I AM SOMEONE
<<
สิงหาคม 2557
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
25 สิงหาคม 2557

เก็บรักไว้ ให้หัวใจที่รอ ตอนที่ 31

ตอนที่ ๓๑

อาการทางกายของปริญดีวันดีคืน ผิดกับอาการทางใจของณลักษณ์ที่นับวันจะแย่ลง เพราะร่วมสามเดือนแล้วที่ปริญยังจำเธอไม่ได้เสียที แม้ระยะหลังวารีจะไม่กดดันและคาดคั้นถามถึงวันกลับของณลักษณ์เหมือนแรกๆ ที่มา แต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าเธอไม่สมควรจะอยู่ต่อไปตามที่เคยให้คำมั่นไว้ก่อนหน้านี้ จึงเตรียมเก็บเสื้อผ้าเพื่อกลับกรุงเทพฯ ตั้งใจว่าจะเป็นนักเขียนอิสระสักพัก โดยไม่แน่ใจว่าอาชีพอิสระจะมีเงินเลี้ยงตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน เงินเก็บที่เคยมีมาก็ร่อยหรอลงทุกวันขืนอยู่โดยไร้จุดหมายเช่นนี้ อาจจะอดตายได้ ณลักษณ์ไม่อยากจะรบกวนทางบ้านอีกแล้ว แต่คงไม่มีทางเลือกหากงานเขียนของเธอขายไม่รุ่ง นั่นหมายถึงเธอต้องกลับไปเป็นชาวเกาะพ่อเกาะแม่ตามระเบียบ

อย่างแรกที่ตั้งใจจะทำหลังกลับไปอยู่บ้านคือ ส่งต้นฉบับบันทึกการเดินทางที่ปริญเคยอ่าน พร้อมกับภาพถ่ายประกอบเรื่องไปยังสำนักพิมพ์ตามที่เพื่อนแนะนำ รวมทั้งฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษที่จวนจะเสร็จอีกหนึ่งเล่มสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยัง ๑๔ จังหวัดภาคใต้ด้วย

ณลักษณ์พยายามทำทุกอย่างให้เธอหลุดพ้นจากวังวนของการรอคอยความทรงจำของปริญคืนมาด้วยการหาอะไรต่อมิอะไรทำให้สมองวุ่นวาย จะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่านหวังลมๆ แล้งๆ อีก เธอไม่โทษว่าเป็นความผิดของปริญที่จำเธอไม่ได้ แต่กลับโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ทำให้เขาต้องประสบอุบัติเหตุมากกว่า ในใจลึกๆ แล้วณลักษณ์อธิษฐานขอพรพระอยู่เสมอว่า หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงและคุณความดีที่เธอเคยทำมาแม้จะไม่มากนักก็ตาม ช่วยดลบันดาลให้เขาหายป่วยและกลับมาเหมือนเดิมได้ในเร็ววัน ส่วนวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่วาสนาชะตาลิขิต

เย็นวันสุดท้ายของการทำหน้าที่พยาบาลจำเป็นตามที่สัญญากับตัวเอง เธอหาจังหวะเพื่อจะล่ำลาวารีขณะที่วารีกำลังอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้โยกอย่างเงียบๆ ส่วนปริญกำลังงีบหลับอยู่บนโซฟา ณลักษณ์คลานเข่าเข้าไปหาวารี
“มีอะไรรึเปล่า” วารีมองลอดแว่น
“พรุ่งนี้หนูจะกลับกรุงเทพฯ แล้วนะคะ”
“อ้าว แล้วกลับมาอีกทีวันไหนล่ะ”
“เอ่อ ไม่ได้กลับมาแล้วค่ะ ตอนนี้คุณปริญอาการดีขึ้นจนเกือบเป็นปกติ คงหมดหน้าที่ของหนูแล้ว”
“เออจริงสินะ จะสิ้นเดือนอีกแล้ว แล้วบอกปริญหรือยังล่ะ” วารีไม่ได้คิดรั้งเธอไว้
“ยังค่ะ เขาหลับอยู่ หนูฝากคุณป้าบอกด้วยละกันนะคะ เดี๋ยวหนูจะขอตัวกลับเลย จะไปจัดการเรื่องค่าห้องพักน่ะค่ะ” หญิงสาวพูดไปก็มีน้ำตาคลอหน่วยไป
“อืม เดินทางปลอดภัยนะ ว่างๆ ก็กลับมาเยี่ยมกันบ้าง”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ
“ขอบใจนะที่มาช่วยดูแลปริญ แต่ฉันเสียใจด้วยนะที่ปริญจำเธอไม่ได้” วารีพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย ณลักษณ์เดาไม่ออกว่าประโยคที่วารีพูดนั้นออกมาจากใจหรือไม่
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูลานะคะ” ณลักษณ์รีบลุกไปก่อนที่น้ำตาเธอจะไหลให้วารีเห็น

....................................

วันรุ่งขึ้นณลักษณ์ไม่มาให้แม่ลูกเห็นหน้าอีกแล้ว ทีแรกวารีคิดว่าตนจะดีใจที่ณลักษณ์กลับไปเสียที แต่พอเอาเข้าจริง เธอกลับหดหู่ บรรยากาศมันเงียบงันผิดปกติ ทั้งที่ตอนณลักษณ์อยู่ ทั้งคู่ก็ไม่ได้สนทนาอะไรกันมากนัก

กระทั่งหลายวันผ่านไป ปริญไม่เห็นหน้าหญิงสาวที่คุ้นเคยมาฟังเขาอ่านหนังสืออย่างเคย
“แม่ ณลักษณ์ไปไหนอ่ะ ไม่เห็นเอาหนังสือพิมพ์มาให้อ่านเลย หลายวันแล้วนะ” ปริญเดินช้าๆ ออกมาจากห้องถามหาพยาบาลประจำตัว
“กลับกรุงเทพฯ ไปแล้วลูก” วารีตอบลูกชาย
“อ้าว แล้วจะมาอีกมั้ย” เขาถามด้วยความไม่รู้
“คงไม่มาแล้วล่ะ ปริญจะเอาอะไร เดี๋ยวแม่หาให้”
“เปล่าครับ แค่อยากคุยกับณลักษณ์ เธอไม่อยู่ก็เหงาเลย แม่มีหนังสือพิมพ์ให้ผมอ่านอีกมั้ย”
“แม่ไม่ได้ซื้อมา อ่านหนังสืออื่นไปพลางๆ ละกัน”
“ไหนล่ะครับ มีมั้ย ผมหาไม่เจอ”
“อืม รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวแม่ขึ้นไปดูหนังสือบนห้องแกให้”
“ครับ” ปริญเปิดโทรทัศน์ดูไปพลางระหว่างรอ
วารีหายขึ้นไปบนห้องปริญอยู่พักใหญ่ เธอไปรื้อค้นหนังสือเก่าๆ บนชั้นหนังสือและใต้เตียงที่เขาเคยเก็บสะสมไว้ซึ่งฝุ่นจับหนาเตอะเพราะไม่มีใครแตะมานานแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือนิยายจีนกำลังภายในที่เขาโปรดปรานแต่เป็นชุดใหญ่ วารีขี้เกียจจะยกไปทั้งชุด จึงเลือกหาเล่มอื่นๆ แทน จนไปเจอกล่องพลาสติกใบหนึ่งปะปนอยู่ด้วยกัน วารียกออกมาเปิดดูพบว่าข้างในมีจดหมายและโปสการ์ดมากมายหลายสิบฉบับที่ส่งมาจากที่ต่างๆ กัน แต่ผู้ส่งเป็นคนเดียวกัน คือ ณลักษณ์

วารีค่อยๆ หยิบจดหมายทีละฉบับมาอ่าน โดยไม่ได้เรียงลำดับวันที่ แต่เธอก็พอจะปะติดปะต่อเหตุการณ์ได้ว่าทั้งคู่ติดต่อกันมานานผ่านทางจดหมาย มีเรื่องราวต่างๆ ที่แลกเปลี่ยนและให้คำปรึกษากัน จากตัวอักษรสะท้อนถึงความผูกพันและเข้าใจกันอย่างดี ส่วนโปสการ์ดแต่ละใบบ่งบอกถึงความคิดถึงของณลักษณ์ที่มีต่อปริญเสมอไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ใดในประเทศไทย วารีนั่งอ่านไปเรื่อยๆ กระทั่งเริ่มซึบซับความรู้สึกที่ชายหนุ่มและหญิงสาวมีต่อกันตลอดมา เพลินเสียจนลืมไปว่าจะต้องขึ้นมาหาหนังสือไปให้ลูกชายอ่าน

“แม่ แม่ครับ” เสียงปริญตะโกนเรียก วารีหลุดจาภวังค์
“อุ๊ยตาย!” เธออุทาน แล้วจัดการรวบจดหมายและโปสการ์ดทั้งหมดใส่กล่องเดิม หยิบกระดาษชำระมาเช็ดรอบๆ กล่อง ก่อนจะถือมันลงมาข้างล่างด้วย
“ปริญ แม่ไปเจอไอ้นี่ของลูกมา ลูกจำได้มั้ย”
“อะไรครับ” เขามองดูอย่างประหลาดใจ เหมือนไม่เคยเห็นกล่องใบนี้
“มันอยู่ใต้เตียงของแกน่ะ”
“ในนั้นมีอะไร” เขาฉงนกว่าเก่า
“จดหมายและโปสการ์ดจากณลักษณ์ที่เคยเขียนถึงลูก”
“เขียนถึงผม??? เขาเพิ่งกลับไป แล้วจะเขียนถึงผมได้ยังไงเยอะแยะขนาดนี้”
“ค่อยๆ อ่านดูนะ แล้วแกจะรู้ว่าแกกับณลักษณ์รู้จักกันนานแค่ไหนแล้ว และลองทบทวนดูว่าเคยคุยอะไรกันมาบ้าง”
วารีจัดเรียงลำดับจดหมายตามวัน เดือน ปี เพื่อให้เขาลำดับความทรงจำต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เธอคิดว่าวิธีนี้จะช่วยให้ปริญฟื้นความทรงจำได้เร็วอีกวิธีหนึ่ง
ปริญอ่านทีละฉบับอย่างมีสมาธิ และเอ่ยถามวารีเป็นระยะว่าเขาเคยทำเช่นนั้น หรือเคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ ซึ่งวารีตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง โปสการ์ดหลายๆ ใบที่ทำให้เขายิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้เห็นรูปในโปสการ์ดและอ่านข้อความจากณลักษณ์

ถึง คุณปริญ
ตอนนี้ฉันอยู่ลพบุรีค่ะ ที่นี่ลิงเยอะจริงๆ เยอะจนน่าขนลุก บางตัวขึ้นหลังคารถไฟไปเที่ยวเฉยเลย ไม่รู้มันจะกลับมาเป็นหรือเปล่า แต่ลองถามชาวบ้านแล้วเขาเล่าว่ามันนั่งไปนั่งกลับโดยไม่ต้องตีตั๋วเลย ที่ศาลพระกาฬก็แสนซนชอบแย่งของนักท่องเที่ยว บ้างก็ไปกวนแม่ค้า แต่มีวิธีปราบมันได้อยู่หมัดก็คือเอาตุ๊กตาจระเข้มาไล่ ฉันลองแล้วได้ผลจริงๆ อยากให้คุณได้มาเห็นด้วยจัง!
ณลักษณ์

คุณปริญ
คุณเห็นรูปช้างในโปสการ์ด คุณคิดว่าฉันอยู่ที่ไหนคะ ลำปางหรืออยุธยา? ผิดทั้งคู่ค่ะ ฉันอยู่ที่สุรินทร์ มาอยู่โฮมสเตย์หมู่บ้านช้าง กลุ่มคนเลี้ยงช้างที่นี่เรียกว่า กวย ฉันได้สัมผัสวิถีชีวิตของเขาอย่างใกล้ชิดและได้ทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น นั่งช้างกินข้าวป่า อุ้มช้างอาบน้ำ แต่ที่ประทับใจที่สุดคือได้เห็นช้างตกลูกเป็นครั้งแรกในชีวิต ฉันตื่นเต้นจนน้ำตาไหลเลยค่ะ ถ้าคุณได้เห็น อยากรู้ว่าคุณจะรู้สึกเหมือนฉันไหมนะ?
ณลักษณ์

สวัสดีค่ะ คุณปริญ
ฉันอยู่ที่จังหวัดมหาสารคาม ที่นี่เป็นเมืองสำหรับการอยู่อาศัยมากกว่าการท่องเที่ยว เพราะผู้คนใช้ชีวิตกันแบบเงียบๆ เรียบง่าย วันนี้ฉันได้ความรู้ใหม่ว่าหนังวัวก็กินได้ด้วย ฉันเห็นที่ตลาด เป็นหนังวัวแห้งตัดเป็นแผ่นเล็กๆ ขายมัดละสิบบาท แม่ค้าเล่าว่าเอาไว้แกล้มเหล้า แต่ต้องเอาไปต้มก่อนนะ มันจะหอมๆ อมไว้ให้เปื่อยแล้วค่อยเคี้ยว เหมาะกับคนที่ฟันดีๆ ขี้เมาชอบกิน คุณอยากจะลองสักหน่อยไหมคะ?
ณลักษณ์

“แม่ ผมตอบจดหมายณลักษณ์บ้างหรือเปล่า” ปริญถามวารีเมื่อเขาอ่านจดหมายและโปสการ์ดไปนับสิบใบในเวลาร่วมสองชั่วโมงโดยไม่ยอมทานข้าว
“ไม่รู้เหมือนกัน น่าจะตอบนะ”
“ผมเคยไปลอยกระทงกับเธอด้วย” เขาพูดขึ้นมา เมื่อภาพเก่าในคืนวันลอยกระทงเมื่อปีกลายฉายขึ้นในสมอง
“ผมอยากเจอ อยากคุยกับณลักษณ์เรื่องจดหมาย ผมอยากอ่านจดหมายที่ผมเขียนถึงเธอ”
“เธอกลับกรุงเทพฯ ไปแล้วปริญ” วารีบอกลูกชายอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของเขา
“ผมว่าเธอต้องรักผมแน่ๆ เธอถึงทำอย่างนี้ และมาดูแลผมที่นี่ แต่กลับจำเธอไม่ได้ ทำไมผมใจร้ายกับเธอจัง ผมอยากเจอ อยากคุยกับณลักษณ์” ปริญยังเรียกร้องต่อ
“แกยังไม่หายดี จะไปยังไง รถพังหมดแล้ว ถึงมีก็ยังขับไม่ได้”
“ก็นั่งเครื่องบินไปกรุงเทพฯ”
“แม่ว่าปริญทานข้าวก่อนดีกว่า” วารีพยายามเปลี่ยนเรื่อง
“แต่ผมอยากไปกรุงเทพฯ” เขาขึ้นเสียง
“ไม่ได้นะ!” วารีปรามเสียงดัง
“ทำไมล่ะครับ” เขาแสดงอาการผิดหวัง ผู้เป็นแม่ไม่ตอบ
“ผมอยากเจอณลักษณ์อีกครั้ง ผมอยากคุยกับเธอ” ปริญย้ำ
“ปริญจะไปคนเดียวไม่ได้” วารีเกรี้ยวกราดใส่ลูกชาย จนเขาน้ำตาคลอ
“แม่ต้องไปด้วย!!!”






Create Date : 25 สิงหาคม 2557
Last Update : 16 ตุลาคม 2560 9:43:36 น. 3 comments
Counter : 1112 Pageviews.  

 
ตั้งใจจะให้จบภายในเดือนนี้ แต่อาทิตย์นี้แทบไม่มีเวลาเหลือเลยค่ะ อดใจรอหน่อยนะคะ


โดย: Alex on the rock วันที่: 26 สิงหาคม 2557 เวลา:20:11:58 น.  

 
เพิ่งเข้ามาอ่านวันแรก อ่านรวดเดียว 31 ตอน ชอบมากค่ะ สนุก น่าติดตามหยุดอ่านไม่ได้ สำนวนดีค่ะ เป็นความรักที่ดูอบอุ่น มีความผูกพัน ไม่อยากเชื่อว่าผู้แต่ง เขียนเป็นเรื่องแรกค่ะ ขอบคุณนะค่ะ ที่เขียนความรักในอีกแนวให้อ่าน เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: Napai IP: 58.137.102.50 วันที่: 27 สิงหาคม 2557 เวลา:0:19:50 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ดีใจจัง ที่มีคนชอบเพิ่มอีกคน น้ำตาคลอเบ้าเลย


โดย: Alex on the rock วันที่: 27 สิงหาคม 2557 เวลา:10:00:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]