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




[Add amenochikara's blog to your web]

MY VIP Friend