All Blog
j21










  ก่อนแม่ตาย
ผมบอกแม่ว่า
ถ้าแม่ไม่ไปนิพพานหรือเป็นอรหันต์เสียก่อน
ชาติต่อไปเมื่อมี
แม่มีสิทธิเลือกไม่ต้อมเป็นคู่กรรมกับพ่อได้
คือเลือกคู่ครองตามใจชอบได้่
แม่ทำตาปริบๆ
 แม่เป็นทาสีภรรยาของพ่อมาตลอดที่มีชีวิตอยู่ด้วยกัน
เท่าที่ผมพบ
ถ้าแม่ไม่สบายใจ
แม่ไม่ต้องมีพ่อเป็นผัวได้
ตามใจแม่
ผมพูดอย่างนั้น
ถ้าแม่ไม่ไปนิพพานเสียก่อนหรือเป็นอรหันต์
ในชาติต่อไปแล้วแม่ก็ตายลง

สำหรับพ่อได้ยินคำพูดนี้ของผม
พ่อก็มองผมตาปริบ ๆ
ก่อนพ่อตายผมได้มอบตะเกียงเดวี
สำหรับเดินเรือสมุทรให้พ่อ1อัน
ผมไปหาซื้อมันมาจากตลาดด้วยมือของผมเอง
พ่อรับไว้แลัเงียบ
และบอกพ่อว่า
สำหรับพ่อผมไม่ถือที่ตีผมตั้งหลายครั้ง
เพราะผมเป็กเด็กซนเหมือนกัน
เนื่องจากที่ซน

ที่ขาดความอบอุ่นจากแม่อย่างงัยครับ
ผมบอกพ่อว่าถ้าพ่อกลับมาเป็มนุษย์อีก
ไม่จำเป็นต้องกลับมารับกรรมในเมืองไทยอีกนะครับพ่อ
ถ้าพ่อมีความคิดอื่นที่ดีกว่า
พ่อมองตาผมปริบ
การทำเช่นนี้เพื่อให้พ่อรู้ว่า
ผมก็รักพ่อเช่นกัน
แล้วพ่อก็หมดลมหายใจไป
เมื่อทั้งสองตายลง
ผมเริ่มมาพิจารณาเรื่องทั้งหมดในบ้าน
ในฐานะทายาทตามคำสั่งศาลให้จัดการมรดกตามพินัยกรรม
ผมพบหลายเรื่อง
การริดรอนสิทธิ ของเพื่อนบ้านที่มีต่อครอบครัว
เช่นการเลี้ยงวัวข้ามเขต
การมักง่ายและอะไรอีกหลายอย่าง
ซึ่งผมจะเล
่าพฤติการณ์อย่างละเอียดเมื่อผมว่าง
ผมพบว่าคนมาทุบรถข)โมยของในรถยนต์ไป
หลังจากที่ผมไปบวชไว้ทุกข์ให้พ่อแม่เป็นเวลา5ปี หลังพ่อตาย
ผมแจ้งความไว้กับตำรวจในเรื่องนี้
มีคนเอาปืนมาขู่ที่หน้าบ้านขณะผมทำพิธีกรรมให้พ่อแม่
และเหตุผลทำไมผมไม่ร่วมกิจกรรมใดทั้งสิ้นในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้านช่วงการไว้ทุกข์ในการตาย
ของพ่อแม่
ผมจะคิดให้เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปในปัญหาสังคมครอบครัว
สำหรับคนเป็นปัญญาชนอย่างผม
แต่ที่ผมเล่าแปละนำมาพูดเพื่อวิเคราะห์ออกมาให้ทุกคนเห็นว่า
อะไรควรอะไรถูก ปมปัญหามาจากไหนอย่างไร
และผมปล่อยให้เป็นประโยบชน์ของกฏฎแห่งการกระทำในเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด
และช่วงนี้ขอปกปิดสถานที่บุคคลและส่วนเกี่ยวข้องเอาไว้ก่อนจนกว่าทุกอย่างเคลีัยร์แล้วว่า
มันอะไรกันนี่หรือมันอะไรกันแน่ในเหตุร้ายที่่เกิดขึ้นหลังพ่อแม่ตายไปแล้ว
กับที่ผมประสบ

ผมไม่กล้าทำอะไรทันที
เพราะว่าอะไรทันทีอาจจะผิดพลาดทำอะไรแล้วต้องไม่พลาด
ถ้ายืนปืนต้องตรงเป้า
เพราะรผมพบว่าตนเองเหมือนอยู่ในสภาพปล้ำผีลุกปลุกผีนั่งให้้ใครบางคน
หรือเป็นหุ่นกระบอกอะไรอย่างนั้น
ผมขาดสมาธิ


มีความคิดระหวาดระแวง
ว่ามีคนปองร้ายตลอดเวลา
เพราะฉะนั้นรอวันที่มีสมาธิดีแล้วจะเล่าให้ฟังอย่างสนุกนึกทีเดียวละ
และให้ถือว่ามันเป็นิยายชิวิตช่วงข้ามคืนก็แล้วกัน
โดยไม่หวั่นเกรงอิทธิพลใดๆ
เพราะว่าสิทธิและหน้าที่ไม่ทำให้น่ากลัวอะไรเลย
มนุษย์มีแค่นั้นคือสิทธิและหน้าที่
และให้ใช้มันอย่างมีประโยฃน์
ผมนอนกอดปืนเพื่อพิทักษ์สิทธิและหน้าที่ของผม
ผมไม่หนีไปไหนและก็รักที่้นี่
เพราะที่นี่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของผม
และ
เพราะการหนีปัญหาก็คงมีปัญหาอยู่ร่ำไป
จึงไม่อยากที่จะหนีปัญหา


ผมกลัวตายมิใช่ไม่กลัวตาย
แต่เมื่อมีสิทธิที่จะตายและมีหน้าที่ที่จะตาย
คนเราต้องยอม
เหมือนอย่างทหารตายในสนามรบ
ผมเคยจับอาวุธสนามรบช่วยงานบ้านเมือง
ผมจึงไม่กลัวอาวุธ
แต่ผมแพ้ยุงและงูและสงครามจิตวิทยาชาวบ้าน
แพ้ความรำคาญ


สรุปแล้วมันเหมือนกับการคิดมากไปเอง
แต่ถ้ามันมีเหตุผลที่ดี
ก็น่าที่จะนำมาคิดและฝันต่อไป
 อย่างคนที่มีมนุษยนิยมที่ถูกSmiley
ฝนตำพรำขณะที่ผมเขียนบทนี้ขึ้นมา
น่านอน
และหลังคาบ้านแม่กำลังรั่ว
เพราะมอดขึ้นไปทำรัง
ผมสบายใจ
มุดมุ้งที่ผมชอบอากาสดีได้
ผมชอบอากาศดาษฟ้าในยามค่ำคืน
ที่ดาษฟ้าเผื่อโจรมาจะได้หนีทัน

จริงอยู่แม้ว่าผมซื้อเตียงหนา12นิ้วกว้าง3คูณ5เมตรมาเครื่องสุขภัณฑ์
จากปรัชญาที่ว่าเมื่อแม่และพ่อตายแล้ว  "จะทำอะไรตามใจชอบ"หมายเหตุ เมื่อผมตายแล้วขายทอดตลาดเป็นมูลนิธิที่ผมอุทิศและตั้งใจไว้ครับมิใช่เครื่องประดับความสุข"
ภาษาแต้จิ๋วว่า  "จ่อต่อลื้อฮะ" หมายเหตุผมพูดจีนไม่เป็น
แต่ที่่สร้างประโยคอย่างงี้ได้ เพราะจำพ่อพูดมาครับ
จริงผมใช้มันบางครั้งเท่านั้นที่จริงผมซื้อทั้งหมดมาเพื่อ
ให้ผีแม่ผีพ่อได้มาใช้มานอน
ผเชื่อว่าผีพ่อผีแม่ยังเฝ้าผมอยู่
เพราะผมถือว่าผมยังไม่อดนมแม้60ปีไปแล้ว
ผมไม่บ้า
ของดี ๆทั้งนั้นผมสรรมาให้
สำหรับผมชอบของธรรมดาแต่มาตรฐาน
ผมเชื่อว่าผีพ่อผีแม่มาดูผม
ผมต้องการสมาธิใหฟ้ผีพ่อผีแม่มีความสุข
เพราะท่า่นทั้งสองถูกริดรอนสิทธิที่นอกระเบียงชานชีวิตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่



ผมเชื่อว่าผีแม่ผีพ่อยังวนเวียนไปมาอยูใกล้ชีวิตจิตใจผมแน่นอน
เพราะมีอุทาหรณ์บหลายอย่างสนับสนุน
อย่างไร
กล่าวคือผมเชื่อว่าวิญญาณพ่อแม่ผม
ในที่นี้ผมให้ชื่อมันว่าวิญญาณที่หนึ่ง
ที่ไปเกิดแล้วบนสวรรค์หรือคนขับรถตุ๊กๆในกรุงเทพฯแล้ว ก็ตามที
 นั่นผ่านไป
แต่และยังมีวิญญาณที่สอง
คือวิญญาณที่ต้องมารับผิดชอบอะไรบางอย่าง
สิงสถิตตามที่ตนเคยเป็นเพราะห่วงใหญ่
กรณีนี้ผมยังไม่อดนมเสมือน
ผีพ่อผีแม่ต้องห่วงผม
เพราะผมคือก้อนเนื้อจากอุทร
และได้รู้ความจริงว่า
ผมนั้นไม่ได้เอาแต่เที่ยวจริง
แต่ดำเนินชีวิตแบบปรัชญา
คิดค้นหาทางออกที่ดีให้กับตนเอง
ซึ่งยากที่จะอธิบายให้คน
ที่มิใช่มนุษย์ปรัชญาฟังได้
กล่าวคือหนที่สองมีว่า


ผมเคยเป็นนักเรียนวิชาเพอมิวเนติก
คือวิชาตีความเรื่องเท๊กลี้ลับในคัมภีร์ศาสนาโบราณ
และวิธีกรรม
กับท่านอาจารย์สายเดี่ยวธรรมดาเรียนมาแบบสมรติอินเดียอย่างดีสายพันธ์ใหม่
ชั้นเยี่ยเมืองไทยท่านหนึ่ง(ปกปิด) มา


ผมจึงมีสิทธิตีความโดยชอบธรรมนี้ได้
เพราะผมสอบผ่านแล้ว
แต่ขอปฏิเสธรับตีความให้อะไรใครอีกแล้ว
นอกจากครูเพื่อสอบผ่าน
อนึ่งเพราะผมแก่แล้ว
สรุปจึงได้ตีความอย่างนั้นเป็นสาเหตุ

ตอนนี้ผมเขียนพยามยามให้ภาษาที่สื่อถูกต้องเท่านั้น
ส่วนลีลางดก่อน
ผมช้าและโง่มากในเรื่องพิมพ์
สองนิ้วจิ้มตาจ้อง
ผมเคยทำมาแล้วด้วยตนเองนิพนธ์สองเล่ม
ปรากฎว่าผ่านแม้ใช้เวลาถึง15 ปีก็ตาม


ตอนนี้หยาดฝนหล่นลงมานิดๆ ไฟฟ้าหม้อระเบิดดับ
เพราะฝนตก ดับระเบิดไม่ทราบสาเหตุ
แต่ว่าผมยังคงทำงานได้ต่อไป
พอเห็นฝนในใจสมองผมที่ขมับเต้น
อารมณ์มันโคซี่และโรมานติกจริง ๆ ขึ้น
ฝนนิดๆมันโปรยลงมาโดนกระเบื้องบ้าง
สีงกะสีบ้างที่สนิมเกาะมานานห้าสิบปีบ้าง
(งดซ่อมสร้างทับแก้ไข ถ้าทำทำใหม่
เก็บส่วนเดิมนี้ไว้ทำความหลัง)
พลาสติกบ้างที่ฉาบปิดสอดใส่กับตอกไผ่สดแท้แต่บรรดามี
ไส้กันรั่วบ้าง
จากจากตับบ้าง
ฟังแล้วเหมือนฝนมันกำลังพูดด้วย
และให้กำลังใจผม
เพื่อมีชีวิตรอดอยู่ในวันนี้ได้อีกต่อไป
และมันเหมือนเสียงเพลงที่แสนสนุกสำหรับผม

ฟังอีกทีมันเหมือนเสียงเพลงคาราโอเกะ
ที่มันเหมือนโรงอุตสาหกรรมบ่มมนุษย์เที่ยวเลยทีเดียว
เพราะคาราโอเกะมันคือออเคสตร้า
โอเปร้าชีวิต คำแปลและความหมายอย่างนั้นที่ผมพบเมื่อเรียนวิชานี้
ผมไม่ใช่เสือเที่ยว แต่ที่นำมาพูดถึงอิงสนธิในที่นี่
เพราะมันสัมผัสกับความนึกคิดของผมที่มีอยู่จริง
ในสมอง ณ ชณะนี้
เพราะว่ามันนึกสัมมพันธ์บ่งบอกว่าสนุกคาใจเลยทีเดียว
เมื่อได้ยินเห็นกระแสฝนลมพัดนิดๆตกมา
โดนหลังคาตึกบ้าน และที่รโหฐาน อรโหฐาน ที่วิลิสสมาหราทั้งหลาย
ในทุกสภาพ
มันเย็นยะเยือกอย่างไงบอกไม่ถูก แม้ว่ามันจะเป็นฝนปลอม
ไฟดับเครื่องสุขภัณฑ์ไฟฟ้าผมดับหมด
ท่อนฟืนที่ผมหมั่นเก็บเอาไว้ตอนว่างของผมเปียกโซก
ผมจะกินข้าวอย่างไรมื้อนี้ในเมื่อฟืนเปียกโชก
ผมพยายามถามตนเอง
ทางออกของผมคือ
ผมมีสำรองคือแก๊สของแม่มีที่เหลือมาหลายปียังไม่หมด
ผมไม่เคยแตะมันหลังแม่ตายมาห้าปีเศษ
 ตอนนี้ที่ประเด็นสำคัญคือ
แต่ผมใส่สายไม่ถนัดสายมัน
แม้ผมมีองค์ความรู้ มอ. 8 ไฮส์สกูล วิชาไฟฟ้ามาบ้าง
ซึ่งลืมคงหมดแล้ว
(ไม่และงดขอความช่วยเหลือ-ปล่อยให้ท่านเขามันเธอ
 ไปช่วยตนอื่นที่อาการหนักกว่าผมประมาณนั้น

เพราะคิดได้อย่างนี้ก็ได้คุณธรรมแล้วสำหรับผม)

ส่วนคนใช้ แม่บ้าน คนข้างเคียง คนรักรึ เด็กวิ่งราวงานลูกมือให้ผมรึ
ที่จะช่วยผ่อนปรนวินาทีสุดท้ายให้ผมยาวนานขึ้นได้ไม่มากก็น้อย
ตามธรรมเนียมคนแก่ควรมีควรเป็น
 เรื่องทั้งหมดจะเล่าให้ฟังทีหลัง


คือว่าผมมีทัศนคติเพื่อวิจัยตนเองอยู่ด้วย
จึงไว้ค่อยเล่า
คือว่ามันเป็นอย่างนั้นเอง

กลับมาที่สายต่อท่อแก๊สนี่
ขืนใส่เข้าไปใช้รั่วเงียบรั่วซึม ตายสถานเดียว
 และถ้าผมนอนหลับดูดดมมันเข้าไปมีหวังตายแน่
ผมเชื่อร้อยเปอร์เซนต์

ผมจึงงดกินและก็ไม่รถไปซื้ออาหารเช้ามื่อนี้หรือทั้งวันกินเองเพราะเปลืองเงิน
ทำได้ ผมเคยทำมาแล้ว
เพราะเรามีการทดแทนและทดเทิดเป็นระบบอย่างงัย
และจะเอารถออกไปซักทีแสนที่จะยากเย็น
เพราะผมซ่อนมันเอาไว้
ที่ต้องซ่อน คือกลัวและกันขโมยและจะบาดตาโจร
แม้
ที่นี่มิใช่เมืองขโมย แต่กันไว้ดีดว่าแก้
 เพราะเพื่อน
สหธรรมชาวบ้านตาดำๆปริบๆ กระพริบๆขึ้นลงสังเกตได้
เคยเตือนผมไว้
พ่อแม่ผมท่านไม่เคยเตือนในเรื่องนี้
ท่านออกจากบ้านไปไหนในช่วงหลัง
ไม่ปิดใส่กุญแจบ้าน
สองคนตายาย
พากันไปทางไกลหาหมอรักษาตัว
นายสถานีที่พื้นที่(ปกปิด)คงจำท่านทั้งสองได้ว่า
ต้องช่วยกันหามคนป่วยลงจากรถ
เมื่อรถไฟท่ี่ท่านโดยสารมาแฃะไป
ทุกครั้งที่ตายายคู่นี้ขึ้นรถไฟ ไป รพ. อื่นต่างจากพื้นที่


พ่อแม่ผมเคยใช้ใครจ่ายค่าตอบแทนเสมอ
ไม่ชอบใช้ฟรีใคร เพราะท่านรู้ว่าเขาลำบาก
แล้วกลัวมีเวร จึงไม่ใช้ใครฟรี
ค่ารถไฟฟรีครับสำหรับคนแก่
และเพราะยามวิกาลที่รถมาถึงสถานีที่บ้าน
มีปัญหาแบบชาลีแชปพลินหนังภาพยนต์ย้อนยุค ที่ต้องชุลมุนวุ่นวาย
ที่จำเป็นต้องให้คนสถานีต้องช่วย

ดูแล้วขาดผมผู้เป็นลูกเคียงข้างในยามรัตติกาล เช่นนี้
ใช่! มันน่าเกลียดน่าอดสู
แต่พ่อผมบอกว่า "ไม่ต้องมึงมาช่วย  มึงอยากทำอะไรก็ทำไป"
แบบภาษาครึ่งไทยครึ่งจีนเป็นสำเนียง
จะขัดคอพ่อเถียงพ่อ
กลัวจะขัดกัน
ผมจึงงดเถียงมิใช่หวังมรดกพ่อ
เพราะว่ามรดกพ่อแม่นั้นน้อยนิด
เมื่อผมคิดปรัชญาออก
สักข้อหนึ่งสำหรับผม
และมรกดกของพ่อแม่ผมเป็นมรดกอันตราย(ผมคิดมากไปเอง)
ด้วยเหตุนี้ผมจึงขออำนาจศาลเข้าจัดการมรดกพ่อแม่ผม
หลังจากท่านตายในทันที

เพราะผมเชื่อว่าขื่อแปของบ้านเมืองสำหรับผมคือกฏหมายเท่านั้น
นอกนั้นคือความตายความเป็น
ที่เหลือหลงอยู่จริงๆ

Smiley





Create Date : 12 พฤษภาคม 2560
Last Update : 18 กันยายน 2560 21:31:38 น.
Counter : 721 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends