All Blog
j75


Smiley
jjy5033
ผมกำลังฟังเพลงเดอบูว์ซี
ลาแมร์ (เดอบูว์ซี)
เพื่อประดับอารมณ์แลบะสมองที่เฉื่อยชา
และไม่ยอมแพ้
ผมคิดว่าเพลงเหล่านี้มันดีและมีสกุลดีเกินไปสำหรับหูผมที่จะฟัง
แต่ขณะนี้ทันไม่มีทางเลือกอะไรดีกว่านี้ที่ผมจะฟังมัน
ฟังมันและฟังมัน
มันได้สุนทรีย์รสและอารมณ์
อันสนุกจริง  ๆ
ผมกำลังนึกอะไรอยู่

และคิดต่อไปว่า


รั้วเป็นสิ่งจำเป็น
สำหรับบ้านอานองเต
และอนาคต
มันเป็นวจนภาษาเพื่อไม่ให้
มีการบุรุกล่วงล้ำเขตแดนหวงห้าม
อันเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของเรา

แม่ชอบ รั้ว
แม่เคยทำมันด้วยมือ
ใช้เสาปูนแม่มาหล่อเอง
ด้วยมือและความตั้งใจ

ตอนนี้ผมกำลังฟัง
เพลงของฟรันซ์ ชูแบร์ท( Franz Schubert)  

ฝนตกมาอีก พายุลูกใหม่กำลังมา
บรรยากาศเช่นนี้ปกติสำหรับฤดู
สำหรับผม
คลื่นพายแต่ละลูก
ถูกตั้งขึ้นมาอย่างบทเรียนทีเดียว
แต่อันนั้นมิได้หมายความว่า
 มันมีอะไรแปลกไปมากนัก
สำหรับพายุที่ว่านั้น
"อะไรมันเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด
อะไรที่มันดับก็ให้มันดับ"
ปรัชญาผมมีอย่าง
นั้น

เพราะอย่างไรเสียในเทศกาลฤดูเข้าพรรษานั้น
ฝนต้องตก
และเมื่อฝนตกลงมาถนนจึงต้องเปียก





ญาติผมคนหนึ่งปกปิด
เขาทำไร่ยางได้มากกว่าหนึ่งร้อยไร่
ในเวลายี่สิบปี
แต่ได้ยางไม่คุ้มทุน


เพราะคนมอญที่มาทำงานด้วย
สารภาพว่า
เขาได้ค่าส่วนแบ่งเพียงวันละหนึ่งพันบาท
จากการหัก
สี่สิบหกสิบ

แสดงว่าญาติคนนี้ได้ยางไม่กำไร
ต่อมาญาติผมคนนี้ป่วยเป็นหอบหืด
นอนรักษาตัวที่ โรงพยาบาล
อาการต้องใกล้หมอ


ไม่น่าไว้วางใจ
ญาติคนนี้พ่อรักพ่อเป็นทหารผ่านศึก
เขาขยันทำยางด้วยมือถึงหนึ่งร้อยกว่าไร่
ในที่ดินของตนเอง
ด้วยตนเอง
อันนี้นับว่าเก่งไม่เบา


ผมไม่เคยคิดพึ่งเขา
แม้เป็นญาติใกล้ชิดชนิดหนึ่งก็ตาม

แต่จากการวิเคราะห์ของผม
เกษตรนีโนของผมคือปุ๋ยและน้ำ


เขาคงทำตามระเบียบของวิชาของเขา
เอง
แบบครูพักลักจำมาจากร้าน
พวก
คนที่เคยทำ
บทเรียนในตัวเอง
จนได้ยางดังกล่าว
แล้วจึงได้ยางหนึ่งร้อยไนร่นี้มาเต็มสวน
มืดครึ้ม


อันที่จริงการปลูกยางต้องมีหลักวิชามากมากนัก
มีวินัย

ผมเคยทำยางในสวนแต่เพียงสิบสองไร่
แต่ผิดหวัง
สำหรับผมทำยาง
ต้ออย่างน้อยสามสิบไร่หรือมียางหมื่นต้นชึ้นไป
จึงเห็นเงิน
ได้

บางรายทำแบบแยกส่วน
ห้าไร่สิบไร่
แล้วรวมกันมากไร่แปลกดีเหมือนกัน
สิทธิที่ชอบชองเขา
แน่ละของใครของมัน

เพราะที่ดินเรากำหนดเอาไม่ได้
ขึ้นอยู่กับตลาดซื้อขายและสิทธิทำกิน

ผมทำไมปลูกยาง
คำถาม
เพราะเพื่อนกันสมัย

ทอ สอ ปอ ชอ ฝึกป้องกันประเทศระยะจำเป็น
เขาเป็นประธาน อบต  หนึ่ง
ต่อมา
และรับจ้างตัดไม้มะพร้าวเลื่อยแผ่นขายส่ง
ผมขายต้นมะพร้าวไห้เพื่อนคนนี้ตัด


จึงได้รับคำแนะนำว่า
ให้ผมปลูกยาง
แลกกับการใช้ที่ปลูกสับปะรด
ทำให้กันที่ดินไว้ไม่ว่างเปล่า
จะขายได้ราคามาตรฐานที่ดิน
ผมจึงทำ
แต่ผลออกมา
ยางผมไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
จากสาเหตุ
ภัยคน
ภัยอากาศ
การดูแลเอาใจใส่


ผลที่ตามมาได้ผลไม่ดี
ผมจึงขายที่ดินยางไปเพื่อ
นายทุนพาไปทำรีสอร์ท


อีกรายการหนึ่ง
เพื่อนเช่นกัน

เขามีที่ยางมากกว่าหนึ่วร้อยไร่
ปาล์มอีกหนึ่งร้อยไร่
มรดก

เขาผลได้ดีมากทีเดียว
เพื่อนรายนี้
เพื่อนคนนี้
เขาเคยเรียนมัธยม
กันร่วมสมัยและห้องเดียวกับผม
ใน รร ราษฎร์แห่งหนึ่งปกปิด


แต่ผมนึกชมที่เขาเพื่อนคนนี้
แม้เขามีรายได้ดีมากจากยาง
แต่เขายังตื่นเช้าตรู่
นอนดึก
หากินอาชีพรับซื้อมะพร้าวแห้งและหมากแห้งอยู่อีก
จนในที่สุดเขา
ได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐีมะพร้าวแห้ง
แทนเป็นเศษญีสวนยางในระดับรากหญ้าต้นๆ
ของภูธร

เอาละนี้คือชีวิตจริงมิใช่นิยาย

หลักการยางมาจากปลูกมะพร้าวได้รายได้เป็นงวดๆ
แต่ถ้าปลูกยางได้รายได้ทุกวัน
อันนี้ดูแล้วน่าเลือกยาง
แต่อนิจจา
ยางกลับราคาต่ำลงและต่ำลง
และ
บางครั้งได้กำไรไม่คุ้มทุน


และต้องเหนื่อยกับยาง
กลิ่นขึ้ยางเหม็น
แต่เขาใช้หลักวิชายางคือ
เป็น

เสือกลางคืนนอนกลางวัน
อันนี้คือการต่อสู้ของคน

ทางเลือกที่แท้จริงของคนเท่าที่ผมพบ

ไม่พ้นคำว่าชีวิตคือการต่อสู้แท้จริงทีเดียว

เมื่อคิดไปคิดมาแล้วชีวิตผมคือการฟังเพลงนะ
เพราะเมื่อฟังเพลงแล้ว
ได้อารมณ์เหมือนนั่งจิบไวน์รสอ่อน


แล้วก็เข้ามุ้งหลับ
และตื่นขึ้น
มองดูตนเอง
เพื่อชีวิตที่ดีอารมณ์ที่ดี
ในวันใหม่


อันนี้ผมถือว่ามันต้องดี
คือเพราะงานนั้น
เพื่ออยู่

เราต้องทำมันอยู่แล้ว
แต่เพลงดีๆนั้น
หาโอกาสฟังยากกว่าหางานทำ
สำหรับผม

และสำหรับชะตากรรมของผม
ก็ด้วยเหตุว่า

ผมตั้งข้อเสนอและทำนายเหตุการณ์

ว่า
การที่พ่อและแม่ทำยาง ปาล์ม
ให้เขาฟรีไม่มีการทำสัญญาต่างตอบ
แทนล่วงหน้ากับคู่กรณ๊เสียก่อน
อย่างมั่นเหมาะ


และทำรอวัน
เขาคิดถึงความดีแล้วจะมาคืนให้
และปรัชญาข้อที่สองของ่อแม่ผม


เมื่อรู้ว่าถูกลิดรอนสิทธิ
โดยคณะน้องสาวแม่คนที่สาม
ก็รีบแก้ไข
โดยไปจับจองที่แห่งหนึ่งใฝหม่
ซื้อที่ใหม่
มาทำกิน
ใหม่ที่อิสระและเอกเทศ
แะเมื่อสงครามลิดรอนสิทธิจบลง
ค่อยมาว่าทีหลัง


เพราะความจริงคือความจริง
กฏหมายยอมรับความจริง
กฎหมายเป็นเทพเจ้าแห่งความจริง
ผมคิด


และกฏหมายปฏิเสธกลฉ้อฉล
แต่พ่อแม่ผม
เขาท่านไม่สนใเรื่องนี้กลับเมินเฉย
ท่านทั้งสองปล่อยใหกรรมพาไป


ปัญหาที่ตามมาคือวุ่นว่ายต่อมาหลังท่านตาย
ดังที่กล่าวมา

ในส่วนผม
ผมไม่ถือว่าพ่อแม่ทำอะไรไป
ผมถือว่าถูก
ถือว่าฟ้าะดินลิขิตค่า
ลิขิตมา
ให้เพียงเท่านี้
ก็เอาเท่านยี้
แม้ว่าตนตนของเทพฟ้าดินมีอยู่หรือไท่มีเราไทมีทราบแต่สมมติขึ้นมา
เพื่อทำคำพูดที่ตอบไม่ไๆด่้มห้มันเป็นนิรวัจนีย์

และต่อมาผมจึงบิขิตชะตากรรมผมเองดั่งที่เป็น

อีกนิดครับจบ

สืบทอดความรู้จากตา
ขณะเป็นชีไปดูแลอุปถัมภ์ท่านขณะสร้างวัดแห่งหนึ่งปกปิด
จำได้เมื่อต้องการทำรูที่ปูนใช้ไม้ไผ่สวมเข้าไปเทื่อปูนเปียง
จเสาปูนซิเมนต์รั้วจึงมีรูสำหรับสอดใส่
ลวดหนามทรงเกสตาโปเยอรมันนีได้
แต่ว่าเมื่อแม่ตายลง


พบว่าไม่เหลืออะไรเลย
นอกจากเสาหลักสองสามต้นทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
และรั้วลวดหนามแม่ไม่ได้
ใส่ไว้หมดบนพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัสประมาณสองงาน
ที่อยู่อาศัยรวมทั้งรัศมี
ด้วยไร่ครึ่งพอดี
รั้วที่แม่ทำตามธรรมชาติ
เป็นไม้มะขามแม่ปลูกรอบรั้ว


พบว่าต่อมามะขาม
เหลือเพียง5ต้นขนาดยักษ์เส้นผ่าศูนย์กลาง12นิ้ว
บางต้นแม่ตัดพาไปทำเขียง
หั่นหมู
และขายไปได้บ้างไม่ได้บ้าง
เหลือมาให้ผมได้ใช้หนึ่งเขียงเป็นควาหลัง

แสดงว่าอะไรในสรรพสิ่งที่บ้านอานองเต
พังและเสียไป
เพราะ
ภัยมนุษย์
เหยียบย่ำ
บุกรุก
โดยพลการ

เพระภัยจากปศุสัตว์
ความประมาทเลินเล่อ
ที่แม่แลพ่อมี


ชำรุดเองตามธรรมชาติ


ต้นมะขามตายไปบ้างเพราะแม่รดน้ำไม่ไหว
ในหน้าร้อนที่บ้านอานองเตฝนแล้ง
แม่ไม่มีเวลา


สนิมจึงกัดเส้นรั้วลวดหนาม
ที่ทำไว้ซื้อมาทำไว้
และไม่ได้ซ่อม
เพราะงานแม่มากเกินไปสำหรับ
ผู้หญิงอย่างแม่จะทำ

และงบหมดและไม่มีเวลา
พ่อไม่เห็นด้วย
ถ้าพ่อมาพบเข้า
แต่แม่ทำทุกสิ่งเอาไว้สมัย
ที่ว่างบ้างไม่ว่างบ้าง


แต่แม่มีเจตนาต้องมีรั้ว
รอบขอบชิด
นอกบ้านเรียบร้อย


อันนี้ผมว่าถูก

อาศัยเจตนานี้
ผมสานต่อยินยอนำเงินหมื่น
มาลงทุนทำต่อให้สมบูรณ์
ค่าแรงงานเหมา200บาท


คนงานพม่ารับไปทำ
ค่าของนั้นทั้งหมดประมาณสองหมื่นบาท
เงินจำนวนนี้แทนที่ผมจะนำมาหาความสุข

ใส่ตังวผม

แต่ผมใช้มันในทางนี้คิดว่าไม่ผิด
เพราะถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น
มันจะต้องมีเรื่องยืดยาวมาก
กว่าที่เราขจะรับได้และเสียเงินทางธุรกรรมศาลและอื่นอีกมากมายตามา

อย่างไรก็ตามรั้วนั้นเป็นเครื่องสร้างความั่นใจในความ
ปลอดภัยในระดับหนึ่งได้ของชีวิตในเรื่องหนึ่ง
พอๆกับประตูบ้านทีเดียว
ผมตัดสินใจปฏิบัติ
เพื่อไว้ทุกข์พ่อและแม่อีกโสดหนึ่งโดยวิธีนี้
ผมตัดสินใจทำมัน


ตั้งแต่ผมเกิดมาพบมีต้นไม้
อันนี้ขอแทรกเข้ามาเพื่ออรรถประโยชน์สูงสุด
อาทิเช่นไม้ไผ่
ผมรู้จัก
ไผ่เหลือง
ไผ่ตง
ไผป่า
ไผ่สีสุก
ไผ่รวก
แต่มาบัดนี้
มีไผ่ออกมาที่พบเห็น
ทั้งที่เป็นสายพันธุ์ใหม่แยกมาจากเก่า
และที่เก่าก่อน
และเพราะปุ๋ยเพราะดินและพื้นที่

เกิดมีไผ่ที่ผมพบอีกคือใหม่

ไผ่กิมซุง
ไผ่เตี้ย
ไผ่ดำ
ไผ่ขาว
อีกหลายไผ่
ที่ค้นพบใหม่จากป่าและวัฒนธรรมไผ่
การเกิดมามากขึ้นเพิ่มความสับสนสำหรับผม

แต่ผมพบว่า
มันเป็นความเติมโตของมนุษย์สมอง
และไผ่ให้มากขึ้นมามากมาย

มีเพื่อบ้านอานองคนหนึ่งยืนยันว่า
หนูท้องขาวชอบมากินยอดไผ่ที่เป็นหน่อไม้ขึ้นใหม่
ที่กำลังเป็นไผ่วัยเอ๊าะ ๆ

หนูชอบมากัดกินเพราะยอดใผ่มันหวาน
วิธีเดียวคือดักจับหนูถ้าแมวไม่ช่วย
ผมเชื่อและรับฟัง
โดยธรรมชาติผมรักไผ่่


เพราะมันเป็นธรรมชาติแห่งการ
พักและผ่อนสบายอารมณ์


ลมชอบพัดโกรกใบไผ่
ทำให้เป็นเสีายงไผ่
เพราะ

เป็นสียงไผ่สงบที่ราบรื่น
ดีมากเลย
ผมชอบ


และถ้ามองออกไปมีบึงขนาดใหญ่ที่รับแสงแดดจ้า
ด้วยแล้ว
อันนี้เป็นสวรรค์ในเมืองมนุษย์
ในช่วงพริบตาเดียวทีเดียวละผมว่า

อีกอันหนึ่งคือมะม่วง
ผมเกิดมามีมะม่วงที่รู้จัก
คือมะม่วงตาลจีน
มะม่วงแก้ว
มะม่วงเบา
มะม่วงพิมเสน
มะม่วงอกร่อง
มะม่วงมัน


ที่ผมจำได้ผมชอบกินมัน
แต่มาบัดนี้
ด้วยเหตุผลดังกล่าวเหมือนไผ่
มันมีมะม่วงหลายพันธุ์
หลายชื่อเกิดขึ้นจนจำไม่ไหว
เช่นมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้


มะม่วงเขียวเสวยและอีกมากมายมาแทนที่
เอาละผมชอบซื้อมากิน

ปกติที่บ้านอานองเต
มีทุกอย่างที่กล่าวมา
ในรายการต้นตอที่ยังไม่สลายพันธุ์
แต่มาบัดนี้ไม่เหลืออะไรสักอย่างเดียว
จะเหลือมีที่เห็นคือ
มะม่วงเขาและมะม่วงเบา

อาหารชนิดนี้
เพื่อความหวานปากและเปเปรี้ยวปาก
และกินสบายอารมณ์นี้
ผมว่ามันจำเป็นอยู่เหมือน


ที่ผมเขียนมานี้
มิใช่ให้เปลืองหน้ากระดาษ
และเปลืองสายตาที่จะไปฉาบมองมัน
แต่ว่าผมคิดว่า


เมื่อว่าไปแล้วสรรพสิ่งมีคติชนวิทยาแทรกอยู่
ในตัวมันเอง


จนไม่สามารถแยกอรรถประโยชน์
มันออกมาว่ามันมีอะไรบ้าง
เหมือนข้าว
ที่เราต้องกินให้อิ่มก่อน

หลับดี
ที่จริง
เมื่อเนาอิ่ม
เราลืมเม็ดข้าวที่เรากินไปแต่ที่อิ่มๆเพราะเรื่องอื่นด้วย
อันที่จริงมันเริ่มมาจากข้าว

ตรงนี้ผมขอเพิ่มข้าวมีข้าวชนิดหนึ่งชื่อว่าข้าวไร่
จำได้ว่า
ปลูกบนบก
เมื่อหุงแล้วมีกลิ่นหอมมากชวนกิน
เดี่ยวนี้ไม่เห็ฯข้าวไร่ชนิดนี้


ที่บ้านอานองเตเคยปลูและกินมัน
บัดนี้
ที่บ้านอานองเตใหม่
พบว่าข้าวที่มาใหม่ที่
ที่คือข้าวหอมมะลิที่มีขายในตลาด


กินจนเกือบเบื่อ
แล้วต้องเปลี่ยนมากินข้าวธรรมดาไป
สับไปสับมา
มนุษย์ตะวันตกกินขนมปัง
ซึ่งผ่านกรรมวิธีมาจากข้าวเป็นแป้งนำมาจี่มาโทสต์


แต่ว่ามนุษย์ตะวันออก
กินข้าวสวย
กรรมวิธีขั้นตอนที่หนึ่ง
แม้ปัจจุบันมีมนุษย์สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นอีกเช่น
กินน้ำแทนข้าว
กินข้าวทางสายยาง
คือมนุษย์ที่เป็นไข้บางอย่าง



ผมเชื่อว่าต่อไปมีอาหารชนิดใหม่แทนข้าวแน่นอน
เพราะข้าวสร้างยากทำยากเปลืองเนื้อที่
อะไรเอ่ย
ผมเอง
ยังไม่ทราบแต่เชื่อว่าต้องมีสิ่งใหม่มาแทนที่
เหมือนข้าวหอมมะลิมาแทนที่ข้าวไร่สมัยก่อน
เหมือมะม่วงน้ำดอกไม้
ที่มาแทนมะม่วงพิมเสน
หรืออะไรอื่นสุดแท้แต่

ที่เขาว่ากันไปตามเขานะครับ
อย่าตามผม
เพราะผมมีการคาดคิดคำนึง
เอาสาระจากสิ่งอสาระและอสาระ
แต่เป็นเรื่องนอกเวลาเป็นอาหารใหม่เพื่อใจ


เพื่อปลุกคิดปลูกฝันต่อไปเรื่อยๆ
ผมทิ้งบ้านอานองเตและแม่ไม่ลง
แม้แม่จะตายไปแล้ว
เพราะอดีตมันยังตราตรึงผมอยู่
ในสิ่งที่ผ่านพบมาทั้งหมด


ผมอาจจะอ่อนเลขเป็นคนติดที่ติดของเก่า
แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องธรมชาติของคน
ที่ผมต้องยอมรับ
ในความมีความเป็นของตนเอง
อยู่อย่างนี้


จนวาระสุดท้ายมีทางอื่นที่ดีกว่า



Create Date : 09 สิงหาคม 2560
Last Update : 18 กันยายน 2560 22:01:53 น.
Counter : 613 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends