All Blog
j22




 ผมได้ข้อสรุปตัวหนึ่งเป็นรที่แน่นอนแล้วว่า"มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะภัยธรรมชาติได้"
อย่างแน่นอน
คำถามว่าทำไม
เช่นเพียงแค่ความจน ความอดหยาก
ความเกิดดีกว่าโชคดีกว่า
ยังกำหนดไม่ได้ชนะไม่ได้เลย
จะมีเพียงแค่บรรเทาเท่านั้น
เขาจึงบอกว่าทำดีอย่าทำชั่วคุณเสพคุณธรรมฝ่ายเลวเอาไว้แหละจะดีเอง
อย่าไปฝันหวานก่อนฝนจะตกในขณะที่ฝนยังไม่ตกเลย
เสียเวลาเปล่า
หนึ่งสองสามสี่ ดีที่สุดนับไป
ทางลัดอาจมีอันตราย

และต่อไปอีก
เขียนว่า
ไม่มีคำตอบเพราะว่าผมไมม่มีเวลาว่างพอ
พบว่าที่มนุษย์ภูมิใจว่าตนเองชนะแล้วชนะแล้ว(อย่างพระอรหันต์ในศาสนานั่นไม่ได้เพราะเป็นอภิปรัชญา)และ
นั่นเป็นเพียงปรัชญาธรรมดาของมนุษย์
ว่าด้วยการนิเสธของความไม่ต้องการให้กลับตรงกันข้ามเท่านั้นแล้วจบความสุขสูงสุดเกิด
แต่ที่จริงยังอีกนับไม่ถ้วนลี้
กว่าจึงถึงวันอมตะอันจริงแท้ได้ได้


ชนะแล้วนั่นคือชนะเฉพาะสิ่ง
ในที่นี้ไม่อิงศาสนา
เพราะศาสนาเป็นอมตะ
(ในบล็อกนี้จะไม่นำเอาศาสนามาอิงอ้างพาดพิงวิจารณ์ เพราะเลยขอบเขตของมนุษย์
จะไปคิดคำนึงนอกจากเชื่อและทำตาม ที่ท่านสอนเอาไว้อย่างไรเท่านั้นในบลอ็กนี้อาจมีคำพ้องต่อศาสนาบ้างแต่ไม่ได้สื่อทางศาสนา
แต่สื่อเพื่อความเข้าใจสากลเป็ฯองค์รวม
ว่าสถานะของผมและสถุานการณ์
ควรจะเข้าใจและสนองตอบหรือต่อกัน
อย่างเพื่อสันติสุขและสันติภาพของหรืออันเนื่องด้วยปัจเจกชนอันอาจจะเป็นแบบอย่าง
หรือเป็น
เป้าหมายที่อาจจะแสวงหาเพื่อตนเองและเพื่อเนติในหัวข้อเดียวกับคำว่า
กันไว้ดีกว่าแก้
ถ้าเห็นว่ามันไม่ดีอย่าให้เกิดขึ้นอีก
ถ้ามันดีปล่อยให้มันเกิด
เพาะเราจะได้ช่วยกันกินและช่วยกันใช้ให้สบายไปเลยได้้โดยประการทั้งปวง
 อะไรอย่างนั้นนี้
อย่างนี้เป็นต้นหรือในสูตร
และเมื่อรู้ลึกรู้ตื่นรู้ชัดรู้ลึก แล้ว
จะไม่เอาอย่างหรือเอาอย่างแบบกันไว้ดีกว่า  ประมาณนี้แล)




เราพบในความเป็นมนุษย์
ว่าไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้
เอาตัวอย่างโลกมีนำ3ส่วนมีดินหนึ่งส่วนนี้ก็จะเห็นภาพเบื้องต้นแล้ว
ว่ามันคืออะไรกัน
มนุษย์เหมือนกบในกะลา
เพราะกบมันร้องว่ามันใหญ่ที่สุดแล้ว กำแหงและทรนงอย่างละออ
ในตัวมันเอง แต่หารู้ไม่ว่าจากความใหญ่ของกะลามะพร้าวที่ครอบตัวมันอยู่มีรูให้หายใจนั้น
ยังมีโลกอีกกว้างใหญ่ที่มันไม่เคยเห็น
เรามองโลบกอย่างอุปนัยและนิรนัย(การมองมุมกว้างและมุมแคบต่อกันแบบอนุโลมปฏิโลม)
เลยทีเดียว
จะเล่าให้ฟังว่า
นิรนัยและอุปนัยในที่นี่มันคืออะไร
สันติภาพที่แท้จริงเกิดขึ้นจริงแล้วและเกิดขึ้นมานานแล้ว
แต่เป็นสันติภาพบนสงคราม
เอาให้เห็นง่าย
เมื่อร้อนมีเย็นแก้
เมื่อร้อนมนุษย์เอาแอร์มาปรับอากาศให้มันเย็น
ทำได้แต่่เฉพาะตัวเองที่มีอยู่
แต่ทว่าไม่สามารถปรับทั้งโลกให้เย็นได้
แม้ทำได้ก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น


เมื่อผมพบตนเองอยู่ในความว่างเปล่า
ผมพบว่าผมต้องคล้อยตามธรรมชาติ
ไม่สู้มัน
จะสู้มันก็เพียงเช่น ร้อนทำให้เย็นได้เอาเงินซื้อแอร์มาติด
หนาวทำให้ร้อนได้เอาฮีทเตอร์มาตั้ง

ผมเห็นใจพ่อมาที่มาเมืองไทยแล้วผิดหวัง
ดวงไม่ดี
ท่านชอบบ่นว่าดวงไม่ดี
ผมภูมิใจมากที่พ่อรู้จัก
การใช้ชีวิตตอนปลายให้เป็นประโยชน์
เช่นเป็นหมอดอยตราสังข์ให้คนตายเข้าโลงไปเกิด
กินเจตลอดชีวิต
พ่อไม่กินเนื้อวัวตลอดชีวิต
พ่อช่วยงานโรงเจเป็นเซียนทำ  
ตลอดเท่าที่ผมได้เกิดเป็นลูกพ่อมาและเห็น
พอรู้จักทำบุญทอดผ้าป่าทอดกฐิน
ไม่ยักยอกเงินหรือหักเงินมาเพื่อค่าใช้จ่ายในการกุศลนี้ทั้งหมด
พ่อไม่มีเมียน้อยมีเที่ยวแต่ไม่มีเมียน้อย
เพราะผมไม่เห็น
ผมพบว่าพ่อชอบทรนงในตัวเองว่า
ภูมิใจมากที่มาอยู่บางไทย
และมีแซ่เดียวกับพระเจ้ากรุงธน
คือความเป็นแต้อ้วง
พ่อภูมิใจตัวนี้มาก แต่ไม่ได้คิดไกลไปกว่า
การมียนามสกุลเดียวแซ่เดียวกับพระเจ้าตาก
นอกจากเคารพและบูชา
ว่าพระเจ้าตากเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือยิ่ง
ของพ่อ และก็เป็นเอกลักษณ์ของชาวจีนในไทย
สำหรับพระเจ้าตากราชวงศ์ธนบุรีของสยามประเทศไทย
พ่อจะไปไหว้ศาลพระเจ้าตากสินที่ที่วัดอินตลาดพลูกรุงเทพฯ
เสมอเมื่อแวะมากรุงเทพฯที่บ้านปู่ที่สองของผม
และที่นี่ท้องที่นี่
พ่อเคยมารับจ้างแบกแฟงและฟักหรือขี้พร้ากับนำเต้า
ในเช้าตรู่เพื่อวางขายในตลาด
ที่แผงขายผักสดของปู่คนที่สองของผม
มีค่าจ้างเมื่อตอนสมัยที่พ่อมาถึงเมืองไทยใหม่
เรียกว่ายุดไม้คานอัน เสื่อผืนหมอนใบทีเดียวเลยแหละ

ผมในฐานะที่เป็นลูก
แม้พ่อจะเกิดใหม่มาเกิดในเมืองไทย
ผมในฐานะลูกที่เป็นคนไทยไม่นึกถือเลย
ถ้าพ่อยังชอบและรักเมืองไทยอยู่
ส่วนแม่ถ้ามาเกิดอีกจะพบกันอีกรึไม่
ผมไม่มีสิทธิห้ามหรือขอแม่ได้

จะอย่างไรก็ตาม
ผมเห็นว่าโดยสภาพแล้ว
โลกสมัยปัจจุบันนับถือคนแก่ดุจดั่งเทพเจ้า
คนแก่มีอภิสิทธิ์มากมาย
ในกฎหมายและเงินทอง
การเลี้ยงดูการให้เกียรติเช่นขึ้นรถไฟฟรี
การพยาบาล
การตายลง
เด็กทุกคนต้องเชื่อฟังคนแก่หรือคนสูงอายุเท่าที่เห็น
คนไหนเถียงคนแก่เป็นเขาถือว่าคนนั้นจะอายุสั้น
คนแก่หมดสภาพบุคคลตามกฏหมายก็จริง
แต่คนแก่ก็ยัง
ถูกให้ความเคารพนับถืออยู่ดี
ในทุกสถานการณ์
จนกว่าวันตายจะมาถึง
ของเขา
ผมจึงใช้สิทธิคนแก่
ผมจะทำในสิ่งที่ผมชอบผมพอใจ
ผมชอบสมาธิผมชอบความเงียบ
ผมชอบธรรมชาติ
ผมชอบเครื่องสุขภัณฑ์ดีๆ
เพื่อแก้ไขชีวิตยามบำนาญ
ผมชอบความสุขทางใจทุกอย่าง

เพราะฉะนั้นก่อนตายต้องบริโภคมันให้พอและให้อิ่ม
จนกว่าวันตายจะมาถึง
ด้วยทรัพย์สินทรัพย์สิทธิที่ผมมี
ให้จงได้
เมื่อไม่มีก็เอาเท่าที่มีอยู่
เพราะผมรู้ว่า โง่แล้วอยากนอนเตียงเป็นสิ่งไม่ดีเลย
ใฝ่สูงเกินศักดิ์เป็นสิ่งเลวทราม
ผมเชื่ออย่างนั้น
ยังไม่จบยังอีกมาก
เราต้องพยายามทำตนให้สอดคล้องกับโลกและธรรมชาติที่มันกำลังเป็นไป
อย่าฝืนโลกเพราะเจ็บตัวป่าว
ผมเชื่อว่าอย่างนั้น
ถูกและก็ไม่ผิด
ส่วนใครจะเชื่ออะไรอย่่างไรที่คิดว่าดีกว่า
ผมไม่ฝืนและไม่สนใจ
ผมมีแนวโน้มให้กับตนเองว่าเอาตัวเองให้รอดเป็นสำคัญ
ในการธารงชีวิตอยู่ก่อนตาย
เช้าวันนี้ผมรอกดตายมาอีกวันอย่างหวุดหวิด
ขอขอบยคุณธรรมชาติแห่งสรรพสิ่งที่เอื้อผม
ให้ได้เป็นมนุษย์ต่อไปอีกวันหนึ่งคือวันนี้
ถ้าไม่ตายพบกันอีก
ลาก่อนความจริงและความไม่จริงและมายาทั้งปวง
จึงจือหยาง



Create Date : 13 พฤษภาคม 2560
Last Update : 18 กันยายน 2560 21:32:11 น.
Counter : 739 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends