ส่วนตัวผมเป็นคนไม่ชอบภาษาอังกฤษมากเลย แต่เมื่อมาเรียนมหาลัยแล้วมันจำเป็นต้องเป็นไฟต์บังคับจริงๆ  ห้าม D แต่ C ได้ โจทย์นี้ดูเหมือนง่ายแต่ยากสำหรับผมมาก เพราะเมื่อก่อน ผมนนี้ จองเกรดสุดท้ายตลอด จนมาวันหนึ่ง วิชา BUS 302 หรือเป็นวิชาภาษาอังกฤษประมาว่า การใช้ tens ในรูปแบบของ past ต่างๆ 

    ทำให้ผมคิดและ "ลอง" ก่อนจะบอกว่าเราทำอะไรไม่ได้ให้เราลองก่อน ลองแล้ว เป็นยังไงก็ว่ากัน จากนั้นผมก็เริ่มทบทวน เจ้าวิชานี้เป็นพิเศษเลย เช่น จากปกติเปิดยูทูบดูตลกฟัง เพลงดูหนัง ก็เปลี่ยนมา เปิด วิชาเรียน แล้วก็ได้รู้เลยว่า ยูทูบนี อาจาร์ยเยอะจริงๆ สอนให้ฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย  ผมเสพเต็มที่เลยครับ จากหวังแค่ผ่าน C แต่เรียกว่า กันพลาด ผมวางเป้าหมายไว้ เอเลย ถามว่าสูงไปมั้ยจากคน  ได้ D ทุกเทอมในวิชาภาษาอังกฤษแล้วจะ มาตั้งเป้า A  ถุยมึงจริงๆ แต่จะขอบอกแบบนี้ว่า หากเราตั้งเป้า A หากพลาดก็ยังได้  A+ B+ B ลดลงไปเรื่อยแต่ถ้า วันนั้นผมตั้ง เป้า ยังไงเอา  แค่ ผ่านแบบว่า C พอ ถ้าผมพลาดขึ้นมานี่ ฉิบเลยนะครับ ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาทำ ซื้อสมุดมาหนึ่งเล่ม จดให้หมด คนอื่นนั่งยังไงไม่รู้ ตรูขอนั่งหน้าแล้วกัน อาจาร์ยพูดมา 100% เด้งๆ ดอนๆ มาเข้าสมองสัก 70% ก็ยังดี ที่เหลือไปถามเพื่อนเรียนดี ทบทวนเองดีกว่า  

     ข้อแทรกอีกหน่อยแล้วกัน อีกสาเหตุหนึ่ง ที่ผมต้องกลับมาตั้งใจเรียนก็เพราะว่า เกรดผมตกเหลือ 1.91 ซึ่งตัวผมเอง กู้ กยศ พลาดแล้ว!  ตอนนั้นปี 2 ได้ เลยมีเงี่อนไขว่า ห้ามพลาดอีกแล้ว

เพราะถ้า เทอมต่อไปผมไม่สามารถขึ้นมา 2.0 ได้ผมจะจ่ายเอง ซึ่งผมไม่มีปัญญาไปจ่ายมหาลัยแน่ๆ ทำให้ครั้งนั้นผมเลยกลับมาตั้งใจเรียน อยากรู้ล่ะสิ ว่าตอนนี้ผมกำลังขึ้นปีสี่แล้ว เกรดตอนนี้เท่าไร  บอกเลยง่ายๆ 2.85 ว้าวว เยี่ยมเลยใช่มั้ยล่ะ เรื่องของรายละเอียดค่อยมาเล่าให้ฟังทีหลังแล้วกัน เป้าหมายของผม อยากจะไป แตะ คำว่า 3.0 ให้ได้ เพราะชีวิตนนี้ตั้งแต่เรียนมายังไม่เคยได้เลย ต้องทำให้ได้ ขอบคุณทุกการติดตาม หวังว่า บทความนี้ จะไปดลบัณดาลใจให้ผู้อ่านได้ สร้างกำลังใจนะครับบบ สู้ๆ ลอง ดูก่อน อย่าไปคิดก่อน ลอง ลองดูก่อนน ไปแล้ววว