Bloggang.com : weblog for you and your gang
ยินดีต้อนรับสู่บ้านแม่กะปอมค่ะ...มาร่วมแบ่งปัน พูดคุยทุกสาระเรื่องราวกัน ^o^ ก่อนกลับอย่าลืมฝากชื่อ/สังกัดด้วยนะคะ จะคลิกไปเยี่ยมเยือนกันค่ะ
Group Blog
นานาสาระ
เรื่องเล่าของแม่กะปอม
ที่มาของชื่อกะปอม
นิทานเด็กโดยเด็กเขียน
ก่อนเข้าเรื่อง
กล่องจดหมาย - ฝากข้อความ
เรื่องหมา ๆ
เรื่องของอาหาร
ไปเที่ยวปักกิ่ง
มุมหนังสือ
เที่ยวเมืองไทย
เที่ยวญี่ปุ่น
เที่ยวเมืองนอก
สิงหาคม 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
25 สิงหาคม 2551
สอนลูกให้ดี (LETTERS OF A BUSINESSMAN TO HIS SON)
All Blogs
เผยแพร่ตำราสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ
หนังสือข้อคิดของชีวิต ดี ๆ ...ให้อ่านและฟังฟรี
บันทึกน้ำตา 1 ลิตร
คุณเก็บความลับได้ไหม Can You keep a Secret?
จดหมายลับไป่เหอ (Snow Flower and the Secret Fan)
The Secret Supper รหัสลับลาสต์ซัปเปอร์
งานศพของผม
ไล่ตงจิ้น ลูกขอทานผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต (LAI DONG JIN)
ก็หมวย (อินเตอร์) นี่คะ THE DIM SUM OF ALL THINGS
สอนลูกให้ดี (LETTERS OF A BUSINESSMAN TO HIS SON)
สอนลูกให้ดี (LETTERS OF A BUSINESSMAN TO HIS SON)
ได้ไปเจอหนังสือดี คิดว่าอ่านแล้วได้ประโยชน์ เลยอยากบอกต่อกับทุกคน และเก็บไว้เป็นแนวคิดให้กับตัวเองและแทนการสอนให้กับลูกหลานด้วย
หนังสือเรื่องนี้เป็นที่กล่าวขานกันในทุกวงการของญี่ปุ่น เป็นหนังสือติดอันดับขายดีต่อเนื่องเป็นเวลานาน ใช้ประกอบการศึกษาในสาขาวิชาต่าง ๆ ถึงขนาดว่าภายในเล่มเดียวเท่ากับหนังสือดีมีสาระรวมกันถึง 30 เล่ม
มาดูความคิดเห็นของผุ้แปล สมิทธิ์ จิตตานุภาพ กันว่าน่าสนใจแค่ไหน
เริ่มจากบทแรกว่าด้วยการเรียนของลูกคุณวอร์ด ต้องย้ายไปเข้าโรงเรียนใหม่ที่เป็นโรงเรียนชั้นนำ แต่ลูกชายเกิดความกังวลกับโรงเรียนใหม่ เขาให้ข้อคิดและคำสอนที่น่าสนใจหลายอย่าง
(เป็นการใช้สอนลูกให้อดทนกับการใช้ชีวิตในยุคสมัยนี้ ซึ่งวิถีชีวิตพ่อ ๆแม่ ๆ อย่างพวกเราในสมัยนี้ที่ต้องขับรถไกลๆ ส่งลูกไปโรงเรียนที่ดี ๆ โชคดีของเราที่มีบ้านอากงอาม่าอยู่หน้าโรงเรียนแถวสีลมพอดี ลูกก็เลยกลายเป็นเด็กประจำที่นั่นมีป้าๆน้าๆคอยดูแล มันคือการได้อย่างเสียอย่างคือได้อยู่สบายๆ ใกล้โรงเรียนมีเวลาไปเรียนเสริมแถวนั้นและไม่ต้องตื่นแต่เช้ามืด กินนอนในรถ แลกกับการไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เกือบสัปดาห์ ) (ไม่รู้คิดถูกหรือผิดนะที่ทำอย่างนี้)
เมื่อลูกชายคุณวอร์ดคิดถึงการทำธุรกิจมากกว่าสนใจการเรียน เขาเลยให้ข้อคิดไว้
(ในความคิดของเด็กๆ เห็นผู้ใหญ่ไม่ต้องท่องหนังสือ ไม่ต้องทำการบ้าน แค่ไปทำงานแล้วได้เงิน ก็เลยขี้เกียจเรียนอยากทำงานหาเงินบ้าง อย่างกะปอมก็อยากเป็นนักเขียนฝันว่าเขียน ๆ ๆเยอะ ๆ แล้วพิมพ์ขายเดี๋ยวก็มีเงินใช้แล้ว หรืออยากไปยืนหน้าเคาน์เตอร์ขายของเหมือนพี่ๆในแมคโดนัลด์สนุกดี ได้เงินด้วย เป็นต้น ทำไม เด็ก ๆ เขาชอบคิดว่าเป็นผู้ใหญ่สบายกว่าเป็นเด็กนักเรียนนะ )
บทนี้คุณวอร์ดพูดถึงการมีวินัยและความรับผิดชอบไม่ว่าการเรียนหรือการทำงานให้ลูกชาย
(อันนี้เป็นเรื่องพ่อกะปอมสอนลูกบ้าง วันหนึ่งครูให้ทำรายงานการละเล่นต่างๆมา10หน้า ด้วยความขี้เกียจบวกเจ้าเล่ห์และอยากใช้เวลาไปเล่นเกม ดูหนังการ์ตูนเลยทำแค่8เรื่อง โดยบอกว่า10 หน้าคือปกหน้าแลสารบัญ หามา 8 เรื่องก็พอ และยืนยันว่าทำถูกต้องแล้ว จนพ่อกะปอมหาวิธีโดยให้ทำไปก่อนแล้วพักมาเล่นเกมชิงของรางวัลโดยให้พี่ๆ ที่บริษัทฯ หาชื่อวัดใครมากสุดได้รางวัล พี่ๆก็ได้กันหมดยกเว้นกะปอม นี่คือบทเรียนว่าการมีความรู้มาก ๆ เป็นประโยชน์ ถ้าเป็นเกมก็ได้ของรางวัล ถ้าเป็นการเรียนก็ได้คะแนนและความรู้ ถ้ารายงานขาดไป 2 เรื่องก็ต้องถูกตัดคะแนน ไป เขาเลยคิดออกรีบทำต่อทันที)
เมื่อลูกชายคุณวอร์ดเรียนจบและเริ่มเข้าสู่ธุรกิจ เขาสอนเรื่องการปฎิบัติตัวในที่ทำงานว่า...
(สำหรับคนทำการค้าหรือธุรกิจ เรามีบทบาททั้งเป็นลูกค้าและผุ้ขาย ถ้าไม่มีtrainer คอยสั่งสอนบอกเทคนิคต่าง ๆ ก็ต้องหาประสบการเอง เหมือนอย่างที่คุณวอร์ดสอนลูกดังนี้)
(อันนี้เป็นข้อคิดสำหรับนายจ้างและลูกจ้าง)
(ก่อนจะประเมินผลงานลูกน้อง ลองดูความคิดเห็นของคุณวอร์ดอาจใช้เป็นแนวทางได้)
(คำแนะนำดี ๆ เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นนายจ้างแล้วต้องไล่พนักงานออก หรือเป็นพนักงานที่กำลังจะถูกไล่ออก )
(คงต้องคิดกันหนักเลยสิว่าจะหาวิธีพูดยังไงเมื่อต้องเป็นผู้บอกให้พนักงานออก วิธีของคุณวอร์ดอาจช่วยได้)
(คุณวอร์ดเขาพูดถึงการเลือกอ่านหนังสือ อ่านอย่างมีคุณค่า จะทำยังไงลองดู)
(คุณวอร์ดเขาสอนเรื่องการทำตัวให้น่าคบ และเมื่อต้องเผชิญกับงานยาก อันนี้ก็น่าสนใจ)
(ทุกวันนี้คนเราขาดแคลนความสุขกันมาก อาจเพราะคาดหวังในชีวิตมากไป แล้วจะทำยังไงให้มีความสุขล่ะลองมาดูกัน)
(และสำหรับคนที่สับสนในชีวิต ลองมาดูการหาความหมายในชีวิตกัน)
(อันนี้สำหรับคนที่ไม่มีเพื่อนหรืออยากมีเพื่อน (ดี ๆ)
(เรื่องการวิจารณ์ เรื่องนี้พวกเราหนีไม่พ้นที่ต้องวิจารณ์เขาหรือถูกเขาวิจารณ์ มาดูวิธีการวิจารณ์อย่างไรให้เหมาะสม ไม่เสียเพื่อนและไม่เสียคน)
(เมื่อต้องเผชิญกับความเครียด ซึ่งมีผลเสียต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิต ลองมาดูวิธีจัดการกับความเครียดและการดูแลสุขภาพแบบง่าย ๆ ตามหลักปรัชญาของคุณวอร์ดกัน)
(อันนี้อึ้งเลย เรากำลังทิ้งเวลาอยู่กับครอบครัวและเฝ้าดูการเจริญเติบโตของลูกอยู่ใช่ไหม งั้น ! เริ่มตั้งแต่วันนี้ ยังทันเวลาที่จะหาโปรแกรมและโอกาสไปเที่ยวพักผ่อน บันทึกความทรงจำที่ดีๆไว้ )
(ปิดท้ายด้วยคติดี ๆ ในเรื่องการปฎิบัติต่อกันในครอบครัวที่เราลืมคิดหรือไม่ทันคิดกัน)
อ่านจบแล้ว ...หวังว่าชีวิตทุกด้านของพวกเราคงดีขึ้น ๆๆๆๆๆ
โอกาสต่อไป จะสรรหาหนังสือดี ๆ มาสรุปให้ฟังอีกจ้ะ
Create Date : 25 สิงหาคม 2551
Last Update : 26 กรกฎาคม 2552 12:03:31 น.
10 comments
Counter : 5617 Pageviews.
Share
Tweet
ยังไม่เคยอ่านครับ
แต่คิดว่า .. ถ้าอ่านเอาเป็นความรู้ แล้วมาประยุกต์ใช้ ก็น่าจะดีทีเดียว
โดยต้องคำนึงด้วยว่า สภาพแวดล้อม สังคม วัฒนธรรม ของเรากับญี่ปุ่นนั้น ต่างกันมากทีเดียวนะครับ
โดย:
oscilated
วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:23:07:04 น.
มาลงชื่อไว้ก่อน
แล้วค่อยย้อนกลับขึ้นไปอ่าน
โดย:
แพท ภัทรียา
วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:8:47:43 น.
ต้องหาอ่านแล้วค่ะ
โดย:
PS325
วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:19:02:14 น.
หนังสือดีมากๆเล่มหนึ่ง...ที่เคยอ่าน
ผู้เขียนถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆหลายอย่าง
ที่เราเอามาปรับใช้ได้เองจริง...
โดย:
January Friend
วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:18:05:16 น.
ขอบคุณ
โดย: ทศพล IP: 101.109.108.233 วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:16:59:09 น.
เคยมี ทั้งสามเล่มแต่หายสาบสูญไป ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีๆที่กลับคืนมาค่ะ
โดย: ximmmmm IP: 223.204.29.236 วันที่: 7 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:04:27 น.
เพิ่งอ่านจบ เป็นหนังสือที่ดีมากเลยครับ
โดย:
คนขับช้า
วันที่: 10 มิถุนายน 2555 เวลา:15:47:34 น.
ได้แง่คิด ในการนำไปใช้ในชิวิตจริง ขอบคุณมากนะคะที่ลงมาให้ได้อ่าน ^^
โดย: วันสุข IP: 58.11.40.98 วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:19:28 น.
อ่านเฉพาะฉบับที่เขียนถึงลูกสาวฉบับนี้ไม่เคยอ่านรู้ว่าเป็นหนังสือที่ดีมาก ๆ พยายามหาซื้ออยู่ตามร้านหนังสือทั่วไปไม่มีขายมีขายเฉพาะในเนตต้องหาไว้ครอบครองให้ได้จะได้เก็บไว้ให้ลูก ๆได้อ่าน ขอบคุณที่ลงให้อ่านเป็นบางส่วน
โดย: สุกัญญา IP: 101.51.190.177 วันที่: 27 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:18:20 น.
กำลังหาค่ะ ชอบมากค่ะ เป็นหนังสือที่หน่้าอ่านมากค่ะ
โดย: กุ้ง IP: 49.230.151.112 วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:0:13:20 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Maekapomkha
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [
?
]
ขอร่วมแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ และสาระต่าง ๆ ให้กับเพื่อน ๆ ในช่องทางของสื่อนี้ค่ะ
embed>
Friends' blogs
แพท ภัทรียา
podduang-pk
Complicatedgirl
sentosa22
ป้ามด
kanok_noi
thaispicy
Hawaii_Havaii
ซอร์บอนน์
beautyswan
สาวไกด์ใจซื่อ
KungGuenter
ญามี่
พลังชีวิต
arcoiris
แม่ปุ้มปุ้ย
หอมกร
Sweet Forever
ari1019
แม่ส้มแป้น
กะว่าก๋า
amienaruke
Kukas
NET-MANIA
nompiaw.kongnoo
deco_mom
อาโฮเฮะ
Suessapple
อย่างแรง
Nanatakara
BlogGang.com
นู๋ที
never the last
moopu
pim&jae
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
Triny
ceacar salad
บ่งบ๊ง
Tristy
แม่บ้านครอว์ฟอร์ด
กิน ๆ เที่ยว ๆ
Maeboon
Webmaster - BlogGang
[Add Maekapomkha's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
แต่คิดว่า .. ถ้าอ่านเอาเป็นความรู้ แล้วมาประยุกต์ใช้ ก็น่าจะดีทีเดียว
โดยต้องคำนึงด้วยว่า สภาพแวดล้อม สังคม วัฒนธรรม ของเรากับญี่ปุ่นนั้น ต่างกันมากทีเดียวนะครับ