All Blog
j69


Smiley

jjy5027

1.


ผมฟังโชแปงวันนี้
และส่วนของท่อนต่อไปนี้
ขณะพิมพ์งาน
และบันทึกงานนี้


นิ่มและเรื่อยๆดี
ก็อีกมิติหนึ่ง
ที่ผมพอใจและชอบมัน
ของและจากหน้าที่ของหูที่ยังได้ยิน
และหวานชื่อและเชื่อง ๆ อารมณ์
ในและจากอรรถรสของเพลง

ผมนึกได้แล้วที่บ้านอานองเต
แม่เคยทำขนมเข่งขาย
และแม่บอกว่าแม่ทำขนมจีนเป็น

นับจากโม่แป้ง
ทำไฟฟืนกระทะ
ฟืนนี้แม่ต้องหามาด้วย

สรรพวิชาคติชนวิทยาเหล่านี้สืบทอดมาจากยาย

ยายเก่งมาก
ถ้าทำขนมจีนเหลือเฟือจากที่บ้านกินกันก็ไปขาย
แต่ยายไม่มีหัวการค้าเช่นเดียวกับตา
หัวการค้าของยายไม่มี
นอกจากอารมณ์แค่เล่นลอง
ยายเคยเลี้ยงช้างและรับจ้างโกยขี้ช้าง

แต่ส่วนตาแม้จะมีหัวการค้า
แต่ตาอยากจะเป็นพระธุดงค์มากกว่า


หลังตาแพ้ความคดีมรดก
และแต่บังเอิญตามาแต่งงานกับยาย
ชีวิตพระธุดงค์ของตาจึงงดไป
ตาได้ทำสวนแบบทำมาหากินจนตั้งตัวได้อย่างดีแล้ว
จึงกลับมาเป็นพระธุดงค์อีก


จนวาระสุดท้ายมาตายในอ้อมกอดยายอีกครั้ง
หลักถูกยายเชิญให้สึกจากพระ
เพราะป่วยเป็นวัณโรค
และตายในที่สุด
ตาตายอย่างสงบท่ามกลางลูกหลานที่บ้านอานองเต


ต่อมามีอีกสิบปียายตายตามด้วยพิษตกค้างจากที่
งูเห่าดอกจันกัดที่บ้านอานองเตสอง
และตายตามกันไป


ศพตาและยายวางไว้ที่สุสานที่บ้านอานองเต
โดยพ่อเป็นซินแสดูฮวงจุ้ยให้
(ฮวงคือลมจุ้ยคือน้ำ)
ทำอย่างอย่างมีระบบ

เพราะชีวิตยายเติบโตมา
ด้วยการทำของกินเองทุกอย่าง
ถ้าเหลือ
เรื่องวัดกับพระนั้นไม่ต้องถามสิ่งแรกที่จะเข้าปากตัว
ต้องไปถึงพระก่อน
ไม่ว่าจะทำอะไร

ก่อนที่จะถึงปากตนเอง
อันนี้เป็นประเพณีนิยมที่บ้านอานองเต

มาก่อน
เราเป็นเด็กนอกจากรอกินลูกตุ้มขนมจีนที่
เหลือจากการส่ายแป้งลงตะแกรงผ่านกระทะ
หรือหม้อน้ำร้อน
อังไฟเตาดิน
(ลูกตุ้มคือเศษขนมจีนที่เป็นก้อนๆสุกแล้ว)


สมัยก่อนนั้น
ผมจำได้ว่า
การทำขนมจีนนั้นเป็นงานเลยทีเดียว
มันเรื่องมาก

เพราะอยากกินขึ้นมา
จึงไม่เหนื่อยที่จะทำ
อย่างไม่น่าเบื่อและลำบากใจกายอย่างใด
แต่อันที่จริงลำบากมาก

ตามมาด้วยผักเหมือดมียอดกระถินอ่อนๆ
และมีเครื่องขนมจีน
คือน้ำพริและน้ำยา
ส่วนผักดองเหมือด
สมัยนั้นผมไม่เห็น

เหมือนอย่างที่เขาทำขายกันในปัจจุบัน
ที่ผมชอบถั่วงอกดองหรือสด
 และหัวกะหล่ำปลีดองหรือสด
ยอดมันปู
ผักแว่น
ยอดผักอะไรก็ไม่รู้
ตามพื้นบ้านที่มีมาด้วย
แต่กินได้อร่อยดี

แครอทหั่นและดอง
เป็นเครื่องแกล้มขนมจีนทุกครั้งที่ซื้อกินสมัยนี้

น้ำพริกและน้ำยาน้ำพริกจะหวานมีถั่วคั่วสุกผสม
(น้ำพริกนี้มิใช่น้ำพริกที่เรากินเหมือดผักปกติไม่
 แต่เป็นสูตรน้ำพริกขนมจีนเขาโดยเฉพาะ)

ส่วนน้ำยานั้นจะรู้สึกเหมือนเหมือนำน้ำแกงอะไร
สักอย่าง


ผมแม้บัดนี้มักเรียกผิดเรื่องใช้น้ำพริกหรือน้ำยา
ระหว่างสั่งกินให้เลือกปฏิบัติว่า
จะเอาน้ำพริกหรือ
น้ำยาหรือผสมกันราดบนขนมจีน
ที่จริงตนเองชอบน้ำยามากกว่าน้ำพริก

เพราะน้้ำพริกขนมจีนจะหวานตามสูตร
กินขนมจีนกับสิ่งที่หวาน ปากผมรู้สึกเลี่ยนๆ
คือไม่อร่อยตามที่ตนเคยชอบ


ผมสั่งผิดแต่เมื่อผิดแล้วจำใจกิน
 เกรงใจแม่ค้า
เพราะถ้าเปลี่ยน
มันจะเสียไปหนึ่งชุดที่เราสั่งมากิน


สมัยก่อนนั้น
ถ้ากินขนมจีนไม่มีน้ำพริกและน้ำยาจะ
ใช้น้ำกะปิหรือน้ำเคย
แทนอร่อยดีมากเหมือนกัน
สำหรับผม


แต่สมัยที่บ้านอานองเต
ผมพบแต่ผักกระเฉดและยอดกระถิน
และเมล็ดอ่อน ฝักอ่อนกระถินเพื่อเหมือดเท่านั้น
เมื่อกินขนมจีน


ก่อนอื่นข้าวที่ทำขนมจีนผมจำไม่ได้ว่าข้าวอะไร
ที่บ้านอานองเตยุคเศรษฐกิจดั้งเดิม
ตามนิยามผม
ใช้ข้าวซึ่งไม่เคยซื้อแต่ปลูกเองเพราะที่บ้านอานองเต
มีนาและไร่เองปลูกเองทำเองทุกอย่าง
จนลงหม้อหุงข้าว
เองทุกอย่าง


ไม่เคยซื้อหรือซื้อทุกอย่างเหมือนสมัยเศรษฐกิจ
แบบเงินตรานี้สมัยนี้


ข้าวที่ได้จำได้ว่า

มีข้าวไร่(ปลูกบนเทือกเขาอานองเต)บนบก
 ข้าวนาลึก ข้าวนาตื้นสองนาหลังปลูกในน้ำ
ข้าวไร่นี่หอมจริงๆ เกือบจะเหมือนข้าวหอมมะลิปัจจุบัน



ก่อนอื่นต้องแช่ข้าว และนำมาบดและ
ตักหยอดที่ละช้อนโดยหยอดทีละช้อนบน
รูโต๊ะบนโม่หินอ่อน

ทำเริ่มแรกด้วยโม่บดข้าวเฉพาะ
เป็นหินอะไรเรียกว่าหินอ่อนก็แล้วกันตอนนี้
เพื่อเอาความตามที่ทันแก่ใจ
สรุปบางอย่างผมไม่ทราบว่าเขาเรียกว่าอะไร

จากนั้นเมื่อมันบดละเอียด
ด้วยมือหมุนไปพลางตักไปพลาง
จนเป็นน้ำแป้งแล้ว
จึงตั้งน้ำด้วยไฟฟืน


มีอุปกรณ์จำเพาะใส่แป้งเข้าไปและบีบออกตามรู
แล้วบีบให้ลงไปในหม้อน้ำต้มที่ร้อนเดือดอยู่

หลังจากนั้นนำตะแกรงมาช้อนขนมจีน
ออกจากหม้อน้ำเดือด
พาไปใส่่ผ่านน้ำเย็น

ผมเป็นเด็กมีหน้าที่นั่งดู
ส่วนหมาและแมวนอนดูเขาทำกัน
หมาและแมวที่บ้านอานองเตกินขนมจีนไม่เป็น
ผมจำได้

ผมมีหน้าที่พิเศษคือรอกินลูกขนมที่เรียกว่า"ลูกตุ้มขนมจีน"
ขนมจีนที่เป็นก้อนๆ

เมื่อขนมจีนเสร็จ
ต่อไปเป็นเรื่องของทำน้ำยาและน้ำพริกขนมจีน

เอาละเท่านี้พอก่อน
ตรงจุดนี้


และสิ่งแรกเขาทำอย่างไร
พาไปอวดพระที่วัด
คือพาไปถวายพระที่วัดมื้อเพล
เอ้ยไม่ใช่
พาไปทำบุญ
ตามคตินิยมอันศักดิ์สิทธิ์ของไทยโบราณ


ผมชอบกินเส้นขนมจีนกับน้ำเคยหรือน้ำกะปิ
ที่มิใช่น้ำปลา
น้ำเคยหรือน้ำกะปิและน้ำปลาต่างกัน
น้ำเคยเขาทำจากกุ้งแต่น้ำปลาเขาทำจากปลา
ยายคนหนึ่งบอกมา


กะปิ

เพราะเขาต้องไปหากุ้งทะเลมาทำตัวนี้คือน้ำกะปิอยู่
ว่าอย่างนั้น




ข้อสรุปก็
ก็อร่อยไป

แม่ทำผักเสี้ยนดองเก่งมาก
ถูกปากผม
ผมลืมเรียนไป

เดี๋ยวนี้เมื่อคิดถึงแม่ได้แต่หาซื้อกินมื้อเดียว
เพราะผมไม่รู้จักเก็บไว้กินมื้อสอง
มันมีวิธีเก็บมิใช่ตู้เย็นเท่านั้น
อันนี้ชั่วคราว


มีวิธีอยู่ผมไม่ได้เรียนจากแม่
แต่พอเห็นแม่ทำที่เห็น
ด้วยกลพิธี
วิธีแอบดู


มีน้ำมะพร้าวและพาไปตากน้ำค้างข้ามคืน
ในขวดโหลชนิดใสเป็นแก้วมิใช่พลาสติก
ถ้าเก็บนานเขามีวิธี
ไม่ให้มันบูด
โดยที่ไม่ต้องใส่สารกันบูด


สมัยนั้นสารกันบูดไม่มีขาย
และไม่มีใครรู้จัก
นอกจากสบู่ซันไลด์สีเหลืองๆและผงซักฟอกแฟ๊บ


นอกจากวิธีทางสมุนไพรวิทยา
ผมแอบเห็นแม่ทำเท่านั้น
ไม่ได้สืบทอดมา
ผักเสี้ยนดองจิ้มน้ำพริกแมงดานี้
อร่่อยสุดขีดที่ผมชื่นชอบ

แม่เคยซื้อสร้อยทองคำรูปพรรณหนักหนึ่งบาท
ให้ผมหนึ่งเส้น
สมัยนั้นบาทละ  400  บาท ไทยเท่านั้นเอง
ทองสมัยนี้บาทเป็นหมื่นขึ้นไป
(2560)

แม่เคยหาบผักเสี้ยนดองไปขาย
เดินหาบคอนด้วยตะกร้าจักสานและไม้ไผ่หาบคอน
เดินเท้าเปล่าวันละ20กม.
ตามเคย

ช่วงสึกจากชีมาปลดหนี้
นี้การลงทุนของครอบครัวอานองเต
ในช่วงเป็นหนี้ก็ทำอย่างนี้ก่อนกลับไปคืนดีกับพ่อ

กล่าวคือมีการลงทุนในประวัติของบ้านอานองเต
แต่ขาดทุน
ท้ายสุดยายสั่งแม่ว่าไปคืนดีกับพ่อ
เมื่อแม่มาคืนดีกับพ่อภายในสองปี
ปลดหนี้ได้หมด


ผมถามคนอื่นในคืนเดือนหงาย
เมื่ออยู่คนเดียวในค่ำคืนหนึ่ง
ขึ้นสิบห้าค่ำ


ไม่ทราบว่าอารมณ์อะไรของแม่
ที่ซื้อสร้อยทองคำให้ผมใช้หนึ่งเส้นสี่ร้อยบาท

และในปีต่อมาทำแหวนนามสกุล
ให้อีกหนึ่งวงสลักเรียบร้อยหนักหนึ่งสลึง
ที่ร้านแถวเยาวราช
กรุงเทพฯ

แม่มีอะไรอีกหลายอย่าง
ที่ให้ผมอีกหลายๆอย่างที่ผมจำได้
นอกกจากเกิดผมมา
และนอกจากความรักที่แม่มี

แม่ให่้เงินเดินไปเรียนภาษาเยอรมันที่สถาบัน
เกอเธ่  ถนนพระอาทิตย์ที่กรุงเทพฯ
จนต่อมาผมไปอยู่อังกฤษ
แม่ก็ตีตั๋วเครื่องบินให้
แม้เป็นแบบชาร์ตเตอร์ไฟล์
ก็ถึงอังกฤษผ่านด่านไปด้วยดี

และวันนี้ผมโกนหัวตนเองอุทิศให้แม่
อีกแม้จะแสบหัวและเย็นกระโหลก
ทำแบบนี้
แบบไว้ทุกข์แม่


เพราะผม
ไม่สามารถไปทำบุญอุทิศให้แม่ได้อีก
เพระแม่สั่งไว้ว่า
ถ้าไม่มีครอบครัวหรือตั้งตัวได้
หลังแม่ตาย
ไม่ต้องไปห่วงเรื่องเหล่านี้
บุญคุณที่แม่มีกับ
ชุมชนอานองเตนั้นเพียบ


คือเงินเพียงเพื่อเยียวยาลูกที่ต้องเกิดมา
แบบมีชีวิตบ้านแตกสาแหรกขาดในอดีต

แม่บอกว่า
ผมสามารถเก็บกินในชาตินี้ก็ไม่หมด
แต่ผมก็อดทำบุญไม่ได้
แต่ด้วยการใช้ใจทำ
บางครั้งมือทำบ้าง















2.


ต้นกล้วยเตี้ย
ผมได้มาซื้อจากคนรู้จักโดยบังเอิญ
ตายหมดหลังให้ผลสองสามครั้ง
ผมกินมันทุกครั้ง

ปลาหางนกยูงตายเกลี้ยง
เหลือสายพันธุ์บ้างนิดหน่อย
กบหายเกลี้ยง
กระต่ายหายหมด
บัวสายหลายพันธุ์ในสระขุดตายเกลั้ยง
จะตรวจค้นว่ามันมาจากสาเหตุอะไร


จากเผ่ากิยองตินส่ั่งคนมาทำลาย
หรือคนอดอยากพากันไปกิน
และเหยียบย่ำ
ตาย

ช่วงฝนตกคนหากบในกลางคืน
หรือถูกขโมยโดยเด็กซน
ที่มิใช่เผ่ากิยองติน
หรือถูกแอบซ่อนหยิบทำลายทางอ้อม
หมดไปด้วยแรงการถือวิสาสะ


ปลากกัดเลี้ยงทิ้งไว้ในบ่อพักขนาดใหญ่หายเกลี้ยง
มีงูชนิดหนึ่งเป็นงูน้ำเป็นงูกินปลามากินรึป่าว
หรือถูกขโมยขะโจรเอาไป
ผักตบสันตะวาใบพาย


ผักตบชวาตายเกลี้ยง
ปลาหมอปลาสลิดนางฟ้า
ปลาสลิดทุ่ง
ปลากระดี่
ปลาช่อน
ปลาดุกหายเกลี้ยง


ผมเชื่อว่ามันต้องมีว่าสาเหตุอะไรบางอย่าง
ผมเชื่อในมันสมองของตาที่่ผมแปลนไว้มันต้องเอาตัวรอด
หอยโข่งฝักข้าวนี้
ผมนำมาเลี้ยงแพร่พันธุ์อย่างไว
มีมากมายจนทำลายหรือพาไป
ยำแสบหอยโข่งหอยฟักข้าวกินกับข้าวเหนียวมูน
อะไรเทือกนั้นได้



แต่หอยสองชนิดนี้
มันทำลายวัชพืชน้ำ
และพืชเศรษฐกิจน้ำตายหมดได้ได้อย่างไว
เพราะหอยชนิดนี้มันกัดกินเก่งมาก
นับจากบัวน้ำก็โดนหอยมันกัดกิน


ผมซื้อยาสลายหอยพวกนี้
มาทำลาย
จนสูญพันธุ์และบางส่วนพานำไป
กลับคืนสู่ธรรมชาติที่มันมา
หายหมดไปจากบ้านอานองเตโดยสิ้ยเชิง
แล้วตอนนี้

ผมจับหนูและกระจ้อนติดกรงได้
เกือบทุกวันและปล่อยทุกวัน
หาที่ปล่อยยากเพราะ
มันจะไปกวนคนอื่นตอนมันไม่ได้
จะฆ่าหรือพามากินผมทำไม่ลง

ที่สำหรับปล่อยสัตว์พวกนี้เขาไม่ได้จัดไว้ให้
บางครั้งเกิดความไม่สงบได้
เที่ยวไปปล่อยส่งเดชพวกด่าตายแน่


ถ้านำกระจ้อนหรือหนูไปปล่อยในที่ไม่เหมาะและควร
เชื่อว่าแมวเกิดมาไม่ทันเพื่อปราบหนู
และกระจ้อนในโลกนี้แน่นอน

และแมวแผนปัจจุบันนั้น
กำลังจะคล้ายเป็นคนเต็มทีแล้ว
ใส่กระโปรงให้นั่งส้วมได้
มีสุุสานฌาปนกิจสัตว์บ้าน
เกิดขึ้นแล้ว

แต่หนูและกระจ้อนนั้นยังเหมือนเดิม

หนู
มีแต่วอลต์ ดิสนีย์
ทำเรื่องมิกกี้เม้าส์ให้เราสนุกดู
วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์
เป็นผู้สร้างผลงานการ์ตูนที่แพร่หลาย
 และประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลกคนหนึ่ง
เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวอลท์ ดิสนีย์
และสร้างภาพยนตร์การ์ตูนสีเป็นคนแรก วิกิพีเดีย
เกิดเมื่อ: 5 ธันวาคม 2444, Hermosa, ชิคาโก, รัฐอิลลินอยส์, อเมริกา
เสียชีวิตเมื่อ: 15 ธันวาคม 2509, เบอร์แบงก์, รัฐแคลิฟอร์เนีย, อเมริกา
https://th.wikipedia.org/wiki/วอลต์_ดิสนีย์ 25/07/17vhk':he
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

วอลท์ ดิสนีย์
ไฟล์:Newman Laugh-O-Gram (1921).webm
Newman Laugh-O-Gram (1921)
วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์ (Walter Elias Disney)
 (5 ธันวาคม 2444 - 15 ธันวาคม 2509, ค.ศ. 1901-1966) เป็นผู้สร้างผลงานการ์ตูนที่แพร่หลาย
และประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลกคนหนึ่ง

เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ และสร้างภาพยนตร์การ์ตูนสีเป็นคนแรก

เริ่มทำการ์ตูน มิกกี้เม้าส์ (Mickey Mouse)
โดนัลด์ดั๊ก (Donald Duck) และภาพยนตร์เรื่องยาว เช่น สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด
 (Snow White and the Seven Dwarfs),
แฟนตาเซีย (Fantasia), พินอคคิโอ (Pinocchio) และ แบมบี้ (Bambi)

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หนังการ์ตูนต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการสร้างจำนวนมาก
 ดิสนีย์จึงเริ่มทำภาพยนตร์เกี่ยวกับการผจญภัยที่เป็นจริง เช่น เดอะ ลิวิง เดสเสิร์ท (The Living Desert)

นอกจากนี้ยังได้สร้างสวนสนุกสองแห่ง และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 59 รางวัล
 โดยได้รับรางวัลออสการ์ถึง 26 รางวัล นับเป็นบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงและได้รับรางวัลออสการ์มากที่สุดในโลก[1]

Disney1968.jpg
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย[แก้]
พ.ศ. 2505 - Order of the Crown of Thailand -
3rd Class (Thailand) ribbon.png เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย
 ชั้น 3 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)[2]
อ้างแล้ว25/07/17จากวิกีพีเดียเสรี



เมื่อตอนผมเป็นเด็กผมจำได้
ชอบดูและนั่งหัวเราะชอบใจอยู่คนเดียวที่หน้าเครื่องโทรทัศน์


แต่หนูก็ยังไม่ถูกยกฐานะมาเป็นคนได้
เหมือนแมวหมาไป
หนูบางอย่างคนพามาเลี้ยง
ที่มาของกลิ่นฉี่หนูเป็นเชื้อโรค
จบเรื่องนี้



ใช่ แต่ว่าไม่ครบตระกูลหนูทั้งหมด
ส่วนแมวนั้นแมวสีสวาดในอังกฤษแพงมาก
เขานิยมเลี้ยง
และแมวไทยเป็นแมวบ้านชั้นเยี่ยม
ผมให้ชื่อมันว่าเสือบ้าน

ผมเริ่มเหนื่อย



และต่อจากการว่างเว้นจากนาทีนั้น
ผมเริ่มมีกำลังหลังจากมีอาการหอบนิดๆ
จนมีแรงเขึ้นมา
พราะได้กินอาหารที่ชื่นชอบ
แต่มิใช่ยาโด๊บแน่น่อน
เพราะผมไมเชื่อเรื่องยาโด๊บ

ปัญหามีเรื่องของกลิ่นหนูตาย
และกลิ่นอื่นและเรื่องยุงและเขตความรับผิดชอบ

เรื่องกลิ่นสัมปชัญญะของผมบอก
ให้สติรู้ว่ามีหนูตายในบ้านอานองเตเกิดขึ้น
เพราะมีกลิ่นหนูตายขึ้นในบ้าน


กลิ่นนี้ทำให้ผมหนาว
แน่นอนกลิ่นนี้

ผมทนไม่ได้ถึงขนาต้องย้ายที่นอน
ที่ทำงานหรือย้ายบ้านหรือไปนอนรีสอร์ต
เสียเงินอีกตามเคย


เอาละต้องแก้ไข

ต่อมาเรื่องยุง
เมื่อต้นตะไคร้หอมหมดไปจากบ้านอานองเต
พบว่ายุงชุมมาก
และรำคาญสุดขีดๆเลย
จะใช้ยาก็มีกลิ่น


ผมไม่ชอบกลิ่นกวนใจเช่นกลิ่นตุๆ
ชอบธรรมชาติหรือกลิ่นดอกกระดังงาป่า
อันนี้ผมชอบ


กลิ่นดอกกระดังงาป่าหรือต้นสารเหล้า
ที่บ้านอานองเตเรียกมัน
ได้กลิ่นมันตอนเช้าอันนี้ผมชอบ


แต่กลิ่นกระดังงาป่ามันมาไม่ทุกวันแม้มันจะออกดอก
และมันต้องรอจนกว่ากลิ่นมันจะออกจากดอก
ในยามที่มันพร้อมและมันต้องการ

จะไปบังคับให้กลิ่นมันออกผมไม่มีเวลา

ทำกลิ่นเทียมอย่างหัวน้ำหอม

แต่มันสวยงามดี
แต่ว่ามันเฉพาะบางที่เท่านั้นที่น่าพึงใจ
ถ้าตลอดเวลามันหอมก็อาการอยู่เหมือนกัน
คือเวียนหัวที่เรียกว่าหอมจนเวียนหัว  อันนี้ก็มีเหมือนกัน


สรุปกลิ่นธรรมชาติผมชอบ
แต่ยุงนี่นะ
มันจะยุงธรรมชาติหรือไม่ธรรมชาติ
ผมไม่ขอชอบ
มันเสียเส้นเมื่อยุงกัด
เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน
เท่าที่ผมจำได้และรู้สึก



ฝนตกหนักทุกวัน
ที่บ้านอานองเต
แน่นอนหลังคาเปียก
และแน่นอนมีรอยรั่วร้าวของหลังคา
ต้องซ่อมตลอดเวลา
สำหรับบ้านอานองเต
มันเป็นวัฒนธรรมไปแล้วสำหรับผม


ผมไม่อยากจะใข้เงินมากไปเพื่อซ่อมอย่างดิบดี
 เพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะตายแล้ว
เพราะกลัวเมื่อผมตายมูลนิธิที่ตั้งจะได้เงินน้อย

ถ้าไม่จำเป็่นนี่ผมจะไม่ใช้มัน"เงิน"



ต่อไปจะจบเรื่องญาติฝ่ายข้างแม่สักที
เพราะจะได้จบสักที

แต่มันต้องจบเพราะว่ามีเท่านั้นเท่านี้
บันทึกได้
เรื่องของอานองเต
มันไม่เพิ่มเหมือนวินาทีและเวลาหรอกแน่น่อน
เรื่องการสืบค้นญาติเพราะมนุษย์ในโลกยังน้อยนิดผมว่า



เรื่องของมนุษย์หนึ่งคนเป็นความจริงเฉพาะไม่สากล
เพราะฉะนั้นต้องจบ
ให้ได้



งวดนี้คนขึ้นมะพ้าวที่บ้านอานองเต


เขาเอาลูกละเจ็ดบาท
ค่าขึ้นตามแรงกังบวกค่าขนค่าเก็บค่าส่ง
งวดนี้ได้ลูกละ20บาทลูกใหญ่เท่านั้น
45วันขึ้นครั้ง
เก็บได้50-150ลูก
หายบ้างหล่นบ้างลืมเก็บบ้าง
ผิดบ้างพลาดบ้าง
แตนบ้างต่อบ้างผึ้งบ้างมดแดงบ้าง
ขึ้นไม่ได้เพราะลิงกังกลัวชนิดสัตว์นี้


คนสอยด้วยไม้ไผ่ต่อลำยาวเชือกยางรัดตะขอ
เกี่ยวรั้งอันนี้เขาก็ไม่ว่าง
และบางครั้งผมไม่มีเวลาไปตาม
จึงปล่อยเจ้าเก่าทำไป
ผมยอมขาดทุน
คนเดียวกันทำ


ที่คิดค่าเก็บแพง
เพระเขาหาว่าที่ดินที่มะพร้าวตั้งอยู่เก็บมะพร้าวได้ยาก
ค่าขึ้นบวกมันจึงแพงกว่าปกติ


มันรกด้วยหญ้าตามนนโยบายของผม
"ปล่อยรก"เพื่อนิเวศน์ป่า
คนรับซื้อมะพร้าวขายต่อ
บอกว่างวดนี้ผมได้เงินส่วนแบ่งน้อย
 เพราะคนกังเอาส่วนแบ่งไปเกือบหมด


ถ้ามะพร้าวนอกเข้า
ผมคงต้องขายต้นมะพร้าวอีกแน่นอน
ผมคิดว่าเดี่ยวค่อยดูว่าจะเอาอย่างไร




ดูที่เรื่องราวว่าเขาเก็บเรียบร้อยหรือไม่
เขาขึ้เกียจหรือว่าลีลา
หรือว่าหาเรื่องทำเงินจากผม
ไม่มีเหตุผลหรือว่า
เขามีเหตุผลจริง


หรือว่าเขาท้าทายให้ผมเปลี่ยนคนขึ้นมะพร้าว
ให้ใหม่ในงวดต่อไป
รวมทั้งเปลี่ยนคนซื้อคนเก็บหรืออย่างไร
เรื่องการทำมะพร้าวดูจะเป็น
เรื่องการเมืองเรื่องมะพร้าวด้วย
ผมคิดว่า


เดี๋ยวค่อยดู

เงินมะพร้าวที่ผมได้ซึ่งไม่มาก
ที่เป็นรายได้หลักของบ้านอานองเต

วันนี้ไปทำความสะอาดบ้านอานองเตสอง
ทางเจ้าเลขที่บ้านและเกรียนต้นไม้ทางเข้า
สวนอานองเตที่ขายไปให้เขาฟรีข้างทางหลวง
ที่ตัดให้ใหม่

และต้องแต่งต้นไม้ให้
ไม่ได้จัดการกับกฎทางหลวงและทางไฟทางน้ำให้
ที่เขามีผ่านหน้าบ้านอานองเตทั้งสามหลัง
กลัวทำดีเกินกลายเป็นทำคุณบูชาโทษ


นอกจากนั้นผมปลูกพืชตามแผนนีโอเกษตร
เพื่ออนาคตของบ้านอานองเต
หลังจากที่ผมตายแล้ว


ผมจะทำอะไรไว้ปลูกอะไรไว้ตอนนี้
คิดว่าผมคงจะไม่รอดอยู่ได้ทันกินมัน
หลังจากที่ผมผิดหวังเรื่องยางพารามาแล้ว
ชุดหนึ่งที่ขายไปทำรีสอร์ต
ค่อยบอกว่ามีอะไรบ้างที่ผมปลูก

แต่ที่แน่นอนมิใช่กัญชาและพืชกระท่อมแน่นอน
แม้เรื่องนี้ก็ทำได้แต่ต้องขออนุญาตถ้าคิดจะทำ
เอาละผมละเรี่องผิดกฎหมายเด็ดขาด
เอาไว้เท่านี้ก่อน





วันนี้ผมได้หลับหลายงีบแม้มีสิ่งกวนสมาธิ
แต่หลับได้เพราะเหนื่อย
และได้โฮร์โมนชนิดหนึ่งจากการรอดและปลูกชีวิต
จากการออกไปนอกบ้านอานองเตมา

จึงมีความทรงจำที่ทวนรำลึกถึง"สิ่ง"ขึ้นไดแก่



เรื่องหัวข้อลิดรอนสิทธิของน้องสาวแม่คนที่สาม
นี้มีประเด็นสำคัญ คือ:
และมีปัญหาคือ
เขาเป็นน้องสาวที่เกิดมาเมื่อตอนยายและตาแก่แล้ว

ผมได้รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเมื่อ
ได้อยู่ร่วมกันที่บ้านอานองเต
สมัยอดีต

มันเกิดขึ้นที่บ้านอานองเตเก่าเชิงเขา
น้องสาวแม่คนนี้
เกิดที่บ้านอานองเตเก่าเชิงเขา
ผมเห็นเหตุการณ์นี้การเกิดนี้ทั้งหมด
และผมเป็นพี่เลี้ยงน้องสาวแม่คนที่สามนี้มาตลอด
จนผมเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ

น้องสาวแม่คนนี้ทำให้กิดเหตุ
เรื่องลิดรอนสิทธิโผล่ขึ้นมาในสมองของผม
หลังจากที่เขาแต่งงานแล้ว
คู่รักของเขา
ผมยังไมสามารถชี้ชัดได้ว่า
เขามาจากเผ่ากิยองตินหรือไม่

โดยสภาพเขามีจรรยาบรรณอยู่บ้าง
เมื่อมาอยู่กันในในระหว่างการลิดรอนสิทธิที่
เกิดขึ้นที่บ้านอานองเตนี้ขึ้น

อย่างไรก็ตาม
ยายและแม่ก็เห็นด้วยกับผม
และพ่อนั้นแน่นอนไม่ค่อยเห็นด้วย
กับการถูกลิดรอนสิทธินี้





ก่อนอื่นเมื่อน้องสาวแม่คนนี้เกิดมา
 เขาเมื่อได้มีโอกาสช่วยสร้างและช่วยทำลายอาณาจักร
บ้านอานองเตอะไรนอกจาก
มาอยู่เพื่อนยายและดูแลยาย
แต่ว่าใช้เงินบ้านอานองเตเปลืองในนามของยาย
ใช้เงินงานศพยายที่รอใช้งานป่วยยาย
แล้วพาไปตั้งร้านขายข้าวแกงที่กรุงเทพฯ


ซึ่งการเงินยายทั้งหมดช่วงนั้น
แม่ผมเป็นหัวหน้า
และพ่อต้องรับผิดชอบแทนน้องสาวแม่คนที่สามนี้
เพราะน้องสาวแม่คนที่สาม
มีฐานะการเงินล้มเหลว


นอกจากมีสามีและลูกอีกสามคน
คอยลิดรอนสิทธิพ่อแม่ผม
แม้น้าเขยแกเป็นกาฝากที่บ้านอานองเตทำตัว
ขายเครื่องแกงก็ไปไม่รอด
ฝ่ายสามีไปรับเหมาก่อสร้างโบสถ์วัด
ซึ่งก็ได้งานมาส่วนมากมาจากบารมี
ยายและพี่ชายยายที่เป็นพระ
(ตระกูลฝ่ายข้างยายเป็นคนไทยสยามพลัด
ถิ่นมาจากมะริด ที่ย้ายเมืองจากกรุงอยุธยาสมัยไทย
ปกครองเมืองมะริดที่ปัจจุบันเป็นประเทศเมียนมาร์(พม่า)
ผมไม่ทราบรายละเอียดมากนักเพราะผมไม่กล้าถามท่าน
แต่ว่ามาในพื้นที่เมืองแม่ของไทยแล้ว
เป็นคนทำมาหากินดี
นิสัยดี
มีแต่ให้กับให้

และย้ายถิ่นประจำในช่วง200ปีที่ผ่านไปมา
อยู่เมืองแม่ในไทย


จนเป็นบ้านอานองเตปัจจุบัน
ตาเป็นักสร้างวัดช่างไม้วัดเก่าในพื้นที่ตาช่วยทำเสีย
โดยมากชนิด
ทำให้ฟรีเป็นชีวิตจิตใจ
ช่วยแบบอุทิศชีวิตเพื่อศาสนานา
หลังการบวชของตาที่เคยมีอาชีพช่างไม้เก่า
เพราะเมียตายเสียใจ
จึงบวชจนในที่สุดตำแหน่งสุดท้ายได้เป็นสมภาร
และเป็นพระคู่สวดมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
ช่วงการบวชของตาท่านนี้


เริ่มต้นได้รับการอุปถัมภ์
การสร้างวัดแห่งหนึ่งที่ภูเขาในอำเภอที่ท่านดำริ
ร่วมสร้างกับพระสำคัญมาจากที่อื่นด้วยสำเร็จ
มีกุฎีมากมายเป็นเรือนไม้ครึ่งปูน
ที่ต่อมาถูกรื้อและทำลายและผุพังไป
จนเปลี่ยนรูปทรงใหม่เป็นปัจจุบัน


การอุ้มชูจากยายและที่บ้านอานองเตเต็มที่
ขนาดยายนั่งเกวียนไปส่งอาหาร
เพราะวัดที่ตาไปบวชเป็นวัดเจ้าคณะอำเภอ
มีชื่อสำคัญห่างจากบ้านอานองเตทางเหนือ15 กม.ประมาณ
และต่อมา
แต่มันเป็นความหลังที่ลืมไปเกือบหมดแล้ว)


ตาท่านนนี้บวชแก่ตายในผ้าเหลือง
อายุยืนที่สุดในพื้นที่


ส่วนน้องสาวแม่คนที่สามนี้
และสามีมีประวัติการเงินเสีย
เคยไปเกาะกินสร้างผลประโยชน์กับตาท่าน
เป็นพระท่านผู้นี้
เพราะเป็นช่างทำโบสถ์มีสกุลช่างจากจังหวัดอื่น


ชีวิตน้าเขยผมคนนี้ลงตัวกับตา
และปัญหาข้อครหาอยู่บ้างจน
มาพบรักกับน้องสาวแม่คนที่สาม
เรื่องข้อครหาจึงเงียบไป
เช่นมาหาผลประโยชน์กับตา
พระรูปนี้ซึ่งมีมือสะอาด


ตาท่านนี้ไม่เน้นพวกหรือพรรค
สุดแท้แต่ความเป็นไปเพื่อคุณธรรมสูงสุด
เหตุนี้ท่านตาพระรูปนี้เป็นอย่างนี้
จึงเป็นที่นับถือของคนทั้งพื้นที่
และในกรุงเทพฯระดับคุณหญิงคุณนาย
มาทำบุญท่านมาก


โดยเฉพาะขุนนางรุ่นสมัยหลัง
ไทยเปลี่ยนแปลงการปกครอง
มาติดและชอบท่าน
เพราะวัดที่ดำริสร้างสงบเป็นป่าเขา
จนในที่สุดเศรษฐีนีในพื้นที่ได้ศรัทธาร่วมสร้าง
วัดใหม่ให้ท่าน
ก่อนเศรษฐินีคนนั้นตายลง


และตาก็ไม่ได้อยู้ที่วัดดังกล่าวจนมา
ตายในวัดอีกแห่งที่ท่านเคยสร้าง


ผีท่านเก็บศพสดไว้ที่วัดนี้
จนปัจจุบัน(ปกปิดชื่อวัดนี้)ที่ศพตาตั้งอยู่ปัจจุบัน
และมีการจัดงานทุกปี
ให้ท่านรำลึกเทศกาลแบบนั้น
เหรียญออกให้เช่า
เพื่อพัฒนาวัดดังกล่าวอีกด้วย


ผมแวะไปบ้างเพราะหมดหน้าที่และ
อดีตเคยทำไปแล้วสำหรับผม
มีพี่น้องชุดใหม่อีกหนึ่งชุดจากสายตำบลอื่น
ญาตินอกเครือของยายจากบ้านอานองเต
ดูแลท่านอยู่จนถึงปัจจุบัน


ท่านมีกติกาว่าเอาตังค์มา
แต่แกจะฝ่ายทำให้อย่างเดียว
ไม่เอาค่าจ้างค่าแรงและชื่ออะไร
ไม่คิดอะไร


ต่อมามาที่เรื่องน้องสาวแม่คนที่สามต่อ
และ
เพราะแม่และพ่อผมมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง
เก่งงานเก่งเงินตรากตรำ
รักษาระดับความเป็นพี่ใหญ่ของแม่และเขยใหญ่ของพ่อ
ของตายายที่บ้านอานองเต
ทำ
เพื่อที่ทุกคนในครัวอานองเต
จะได้มีความสุขและสบาย


และพ่อแม่ผมหากินเก่ง

เมื่อว่างงานเก็บพริกปลูกพริกขาย
ไปรับจ้างแกะปูม้า
ที่ทะเลบ้าง
เมื่อถึงเวลาหวยออกไปเร่ขายหวยบ้างที่กฎหมาย
เปิดให้ทำได้นับว่าเก่งในเรื่องการหาเงิน

ในเรื่องการที่พ่อแม่ไปเร่ขายหวยงวดนี้ผมไม่ค่อยชอบ
แต่ว่าเพื่อให้พ่อและแม่เปลี่ยนอิริยาบถชีวิต
ออกไปสังคมมิติในโลกภายนอก
เพราะพ่อเป็นคนจีนพูดไทยได้นิดเดียว
พอคุยกับแม่ครั้งใดต้องมีการ
ขึ้นเสียงจึงจะเข้าใจกันได้
จนบางคนคิดว่าทะเลาะกัน


ดูก็แปลก
ยายจึงเห็นว่าปล่อยให้ลูกสาวคนโตและเขยใหญ่
ออกไปเร่ขายหวยงวดกัน
เพื่อจะได้ให้ทั้งสองไปเห็นโลก

ปรากฏว่าขายดีกว่าเพื่อน
และสนุกจนต่อมาหวยได้ใช้ซื้อขาย
กันตามกฎหมายโดยรัฐบาลกลาง



พ่อและแม่
ไม่เคยขาดงานสังคมทุกอย่าง
ชนิดในหมู่บ้านแลในเมือง
และกิจกรรมกุศลอื่นในพื้นที่อื่นเช่นกัน
การไปช่วยงานโรงเจในพื้นที่อื่น
เมื่อถูกเชิญโดยจดหมายเวียนมา
ต่างจังหวัดไกล100กว่า กม.ขึ้นไป
พ่อเขียนภาษาจีนเก่งเขียนคำย่อไหว้พระแบบจีน
เป็นเขียนฟรี
ตัวหนังสือสีทองมีอุปกรณ์ครบ
ต้องทำหน้าที่นี้เมื่อทุกครั้งที่ไปช่วยงาน
 อนึ่งเมื่อเวลาไปขายหวยงวดกันนั้น
พ่อและแม่นั่งมอร์เตอร์ไซด์
แม่ขับไม่เป็นและไม่คิดหัดขับ
ส่วนพ่อนั้นขับรถเก่งไม่เคยมีอุบัติเหตุ
มีใบขับขี่ตลอดชีวิต

ในสังคมทุติยภูมิ

เขาอยู่กันอย่างไร

ตอนนั้น
ที่บ้านอานองเต
ถูกแบ่งทรัพย์สินออกมาชัดเจน
แต่ลูกสาวสามคนของยายถูก
แบ่งให้ชัดเจนในทรัพย์สินทั้งหมด
คือแปลงที่หนึ่งของแม่คือบ้านอานองเตปัจจุบัน
แปลงที่สองบ้านอานองเตเก่า
อานองเตเก่าได้กับน้องสาวแม่คนที่สอง
และสามและ

คนที่หนึ่ง
แต่จนต่อมา

คนที่หนึ่งคือแม่ได้อีกแห่งหนึ่ง
เป็นอยู่นอกเขตบ้านอานองเต
ไปห้าร้อยเมตรตะวันออก


ที่ดินดังกล่าวเป็นที่เก่าของสามีน้องสาว
แม่คนที่สองหนึ่งแปลง
มีะพร้าวบ้าง น้าเขยผมคนนี้มีอาชีพทำรับ
จ้างทำเกวียนต่อมาถูกยิงตาย
เป็นผีตายโหงชาวบ้านเรียกกันอย่างนั้น
น้าคนนี้ถูกยิงที่ใต้สะพานโค้งใกล้สถานีรถไฟ
ที่ลงมาบ้านอานองเตได้


คนยิงโดนข้อหาทำเกินกว่าเหตุ
ต่อมาศาลจำคุกระยะหนึ่ง
คนยิงเป็นกำนันข้อหาที่น้าคนนี้ถูกตั้งไว้คือ
"ลักไม้ไปทำเกวียน"


ตายสนิทเมื่อน้าคนนี้ถูกยิงเสร็จเรียบร้อย
ชนิดเลือดตกใน
ผมได้เห็นศพๆนั้นหนักมากหลายคนแบก ผมเห็น
และผมกลัวผีหลอก

เพราะตอนนั้นผมเป็นเด็ก

น้าคนนี้เป็นผีตายโหงศพแรก
ในพื้นที่อานองเตที่ได้รับอนุญาตจากตาและยาย
ให้นำผีมาทำศพที่บ้านได้


เพราะตามปกติศพผีตายโหง
ตามหลักคติชนวิทยาพื้นบ้านห้ามนำเข้าบ้าน
ต้องนำผีไปทำศพที่วัด



3.


จำได้ว่าที่บ้านน้าเขยผมคนนี้
มีมะตูมนิ่มต้นใหญ่ขึ้นที่หน้าสวน
ที่นั่นและตอนเด็กผมเคยได้รับอนุญาตจากตา
ให้มาธุระที่บ้านน้องสาวแม่คนที่หนึ่งนี้ได้
ไกลกันหนึ่งกิโลทางด้านตะวันออกจากบ้านอานองเต
จำได้พอเดินไปบ้านนี้พอเปลี่ยวกลัวผีหลอกต้องวิ่ง

บ้านของน้าเขยท่านผู้นี่้
มุงหลังคาด้วยตับจาก
หลังคารั่วจนรูปถ่ายวันแต่งงานทำอย่างดีเอาไว้ไม่ได้กลัวเปียกเสีย
จนต้องนำมาฝากไว้ที่บ้านอานองเต
จนรุ่นหลานจึงนำกลับไปจากบ้านอานองเต
อีกครั้งหนึ่งได้
ภาพนี้บานใหญ่ขนาด
24คูณ24นิ้วมีกรอบทองชุดไม้ใช้กระจก



และแต่ต่อมาน้าเขยคนนี้
ขายกินจำนำจำนองหมดเป็นหนี้ท้ายสุด
ยายไปถอนจำนำให้เรียบร้อย
หลังจากที่น้าเขยคนนี้ตายไปแล้ว


และต่อมาโอนที่ดินที่บ้านอานองเตเก่าที่ส่วนหนึ่ง
ที่จะยกให้น้องสาวแม่คนที่หนึ่งเป็น
ยกให้น้องสาวคนที่สองแทน
โดย
ให้น้องสาวคนที่หนึ่งไปรับมรดกยาย
ในแปลงนอกบ้านอานองเต
และถือว่าถือที่ดินทั้งหมดว่า
เป็นมรดกของยายเพราะยายไถ่ถอนจำนำ
เดิมเรียบร้อยให้แล้ว


กล่าวคือที่ดินของน้องสาวคนหนึ่งนี้
เดิมเป็นที่ดินติดผัวของน้องสาวแม่คนที่หนึ่ง
แต่มากลายเป็นสภาพเป็นหนี้หลุดจำนำรอถูกยึด
และยายไปปลดให้ทั้งหมด
จนได้ที่ดินแปลงนี้กลับมาใหม่
เมื่อที่แปลงนี้ได้กลับคืน
คืนมาไม่มีหนี้สินและไม่โดนยึดแล้ว

เป็นอันว่าน้องสาวแม่คนที่หนึ่งได้มรดกเป็นที่ดิน
สวนนอกตัดสิทธิ์ที่จะได้จากบ้านอานองเตในเวลาต่อมา


ส่วนแม่และน้องสาวแม่คือน้องสาวแม่คนที่ทีสองและที่สามนั้น
ได้มรดกสวนแปลงในที่บ้านอานองเตเก่าไป


อันนี้ไม่รวมที่นาอีก
ซึ่งมีสองแปลงมีนาลึกและนาตื้น
นาตื้นเป็นทรัพย์สินเดิมของแม่
แต่นาลึกเป็นทรัพย์สินเดิมของยาย
นาตื้นแม่ขายทำบุญสร้างโบสถ์วัด
และใช้สอยส่วนตัวบางส่วน
น้องสาวคนที่สองและสามยืมไป
ที่นาลึกยายขายรักษาตัวต่อมา



อันนี้นับเป็นสาเหตุหนึ่ง

ในการเรื่องการมีญาติเป็นลบเกิดขึ้นอย่างนี้
จึงเป็นชนวนให้ผมต้องสืบค้นญาติ
เพื่อหาข้อยุติในการทำ
สุสานพ่อและแม่และของผมไม่
ให้มีปัญหาหลังผมตายแล้วจึงเกิดขึ้น
ด้วยเหตุประการฉะนี้



เสียดายที่ผม่าจะเขียนเป็นนิยายเรื่องยาวได้
เพราะผมเรียนวิชาการเขียนมา
เพราะอันนี้เป็นวัตถุดิบอย่างดี
ในการพล็อตเรื่อง
ที่จะเป็นนิยาย
แต่มาบัดนี้สายเสียแล้ว

แต่สายเสียแล้วตอนนี้
เพราะสมองของผมหมดอายุ
จะมีก็คือการบันทึกไว้สั้น ๆ
อย่างที่เป็น
ถึงสาเหตุที่ผมต้องออกนอกบ้าน
เพื่อเร่ร่อนและร่อนเร่
แบบดอกรักเร่เป็นไฉน


คือคิดว่าลดปัญหาอาญากรรม
เกิดขึ้นได้ภายในบ้านอานองเต
สมัยนั้นที่บ้านอานองเตลุกเป็นไฟตลอดเวลา
ผมเชื่อว่าอาจจะเกิดขึ้นได้
ถ้าผมทนอยู่สมัยเมื่อเหตุลิดรอนสิททธินี้เกิดขึ้น
กับผม
และครอบครัวของพ่อและแม่อันแสบแสบ
ร้อนมันมันส์
ตอนนั้นเมื่อท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่

อันนับว่าเป็นปัญหาชีวิตในระลอกสอง
ระลอกที่หนึ่งของผม
คือปัญหชีวิตสมรสของพ่อและแม่
ระลอกที่สองเป็นปัญหาชีวิตสมรสดีแต่
ว่าเกิดเหตุลิดรอนเสรีภาพต่อพ่อและแม่

และต่อไปก็เป็นระลอกที่สามคือผมตายลงจบ
แต่คาดว่าไม่จบคือ
คงมีระลอกที่สี่เมื่อผมยังไม่ไปนิพพาน
แต่กลับชาติมาเกิดอีก
ถ้าชาติหน้ามีจริง


และไม่รู้ว่าเกิดเป็นฝรั่งหรือคนไทยถ้าเกิดอีกได้จริง



กลับมาที่ความคิดห้วงเดิม
แห่งความทรงจำที่จะบันทึก
ที่นาตื้นนี้อีกแปลงหนึ่งที่กล่าวมา
มีประวัติ
ของแม่คือ
เพราะแม่ซื้อมันมาด้วยตนเอง
 และอีกแปลงหนึ่งทรัพย์เดิมของยาย
ส่วนของตาไม่มีทรัพย์สินเดิมติดตัวมา
เพราะแพ้ความเรื่องมรดกเหลือ
แต่ร่างกายชาวทรงฮั่นอันกำ
ยำมาพบรักกับยายเท่านั้น

ยายสั่งไว้ว่านาลึกนี้
จัดเก็บไว้รักษาตัวก่อนตาย
ที่นาลึกแปลงนี้
และไม่เคยติดจำนองสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่
และก็ได้ใช้มันสมใจสำหรับยายแม้ไม่ตรงเป้าหมายทีเดียว
เพราะลูกสาวคนที่สี่ของยาย
นำไปเปิดร้านค้าขายข้าวแกงในกรุง



ที่นาลึกแปลงนี้ยายกำชับว่า
ไม่ให้ลูกสาวคนใดทั้งสิ้น
แต่บังเอิญแม่ใจอ่อนปล่อยไปไม่บอกให้ยายรู้
ตอนซื้อขายเกิดขึ้น
ผมเห็นเหตุการณ์นี้แต่ผมพูดไม่ออก
เพราะกฏหมายยังไม่ให้อำนาจผม
แม้ให้ก็ให้แบบน้อยอยู่
เป็นแต่แสดงอาการไม่เห็นด้วย
ด้วยการกระพริบตาต่อคนซื้อไปว่า
ไม่เห็นด้วย


ซึ่งที่จริงที่นาลึกแปลงนี้
จะต้องตกกับแม่
เพราะแม่เป็นคนหามขี้หามเยี่ยยาย
จนวันยายตายและฝังศพยายเรียบร้อย


พี่น้องแม่ทุกคนเว้นแม่
มีการคาดคิดว่านาลึกแปลงนี้จะต้องเป็นของตน
หรือตกเป็นของวัด
เพราะยายมีนโยบายทำบุญอยู่แล้ว
แต่บังเอิญถูกขายไปเสียก่อน
ตอนนั้นยายนอนเจ็บแบบพะแงบพะแงบ
(คนใกล้จะตาย)อยู่


ยายนอนตลอดเวลาที่โรงคนไข้
ที่บ้านอานองเตสองไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
นอกจากปากซดข้าวต้มที่แม่คอยป้อนให้


เพราะทุกคนไม่คาดคิดว่า
ผมจะมีชีวิตกลับมารับมรดก
คิดว่าผมต้องได้ดีหรือตายหายสาบสูญไป
ในเมืองต่างประเทศเป็นแน่
มรดกของพ่อแม่ที่บ้านอานองเตตามพินัยกรรมนี้
คงไม่มีคนรับ


ที่นาลึกแปลงที่ยายจัดเก็บไว้นั้น
ต่อมายายเจ็บป่วยเพราะพิษงูเห่าดอกจันกัด
ที่ขาปลายเท้าบริเวณ
ที่นาลึกจึงขายมารักษาตัวยาย
ต่อมาตามชื่อบอกว่ามารักษาตัว
แม้ยายไม่ได้ใช้เงินตัวนี้รักษาตัว
แต่กลายเป็นขาย
ไปให้น้องสาวคนที่สามของแม่
ไปลงทุนเปิดร้านขายข้าวแกงที่กรุงเทพฯแทน


แต่ไม่มีใครทักท้วงเพราะแม่ไม่มีเวลา
และ
ช่วงนั้นพ่อและแม่แข็งแรงอยู่
เพราะวัณโรคของพ่อไม่กำเริบ
มะเร็งของแม่ไม่แสดงอาการอีก
หลังการผ่าตัดใหญ่ไปแล้วหนึ่งครั้ง
เรื่องจึงงดค้าน

แต่ผมหมายเหตุว่าไม่เห็นด้วย
ที่จริงที่นาแปลงนี้ควรตกกับแม่เพราะแม่เหนื่อยมาก
นั่นคือเป้าหมายของยายที่กันไม่ให้ใครมาแตะที่แปลงนี้
คือรอให้คนที่พยาบาลท่านจนวินาทีตายว่าอย่างนั้น


ในการที่แม่ต้องมาดูแลยาย
คือแม่ของตนเองตลอดเวลา
นอกนั้นไม่มีใครค่อยจะมีเวลา
มาสนใจแต่คนเดียว


กอร์ปกับช่วงนั้นสงครามลิดรอนสิทธิกำลังคุกกรุ่น
เพราะผมและพ่อเริ่มสงสัยพฤติการณ์
ของน้าเขยและคณะ
ที่มีพิรุธจะยึดครองบ้านอานองเต
ใหม่หลังนี้ชนิดพิสดารกัน
พ่อจึงทำหนังสือเอาไว้เป็นภาษาจีน
พี่น้องพ่อที่เมืองจีนบินมาเยี่ยม
ถึงเมืองไทยที่บ้านอานองเตเป็นสักขี


ผมทำหนังสือไว้กับท่านนายอำเภอเพราะตอนนั้น
ช่วยงานอำเภออยู่
ว่าที่บ้านมีเหตุอาจจะมีนิติกรรมอำพราง
ผมขอมีสิทธิมาบอกล้างแบบพิสดารหรือ
โดยตรงได้
ทางอำเภอรับไว้โดยดุษฎี




เพื่อทักท้วง

เมื่อเหตุลิดรอนสิทธินี้เกิดขึ้นความระสำระส่ายเกิดขึ้น
ในบ้านอานองเต
และในครัวของน้องสาวแม่คนที่สามทันที
น้าเขยเริ่มหายหน้า
เพระรู้บ้างไม่รู้บ้างถึง
ความเป็นมาเป็นไปที่บ้านอานองเต
ก่อนที่น้าเขยของผมคนนี้
ตัดสินใจมาแต่งงานกับน้องสาวแม่่คนที่สามขึ้น
น้องสาวแม่คนที่สามสงสัยว่าต่อมาไปมีเมียน้อย
แม่และน้องสาวแม่คนที่สามคิดอย่างนั้น




(ส่วนแม่นั่นมีนิสัยยิ้มตลอดเวลา
เจ็บยิ้มโดนด่าก็ยิ้ม
พ่อโมโหก็ยิ้ม
พ่อหยิกเอาก็ยิ้ม
โดนยายด่าก็ยิ้ม
แม่ไม่มีคำว่าร้องหรือโกรธเกลียดร้องไห้ให้ใครเห็น
หรือโกรธให้ใครเห็น

แม่
ยิ้มแบบฟัน32ซี่ครบบริบูรณ์
ฟันที่แมงฟันกินแม่อุดอย่างดีลูกผิดหวังมาก็ยิ้ม
แม่ยิ้มตลอด
แม่ตายแล้วก็นอนยิ้มแต่ปิดตาแล้ว
ส่วนฟันแม่ที่มี32ซี่เป็นฟันปลอม
แม่ตอนตายแล้ว
แต่ฟันแมไม่ยิ้มด้วยกับผม
แล้วผมเห็น)


ผลที่ตามมีการแยกกันอยู่หนึ่ง
ระยะของน้าเขยและน้องสาวแม่คนที่สาม


สำหรับน้าเขยคนนี้ของผมและน้าสาวคนนี้ของผม
สองผัวเมียคู่นี้จวบต่อมากลับมาคืนดีกันอีกครั้ง
ผ่านลูกและน้าเขยต่อมาตายไปในที่สุด
ส่วนน้องสาวแม่ผมๆ
ไม่ทราบ
เพราะขาดการติดต่อกัน
นับหลังจากงานศพพ่อและแม่เสร็จลงแล้ว


น้าเขยผมหรือน้องเขยแม่คนที่สามนี้
คนที่คนนี้ก่อนตายอยู่ด้วยอาชีพ
เปิดแผงพระให้เช่าที่จังหวัดหนึ่ง(ปกปิด)


ส่วนลูกๆ  แยกออกไปเด็ดขาดไปอยู่
ที่ร้านขขายข้าวแกงที่กรุงเทพฯ
หรือยังไงผมไม่ทราบ
เพราะขาดการติดต่อตามสภาพ
กับแม่ของเขาสืบตามมา
และตั้งแต่นั้น
ผมและทุกคนไม่พบกันอีกทุกคนกับผมเลย
ในญาติสายบ้านอานองเตชุดนี้ทั้งหมด


เว้นญาติสายอื่นมีพบบ้าง
แต่ไม่มีอะไรมากกว่ารอยยิ้ม
และความขมขื่นที่อดีตทิ้งไว้เท่านั้น
ให้เราได้ส่งรอยยิ้มต่อกัน
อย่างสันติภาพ


สำหรับอะไรที่มาในหัวข้อสงครามและความขัดแย้ง
ความเสียใจความผิดพลาดของอดีตจากใครหรือ
จากผม
ผมทอดทิ้งลงในรูแห่งสันติภาพของผมทั้งหมด
ไม่นำมาคิด



บัญชีญาติที่จุดนี้ปิดและผมถือว่าเป็นลบ
และผมมีแต่แย่ลงจึงไมมีโอกาส
ได้ช่วยใครใครให้เป็นที่พึงพาของใครไครต่อไป
อย่างที่คาดคิด
แบบตัวใครตัวมัน
ถ้าผมฟื้นตัวได้ดิบได้ดีเหมือนบ้านอานองเต
สมัยตาและยายเป็นค่อยว่ากันใหม่

เรื่องญาติฝ่ายแม่จึงห่างเหินกันไปหมดแม้
มีรายการไหว้กระดูกตาประจำปีหลังแม่ตายแล้ว
ก็มองหน้ากันไม่ติดทุกคน

เพราะคณะญาติฝ่ายแม่ทั้งหมด
หลังแม่และพ่อผมตายแล้ว

ญาติทั้งหมดยกเว้นแม่เขาสั่งผู้ดูแลที่สุสานตา
ซึ่งอยู่ในที่ดินโดยโฉนดในนามของเขา
ได้ห้ามไม่ให้ผมเข้าไปยุ่งทุกกรณีทุกสถานการณ์
ตามปกติผมชอบเข้าไปเล่น
เมื่อสมัยก่อนตาและยายตายลงแล้ว


แม้โฉนดนี้พ่อถือว่า
มีกลฉ้อฉลเพราะตอนโอนไม่่มีลายเซ็นพ่ออยู่ด้วย
ในโฉนดที่ทำที่กรมที่ดินสาขาต่างจังหวัด
เพราะพ่อไม่ทราบอ่านภาษาไทย
ไม่ออกและพบไม่มีคำค้าน
ตกลงผ่าน
ผ่านไปเป็นตราครุฑสีแดงมอบให้

แต่พ่อและผมพักและละไว้เป็นฐานที่เข้าใจ
ไว้ค่อยรื้อฟื้นเมื่อเหตุไม่ดีเกิดขึ้น
เช่น  ขาดความรับผิดชอบในสุสานตาและอื่นๆ
ซึ่งจะทำทีหลังหรือทนายความจัดการให้
แต่ยังติดใจอยู่ในกระบวนการนั้นๆ


สำหรับผมไม่รับตกลงอะไรทั้งสิ้น
นอกจากหมายศาล
เพราะผมเชื่อว่าล่อ
แหลมต่อการถูกทำร้ายร่างกาย
ด้วยอำนาจบันดาลโทสะ
จะเกิดมีขึ้นได้
เพราะเขามิใช่ปัญญาชนเหมือนอย่างผม
ผมจึงเข้าใจอย่างนั้นไว้ก่อน
ในหัวข้อแห่งความกลัว


เหตุร้ายแบบันดาลโทสะนี้อย่างนี้
เคยมีวี่แววว่าจะเกิดแล้ว
ในงานศพพ่อและแม่ของผม

กล่าวคือพวกเขา(เขาในที่นี้หมายถึงญาติฝ่าย
พี่น้องแม่ทั้งหมดสายบ้านอานองเต
พยายามจะทำอะไรให้ได้
โดยผลักดันให้ผมทำตามที่เขาต้องการ


ซึ่งผมถือว่าผิดและไม่ยุติธรรม
ผมจึงไม่ยอม
ผมเชื่อว่าเกิดการปะทะกันเกิดขึ้นแน่นอน
ถ้าได้มาเจอแบบรวมตัวกันตอนนี้
ยกเว้นที่โรงพักหรือศาลเพราะ
มีวินัยและกฎหมายเข้มงวดคอยดูแลอย่าง
มั่นเหมาะ
บางคนมางานศพพกปืน
มาด้วยแม้ไม่มีเหตุร้ายอะไร

และ
เพื่อหลีกเลี่ยงรายการนี้เกิดขึ้น
อันเป็นหัวข้อของความสงบและเรียบร้อย...
ผมจึงปิดบัญชีญาติสนิทสายนี้ส่วนนี้ไป
ไม่มีกำหนด
นับแต่นั้นมา


ผมจึงหลีกการตกลง
และมอบอำนาจให้ศาลและวิถีประชาตัดสิน
ดูแลแทนไปจนกว่จะลงตัว
นั้นคือนโยบายและวิธีแก้ของผม
สำหรับเรื่องราว
และเหตุการณ์หรือเหตุร้ายที่บ้านอานองเต
หลังพ่อและแม่ตายลง



บัญชีญาติของแม่กับความสัมพันธ์ระหว่าง
ผมและบ้านอานองเต
จึงเป็นลบหมดตั้งแต่บัดนั้นแล


แต่ตัวเงินจำนวนมากที่ขายที่นาลึกนั้น
ทราบต่อมาว่า
ให้น้องสาวแม่คนที่สามไปลงทุเปิดร้านขาย
ข้าวแกงที่กรุงเทพฯหมด

เพราะฉะนั้นเงินที่ของยายตัวนี้
 (แม่คุณผมเรียกนิคเนมคำนำหน้ายาย)
จึงให้ไปกัน้องสาวแม่คนที่สามเป็นจำนวนมาก
พอสมควร
"แม่บอก"

แทนที่จะนำเงินจำนวนนี้มาสำรองใช้
ในการเยียวยายาย
ก่อนตายเพราะพิษงูเห่าดอกจันกัดเอา
(งูชนิดนีคืองู่ที่มีสร้อยที่คอพันธุ์เดียวกับงูเห่า
ที่ชาวอินเดียรีดพิษแล้วนำมาเล่นเป่าขลุ่ยเรียกงูออกมารำได้จากตะข้อง
เพื่อเรียกเก็บเงินคนดู)


ยายถูกงูกัดที่ใต้ถุนบ้านอานองเตที่สอง
เมื่อวันก่อนหน้านั้น
ที่ผมจะเดินทางไปฝรั่งเศสเมืองนอกในระลอกที่สอง



เพราะปัญหาลิดรอนสิทธิที่บ้านอานองเต
เป็นพื้นที่ของเรื่องที่ผมไม่สามารถจะรับมันได้นั่นเอง
แต่งดพิพาทเชิงเด็ดขาด
ในความคิดและเจตนาของผม
 แต่มีบันทึกว่าไม่เห็นด้วยต่อท่านนายอำเภอเอาไว้
ในฐานะผมเป็นวิญญูชนคนสำคัญของตระกูล
และของบ้านอานองเตในฐานะเป็นหลานยายคนโต
เอาไว้เป็นหลักฐาน

อันนี้เป็นสาเหตุที่สองของชีวิต
ครอบครัวที่ผมประสบปัญหา


เมื่อที่ดินบ้านอานองเตถูกแบ่งมาแล้ว
เป็นมรดกให้ลูกสาวทั้งสี่คน
เกิดขึ้นเรียบร้อย
มีการโอนการทำพินัยกรรมเรียบร้อย
ก่อนปัญหาอื่นที่จะค่อยเล่า
เมื่อว่างต่อไป

สรุปเพราะครอบครัวแตกแยกและชีวิตสมรส
พ่อแม่มีปัญหา
เกิดขึ้น
สาเหตุให้ผมผมไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ
เพราะการถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ
สาเหตุให้ผมผมไปเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศส



และ

คือแปลงที่ดินนส.3แปลงที่หนึ่งของแม่นี้ 
รวมบ้านอานองเตปัจจุบันหนึ่งแปลง
ประมาณ20ไร่
จากพื้นที่บ้านอานองเตเดิม70ไร่สวนมะพร้าวเต็ม
เดิมทีทั้หมด70 ไร่ตาครอบครองเมื่อมีชีวิตอยู่
และเหลือตกทอดมาที่ยาย
ในโอกาสต่อมา


แปลงสองให้น้องคนที่สอง
แปลงสามให้น้องคนที่สาม
เมื่อรวงมพื้นที่แล้ว70ไร่จาก100ไร่กว่าที่ถูก
ตัดถูกเฉือนเพราะทางจำเป็น
ทางน้ำเดินถนนหลวงสายชนบท
เพราะความเบาปัญญาในการพยายนรู้เห็นอ่อน
 เพราะทำไม่ไหว เพราะทอดทิ้งและอื่นๆ
ที่ตามีรวมตามกฏหมายที่ดินจดไว้ในสารบบ
นส.3  และอื่น  ๆ  เอกสารที่มีทำกันสมัยนั้น


4.

มีมายเหตุนิดนึงแปลงที่หนึ่ง
ที่เป็นบ้านอานองเตปัจจุบันที่ตกแก่แม่นั้น
อีกแปลงหนึ่ง
เป็นมรดกซ้อนมรดกคือแปลงนี้
แต่ที่ดินแปลงนี้
มีปัญหาทับซ้อนเรื่องมรดกเดิมของยาย
 แต่เมื่อความมีเกิดขึ้นเขาแพ้ฝ่ายแม่
เพราะมันอยู่ในเขตที่ดินแม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
ส่่วนบ้านเก่าอานองเตนั้น
ยายรื้อทำลาย


บ้านอานองเตหลังเก่าตามจริงบรรยากาศ
ดีมากดีกว่าบ้านอานองเตหลังใหม่มากมายนัก
เงียบสงบติดเขา
มีกวาง อีเก้งและเสือแบ้(เสือลายเมฆเล็ก)สัตว์ป่ามากมาย
แม้เทือกเขาเล็กก็ตาม
เย็นสบาย
ผมจำได้เพราะผมเคยอยู่ตอนเป็นเด็ก4 ขวบ


ส่วนรื้อบ้านอานองเตเก่าแล้ว
ไม้ไปถวายวัดบ้าง
และสลายมาบ้านอานองเตใหม่บ้าง
แต่ทุกวัะนนี้ปลบวกมอดกินสิ้นซาก
เว้นไม้แก่นทำค้างพลู
เพราะบ้านอานองเตใหม่ใช้ครึ่งไม้ครึ่งปูนสากล



ทราบว่า
จากการยุยงของน้องสาวแม่คนที่สามให้รื้อมาสร้างใหม่
และจากสาเหตุคนเผ่ากิยองตินทำผีหลอกยาย
และน่ากลัวและเปลี่ยว


ช่วงนั้นแม่ไม่อยู่ที่บ้านอานองหลังสึกจากชี
เพราะไปทำการค้าปลดหนี้บ้านอานองเต
ที่ยายสะงให้ไปลงทุนแล้วขาดทุน
แม่ไปช่วยพ่อขายก๋วยเตี๋ยว
ที่ต่างจังหวัดอื่น


 และปลดหนี้ได้หมดและได้ส่งเงินมาสร้างบ้านอานองเตให้ใหม่ที่ผมอยู่ปัจจุบัน


ถ้าเมื่อความเกิดขึ้นในเครือญาติอานองเตอีก
จึงยุติเพียงเท่านี้
บ้านอานองเต
ต่อมาบ้านหลังสุดท้ายนี้
ตกเป็นของผมแต่ผู้เดียวในฐานะทายาท




ครั้งหนึ่งนี้แม่ของผมเล่าว่าได้
ที่แปลงที่อยู่ปัจจุบันนี้ซื้อที่ดินมาเอง
มาทำเอง แต่ให้อยู่ความดูแลและ
ควบคุมของตาและยาย
และตายายแสดงความเป็นเจ้าของมาตลอด
ตลอด

คือแม่ปล่อยให้ตาและยายเก็บกินไป
ตลอดชีวิตตาและยาย
ว่าอย่างนั้น
สมัยยังไม่พาที่ดินบ้านอานองเตทั้งเก่า
และใหม่นี้ไปจำนอง
สืบต่อมามา
ส่วนแม่นั้น
ได้กินบ้างไม่ได้กินบ้างแต่  โอ.เค

เมื่อเหตุผันผวน
ครั้งหนึ่ง
ทางครัวเรือนเรื่องหนี้สินมากที่บ้านอานองเต
ในการลงทุนแต่ขาดทุนยับเยิน
ในที่สุด


ในกาลครั้งนั้น
นั้นโดยยายมอบอำาจให้แม่
เอาที่บ้านอานองเตทั้งหมดเว้นที่นาลึก
ไปจำนองธนาคารย่อย
แต่ผลมีว่าการลงทุนนั้นขาดทุน
แต่ต่อมาแม่ได้ปลดเงินหนี้ทั้งหมดที่กู้นายทุนมา
ทั้งหมดมาทำให้เป็นปลอดหนี้ที่บ้านอานองเต
กลับมาสู่ฐานะคงที่อีกครั้ง



ผลคือ

เมื่อบ้านอานองเต
ต้องย้ายมาจากข้างเขาหลังปลดหนี้
สินสำเร็จด้วยฝีมือพ่อและแม่ผมสองคน
แล้ว

จึงย้ายบ้านอานองเตมาไว้ติดถนนหลวงชนบทปัจจุบัน
ส่วนสุสานตามิได้ย้ายติดมาด้วย

ย้ายเรียบร้อย
เรียบร้อยเงินก่อสร้างเป็นของพ่อและแม่ทั้งหมด


ส่วนหลังการการปลดหนี้นั้น
ฝ่ายแม่กับฝ่ายพ่อมีทีท่าว่า
จะไม่ตรงกัน
คืแม่ถือว่าทุกอย่างบ้านอานอง
และที่ดินคงเดิมทั้งหมดเหมือนไม่มีอะไเปลี่ยนไป

ฝ่ายพ่อถือว่าบ้านอานองเตและที่ดิน
ทั้งหมดเปลี่ยนแปลง
ตามสภาพหนี้ที่จำนองและที่ไถ่ถอนมา
ต้องเป็นของแม่และพ่อเท่านั้น
ไม่สนใจเรื่องมรดกของตายและยายที่
มอบให้กับลูกทุกคนที่ทำไว้ก่อน
ตามเอกสารพินัยกรรมแต่อย่างใด
 พ่อถือว่า


เพราะมรดกนี้เท่ากับเรื่องทั้งหมดที่บ้านอานองเต
เว้นนาลึก
ขายไปแล้วซื้อมาใหม่อีกครั้ง
ถ้ามีการจดทะเบียนหย่ากัน
ระหว่างพ่อกับแม่ตอนนี้

แม่กับพ่อต้องแบ่งที่บ้านอานองเตและที่ดินทั้งหมดหารสอง
คือได้คนละครึ่ง


แต่ว่าเมื่อไม่หย่ากัน
สิ่งที่ตามมาคือ



คือ
แม่ถือว่าการปลดหนี้มาแล้ว
ก็คืนทรัพย์ให้น้องทุกคนตามปกติ
หรีอคืนมา
ให้ยายตามเดิมเป็นผู้เก็บกินถาวรต่อไปมิ
ใช่ของเจ้าหนี้ที่ยายเป็นในนามของแม่อีกต่อไป
คือได้ทรัพย์กลับคืนม่แบบไถ่ถอนการจำนอง

เกิดปมปัญหาที่บ้านอานองเตช่วงนี้
เรื่องที่ดิน และคำมั่นสัญญาเดิมที่มีกับลูกทุกคน
หลังจากที่สวนบ้านอานองถูกนำเข้าจำนอง
เพื่อเอาเงินไปลงทุนและขาดทุนเป็น
ผลให้แม่สึกจากชี
มาคืนดีกับพ่อใหม่และช่วยทำการปลดหนี้ได้สำเร็จ
ผลคือที่ดินเปลี่ยนนิติกรรมใหม่โดยสภาพ


แต่ฝ่ายพ่อมีหมายเหตุไม่เห็นด้วย
ในเรื่องนี้แต่เงียบรอดูสถานการณ์
และเพระตนเป็นจีนโดยสัญชาติ
และเชื้อชาติ
จะทำอะไรต้องระวัง
เพราะเป็นต่างด้าว

พ่อจึงปล่อบให้ยายรับมรดกเดิมที่เป็นส่วนของแม่และ
ทั้งหมดที่ปลดหนี้มาได้
และที่ดินนำไปเก็บกินจนยายตาย
แมมีข้อตกลงพิเศษเล็กน้อย
เพื่อให้แม่ยายใช้และทำบุญและรักษาตัว


มาที่
เรื่องหลังตาตายแล้วนี้
ตอนตาอยู่ทุกอย่างที่บ้านและสวงนอานองเตสงบดี
และมีกินมีใช้
ออกหน้าออกตามีอันจะกินในพิ้นที่ล
กระรอกหกระแตสบาบยใจทุกตัว
หมาแมวอิ่มหนำสำราญ
เผ่ากิยองตินมีความสุขและซุ่ม
วางแผนกันอยู่ลึกๆลับๆ
ไม่ปล่อยให้สมาขิกครัวเรือนบ้านอานองเต
คือไม่เปิดตัวให้ใครรู้และไหวทัน


อย่างไรก็ตาม
ด้วยเหตุที่ได้ทรัพย์สินคืนมาทั้งหมดครั้งนี้โดย
การปลดหนี้ของพ่อและแม่ผมสองคนช่วยกันปลดช่วยกันทำ
เป็นผลให้
 แม่และพ่อได้สิทธิในการ


มาดูแลรักษาบ้านอานองเตและสวนอานองเต
ในส่วนที่เป็นมรดกแม่เดิมแต่ครอบครัวเดียว
โดยยายผ่อนผันแยกส่วน
ให้พ่อแม่ทำกิน
และยายเองไม่ถือไม่มี
และไม่มีสิทธิมาใช้เงินเก็บกินในส่วนของแม่มรดกคาดหมาย
และมรดกเดิมที่ปลดหนี้มาแล้วนี้นี้
ให้พ่อแม่ผมเท่านั้นมีสวนมะพร้าวและมะม่วง2ต้น
ต้นมะกรูดหนึ่งต้น
ประมาณ17-20ไร่


เพราะที่ดินมีว่างภาษีห้าไร่
นอกนั้นเสียภาษี
ห้าไร่หมายถึงคือ


ถ้ามียี่สิบไร่เสียภาษี  5  ไร่
จากยี่สิบไร่เป็นเว้นภาษีไว้เหลือ  15 ไร่ใช้ยื่นเสียภาษี
5 ไร่เว้น เพราะที่อยู่อาศัย
ไม่ต้องเสีภาษี

สรุป
ยายเก็บกินมีรายได้จากตอนนั้น
คือเก็บกินจากสวนเดิม  2  แปลง
 และสวนนอก(คือสวนที่ยายไถ่ถอนมาจากที่ดินติดจำนอง
ของผัวลูกสาวคนที่สองของยายโอนมาเป็นทรัพย์สินของบ้านอานองเต
และต่อมามอบให้เป็นมรดกของลูกสวนคนที่สอง
ต่อไป
แต่ยกเลิกที่คาดว่าจะให้ที่แปลงหนึ่งกับลูกสาวคนที่สองนี้
ที่บ้านอานเตเก่าที่คาดว่าจะให้ลูกสาวคนนี้
ให้ยกเลิกเอาที่บ้านอานองเตนอกนี้ให้แทน)


คืออีกหนึ่งแปลงที่ยายซื้อคืนมาเพื่อที่เป็นมรดก
แก่ลูกคนสาวคนที่สอง
หรือคือน้องแม่คนที่หนึ่งด้วย

เมื่อใด้ขึ้นมะพร้าวแบ่งกันเป็นสองส่วนของแม่หนึ่งส่วน
ส่วนของยายหนึ่งส่วน
มะพร้าวะที่ขึ้นได้นั้นประมาณ  2,000  ลูกในส่วนของแม่นี้
ส่วนของยายได้4000ลูก
ต่อมาสับสนจึงแบ่งวันกันขึ้น
เพื่อสะดวกการนับปนกัน

ซึ่งไนทุกงวด


ยายมีเงินไว้ใช้สอย

มาที่ญาติ





ยายมีสิทธิเก็บกินแต่ผู้เดียว
ช่วงนี้ยายล่ำซำว่าอย่างนั้น
แก้มปริ อ้วนสมบูรณ์ไม่เป็นเบาหวาน แต่กินหมาก
เศรษฐินีระดับจังหวัดมาเยี่ยม
แขกเยอะที่บ้านอานองเตช่วงนี้
งานวัดสำคัญทุกแห่งในพื้นที่ยายไปร่วมทำบุญหมด
สร้างกุฎีรับรองให้สมภารวัดข้างบ้านอานองเต(ปกปิด)สองชั้นทำชั้นเยี่ยมแต่เรือนไม้














ขณะที่ยายมีชีวิตอย่างนี้กับน้องสาวคนที่สามของแม่อยู่ที่บ้านานองเตนี้
ช่วงนั้นแม่และพ่อยังไม่เลิกการค้าทางใต้ที่ไปเปิดร้านขายก๋วยเตี่ยวมาปลดหนี้
ร้านที่เปิดเป็นร้านเช่าหน้าร้านน้ำชามีชื่อในตลาดทางขึ้นลงเรือสินค้าระหว่างอำเภอในพื้นที่ทุกวัน
ติดแม่น้ำสายใหญ่สายหนึ่งของภาค


อีกระยะหนึ่งพ่อและแม่จะพยายามคือจะกลับมาอยู่กินที่บ้านาองเต
นัยเพื่อการพักผ่อน


ช่วงก่อนการกลับมาที่บ้านอานองเตนี้

ยายได้ลูกเขยคนใหม่คือนน้องสาวแม่คนที่สามนั้นเอง

เดิมทียายคิดว่าน้องสาวแม่คนที่สาม
นี้น่าจะแต่งงานกับผม
เพราะผมยังไม่มีเมียตามกฎหมาย
แต่ผมไม่เห็นด้วยตามกฏของตา


พี่กับน้องแต่งงานกันเองตาว่า"ไม่เหมาะ"


ผลสุดท้ายการวางแผนเพื่อให้ผมแต่งานกับน้องสาวแม่คนที่สามนี้จึงยุติลง
อนึ่งน้องสาวแม่คนที่สามนี้อายุน้อยกว่าผมมาก
ตอนน้องสาวแม่คนที่สามนี้
เกิดจนเข้าโรงเรียนผมเคยเป็นพี่เลี้ยงคอยเลี้ยงดู

น้องสาวแม่คนที่สาม
จึงไปบวชชีและพบรักกับคนงานก่อสร้างระดับหัวหน้าที่วัดดแห่งหนึ่งที่ตาน้องชายยายเป็นคนสร้าง


จนในที่สุดแต่งงานกันที่บ้านอานองเตและยึดเอาบ้านอานองเตเป็นเรือนหอ
ชั่วคราว
มีแขกผูมีเกียรติมากมายมาร่วมงานนี้
ระดับพื้้นที่ระดับจังหวัดมาด้วย
แขกที่มามากน้อยพอๆกับวันทำศพยายที่บ้านอานองเต
ดูเหมือนว่างานศพยายจะมากันมากกว่า

 แต่ตอนนั้นผมอยู่อังกฤษโป้นไปเรียนหนังสือ


ตกลงบ้านอานองตของพ่อและผม
แม่้ผมถูกยืมไปเป็นเรือนหอบางส่วน
เป็นบ้านหลังติดถนน
และวิลิศมาหราพิเศษในระดับชุมขนหมู่บ้านนั้นในสมัยนั้น
จนมีลูกด้วสยกันสามคนเป็นหญิงสองชายหนึ่ง
ต่อมาจดทะเบียนบ้านเพิ่มจนต่อมามีทะเบียนบ้านสามหลังคือ
ยายหนึ่งหลังแม่หนึ่งหลังและผมหนึ่งหลัง
กำนันดำเนินการับจดให้
เหตุผลเพราะสมควรและมี
เพราะมีภารกิจมาก


แต่ต่อมาบ้านทั้งสามหลังตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผมทั้งหมด
ผ่านทางทายาทและกรรมสิทธิ์ในที่ดินของแม่ทั้งหมด



อันนี้เมื่อผมกลับมาจากอังกฤษ
มองแล้วบ้านอานองเตต่อไปมีปัญหา
การครอบครองวและจะก่อให้เกิดพิพาทได้
ในขั้นลูกขั้นหลาน
เมื่อพ่อแม่ต่ยลงยายตายลง
หรือผมตายลง


จึงอยากให้มีการแยกครัวออกไปในที่ดิน
ของน้องสาวคนที่สามของแม่โดยเด็ดขาด
ซึ่งต่อมาน้าเขยคนนั้น
เขาไปทำกระท่อมมุงจากไว้ที่บ้านอานองเตเก่า







เพื่อพักร้อน
แต่ยังยึดบ้านอานองเตเป็นเรือนหอต่อไป
อันนี้พ่อแม่และยายไม่ได้คิดค่าเช่า
ให้อยู่แบบพึ่งพาศัยในชิงสิเนห่า
จากยายและแม่และพ่อ
ที่เห็นว่าระหว่างก่อนแต่งงานและหลังแต่งงาน
ต้องมีที่รับรอง

ผมเมื่อกลับมาจากอังกฤษ
ยายสั่ง
ให้ผมอยู่ห้องไม้สักพักในอณาบริเวณบ้านอานองเตใหม่นี้
ห้องไม้สักนี้ห้องเก่าเล็กเคยเป็นที่นอนเก่าของแม่
ของตา
และเรือนหอชั่วคราวของพ่อและแม่
แต่พ่อแม่มีเรือนหอถาวรในตลาดที่ไปเปิดร้านขายของหลังแต่งงานกันเสร็จใหม่ๆ


เมื่อผมพักที่ห้องไม้สักที่ยายอนุญาตนั้น
แต่ต่อมาผมรู้สึกว่า
อันนี้มีปัญหากับน้องสาว
และคณะน้องสาวแม่คนที่สามและสามี
ที่มาอยู่ร่วมกันแบบชั่วคราว

อยู่แบบในฐานะพึ่งพิงอาศัย

ผมจึงเริ่มออกนอกบ้านอยู่บ้านไม่ติดและ
ไปทำกระท่อมห่างจากบ้านอานองเตอีก
50  เมตรทางเหนือทุ่งจากบ้านอานองเต
รวมผมมาทำแบบนี้กระท่อมน้อยๆชายนาแบบนี้สี่ครั้งสี่หลัง
เมื่อกลับมาบ้านอานองเต


เพราะผมพบว่า
เมื่อโตแล้วต้องแยกครัวกันทุกกรณี
อยู่รวมๆกันกับผู้ใหญ่มักมีปัญหาและไม่อิสระ
เท่าที่ผมรู้สึก

มีหมาแมว


และใช้ชีวิตสันโดษไม่พึ่งพาทางบ้านอานองเต
แม่เคยให้เงินบ้างแต่พ่อนั้นปกติไม่สนใจในการให้เงินลูกเรื่องนี้
ยกเว้นท่านให้ไปโรงเรียนสมัยเรียนที่โรงเรียนราษฎร์ให้ทุกวันจาก75สตางค์เป็น2บาทอย่างนั้น
ไว้กินขนมและข้างกลางวัน



ผมได้รับเงินทุกเดือนจากพ่อบุญธรรมชาวอังกฤษแบบให้แบบสิเหน่หา
ทุกเดือนเพื่ออยู่ได้
ท่านส่งทางไปรษณีย์ทุกเดือนเป็นของขวัญ
ตอนนี้ท่านตายแล้วศพท่านฝังเอาไว้แบบคริสต์ที่เมืองชนบทในอังกฤษ

จนต่อมาผมรู้สึกว่าลำบากใจ
และกลับไปอยู่กรุงเทพและเดินทาง
และไปประเทศฝรั่งศส

ช่วงผมใช้ชีวิต
แนวผม

เมื่อเมื่อมีเหตุลิดรอนสิทธินี้เกิดขึ้น
นั้นผมใช้ชีวิตสมถะไปทะเลหาปลาหอยทะเลมากิน
ไปฃ่วยงานอำเภอ
ไปเดินยามให้หมู่บ้านติดอาวุธชนิดรับอนุญาต
ตอบแทนที่ผมใช้ชีวิตอิสระไม่ขึ้นกับใคร

เพราะการที่อยู่ร่วมกันที่บ้านอานองเตตอนนั้น
มันต้องเจอกับพ่อแม่และยาย
ต่อมากับน้องสาวแม่คนที่สามและคณะผู้ลิดรอนสิทธิด้วยสิทธิญาติ

เมื่อผมแยกตัวไปทำกระท่อมอิสระที่ขื่อว่้า "อาศรมถามถึง"
ผมอิสระทุกอย่าง
ใช้เวลาว่างอ่านหนังสือ
เขียนหนังสือและวาดรูป


มีรายได้บ้างจากงานเขียหนังสืองานและงานวาดรูป
แต่น้อยนิด
ไม่พอยังชีพ
จึงมีแม่คนเดียบที่พึ่งพาได้แน่นอน

ผมคิดว่าในสภาวะที่ครอบครัวพ่อไม่มั่นคง
เพราะมีปัญหาชีวิตสมรสหลังแต่งงาน
และมิใช่เป็นคนไทย


ถ้ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นนกับบ้านอานองเตอีกครั้ง
ผมถ้ายังไม่ตาย
ต้องเจอปัญหาการครบครองปรปักษ์
จากคณะของน้องสาวแม่คนที่สามแน่นอน


ตอนนี้และการลิดรอนสิทธิเกิดขึ้นมา
เห็นได้ชัดขึ้น
ผมจึงไหวตัวทัน
ดำเนินการด้วยวิธีใดมิให้มีปัญหาเกิดขึ้น
ก่อนทื่ผมตายลงหรือ
พ่อและแม่ผมหรือยายตายยลงแล้ว
ในเรื่องมรดก
สืบต่อไป



ผมพยายามพัฒนาความขัดเจนให้ได้ใน
เริ่องนี้ให่้กับบ้านอานองเต
เอกสารปรึกษาทนาย อัยการและเรื่องยุติธรรมจึงเกิดขึ้นเพื่อขอคำแนะนำ
และดำเนินการในขั้นศาล
แต่ต่อมาอีกไม่นาน
น้องสาวแม่คนที่สามและคณะได้แยกครัวออกไปถาวรเสียก่อน
ละไว้เป็นปัญหาคาใจในบางเรื่องต่อไปบ้าง
ซึ่งต่อมาผม
แก้ไขกันจนแม่และพ่อตายลง
เรื่องลิดรอนสิทธิของผมจึงยุติสมบูรณ์

บ้านอานองเตนี้
ที่ต่อไปในอนาคตต้องเป็นของผมแต่ผู้เดียว
เว้นแต่พ่อแม่ตัดมรดกผม
ไปเสียก่อน

แต่พ่อและแม่ไม่ได้ตัดมรดกผม
เป็นแต่ทำพินัยกรรมเอาไว้มอบให้ผมลูกคนเดียว
เพราะพินัยยกรรมนี้ที่ทำ
ก็มีการคาดการณ์ว่าจะเกิดปัญหาเช่นที่เกิดมาแล้วกับตา
แต่เป็นแบบพิสดาร


คาดว่าจะมาเกิดขึ้นกับผมหลังพ่อและแม่ตายลง
เพิ่อมิให้บ้านอานองเตมีปัญหาเหมือนตาอีก
ประวัติศาตร์ครอบครัวบ้านอานองเตจะต้องไม่เป็นอย่างนั้นอีก

แม่และพ่อผมคาดคิดวางแผนไว้อย่างนั้น




เพราะท่าทีการครอบครองปรปักษ์และลิดรอนสิทธิในครอบครัวผมชัดเจนขึ้น
เมื่อวันเวลาผ่านไป
เมื่อน้องสาวแม่มีลูกขึ้นมาสามคนที่บ้านอานองเตนี้
และไม่มีที่ทาว่าจะวางแผนแยกครัวเด็ดขาดจาดบ้านอานองเตออกไป
หลังวันเรือนหอผ่านไปแล้ว

ในเมื่อลูกสาวที่สมรสแล้ว
ต้องแยกครัวไปอยู่กกับบ้านสามีแยกกันเด็ดขาดจากบ้านอานองเต
จากกฎของตาที่วางแผนเอาไว้

ฝ่ายน้องสาวแม่ให้เหตุผลว่า
การไม่แยกครัวทันทีไปเพราะต้องอยูเพื่อนแม่(หมายถึงยายผม)
และแม่ของน้องสวแม่คนที่สามคือยายผมก็เห็นด้วยบ้างไม่เห็นด้วยบ้าง
แต่แม่และพ่อผมอยู่ในหน้าที่
ให้ความเห็นกับผมว่า
"ไม่รูจะพูดอย่างไร"

เรื่องจึงเริ่มเลยตามเลย
มาจนกระทั่งการลิดรอนสิทธิหมดไปเด็ด
ขาดได้คือขาย


เมื่อยายตายลงและพ่อและแม่ของผมตายลง
และผมเข้าครอบคองบ้านอานองเตสมบูรณ์
พร้อมต่อมา
ผมเห็นว่า
มีปัญหาความเข้าใจผิดของชุมชน
และอานองเตต้องมีปัญหาคาใจและเหตุร้ายเกิดขึ้นตลอดเวลา

มีเหตุร้ยเกิดขึ้น
ผมจึงขอจัดการมรดพ่อแม่ด้วยการขออำนาจศาล
จนผมได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกสมบูรณ์ตามกฏหมาย
และบ้านอานองเตจึงอยู่กับผมจนบัดนี้

ส่วนผู้ที่เคบยลิดรนิทธิก็หายสาบสูญไปตายไปแยกทางกันเดินไปหมดแล้ว
และก็อโหสิกัน
และไม่ได้พบกันอีกกับผมอีกเลย


เมื่อน้องสาวแม่คนที่สามพบกันกับยผมแต่ไม่ค่อยได้พูดกัน
ช่วงแม่ใกล้จะตายและพ่อใกล้จะตายแล้วนั้น
มีการเยี่ยมเยือนไข้กันบ้านระหว่างพี่น้องทุกคน





ผมเอาตัวนี้มาลงซ้ำ
เพราะสนใจเรื่องลิขสิทธิ์ที่เราว่างเว้นที่ไม่สนใจไม่ได้
เพิ่่อการศึกษาและวิจัยอิสระ
เพื่อเตือนคนเขียนคนอ่านว่า
มีอะไรบ้างที่จำเป็นต้องใส่ใจเมื่อ
เล่นกับเนตและ
เขียนบล็อก
ของผมเท่านั้น


มิใช่เพื่อการค้าหรือการโฆษณาอื่นใด
ถ้ามีเหตุผลอื่นก็
งดการทำซ้ำนี้
เว้นแต่มีการขออนุญาตผู้ทรงสิทธิ์
ถ้ามีขึ้น


ปัญหากฎหมายเป็นปัญหาเอกทีเดียว
สำหรับการทำงานบนเนตอย่างนี้


เพราะฉะนั้นงานสืบค้นของผมจึงช้าและยาว
เพราะติดปัญหาอย่างนี้เป็นแบบเชิงซ้อนซ่อนเงื่อนและ
เชิงลึกเชิงติ้น
เชิงหนาเชิงบาง


สุดแต่พรรณนา
ผมคาดว่าต้องมีประโยชน์บ้างเมื่อพบกันครึ่งทางในบล็อกนี้
ในเรื่องที่มีมิติสัมพันธ์กับงานเหล่านี้
จึงสำเนามาอ่านกันแบบอ้างอิงที่มาถูกต้อง




อ้างมาจาก//www.posttoday.com/republishing-policy.php
dated:16Jul17

ประกาศ
ชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ฉบับที่ 1/2554
เรื่อง การยกเลิกบันทึกข้อตกลงความเข้าใจเรื่องการอนุญาตให้ใช้ข่าวและภาพข่าว
จากเว็บไซต์ในสังกัดสมาชิกชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
ตามที่ชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงเพื่ออนุญาตให้เว็บไซต์ต่างๆ
ใช้ข่าวและภาพข่าวจากเว็บไซต์ของสมาชิกชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
 แต่มีเงื่อนไขต้องทำเป็น RSS Feed หรือ Embed แบบ Frame ตามความทราบแล้วนั้น
บัดนี้ ข้อเท็จจริงปรากฎแล้วว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีเว็บไซต์จำนวนหนึ่ง
 ทั้งที่ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ และไม่ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ
 พยายามหลีกเลี่ยงไม่ดำเนินการตามข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลงฯ
และจงใจฝ่าฝืนข้อตกลงด้วยวิธีการต่างๆ โดยสมาชิกชมรมได้มีหนังสือ
ตักเตือนไปหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้รับตอบสนองไปในทางที่สร้างสรรค์
ดังนั้น คณะกรรมการชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ดังต่อไปนี้
ให้ยกเลิกบันทึกข้อตกลงความเข้าใจเรื่องการอนุญาตให้ใช้ข่าวและภาพข่าว
จากเว็บไซต์ในสังกัดสมาชิกชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ที่ได้มีการลงนามไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมด
ชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ขอประกาศยืนยันว่า เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎและรวบ
รวมอยู่บนเว็บไซต์ของสมาชิกชมรมเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์
หากเว็บไซต์ใด ประสงค์ที่จะนำข้อมูลข่าวสารของสมาชิกชมรมไปใช้ประโยชน์
ในเว็บไซต์ของตน จะต้องดำเนินการด้วยวิธีใช้ RSS Feed เท่านั้น ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ชมรมกำหนด
หากมีการละเมิดลิขสิทธิ์เเศษ
เพื่อพาไปขึ้นศษลแต่อย่างใด
จึงไม่รีบนื้อหาที่ผลิตขึ้นโดยเว็บไซต์ของสมาชิกชมรม สมาชิกแต่ละรายจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ละเมิดอย่างถึงที่สุด
ชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ขอยืนยันว่า ชมรมฯ
ไม่มีเจตนาปิดกั้นการนำเนื้อหาที่ผลิตโดยเว็บไซต์ของสมาชิกไปใช้ประโยชน์
เพื่อการศึกษาหรือการวิจัย แต่ไม่สนับสนุนการนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า อันเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมาย
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
ชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
10 กุมภาพันธ์ 2554
นโยบายการเผยแพร่ซ้ำ และการใช้บริการ RSS
บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) เจ้าของเว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ เป็นสมาชิกชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
 (Society for Online News Providers (SONP))
ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปกป้องสิทธิความเป็นเจ้าของของผู้ผลิตข่าวออนไลน์ นโยบายของ SONP
กำหนดไว้ว่า RSS เป็นวิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้เว็บไซต์อื่นสามารถรับข่าวจากผู้ผลิตข่าวออนไลน์ได้
เพื่อให้ความเป็นธรรมในการใช้ข่าวของโพสต์ทูเดย์ บริษัทฯ ได้นำบริการ RSS มาใช้เพื่อให้ผู้ใช้บริการ
 ไม่ว่าจะเป็นผู้เผยแพร่เว็บไซต์ เว็บมาสเตอร์ เจ้าของเว็บไซต์ หรือบุคคลใดก็ตามอาจ
ใช้บริการดังกล่าวเพื่อเผยแพร่ข่าวของโพสต์ทูเดย์ซ้ำบนเว็บไซต์ของตนได้ ข่าวที่ให้บริการ
 RSS นั้น จะประกอบด้วย หัวข้อข่าว โปรยข่าว และ URL
 ลิงค์กลับสู่ต้นฉบับข่าวที่ปรากฏบนเว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ เฉพาะบริการ RSS
ที่บริษัทฯ จัดให้มีขึ้นเท่านั้นที่สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้ ข่าวที่ให้บริการ RSS
 นั้นไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือกระทำการอื่นใดได้ สำหรับรายละเอียด
วิธีการใช้บริการ RSS ของบริษัทฯ กรุณาศึกษาข้อมูลจากเว็บการให้บริการ RSS
หรือติดต่อ chonradat@bangkokpost.co.th
บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าผู้ใช้บริการจะเข้าใจว่า เมื่อบริษัทฯ สนับสนุนให้มี
การใช้ข่าวของโพสต์ทูเดย์อย่างเป็นธรรมแล้ว การเผยแพร่ข่าวซ้ำ
โดยไม่ได้รับอนุญาตและเกินกว่าการใช้อย่างเป็น
ธรรมจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจและความเป็นอยู่ของพนักงานของบริษัทฯ
ผู้ใช้บริการสามารถอ้างอิงหรืออ้างถึงข่าวของโพสต์ทูเดย์โดย
การแสดงหัวข้อข่าวที่มีลิงค์กลับไปสู่หน้าแหล่งที่มาของข่าวบนเว็บไซต์โพสต์ทูเดย์
โปรดทราบว่า
บริษัทฯ อนุญาตให้เผยแพร่ข่าวของบริษัทฯ ซ้ำ ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อข่าว
 โปรยข่าว และ URL ลิงค์กลับสู่ต้นฉบับข่าวที่ปรากฏบนเว็บไซต์
โพสต์ทูเดย์ เฉพาะข่าวที่ให้บริการ RSS เท่านั้น โดยไม่สามารถ
สืบค้นย้อนหลังบนเว็บไซต์ของผู้ใช้บริการได้
บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการ Feed
ภาพข่าวต่างประเทศหรือภาพข่าวใดๆที่มาจากสำนักข่าว AP, AFP, แ
ละ REUTERS หากปรากฏว่าผู้ใช้บริการนำข่าวที่ไม่ได้รับอนุญาตไป
ใช้และก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ หรือบุคคลภายนอก
 ผู้ใช้บริการจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นทั้งหมด
ผู้ใช้บริการไม่มีสิทธิในการนำข่าวที่ได้รับอนุญาตนี้ไปทำการดัดแปลง
แก้ไข ทำซ้ำ เปลี่ยนแปลง เรียบเรียงใหม่ หรือไม่ว่าจะกระทำโดยวิธีการใด
อันทำให้ผิดไปจากต้นฉบับที่ได้รับจากบริษัทฯ
หากบุคคลใดหรือนิติบุคคลใดคัดลอก ทำซ้ำ แก้ไขเปลี่ยนแปลง
 ดัดแปลง ตีพิมพ์ เผยแพร่ แจกจ่าย เช่า ให้เช่า เรียบเรียงใหม่
หรือใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อความ
 ข่าวสาร ข้อมูล ข่าว บทความ ภาพถ่าย รูปภาพ ภาพวาด เสียง โลโก้ ไอคอน
 ซอฟต์แวร์ เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ชื่อทางการค้า
สิทธิบัตร รหัสคอมพิวเตอร์ (sources code)
ความรู้ความชำนาญ (know-how) และส่วนประกอบใดๆ
 ทั้งหมดของบริการ RSS เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือเพื่อประโยชน์
หรือวัตถุประสงค์อื่นใดไม่ว่าโดยวิธีใดก็ตามโดยไม่ได้รับ
ความยินยอมเป็นหนังสือจากบริษัทฯ ล่วงหน้า บริษัทฯ
สงวนสิทธิที่จะดำเนินกระบวนการตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิดขั้นสูงสุด
ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับบัญญัติไว้โดยทันที
ผู้ใช้บริการ RSS ยอมรับว่าในทางปฏิบัติตามปกติของธุรกิจหนังสือพิมพ์
 ความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ และบริษัทฯ ไม่รับประกันการลำดับความ
 ความสมบูรณ์ ความถูกต้อง และ/หรือความเชื่อถือได้ของข่าว
ที่อนุญาตให้ทำซ้ำหรือทรัพย์สินทางปัญญาที่แสดงบนเว็บไซต์หรือบริการ RSS
ของบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ไม่รับประกันและรับรองว่าข่าวที่อนุญาต
ให้ทำซ้ำและการใช้บริการ RSS ที่จัดให้จะเหมาะสมในทางการค้า
 และเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ ไม่ละเมิด
 มีคุณภาพเป็นที่พอใจ ไม่หยุดชะงักหรือปราศจากความผิดพลาด
ไม่มีจุดบกพร่อง หรือความชำรุดบกพร่องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง
 หรือบริการจะเป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้บริการ บริษัทฯ
ให้ข่าว ทรัพย์สินทางปัญญา และบริการ RSS
โดยปราศจากการรับรองและรับประกันใดๆ ทั้งสิ้น





5.


เรื่องลิดรอนสิทธิยังไม่จบ
ในเนื้อหาท่อนกลางยังไม่จบยังมีอีกแต่ผมนึกไม่ออก
เมื่อนึกออกแล้วจะมาว่ากันต่อ
แม้ตอนนี้ไม่ติดใจอะไรแล้ว
ตามที่ไดกล่าวมาแล้วในบางบทของผม
ในบล็อกนี้


ผมต้องแวะมาที่นี่อีกหน่อย
เพราะการสืบคต้นญตินี้มิได้เตรียมหาพฤติกรรมหรือเอกสารชนิดพิเศษ
หรือชนิดนี้เพื่อพาไปขึ้นศาลแต่อย่างใด

เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องรีบร้อน
จะว่าไปไปเรื่องนี้ต้องกลับมาเป็นเองยาวจนได้
เพื่อหาข้อยุติให้ดีที่สุด
จากเริ่มอารัมภบท
มีว่า


การตัดสินใจว่าจะเผาหรือฝังศพพ่อและแม่
เพื่อไม่ให้มีภารกิจกับคนรุ่นกหลังเมื่อผมตายไปแล้ว
เพราะผมเป็นลูกคนเดียว
ใจผมนั้นอยากให้กระดูกหรืองศพพ่อและแม่นั้นและผมด้วยอมตะหลังการตายของผม
ในฐานะที่เป็นบลูกคนเดียว
ต้องมีจิตสำนึกในคุณธรรม
ในฐานะที่เป็นมนุษย์
คำถามตามมาว่าไม่มีใครอื่นหรือที่พอจะเยียวยาเรื่องนี้ได้
อาจจะมีแต่ปผมต้องขอสัญญาข้อผูกมัดเป็นอมตะ
อันนมีปัญห
เนื่องจากที่กล่าวมาแล้วญาติและบุคคลอื่นใด
ล้วนเป็นลบไแล้ว
การจะพึ่งพิงพึ่งพา
ด้วยการฝากผีฝากกระกดูกนั้น
เขาก็มีปัญหาเหมือนกัน
เพระส่วนใหญจะต่อเนื่องความทรงจำจะมีแค่สามชั่วโคตร
จองคนปัจจุบัน
และความรับผิดชอบ
อดีตและความทรงจำจะเลือนไป
เป็ฯผลให้มีการทอดทิ้งเกิดขึ้นรตามมาแน่น่อน
และประวัติศาสตร์ของเราก็จะไม่ลงตัวและเป็นลบ
อาจจะมิใช่ประวัติศาสตร์เพื่อสังคมต้องเข้าไปศึกษา
แต่อาจจะเป็นประวัติศาสตร์ของคุณธรรมเฉพาะของแต่ละราย
ในความเป็นมนุษย์ชาติ

เพราะเรามิได้เป็นบุคคลสำคัญสากลอะไร
เพียงแต่มีความสำคะญบุคคในตัวมันเองเท่านั้น
เพราะะนั้นผมจุงต้องหาข้อยุตินี้
ในยามที่ว่างเปล่า
และการรอคิวรอตายของชีวิตผม
ฉะนั้นเรื่องสืบค้นญาติแลบะเรื่องประกอบของเรื่องขจึงต้องยืเดยาวจนกว่าจะจบลงได้
เรื่องเรืองเอกสารการสืบค้นญาติเจ เจอาร์นี้จึงเกิดขึ้น


ตามหลักทฤษฎีสงครามโลกถ้ามีอยู่
มีว่าผู้แพ้ต้องชดใชปฎิกรรมสงคราม
คือการชดใช้ค่าเสียหายที่ตนได้กระทำลงไปและตกเป็ฯผู้แพ้สงคราม
เพราะฉะนั้นสงครามจึงหลีกเลี่ยงการแพ้ที่ต้องชดใช้ค่าเสียกหายเกิดขึ้น
จึงเป็ฯสงครามหลายชนิดเกิดขึ้นตามมา
ให้มนุษย์ต้องประสบ
เว้นแต่เป็นเหตุสุดวิสัยสงครามโลกก็เกิดขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดโดยไม่คำนึงว่าผู้แหพ้หรือผู้ชขนะจะชดใช้ปฏิกรรมวสงคตรามเพียงใด
แม้สงครามจะสงบลงแล้ว

นี่คือสมมุจติฐานที่ผมคิดว่าคงจะอย่างนั้นเป็นเรื่องความสากลแต่ในความบุคคลก็เนเช่นนั้นเหมือนกัน
ทันที่ที่พิมพ์ดีดแป้นถูกจับขึ้น
ทันที่ความคิดบันทึกเกิดขึ้น


เผยแพร่กฏหมายที่ต้องรับผิดหลายชนิดที่ผู้เขียนทำจึงเกิดขึ้น
ความระวังจึงต้องมี
ประการแรกภาษาในการสื่อต้องถูกต้อง
ถ้าเลินเล่อในเรื่องในเรื่องหนึ่ง
การสืบค้นญาสติจึงไม่ได้มาตรฐาน
สรุปบล็อกก็ถูกปิด
ผมก็ต้องหยุดสื่อ
และความตั้งใจของผมก็เป็นโมฆะหรือโมฆียกรรมขึ้นมาทันที
ฉะนั้นเรื่องการสืบค้นญาตินี้จึงต้องล่าช้าเป็นแรมปี
จนกว่าจะจบหรือว่าผมตายลง
กล่าคืมาในหัวข้อ
สะดุดหยุดอยู่หรือสะดุดหยุดลง
ถ้าสะดุดหยุดลงคือจบกัน
ไม่มีเหตุผลอื่นใดจะอธิบายอีก

แค่ถ้าสะดุดหยุดอยู่แสดงว่ามันยังนำมาพูดขึ้นอีกได้
ด้วยประการฉะนี้

ด้วยเหตุนี้เพื่อให้เรื่องนี้สมบูรณ์ที่สุดลงตัวที่สุด

ผมจึงต้องยาวและช้าและมีเรื่องแทรกเกิดขึ้นมาประกอบดรามาทั้งหด
ใหก้มันอ่านแล้วได้ทั้งประโยชน์และออรถประโยชน์และคติชนวิทยา
และมานุษยวิทยาและอื่นใดที่
ผมลืมบอกไปแบบครอบจักรวาล

ผมแวะไปดูบัวแดงและบัวหลายชนิดที่สระของแม่และพ่อ
ปรากฏว่าตายหมด
ความเสียหายครั้งนี้เกิดขึ้น
มีข้อสันนิษฐานหลายข้อ
หนึ่งศัตรูธรรมชาติเกิดจากคนและสัตว์ทำลายเจาะจงเฉพาะที่มีคนมาปล่อยเอาไว้
คนอดหยาก
คนจากเผ่ากิยองติน
มันตายไปเพราะธรรมชาติ
และสาเหตุที่ผมนึกไม่ออก

ตามปกคติบัวสายหรือบัวอีกหลายชนิดผมพามาปล่อยเอไว้ในสระนับเวลาได้
54 ปี สามปี หนึ่งปี
มันจะตองไม่ตาย เพราะน้ำลดมันตายพอน้ำขึ้นมันจะขึ้น
สำหรับพืชน้ำชนิดนี้

แน่นอนผมไม่ขโมยใครมาปลูก
ทุกอย่างผมซื้อมาหรืออะไรที่ถูกวิธี
เพราะผมยอมรับการรับผิดเมื่อถ้าขโมยเขา
เอาของเขาโดยเจ้าของมิยินยอม
หรืออื่นใดมันเป็นความผิดอมตะ
ความผิดอันอมตะนี่ผมไม่ทำ
เพราะทำไปแล้วมันเหมือนแผล
เป็นและยิ่งกว่านั้นแรงขึ้นไปอีก
เมื่อคนเชื่อว่ามีการเกิดใหม่หรือไม่เกิดใหม่
ต้องรับผิดในการกะทำนั้นจนหารู้ที่สุดไม่ได้ของมนุษย์
ไม่

แน่นอน
แม้ถ้าคนเกิดอีกก็ต้องเกิดมาเพื่อชดใช้
ค่าเสียหายในภพชาติต่อไป
แม้ถ้าไม่เกิดอีกก็มีความทรงจำและประวัติของอดีตจัองจารึก
ไปไว้ถึงความผิดและความถูกของ
มนุษย์ทุกอณูชีวิต
ที่เป็นมาในนิยามของความเป็นมนุษย์

ฝนตกหลายวันรวมสี่วัน
กับอีกยี่สิบสองนาทีผมจับเวลาได้

ทำให้ผมไม่ต้องเมื่อย
มือรดน้ำต้นไม้ในเกษตรกรรมนีโนของผม
ทวนเกษตรกรรมนีโนของผมคือปุ๋ยและน้ำเท่านั้นที่
จำเป็นที่สุดใช้เนื้อที่นิดเดียว
เพื่อผลิตให้ได้มากที่สุดตามหลักเศรษฐศาสตร์

ผมไปซื้อเครื่งตัดหญ้าอย่างประหยัดมา
ชนิดใช้ไฟฟ้าและชนิดใช้น้ำมันรถลากอีก
เพื่อทำนิเวศน์ให้โรแมนติก
ตัดเฉพาะที่ทำเฉพาะเรื่อง
ไม่ทั่วไปนอกนั้น
ปล่อยไว้ตามธรรมชาติได้พึ่งพาอศัยได้
ที่บ้านอานองเต
อาจจะมีกลุ่มอดหยากและเผ่ากิยองตินก็จริง

เพราะเขาไม่มีเหมือนเรา
แต่เขาเข้าใจเราดี
ก็เพราะพ่อแม่มีอดีตอันเหลือล้น
เขาจะไม่มายืมมากวนใจเมื่อ
เรามีอะไรมาใหม่

ถ้าเจอมากวนคำตอบคือ
ไว้ทุกข์พ่อแม่เสร็จก่อนจะให้ยืมจะอะไรว่าไป
อนึ่งผมตัวคนเดียวพยายามจะฟื้นตัว
และไว้ทุกข์พ่อแม่
เพราะอดีตที่สังคมอานองเตมองผมเป็นเพลย์บอย
ไม่ช่วยพ่อแม่ทำงาน
แต่ว่าพ่อแม่ตายแล้ว
ผมเพราะผมเกิดมามีวิบาก
ผมสำนึกเรื่องนี้
ผมต้องทำให้ชาวอานองเตเห็นว่า
ผมกำลังควมดีความงามอะไรอยู่


อย่างไรก็ตามผมตายแล้วมอบให้มูลนิธิ
หมดเมื่อผมตายลงคนรุ่นหลังจะใช้อะไร
ตามใจชอบ
แต่มิใช่มากวนใจตอนนี้
ผมตัวคนเดียวคนแก่
ลองวาดภาพดูว่า
อะไรตามมา

เมื่อ
เมื่อมีเหตุหยิบยืมอะไรกันและขาดควารับผิดชอบ
และเมื่อมีปัญหากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเป็น
สภาพต่อกัน

ผมเลยงดเยี่ยมงดยืมงดขอ
จบแค่นี้เพื่อตัดปัญหาที่จะตามมา


แต่มิใช่เห็นแก่ตัว
ผมทำจำหลักเอาไว้เมื่อผมตาย
ไม่มีทายาทแต่ทุกคนจึงเป็นทายาท

อาจจะกลัวกันว่าผมตายลงแล้วไม่มีอะไรเหลือ
คำตอบนี้คงไม่เกิดขึ้นอย่างผม
ยังเหลืออย่างน้อย
เสื้อผ้าที่ทิ้งเหลือเอาไว้มากมายเป็นอย่างน้อย
ผมตายไม่เอาเสื้อผ้าที่ผชอบติดตัวใส่ไปด้วยแน่นอน

เขาเชื่อมั้ย
คำตอบมีข้อเชื่อ
แม้ข้อที่สอง
ไม่ว่าเขามีอะไรกัน
อะไรผมมีเหมือน
หนึ่งเดียวอย่างนี้
โลกแห่งการหยิบยืมคงสงบ


ข้อสุดท้าย
ปิดประตูใส่กุญแจ
ลงกลอน
ล่ามโซ่ในเรื่องสำคัญทุกอย่างไว้ใส่กุญแจ
ปักเขตหวงห้าม
บอกให้เขารู้
ตามที่กฎหมายอนุญาต
มิใช่ทำตนแรงเกินไป


เรื่องนี้ความปลอดภัยจบลงลง
ถ้ามีอีกเป็นเรื่อง
ของกฏหมายและตำรวจ
จบแค่นี้ในสังคงอานองเต

เรื่องต่อไปเป็นชะตากรรมของผม
คือการจัดการ
ความขยัน
ความต่อเนื่อง
การดูแลความหมั่น
ทั้งหมดนี้ที่ผมต้องมี

ผมเลยคงใช้ปรัชญาว่าทำไปเรื่อยๆเมื่อเหนื่อยก็นอน
วันละนิดวันละหน่อย
ทำไม่ไหวไม่ต้องทำ
แต่ไม่จ้างวานคนอื่นถ้าไม่จำเป็นเพราะงบไม่พอ
เพราะที่อานองเต
ครัวผมมีปัญหาเชิงลงบในเรื่องนี้

แต่ถ้าจำเป็นก็จะจ้างวาน
ยอมเสียเงินเมื่อจำเป็น

เครื่องตัดหญ้าผมซื้อมานั้นด้วยสาเหตุหนึ่ง

อีกสาเหตุหนึ่ง
คือเครื่องยังชีพของผมมีมะพร้าว  200
  กว่าลูก  500  ลูก
คนเก็บงวดนี้เขาบอกว่ารกหญ้าเกินต้อง
เอาค่าขึ้นเป็น7บาทจากลูกละ  20.00  บาทเมื่อ17/07/60
เพราะรก
ผมจะใช้เครื่องตัดหญ้าตัดให้เตียน
เฉพาะที่มีมะพร้าวที่เขาจะไปขึ้นมะพร้าว
แล้วผมจะได้ลดค่าแรงขึ้น
มะพร้าวเป็นลูกละ4บาทตามธรรมเนียม
คือ


ค่าขึ้นค่าขนค่าเก็บลูกละ  4.00  บาทก่อนขาย
ให้กับพ่อค้าขายส่งมารับถึงที่
ราคามะพร้าวปัจจุบันเวลานี้22/08760ราคาภูธร
มะพร้าวมีแต่จะแพงขึ้น
เพราะเขาตัดหมดทำรีสอร์ตใช้พื้นที่ทำยางหรือ
อย่างอื่น
มะพร้าวนอกเข้ามาแทนที่
มะพร้าวจึงหมดไปทุกวัน
แต่ผู้กินนั้นกินเพิ่มทุกวันเพราะ
เป็นยาและเป็นอาหารธรรมชาติชั้นเยี่ยมของคนไทย
ในของทุกส่วนของต้นมะพร้าว


และปลูกยากใช้เวลา10ปีจึงจะให้ผลเต็มที่
นี่คือเอกลักษณ์ของมะพร้าง
และที่แม่และพ่อปลูกไว้ให้2000ต้น
เหลือเพียง100ต้นแล้วที่บ้านอานองเต

ที่ผมอนุรักษญ์เอาไว้เพื่อยังชีพ
ไม่ขาย
ไม่ขายต้นตัดขาย
หรือทำลาย
รอบบ้านอานองเตไม่มีมะพร้าว
เพราะผมตัดหมดมันจะพังทับบ้านพังทันที
พายุมามะพร้าวล้ม
อันนี้รอวันชะตากรรมนี้มา
ที่ผมกลัว




6.

ผมคาดว่า
เมื่อเป็่นคนต้องมีทางเลือกที่ดีกว่า
เกิดขึ้นในสมองเสมอ

ผมสัมภาษณ์คนหนึ่งเพื่อนบ้านอานองเต
เขาเรียนจบ  ม.ปลายแต่ไม่ทำอาชีพที่วุฒิมีเป็น
แต่ทำไร่นิดเดียวปล่อยรกสัพเพสัตตายังชีพด้วยมะพร้าวยี่วสิบต้น
ถามเขาอยู่ได้อย่างไร
เขามีคดีติดตัวสมัยเรียนหนังสือยกพวกตีกัน
และประวัติเขาจึงไม่ให้ทำงานดีๆได้แม้เขามีวุฒ  ม.ปลาย

เขาโต้ตอบว่าทางใครทางมัน

คำตอบนี้กินใจผม
นั่นหมายความว่า
งูกัดตายก็ตายไป
เสือมากินก็กินไป

แต่เขาต้องการมีชีวิตอยู่อย่างนี้
เขาเป็นโสดรับจ้างหาเช้ากินค่ำบ้าง
ตัวคนเดียว
เรื่องเจ็บป่วยไม่ค่อยจะมี
บ้านอยู่ข้างทางรถไฟ
เขามีความสุขดี
กับหมาสองตัวเฝ้าบ้าน และแมวหนึ่งตัวเฝ้าหนู

ดีกว่าผมที่ไม่เลี้ยงอะไรเลย
นอกจากปลากัดใส่ขวดโหลสี่เหลี่ยมทรงสูงปากกลม
เอาไว้ดูเล่น
แต่ไม่กัดเพราะทรมาน
เวลามัน
ขยายครีบหรือภาษาเซียนปลากัดเรียกว่า "พองมือ"
อย่างสวยงามเพื่อจะกัดกันระหว่างผู้กับผู้
ผมชอบดู
และรอวันมือเด็กมือไวมาขโมยมันไป


ผมกำลังฟังบาช์คตามเคย

มันนิ่มและได้อารมณ์กับของโชแปง
ผมทนฟังเพราะมันเป็นอาหารแห่งอามรมณ์ผม

ผมเกิดมาเขียนเน้นจริงๆคือ
เพื่อเป็นอาหารทางความคิดต่อเพื่อนมนุษย์
มากกว่าเขียนเพื่อเร่ขายหรือโฆษณาตนเอง
หรือเพื่อเงิน

และเพราะเหตุจำเป็นที่ต้องเขียนอย่างนี้..





ตอนนี้ผมกำลังฟังโชแปง
Chopin: Complete Mazurkas (Full Album)
อ้างอิงซ้ำจากเรื่องhttps://youtu.be/H5D46aHhRDMPublished on Nov 1, 2016/
อ้างเมื่อวันที่18/07/17เวลา4:00โปรดดูจากEndnote programmeของผมถ้ามีเวลาจัดให้เต็มสำรับ


หลังจากเหนื่อเบื่อฟังก็เปลี่ยนอิริยาบถ
เอาละวันนี้ผมตัดกิ่งไม้ที่บังแสงแดดออกบ้าง
พบมีปัญหาสิ่งที่ปลูกไว้มีตายไปและมีที่เหลืออยู่
ผมจะไม่เจียรไนว่ามีอะไรบ้างค่อยเปิดในบัญชีอ้างอิงใหญ่


ทันทีผมใช้เกษตรกรรมนนีโอขึ้นมา
คนเข้ามาสนใจงานของผม
ซึ่งผมไม่ถือ
แต่ที่จริงในภาวะกระต่ายแสนหกของผมเกิดขึ้นมาอย่างนี้


อยากให้งานนีโอนี้
มันมีไว่เผื่อเก็บกินเพื่อยังชีพได้อย่าดีก่อน
ในระดับที่ผมพอใจแล้ว
จึงค่อยเปิดโอกาสเข้าชม


ใช้เวลาตามคาดว่าสองปีถึงหาปีขึ้นไป
ถ้าผมไม่ตายเสียก่อนจะทำไปเรื่อยๆ
เพราะเพลินดีเหมือนฟังเพลงคลาสสิกทีเดียว
คนชมนั้นมีทั้งคนเถื่อนคนไม่เถื่อน
ชนิดคนไม่เถื่อนนั้นมีคุณธรรมเป็นปัญญาชนซึ่งไม่ต้องอธิบาย
แต่ชนิดคเถื่อนนั้นจะมีเจตนาเลวบางอย่างแอบแฝง
เอาละเราไม่มีเวลาอ่านใจคนได้ตรงเหมือนหมอดูอ่านลายมือ
ต่อไปจะอ่านอะไนกล้องวจรปิด และดีเอ็นเออ่านออก


ผมสืบทราบว่า

มีดังนี้สำหรับคนนิสัยไม่เถื่อน

คิดอิจฉาเพื่อน
คิดขโมยเมื่อผมเผลอ ผมไม่อยู่
ทำให้ต้นไม้ที่ผมเจตนาปลูกตาย
เข้ามาเหยียบย่ำแล้วทำเป็นไม่รู้
ไม่คำนึงถึงผลของการกระทำ
คือทำตามใจตามอำเภอใจของตนเอง


บางรายการมีถึงขนาดเช่นกรณีเผ่ากิยองติน
เขาเมื่อพบกลุ่มเป้าหมายเขา
จะลงทุนตายกันให้ได้
ไข้กันให้ได้


เพื่อจะเอาตัวยาสมุนไพรที่สวนผมมีไปทำลายให้ได้
พวกเกลียดนิเวศน์
เกลียนนายทุน
อิจฉาคนเป็น

มีหลายประเภทที่ผมจะแจงรายละเอียด
แต่ในขั้นนี้ให้ทราบเพียงเท่านี้เป็นการนำร่องเพื่อรู้ทันเอาไว้
น่าจะพอ


บางรายมีการตั้งกลุ่มทำลายหลายสิ่ง
ที่ขัดลูกตาตนเอง
กลังว่าเพื่อนจะเด่นกว่าอะไรทำองนี้
มีมากมายลหลายชนิด
ทำไปแล้วแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้
น่าตาเฉยทำมิตรภาพ


รวมถึงคนที่ทำลายทั้งมีเจตนาและไม่เจตนาและประมาทเลินเล่ออีกด้วย
นั้นคือผมต้องเผลอไม่ได้
ต้องติดกล้องวงจรปิดว่าอย่างงั้น


ต้องมีกล้องวงจรปิดเอาเลยทีเดียว
ครับมันเป็นการลงทุน
ยังมีชนิดแข่งขันอีกด้วย
แล้วยังมีชนิดทำตัวเป็นสายสืบ
พืชต้องห้ามกัญชา ยาเสพติด
แต่ที่จริง
อันนี้ด้วย
ผมยอมรับ

แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเห็นอะไรกินได้
ก็คอยฉวยโอกาสเข้ามาทำลายเอาไปกิน
หรือสุดแท้แต่
หลายเรื่องกอร์ปกันปะปนเข้าไปด้วย

แน่นอนคนดีเขาจะรู้ว่าอะไรคืออะไร
อะไควรปกปิดให้
ไม่ควรปกปิดให้

เมื่อเป็นเห็นอะไรเขาทำอะไรขึ้นมา
มีเพื่อยังชีพ
หรือเพื่อทัศนศึกษา
เราก็ต้องสนับสนุนตามภาวะ

ถามว่าแค้นเคืองหรือไม่ที่มีคนมาทำอย่างนี้
ผมตอบว่าไม่เลย
เพราะผมถือปรัชญาว่า
มีกฎแห่งกระทำคอย
แก้คอยเสริมดวง
ให้กับคนอยู่แล้วในจักรวาลและนอกจักรวาลนี้
ลี่งที่นำมาเล่านี้เป็นนิยายคิดเป็นนิยาย
ไม่คิดเป็นเรื่องจริง
เท่านั้นจบ


เพราะเมื่อเขาทำเรา
เราไม่เห็น
เราคาดเราเดาเราสงสัยเอาเอง
คิดมากไปเอง
จบเท่านั้นสันติภาพทางใจของผมเกิด
แต่จริงเท็จอย่างไร
ไม่ทราบแต่เห็นผิดสังเกตเท่านั้น
แสดงว่ามีคนแกล้ง

ต้องสอบสวนดูกระบวนการทางวิจารณญาณ
ต่อไปกัน
จึงจะรู้ความจริง
แต่ถ้ามีผมคิดว่ามันผิดแน่นอนด้าน
คุณธรรมของมนุษย์


ผมทำเกษตรกรรมแผนนีโอนี้
ผมอาศับยความรู้จากปริญญา
สองใบเป็นฐานและประสบการณ์และ
ภาวะจำเป็นของชีวิตมาทำ
เท่าที่ทราบมีแต่ใจรักเท่านั้นที่เหลืออยู่

มิได้มีความรู้เรียนเรียนอ่านๆ
ทางเกษตรกรรมแผนใหม่มาแต่อย่างไร
พ่อแม่่ไม่เคยสอนผม
วิชายังชีพของพ่อแม่ผมที่สืบทอดมาให้ผมมีดังนี้คือ
พ่อ
สั่งให้ผมถือชามส่งก่วยเตี๋ยว
ให้ถึงมือคนกินไม่ทำชามตกแตกเป็นใช้ได้
ทำถ้วยก๋วยเตี๋ยวตกแตก
เอาไปส่งให้ลูกค้าามีโทษสถานหนัก


สำหรับแม่ไม่เคยสืบทอดอะไรให้ผมเลย
นอกจากวิชากินทางปากขึ้ทางตูด
เป็นหลักฐานสากล
นอกนั้นไม่ได้สอนอะไร
สืบทอดมา
นอกจากห้าม
ไปยุ่งลูกสาวชาวบ้านเพื่อนบ้าน
แม่สั่งผมว่า  "ถ้ามีมีอะไรกันต้องแต่งงานก่อน"


 แม้แต่ทำผักเสี้ยนดอง
แม่มือโปรในท้องที่อานองเต
แต่ไม่เคยสอนให้ผมหัดทำ


ทางพ่อนั้นมีปรัขญาอย่างเดียว
ที่ถามผมให้ผมตอบเสมอมา คือ:
"ที่ไหนมีกินโดยไม่ต้องทำงาน
ช่วยบอกให้พ่อรู้พ่อจะไปอยู่ด้วย"

มีเท่านี้สรรพวิชา และปรัชญาที่พ่อแม่ทิ้งไว้
ให้ผมเพื่อการเป็นคน
อย่างถูกวิธี


ท่านทั้งสองถือว่า
ลูกโตไปรู้เองเบื่อสอนเบื่อฝึกผม
สิ่งที่เป็นคุณธรรมพื้นฐาน หกรือวิชาชีพพื้นฐาน
นั้นรู้ๆกันอยู่แล้ว
สังคมสอน  รร.สอน  วัดสอน  
ให้หมดแล้ว
พ่อแม่ผมถืออย่างนั้น

ด้วยเหตุนี้การทำเกษตรกรรมนีโอของผมจึง
ทดลองก่อนจึงค่อยทำ





7.



เข่นน้ำเต้าผมปลูก1ซองขึ้น1เม็ด
ผมเรียนรู้
หนึ่งโดนคนแกล้งถอนทิ้งเสีย
โดนมดกัดกินเสีย
 เน่าตายเสียตายเองไม่ทราบสาเหตุ
เมล็ดที่ซื้อมาเสื่อม ปลูกไม่เป็น
จึง
เหลือหนึ่ง
เพื่อจะได้
ดูเป็นไปรเวทจนถึงขโมย

ปรัชญาเผ่ากิยองตินต่อเหยื่อ
หรือขอพึ่งพาได้ถ้าเราปลูกน้อยๆไปดีมีหนึ่งอย่างนั้นดีจะพึ่งได้

ถ้ามีมาก
พาไปตลาดขายส่งและดูเป็นงานเป็นการขึ้นมา
เขาเผ่ากิยองตินคิดว่า
เรานี่จะพึ่งพายาก


หรือสอง ผมปลูกไม่เป็นเอง
จนตายหมดเหลือต้นเดียว


จนท้ายสุดผมต้องเรียนรู้และพิสูจน์ถามไถ่
จากมีเดียสื่อข้อมูล
แม้บางอย่างใช้ได้บางอย่างใช้ไม่ได้


แต่มันเหมือนเพื่อนคุยมากกว่า
บางครั้งผมคิด
ในเรื่องสื่อมีเดีย
ที่ผมสืบค้นมา


จึงได้ขอสรุปว่า
น้ำเต้าบางครั้งเมล็ดพันธุ์เสียเองจากซองจากร้าน
บางครั้งไม่เสีย
แต่ขาดการเอาใจใส่รดน้ำตามเวลา
โดนมดพาไปกินหมด
โดนไก่กระทืบตายเพราะมันชอบตามจิกหาไส้เดือน
ตายโดยบังเอิญ


บางท่านบอกว่า
เมล็ดต้องแช่น้ำก่อนลงปลูกกับดิน
อะไรเหล่านี้


การปลูกน้ำเต้าจึงได้วิชามาว่า

ปลูกหลุมขนาดนี้
ห่างขนาดนี้
ใส่ปุ๋ยอย่างนี้
พรวนดินอย่างนี้


พอขึ้นกี่วันต้องทำอย่างนี้
ต้องตัดยอดย่างนี้นะคะ
ท่องคาถาบทนี้


จะให้ออกลูกมากทำอย่างนี้นี้
ผสมเกสรอย่างนี้
ทำที่เลื้อยอย่างนี้


ทำร้านอย่างนี้
เก็บอย่างนี้
ใส่ปุ๋ยชนิดนี้
ใส่ยาฆ่าแมลงชนิดนี้
เมื่อได้เวงลาตอนนี้อย่างนี้นี้

กินอย่างนี้
อะไรๆเหล่านี้นี้
เป็นต้นเป็นประเภท


เมื่อขึ้นแล้วตัดอย่างนี้
ขายส่งอย่างนี้
ที่ร้านชำ
ใกล้บ้านอานองเต
หรือส่งเป็นตันไปขายตลาดกลางต้องทำอย่างนี้
ได้เงินมาต้องทำอย่างนี้



8.

เงินได้มา
ส่วนหนึ่งเพื่อเทียว
เพื่อออม
เพื่อสังคม
เพื่อการลงทุนต่อ
เพื่อหาของกินเล่น
เพื่อนัดเที่ยวกับแฟนที่ชายทะเล
เพื่อไปงานวัด


อะไรอีกหลายเรื่อง
สรุปการปลูกน้ำเต้าอย่างวเดียว
จึงเป็นวิชาหนึ่งเลยทีเดียว
คือวิชาน้ำเต้าวิทยาขึ้นมาทีเดียวละ
สำหรับผม




ในนีโอนี้ผมเลือกหลายอย่าง
แต่ต้องดูแลเหมือนน้ำเต้าว่าอย่างงั้น
เกิน
เกินตัวไปมั้ย
ผมว่าเกินเหนื่อยตายว่าอย่างนั้น
แต่ผมชอบยิ่งสับสน
ผมยิ่งชอบ


เพราะที่เรียบนวิชาอื่นมาสับสนกวานี้
มากกมายกว่านี้
เหมือนการคิดเลข
เชิงซ้อนเยอะไรทำนองนั้นก่อนกรอกคำตอบ

แต่หลักพื้นฐาน
ที่ผมคิดว่าลงตัว
คือปลูกอะไรเพียงอย่างเดียว
และตั้งหน้าตั้งตาดูและเอาดีทางด้านนั้นอย่างเดียว
คิดว่าถูกกว่า

แทนการเอาเสียทุกอย่าง

กรณีของผมนี้เป็นกรณีศึกษา
ก็มีผิดตกยกเว้น
คือทำสนุกทำเป็นอดิเรก
ไปเพื่อได้ผลบ้าง
แต่มิใช้ขึ้นเพียงต้นเดียวอะไรทำนองนี้
แน่นอน
สรุปแล้วคือดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ปล่อยให้วันเดือนผ่านไปชีวิตไม่ได่้ทำอะไรสักอย่างเดียว
ไม่ได้ทำอะไรสักกะอย่าง
อย่านี้
ผมว่าชีวิตคงเหงา
อย่างน้อยทำแบบฟังเพลงยามว่างก็ยังดี
ฟังเพลงก็ถือว่าทำ


เพราะเพลงฟังเพลงก็เป็นงาน
เหมือนกันหรือเล่นเกมส์ก็ยังดี
ดูหนังฟังเพลงก็ยังดี
มิใช่นั่งซึมลึก
ทำเหมือนพระพุทธรูปปั้นอะไรอย่างนั้น
ทั้งที่เราไม่ได้เป็นพระพุทธรูปปั้นสักหน่อย
เป็นแต่เราเป็นสิ่งชีวิตมีชีวิตหน่วยหนึ่งเท่านั้น
มีการเคลื่อนไหวไปมาเหมือนหนอน
ที่กำลังกินปลาเค็มเน่า
เพราะแมลงวันมาเอาเชื้อโรคมาตอม


หรือคิดให้สนุกหน่อยชีวิต
คนเรามีการเคลื่อนไปตลอดเวลา
กินอิ่มหลับนอน
หน้าที่ของมันเฉพาะตัว
ขาดเสียไม่ได้


ช่วงเวลาที่สูงส่งจากกิจกรรมดังกล่าวของชีวิต

น่าที่จะทำอะไรสักอย่าง
แบบไอเดียหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลนี้
อันนี้ผมว่าน่าจะถูก


สำหรับเป็นคนก็หนึ่งผลิตภัณฑ์
สำหรับหนึ่งคนหนึ่งครอบครัว
น่าจะสนุกไม่น้อย


มีคำถามเกิดขึ้นมามาว่าแล้ว
ส่วนเกินที่เติมเข้ามามันเกี่ยวอะไรกับการสืบค้นญาติ
คำตอบมีว่า
เป็นการพิสูจนณ์พฤติการณ์ของตนเองและปัญหาว่า
การกระทำของผู้สืบค้นมันติงต๊องหรือป่าว
ถ้ามันมีอากาติงต๊องเช่นว่านั้น
คงไม่ต้องไปเอ่ยสืบญาติที่ไหน
ก็คงไม่มีใครเล่นด้วยแน่


หรือมีคนนับญาติเป็นแน่
และพ่อแม่ก็เลยเป็นพ่อแม่ของคนติงต๊อง
ติงไปด้วยและพ่อแม่
ก็ดูเลยกลายเป็นผีของคนติงต๊อง
และเป็นผีพ่อแม่กลายเป็นผีติงต๊องไปด้วย


คนที่เชื่อว่าจะพึ่งพได้ไม่กี่วันเขาก็ตาย
ถ้ามาในสภาวะนี้
มาถึงเวลาสิ้นคิดของคนที่พบเจอเข้า
เมื่อปัญหาเกิด
แน่นอนศพพ่อแม่ต้องถูกโยนทิ้งทะเลและ
กลายเป็นศพอนาถาเวลาล้างป่าช้า
ทุกอย่างก็คงอันตราธานไปสิ้น
ไม่มีอะไรเลย


แม้แต่ความดีที่พ่อแม่เคยทำ
ทุกอย่างก็คงจะถูกลืม


และเอาอย่างไรได้
กันต่อคนรุ่นหลัง
ที่มาพบเห็นเข้า
ที่ไม่มีสัญญาเซ็นไว้เป็นมั่นเหมาะ
ว่าสัญญาทำไม่ทำกำหนดไว้ตลอดกาล


สรุปปัญหาที่จะทำข้อสรุปจึงกลายเป็นลบ
ถ้าคิดลบ


เอาเป็นเช่นนี้
ผมต้องพิสูจน์ว่าตนเอง
เป็นใครมาจากไหนและไม่ติงต๊อง
เป็นคนมีความสามารถ
มีความคิด
ผมจึงจะนับญาติได้
และสามารถตัดสินได้ว่า
จะเอาอย่างไรกับศพของพ่อแม่
ในวาระสุดท้ายมาถึงตอนนี้มีผมด้วย
และจะต้องไม่ให้มีปัญหาย้อนกลับสู่
ญาติหรือคนใดคนหนึ่ง
เมื่อผมตายไปแล้ว
ซึ่งเป็นลูกแม่คนเดียวที่เหลืออยู่


อื่นอีกนอกจากสภาวะความเป็นจริง
ที่กำหนดให้ทำไว้และเป็นอมตะที่ไม่มีใครพูดได้

จากการไม่ต้องถูกพิสูจน์ว่าเป็นคนติงต๊องนี้
ผมจึงนำเรื่องราวทั้งหมดมาประชุมกัน
และจึงได้ข้อยุติที่ดีงามในที่สุด

ผมเคยอบู่ในโลก
อีกโลกอีกใบหนึ่ง
ที่ไม่มีมดปลวกและหนูหรือยุงมากวน
ไม่มีโจรคนร้ายและเผ่ากิยองตินมารังควาญ
ไม่มีอะไรมาเป็นมารหัวใจ

แต่บัดนี้มารับมรดกของพ่แม่ผู้ให้กำเนิด
ทุกอย่างที่กล่าวมานั้นมีหมด


คือเป็นโลกตรงกันข้าม
ที่ผมต้องดิ้นรนและต่อสู้

ถามว่าผมยินดีหรือไม่
ผมตอบว่ายินดีอย่างยิ่งยวด
สนุกดี
แต่จะขอแก้ไขปัญหา
ด้วยรอยยิ้ม
หรือแม้ด้วยน้ำตา


แต่ถือว่าเป็นทำทุกรกิริยาวิสัยของคนสามัญชนิดหนึ่ง
เพื่อไว้ทุกข์พ่อแม่ทำนองนั้้น
อุทิศ

และพ่อแม่ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้เลย
หรือเป็นคำถามสากล

ทิ้งไว้ให้มากมายจริงเว้นเงินสดติดตัว
ที่ไม่ได้ทิ้งไว้ให้
ลำพังสวนอานองเตมะพร้าว  2,000 

แต่ลูกเหลือ150ลูกปัจจุบัน
เว้นแต่เงินสดเท่านั้น
ไม่เหลือไว้สักนิเดียว
มีเหลือผมใช้ซื้อโลงไม้จำปา
(เทียบโลงทองหรือโลงหัวหมู


ในระดับบ้านอานองเตวซึ่งแพงมากราคา
  15,000  บาทขึ้นไปและหายาก
ผมซื้อใส่โลงศพให้พ่อและแม่ทันที
ที่พ่อและแม่ตายลง
ตัดสินใจสูงเกินไปละมั่ง
"ผมถามตนเอง"


คำตอบมีว่า
พ่อแม่เป็นคนมีเกียรติสมควรแล้ว
และผมต้องเทิดทูนพระคุณพ่อแม่จึงทำอย่างนี้
ใครจะว่าอย่างไรเป็นเรื่องของเขา
ผมทำแล้วไม่เดือดร้อนใคร
จบ


9.





ผมสามารถอยู่ได้รองรับสังคมทุกอย่างได้
สบายที่บ้านอนองเตนี้
แต่บังเอิญช่วงนั้น
ตอนรับมรดกแม่ใหม่ๆ

มะพร้าวลดลงเหลือลูกละ1บาท
 หรือให้ฟรีก็ไม่ใครเอา
เพราะค่าขนค่าขึ้นไม่พอให้เพื่อจ้าง


ผมไมรู้ว่าจะทำอย่างไร
จะขายที่ดินก็เสียดาย
ผมเลยตัดสินใจตัดมะพร้าวต้นขายเกือบหมด
เป็นการเสดาะพระเคราะห์ผมไปในตัว
และมะพร้าวต้นที่แม่ปลูกเอาไว้ด้วยมือได้ขายไปหมด
ด้วยประการฉะนี้แล
ได้สมใจเหลือเพียง50-100ต้น
และอีกปีต่อมามะพร้าวต้นและลูกขึ้นราคาที่ใบละ20บาท
ผมไม่เสียดาย

เพราะการตัดสินใจคือการตัดสินใจ
มันเป็นจิตวิทยาของผม
ที่ไม่เสียใจที่ตัดสินสินใจผิดพลาด

และต่อๆมาเหตุการณ์จึง
เป็นที่กล่าวมาแล้ว
ในปรากฏมีในหน้าแห่งบทก่อน



เครื่องใช้เดี๋ยวนี้
เขาใช้แบบเสียบปลั๊กกัน
หมดจนมีหลายเรื่องหลายอย่าง
นับไม่ไหว


เช่น  โทรศัพท์เมื่อมียี่ห้อหนึ่งก็มีที่เสียบแบบหนึ่ง
เมื่อมีอีกเปลี่ยนอีก
ยังรูไม่เหมือนกัน

แต่มาที่ไฟฉายเอย
 เครื่องเล่นเอย
 เครื่องโกนหนวดเอย
เครื่องอุปโภคจิปาถะ
จนเราต้องมีที่เสียบปล้๊ก
แปลงไฟสองร้อยยี่สิบโวลต์
เป็นไฟเท่าที่เครื่องที่อะไรที่เขาใช้กำหนดมา

เป็นอันว่าเรามีที่เสียบปลั๊กต่อหนึ่งคนถึง20อัน

บางอันดูเหมือนลองใช้เสียบก็ใช้ไม่ได้
แม้เสียบได้แต่ใช้ไม่ได้ไม่ได้แปลงไฟ
ให้เราใช้ตามใจชอบต้องคอยระวังคอยดูด้วย


จะใช้ตามที่ต้องการ
อันนี้มีปัญหา
ถามว่าปัญหาอะไร
ที่รูเสียบเข้าอุปกณ์ใช้ได้จริง
แต่ว่าที่เต้าเสียบเอาไฟ220โวลต์
เข้ามันเหมือนกันหมด
ใช้
แต่รูเสียบไฟออกมันไม่เหมือนกันเสียนิ
คงจะปัญหาเรื่องโอมห์เรื่องวัตต์ แอมแปร์อะไรเขาละเนี๊ยะ
เอาละผมไม่สนใจจุดนี้


สรุปมีปัญหาในโลกยุคทุกอย่างแม้ ไอที
แต่เราต้องฝึกทันกระแส
เราจึงต้องโน้ตว่า


ชื่อเรื่องนี้
ยี่ห้อนี้
 มีเรื่องเสียอย่างนี้
ต้องมาร์คจับคู่เอาไว้


พอใช้ต้องหยุดคิดว่ามัมใช้เรื่องของมันรึเปล่า

ผมจำได้ก่อนยุคไอทีมี


การใช้น้ำมันก๊าดจุดตะเกียง
มีเท่านี้น้ำมันก๊าดจึงเป็นสาระของชาวบ้าน
สาระสิ่งนี้อย่างเดียว
อย่าให้ตะเกียงน้ำมันก๊าดหกโดนมุ้ง
ไฟไหม้ทั้งหลังเชียว
ตะเกียงน้ำมันก๊าดหกราดทมุ้งที่นอนนี้
ไหม้ทั้งหลังเลย


เพราะบ่อน้ำอยู่ไกล
แต่สมัยนี้เขาใช้ไฟฟ้าเพียง
กดเท่านั้นใช้ได้
ไม่ต้องกลัวไฟไหม้
หลังคาจากอีกแล้ว
จึงสะดวกขึ้นมา


ดีกว่ากันเยอะเลยโลกยุคไอทีนะ


และที่พ่อแม่ไม่ได้สอนมา
ก็เรื่องน้ำมันหมูไฟไหม้อย่า
ใช้น้ำดับยิ่งใช้น้ำดับเพลิงยิ่งไหม้
ต้องใช้ผ้าดับปัดมัน
แต่ไฟไหม้อย่างอื่นใช้น้ำดับได้
มีบางอย่างที่น้ำดับไม่ได้


อันนี้ค้นเองครับ

เท่าที่ผมทราบมีเท่านี้
นี้เป็นประสบการณ์
นอกกระโถน


ที่ผมได้รับมาหลังการตายของพ่อแม่


หลักการและเหตุผลในจุดนี้
มีว่า

"สิ่งใดก็ตามที่กระทำไปแล้ว
โดยพ่อและแม่
จะเป็นนิติกรรมและสัญญาอะไรก็ตาม
ผมผู้เป็นบุตรมีสิทธิบอกล้างได้
และเป็นโมฆียกรรมทั้งหมด
นี่คือสัญญาประชาคมของผม
ตามหลักวิถีประชาว่า
ด้วยเรื่องการได้มาโดยชอบธรรมของสรรพสิ่งของมนุษย์
สิทธิและการได้รับเกียรติและมนุษยธรรมทุกคน
ควรได้รับความเคารพ
ในความเป็นสากลของมนุษย์ของเรื่องนี้"
นี่คือความคิดของผม


ที่ไม่ขัดกับความสงบและ
เรียบร้อยและศีลธรรมอันดีงามของ
ประชาชนจริงๆเจียว

เอาเถอะ
ผมไม่นำมันมาสร้างเป็นนิติกรรม
เพื่อบอกล้างอะไร
เพราะผมไม่มีแรงพอที่จะทำให้มันดีกว่าที่เป็นอยู่ได้
และใช้กฎแห่งการกระทำและผลเป็นตัวแก้ไขและเยียวยาให้
และละไว้เป็นฐานที่เข้าใจว่ามันอย่างนี้ อย่างนี้นะ
และมันจึงเป็นอย่างนี้โดยชอบนะแทนสิ่งที่ผมเอื้อมไม่ถึงแทนก็แล้วกัน


ที่ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
หรือบุกรุกเรื่องของคนอื่นอีก
เป็นที่เข้าใจกัน
แต่สิ่งที่เกิดใหม่
ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามโดย
ผมผู้ครอบครองสิทธิต่างๆ
ที่บ้านอานองเตจะพึงมี
อันจะพึงได้โดยชอบ
และพึงมีจากมรดก
แม้น้อยนิด
ที่พ่อและแม่ทอดทิ้งไว้ให้ผม


ผมจะกระทำอย่างปัญญาชน
และวิญญูชนพึงกระทำด้วย
การดูแลมันอย่างทะนุถนอม


สติและสัมปชัญญะสมบูรณ์
เช่นการซื้อการขาย
การเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้
ที่กฏหมายอนุญาตให้ผมทำได้ขณะนี้
หรือมอบหมายให้ทนายบความ
ดำเนินการเฉพาะเรื่อง
หรืออื่นใดต่อไปตามเจตนาของผม

สรุป
ผมละไว้เพื่อ
ทักท้วงและตักตวง
เอาส่วนเกินที่อาจจะมีขึ้น

จากการที่ไม่นำมาคิดบอกล้าง
อะไรเหล่านี้ในขณะ
พอเยียวยาตัวเองได้อยู่


ภายในข้อกำหนดของสัญญาประชาคมสากล
และ
วิถีประชากฎหมายประเพณี
หรือและตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา
ที่จะสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของผม
อย่างชัดเจนเท่านั้น

แม้กระนั้นผม
คงจะไม่ขับรถไปบนท้องถนน
โดยไม่มีใบขับขี่และยานพาหนะ
โดยไม่มีใบอนุญาตแน่นอน


เพราะอันนี้
มันผิดส่วนเกิน
จากการกระทำผิดเหล่านี้
ผมไม่มีในทุกรณีนี้แน่นอน


ผมจะไม่ไปเร่ขายสิ่งผิดกฏหมาย
ขายกัญชาหรือพืชเสพติด
หรือยาบ้าแน่นอน
เพราะอันนี้มันผิดกฎหมาย


ผมได้พูดไว้แล้วในบันทึก เจ เจอาร์ว่า
ผมจะต้องเคารพกฎหมาย
เพราะทุกอย่างผิดถูกมันกำหนดไว้แล้ว
โดยกฎหมาย
มีชั้นต้นมีอุทธรณ์ฎีกา ถวายฎีกา
ชัดเจนอันเป็นความเป็นธรรมที่มนุษย์มี
เป็นสากลที่เป็นบรรทัดฐานใน
โลกปัจจุบัน
และแม้ในยุคดี เอ็น เอนี้ด้วย


เชื่อว่ามนุษย์คงธำรงไว้
ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ต่อไปจนกว่ากัลปาวสาน


หรือจนกว่าจะมีสิ่งใหม่ที่ดีกว่าขึ้นแทนที่่
ซึ่งผมไมรู้จะเกิดขึ้นหรือไม่

แต่ที่รู้กระบวนการยุติธรรม
มีเท่านี้ดังที่เนื้อหาพรรณนามา
ตามสมควรแก่เวลา


จะได้ไปเรื่องราวอันเป็นสาระที่เกี่ยวเนื่องกับ
การสืบค้นญาติต่อไป


10.



จะทำอะไร
มันช้ามากมีแต่การรอคอย
 นี่คือสิ่งที่ผมพบ
การใช้อารมณ์คือจุดจบของตนเอง
นี่คือสิ่งที่ผมพิสูจน์แล้ว

อย่างไรก็ตามผมไม่ได้สอนหรืแนะนำหรือเลกเชอร์ให้ใครฟัง


แต่ผมเพ้ออยู่คนเดียวอย่างมีเหตุผล
ใจถือขวาน
ปากถือเคียว
หัวถือเครื่องพิมพ์
ขาเดิน
ตามอง
จิตระทึกให้เสมอ

ในที่ของตนเองอย่างไม่คิดว่า
จะมีอะไรอีกมาขัดขวาง
นอกจากความตายและการอยู่รอดในวินาทีต่อไปของผม
อย่างปริญญาใบสุดท้ายของผมทีเดียว


กล่าวคือผมจะพูดว่า
ได้พบว่า
แม้แต่ปลวกและมอดยังมีคุณธรรม
ที่ผมพบ
กล่าวคือ


คือปลวกและมอดมันจะไม่กัดกินไม้สัก
แก่นทุกกรณี
ส่วนไม้นอกนั้น คิดว่าไม่มีเหลือและอย่าเผลอ
และมันจะไม่กัดกินไม้ไผ่สีสุก
ที่แช่น้ำหนองจนเน่าเหม็น
แล้วตากแห้งและนำมาใช้
อีกอย่างเด็ดขาด


นี่คือคุณธรมของปลวกและมอด
แต่ผมจะไม่กล่าวว่า
หนูมีคุณธรรมตัวหนึ่ง
คือเมื่อมันมากินยาไล่หนูแล้ว
มันจะไม่มาที่โดนยานั้นอีก
อันนี้แน่นอนมิใช่คุณธรรมของหนู
แต่เป็นคุณธรรมของยา
ผมว่า


เพราะฉะนั้นจะป่วยกล่าวไปใยเล่า

การได้เป็นมนุษย์ให้มีคุณธรรมที่ยังขาดยังพร่องหรือมีอยู่แล้ว
ให้ได้ดีกว่าสิ่งที่กล่าวมาแล้วได้

การกระทำอย่างนี้
เพื่อให้เพื่อนร่วมโลกได้เรียนรู้และคิดเพื่อใช้ผ่านสื่อ
และการระแวดระวังตัวก่อนภัยจะเกิดขึ้นกับตนเอง
และการฝึกให้ใจตนเองรักในคุณธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ผมคิดว่า
ทุกคนทำได้คิดว่ารวมทั้งตัวผมด้วย



และเพราะฉะนั้นการกล่าวถึงการอ้างอิง
การนำคติชนวิทยา
การนำประวัติศาสตร์ส่วนบุคคล
การนำมานุษยวิทยาเข้ามาสัมพันธ์กับเรื่องราวนี้
จึงเป็นสิ่งที่ผมน่าจะกระทำ


เพราะคิดว่ามันถูก
เพราะการอ้างอิงการกล่าวถึงสิ่งที่กล่าวมาแล้ว
จะนำไปสู่การพัฒนาและการตักเตือนในตนเอง
ให้มีมีจิตสำนึกและหมกมุ่น
อยู่กับคุณธรรมได้ไม่มากก็น้อย


ที่ผมเองด้วย
ต้องคอยรำลึกถึงคุณธรรมประจำตนของผมเองเท่านั้น
ถ้าไม่ทำคุณธรรม
ความตาย คุก บาป  และความเลว
คงต้องรอคอยเราอยู่


ส่วนผู้พบเจอ
อาจสนในผม
ไม่ถือประการใดว่าเป็นบุญคุณอะไรทั้งสิ้น
ที่เอ่ยเพื่อการรำลึกเสมอถึงสิ่งดีเหล่านี้

อาจมีคำถามเพิ่มขึ้นมาว่า
แล้วอะไรคือคุณธรรมของคนที่พูด
กรีดปากให้เหมือนตัวจิ้งหรีดกรีดปากร้องในพงหญ้าอย่างดัง
โดยบอกว่า
คุณธรรมของมีดคือความคม

แต่คุณธรรมของผมคือการไม่เนรคุณพ่อแม่
อันนี้คือคุณธรรมของผม
และผมรู้ตัวเองว่า


ตอนนี้ที่ผมมีคุณธรรมอย่างนี้
ผมต้องมีผีพ่อผีแม่
ถ้าท่านยังไม่ได้ไปเกิดหรือไปนิพพานแล้ว
ต้องมาคอยเฝ้าผมเลี้ยงดูผม
ด้วยวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ในความดีของท่าน
ที่ผมขอเรียกท่านว่า"เทพพ่อเทพแม่"นั้น


เพราะท่านคอยดู
ช่วยผมให้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ตลอดเวลาแน่นอน
ตราบเท่าที่มียังมีชีวิตอยู่
และปล่อยให้ความคิดถูกต้องทำนองคลองแห่งธรรม
ที่ผมต้องมีต้องเป็นต้องทำ
ยังบรรเจิดอยู่ได้


จงดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและด้วยดี
เสมอไป

จนกว่าวันตายของผมจะมาถึง


ในหัวข้อปลากัด
ปลากัดผมเอามาคือซื้อมาจากหลายพื้นที่
5ปีให้หลังเมื่อมาตรวจดู
เกลี้ยงจริงเจียว


สาเหตุมีดังนี้
คือ

หนึ่งตัวอะไรพาไปกิน
ตัวงูท้องขาวกินปลา
ตัวอื่นๆที่เราไม่ทันดูพาไปกิน
ตัวจิ้งเหลน
และเซียนปลาบุกเข้ามาในบ้านอานองเตแล้วหยิบยืมมันไปเล่น
ขโมย
เด็กซน
อื่นๆอีกที่ยังคิดไม่ออกบอกไม่ถูก




ปลากัดที่เอามามี
มีพันธุ์หลายหลากชนิดเป็นปลากัดหม้อ
บ้างปลากัดน้ำหนองน้ำบ้าง
จากทางน้ำเปลี่ยวพื้นที่บ้าง
พันธุ์กัดปลาหม้อ
พันธ์แปดริ้ว
กรุงเทพฯ
ชุมพร
เพชรบุรี
สุราษฎร์ธานี
สงขลา
ปลากัดมาเลเเซีย
สวนจตุจักรตลาดนัดนานาชาติที่กรุงเทพฯ
ประเทศไทย

ผมสะสมพามาเลี้ยงเก็บไว้เพื่อดูสวย
นับเป็นเวลา50ปีแล้ว
คิดว่าจะดูมัน
เมื่อมีอารมณ์
ในช่วงแก่เฒ่าชรา
หรือวันที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมแม่
มาอยู่กับแม่ในบั้นปลายชีวิต

เฉกเช่น  พืชน้ำชนิดบัวนั้นผมเอามา
คือซื้อมาส่วนมาก
ไม่เคยขอใครมา
หรือขโมยใครมา

มีรายการดังต่อไปนี้
บัวขาว
บัวแดง
บัวหลากสีมณีเจ็ดแสง
บังกระด้ง
บัวสายชนิดดอกขาวและดอกแดง
และอีกหลายชนิดผมลืมชื่อมัน

ตายหรือหายเกลี้ยงตามเคย
สาเหตุคงเหมือนอย่างปลาที่ผมนำมาสะสมไว้

กล้วยกุ้งต้นสีแดง
กล้วกหอมใหญ่
เล็บมือนาง
กล้วยขม
กล้วเล็บครุฑ
กล้วยหอมทอง
กล้วยตีบ
กล้วยป่า
กล้วยเตี้ย
และอีกหลายชนิด


เกลี้ยง
ตายหรือหายหมด


ต้นไม้ยาที่หายากคือต้นขี้กาแดงเป็นเถาไม้เลื้อย
และต้นสะค้านต้นเหมือนพลูกินกับหมาก
เอามายากปลูกยาก
แน่นอนเมื่อไม่อยู่กับบ้านตายหมดหายหมด
แม่เขาไม่มีเวลามาดูให้
หรือผมไม่อยากรบกวนแม่
ในเรื่องเหล่านี้

สาเหตุทั้งหมดที่เหมือนดังที่กล่าวมา
กล้วยตานีที่ผมเอามาเหลืออยู่


11.




นอกนั้นพบว่าไม่ว่าอะไรเอามาแล้ว
ต้องเอามานอนกอดดูอยู่ตลอดเวลา
เผลอเป็นไม่ได้
คือมันไม่รอด
หรือมีเหตุอันเป็นไป

ด้วยเหตุนี้เองความคิดนิวโอเกษตรกรรมของผมจึงเกิดขึ้น  คือ

น้ำกับปุ๋ยและกับปรัชญาคำว่า"ตลอดเวลา"
ใส่ใจอย่างยิ่งยวดในสิ่งที่รักในสิ่งนั้น
มันจึงจะรอด



จากคติชนวิทยาที่ผมพบคือ
จะพบว่าบ้านแต่ละบ้านที่อานองเตจะมีสิ่งที่ปลูกขึ้นอย่างรอดแน่นอน
มีเพียงอย่างเดียวและก็ต้นเดียว
เพราะเขาดูแลมันอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
แต่โดยบังเอิญแต่มีความชอบชอบฝังใจเป็นส่วนตัวอยู่ด้วย
ส่วนใหญ่จะขึ้นที่เรือนชานของทุกครัวเรือน

พบว่าที่รอดกันมาได้
คือที่รอดมาได้
มันมาจากน้ำล้างถ้วย
น้ำล้างหน้าและอะไรจิปาถะที่คนกิน
เสร็จ

ต้นไม้จะต้องได้กินด้วย
ต้นไม้ต้นนั้นที่เหลือมันจึงจะรอด
เช่นต้นน้อยโหน่งสีม่วงอย่างนี้เป็นต้น

โชคดีที่สมัยต่อมาการต่อพันธุ์
ได้นำไปขยายพันธุ์คือรู้จักขยายมัน
เช่นวิธี จี เอ็ม โอ(GMOพืชชนิดใหม่ด้วยวิธีต่อยอดให้พืชอย่าสูญพันธุ์ขยายและแพร่
สะดวกและง่ายต่อผู้สนใจสมัยใหม่ยุค ดีเอ็นเอนี้ประมาณนั้น)


จึงพบว่าทุกอย่างมีเกลื่อนตลาดขอให้มีเงินไปซื้อมา
เมื่ออยากได้อะไร


เอกสารเจเจอาร์นี้มันมีกระบวนการ
จากจุดกำเนิดที่คนต้องการสืบค้นญาติจึงต้องคุ้ยมาให้หมดก่อนจะได้ข้อสรุป
เหมือนตำรวจตามจับผู้ร้าย
ในกลางคืนต้องค้นทั่วจึงเจอหรือพยายามหาให้เจอจึงจะพบคนร้ายอย่างนั้น
ไม่รู้บ้านใครสงสัยดีเลวค้นหมด
เมื่อมันสัมพันธ์กันกับเรื่องผู้ร้ายที่ตำรวจต้องการจะค้น
เช่นนั้น
"GMO" redirects here. For other uses,
see GMO (disambiguation).
For related content, see genetically modified food,
 genetically modified crops, and genetic engineering.

GloFish, the first genetically
 modified animal to be sold as a pet
A genetically modified organism (GMO)
is any organism whose genetic material
 has been altered using genetic engineering
techniques (i.e., a genetically engineered organism).
 GMOs are used to produce many medications
 and genetically modified foods and are
 widely used in scientific research and
the production of other goods. The term GMO
 is very close to the technical legal term,
 'living modified organism', defined in the
Cartagena Protocol on Biosafety,
 which regulates international
trade in living GMOs (specifically,
 "any living organism that possesses
 a novel combination of genetic material
 obtained through the use of modern biotechnology').

A more specifically defined type of
 GMO is a "transgenic organism." This
 is an organism whose genetic
 makeup has been altered by the addition
of genetic material from an unrelated organism.
 This should not be confused with the more
general way in which "GMO" is used
 to classify genetically altered organisms,
 as typically GMOs are organisms
 whose genetic makeup has been altered
without the addition of genetic material
from an unrelated organism.

Reference Date25/0717 A.D.time:09.00a.m.
 from:https://en.wikipedia.org/wiki/
Genetically_modified_organism



สิ่งที่ผมทำจึงค่อนข้างไปทางมนุษยศาสตร์ตามหลักการ
แต่ว่าคำว่ามนุษยศาสตร์และมานุษยวิทยานั้นมันไม่เหมือนกัน
ผมสืบค้นและเชื่อมโยงเข้าสู่ปริบท
ที่ไม่ได้เข้าไปฝั่งในเรื่องมานุษยวิทยามากนัก


เพียงแต่มีที่ต้องอ้างอิงเชื่อมโยงและจำเป็น
มิใช่หาเรื่องให้มันยาว
เพื่องานเจเจอาร์๋๋JJR...เอกสาร
จะได้เป็นเล่มขึ้นมาแต่อย่างใด

เอาละ
มันจึงดูว่าบันทึกนี้ผสมปนเปกันไปหมด
แต่หลักมันหัวใจมัน
ผมเน้นที่มนุษยศาสตร์
คำว่าไม่เหมือนกันในมนุษยศาสตร์และมานุษยวิทยานั้น
ผมจะไม่นิยามมันให้ชัดเจนออกไปไป
หากต้องการคำนิยามที่แท้จริงเปิดดูเอกสารวิกิพีเดียหรือสถาบัน
เราจะพบความจริงสากลที่นั่นได้แน่นอน




12.



ถ้าให้ผมนิยามไปมันเป็นเพียงความจริงเฉพาะ
คือทัศนะส่วนตัวเฉพาะ
อันเป็นเพียงความเห็น
จึงไม่อยากทำให้ผู้ติดตามเขว
และอาจจะไปขัดกับหลักแห่งศาสตร์ทั้งหลาย
ที่มีก่ารปรับปรุงสู่มาตรฐานสากลตลอดเวลา
ด้วยนักวิชาการเฉพาะสาขานั้นยอมรับ

จึงเห็นว่าทำอย่างนี้มัน
จะทำให้ความจริงตรงกันเป็นมาตรฐาน

เพราะสิ่งที่ผมทำเป็นเพียงอาหารทางความคิด
 เพื่อต่อยอดนำไปคิดเรื่องอื่นที่กำลังคิดได้แม่นยำและมีสาระเพิ่มขึ้น
ส่วนการจะใช้อาหารทางความคิด
จะใช้ต้องพาความคิดไปทอดก่อน
ย่างก่อนหรือนึ่งก่อนสตูว์ก่อน
ก่อนที่มันจะกินได้

(แวดวงคำนี้โปรดอ่านอ้างอิงเพิ่มเติม)





มันจึงจะกินได้อันนี้เป็นอาหารทางความคิด( food  of  thought)ของผม
ที่ผมถ้าจะนิยามมัน
เพราะท่านบอกไว้แล้ว
การเชื่ออะไรต้องมีสติเและสัมปชัญญะ
มิใช่เชื่อส่งเดช
อันนี้ผมยอมรับเช่นกัน
ในศาสนาหนึ่งท่านกล่าวไว้ว่า
มันคือสิ่งที่เรียกว่ากาลามสูตร
อ้างซ้ำจากวิกีพีเดียhttps://th.wikipedia.org/wiki/กาลามสูตร

กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ
 หมู่บ้านเกสปุตตนิคม แคว้นโกศล (เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตตสูตร ก็มี[1])
กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน
 ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

มา อนุสฺสวเนน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
มา ปรมฺปราย - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
มา อิติกิราย - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
มา ปิฏกสมฺปทาเนน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
มา ตกฺกเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเดาว่าเป็นเหตุผลกัน
มา นยเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมานคาดคะเน
มา อาการปริวิตกฺเกน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเดาจากอาการที่เห็น
มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
มา ภพฺพรูปตา - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะผู้พูดมีลักษณะน่าเชื่อถือ
มา สมโณ โน ครูติ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา
            เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศลหรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย
 และเมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติ




คำว่ามนุษยศาสตร์   คืออ้างจากวิกีพีเดียhttps://th.wikipedia.org/wiki/มนุษยศาสตร์อ้างซำเมื่อ20/07/17
เวลา21.00
              มนุษยศาสตร์ (อังกฤษ: humanities) เป็นกลุ่มของสาขาวิชาที่เกี่ยวกับการศึกษาสภาวะแห่งมนุษย์
โดยส่วนใหญ่ใช้กรรมวิธีเชิงวิเคราะห์, วิจารณญาณ หรือการคาดการณ์ซึ่งแตกต่างจากการ
เข้าสู่ปัญหาด้วยกรรมวิธีเชิงประจักษ์ด้วยธรรมชาติ, สังคมศาสตร์
โดยธรรมเนียมทั่วไปมนุษยศาสตร์รวมถึงสาขาวิชาภาษาศาสตร์
โบราณและภาษาศาสตร์สมัยใหม่,
วรรณคดี ประวัติศาสตร์ ปรัชญา ศาสนา ทัศนศิลป์
ศิลปะการแสดง และดนตรี บางครั้งมีการรวมเอาสาขาวิชาอื่นเพิ่มเข้าไปด้วย
ได้แก่ มานุษยวิทยา ภูมิภาคศึกษา การสื่อสารและวัฒนธรรมศึกษา
แม้ว่าสาขาวิชาเหล่านี้มักถูกจัดไว้ในสาขาสังคมศาสตร์ นักวิชาการที่อยู่
ในสายของสาขาวิชานี้ บางครั้งอาจเรียกตนเองว่าเป็น "นักมนุษยนิยม"
อย่างไรก็ตามคำดังกล่าวก็ได้ใช้เรียกนักปรัชญาสาขามนุษยนิยมแต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับ

ทั้งหมดที่ผมสำเนามาพิมพ์ซ้ำเอาไว้เพื่อยืนยันว่า
ผมสื่อมาไว้อ้างอิงเพื่อสืบค้นต่อไป
เมื่อเกิดความสนใจเพิ่มเติม


ที่บ้านอานองเต
อันนเนื่องจากเรื่อง"พราน"
มีพรานผึ้ง
พรานตะกวด
พรานกระรอก
พรานกบ
พรานแย้
พรานไก่เถื่อน
พรานนกและอีก

สาระพัดพราน
ที่ได้พบมีปัญหาเหมือนกันที่บ้านอานองเต

ที่บ้านอานองเตไม่ฆ่าสัตว์
เป็นนโยาบายมาหนึ่งชั่วโคตรแล้วเท่าที่ผมจำได้

คนพรานนผึ้งชอบมาตีผึ้ง
มาหากบหานก
หาสัตว์กะแย้
ตัวสัตว์ที่กินได้ทั้งนั้น
สำหรับพรานเขาเหล่านี่้

ถ้าเราจะห้ามดูแรงเกินที่จะไม่ให้เขามาพาไปดักไปกิน
แต่ว่าผมติดป้ายเลยว่า
ห้ามเข้ามาในสวนและบ้่านผมก่อนได้รับอนุญาต

ถามว่าการทำอย่างนี้อาจจะแรงไป
แต่ผมให้เหตุผลเพื่อไว้ทุกข์พ่อและแม่
ผมจึงต้องทำอย่างนี้
มีใครในโลกนี้ปฏิเสธคุณพ่อแม่บ้าง

ตกลงผมทำตามเจตนาของผม
คืองดการฆ่า
ปล่อยให้ทั้งหมดที่บ้านอานองเตมีอยู่เป็นอยู่
ให้เป็นเขตอภัยทาน(คือห้ามทำลายและรังแกและเมตตาสัตว์)
ส่่วนหลังการไว้ทุกข์พ่อและแม่เมื่อจบลง
จะเป็นอย่างงัยอีก
ค่อยดูต่อไป


เพราะเรื่องนี้เป็่นเรื่องปากท้องของคนอดอยาก
และคนจน
สำหรับผมในความคิดนั้น


แต่สำหรับบ้านเมืองและโลกที่พัฒนา
มาถึงลำดับนี้แล้ว
ถ้านับของไทยนับจาก  พ.ศ.2500เป็นต้นมาถึงปัจจุบันมีหลายแผน
พัฒนา
แต่เท่าที่ทราบแผนปัจจุบัน
นั้นทุกคนต้องมีกินมีใช้
หลักคือคนจนเสียภาษีน้อยคนรวยเสียภาษีมาก
ตามภาพลักษณ์ที่มันเป็น

เหมือนกันเทียมบ่าเทียมไหล่กันแล้ว
สอดคล้องกับอารบธรรมแห่งความเจริญของโลก
เหลืออย่างเดียวคือเราทุกคนทำความดีมีคุณธรรม
สองสิ่งนี้ที่ต้องส่องเสพมิให้ลืม
จึงเป็นมนุษยได่อย่างสมบูรณ์ที่สุดแล้ว
อย่างชนิดไม่มีเหลือ
หรือไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก

เหตุผล
คนจนมีปัญหา
รัฐและเอกชนช่วยเยียวยา
สมัยตอนผมเป็นเด็กนั้นไม่เป็นอย่างนี้ อะไรเกิดขึ้นบ้านอานองเตต้องแก้กันเอง
ความตายคือมรรคเท่านั้นถ้าแก้ไม่ได้ในเรื่องชีวิต
เท่าที่ผมทราบ


ไม่มีอะไรในสมัยก่อน
เหมือนสมัยปัจจุบัน


เขาเอื้ออาทร
คนแก่มีสวัสดิการสังคม
มีรายได้จากรัฐประจำเดือน
โลกนี้กลายเป็นโลกแห่งการเอื้ออาทร
เพราะฉะนั้นกฎระเบียบที่ชอบธรรมจึงถูกนำมา
บังคับใช้ทั้งฝ่ายรัฐแและฝ่ายปัจเจกชน
ทำกัน


เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมกำหนดให้กับบ้านอานองเตตอนนี้
จึงไม่ถือว่าเห็นแก่ตัวแล้วเมื่อ
รัฐหรือปัจจเจกชนจะห้ามจะไม่อนุญาต
ในสิ่งที่ชอบธรรม
จึงถือว่ายุติธรรม

13.



แม้ว่าการธำรงอยู่ในสังคม
มันต้องมีการผ่อนหนักผ่อนเบากันบ้าง
เพราะคนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน
เพราะบางคนโชคดีบางคนโชคร้าย
หัวดีบ้างหัวไม่ดีบ้าง
สีขาวบ้างเหลืองดำบ้าง

แต่ว่าคนหัวดีปัจจุบันต้องเอื้อต่อคนหัวไม่ดี
ผ่านหลายช่องทางเช่นคือทางภาษี
ส่วนคนหัวไม่ดีก็ต้องเป็นผู้รับการเอื้อ
อย่างภาคภูมิใจไม่กลัวการดูถูก

และคิดสั่งสมความดีเอาไว้
เพื่อจะได้มีกำลังใจกำลังบุญ
และเป็นคนมีฐานะเท่าเทียมกับคนที่หัวดีกว่าได้
ต่อไป

ชนิดว่า

 เราช่วยกันกินช่วยกันทำช่วยกันเกิดช่วยกันใช่้
แต่มิใช่ช่วยกันตายอะไร อันนี้ละไว้ก่อน
และแล้วมาถึงขั้นตอนนี้โลกเรานี้
น่าจะศิริวิไลเสียนี่
ยิ่งกระไร

ตอนนี้ผมกำลังฟังเพลงของโมซาร์ตอ้างซ้ำเมื่อ20/07/17เวลา24.00
https://youtu.be/P9n6SAXnQdg
 width="560" height="315" src=
"https://www.youtube-nocookie.com/embed/P9n6SAXnQdg"
 frameborder="0" allowfullscreen>



ผมฟังไปเรื่อยๆ
เหมือนชีวิตเหมือนชีวิตที่อมตะและนิรันดร์  ที่มีความเรื่อยๆ  แต่ไม่ใช่เปื่อยๆนะ


อันนี้
ดีเหมือนกัน
ผมคิดว่าอันนี้มันไม่เป็นส่วนเกินและส่วนขาดของตนเอง
คือเรื่อยๆ


ชีวิตมีการขึ้นเบาลงหนัก
หรือลงหนักขึ้นเบา
เหมือนตอนเริ่มฝึกเรียนภาษาอังกฤษตอนฝึกตัวเขียนใหญ่
อย่างนั้น


ทำไปตามเสียงเพลงจังหวะที่ลงลงที่บรรเลงให้ฟัง
หนักและเบาประสานกัน
แต่อย่าฟังเป็นเสียงประสานงาอย่างรถยนต์ชนกัน
เพราะนั้นคือคำตอบมีว่าการเจ็บปวดจะต้องมีขึ้น

คิดว่าน่าจะมีวันๆหนึ่งที่แสนจะสนุกและเพลิดเพลินได้
ถ้าขืนฟังเพลงมากเข้าและมากเข้าจนมีรายได้เกิดขึ้นจากการฟังเพลง
และเมื่อมีการใช้ชีวิตที่ไม่เดือดร้อนใคร
เป็นการใช้ชีวิตที่ดีอย่างหนึ่งแน่นอน
ผมคิด

สำหรับผมนั่นตัวผมเอง
จะขายสวนและบ้านอานองเต
แต่จะไม่ยอมขายตนเอง
และกลับไปใช้ชีวิตในตะวันตก
เหมือนเมื่อวันเวลาแห่งวันวานที่เคยเป็น
ผมมีสิทธิที่จะทำได้


แต่ว่าตอนนี้
มาติดการไว้ทุกข์พ่อแม่
และวินาทีแห่งการตายของผม
อันความตายไม่มีใครทราบได้ว่าจะเกิดขึ้นแม่ไหร่
ผมคิดอย่างนั้น


ผมจึงต้องคงต้องตรากตรำ
ทำในสิ่งที่ควร
เพื่อปฏิการคุณต่อพ่อแม่
ที่ให้ชีวิตผมมา


ผมคิดว่ามันก็ไม่น่าเสียหายอะไร
ที่ต้องเสียเวลาและความสนุกไปบ้าง
และตรงกันข้ามกับความยินดีอย่างยิ่งที่อาจสูญไปบ้างเพราะการนี้

ผมใมยัง
และคงไม่สัญญาว่าจะทำอะไรหรีอไม่ทำอะไร
แต่ผมมีเจตนาดีต่อ
อนาคตของสุสานพ่อแม่และตนเอง
เท่านั้นเป็นหลัก


เพื่อไม่ให้คนอื่นต้องมาลำบากและใส่ใจ
เสียเวลา
ในเรื่องนี้คิดว่าการรับการเอื้ออาทรจากใครอื่น
ถ้าถูกประเด็นก็คิดว่าคงจะดี
แต่ถ้าไม่ตรงประด็นมันก็อาจจะเป็นการรบกวนผู้อื่น

ผมจำได้ว่าตอนเรียนหนังสือในประเทศอังกฤษ
เพื่อนคนหนึ่งชอบบอกก
และพูดว่าไม่มีสัญญาไม่รับสัญญาอะไร
กับใคร
เพราะกลัวว่าจะผิดสัญญา


เพราะการผิดสัญญาเป็นสิ่งไม่ดี
เพื่อนคนนี้
จึงไม่สัญญาอะไรกับใครเช่นนัดกันว่าอะไรอย่างนี้เป็นต้น
เพราะคนเรา
ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไปหรือป่าว
ก่อนวันหนัดมาถึง


แต่ว่ารับนัดกันไว้
แต่ไม่สัญญา
พบกันเมื่อได้พบกันตามสัญญา
หากไม่ได่้พบกันตามสัญญาถือว่า
ไม่โทษต่อกัน
อันนี้ผมชอบ

ผมจึงเอาอย่าง
ไม่รับปากและสัญญาอะไร
แต่เจตนาเพื่อที่จะกระทำนั้นมีอยู่
หากมีเหตุวิบัติขึ้นมา
ก็จะไม่โทษกัน

เหตุผลเพราะชีวิตคนนั้นน้อยนิด
คนเรารู้เวลาเกิดได้ดี
แต่เวลาตายมไม่มีใครรู้
อันนี้จริง


อย่างไรก็ตามนี้คือเจตนาของผมในเรื่องสัญญา
และเจตนา
ที่ผมนิยามไว้ต่างกันและเคียงคู่กัน
หลังจากที่ผมได้พบเพื่อนคนนี้ที่ประเทศอังกฤษ
แบบครึ่งทางได้พบกัน

ก็รูู้สึกว่าและเราไม่เคยผิดหวัง

เพราะสัญญาในที่นี้
หมายถืงถ้าได้พบกัน
ไม่ตายเสียก่อน
คำนี้เรียกเป็นภาษาอังวกฤษว่า
promissเขียนอย่างนี้คือศัพท์ใช้เป็นเป็นคำกิริยา


แต่ถ้าในหัวของผมแห่่งความรักจะได้มั้ยถ้าไม่สัญญากับคนรักก่อนแต่งงาน
เช่น   ผมรักผู้หญิงคนหนึ่ง

ผู้หญิงเธอ
ขอให้คนรักสัญญาว่ารักเดียวใจเดียว"ไม่มีชู้"
หากชายไม่รับสัญญา
ความรักก็จะเกิดขึ้นไม่ได้
ระหว่างคนทั้งสอง
เพราะคำว่สัญญามาใช้กับคนรักนี้
อาจมีหมายเหตุว่้า
ต้องมีสัญาหรือไม่สัญญา
อันผมละไว้ที่ฐานแห่งความเข้าใจในกฎเสรีภาพและความรัก
ของแต่ละคนตัองคิดเอาเอง
เพื่อนคนนั้นตอบผมว่า"นิ่งอึ้ง"
สำวนผมไม่มีความคิดเห็นคือ
no comment.



ค่ำนี้เวลา22.00 น.
ผมฟังโชแปง
CHOPIN - Nocturne Op.9 No2 (60 min)
 Piano Classical Music Concentration
Studying Reading Background
จากyoutube อ้างซ้ำ22/0717
ตรงนี้ถ้าจะดูฟังเพลงให้พิมพ์คำว่า ไอ เฟรมเป็นภาษาอังกฤษวงเล็บเปิดหน้าเพราะตัวจริงผมนำมาลงไม่ไดขึ้นบล็อกไม่ได้ width="560" height="315"
 src="https://www.youtube-nocookie.com/embed/TqyLnMa3DJw"
Published on Feb 29, 2016
CHOPIN - Nocturne No 2 in E Flat Major Op 9 No 2 (60 minutes)
Performer : Frank Levy
 frameborder="0" allowfullscreen>



แต่อารมณ์ผมยังคงเฉื่อยชา
ที่จะพิมพ์อะไรต่อไปได้อีกไม่มาก
สงสัยมีเชื้อไข้จากยุง
อาจจะมาเลเรีย
เพราะในพื้นที่บ้านอานองเต
มียุงมาเลเรียมาเที่ยวเสมอ
แน่นอนผมต้องไปหาซื้อยามากิน


ยาก็หาซื้อยากที่อานองเต
เวลาก็ไม่ค่อยจะมี

แต่เรื่องไข้ผมนับให้มันเป็นเรื่องเอกของชีวิต
ให้เป็นพระเอกเลย
ในชีวิตผม


ผมต้องสนใจมันก่อนถ้ามันแทรกขึ้นมา
เมื่อไหร่และผมจะรีบแก้ไขทันที
หาหมอ
รักษา


ยาชนิดทันใจปรีด
ต้องมาถึงปากทันที
พร้อมน้ำดื่มสะอาดอนามัยตามไปด้วยครึ่งแก้วตลอดเวลา


แบบน้ำก้นกรองหรือน้ำที่กลั้่นจากเครื่องก็ได้
มิใช่น้ำบ่อผมไม่มั่นใจในสมัยนี้

ใครจะว่าเราเวอร์(เกินไป)
เราไม่สนใจ
สุขภาพดีคือนางเอกของผมละ
สำหรับผม

ผมจึงรู้สึกเหนื่อยและจะพักสักงีบแล้ว
แล้วตื่นขึ้นมาพิมพ์หนังสือต่อ
ก่อนที่จะตายตาหลับได้
คาดว่าอย่างนั้น


หมายเหตุ

(ตรงนี้ถ้าจะดูฟังเพลงให้พิมพ์คำว่า ไอ เฟรมเป็นภาษาอังกฤษวงเล็บเปิดหน้าเพราะตัวจริงผมนำมาลงไม่ไดขึ้นบล็อกไม่ได้)Smiley



Create Date : 25 กรกฎาคม 2560
Last Update : 18 กันยายน 2560 21:58:58 น.
Counter : 1028 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends