Group Blog
All Blog
|
บทที่ 4 โลกต่างแดน 100% & บทที่ 5 โลกกลางคืน 20% (ต่อ) แทงกิ้วเวรี่มัช มุกตาภาขอบคุณพลางผงกศีรษะรับโทรศัพท์คืน ภาพนี้จะสวยมากถ้าคุณยิ้ม เธอค่อนแคะขณะชื่นชมรูปคู่ ไหนบอกจะไม่เล่นโทรศัพท์กลางทางเดินไง รติมาสวนทันควันจนคนถือโทรศัพท์รีบนำมันไปซ่อนไว้ด้านหลัง เกรงจะถูกฉกไปอีกครั้ง รถมาแล้ว ตกลงจะไปกับผมหรือจะไปทางอื่น คนฟังนิ่งไปชั่วขณะทบทวนคำพูดของชายหนุ่มซึ่งขยับสายกระเป๋าเป้ที่บ่า เบี่ยงหน้ามองรถไฟฟ้าจอดเทียบสถานีเขาคงไม่คิดจะทิ้งเธอไว้ตรงนี้หรอกใช่ไหม ความคิดในแง่ร้ายเริ่มทำงาน หากไม่ร่วมทางไปด้วยแล้วเธอจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไรในต่างแดนซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้งูๆปลาๆ และที่สำคัญยังดูแผนที่ไม่เป็นด้วยซ้ำ มุกตาภาก้าวเท้าไปยืนข้างรติมาอย่างรวดเร็ว เลิกถือตัวที่ว่า เป็นสาวเป็นนางไม่ควรใกล้ชิดผู้ชายเกินพอดี เวลานี้หากสิงร่างเขาได้เธอคงทำไปแล้ว ฉันจะไปกับคุณ หลังจากนี้เธอคงตามติดเขาทุกฝีก้าว
๕ โลกกลางคืน
ภายในรถไฟเงียบสงบ ผู้คนไม่แน่นหนาเหมือนขบวนก่อนหน้า รติมาชี้ชวนให้หญิงสาวที่เดินขนาบข้างเข้าในรถมองยังเก้าอี้ว่าง ทว่าเธอกลับสะกิดหญิงชราอีกคนให้ไปนั่งตรงนั้นแทน เหตุผลไม่ใช่เพราะเป็นคนดีเลิศ ทว่ากลัวถูกทิ้งต่างหาก เธอจึงเลือกยืนอยู่ใกล้เขาตลอดเวลา ขอฉันดูแผนที่บ้างสิ รติมายื่นแผ่นพับให้เธอตามคำขอ สอนดูด้วยได้หรือเปล่า บอกตรงๆ ฉันดูไม่เป็น มุกตาภาพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม แค่แผนที่ในประเทศไทยยังสับสน นับประสาอะไรกับแผนที่ประเทศสิงคโปร์ ยิ่งมีเส้นทางการเดินรถหลากหลายอย่างนี้ด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องหวังว่าจะเข้าใจ แล้วอีกอย่าง... เธอหยุดพูดและเหลือบมองใบหน้าคมคายที่จ้องตอบนิ่งๆ แต่ในสายตาเริ่มเกิดคำถาม 'จะเอาอะไรอีก' มุกตาภาลังเลแต่ลองพูดออกไป ขอเมมเบอร์โทรศัพท์คุณไว้หน่อยได้หรือเปล่า การใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกเมืองนาทำให้เธอขาดความมั่นใจ เพียงมีเบอร์ติดต่อใครสักคนให้อุ่นใจไว้คงดีกว่าไร้ที่พึ่งพิง แม้ไม่ยอมเสียค่าโทรออกแพงๆ แต่ยังติดต่อทางแชทไลน์ได้อีกทาง ตามติดขนาดนี้ยังต้องขอเบอร์อีกเหรอ คิดอะไรกับผมหรือเปล่า รติมาก้มกระซิบทำมุกตาภาผงะกายออกห่างเล็กน้อย รู้สึกหน้าชาและเปลี่ยนเป็นร้อนผะผ่าว ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่เขาพูดสักนิด ในใจนึกแย้งถึงขนาดเปลี่ยนใจไม่อยากได้เบอร์โทรของเขาแล้ว ทว่ารติมาก็แบมือขอ เอาโทรศัพท์มาสิ เผื่อหลงกันผมจะได้ตามเจอ มุกตาภายื่นโทรศัพท์ให้อย่างลังเล ใจหนึ่งกลัวเขาจะกล่าวหาว่าเธอหน้าไม่อาย ขอเบอร์โทรผู้ชาย แต่อีกใจก็ต้องการเก็บเบอร์เขาไว้เผื่อความอุ่นใจ มุกตาภายืนมองเขากดโทรศัพท์ยุกยิกครู่หนึ่ง จนเสียงโทรศัพท์อีกเครื่องดัง เขาจึงส่งคืน ขอบคุณนะ มุกตาภาอาศัยจังหวะอยู่ในรถไฟฟ้าบันทึกเบอร์ของเขาไว้เพื่อป้องกันการสูญหาย แต่ยังไม่ทันได้กดบันทึก เสียงโทรศัพท์ก็ดังเตือนสายโทรเข้า เธอนึกบ่นทีมงานพาทัวร์ในใจ ริโทรหาเธอเป็นว่าเล่น ตอนโทรตามในครั้งแรก เธอก็จำใจกดรับสายไปแล้วครั้งหนึ่ง ปิดเครื่องไปเลยก็ดี จะได้ไม่ถูกไกด์ตามตัว รติมาพูดลอยแต่คำพูดของเขาทำให้เธอตัดสินใจไม่รับสายและปิดเสียงทันที ตกลงสอนดูแผนที่หน่อยได้หรือเปล่า รติมาพยักหน้าและดึงแผ่นพับจากมือของคนขอความช่วยเหลือ อธิบายถึงสถานที่ต่างๆ ที่กำลังจะเดินทางไปทีละจุด มุกตาภารับฟังและซักถามจนคนอธิบายเริ่มเหนื่อย เมื่อเธอจำไม่ได้เสียที พอจะเข้าใจหรือเปล่า เธอพยักหน้าอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ จะให้เข้าใจเสียทีเดียวคงทำไม่ได้ ว่าแต่เราจะไปกินข้าวกันที่ไหน ไชน่าทาวน์ กินข้าวเสร็จค่อยไปบูกิสตามแผนของทัวร์ เราจะไปเจอกับคณะทัวร์ที่ไชน่าทาวน์ใช่ไหม ไม่เจอหรอก เพราะเราจะเดินตามหลังพวกนั้น จะดีเหรอ มุกตาภาถามเพื่อยืนยันความต้องการของเขา และเขาก็พยักหน้าให้แทนคำตอบ แล้วที่เขาเรียกว่าบูกิสมันคืออะไร ความสงสัยไม่มีที่สิ้นสุด รติมาอธิบาย บูกิสเป็นถนนสายหนึ่งในประเทศสิงคโปร์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด เป็นย่านช้อปปิ้งและผลงานศิลปะท้องถิ่น เขาเปรียบเทียบบูกิสกับแถวพาหุรัดในประเทศไทย ทำไมคุณรู้เรื่องเยอะจัง ศึกษาก่อนมา...อย่าบอกนะว่าเธอไม่ มุกตาภาพยักหน้ายอมรับ เมื่อการเดินทางมาสิงคโปร์ครั้งนี้ผิดแผนไปเสียทุกอย่าง ในตอนแรกคิดไว้ว่าจะมากับแก้วใส เธอจึงให้เพื่อนศึกษาทุกอย่างแทน เวลานี้รู้แล้วว่าคิดผิดที่หวังแต่พึ่งคนอื่น รถไฟฟ้าวิ่งตามเส้นทางผ่านสถานีต่างๆ จากสายสีแดงก็ลงเชื่อมต่อยังสายสีเขียวและสีม่วงจนมาถึงปลายทาง มุกตาภาเดินตามหลังรติมาออกจากรถไฟฟ้ามองเห็นป้ายสถานี Chinatown เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพไว้ ทั้งรูปเดี่ยวและรูปคู่ รติมาหยิบกล้องถ่ายรูปแบบมืออาชีพขึ้นมาเตรียมเก็บภาพตามสถานที่ต่างๆ ระหว่างเดินตามเส้นทางเพื่อขึ้นจากชั้นใต้ดิน มุกตาภาสังเกตตลอดระยะทาง ผู้คนภายในสถานีรถไฟฟ้าก้าวเดินอย่างกระฉับกระเฉงว่องไว คล้ายเร่งรีบกับเวลา ส่วนใหญ่จะเป็นคนเชื้อสายจีนและโซนแขกอาหรับเสียมากกว่าจะเป็นฝรั่งผมทองนัยน์ตาน้ำข้าว รู้ไหมว่าที่นี่มีอาหารชื่อดัง หากไม่ได้แวะไปกินถือว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์นะ รติมาชวนคุยอยากรู้ว่าเธอมีข้อมูลเกี่ยวกับประเทศนี้มากน้อยเพียงใด และเป็นไปตามคาดเมื่อเธอไม่รู้อะไรเลยอีกครั้ง อาหารอะไร ดังขนาดนั้นเลยเหรอ งั้นตามมาเดี๋ยวจะพาพิสูจน์ว่าอร่อยสมคำร่ำลือจริงไหม รติมายึดแผนที่ไปถือครองไว้และเดินนำไปตามเส้นทาง ความแปลกใหม่สร้างความตื่นตาแก่มุกตาภาจนอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ถ่ายรูปไว้เกือบทุกจุด มีทั้งวัดเล็ก ศาลเจ้า อาคารสูง ตึกแถว ท้องถนนของประเทศสิงคโปร์โปร่งโล่งไม่พลุกพล่านไปด้วยรถราเฉกเช่นประเทศไทย แม้จะแวะถ่ายรูปเป็นพักๆ แต่ทั้งสองก็เร่งฝีเท้าให้ถึงร้านอาหารโดยเร็วเมื่อท้องไส้เริ่มปั่นป่วนร้องเรียกหาอาหาร ศูนย์อาหาร Chinatown Complex Food Centre ทำให้มุกตาภายิ้มแก้มปริและหันมองชายหนุ่มซึ่งระบายยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเดินมาถึงจุดหมายโดยสำเร็จ ร้านอาหารเรียงรายเป็นแถว แบ่งช่วงเป็นล็อก สองฝั่งหันหน้าเข้าหากัน ตรงกลางเป็นโต๊ะเก้าอี้สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ แลกเงินสิงคโปร์มาด้วยใช่ไหม รติมานึกห่วงเมื่อพาเธอแยกออกจากคณะทัวร์ หากเขาลดความหงุดหงิดใจลงสักนิด เธอคงได้กินข้าวฟรีเมื่อคณะทัวร์ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แลก ไปหาอะไรกินกันเถอะฉันหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว รติมาเดินนำเข้าไปยังร้านๆ หนึ่งซึ่งมีลูกค้าต่อคิวยาวเป็นขบวนรถไฟ มุกตาภาชะเง้อมองไปยังรูปภาพหน้าร้านแอบประหลาดใจนิดหน่อยเมื่ออาหารขึ้นชื่อที่รติมาเกริ่นไว้น่าตาคล้ายๆกับอาหารคุ้นเคยในประเทศบ้านเกิด ร้านนี้เหรอที่บอกว่าเป็นอาหารชื่อดัง อืม มุกตาภาหันกลับไปอีกครั้งและอ่านชื่อเมนูใต้รูปภาพ แปลแล้วแปลอีกก็อ่านได้ใจความว่า ข้าวมันไก่ To be.... รีวิวร้านข้าวมันไก่ที่สิงคโปร์ค่ะ
ป้ายหน้าร้านมีติดราคา และเมนูให้เลือก หน้าตาเป็นแบบนี้ เหมือนบ้านเราเลย แต่โดยส่วนตัว น้ำจิ้มบ้านเรารสเด็ดกว่าค่ะ ติมซำอร่อยมาก เมนูนี้เรียกว่าอะไรไม่รู้ แต่อร่อยที่สุด มีกุ้งอยู่ข้างในค่ะ ตบท้ายด้วยของหวาน แยมสตอเบอรี่ น้ำแข็งใส ฮ่าๆ
โดย: มาโซคิส IP: 203.130.145.131 วันที่: 4 ธันวาคม 2557 เวลา:11:07:24 น.
|
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |
งานนี้พระเอกเป็นต่อ กำไพ่เหนือกว่า
นางเอกต้องเป็นผู้ตาม อิอิ