พักกาย สบายใจ ສະບາຍດີ ที่ ວັງວຽງ
สถานที่ท่องเที่ยว : วังเวียง, Laos
พิกัด GPS : 17° 57' 45.97" N 102° 36' 51.94" E




Smiley ສະບາຍດີ Smiley

**รีวิวทริปวังเวียงแบบสั้นๆเผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่จะ(อยาก)เดินทางไปเที่ยว**

Mai in Laos 2016

>>ขออกตัวก่อนนิดนึงว่าไม่เคยเขียนรีวิวท่องเที่ยวเลยไม่แน่ใจว่าควรจะเขียนออกมาในรูปแบบไหนดี ก็เลยเลือกที่จะเขียนตามความรู้สึกว่าไปเจออะไรมาแล้วรู้สึกอย่างไร ทั้งนี้ทั้งนั้น "สิ่งที่เราชอบ คนอื่นอาจจะไม่ชอบก็เป็นได้" ยังไงฝากรีวิวท่องเที่ยวครั้งแรกของเราไว้ในอ้อมออกอ้อมใจด้วย

ปล. กล้องที่ใช้ในการถ่ายภาพคือ #fujixa2 และโทรศัพท์มือถือ #lenovovibeshot


>>จุดเริ่มต้น
จริงๆทริปนี้ค่อนข้างจะเป็นกะทันหันทริปนะ มันเริ่มจากอีป้าสองคนชวนกันไปเที่ยว ก็เถียงกันว่าไปไหนดี ทีนี้ก็มาจบที่วังเวียงเพราะเป็นที่ที่เคยคุยกันว่าอยากไปตั้งแต่ปีก่อน สรุปได้ปุ๊บก็ออกไปหาสมาชิกเพิ่มได้มาอีก2ป้า โดยที่สรุปกันว่าจะไปวันที่ 9-11 มกราคม (สุดท้ายแล้วเหลือสมาชิก 3 คนเนื่องจาก 1 ป้าติดงานไม่สามารถมาร่วมทริปกับเราได้)


>>การเดินทาง
เราเริ่มจากดอนเมือง ขึ้นเครื่องของนกแอร์รอบ 5.55 น. เพื่อไปลงอุดร (ตรงนี้อิชั้นเหมือนโดนเพื่อนหักหลังมากคร้าาา คือเราบินเช้าช้ะ ก็ไปแบบหน้าสดไง กะว่าเพื่อนๆก็คงหน้าสดเหมือนกันเพราะปกติพวกนางก็ไม่ค่อยแต่งหน้าไรงี้ พอเจอกันปุ๊บ! จ้าาา กูหน้าเปลือยคนเดียวเบย #เศร้าแป๊บ #แต่งหน้าบนเครื่องค่ะ) เราไปถึงสนามบินอุดรประมาณ 7.00 น. เราขึ้นรถแท็กซี่ไปลง บขส.1 (200 บาท) แล้วก็ไปเข้าแถวซื้อตั๋วรถทัวร์อุดร-วังเวียง (รถมีรอบเดียวคือ 8.30 ตรงนี้ต้องใช้พาสปอตใยการซื้อตั๋วด้วย ถ้าเต็มหรือมาไม่ทันก็ซื้อตั๋วแถวข้างๆไปลงเวียงจันทร์แล้วต่อรถไปวังเวียงอีกที) พอถึงคิวเราคนขายตั๋วบอกว่าเหลืออีก4ที่ ผ่าง! มองหน้ากันบอกคนขาย 3 ที่ค่ะ คนขายตะโกนบอกคนข้างหลังเหลือ 1 ที่ หลังจากนั้นทุกคนก็ย้ายแถวไปข้างๆหมดเลย (ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา 7.30 น.) หลังจากได้ตั๋วมาแล้ว


Mai in Laos 2016


รถมาจอดก่อนเวลานิดหน่อย ก็ขึ้นรถตามปกติ ตรงที่ขายตั๋วจะมีการระบุที่นั่งไว้แล้ว ให้นั่งตามที่นั่ง รถจะไปรับคนที่หนองคาย ก่อนมุ่งหน้าสู่ ตม.ไทย อันนี้ก็กรอกเอกสารนิดนึง แล้วก็ไปยื่น แล้วก็เดินผ่านไปขึ้นรถต่อไปที่ ตม.ลาว ตรงนี้จะคล้ายๆกัน ก็กรอกเอกสารเอาไปยื่น ที่เพิ่มเติมคือมีค่าผ่านแดนด้วย (เราไปวันเสาร์เสีย 55 บาท จ่ายได้ทั้งเงินไทย/เงินกีบ) พอทำไรเสร็จก็ขึ้ยรถคันเดิม มุ่งหน้าสู่วังเวียงต่อไป ทางที่ไปวังเวียงถนนจะไม่ค่อยดีนัก มีหลุมมีบ่อ โค้งเยอะ มีขึ้นเขา แนะนำให้พยายามหลับไปซะเพื่อป้องกันการเมารถ ระหว่างทางจากตรงนี้คนขับจะแวะ1จุดให้พักเข้าห้องน้ำกินข้าว เราไปถึงวังเวียงประมาณ 15.30 (รวมแล้วก็ 5 ชม.)


Mai in Laos 2016


พอลงรถจะมีรถสองแถวรับเราไปส่งที่เมืองวังเวียง (ห่างกันนิดเดียวเอง) เนื่องจากเราตั้งใจจะมาหาที่พักข้างหน้า เราเลยต้องเดินหาที่พักกันต่อไป...


>>ที่พัก
ที่วังเวียงมีที่พักหลายแบบให้เลือกสรรค์มากกกก มีทั้งเกสเฮาส์ราคาตั้งแต่ 100 จนไปถึงโรงแรมแพงๆก็มี แล้วแต่ความชอบและงบประมาณ เราพักที่โรงแรม mountain view river side boutique (ห้องแอร์, 3เตียง, น้ำอุ่น, อาหารเช้า, ราคา ~1350 บาท)


Mai in Laos 2016


>>อาหารการกิน
อาหารจะคล้ายๆกับของไทยนี่แหละ แต่ที่ไม่คล้ายและเห็นขายเยอะมากคือแซนวิชที่เป็นแบบขนมปังยาวๆ มีหลายหน้าหลายไส้ สนนราคาที่ ~100-150 บาท แล้วก็มีบาบีคิวไม้ใหญ่ขายกันเกลื่อนเลย



Mai in Laos 2016


มื้อเย็นแรกเรา เราไปกินกันที่แพรริมน้ำซอง คือนั่งเอาขาจุ่มน้ำได้เลย น้ำเย็นมาก อาหารที่สั่งก็พวกส้มตำ ของปิ้ง ของย่าง รวมๆแล้วรสชาติดีเลย อากาศเย็นๆ นั่งจิบเบียร์ลาวริมน้ำ เห้ย! มันฟินอยู่นะ จ่ายค่าข้าวไปเป็นแสน(กีบ)อยู่นะ แต่โอเคเลยกับบรรยากาศและรสชาติอาหาร


Mai in Laos 2016


มื้อเย็นสอง รอบนี้เราถามไกด์ที่พาเราไปทริปว่าร้านไหนอร่อยแล้วเขาแนะนำร้าน Oh la la ก็เลยไปลองกัน รายการคล้ายๆร้ายอาหารบ้านเราเลย อร่อยๆ ราคาไม่แพงมาก #จัดว่าเด็ด


>>เที่ยวในวังเวียง
เราซื้อ one day trip กับบริษัทน้ำทิพย์ทัวร์ (เดินๆหาแล้วก็ซื้อที่วังเวียงนั่นแหละ) ราคา 650 บาท ประกอบไปด้วย ล่องห่วงยางเข้าถ้าน้ำ น้ำเย็นๆสนุกดีเหมือนกัน เข้าไปในถ้ำมืดๆ แล้งก็ออกมา 




ถัดไปก็พายคายัค 8 กิโล (รอบที่เราไปมีทั้งหมด 15 คน, เกาหลี 12, ไทย3, ไกด์4) ก็จะจับคู่แล้วก็แบ่งไกด์กันไป ช่วงที่ไปน้ำไม่สูงมาก แต่สนุกอยู่นะ ชิวไปอีกแบบ




 ระหว่างทางจะแวะพักเหนื่อยที่บาร์น้ำ 1 รอบก่อนจะไปต่อจนจบ หลังจากนั้นขึ้นรถสองแถวต่อไปที่บลูลากูน (ที่อยากไปมาก) 




พอมาถึงปุ๊บ อื้อหื้อ!!!คนอย่างเยอะ แล้วคือมันไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิดไง ก็อึดอักนิดนึง ตรงนี้จะมีกิจกรรมคือซิปไลน์ (โหนสลิง) กับโดดน้ำ ตรงจุดโดดน้ำค่อนข้างลึกเหมือนกัน น้ำเขียวจริงเหมือนในรูปเลย แต่ผิดหวังตรงที่เล็กไปหน่อย




>>ผู้คน
ภาษาลาวใกล้กับไทยมาก ยังไงก็ฟังออก คุยง่าย ที่วังเวียงจะมีเกาหลีเยอะมากกกก (เห็นคนที่นั่นบอกว่ามีดาราเกาหลีมาถ่ายทำอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ คนก็เลยมากันเยอะ) ฝรั่งก็เยอะเหมือนกัน คนไทยก็ไม่น้อย ญี่ปุ่นมีบ้างประปราย




>>การเดินทางกลับ
เนื่องจากความเข้าใจผิดของเราที่ว่าจองรถจากข้างในก็เหมือนการจองรถของ บขส เราเลยไม่ได้จองรถตอยลงรถไว้ เราก็เลยหาซื้อตั๋วขากลับ ก็ไปเจอร้านนึง คนขายชื่อ 'อ้ายเล' (ต่อมาเสียงอาจจะผันไปเป็น 'ไอ้เล' เหตุผลคืออะไรมาดูกัน) เราก็เข้าไปจองรถไปลงอุดร อ้ายเลบอกว่า มีรถตู้มารับจากวังเวียงก่อนไปลงที่เวียงจันทร์ แล้วจะมีรถบัส VIP ของบริษัทเขาเลยมารอรับอยู่ นู่นนั่นนี่ บลาๆๆๆ เราก็ซื้อตั๋วมาราคา ~450 นัดมาขึ้นรถ 9.00 เราก็มารอที่ร้านอ้ายเล ก็ยังนั่งคุยกัน อ้ายเลยังชวนมาเที่ยวอีกเลย แล้วรถตู้ก็มารับเราประมาณ 9.30 โดยรถตู้มีพวกเรา 3 คนและญี่ปุ่น 2 คน ที่นี้เรื่องเกิดจากรถตู้แวะรับคนระหว่างทาง รับเอกสารไปส่ง พวกเราเริ่มรู้สึกแปลกๆแหละว่ารถของบริษัทไม่น่าเป็นแบบนี้นะ (สรุปคือเป็นรถตู้วังเวียง-เวียงจันทร์อยู่แล้ว ไอ้เลแค่โทรไปเหมือนให้เขามารับเราก่อนไรงี้) ยัง! ยังไม่หมดแค่นั้น รถตู้พาเราไปส่งที่ท่ารถเวียงจันทร์ ซึ่งเราคิดว่าเราจะได้ต่อรถบัสตรงนี้ แต่เปล่าเลยจ้าาา เราต้องขึ้นรถเมไปลงที่ตลาดเช้าเพื่อต่อลงไปอุดร (ตอนแรกเรามองโลกในแง่ดี คิดว่ารถตู้ไม่ยอมไปส่งเลยมาส่งเราที่รถเมแทน แต่พอคุยกับป้ากระเป๋ารถเมจึงได้รู้ว่า จริงๆรถตู้มาส่งแค่นี้แหละเพราะวิ่งเข้าเมืองไม่ได้จะโดนจับ หึ้ม!!! ไอ้เลๆๆๆ) ป้ากระเป๋ารถเมไปซื้อตั๋วรถทัวร์อุดรให้ จริงๆควรจะได้รอบ 14.00 ซึ่งจะถึงอุดรประมาณ 15.30 แต่เอาจริงคือได้รอบ 15.00 ถึงอุดร 17.30 (ดีนะซื้อตั๋วขากลับไว้รอบ 19.00)


>>อื่นๆ
ตอนขากลับ เราก็ต้องผ่าน ตม. เหมือนขาไป เราก็ต่อแถวยื่นเอกสารไรเสร็จ เอาพาสปอตไปยื่นเขาก็ให้การ์ดเรามาเหมือนขาเข้า (การ์ดผ่านแดนที่ตอนเข้าเราเสียเงินอะ แต่รอบนี้เราไม่เสีย) เราได้การ์ดมาก็ยืนรอเพื่อนก่อน คนที่1เสร็จเรียบร้อย ผ่านออกไปรอที่รถเพื่อจะได้บอกคนขับได้ว่าเพื่อนยังไม่เสร็จ เพื่อนคนที่สองเอาพาสปอตไปยื่นปุ๊บ ทีนี้ต้องจ่ายเงินจ้ะ ก็งงเลยเขาบอกว่าหลัง 16.00 ต้องจ่ายเงิน เพื่อนก็โอเคๆจ่ายเงินไป มาเสียบการ์ดปุ๊บ เพื่อนออกได้ กูออกไม่ได้คร้าาา งงอีกรอบ!!! เจ้าหน้าที่มาบอกว่าการ์ดมันไม่มีเงินเลยออกไม่ได้ (ประเด็นคือเราได้การ์ดก่อน16.00จะไม่ต้องเสียเงินไง เลยออกหลัง16.00ไม่ได้ ต้องกลับไปต่อแถวใหม่เพื่อเติมเงิน ทีนี้คนขับบอกว่าเราช้าจะไปรอฝั่งไทย เพื่อน1คนเลยต้องไปกับรถนี้ก่อน เราก็เพื่อนอีกคนต้องขึ้นรถเมเล็กตามไป (รถตรงนี้เหมือนไว้บริการข้ามฝั่ง ไม่คิดค่าบริการ) พอเราข้ามมาฝั่งไทย เราเสร็จเร็วกว่าทุกคนและขึ้นรถก่อนทุกคนเลย เหอะๆ ตื่นเต้นดีเหมือนกัน


>>สุดท้าย
วังเวียงเป็นเมืองที่น่าเที่ยวนะ ธรรมชาติยังเป็นธรรมชาติอยู่ เราถูกล้อมไปด้วยภูเขา อากาศเย็นๆ น้ำเย็นๆ ชีวิตค่อนไปทางสโลว์ไลฟ์แต่ไม่มาก ถ้าใครชอบเที่ยวแนวนี้ลองไปดู ไปง่าย ใช้ชีวิตง่าย ราคาไม่แพง แนะนำไปสัก 4 วัน 3 คืน จะกำลังดีเลย




** ก่อนไปก็หารีวิวแล้วก็ปรับให้เข้ากับตัวเอง รีวิวที่เราเขียนนี้เขียนขึ้นจากความทรงจำที่ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ อาจมีหลงๆลืมๆบ้างก็ขออภัย หากใครอยากสอบถามเพิ่มก็ยินดี:) **

#หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย #เจอกันใหม่นะ Smiley

#ใหม่คนเดิมเพิ่มเติมคือเขียนรีวิวท่องเที่ยว Smiley




Create Date : 17 มกราคม 2559
Last Update : 17 มกราคม 2559 15:12:31 น.
Counter : 1728 Pageviews.

1 comments
  
สวยมาก อยากไป ธรรมชาติยังบริสุทธิ์ งามค่ะ
โดย: mariabamboo วันที่: 18 มกราคม 2559 เวลา:11:40:04 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

IAMMAI-IAMMAI
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Hi!! i'm Mai ^___^
Nice to meet you ...